ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    แว๊น แซ้บ ในคืนท้องฟ้าปลอดโปร่ง

    ลำดับตอนที่ #2 : ดาวจรัส

    • อัปเดตล่าสุด 15 ธ.ค. 58


    ตอนที่ 2  ดาวจรัส

    บ่ายวันต่อมา วินทร์ นักเรียนชั้นมัธยมปลายของโรงเรียนดังแห่งหนึ่ง กำลังเร่งฝีเท้าเพื่อไปให้ทันเวลานัดหมาย  วินทร์วิ่งออกจากโรงเรียนไปตามฟุตบาทขึ้นบันไดสะพานลอยข้ามไปอีกฟาก หากวิ่งต่อไปอีกเกือบสามป้ายรถเมล์ก็จะถึงจุดนัดหมายตรงเชิงสะพานข้างคลอง    

    แสงแดดเจิดจ้าในยามบ่ายคล้อย เป็นเวลาเลิกเรียนของวิทยาลัยช่างแห่งหนึ่งพอดี  วินทร์ได้กลิ่นไอของความตึงเครียด  ไม่จำเป็นนักเรียนมัธยมจะไม่ย่างกายเหยียบเข้ามาในถิ่นของนักเรียนช่างเด็ดขาด 

                หากเร่งฝีเท้าอีกหน่อยก็น่าจะถึงที่หมายเร็วขึ้น   เขาคิดด้วยความเร่งบวกกับความเร็วทำให้วินทร์ไม่ทันระวัง  ชนเข้าอย่างจังกับนักเรียนสวมเสื้อช็อปสีเข็มคนหนึ่งหน้าวิทยาลัยช่าง รูปร่างสูงไม่เกิน 180 พอกัน  เขาถูกแรงกระแทกจนก้นจ้ำเบ้าลงไปกองบนฟุตบาทอย่างงวยงง 

    วินทร์ไม่รีรอรีบแจ้นก่อนที่นักเรียนช่างคนนั้นจะเรียกเพื่อนๆ ซึ่งกำลังทยอยเดินออกมาช่วยรุมสกรัมเสียก่อนจะเอ่ยคำขอโทษขอโพย  นักเรียนช่างลุกขึ้น เพื่อนร่วมสถานบันก็พากันวิ่งมาถึงพอดี  ทว่าได้แต่ยืนมองเด็กขาสั้นเผ่นแนบไปไกลทุกขณะ พวกเขาจึงได้แต่พร้อมใจกันชี้นิ้วคาดโทษไว้ก่อน

    เมื่อพ้นจากเด็กช่างมาได้   เขาเห็นรถยนต์คุ้นตาคันหนึ่งจอดเลยสะพานข้ามคลองไปหน่อย  เขาไม่รีรอรีบเปิดประตูผลัวะเข้าไปนั่งข้างคนขับทันที

    “เล่นเอาซะหอบ”  วินทร์บ่มพึมพำ

    วิ่งหนีใครมา กฤษณ์ถาม   วินทร์เหลียวหลังมองไม่เห็นพวกเด็กช่างตามมาพลางถอนใจอย่างโล่งอก

    ไม่มีอะไรหรอกพี่กฤษณ์  รีบไปกันเถอะ  วินทร์พูดปนเสียงหอบ

                 ณ การประชุมของหน่วยสายลับพิเศษ

    "คดีนี้ไม่ใช่เด็กวัยรุ่นตีกันธรรมดา  เพราะมียาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เวลานี้อาจแพร่ระบาดเข้าไปในกลุ่มเด็กวัยรุ่นกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งก็ได้  เพื่อเร่งรัดกวาดล้างยาเสพติดพวกเราจำเป็นต้องอาศัยวินทร์ ผู้การอาชาอธิบายเสียงเข้ม     

    วินทร์ปรากฏตัวขึ้น เด็กหนุ่มวัย 17 ปี หน้าตาคมเข้ม แต่ผิวขาวชมพูราวกับลูกครึ่งเกาหลี สูงราวๆ 180 เซนติเมตร เขาเลือกนั่งตรงกลางโต๊ะประชุมยาว  ทุกคนสีหน้างุนงงไปชั่วขณะ

    วินทร์นักเรียนฉันมัธยมปีที่ 6 เกรดเฉลี่ย 4.00 คะแนน วินทร์ได้รับการฝึกมาอย่างดี ทั้งวิ่ง ว่ายน้ำ และการต่อสู้ จนได้ยูโดสายดำมาครอง และที่สำคัญยังเป็นหัวหน้าหน่วยสืบสวนทั้งภายในโรงเรียนและนอกโรงเรียน มีเครือข่ายที่ได้รับการฝึกอบรมจากเจ้าหน้าที่ของหน่วยรัฐโดยเฉพาะ  มีหน้าที่สอดแนมนักเรียนประพฤติผิดทางวินัยของโรงเรียน เช่น ยาเสพติด ซิดีลามก วีดิโอคลิก นักเรียนตีกัน นักเรียนค้าประเวณี รวมไปถึงคนนอกที่ใช้ให้เด็กขายยาเสพติดในโรงเรียน รวมคดีแล้ว วินทร์สามารถร่วมจับกุมคดีได้ 100 กว่าคดี มีประการณ์มากกว่า 3 ปี”   ผู้การอาชาอธิบายจบ

    สีหน้าทุกคนถึงกับทึ่ง

    แล้วทำไมต้องเป็นเด็กคนนี้ด้วย จ่าเสือดาวถามขึ้น

    เหยื่อส่วนใหญ่เป็นเด็กอายุ 15-18 ปี เราจะทำคดีเด็กวัยรุ่นก็ต้องใช้เด็กวัยรุ่น หรือพวกคุณจะปลอมตัวเป็นเด็กไปสืบเอง ผู้การอาชาพูดน้ำเสียงประชดประชัน

    จ่าเสือดาวกลืนน้ำลายเอื๊อก

    ถ้าเกิดอันตรายกับเด็ก! ใครจะรับผิดชอบ สารวัตรสิงหะพูดขึ้น

    คุณไม่ต้องกลัว นอกจากฝีมือการต่อสู้ไม่แพ้ใครแล้ว ยังมีเทคโนโลยีช่วยป้องกันตัวให้รอดได้ หรือก่อนพวกมันจะทำร้ายวินทร์ พวกเราก็เข้าถึงตัวก่อนพวกมันจะลงมือ กฤษณ์ฝ่ายเทคโนโลยีเอ่ยขึ้นเป็นครั้งแรก

    นี่คือผลตรวจเลือดที่มีสารยาเสพติดตัวใหม่   หัวกระสุนจากศพเด็กวัยรุ่นชายคนนั้น  และโทรศัพท์มือถือราคาแพงของผู้ตาย” ผู้การอาชาส่งรายงานทางการแพทย์ที่เพิ่งได้ให้วินทร์

    วินทร์อ่านผลเลือดจากแฟ้มรายงาน  พลางเบือนสายตาเพ่งมองหัวกระสุนที่ใส่ไว้ในถุงพลาสติก

    หัวกระสุน .11 มม.  วินทร์เอ่ยขึ้น

    คนร้ายน่าจะเป็นพวกวัยรุ่นตีกันมากกว่า จ่าเสือดาวสันนิฐานอย่างมั่นใจ

    ไม่น่าใช่! ปืนประเภทนี้มักใช้กันในกลุ่มพวกก่ออาชญากรรม วินทร์ตอบน้ำเสียงเรียบ 

    ใช่ ที่สำคัญ เด็กวัยรุ่นคนนี้ไม่ได้ตายด้วยกระสุน” กฤษณ์แทรกขึ้น

    ทุกคนหันมามองด้วยสีหน้าอย่างงุนงง

    “ศพเด็กวัยรุ่นคนนั้น เรายังตรวจเจอสารเสพติดชนิดออกฤทธิ์แรงและรวดเร็วกว่าสารเสพติดทั่วไป  เราต้องรับหาเบาะแสะอย่างรีบด่วน  เพราะคนที่ติดสารชนิดนี้จะมีผลต่อจิตใจอย่างรุนแรง และจะถูกโน้มน้าวง่าย แม้กระทั่งให้ฆ่าคน ส่วนใหญ่เราจะพบในสงคราม หากสารชนิดนี้หลุดออกไปได้! ผู้การอาชาหยุดพูด

    ทุกคนตกใจหันมามองผู้การอาชา

    ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง! ผลตรวจเลือดจากศพเด็กคนนั้นกำลังเตือนอะไรสักอย่างให้เรารู้ สารวัตรสิงหะเน้นเสียง

    หากเหยื่อที่พวกมันเลือกเป็นเด็กที่กำลังมีปัญหาอย่างรุนแรงล่ะ จ่าเสือดาวตั้งข้อสังเกต

    วินทร์ฟังถึงกับหน้าถอดสี

    “ผมได้ตรวจสอบหาข้อมูลการใช้โทรศัพท์ของผู้ตายพบว่าคนที่ติดต่อล่าสุดคือเชหัวหน้าแก๊งเด็กแว้น  และยังทำงานให้กับผับหรูแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว“ กฤษณ์ฝ่ายเทคโนโลยีเอ่ย

    “คนชื่อเชอาจเป็นกุญแจดอกสำคัญสาวไปถึงผู้ผลิตก็ได้ ถ้าเช่นนั้นใหัวินทร์ติดตามไม่ให้คาดสายตา“ ผู้การอาชา

    “ทำไมไม่ไปจับมันมาสอบสวนเดี๋ยวนี้เลยล่ะ“  จ่าเสือดาวโพล่งถาม

    “เราต้องการสาวไปถึงต้นตอตัวการใหญ่ หากทำแบบนั้นพวกมันจะไหวตัวทัน“ ผู้การอาชา

    แต่จะรอหลักฐานจากวินทร์ฝ่ายเดียว ผมว่าจะไม่ทันการ ยาชนิดนี้อาจระบาดไปทั่ว ถึงเวลานั้นตำรวจก็คงปราบไม่หวั่นไม่ไหว ! สารวัตรสิงหะแทรก

    “กลุ่มเสี่ยงก็อาจจะเป็นพวกเด็กแว้น ยาก็อาจจะระบาดมาทางนี้ได้“ จ่าเสือดาวขมวดคิ้ว

    “จ่าพูดถูก เวลานี้พวกเราทำได้ดีที่สุด ก็ต้องเร่งหาทางจับพวกเด็กแว้นแก๊งป่วนเมืองมาตรวจปัสสาวะสุ่มหาสารเสพติดชนิดนี้เพื่อสกัดไว้เสียก่อนที่จะระบาด”  ผู้การอาชาเน้นเสียง

    สายตาทุกคู่หันไปมองวินทร์ด้วยแววตาแห่งความหวังพร้อมกัน

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×