คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : คืนท้องฟ้าปลอดโปร่ง
ตอนที่ 3 คืนท้องฟ้าปลอดโปร่ง
ณ ถนนตัดใหม่ ยามค่ำคืนบนท้องถนนปลอดโปร่ง จักรยานยนต์แต่งดัดแปลงนับร้อยคัน ผู้ขับขี่ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นชายที่มักจะมีวัยรุ่นหญิงนั่งซ้อนท้ายมาเกือบทุกคัน พวกเขากำลังจอดรอแก๊งอื่นที่กำลังทยอยตามมาสมทบที่บริเวณถนนตัดใหม่ในช่องจราจรที่ยังไม่เปิดให้ใช้บริการ
วินทร์นั่งอยู่บนเบาะรถมอเตอร์ไซค์ที่ถูกแต่งมาอย่างดีจากหน่วยสายลับพิเศษ ซึ่งช่วยให้เขาแฝงตัวเข้าไปปะปนกับพวกเด็กแว้นได้อย่างกลมกลืน
เสียงเร่งเครื่องจากท่อไอเสียจากการดัดแปลงใหม่แผดเสียงกึกก้องไปทั่วบริเวณ เร้าใจทุกสายตาหันไปมองเด็กวัยรุ่นชายวัย 17 ปีหน้าตาหล่อเหลา นั่งอยู่บนรถมอเตอร์ไซค์สีเงินที่กำลังเบิ้ลเสียงอวดความแรงของเครื่อง
วินทร์ถูกกฤษณ์ฝึกฟังเสียงของเครื่องก็พอจะรู้ว่า รถมอเตอร์ไซค์คันนี้ถูกดัดแปลงเพิ่มความแรงเกินกว่าปกติด้วยช่างฝีมือดี
เขามองอยู่ครู่หนึ่งถึงกับชะงักงัน
ไฟหน้ารถมอเตอร์ไซค์นักร้อยคันเหมือนจะสว่างจ้ากว่าเดิม เขาเห็นเชหัวหน้าเด็กแว้นที่ถูกผู้การอาญาหมายหัวไว้ บิดมอเตอร์ไซค์สีดำ ตามด้วยมอเตอร์ไซค์ดัดแปลงไม่แพ้กันอีกสองคันแล่นเข้ามากลางวงล้อมของแก๊งเด็กแว้น
เชเดินผละจากรถ มีรูปร่างสูงราวๆ 180 ซม. ท่าทางองอาจ มีผิวสีแทน ใบหน้าขาวเนียนได้รูป ดวงตาคมเข้ม ผมสีโทนน้ำตาลแดงซอยสั้น ใส่ต่างหูเพชรแวววาม
พี่กฤษณ์ได้ประวัติมันมาอย่างคร่าวๆ
เชเป็นเด็กกำพร้าที่หนีออกมาจากสถานสงเคราะห์ซึ่งต้องอยู่ในกฎระเบียบวินัย เชเลือกที่จะออกมาดำเนินชีวิตที่เป็นอิสระ แรกๆก็ไม่มีที่อยู่เป็นหลักเป็นแหล่งกลายมาเป็นเด็กร่อนเร่ทำทุกอย่างเพื่อได้เงินมาไม่ว่าจะเป็น วิ่งโพนบอล เด็กส่งยาให้กับพวกค้ายารายย่อย จนมีเงินซื้อรถมอเตอร์ไซค์เข้ามาท้าแข่งกับพวกเด็กแว้นบนถนนตัดใหม่ได้รับชัยชนะเกือบทุกครั้ง จนกลุ่มเด็กแว้นยอมรับให้เป็นหัวหน้าเด็กแว้น ซึ่งต่อมามีลูกน้องชื่อเกมกับบอล เด็กที่มาจากครอบครัวยากจน แตกแยก และกดดันต้องหนีออกจากบ้านคอยติดสอยห้อยตามเชจนถึงทุกวันนี้
เชโบกมือทักทายส่งเสียงทักทายให้กับเพื่อนร่วมแก๊งนับร้อยคัน วินทร์เบนความสนใจไปที่วัยรุ่นชายวัยไล่เลี่ยกันอีกสองคน รูปร่างผอมสูงไม่เกิน170 พอๆกัน ผิวเหลืองซีดราวกับขาดสารอาหาร ผมเผ้ายาวถึงท้ายทอยทำสีผมน้ำตาลทองแต่งด้วยเจลยีผมให้ดูรุงรังเหมือนกันทั้งคู่
วินทร์เดาว่าน่าจะเป็นลูกน้องที่ชื่อเกมและบอลทั้งสองกำลังเดินตามต้อยๆ ท่าทางฮึมเหิมทะนงตนตามหัวหน้าแก๊งของพวกมัน
"เครื่องแรงดีนี่ นายแต่งเครื่องที่ไหนวะ" เชทักทายเจ้าของเสียงที่แสบแก้วหู
"ฉันแต่งเอง ก็ไม่เท่าไหร่หรอก" วัยรุ่นชายคนนั้นยักไหล่
"นายชื่อไร! มาจากไหนวะ" เชถาม
"รัน! ช่างยนต์ปี 3" รันตอบสีหน้านิ่งเงียบ แต่คนถามกลับมีดวงตาพราวแพรว
วินทร์หรี่ตามองผ่านแสงเจิดจ้าจากไฟหน้ารถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งที่หันมาสาดใส่หน้าจังหวะนั้นพอดี เขาจำได้เพิ่งวิ่งชนไอ้หมอนั่นหน้าวิทยาลัยช่างเมื่อวานนี้เอง
"นายมายุ่งอะไรกับพวกนี้ด้วยวะ" วินทร์พึมพำพลางเอี้ยวหูฟังการสนทนาของพวกมันต่อ
เชมองด้วยสายตาเจ้าเล่ห์แสยะยิ้ม ก่อนตะโกนท้าเสียงดังตั้งใจให้ทุกคนได้ยิน
"ถึงว่า! ใช้ความรู้ที่ร่ำเรียนมาดัดแปลงเครื่องยนต์ให้แรงกว่าคนอื่นเขา ไม่ธรรมดาเลยวะ ฉันชักอยากลองแข่งกับนายแล้วสิ"
รันเงียบไปชั่วขณะ
“แข่งเลย” เสียงเด็กแว้นคนหนึ่งโพล่งขึ้น
“แข่งเลยๆๆ” เสียงเชียร์ที่ถูกยั่วยุดังตามมาติดๆ
รันสบตาหัวหน้าแก๊งเด็กแว้นพลางครุ่นคิด เขาเคยได้ยินมาบ้าง จากแก๊งเด็กแว้นคุยกัน หากใครมีโอกาสได้แข่งกับเชหัวหน้าเด็กแว้น และชนะก็จะได้เงินเดิมพันค่อนข้างสูง แล้วที่มากกว่านั้นยังจะได้รับการยอมรับจากแก๊งเด็กแว้นเสมือนหัวหน้าคนหนึ่ง แต่ถ้าเกิดใครแพ้ก็จะได้หายหน้าหน้าตาไปโดยไม่กล้ามาเหยียบสนามนี้อีกเลย
เหมือนรอน พี่ชายคนเดียวของเขา เด็กแว้นเล่าลือกันหนาหูหลังจากแข่งกับเชครั้งล่าสุด พี่รอนหายไปอย่างไร้ร่องรอย แววตาของรันเปล่งประกายเจ็บแค้นวูบนึ่ง ก่อนจะปรับให้เป็นปกติในฉับพลันเมื่อลูกน้องของมันที่ชื่อบอล
"หรือว่า นายจะเป็นพวกเสียงดุ บิดจริงๆ แปล๊กๆ ไม่มีแรงก็ได้วะ" บอลพูดเสียงดังตามด้วยเสียงหัวเราะร่วนของกองเชียร์
"แล้วฉันจะได้อะไร" รันสวนกลับ
ความเงียบเข้าแทรกฉับพลับ
เชเดินเข้าไปใกล้ถือวิสาสะโอบไหล่รันราวกับคุ้นเคยเป็นกัน
"เงินเดิมพันสองเท่า" เชตอบเสียงดังและโน้มตัวข้างหู "แลกกับ...นายไง" เสียงกระซิบกระซาบ
ทุกคนเงียบกริบพยายามเอี้ยวหูฟังแต่ก็ไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมมาให้ได้ยิน
รันสบตาอย่างไม่สะทกสะท้าน
ขณะที่ภาพในอดีตผุดขึ้น เขากับพี่รอนกำลังคุยกันถึงเรื่องการแข่งรถเมื่อถูกเชท้าประลองมาแล้วหลายครั้ง ขณะพี่รอนใช้มือบิดคันเร่งเบิ้ลเสียงรถเพื่อทดสอบความแรงของเครื่อง พี่รอนก็พูดแทรกเสียงดังของเครื่องขึ้น
“ความแรงของเครื่องอาจจะสูสี แต่ก็ต้องไปวัดกันในสนาม”
“แต่ด้วยฝีมือ ผมมั่นใจพี่รอนต้องชนะมันได้เหมือนทุกครั้ง” รันเน้นเสียง
“นายไม่ต้องห่วงพี่ ปีนี้เรียนปวช.ปีสุดท้ายแล้วสิ นายต้องตั้งใจเรียนเอ็นให้ติดวิศวเครื่องกลปีหน้า พี่กับแม่จะได้ภูมิใจ” รอนพูดอย่างชื่นชม
“แต่ผมภูมิใจในตัวพี่มากกว่า ได้ข่าวว่าเงินเดิมพันครั้งนี้สูงกว่าทุกครั้ง และมากพอที่จะพาแม่ ผมและน้องย้ายออกจากบ้านขุมนรกนี้ได้”
“ใช่ ถ้ามันไม่โกง มันก็ไม่สามารถชนะพี่ได้หรอกรัน ถึงเวลานั้นพวกเราจะได้พ้นจากนรกสักที” รอนเน้นเสียงพลางโอบไหล่น้องชายอย่างรักใคร่
ภาพนั้นเป็นครั้งสุดท้ายของสองพี่น้อง รันพยายามข่มใจไม่ให้ความอาฆาตแค้นที่กำลังพลุ่งมาทำลายความคาดหวังบางอย่างจากพวกมัน ก่อนจะรับคำ
"ตกลง"
เชแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์หันไปตะโกนบอกกล่าวใช้พรรคพวกรู้ว่า
"คืนนี้ท้องฟ้าปลอดโปร่งโว้ย " เชพูดเป็นนัยว่าวันนี้แข่งได้ไม่มีตำรวจคอยก่อกวน เสียงเชียร์จากแก๊งเด็กแว้นดังกระหึมขึ้น
ความคิดเห็น