ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พราวดาวดั่งฝัน

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 5

    • อัปเดตล่าสุด 21 เม.ย. 58


    ตอนที่  5

    ปาวดีขับรถถึงโรงพยาบาลรักสัตว์ของหมอวาฬแต่เช้า  โดยไม่ได้นัดหมายไว้ เธอตั้งใจเซอร์ไพรส์สัตวแพทย์หนุ่ม  เมื่อผลักประตูเข้าไป  หล่อนกลับเจอภาพเซอร์ไพรส์เสียเอง

                    ปาวดีตะลึงพรึงเพริดกับภาพตรงหน้า   ยิ่งเห็นเนื้อตัวของหญิงสาวสกปรกมอมแมมเหมือนกับสัตวแพทย์หนุ่ม ใจก็ประหวัดนึกถึงคอกสัตว์หลังโรงพยาบาลขึ้นมาทันที

                   หล่อนถลาเข้าไปกระชากตัวพราวดาวทั้งที่ยังหลับอยู่ขึ้นมา  

                    “นี่.....แกร่านมากถึงกับต้องชวนหมอไปทำอะไรกันในคอกสัตว์เชียวหรือ” เธอตะเบ็งเสียงด้วยความเดือดดาลผสมฤทธิ์หึง

                    พราวดาวตกใจตื่นด้วยถูกปลุกอย่างรุนแรง พอลืมตาขึ้นฝ่ามือก็กระแทกเข้าใบหน้าอย่างจัง

                    “เพี๊ยะ...เพี๊ยะ” หน้าของหล่อนสะบัดหันตามแรงตบของนางตัวร้าย

                    หมอวาฬตะลึงงันหายง่วงทันที  ลุกพรวดดึงพราวดาวเข้ามากอดใช้ตัวบังปกป้องไม่ให้ปาวดีเข้ามาทำร้ายอีก เขาโดนเข้าไปสองป๊าดก่อนจะหันมาปรามเสียง

                    “หยู๊ดๆ..... นี่มันอะไรกัน”  หมอวาฬเสียงเข้ม

                    “วดีอยากถามวาฬมากกว่าค่ะ นังนี่เป็นใคร” ปาวดีแวดถาม

                    พราวดาวซู้ดปาก     ความแรงทำให้หล่อนรู้สึกคอเคล็ดเอาทีเดียว หล่อนนึกโมโห จู่ๆ ก็โดนตบทั้งที่ยังงัวเงียอยู่

                    “มันไม่มีอะไรอย่างที่วดีคิด”

                    “แต่วดีเห็น.......” หล่อนพูดไม่ทันขาดคำ หมอวาฬก็โพล่งขึ้น

                    “เอาล่ะ ผมบอกว่าไม่มีอะไรก็ไม่มี  ว่าแต่ วดีมาทำไมแต่เช้า” สัตวแพทย์หนุ่มถามเสียงดังนึกเป็นห่วงพราวดาวขึ้นมาจับใจ

                    “มาไม่ได้หรือคะ” ปาวดีเดินนวยนาทไปมา

                    หล่อนมองพราวดาวอย่างประเมิน ขณะยังตกอยู่ในวงแขนของหมอวาฬ

    “ถ้าวดีไม่มา  ก็ไม่ได้เห็นอะไรดี ๆสิค่ะ”

                    หมอวาฬเพิ่งรู้ตัวกอดพราวดาวไว้หลวมๆ  เขาหลุบตามองสบตาหล่อนแล้วลงมามองปาก

                    พราวดาวหน้าแดงระเรื่อดันเขาออกอย่างสุภาพ  

                    ปาวดีเห็นปฏิกิริยาของอีกฝ่ายก็รู้ว่ามีใจให้อยู่ลึกๆ วาฬก็อาจจะเผลอใจเล่นด้วย ไม่งั้น  คงไม่ปกป้องกอดกันกลม  ถึงอย่างไร  ปาวดีต้องเลือกงานไว้ก่อน เรื่องอื่นค่อยสะสางกันที่หลัง

                    “วดีมีธุระอะไรว่ามาดีกว่า” หมอวาฬถามเสียงเรียบ

                    เขาเบือนหน้าไปทางอื่นข่มอารมณ์ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

                    “วดีจะมาคุยเรื่องโรงพยาบาลสัตว์ของคุณพ่อวดีไงค่ะ” ปาวดีถือโอกาสโอ่อวดเพื่อข่มคู่แข่งของเธอ

                    “เรื่องนี้ผมเคยบอกไปแล้วนี่ว่าผมไม่ต้องการทำในรูปของธุรกิจ มันไม่ตรงกับจุดประสงค์ของผม งานของผมเป็นงานเพื่อสัตว์ที่ยากไร้มากกว่า” เขาเน้นเสียง

                 พราวดาวได้ยินรู้สึกปราบปลื้มอยู่ลึกๆ เขายึดมั่นอุดมการณ์เหมือนบิดาบุญธรรมของหล่อน ไม่แปลก! ที่เขาจะเป็นเงาของหมอนิธิด้วย   อย่าใจอ่อนหลงไปชอบเขาเชียว หล่อนเตือนตัวเอง 

                    เขาถูกหล่อนสลัดทิ้งไปนานแล้ว  ไม่มีประโยชน์ที่จะรื้อฟื้นความรู้สึกขึ้นมาใหม่อีก  จันทร์เจ้าต่างหากเป็นรักแท้ที่กำลังนอนโทรมซึ่งหล่อนควรคิดถึงเป็นห่วงมันมากกว่าใคร 

                    “แต่ว่า....”

                    “ไม่มีแต่ วดี  เรื่องนี้ผมตัดสินใจไปแล้ว ผมเสียใจด้วย” หมอวาฬเสียงเข้ม

                    ปาวดีหน้าเสียและเจ็บใจที่สัตวแพทย์หนุ่มไม่ไว้หน้า     หล่อนหันขวับไปมองพราวดาว ความโกรธผสมกับความหึงทำให้เธอพาลโยนความผิดไปที่อีกฝ่าย 

                    “เพราะแกนั่นแหละ หมอถึงได้เปลี่ยนใจ”

                    “ทำไมไม่ถามแฟนคุณก่อน ที่จะเข้ามาทำร้ายฉัน” พราวดาวเหลืออด

                    “เดี๋ยวก่อน พราวดาว”เขาเรียกชื่อพราวดาวสนิทปาก แล้วรีบอธิบาย ”ผมไม่ใช่แฟนวดี  ผมกับวดีเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เรียนมหาลัยเท่านั้น”

                    ปาวดีกรี๊ดเสียงร้อง เจ็บใจ รับไม่ได้ที่หมอวาฬพูดแบบนี้ ตรงปรี่เข้าไปอีกรอบ

                    พราวดาวตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใคร กับจันทร์เจ้าเห็นกรงเล็บของมันหล่อนก็ยังยอมแพ้มันก่อน  ปาวดีเหวี่ยงฝ่ามือเข้ามาอย่างนี้  ดูเหมือนว่าพราวดาวจะยื่นหน้าให้หล่อนตบฟรีๆอีกสองฉาดก่อน

                    หล่อนโกรธวูบกางเล็บออกอย่างจันทร์เจ้า แล้วกระโจมเข้าใส่พัลวัน 

                    หมอวาฬพยายามแยกทั้งคู่ออกจากกัน แต่กลับโดนเสียเองอีก

                    จู่ ๆ ตัวเงินตัวทองก็ตกลงมาจากฝ้าเพดาน   แหมะลงกลางวงในท่าหงายท้อง

                    ปาวดีร้องกรี๊ดด้วยความตกใจ ทำท่าขยะแขยง  เพราะตัวเงินตัวทองหล่นลงมาเฉียดศีรษะหล่อนไปอย่างหวุดหวิด   พราวดาวยกมือทาบอกถอยกรูดเบียดตัวเองเข้าหาหมอวาฬ

                    สัตวแพทย์หนุ่มได้สติกว่าใครพรวดเข้าไปดูอาการของมันที่นอนหายใจพะงาบ ๆ รวยรินอยู่บนพื้น 

                    “ยี้ .....แขกไม่ได้รับเชิญดูเหมือนอาการจะแย่  วดีไปก่อนดีกว่า  ส่วนเธอฝากไว้ก่อนเถอะ” ปาวดีบอกแล้วหันมาแว้งใส่พราวดาวทิ้งทาย     ก่อนจะเผ่นแนบออกไปโดยไม่คิดชีวิต             

                    หมอวาฬจับน้องตัวเงินตัวทองพลิกตัวให้นอนในท่าปกติ 

                    เพียงชั่งครู่ เขาก็เอ่ยขึ้น

                    “มันหายใจเป็นปกติแล้ว แต่ไปไหนไม่ได้ คงหมดแรงหรือไม่ก็ยังคงจุกเดินไม่ไหว”

                    “งั้นหรือค่ะ  ตัวเงินตัวทองไม่เป็นอะไร แต่ฉันโดนแฟนคุณเข้าใจผิด   ตบฉันสองครั้งคุณจะว่าไง” พราวดาวเน้นเสียง

                    “ผมบอกแล้วไง วดีไม่ใช่แฟนผม  แต่......ก็ต้องขอโทษแทนวดีด้วย ไม่คิดว่า  วดีจะใจร้อนแบบนี้ คุณเป็นอย่างไรบ้าง” หมอวาฬถาม

                    “ฉันไม่เป็นไร รู้สึกชาๆเท่านั้น เอาเป็นว่าฉันไม่เอาเรื่อง แต่ค่ารักษาพยาบาลจันทร์เจ้าเป็นอันว่าหายกัน”

                    “ก็ได้  ไม่มีปัญหาครับ แต่จันทร์เจ้าของคุณจะต้องอยู่ดูอาการที่นี่ก่อน”

                    “งั้นก็  ช่วยดูแลมันให้ดีๆก็แล้วกัน  ถ้าจันทร์เจ้าเป็นอะไรขึ้นมาอีก     ฉันจะเอาเรื่องคุณ”  หล่อนพูดทิ้งทายกำลังจะเดินไปที่ประตู

                    “เดี๋ยวก่อนสิคุณ” เขาคว้าแขนหล่อน

                    “อะไรอีกคะ  เราไม่มีอะไรจะพูดกันอีกแล้วนี่ค่ะ “ หล่อนพูดก้มมองมือเขา

                    “แต่ผมอยากได้คุณมาทำงานกับผม” เขาบอกมองด้วยดวงตาเข้มสีหน้าเงียบขรึม

                    หล่อนเงยหน้าสบตา หัวใจเต้นรัว  เพราะเมื่อกี้เขาเพิ่งกอดหล่อนอยู่หยกๆ

                    “พราวดาว ได้โปรด”  เขาเรียกชื่อหล่อนเสียงนุ่มและทุ้มราวกับจะขอหล่อนแต่งงาน

                    พราวดาวหน้าแดงระเรื่อ ดึงแขนออกจากมือของเขาแล้วสั่นหน้า

                    “ไม่ค่ะ ไม่เด็ดขาด” หล่อนส่ายหน้า ถอยกรูดเข้าหาประตู

                    หมอวาฬไวกว่าเดินเพียงสามสี่ก้าวก็ไปถึงประตูก่อนหล่อน    เขาขวางหล่อนไว้ มองด้วยดวงตาเข้มขรึม

                    “นะ พราวดาว” เขาเรียกเสียงนุ่ม

                    หล่อนใจเต้นตึกๆ ก้มหน้าสั่นศีรษะเหมือนเด็กดื้อดึง

                    จู่ ๆ ผู้ชายรูปร่างสันทัดสวมเสื้อกาวน์ชายสั้นเหมือนบุรุษพยาบาลเดินสวนเข้ามา

                    เขาโพล่งขึ้น

                    “เกิดอะไรขึ้นครับ คุณหมอ”

                    ทั้งสองผละออกจากกัน  พราวดาวฉวยโอกาสเดินเลี่ยงหนีไปทันที

                    “อ้อ พี่ช้างมาก็ดีแล้วครับ ที่โรงพยาบาลกำลังมีเรื่องวุ่นวาย” หมอวาฬเฉไฉถาม พลางชะเง้อมองหญิงสาว

                    หล่อนเดินตัวปลิวเข้าไปในซอยข้างโรงพยาบาลรักสัตว์

                    “เรื่องช้างที่ผูกไว้กับต้นไม้หลังโรงพยาบาลเหรอครับ  มดเล่าให้พี่ฟังหมดแล้วว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นแล้ว  วันนี้พี่ก็เลยซื้อกล้วยน้ำว้ามาป้อนน้องช้างเพิ่งเสร็จเมื่อกี้ก็เดินมานี่ล่ะ  น้องวาฬสบายใจได้ แล้ว....” ช้างพูดซะยาว

                    “เอาละๆ ผมต้องรีบไป  ตอนนี้ยังมีตัวเงินตัวทองอีกตัวนอนอยู่ข้างใน  พี่ช้างรีบเข้าไปดูก่อนดีกว่า เดี๋ยวผมกลับมานะครับ”  หมอวาฬรีบอธิบายไม่เปิดช่องให้ช้างซักถามต่อ  เมื่อเห็นพราวดาวกำลังซ้อนท้ายมอเตอร์ไซด์รับจ้าง

                    หมอวาฬเผ่นแนบขึ้นรถออกสตาร์ขับตามไปราวกับจรวด

                    “น้องวาฬจะรีบไปไหน แต่ตัวเงินตัวทองนี่สิ มาจากไหนกันแน่ ในโรงพยาบาลก็ไม่มีท่อให้มันมุดเข้ามา”   ช้างเอ่ยเกาศีรษะงวยงงและสับสนตัวเอง

                    ช้างกวาดสายตาสำรวจไปทุกซอกทุกมอง  ก่อนจะสะดุดตาที่พื้นมีฝ้าเพดานหล่นลงมากองอยู่ใกล้โซฟารับแขก  ช้างเงยหน้าขึ้นไปมองเพดานเห็นเป็นโพลงเท่ากับแผ่นฝ้าหนึ่งแผ่น

                    “เออ รู้แล้วร่วงมาจากฝ้าเพดานนี่เอง” 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×