ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    พราวดาวดั่งฝัน

    ลำดับตอนที่ #12 : ตอนที่ 11

    • อัปเดตล่าสุด 28 เม.ย. 58


    ตอนที่   11

    แสงแดดเจิดจ้าหมอวาฬขับรถฝ่าเข้าไปให้ทุ่งโล่งที่ไม่มีทางถนน   เขาจอดรถตรงที่มีคนยืนมุงกัน   วัวสาวท้องแก่นอนหมดแรง  หายใจพะงาบๆ   ซึ่งชาวบ้านช่วยกันดึงมันออกมาจากท่อก่อนเขาจะไปถึงไม่นาน  ชายชราคนหนึ่งอายุราว 60  ผมเกรียน สวมเสื้อคอกลมสีมอ กางเกงยาวแค่เข่า

                    แกเดินเข้ามาร้องห่มร้องไห้กลัววัวสาวชื่อสาคูจะแท้งลูก

                “คุณหมอครับ   ช่วยไปดูอาการนังสาคูมันหน่อยนะครับ  มันกำลังท้อง ลุงกลัวว่ามันจะแท้งลูกตาย”

                    “เรื่องเป็นไงมาไงครับ ลุง ” หมอวาฬถาม

                    ชาวบ้านเห็นหมอวาฬสวมเสื้อกาวน์เดินฝ่าวงล้อมก็แหวกทางให้เข้าไป  ระหว่างนั้นชายชราเจ้าของนังสาคูก็เล่าเหตุการณ์ไปด้วย

                    “เหตุเกิดเมื่อลุงต้อนฝูงวัว20ตัว  มาหาแหล่งอาหารที่มีหญ้า มีหนองน้ำในบริเวณนี้ เมื่อถึงเวลากลับก็ต้อนเข้าคอก  ลุงนับวัวไม่ครบ    ขาดนางสาคูไปหนึ่งตัว  ลุงก็ออกตามหามันอยู่2วัน  ถึงได้มาเจอมันตกลงไปในบ่อท่อที่ไม่มีฝาเปิดนี่ล่ะครับ” ชายชราอธิบายด้วยสีหน้าสลด

                   ระหว่างเล่าสัตวแพทย์หนุ่มก็ใช้หูฟังตรวจเสียงหัวใจลูกในท้องของสาคูที่นอนหายใจรวยรินเพราะหมดแรง

                  “ลุงไม่ต้องกังวล สาคูกับลูกในท้องไม่เป็นอะไร  ยังแข็งแรง  เพียงแต่อ่อนเพลีย หมอจะฉีดยาบำรุงครรภ์ให้ก่อน ”

                    “ขอบคุณครับ คุณหมอ”ชายชรายกมือไหว้สีหน้ามีรอยยิ้ม

                    พราวดาวหยิบหลอดยาบำรุงและกระบอกฉีดยาออกจากกระเป๋าแล้วส่งให้หมอวาฬ

                    เขาชะงักงันขมวดคิ้วมอง

                    “คุณรู้ได้ไง หลอดนี้เป็นยาบำรุง”

                    “นั้นสิ ถ้าไม่ใช่ ฉีดยาผิด นังสาคูตาย ใครจะรับผิดชอบ” ปาวดีถามเสียงลั่น

                    ชายชราได้ยินหน้าสลดลง

                    “ไม่ผิดหรอกค่ะ คุณหมออ่านข้างหลอดยาก็รู้” พราวดาวแก้ตัวน้ำขุ่นๆ

                    “ข้างหลอดเป็นศัพท์ทางการแพทย์ คนที่อ่านต้องมีความเข้าใจ” หมอวาฬ

                    “เออ...”พราวดาวอึกอักเถียงไม่ออก ก้มหน้าแสร้งจัดโน้นนี่ในกระเป๋ายา

                   “นั่นสิ  เถียงไม่ขึ้นแบบนี้มันน่าสงสัย หรือว่าเธอจะเป็นพวกคู่แข่งปลอมตัวมาหาความลับแล้วเอาไปบอกฝ่ายตรงข้าม”  ปาวดีถามเสียงแหลม

                    “ฉันไม่ใช่  อะไรทั้งนั้นล่ะ ทางที่ดีคุณรีบฉีดยาให้สาคูก่อนดีกว่า มัวแต่กล่าวหากันแบบนี้  เดี๋ยวสาคูก็ตายทั้งกลมหรอก” 

                    คราวนี้ลุงทำท่าจะร้องไห้ขึ้นมา

                    “จับได้คาหนังคาเขา เธอยังจะปฏิเสธอีกรึ”  ปาวดีแว้ดใส่

                    “ถ้าฉันเป็นอย่างที่คุณกล่าวหาจริง ฉันก็คงเดินเข้าไปสมัครงานที่โรงพยาบาลรักสัตว์เอง ไม่ต้องให้คุณหมอตามไปง้อ  อ้อนวอน ถึงบ้านหรอกค่ะ” พราวดาวเถียงแต่หลบอยู่ข้างหลังหมอวาฬ

                    “ว้าย  เธอพูดอะไร จริงรึค่ะวาฬ” ปาวดีแว้ดใส่หมอวาฬ

                    “เอาละๆ พอได้แล้ว  วดี ผมขอช่วยนังสาคูก่อน ส่วนเรื่องอื่นเอาไว้พูดกันที่หลัง”  หมอวาฬยกมือห้ามศึกแสดงอาการหวุดหวิดขึ้นมา

                    หมอวาฬฉีดยาให้สาคูเสร็จก็ส่งเข็มฉีดยาให้พราวดาว

                    หล่อนแยกเก็บไว้ในกล่องสำหรับเข็มที่ใช้แล้ว 

                    “ขอบคุณครับ คุณหมอ” ชายชรากล่าวพลางยกมือไหว้ 

                    “ไม่เป็นไร ลุง”

                    “แต่ว่า ผมยังมีวัวในคอกอีกยี่สิบตัว ผมขอความกรุณาจากคุณหมอให้ไปตรวจพวกมันให้หน่อยเถอะครับ ผมกลัวโรคปากเท้าเปื่อยตอนนี้กำลังระบายอยู่ทั่วประเทศ ถ้าเกิดพวกมันตายไปผมคงหมดตัว” ชายชราพูดด้วยดวงตาอ้อนวอน ยกมือไหว้ค้างไว้

                    “อะไรนะ ลุงค่ารักษาก็ไม่ได้ แถบยังจะให้ไปตรวจทั้งฝูงที่บ้านอีก”  ปาวดีหันมาแว้ดใส่

                   “วดี! คุณไม่ควรพูดกับลุงอย่างนั้น”หมอวาฬหันมาปราม “ลุงไม่ต้องไหว้ผมหรอกครับ  เพราะเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว”

                 “นั้นสิ  ช่วงนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงทำให้ภูมิต้านทานในสัตว์ต่ำมีโอกาสเป็นสูง ดีแล้วที่ลุงบอกคุณหมอ ไม่งั้น  ถ้าเกิดโรคขึ้นมาอาจจะระบาดไปคอกอื่นได้ ลุงก็จะเดือดร้อนยิ่งหนักไปกันใหญ่” พราวดาวอธิบายด้วยน้ำเสียงเห็นอกเห็นใจ

                   “ครับๆ กรุณาช่วยผู้ยากไร้ด้วยนะครับ ”

                 “ฉวยโอกาส ได้คืบจะเอาศอก ดูสิ แดดเปลี้ยงๆอย่างนี้ ร้อนก็ร้อน” ปาวดีบ่นอุบล้วงพัดจากกระเป๋าถือแบรนด์เนมออกมากระพือพึ่บพั่บ เดินจ้ำเอาตรงดิ่งไปที่รถ

                 สัตวแพทย์หนุ่มส่ายหน้ามองเพื่อนสาวอย่างหนักใจ   และไม่ลืมชำเลียงมองพราวดาวด้วยสายตาฉงน  แต่หล่อนไม่สนใจพลางฉุกคิด  อยากสงสัยก็สงสัยไป คอยดูจะกลับไปเรียนสัตวแพทย์ให้จบจะได้รู้แล้วรู้รอดไปเลย  
                  พราวดาวคิดแล้วเริ่มใจเต้นแรงหันขวับไปสบตาคมกริบ ตั้งแต่หมอนิธิจากไปหล่อนก็ไม่เคยคิดที่จะกลับไปเรียนอีกเลย และนี่เป็นครั้งแรกที่คิดแบบนี้  เป็นเพราะอะไรหล่อนไม่ทราบ แต่คงไม่ใช่เขาแน่นอน  หล่อนรู้แต่ว่าเวลานี้ทำเพื่อนังสาคูวัวสาวท้องแก่ และสัตว์ที่ไม่มีผู้เหลียวแลเท่านั้นก็เพียงพอ

    บ้านของชายชราอยู่ไม่ไกลจากนั้น   สัตวแพทย์หนุ่มขับรถสิบนาทีก็เห็นบ้านไม้ซอมซ่อใต้ถุนสูง มีคอกวัวจะอยู่ห่างจากบ้านราวๆสามสิบเมตร  หมอวาฬ พราวดาว ปาวดีลงจากรถเดินไปที่คอกเพื่อตรวจดูสภาพคอกวัวที่ทำด้วยวัสดุง่ายๆ  เสา คอกทำจากไม้สนเป็นแบ่งล็อค มุงหลังคาด้วยหญ้าคา  มีคอกล้อมรอบ และยืดยาวออกมานอกชายคาไปทางด้านหน้าทุกล็อค 

                    ใต้ต้นมะม่วงใหญ่มีโต๊ะไม้เตี้ยสี่เหลี่ยมผืนผ้าเท่ากับเสื่อผืนใหญ่

                    พราวดาววางสัปภาระไว้บนโต๊ะ 

                    ปาวดีเดินหน้าบูดปากก็บ่นอุบพลางสะดุดโหย่งๆหลบมูลวัวเกลื่อนกลาด  ก่อนจะมานั่งแหมะบนโต๊ะด้วยอารมณ์หงุดหงิด

                    ลุงเรียกให้หลานชายวัยรุ่นจูงวัวออกมาตรวจที่ละตัว 

                   สัตว์แพทย์หนุ่มตรวจดูวัวพร้อมกับฉีดวัคซีนป้องกันโรคเสร็จสับ  โดยมีพราวดาวหยิบหลอดวัคซีน ตัดปากหลอด   ใช้เข็มดูดวัคซีนใส่กระบอกยาแล้วส่งเข็มฉีดยาให้เขาอย่างชำนิชำนาญ

                    พราวดาวเห็นสีหน้าหมอวาฬมองอย่างฉงนแวบหนึ่งก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ  เมื่อหญิงสาวหยิบวัคซีนหลอดใหม่

                   ปาวดีมองอ้าปากค้างจะทักท้วงแต่ถูกหมอวาฬหันมาปรามด้วยสายตา    ทำให้หล่อนไม่พอใจผุดลุกผุดนั่งหลายครั้ง

                    ขณะเด็กหนุ่มจูงวัวออกมาตรวจทีละตัว กว่าจะถึงวัวตัวสุดท้ายก็ใช้เวลาเกือบ4ชั่วโมง

                    เมื่อถึงตัวสุดท้าย 

                    เด็กหนุ่มยืนชั่งใจอยู่ชั่วครู่ จึงหันมาถามชายชราผู้เป็นตา

                    “จะดีหรือตา” 

                    เด็กหนุ่มหันรีหันขวางมองไปคอกสุดท้ายที่มีวัวตัวผู้ท่าทางองอาจถูกขังไว้อยู่ตัวหนึ่ง

                    “มีอะไรหรือค่ะ ลุง”  พราวดาวถามขึ้น

                    “อ้อ ไม่มีอะไรหรอก  ไอ้โทนผัวนางสาคู มันกำลังหงุดหงิดไม่ได้เห็นหน้าเมียมันมา2วัน  ตอนนี้อารมณ์มันเย็นลงแล้ว  อ้าว  ยืนเซ่ออยู่ทำไม  ไปจูงไอ้โทนมาสิ  คุณหมอจะได้ไปทำธุระที่อื่นต่อ”

                    “ครับๆ ตา” เด็กหนุ่มรีบแจ้นไป

                    ปาวดียืนทำท่าแขยงมองเด็กหนุ่มจูงวัวเพศผู้ออกจากคอกสุดท้าย  

                    วัวผู้นามว่าโทนเดินอย่างสง่าผ่าเผย ไม่มีทีท่าจะพยศเหมือนสองวันก่อน ดูสงบเสงี่ยมสมกับถูกเลี้ยงในบ้านและคลุกคลีกับคนจนเชื่อง

                    เมื่อทุกคนกำลังย่ามใจ

                    แสงแดดยามบ่ายเจิดจ้าแข่งกับชุดสีฉูดฉาดบาดตาของปาวดี  อาการคลุมคลั่งกรุ่นขึ้นมาใหม่ วัวผู้ระบายอารมณ์ออกมาวิ่งตรงดิ่งเข้าหาเจ้าของชุดสีแสบสัน  ผ่าฝูงวัว4-5 ตัวกำลังก้มเล็มหญ้าอ่อนอยู่บริเวณนั้น  แตกกระเจิด

                    หมอวาฬไวกว่าคว้าพราวดาวหลบทัน  จนล้มเกลือกกลิ้งไปด้วยกันบนพื้นหญ้า  ปาวดีส่งเสียงกรี๊ดร้องแตกตื่นวิ่งหนีกระเจิด  กว่าลุงกับหลานชายจะจับมันได้ หล่อนก็วิ่งรอบคอกวัวสามรอบ

              ระหว่างทางทั้งสามนั่งรถกลับไม่มีใครปริปากพูดกันสักคน  มีแต่เสียงสะอึกสะอื้นออเซาะของปาวดีเพื่อเรียกร้องความสนใจจากหมอวาฬ

                    “วดีไม่ยอมๆ  ฮือๆ” ปาวดีซบหน้าอิงไหล่ของเขาไว้ขณะกำลังขับรถ

                    “แล้วคุณจะให้ผมทำไงล่ะครับ”

                    “ถ้าวาฬเชื่อวดีไปทำงานกับคุณพ่อ  วดีคงจะไม่โดนไอ้วัวบ้าไล่ขวิดเหรอค่ะ”

                    “ไม่เกี่ยวกันสักหน่อย”

                    “ไม่รู้ละ วาฬจะต้องช่วยวดีด้วย”

                    “จะให้ผมช่วยอย่างไรล่ะครับ”  หมอวาฬรู้สึกเหนื่อยใจ

                    “ก็แค่ไปเป็นที่ปรึกษาให้กับคุณพ่อก็พอแล้วค่ะ”

                    “แล้วโรงพยาบาลรักสัตว์ของผมละครับ  จะทำอย่างไง”

                    “วาฬไม่ต้องห่วง วดีว่าไม่กระทบกระเทือนถึงสัตว์ผู้ยากไร้ของวาฬหรอกค่ะ วันนี้ลงพื้นที่กับคุณ วดีเพิ่งจะรู้ว่าน้องสัตว์พวกนั้นก็น่าสงสารเหมือนกันนะคะ” หล่อนเค้นเสียงพยายามบีบน้ำตาให้น่าสงสารยิ่งขึ้น

                    สัตว์แพทย์หนุ่มนิ่งคิดไปชั่วขณะ  ก่อนจะเอ่ยขึ้น

                    “งั้น เมื่อไหร่ล่ะ”

                    “พรุ่งนี้เลยค่ะ  คุณพ่อร้อนใจมาหลายวันแล้วอยากคุยเรื่องนี้กับวาฬเร็วๆ”

                    “ก็ได้ พรุ่งนี้ตอนบ่ายผมว่าง” 

                    ปาวดีเงยหน้าจากไหล่หมอวาฬกระหยิ่มยิ้มย่องเย้ยมองคนนั่งอยู่หลังเบาะที่เบือนสายตาไปนอกหน้าต่างอย่างเหนือชั้นกว่า

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×