หากวันหนึ่งผมเดินทางข้ามเวลาได้ !!!! - นิยาย หากวันหนึ่งผมเดินทางข้ามเวลาได้ !!!! : Dek-D.com - Writer
×

    หากวันหนึ่งผมเดินทางข้ามเวลาได้ !!!!

    ทฤษฎีสัมพันธภาพของของไอน์สไตน์นั้นนับว่าเป็นสิ่งที่ทำให้มนุษยชาติเกิดการพัฒนาไปได้อย่างยิ่งใหญ่

    ผู้เข้าชมรวม

    55

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    55

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  อื่นๆ
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  29 มี.ค. 58 / 00:00 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    การที่เราจะเดินทางข้ามมิตินั้น ไอน์สไตน์บอกว่าเราต้องเดินทางให้มีความเร็วใกล้เคียงกับแสง จะทำให้เวลาของเรานั้นข้าลง หากมีความเร็วเท่ากับแสงอาจจะทำให้เวลาหยุดเดินที่ความเร็วประมาณ   3 x10^6 Kg/s จากทฤษฎีสัมพันธภาพพิเศษนี้ยังมีข้อจำจัดตามที่ไอน์สไตน์ได้กล่าวไว้คือแสงเดินทางเป็นเส้นตรง ในชีวิตประจำวันเรา ไม่สามารถเดินเป็นเส้นตรงด้วยอัตราเร็วคงตัวได้ จึงเป็นทฤษฎีสัมพันธภาพพิเศษของในกรณีนี้

    การที่ผมจะสนใจในเรื่องทฤษฎีสัมพันธภาพนี้ผมได้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับตัวผมหนึ่งอย่างคือ คืนวันหนึ่งซึ่งผมเข้านอนตามปกติ ไม่มีเหตุการณ์ที่แปลกประหลาดเกิดขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียวหรือความรู้สึกถึงพลังงานลี้ลับเลย ผมจึงเขานอนตามปกติซึ่งตอนนั้นก็ประมาณ ตีสองกว่าๆแล้ว  ต้องรีบเข้านอนเพราะตอนเข้าต้องมีเรียนเช้า จึงรีบเข้านอน จากนั้นผมก็หลับไป เมื่อทุกคนหลับคงจะไม่รู้สึกหรือรับรู้อะไรหากสัมผัสของเราถูกปิด คือเหมือนตอนหลับ ผมตอนหลับผมก็ไม่รู้สึกถึงอะไรเลย   แล้วลองคิดดูสิครับ !! ว่าในช่วงเวลาที่เราไม่รู้สึกตัวนั้นนะอาจจะเป็นช่วงที่เราเดินทางข้ามมิติอยู่ก็เป็นได้ ทุกคนคงสงสัยว่าทำไมผมถึงคิดถึงแบบนี้เป็นเพราะว่านาฬิกาของผมหยุดเดินไป 1 ชม.ครับ เวลาของผมคือเวลาในโทรศัพท์มือถือของผมหายไป 1 ชม.จากเวลาของนาฬิกาทุกเรือนที่อยู่ในบ้าน เอ๊ะ !!!  หรือว่าในช่วงเวลาที่หายไป 1 ชม.ของผมนั้นผมได้เคลื่อนที่อัตราเร็วเท่ากับแสงกับ 555+ มั่วกันไปใหญ่หรือเป็นเพราะว่าเวลาโทรศัพท์มือถือของผมคลาดเคลื่อนเอง มันอาจจะเป็นไปได้ทั้งสองทาง ถึงแม้ว่าเวลาโทรศัพท์ผมอาจจะมีความเป็นไปได้มากกว่าหรือเป็นความจริง แต่การที่ผมหายไปในช่วงเวลา 1 ชม.อาจะเป็นไปได้เหมือนกันที่ผมจะมีความเร็วเท่ากับแสงแล้วเวลาจึงหยุดเดินไป อย่างไรก็ตามการสิ่งที่ผมจินตนาการถึงการที่ตัวเองมีความเร็วเท่ากับแสงนั้น ทำให้ผมมีความสนใจในทฤษฎีสัมพันธภาพ สิ่งที่ไอน์สไตน์ทิ้งไว้นั้นมันเป็นได้มากกว่าการพัฒนาของมนุษยชาติ หากกล่าวถึงทฤษฎีของไอน์สไตน์ทุกคนคงจะรู้จักสมการที่โด่งดังของเขาคือ E=mc^2 เป็นสมการในช่วงของสงครามโลกครั้งที่ 2 ถึงแม้ไอน์สไตน์จะเป็นคนคิดสมการนี้แต่อย่างไร เขาก็ไม่ได้เป็นบุคคลหัวรุนแรงที่กระหายสงครามแต่อย่างใด แต่กลับกันไอน์สไตน์เป็นบุคคลที่ต่อต้านสงคราม เพราะสงครามทำให้เขาต้องเสียอะไรหลายๆอย่างไป แม้กระทั้งเพื่อนสนิทของเขาเอง ที่คิดค้นก๊าซพิษเพื่อทำสงคราม จากที่กล่าวมานั้นนับล้านเป็นเนื้อหาสาระและจินตนาการของผมเป็นบางส่วน แต่สิ่งที่ผมสนใจคือการเดินทางย้อนเวลา ผมนั่งคิดอยู่นาน ไอน์สไตน์บอกว่าเวลาของเอกภพมันไม่เท่ากัน และแสงไม่ได้เดินทางเป็นเส้นตรงอย่างเดียวแสงยังสามารถเดินทางเป็นวิถีโค้งได้ ซึ่งเขาพิสูจน์ด้วยหลักการนี้ จึงได้ทฤษฎีสัมพันธภาพทั่วไปเป็นผลสำเร็จ จากข้อความข้างต้นที่ไอน์สไตน์กล่าวมาแสงสามารถเดินทางเป็นวิถีโค้งมันทำให้ผมนึกถึงบทเรียนบทหนึ่งในวิชาโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ ผมจำได้ว่าปกติเราจะเห็นเป็นโลก 3มิติ แต่อวกาศหรือเอกภพที่อยู่นอกเหนือจากเราไปมันเป็น 4มิติ คือเอกภพมันเป็นวิถีโค้ง จินตนาการตามนะครับเหมือนว่าเรานั่งอยู่บนเครื่องบิน แล้วเคลื่อนที่รอบโลกแล้วเราจะมองเห็นโลกเป็นทรงกลมแล้วเราเดินไปตามทรงกลมของโลกนั้นครับ !! 

              ถ้ามาพูดถึงเครื่องบิน เป็นพาหนะที่มีความเร็วมากกว่าพาหนะอื่นถ้าเราใช้เจ้าเครื่องบิน เดินทางเราจะไปถึงที่หมายได้อย่างรวดเร็ว  ครับอีกแล้วครับทฤษฎีสัมพันธภาพ  หากทำอะไรได้รวดเร็วเวลามันจะย่อมผ่านไปช้า ผมคิดเล่นๆนะครับ เวลาในแต่ละภูมิภาคของโลกไม่เท่ากันซึ่งเวลามาตรฐานอยู่ที่เมืองกรีนิช ที่ลอนดอน ประเทศอังกฤษ หากเราอยู่ที่ประเทศไทยของเราเวลาจะเร็วกว่าอังกฤษไป 7 ชม.ถ้าเราเดินทางโดยเครื่องบินที่เร็วที่สุดในโลกไปยังอังกฤษเวลาของเราและเวลาของโลกจะเปลี่ยนไป มันก็จะลดลงเมื่อหักลบกับเวลาที่ใช้เดินทาง เปรียบได้ว่าเราจะเดินทางย้อนว่าเวลาได้หรือไม่ ?

              ถ้าสมมุติว่าตอนนี้ประเทศไทยเวลา 7โมงเช้า ที่อังกฤษเที่ยงคืนออกเดินทางด้วยเครื่องบินความเร็วสูงโดยสมมุติว่าใช่เวลา ไป 1.30 ชม.เวลาที่อังกฤษต้องเป็น ตี 1.30 น.เปรียบได้ว่าเราเดินทางย้อนเวลาได้หรือไม่?แต่หากเมื่อเวลาของอังกฤษจะหมดไปเป็นอีกหนึ่งวัน เราก็เดินทางกลับไปยังไทย ทำให้เวลาที่ไทยมีมากกว่า มันจะหักล้างกันได้พอดี แล้วถ้าหากกลับไปยังอังกฤษอีกครั้งเราก็จะย้อนเวลาได้อีก มันเป็นการทับเวลาของกันและกัน แต่ถ้าหากเราใช้กรณีแบบเหมือนตอนแรก ที่ไปอังกฤษแล้วไม่กลับมาที่ไทย เราจะมีเวลามากกว่าปกติที่มีมากกว่า 24 ชม.

              จากสิ่งที่ผมกล่าวมาทั้งหมดมันเป็นเพียงจินตนาการของเด็กชายคนหนึ่ง หากสิ่งที่ผมคิดสิ่งนี้มันเป็นความจริง เราอาจจะได้เวลามากกว่าคนอื่นเพิ่มขึ้นก็เป็นได้ 

    “คุณไม่ต้องคิดถึงอนาคตหรอก เพราะอนาคตมันจะมาหาเราเอง”

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น