ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Hourglass นับถอยหลังพรรัก นาฬิกาทราย

    ลำดับตอนที่ #5 : บุคคลน่าสงสัย

    • อัปเดตล่าสุด 14 ก.ย. 56


    บทที่ 4

    บุคคลน่าสงสัย

                   

    ตอนนี้ฉันกำลังนั่งหอบอย่างเอาเป็นเอาตายคนเดียว เห็นวายุบอกว่าจะไปซื้อน้ำมาให้ หลังจากที่ได้ยินฉันบ่นว่าหิวน้ำเป็นรอบที่ร้อยแปด

     ฉันก็เอาฝ่ามือเล็กๆของตัวเองมาพัดไปพัดมา แม้จะรู้ดีว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังทำมันไม่ได้ทำให้เย็นขึ้นเลยก็เหอะ แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าไม่ทำอะไรเลยแหละน่า -_-‘ และในระหว่างนั้นเอง ใครคนนึงก็เข้ามาอยู่ในรัศมีสายตาของฉัน

    เจ้าของร่างสูงโปร่งยิ้มให้ฉันเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้ามาทางฉัน

    อ้าว! นี่เธอมาวิ่งแถวนี้เหมือนกันหรอ ปรินซ์เอ่ยถามขณะที่เขาเดินมาหยุดอยู่ตรงม้านั่งที่ฉันนั่งอยู่ ผมสีดำเงาถูกมือ

    ของคนตัวสูงรวบพร้อมกับควานหายางมัดผมมามัดไว้ ส่วนฉันที่โดนยิงคำถาม ก็พยักหน้าน้อยน้อยให้แทนคำตอบ แล้วนี่มาคนเดียวเหรอ

    เปล่าหรอก มากับวายุน่ะ แล้วนายล่ะ

    มาคนเดียวน่ะ ช่วงนี้จะไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย รู้สึกจะอ้วนขึ้น เลยว่าวิ่งซะหน่อย เดี๋ยวสาวจะหาหมด ปรินซ์พูด

    พร้อมกับใช้มือของเขาตบที่บริเวณซิกแพค ใต้เสื้อกล้ามที่ลู่ไปด้วยเหงื่อ ประหนึ่งว่าเขาคือคนอ้วนที่จะต้องมีพุงใหญ่ยักษ์ราวกับมีห่วงยางมาสวมไว้ แต่เชื่อเถอะ ต่อให้เค้าจะอ้วน ยังไงใบหน้าหล่อเหลาของเขาก็ต้องมาสาวมาติดอยู่ดี

                    ...อย่างน้อยก็ฉันคนนึงล่ะนะ

    ว่าแต่หมอนั่นหายดีแล้วหรอ คำถามของปรินซ์ทำให้ฉันที่กำลังเบลอๆ (กับซิกแพค) อยู่หน่อยๆ ถึงกับงง ยังดีที่

    ปรินซ์ยังพออ่านสีหน้าของฉันออกจึงพูดต่อ ฉันหมายถึงวายุ ญาติของเธอน่ะ

    หายแล้วแหละ เผลอๆอาจจะดีกว่าเก่าด้วยซ้ำ ออกจากโรงพยาบาลวันเดียวก็ลากฉันมาวิ่งด้วยแล้ว

    อะแฮ่มมม!เสียงกระแอมดังมาทางด้านหลัง พร้อมกับขวดน้ำที่ถูกโยนมาไว้บนตักฉันอย่างไม่ปราณี ทำให้ฉันเดา

    ออกว่าเจ้าของเสียงนั่นคือวายุนั่นเอง มาได้จังหวะ (นินทรา) ทุกครั้งเลยสินะหมอนี่

    จะให้ก็ยื่นดีๆ หน่อยสิยะ โยนมาอย่างนี้ เกิดมันโดนหัวฉันแตกขึ้นมาจะทำยังไงยะ -*-

                    วายุทำหน้าหมั่นไส้ ก่อนจะยีหัวฉันจนฟูเป็นรังนก น้อยๆ หน่อยยัยเพี้ยน นี่ขวดน้ำ ไม่ถึงกับหัวแตกหรอก

                    ฉันเกือบจะวีนวายุไปแล้ว ถ้าไม่ติดว่าตรงนี้ยังมีปรินซ์อยู่อีกคน และการที่เรามาทะเลากันต่อหน้าคนอื่นแบบนี้ มันคงไม่เป็นผลดีต่อฉันนัก

    เอ่อ... โทษทีนะ เราสองคนก็อย่างนี้แหละ ทะเลาะบ่อยกันจนจะเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว แหะๆ ฉันเกาหัวแก้เก้อ ทะเลาะกันต่อหน้าคนอื่น น่าอายชะมัด

    ไม่เป็นไรหรอก ตามสบายเถอะ ฉันไปก่อนแล้วกันนะ จบคำ ปรินซ์ก็เดินออกไปโดยไม่ลืมที่จะหันกัลับมาโบกมือให้

    ฉันเป็นเชิงกล่าวลา

    พอปริ๊นซ์เดินไปไกลรัศมีการได้ยิน เสียงของวายุก็พ่นคำถามมาหนึ่งประโยคสั้นๆ ที่สั้นๆ ออกมา ใคร??”

    สั้นได้ใจจริงๆ -_-^

    ปรินซ์น่ะ เขาเป็นคนโทรไปบอกฉันตอนที่อยู่ดีๆนายก็หัวใจหยุดเต้น

    วายุขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนจะมองตามไปยังร่างสูงที่เดินหายออกไปเมื่อครู่ สีหน้าและท่าทางของคนข้างตัว ทำให้ฉัน

    อดไม่ได้ที่จะเอียงคอถามออกไป ...ทำไมหรอ

    ฉันรู้สึกว่าหมอนั่นมันไม่ค่อยน่าไว้ใจ ไม่สิ ไม่น่าไว้ใจเลยต่างหาก...

     

    นาย...

    อืม ฉันเอง

    ร่างของปรินซ์ที่ยืนอยู่หน้าห้องทำเอาฉันประหลาดใจไม่น้อย ไม่แปลกหรอกที่ฉันจะต้องประหลาดใจ เพราะการที่

    ปรินซ์ เจ้าของฉายาเจ้าชายรูปงามคนนี้ จะมายืนอยู่หน้าห้อง แล้วพูดกับฉัน(ที่เปรียบเสมือนคนรับใช้)ตรงนี้

                    ฉันรู้สึกได้ถึงสายตานับสิบคู่ที่เริ่มมองมาทางเราอย่างสงสัย และก่อนที่จะมีสายตาคู่ที่สิบเอ็ดหรือสิบสอง คนตัวสูงก็ดึงมือฉันให้เดินหลบฉากไปยังอีกด้านหนึ่งทันที

                    ...คงกลัวจะเป็นประเด็นของโรงเรียนสินะ

    มีอะไรรึเปล่า ฉันถามออกไปทันที เมื่อเห็นว่าเราสองคนเดินมายังสวนหลังโรงเรียน ที่ๆ เราเคยเจอกันอย่างเป็น

    ทางการ

    ตั้งแต่หมอนั่นฟื้น ดูเหมือนเธอจะลืมฉันไปเลยนะ

    ก็... ฉันกำลังจะแก้ตัวออกไป ถ้าไม่ติดว่าความจริงฉันลืมเขาไปแล้ว ตั้งแต่วายุฟื้น โทษที

    คำพูดขอโทษที่ดูเหมือนไม่มีที่มาที่ไปเอาซะเลยทำให้ปรินซ์ขมวดคิ้วทำหน้าเบื่อหน่ายมาให้ ส่วนตัวฉันเองก็คงทำ

    อะไรไม่ได้นอกจากยิ้มขืนๆ พร้อมกับเอามือเล็กทั้งสองข้างมาประกบกันพนมมือให้

    เธอนิสัยแย่ชะมัด -*-

    ...

    เฮ้! ไม่คิดจะเถียงเพื่อปกป้องตัวเองหน่อยรึไง

    ไม่ ถ้ามันคือความจริง สิ่งที่ฉันต้องทำคือก้มหน้ายอมรับ และฉันก็นิสัย แย่ จริงๆซะด้วย ฉันตอบปรินซ์ด้วย

    ใบหน้าเปื้อนยิ้ม ยังไงก็ขอโทษอีกทีแล้วกัน

    ฉันตอบกลับเจ้าของฉายาเจ้าชายผู้สูงศักดิ์ พร้อมกับก้มหน้า เพื่อแสดงถึงความสำนึกผิด และขอโทษไปในตัว... แต่ดูเหมือนสิ่งที่ฉันอุตส่าห์ทำลงไปจะไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นนัก

    ปรินซ์ทำท่าหัวเสียก่อนจะเสมองไปอีกทาง

     “พรุ่งนี้ไปกินข้าวกับที่บ้านฉัน สิบเอ็ดโมงครึ่งฉันจะไปรับเธอ แต่งตัวให้เรียบร้อย

    เจ้าของร่างสูงพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ ก่อนจะเดินหายออกไปจากสวนแห่งนี้ ทิ้งไว้เพียงประโยคลอยๆ และนั่นแสดงให้

    เห็นว่าประโยคนี้ไม่ใช่ประโยคชวนแต่อย่างใด หากแต่มันคือคำสั่ง

    ...ซึ่งฉันคงต้องทำตามอย่างไม่มีเงื่อนไข

    อย่างนั้นสินะ -*-

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×