ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พราวดาวดั่งฝัน

    ลำดับตอนที่ #13 : ตอนที่ 12

    • อัปเดตล่าสุด 25 เม.ย. 58


    ตอนที่ 12

    หมอวาฬแล่นรถเข้าไปจอดริมบาทวิถีหน้าโรงพยาบาลรักสัตว์   ปาวดีเห็นรถโฟร์วิลสี่ประตูสีดำขลับของหมอวิทย์จอดอยู่คันถัดไป  หล่อนนึกสนุกอย่างแก้เผ็ดหมอวิทย์อีก หล่อนบอกหมอวาฬไม่ต้องไปส่งเพราะวันนี้หล่อนขับรถมาเอง 

            ปาวดีทำท่าเปิดประตูรถสปอร์หรูสีขาวของตัวเองที่จอดอยู่ใกล้ๆกัน  เมื่อหมอวาฬกับพราวดาวกำลังช่วยกันถือกล่องอุปกรณ์เดินหายเข้าไปในโรงพยาบาลเพื่อนำไปเก็บไว้ในห้องยา 

                 หล่อนรีบผละจากประตูรถ   ดอดไปหาหมอวิทย์   หล่อนเดินตามหาจนเหนื่อยไปเจอเขาอยู่ในห้องพักฟื้นของสัตว์ที่มีอาการสาหัส 

                    ปาวดียืนพิงผนังรออยู่นอกห้อง  เพียงชั่วขณะ  เขาก็ตรวจเสร็จเดินออกมาจากห้อง

                    หมอวิทย์ชะงักงัน สบตาอย่างระแวดระวัง

                  เขาเห็นดวงตาของหล่อนเปล่งประกายก้าวร้าว เริ่มก่อวิวาทกับดวงตาของเขา  เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวาน หล่อนทำเขาอ่อนปวกเปียกจนเก็บเอาไปฝันร้ายทั้งคืน

                    เขาหน้าร้อนผ่าว ใจเต้นแรงพยายามข่มความรู้สึกแสร้งเบือนสายตามองไปทางอื่น

                   หล่อนรู้จุดอ่อนจากประสบการณ์ หมอวิทย์ต้องเล่นถึงเนื้อถึงตัว  เขาถึงจะแขยงไม่กล้ามายุ่งกับหล่อนอีก  แต่เหตุการณ์เมื่อวานทำให้หล่อนย่ามใจนึกสนุกอยากแกล้งเขาอีก

                    ปาวดีเดินนวยนาถเข้าไปชิดใกล้  กลิ่นน้ำหอมหรูฟุ้งแตะจมูก  

                    หล่อนแตะคางเขาให้หันมา  แล้วไล้ปลายนิ้วไปตามแก้มเขา  พลางส่งสายตายั่วยวน

                    “คุณจะเล่นซุกซนอะไรอีกล่ะ เอามือของคุณออกไป” เขากระชากเสียง

                    “กลัวเหรอ  ฉันแค่อยากจะมาเตือนคุณ ว่าอย่ามายุ่งกับฉันอีก”

                    “คุณขู่ผมเหรอ”  เขาทำเป็นเสียงแข็ง  แต่จริงๆแล้ว หายใจไม่ทั่วท้องเหมือนถูกไฟจี้

                    “ลองดู” หล่อนพูดแล้วสอดแขนเข้ากอดเอว

                    เขาจับแขนรั้งไว้  แต่หล่อนยื้อยุด

          หมอวิทย์งุบตามอง  สบตาหล่อน

       ปาวดีมองริมฝีปากเหยียดตรงของเขา เผลอใจหวนคิด คงนุ่มและน่าสัมผัส พลางกลืนน้ำลายยับยั้งใจไม่ไหวเขย่งปลายเท้าขึ้นจุมพิตอย่างหนักหน่วง  เหมือนกระแสเลือดไหลพล่านในกายของทั้งคู่   

    เขาเบิกตาโพล่งคิดไม่ถึงว่าจะโดนจู่โจมถึงเพียงนี้ 

    เพียงชั่วขณะ เขาก็ผลักหล่อนเซจนล้ม  

               “โอเค ผมจะอยู่ห่างจากคุณ พอใจมั้ย”  เขาพูดเสียงห้วน  แล้วก็เดินหนีไปอย่างไม่พอใจ

              หมอวิทย์ลับตาไป   ปาวดีทำทีก๋ากั่นเมื่อครู่ก็หมดฤทธิ์เป็นลมล้มพับไปกองอยู่ที่พื้น  ป้าเกษมแอบมองอยู่ก่อนหน้านี้   แกรีบเข้าไปประคอง   แล้วพยุงหล่อนเข้าไปในห้องพักฟื้น  ท่ามกลางสัตว์นานาชนิด จระเข้ ตัวเงินตัวทอง พวกมันเหลือบตามองแล้วหลับตาต่ออย่างนิ่งสงบอยู่ในกรง  ขณะชะนีที่มีผ้าพันแผลที่ขาสองข้างเขย่ากรงร้องผัวๆ  เมื่อเห็นคนแปลกหน้า  แต่งหน้าสีจัดถูกป้าเกษมหิ้วปีกเข้าไปนอนบนเตียง

    พราวดาวกลับถึงบ้านโดยมีหมอวาฬอาสาขับรถมาส่ง  เขาขอเข้าไปพักเหนื่อยในบ้าน  หล่อนปฏิเสธทันที  เขาไม่สนใจระหว่างที่หล่อนเปิดประตูรั้ว  เขาแทรกตัวเข้าไปในบ้านหน้าตาเฉย  หล่อนบ่นอุบต่อว่าเขาโดยไม่ได้เชื้อเชิญ   เขาไม่พูดพร่ำทําเพลงกลับแย่งพวงกุญแจจากมือของหล่อนเดินไปไขประตูเข้าบ้านเอง  และถือวิสาสะเดินเข้าไปทรุดตัวนั่งบนโซฟาหวายในห้องรับแขก

                    เขาเหลือบเห็นกรอบรูปผู้ชายอายุ60ต้นๆอยู่ในชุดกาวน์ ตั้งอยู่บนโต๊ะรับแขก  

                    หมอวาฬหยิบขึ้นมาดู

                    เขาขมวดคิ้ว อึ้งไปชั่วขณะ

                    “อาจารย์หมอนิธิ  พูนผล” เขาเอ่ยขึ้นอย่างคุ้นเคย

               แต่แล้วก็ร้องเสียงหลงเมื่อหญิงสาวเข้ามาแย่งรูปไปจากมือแล้วยัดเข้าไปในลิ้นชักตู้โชว์ใกล้ๆ

                   “นั่นเป็นรูปอาจารย์หมอที่สอนในภาคปฏิบัติเมื่อครั้งผมยังเป็นนักศึกษาอยู่ ผมจำได้แม่น อาจารย์หมอเสียชีวิตไปเมื่อปีที่แล้ว ลูกศิษย์ลูกหาทุกคนต่างก็อาลัยท่านที่จากไปอย่างกะทันหัน แล้วท่านเป็นอะไรกับคุณ”

                    “เรื่องส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับคุณ”

                    “ถึงว่า ผมสงสัยตั้งแต่คุณช่วยน้องช้าง วันนี้คุณก็รู้เรื่องยาว่าหลอดไหนใช้สำหรับอะไร  รู้เรื่องโรคที่เกิดขึ้นกับวัว  และคุณยังใช้เข็มฉีดยาอย่างชำนิชำนาญ เสียดายถ้าผมให้คุณลองฉีดวัคซีนให้วัวบ้าง ผมรับลองว่าคุณน่าจะเป็น....”

                    “หยุดได้แล้ว ฉันไม่อยากฟัง” พราวดาวใช้มือปิดหูส่ายศีรษะไปมา

                    “เกิดอะไรขึ้นกับคุณ”

                    “อย่ามาละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวของฉัน”

                    “หรือว่าไม่จริง รูปของท่านทุกรูปควรตั้งโชว์เป็นเกียรติ์   ไม่ใช่เก็บไว้ในลิ้นชักอย่างที่คุณทำ”

                    “คุณไม่รู้อะไร อย่าพูดดีกว่า” พราวดาวบอกเสียงลั่น

                    “พราวดาว บอกผมมา”เขาถามเสียงแข็ง

                    “เชิญคุณออกไปได้แล้ว” หล่อนเอ่ยปากไล่

                    เขาจ้องตาหล่อนด้วยสายตาคมกริบ หล่อนเริ่มมองเห็นสัญญาณอันตราย   

                    หล่อนพูดไม่ยั้งคิด ไล่เขาไปโต้งๆ  คิดจะถอยหนี  แต่ช้าไปราวกับอ่านใจหล่อนออก  เขาสาวเท้าเข้าถึงตัว หล่อนถอยกรูดจนติดผนัง 

                    “พราวดาว มันเกิดอะไรขึ้นกับคุณกันแน่” เขาพูดเสียงเข้ม พลางใช้ปลายนิ้วเชิดคาง

                    หล่อนไม่ตอบ แข็งใจสบตาเขา  เหมือนมนต์สะกดนัยน์ตาภายใต้ขนตาเหยียบตรง  ลมหายใจร้อนผ่าวรดใบหน้าหล่อน ทำให้ใจเต้นแรงไม่เป็นสับ 

                     ริมฝีปากของเขาค่อยๆโน้นตัวลงมาพลางชะงัก นิ่งมองริมฝีปากเผยอของหล่อน

                    หล่อนคิดว่าถ้าเขาจูบ หล่อนก็จะลองจูบตอบเขา 

                    “ผมต้องรู้ให้ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับคุณ”  เขาพูดเสียงเข้ม แล้วถอยออกห่าง  มือที่ยันอกเขาไว้ตกลงมาโดยอัตโนมัติ

                   หล่อนเหมือนถูกตบหน้าแรงๆ  และรู้สึกปวดแปลบขึ้นมา   

                  พราวดาวได้ยินเสียงประตูบ้าน และประตูรถเปิด-ปิด  เสียงสตาร์รถก่อนจะเคลื่อนตัวแล่นจากไป   หล่อนรู้สึกเคว้งไม่มีหลักยึดเกาะ ถึงกับเข่าอ่อนทรุดตัวนั่งหมดเรียวแรงบนโซฟา

               เรื่องรูปหมอนิธิหล่อนก็รู้สึกเจ็บปวดพอทน  ทว่า ความรู้สึกแปลกๆที่มีให้เขานะสิ  อาจทำให้หล่อนเจ็บปวดปางตายได้มากกว่า   เด็กกำพร้าอย่างหล่อนไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะรู้จักหัวใจของตัวเอง  หล่อนจะเผลอใจไปรักเขาไม่ได้  หล่อนตัวชาวูบ   เมื่อรู้ว่าจะต้องตัดใจจากเขาให้ได้ทันที 

    หมอวาฬกลับถึงโรงพยาบาลรักสัตว์รีบเปิดโน้ตบุ๊กบนโต๊ะทำงาน พิมพ์ชื่อนายแพทย์นิธิ  ผลพูน เพื่อหาประวัติจากกูเกิ้ล 

              เขาเห็นชื่อนายแพทย์นิธิ  ผลพูนปรากฏขึ้นในวิกิพิเดีย สารานุกรมที่รวบรวมประวัติ ข้อมูลไว้หลากหลาย  หมอวาฬเห็นรูปอาจารย์ขวามือและรีบไล่สายตาพร้อมกับเคลื่อนเมาส์ไปตามตัวอักษรที่เขียนว่าประวัติ  ตำแหน่ง  สถานที่ทำงาน  ผลงาน  และคู่สมรส

                    เขาชี้เมาส์ไปที่ชื่อ

                    “บุตรีชื่อ พราวดาว  พูนผล” เขาเอ่ยขึ้น

                  ขณะเดียวกัน  วิทย์   สัตวแพทย์หนุ่มเพื่อนของเขาที่ร่วมกันก่อตั้งโรงพยาบาลรักสัตว์กลับจากเขาใหญ่เดินเข้ามาเห็นเพื่อนพึมพำอยู่คนเดียว

               “มีอะไร เห็นนายจ้องจอแล้วบ่นอะไรพึมพำคนเดียว”หมอวิทย์พูดขึ้นพลางทรุดตัวลงนั่งเก้าอี้ในท่าไขว่ห้างที่โต๊ะทำงานของตัวเองใกล้ๆหมอวาฬ

                  “นายจำอาจารย์หมอนิธิ ผลพูนสอนภาควิชาปฏิบัติได้เปล่า”

                “จำได้สิ น่าเสียดาย ไม่น่าเกิดอุบัติเหตุขึ้นก่อนเลย ไม่อย่างนั้น อาจารย์อาจจะทำประโยชน์ได้อีกเยอะ”

                    “อาจารย์มีบุตรสาวคนหนึ่ง” 

                   “ใช่ ฉันเคยเห็นเธอไปช่วยอาจารย์ตั้งแต่สมัยเรียน  อาจารย์พาออกตะเวนไปกับหน่วยอาสาบ่อยๆ ตอนนายไปเรียนต่อต่างประเทศ ฉันยังแวบไปช่วยอาจารย์อยู่บ้างก็ยังเห็นเธออยู่ ”  หมอวิทย์ตอบเอนตัวพิงพนักปล่อยตัวตามสบาย

                    “งั้นหรือ” หมอวาฬ

                    “ใช่ ตอนนั้น  เธอกำลังเรียนสัตว์แพทย์ปีสุดท้าย หลังจากที่อาจารย์เสียชีวิต  ได้ข่าวเธอว่าดอรป์เรียน แล้วก็ไม่มีใครเห็นเธออีกเลย”

                    “น่าเสียดาย น่าจะเรียนต่อให้จบ”

                    “ใช่ ว่าแต่ นายมีอะไร  จู่ๆ  ก็ลุกขึ้นมาซักถามประวัติอาจารย์กับลูกสาวซะยาวเชียว

                    “พราวดาวมาทำงานที่นี่”  หมอวาฬเรียกเจ้าของชื่ออย่างสนิทปาก

                    “อะไรนะ” หมอวิทย์เด้งผึงจากเก้าอี้อย่างลืมตัว

                    หมอวิทย์รีบเดินอ้อมโต๊ะไปชะโงกหน้าถาม

                    “คนเดียวกันกับคนที่นายบอกฉันก่อนไปเขาใหญ่ ว่าหน่วยก้านดี ลุย และท่าทางรักสัตว์นั่นนะ”

                    “ใช่”

                    “เสียดาย ฉันน่าจะอยู่ต้อนรับเธอนะ” หมอวิทย์ทำเสียงขึ้นจมูก

                    “นายไม่ต้องห่วง พรุ่งนี้พราวดาวก็มาทำงาน”

                    “เอ เดี๋ยวก่อน นายเรียกเธอสนิทปากแบบนี้ อย่าบอกนะ ว่าจำเธอไม่ได้” หมอวิทย์ถามอย่างชักไม่ไว้ใจเพื่อน

                    หมอวาฬไม่ตอบเพียงแค่ยักไหล่แล้วลุกจากเก้าอี้ก่อนเอ่ย

                    “วันนี้เหนื่อยมาทั้งวัน ฉันขอตัวก่อนนะ” หมอวาฬบอกตบบ่าเบาๆแล้วเดินไปประตู

                    “เฮ้ย อะไรของนาย อย่ากำกวมแบบนี้สิ  ตกลงจำเธอได้หรือเปล่าวะ” หมอวิทย์ถามตามหลังด้วยสีหน้างวยงง
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×