คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ดาวจรัส
ตอนที่ 2 ดาวจรัส
บ่ายวันต่อมา วินทร์ นักเรียนชั้นมัธยมปลายของโรงเรียนดังแห่งหนึ่ง กำลังเร่งฝีเท้าเพื่อไปให้ทันเวลานัดหมาย วินทร์วิ่งออกจากโรงเรียนไปตามฟุตบาทขึ้นบันไดสะพานลอยข้ามไปอีกฟาก หากวิ่งต่อไปอีกเกือบสามป้ายรถเมล์ก็จะถึงจุดนัดหมายตรงเชิงสะพานข้างคลอง
แสงแดดเจิดจ้าในยามบ่ายคล้อย เป็นเวลาเลิกเรียนของวิทยาลัยช่างแห่งหนึ่งพอดี วินทร์ได้กลิ่นไอของความตึงเครียด ไม่จำเป็นนักเรียนมัธยมจะไม่ย่างกายเหยียบเข้ามาในถิ่นของนักเรียนช่างเด็ดขาด
หากเร่งฝีเท้าอีกหน่อยก็น่าจะถึงที่หมายเร็วขึ้น เขาคิดด้วยความเร่งบวกกับความเร็วทำให้วินทร์ไม่ทันระวัง ชนเข้าอย่างจังกับนักเรียนสวมเสื้อช็อปสีเข็มคนหนึ่งหน้าวิทยาลัยช่าง รูปร่างสูงไม่เกิน 180 พอกัน เขาถูกแรงกระแทกจนก้นจ้ำเบ้าลงไปกองบนฟุตบาทอย่างงวยงง
วินทร์ไม่รีรอรีบแจ้นก่อนที่นักเรียนช่างคนนั้นจะเรียกเพื่อนๆ ซึ่งกำลังทยอยเดินออกมาช่วยรุมสกรัมเสียก่อนจะเอ่ยคำขอโทษขอโพย นักเรียนช่างลุกขึ้น เพื่อนร่วมสถานบันก็พากันวิ่งมาถึงพอดี ทว่าได้แต่ยืนมองเด็กขาสั้นเผ่นแนบไปไกลทุกขณะ พวกเขาจึงได้แต่พร้อมใจกันชี้นิ้วคาดโทษไว้ก่อน
เมื่อพ้นจากเด็กช่างมาได้ เขาเห็นรถยนต์คุ้นตาคันหนึ่งจอดเลยสะพานข้ามคลองไปหน่อย เขาไม่รีรอรีบเปิดประตูผลัวะเข้าไปนั่งข้างคนขับทันที
“เล่นเอาซะหอบ” วินทร์บ่มพึมพำ
“วิ่งหนีใครมา” กฤษณ์ถาม วินทร์เหลียวหลังมองไม่เห็นพวกเด็กช่างตามมาพลางถอนใจอย่างโล่งอก
“ไม่มีอะไรหรอกพี่กฤษณ์ รีบไปกันเถอะ” วินทร์พูดปนเสียงหอบ
ณ การประชุมของหน่วยสายลับพิเศษ
"คดีนี้ไม่ใช่เด็กวัยรุ่นตีกันธรรมดา เพราะมียาเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เวลานี้อาจแพร่ระบาดเข้าไปในกลุ่มเด็กวัยรุ่นกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งก็ได้ เพื่อเร่งรัดกวาดล้างยาเสพติดพวกเราจำเป็นต้องอาศัยวินทร์” ผู้การอาชาอธิบายเสียงเข้ม
วินทร์ปรากฏตัวขึ้น เด็กหนุ่มวัย 17 ปี หน้าตาคมเข้ม แต่ผิวขาวชมพูราวกับลูกครึ่งเกาหลี สูงราวๆ 180 เซนติเมตร เขาเลือกนั่งตรงกลางโต๊ะประชุมยาว ทุกคนสีหน้างุนงงไปชั่วขณะ
“วินทร์นักเรียนฉันมัธยมปีที่ 6 เกรดเฉลี่ย 4.00 คะแนน วินทร์ได้รับการฝึกมาอย่างดี ทั้งวิ่ง ว่ายน้ำ และการต่อสู้ จนได้ยูโดสายดำมาครอง และที่สำคัญยังเป็นหัวหน้าหน่วยสืบสวนทั้งภายในโรงเรียนและนอกโรงเรียน มีเครือข่ายที่ได้รับการฝึกอบรมจากเจ้าหน้าที่ของหน่วยรัฐโดยเฉพาะ มีหน้าที่สอดแนมนักเรียนประพฤติผิดทางวินัยของโรงเรียน เช่น ยาเสพติด ซิดีลามก วีดิโอคลิก นักเรียนตีกัน นักเรียนค้าประเวณี รวมไปถึงคนนอกที่ใช้ให้เด็กขายยาเสพติดในโรงเรียน รวมคดีแล้ว วินทร์สามารถร่วมจับกุมคดีได้ 100 กว่าคดี มีประการณ์มากกว่า 3 ปี” ผู้การอาชาอธิบายจบ
สีหน้าทุกคนถึงกับทึ่ง
“แล้วทำไมต้องเป็นเด็กคนนี้ด้วย” จ่าเสือดาวถามขึ้น
“เหยื่อส่วนใหญ่เป็นเด็กอายุ 15-18 ปี เราจะทำคดีเด็กวัยรุ่นก็ต้องใช้เด็กวัยรุ่น หรือพวกคุณจะปลอมตัวเป็นเด็กไปสืบเอง” ผู้การอาชาพูดน้ำเสียงประชดประชัน
จ่าเสือดาวกลืนน้ำลายเอื๊อก
“ถ้าเกิดอันตรายกับเด็ก! ใครจะรับผิดชอบ” สารวัตรสิงหะพูดขึ้น
“คุณไม่ต้องกลัว นอกจากฝีมือการต่อสู้ไม่แพ้ใครแล้ว ยังมีเทคโนโลยีช่วยป้องกันตัวให้รอดได้ หรือก่อนพวกมันจะทำร้ายวินทร์ พวกเราก็เข้าถึงตัวก่อนพวกมันจะลงมือ” กฤษณ์ฝ่ายเทคโนโลยีเอ่ยขึ้นเป็นครั้งแรก
“นี่คือผลตรวจเลือดที่มีสารยาเสพติดตัวใหม่ หัวกระสุนจากศพเด็กวัยรุ่นชายคนนั้น และโทรศัพท์มือถือราคาแพงของผู้ตาย” ผู้การอาชาส่งรายงานทางการแพทย์ที่เพิ่งได้ให้วินทร์
วินทร์อ่านผลเลือดจากแฟ้มรายงาน พลางเบือนสายตาเพ่งมองหัวกระสุนที่ใส่ไว้ในถุงพลาสติก
“หัวกระสุน .11 มม.” วินทร์เอ่ยขึ้น
“คนร้ายน่าจะเป็นพวกวัยรุ่นตีกันมากกว่า” จ่าเสือดาวสันนิฐานอย่างมั่นใจ
“ไม่น่าใช่! ปืนประเภทนี้มักใช้กันในกลุ่มพวกก่ออาชญากรรม” วินทร์ตอบน้ำเสียงเรียบ
“ใช่ ที่สำคัญ เด็กวัยรุ่นคนนี้ไม่ได้ตายด้วยกระสุน” กฤษณ์แทรกขึ้น
ทุกคนหันมามองด้วยสีหน้าอย่างงุนงง
“ศพเด็กวัยรุ่นคนนั้น เรายังตรวจเจอสารเสพติดชนิดออกฤทธิ์แรงและรวดเร็วกว่าสารเสพติดทั่วไป เราต้องรับหาเบาะแสะอย่างรีบด่วน เพราะคนที่ติดสารชนิดนี้จะมีผลต่อจิตใจอย่างรุนแรง และจะถูกโน้มน้าวง่าย แม้กระทั่งให้ฆ่าคน ส่วนใหญ่เราจะพบในสงคราม หากสารชนิดนี้หลุดออกไปได้! ” ผู้การอาชาหยุดพูด
ทุกคนตกใจหันมามองผู้การอาชา
“ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง! ผลตรวจเลือดจากศพเด็กคนนั้นกำลังเตือนอะไรสักอย่างให้เรารู้” สารวัตรสิงหะเน้นเสียง
“หากเหยื่อที่พวกมันเลือกเป็นเด็กที่กำลังมีปัญหาอย่างรุนแรงล่ะ” จ่าเสือดาวตั้งข้อสังเกต
วินทร์ฟังถึงกับหน้าถอดสี
“ผมได้ตรวจสอบหาข้อมูลการใช้โทรศัพท์ของผู้ตายพบว่าคนที่ติดต่อล่าสุดคือเชหัวหน้าแก๊งเด็กแว้น และยังทำงานให้กับผับหรูแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว“ กฤษณ์ฝ่ายเทคโนโลยีเอ่ย
“คนชื่อเชอาจเป็นกุญแจดอกสำคัญสาวไปถึงผู้ผลิตก็ได้ ถ้าเช่นนั้นใหัวินทร์ติดตามไม่ให้คาดสายตา“ ผู้การอาชา
“ทำไมไม่ไปจับมันมาสอบสวนเดี๋ยวนี้เลยล่ะ“ จ่าเสือดาวโพล่งถาม
“เราต้องการสาวไปถึงต้นตอตัวการใหญ่ หากทำแบบนั้นพวกมันจะไหวตัวทัน“ ผู้การอาชา
“แต่จะรอหลักฐานจากวินทร์ฝ่ายเดียว ผมว่าจะไม่ทันการ ยาชนิดนี้อาจระบาดไปทั่ว ถึงเวลานั้นตำรวจก็คงปราบไม่หวั่นไม่ไหว !” สารวัตรสิงหะแทรก
“กลุ่มเสี่ยงก็อาจจะเป็นพวกเด็กแว้น ยาก็อาจจะระบาดมาทางนี้ได้“ จ่าเสือดาวขมวดคิ้ว
“จ่าพูดถูก เวลานี้พวกเราทำได้ดีที่สุด ก็ต้องเร่งหาทางจับพวกเด็กแว้นแก๊งป่วนเมืองมาตรวจปัสสาวะสุ่มหาสารเสพติดชนิดนี้เพื่อสกัดไว้เสียก่อนที่จะระบาด” ผู้การอาชาเน้นเสียง
สายตาทุกคู่หันไปมองวินทร์ด้วยแววตาแห่งความหวังพร้อมกัน
ความคิดเห็น