คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ความปรารถนาที่ 1
บทที่ 1
“เจ็ด...แปด...”
เสียงคริสตัลใสกระทบกันเบาๆ ให้ความรู้สึกดังเช่นเสียงดนตรีแสนไพเราะ ดังเคล้าไปกับเสียงทุ้มนุ่มๆ ของเพื่อนชายที่บรรจงนับคริสตัลในกล่องอย่างเบามือและทะนุถนอมราวกับของล้ำค่า
ซึ่งความจริงแล้วมันก็ล้ำค่ามากจริงๆ นั่นแหละ -_-‘
“…เก้า...สิบ...สิบเอ็ด”
ฉันเลิกสนใจ ‘แดเนียล’ และหันมาเท้าคางเหม่อมองท้องฟ้ายามราตรีที่หน้าต่างด้วยความรู้สึกทีว่างเปล่า ไม่ทุกข์ ไม่สุข ไม่เศร้าหรืออะไรซักนิด และมันมักจะเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่ฉันได้ทำ ‘ภารกิจ’
ภารกิจที่มันแทบจะกลายเป็นหน้าที่ของฉันไปแล้วซะด้วย
“ตกลงมีคริสตัลทั้งหมดเท่าไหร่แล้ว” ฉันเอ่ยถามแดเนียลที่กำลังนับคริสตัลวกไปวนมาจนไม่รู้จำนวนที่แท้จริงซักที
“ก็...สิบเอ็ดมั้ง” แดเนียลเบ้ปากไม่ยี่หระใดๆ ก่อนจะเก็บคริสตัลทั้งหมดลงในกล่องไม้ตามเดิม ซึ่งฉันก็ทำอะไรไม่ได้นอกกลับมาเท้าคางตามเดิมและค่อยดิ่งตัวเองลงสู่ห้วงความคิด...
ภาพสนามหญ้ากว้างขวางและโอ่อ่าผุดขึ้นมาในมโนความคิด ก่อนจะตามด้วยภาพของใครซักคนที่นั้งจิบกาแฟอยู่ที่โต๊ะกลมตรงนั้น ใบหน้าหล่อเหลาราวกับภาพวาด นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มกับผมสีดำสนิทดูเข้ากันได้ดีเมื่ออยู่บนใบหน้าคนๆ นี้ ไหนจะผิวเนียนใสที่ทำให้ยิ่งดูดีขึ้นอีกเป็นเท่าตัว
เขามองมาทางฉัน ก่อนจะส่งรอยยิ้มอบอุ่นมาให้...
และก่อนที่ฉันจะเก้าเท้าเดินเข้าไปหา มโนภาพในหัวก็แปรเปลี่ยนกลายเป็นเหตุการณ์อุบัติเหตุรถคว่ำน่าใจหายแทน เสียงรถพยาบาลดังแว่วมาแต่ไกลก่อนจะตามมาด้วยเหล่าพยาบาลที่รีบมาพยุงผู้บาดเจ็บบนรถ เรือนผมสีดำสนิทของเขาถูกย้อมไปด้วยเลือดสีแดงฉาด ตามลำตัวมีบาดแผลถลอกและช้ำเป็นจุดๆ ไม่น้อย เหงื่อเม็ดนึงผุดขึ้นที่หน้าผาก ราวกับเป็นภาพฝันร้าย...
ภาพเหตุการณ์พวกนี้มักจะตามมาหลอกหลอนฉันทุกครั้งที่คริสตัลในกล่องนั่นมีเพิ่มขึ้น คล้ายกับจะย้ำเตือนบาดแผลทางกายและจิตใจให้ระลึกได้เสมอ
มือหนาเอื้อมมาสัมผัสที่แก้มของฉัน “ยังคิดถึงเรื่อง ‘วันนั้น’ อีกหรือไง”
เสียงแดเนียลเรียกฉันให้ลืมตาขึ้นมาสบกับนัยน์ตาสีน้ำข้าวบ่งบอกเชื้อชาติตะวันตกของเขา สีหน้าเป็นห่วงเป็นใยของเขาทำให้ฉันเลี่ยงที่จะพูดว่าไม่เป็นไรแทนที่จะอธิบายทุกอย่างให้ฟัง
“เธอก็น่าจะรู้ว่าฉันรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเธอ...ทั้งเรื่อง ‘วันนั้น’ หรือแม้แต่เรื่อง ‘หมอนั่น’”
“…”
“แต่ก็เอาเถอะ ถ้าเธอคิดว่าการที่ฉันทำเป็นไม่รู้อะไรมันดีต่อตัวเธอฉันก็จะทำเป็นไม่รู้แล้วกัน”
แดเนียลยีผมฉันเป็นเชิงปลอบประโลม ก่อนจะเดินเก็บกล่องคริสตัลไปไว้ในตู้อย่างเดิม
“อ้อ! เกือบลืมไปน่ะ” แดเนียลทำท่านึกขึ้นได้ ก่อนจะล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบอะไรบางอย่างออกมา “นี่คือที่อยู่ของ ‘อาเมอร์ อัลฟาร์’ ฉันหามาให้แล้ว”
“ขอบคุณนะ” ฉันเอื้อมมือไปรับกระดาษโน้ตแผ่นเล็กที่เขียนที่อยู่เขามาใส่ไว้ในกระเป๋าสะพาย ก่อนจะหยิบกุญแจรถเฟอรารี่บนโซฟาและเตรียมตัวไปที่สถานที่ในกระดาษเขียนไว้ แต่กลับต้องหยุดเพราะมีใครบางคนมายืนขวางเอาไว้ซะก่อน
“คิดจะไปวันนี้เลยรึไง” แดเนียลที่เข้ามาขวางฉวยโอกาสหยิบกุญแจรถออกจากมือของฉันก่อนจะเดินนำฉันออกไปนอกห้อง
“นายจะไปไหนน่ะ แดเนียล”
“ตามมาเหอะน่า”
“แล้วอาเมอร์อ่ะ”
“ก็ช่างหมอนั่นมันไปสิ” แดนเนียลตอบฉันด้วยประโยคที่น่าเอาส้นสูงสี่นิ้วที่เท้าของฉันเจาะกบาลมาก ถ้าไม่ติดว่ามันเป็นลูบูแตงคู่โปรดของฉัน “แต่...”
“ไม่ต้องแต่แล้ว ไม่ต้องไปบ้านไอ้อาเมอร์อะไรนั่นด้วย พักผ่อนซะบ้าง ‘เรื่องนั้น’ เอาไว้ก่อนก็ได้”
ยังไม่ทันที่ฉันจะโต้ขัดไปอีกหน แดเนียลก็จับฉันยัดเข้าไปในรถก่อนที่เขาจะอ้อมไปนั่งเบาะคนขับและสตาร์ทรถออกไป รอยยิ้มทะเล้นที่ฉันมองเห็นเพียงเสี้ยวเดียวทำให้ฉันถอนหายใจไปสองรอบ
ระหว่างทางเราสองคนต่างก็เงียบ ไม่มีใครพุดอะไร ส่วนฉันก็ได้แต่เหม่อมองข้างทางไปเรื่อยๆ จนเห็นว่าแดเนียลกำลังจะขับรถออกเขตนอกเมือง จึงหันไปถาม “นี่เรากำลังจะไปไหน”
“...ทำไม กลัวฉันจะพาเธอไปฆ่าข่มขืนรึไง J” เสียงทะเล้นตอบกลับมาแทบจะทำให้ฉันเอาเล็บข่วนหน้าถ้าไม่ติดว่ากลัวหมอนี่จะขับลงข้างทางและเอาเสาไฟฟ้าเป็นเบรคซะก่อน
“ตกลงจะไปไหน นี่มันจะออกเขตนอกเมืองแล้วนะ”
“ไม่บอก...”
“แดเนียล...”
ฉันขู่เสียงต่ำ พร้อมทั้งทำตาเขียวใส่ จนแดเนียลต้องจำใจยกมือเหนือหัวเป็นเชิงยอมแพ้ (ทั้งที่ตัวเองขับรถอยู่) ก่อนจะตอบคำถามฉันในที่สุด “...ทะเลน่ะ”
“ว่าไงนะ!?!” ฉันโพล่งออกมาแทบจะทันทีต่างจากแดเนียลที่ยังคงทำหน้าตายไม่สนใจอะไร ราวกับเสียงแปดสิบแปดหลอดของฉันเมื่อกี้มันไม่ได้เข้าไปอยู่ในโสตประสาทเขาเลยแม้แต่น้อย “ฉันไม่ได้บอกซักหน่อยว่าฉันจะนะ”
“แต่ฉันอยากให้เธอไปนี่”
“แล้วฉันจะไปทำไม”
“อืม...ให้ไปทำไมดีน้า~”
“แดเนียล ฉันต้องการเหตุผล...เดี๋ยวนี้” ฉันขู่เสียงต่ำ
เขาไม่ตอบอะไร เพียงแต่ขับเฟอรารี่เข้ามาจอดในที่จอดรถโรงแรมชื่อดังอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย “ฉันก็แค่...อยากพาเธอมาดู ‘ความปรารถนา’ ของเธอไงล่ะ”
...!!!
แดเนียลพูดเสียงเรียบต่ำต่างไปจากทุกครั้ง ก่อนจะเดินผ่านฉันไปยังล๊อบบี้โรงแรมเพื่อเช็คอิน การตกแต่งภายในออกไปทางตะวันตก แต่ก็ยังเห็นมีผสมผสานกับวัฒนธรรมไทยด้วยเฟอนิเจอหวายที่ถูกถักทออย่างประณีต ใกล้ๆ กันป้ายหินอ่อนถูกสลักตัวอักษรสีทองเด่นหราอยู่ที่ผนัง ดูก็รู้ว่าเป็นชื่อของโรงแรมแห่งนี้อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ที่ทำให้ฉันติดใจไม่ใช่ความหรูหราและโอ่อ่าของโรงแรมหรอก แต่มันเป็นเพราะชื่อโรงแรมนี่ต่างหาก
‘Autumm Season hotel.’
“!!!”
…
ความคิดเห็น