พ่อเลี้ยงใจคด - พ่อเลี้ยงใจคด นิยาย พ่อเลี้ยงใจคด : Dek-D.com - Writer

    พ่อเลี้ยงใจคด

    จากคนปะยาง สู่ธุรกิจที่ใหญ่ จนคนเรียกเขาว่าพ่อเลี้ยง

    ผู้เข้าชมรวม

    85

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    2

    ผู้เข้าชมรวม


    85

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  20 ต.ค. 65 / 11:18 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

                                                     พ่อเลี้ยง.ใจคด

              คำภีร์ เป็นลูกศิษย์ที่ผมเคยสอน ในระยะแรกๆที่ผมเพิ่งมารับราชการครูใหม่ๆ  เขาเป็นคนลำปาง โดยกำเนิด  เอกลักษณ์ประจำตัวของเขา คือเป็นคนมีเสียงเล็กแหลมระดับการเรียนของเขาคือปานกลาง หลังสำเร็จการศึกษาระดับปวส.เขาได้พบรักกับสาวในหมู่บ้านแห่งหนึ่งใกล้กับสถาบัน ได้แต่งงานอยู่กินด้วยกัน จนมีลูก 2 คน วันหยุดเสาร์-อาทิตย์  หากผมไม่ได้เข้าเวียง  ผมมักจะมานั่งอ่านหนังสือพิมพ์ที่ร้านป้าแก้ว  บ่อยครั้งที่ผมเข้าไปในเมืองแล้วไม่อยากเดินทางเข้าบ้านพักในช่วงยามดึกจึงแวะค้างหอพักของนักศึกษาคือนายประวิทย์ ยามเช้าขณะที่ผมเดินทางออกจากหอ ของประวิทย์ เพื่อจะเข้าบ้านพักได้พบเห็นคำภีร์ได้ขี่จักรยานยนต์ มาที่กระท่อมเล็กๆ ด้านหน้าหอที่ประวิทย์พักอยู่ 

           "สวัสดีครับ อาจารย์ " คำภีร์ เป็นฝ่ายทักทาย

           "สวัสดี ภีร์ "ผมรับไหว้ และพูดตอบไป      

           "อาจารย์ มาทำอะไร  หรือครับ "

           "อ้อ ไปเที่ยวในเวียงมาเมื่อคืนเพื่อนมาส่ง เลยให้เขาจอดรถส่งแค่นี้ ดึกมาก เลยขอนอนค้างหอพักของนักศึกษา  มาทำอะไรแต่เช้าเหรอ "ผมตอบและมีคำถามออกไป

         "ผมมาเช่าสถานที่ เปิดร้านปะยางรถจักรยานและเปิดร้านซ่อมรถจักรยานครับ "

         "เป็นไงบ้าง กิจการ " 

         "เพิ่งเปิดร้านได้ไม่ถึงเดือน  คงรอดูสถานการณ์สักระยะครับ  "

         "ดีเหมือนกัน เปิดร้านปะยาง วันหน้าหากรถของผมยางรั่ว จะได้มาใช้บริการร้านของภีร์ "

         "ขอบคุณครับ  " 

         ที่ผ่านมา. เวลาเกิดปัญหายางรั่วหรือ รถเสีย ผมต้องจูงเดินไปปะยางที่ปากทางเข้าวัด   แต่หลังจากคำภีร์มาเปิดร้านซ่อมรถแถวนี้ ทำให้ผมสะดวกมากยิ่งขี้นกว่าแต่ก่อน

       " อดทนหน่อยนะ แรกๆคนยังไม่ค่อยรู้จัก ยังให้อาจารย์ขอให้กำลังใจ  "

          หากมีโอกาสได้ผ่านร้านของภีร์ซึ่งเป็นร้านเล็กๆ ที่เขามาเช่าจากเจ้าของหอพัก ในราคาไม่แพงนักผมมักจะแวะพูดคุยและแนะนำให้เขาเพิ่มและขยายกิจการ เท่าที่ผมทราบคำภีร์จะเปิด-ปิดร้าน ระหว่างเวลา 8.00- 17.30 น หลังจากนั้นเขาจึงกลับไปพักที่บ้านแฟนที่อยู่ไม่ไกลจากร้านเช่ามากนัก

        " ภีร์..อาจารย์ อยากเสนอแนะเราเพิ่มเติม เพื่อให้เรามีรายได้มากขึ้นนะ  "

         "ทำไงหรือครับ  อาจารย์ "

         "อาจารย์คิดว่า ทำเลที่ร้านของภีร์ ติดกับถนนใหญ่เราควรจะรับปะยางและรับซ่อมมอเตอร์ไซด์ พร้อมขายอะไหล่รถด้วยคงจะดีนะ "

         "ครับ  ผมก็คิดอยู่เหมือนกัน แต่ทุนไม่ค่อยจะมี  "

         "ค่อยเป็นค่อยไปก็ได้ "

          หลังจากที่ผมได้แนะนำคำภีร์ ได้สักสองสัปดาห์ ต่อมาภายหลังเมื่อผมผ่านร้านของเขาอีก ก็ได้เห็นป้ายเขียนข้อ ความเพิ่มเติมไว้ว่าที่นี่ .รับซ่อมปะยางรถจักรยาน -จักรยานยนต์   สิ่งนี้. ทำให้ผมรู้สึกพอใจที่ได้เห็นกับที่เขารับฟังคำแนะนำอันจะเป็นประโยชน์ต่อตัวเขาเอง

         ลูกค้าของคำภีร์มีมากขึ้นเรื่อยๆ หลายๆอย่างที่ผมพอมีประสบการณ์ ก็ได้แนะนำและตักเตือนเขา ซึ่งเขาก็รับฟังและได้ปฎิบัติตาม

         “บางสิ่งบางอย่างเราต้องยอมบ้างเช่นการมีกำไรลดน้อยลงแต่เราจะได้ลูกค้าเพิ่มขั้นอีกอาจารย์เคยไปเติมลมร้านปาก ทางเสด็จ เขาคิดล้อละ 50 สตางค์ (เงินห้าสิบสตางค์ เมื่อปี 25 -30  มีมูลค่ากว่าปัจจุบัน)  เรื่องนี้อยากให้คำภีร์ ขออย่าไปเลียนแบบและเห็นแก่เล็กแก่น้อยเหมือนกับร้านนั้น ขอให้มองว่า เราให้บริการลูกค้า เพื่อให้เขาประทับใจ จะดีกว่า”  

          "ครับ ผมจะนำมาใช้กับลูกค้า ครับ  "

          "อยากฝากเรื่องของการให้บริการ การพูดการจา การให้บริการกับลูกค้า ถือเป็นเรื่องสำคัญนะ เราจะชอบ ไม่ชอบลูกค้าคนนั้นคนนี้ไม่ได้ ขอให้ใช้ความอดทน เพราะปากต่อปากของลูกค้า จะส่งผลกระทบในด้านดี ด้านไม่ดีกับเราได้  "

          "ครับ  "

         ผมพยายามเอาใจช่วยให้ลูกศิษย์คนนี้ ได้ขยายกิจการให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งๆขึ้นไป เวลาที่ผมพบเจอเขา ก็ได้ทักทายกัน  คำภีร์ได้ปักหลักเป็นสมาชิกคนในพื้นที่ตำบลเดียวกันกับผม อีกสามปีต่อมา เขาได้มาเช่าอาคารห้องแถว ที่เคยเป็นที่ทำ การของหน่วยงานชั่วคราวของบริษัทแห่งหนึ่ง   ซึ่งต่อมาบริษัทแห่งนี้ ได้ย้ายไปอยู่ในเมือง  คำภีร์ขอเช่าในอัตราเดือนละสามพันบาท ผมได้ตามมาใช้บริการร้านของเขาไม่เคยขาด ลูกค้าที่เคยใช้บริการกับเขาก็ตามมาใช้บริการเหมือนเดิม

        "ภีร์. ร้านใหม่ ออกโอ่โถงใหญ่โต อาจารย์คิดว่า เราน่าจะขยายกิจการขายสินค้าอุปกรณ์ไฟฟ้าด้วยสิ  หากมีอะไรให้อาจารย์ช่วยได้ก็ยินดี…อาจารย์เป็นผู้ช่วยผู้จัดการ ร้านค้าสวัสดิการในวิทยาลัย วันนี้ต้องไปติดต่อกับร้านค้า ที่จำหน่ายเครื่องใช้อุปกรณ์บ่อยๆ ยังไงจะช่วยคุยให้  "

        "ขอบคุณครับ  "

         ไม่นานนัก คำภีร์ก็สามารถเปิดร้านปะยาง ขายอะไหล่รถ ขายรถจักยานยนต์ โดยเขาเป็นตัวแทนจำหน่ายรถจักรยาน ยนต์หลายยี่ห้อ นอกจากนั้นร้านของคำภีร์ยังรับซ่อมและจำหน่ายเครื่องยนต์ เครื่องสูบน้ำ รถตัดหญ้า ขายเครื่องใช้ไฟฟ้าอาทิพัดลม วิทยุ โทรทัศน์ฯลฯ ธุรกิจของเขาเจริญรุ่งเรือง มาตามลำดับ บ่อยๆครั้งผมไปปะยางไปซ่อมรถ ได้ช่วยอุดหนุน อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า บรรยากาศของความเป็นครูกับศิษย์ เป็นไปด้วยความราบรื่นด้วยดี คำภีร์ ได้สร้างฐานะของตน  จนมีสถานะที่ชาวบ้านต่างยกย่องให้เกียรติเขาเป็นพ่อเลี้ยง เป็นเพราะเขาหรือ ภริยาต้องเข้าไปทำบุญ  ร่วมเป็นเจ้าภาพในงานต่างๆอย่างสม่ำเสมอไม่ว่าจะเป็นงานขึ้นบ้านใหม่ งานบวช งานมงคลสมรส และงานศพทั้งในหมู่บ้านและต่างหมู่ บ้าน ทุกงานที่ผมไปร่วมงาน มักพบปะเขาเสมอและมีโอกาสได้นั่งคุยกัน  เท่าที่ผมดูมากว่าสิบปี.. เขากับภริยาได้กระทำอย่างจริงใจหาได้มีสิ่งแอบแฝงใดๆ ผมแอบชื่นชมในความมีน้ำใจของเขาอย่างมาก   

        ในช่วงวันสำคัญๆอาทิช่วงวันปีใหม่ วันสงกรานต์ เขาก็จะช่วยเหลือสนับสนุนเครื่องดื่ม อาหาร เงิน ให้กับผู้ใหญ่บ้าน  กำนันหรือหน่วยงานต่างๆเช่นโรงเรียน  วัด  หน่วยงานราชการอื่นๆ ช่วงปีใหม่เขายังได้ทำปฎิทิน เสื้อ ร่ม แจกลูกค้า  สิ่งเหลานี้เป็นเรื่องที่เขากับภริยาช่วยกันคิดเพื่อจูงใจและสมนาคุณแก่ลูกค้านับว่าเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมในด้านความคิด 

        ช่วงที่คำภีร์มาเช่าบ้านเพื่อประกอบกิจการร้านจำหน่ายเครื่องไฟฟ้าใหม่ๆ สถานที่ของร้านค้าดูออกจะไม่สวยงามนัก  เขาจึงต้องปรับปรุงร้าน ด้วยเงินลงทุนหลายแสนบาท เงินทุนที่เขาได้คือจากการกู้ยืมจากธนาคาร ความเสี่ยงของเขามีไม่ใช่น้อย ดอกเบี้ยที่จะต้องจ่ายต่อเดือนแทบชักหน้าไม่ถึงหลัง ผมเคยได้ยินเขาบ่นให้ฟัง เมื่อเจอกันในงานต่างๆกำลังใจคือทางเดียวที่จะให้กับเขาได้  

       “สู้ๆนะภีร์  ใครๆ ก็ต้องผ่านอุปสรรค อย่างนี้แหละ” 

        ดูเหมือน เขาสามารถผ่ายวิกฤตต่างๆ มาได้ด้วยดี จากบ้านที่เขาเคยเช่าในหนึ่งปี ก็แปรสภาพมาเป็นกรรมสิทธิ์      

        คำภีร์ จะมาเชิญผมกับเพื่อนใหม่ ที่อยู่ในหมู่บ้านให้ไปนั่งดื่ม นั่งคุยแลกเปลี่ยนพบปะสังสรรค์ เฉลี่ยเดือนละครั้ง แม้คำภีร์จะเป็นคนต่างถิ่นแต่เขาก็สามารถปรับตัวเองได้อย่างดี เป็นเพราะการเป็นคนมีน้ำใจ มีมนุษยสัมพันธ์ นั่นเอง ในสายตา  ผมได้มองเห็นถึงความทุ่มเท ความตั้งใจ ความฝันให้ไกลไปให้ถึงของเขา 

        “อาจารย์..ตามสบายเลยครับ นี่..จอห์นนี่ วอล์คเกอร์ ผมซื้อมาราคาเกือบห้าร้อยของแท้นะครับ ”คำภีร์  เอ่ยปาก

        " โอ้โห. เล่น เหล้านอกเลยนะ พ่อเลี้ยง " สมาชิกในวง  เอ่ยปาก 

        "อย่าว่าผมดัดจริตอะไรนะ พอดีผมคิดว่าเหล้านอกรสชาติมันนุ่มและมันกินง่ายกว่าเหล้าบ้านเราเยอะเหล้าแดง ที่เคยกิน พอสร่างเมาผมปวดหัวทุกที "คำภีร์ พูดออกตัว

        ผมเป็นแขกของเขาในวันแรกและช่วงหลัง จำต้องวางตนให้สุขุม รักษาเกียรติ ไม่ให้ดูจนน่าเกลียด  เมื่อลูกศิษย์เชิญมาก็มาตามมารยาทจนเมื่อได้เวลาพอสมควร จึงขอตัวกลับ คำภีร์ มักจะนั่งดื่มเหล้าพร้อมคลายเครียดด้วยการเล่นไพ่ดรัมมี่  สนุกๆกับเพื่อนๆที่สนิทเสมอ   

        "วันนี้ขาดขา อาจารย์ช่วยลงสนามแทนหน่อยครับ " คำภีร์ เอ่ยปากชักชวน

        “ก็ได้  เล่นแค่สนุกๆนะ ”ผมตอบ

        นอกจากผมจะได้มีโอกาสไปร้านของเขา  คำภีร์ก็ยังชวนผมไปเที่ยวยังบ้านเพื่อนๆของเขา อีกหลายแห่ง ธุรกิจของเขาดีวันดีคืน ระยะหลังร้านของเขายังเปิดธุรกิจรับจำนำ จำนอง ทรัพย์สิ่งของ ขายประกัน และรับต่อภาษีรถประเภทต่างๆ  ผมเริ่มห่างเหินจากเขาด้วยภาระหน้าที่ ต้องช่วยงานราชการของจังหวัด และต้องมาเป็นคนทำหนังสือพิมพ์ จึงไม่มีเวลาสรวลเสเฮฮา ดังก่อน     

        "ภีร์ ดูแลรถของอาจารย์ ให้ด้วยนะ ไม่รู้รถเป็นไร สตาร์ทไม่ติด " 

        "ทิ้งไว้นี่นะครับ เดี๋ยวผมให้ลูกน้องดูแลให้ อีกสักสองวัน คงซ่อมเสร็จ  ไงอาจารย์ค่อยมาเอารถนะครับ  "

        "ได้สิ "

        เมื่อถึงวันกำหนดที่ผม ต้องมาเอารถ จึงเดินไปที่โต๊ะทำงานของเขา เมื่อไม่พบเขาจึงได้สอบถามเจ้าหน้าที่ประจำร้าน

       "ผมมาเอารถนะ  คำภีร์ไปไหนเหรอ  "

       "ไปประชุมที่โรงพัก พอดีเขาเป็นกรรมการของสถานีตำรวจ "

       "อ้อ .ว่าแต่ ค่าซ่อมรถนี่ เท่าไหร่ "

       "สามร้อยห้าสิบ "

       "โห แพงจัง  "

       "นี่บิล  ค่ะ มันเปลี่ยนอุปกรณ์หลายตัวเลย ลองเช็คดูในใบเสร็จ ก็ได้  "

       "เค .ไม่ว่ากัน สามร้อยห้าสิบ ก็สามร้อยห้าสิบ"ผมจ่ายเงินค่าซ่อมพร้อมพึมพำไปตามประสา ที่ไม่เคยเจอราคาค่าซ่อมที่แสนจะแพงมาก่อน

         นับแต่วันนั้นมา  ผมดูเหมือนจะเกิดความรู้สึกในทางลบ กับร้านซ่อมรถแห่งนี้ ....

         "อาจารย์รู้มั้ย ช่างภีร์ นี่แกฉลาด แกเลี้ยงเหล้าพวกเรา แต่เวลาซ่อมรถเสร็จ แกก็ชาร์ตราคาพวกเราเพิ่มอีกไม่รู้เท่าไหร่   ผมเคยซ่อมเครื่องตัดหญ้าเปลี่ยนอะไหล่ตัวสองตัว แต่เขาเขียนใบเสร็จเปลี่ยนเป็นเกือบสิบตัว  "

         "ก็เพิ่งรู้ วันนี้นะแหละ ที่พูดมาน่ะ.จริงเหรอ  "

         "จริงสิครับ ใครๆเขาก็พูดกันว่าช่างภีร์ ปากหวาน แต่ค่าซ่อมบานเบอะ "

          "เอ. เขาไม่น่าจะทำอย่างนี้เลยนะ เสียลูกค้าหมด  "

         "ใครๆต่างก็ชมว่า พ่อเลี้ยงภีร์ปากหวานกันทั่วบ้านทั่วเมือง   เอาใจลูกค้า หาน้ำมาเสริฟ ยกเก้าอี้มาให้นั่ง ผมไปที่ร้านนี้ทุกครั้งเคลิ้มกับคารม เคลิ้มไปกับคำพูดของแก ดังถูกมนต์สะกด  "

         "ผมเริ่มจะเห็นด้วยแล้วนะ ขนาดผมเป็นอาจารย์ของเขาแท้ๆ เขายังไม่ละเว้น ชาร์ตเงินได้เป็นชาร์ต   "

        เสียงลือเสียงเล่าอ้างมีถี่ขึ้นว่ าร้านของคำภีร์ชอบเอารัดเอาเปรียบลูกค้าหนาหูยิ่งขึ้น ลูกค้าหน้าเก่า เริ่มหดหาย คงมีแต่ลูกค้าหน้าใหม่ที่ไม่รู้ถึงพฤติกรรมหน้าซื่อใจคด จริงๆแล้ว ผมอยากอุดหนุนและใช้บริการของเขา แต่เมื่อต้องมาเจอกับการรัดเอาเปรียบที่มากเกินไป จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนร้านเพื่อปะยางและซ่อม   ผมหยุดใช้บริการของเขาเป็นปีๆ แต่มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ต้องเร่งรีบจึงจำเป็นต้องเข้าใช้บริการเขาอีกรอบ

         "อาจารย์สบายดีนะครับ จะเกษียณหรือยังครับ รถเป็นอะไรครับ "

         "สบายดี รถยางรั่วเกษียณ แล้วล่ะ "

         "นั่งรอสักครู่ครับ เดี๋ยวจะสั่งให้ลูกน้องปะยางให้ครับ "

           ขณะนั่งรอผมได้คุยเรื่องทั่วๆไปกับเขา พอจะทราบว่าธุรกิจที่ร้าน เขายกให้ลูกๆกับภริยาดูแล ส่วนตัวเขาไปทำงานด้านการเกษตรเป็นหลักๆ 

          "ผมปลูกทุเรียน มะม่วง ลำไยและเพาะกล้าไผ่หวาน จำหน่ายครับ "

          "เป็นไงบ้าง จับงานด้านนี้  "

         "ดีครับ เป็นอิสระ เหนื่อยเหมือนกัน "

         " ปะยางรถของอาจารย์เสร็จแล้ว ช่วยเติมลมและเป่าฝุ่นทำความสะอาดให้ด้วย "เขาตะโกนสั่งให้ลูกน้องช่วยดูแล 

          สิบนาทีต่อมา รถของผมที่เคยมีฝุ่นตกค้างในอุปกรณ์ต่างๆในรถ  จึงดูสะอาดตามากขึ้น ในใจผมพลางนึกถึงราคาค่าบริการที่เขาต้องบวกเพิ่ม รวมกับค่าปะยางอย่างน้อยครั้งนี้ต้อง50 บาทเป็นอย่างน้อย  ผมพยายามทำใจไว้ล่วงหน้า และเตรียมควักเงินที่จะจ่ายให้เขา

       "ค่าบริการรวมทั้งหมดเท่าไหร่ ภีร์ "

      "ค่าปะยาง แผลเดียว 20 บาทครับ "

      "รวมค่าทำความสะอาดรถ อีกเท่าไหร่  "

      "ฟรีครับ "

       "(เป็นไปได้ไง  ) ผมคิดในใจ 

       หลังจากที่ผมจ่ายเงินค่าปะยางแล้ว จึงขอตัวกลับ..พลางคิดถึงภาพเก่าๆว่าร้านนี้ แต่ก่อนเคยขูดเลือดกับลูกค้า  แต่พอเปลี่ยนมาสู่ยุครุ่นลูก โดยให้ลูกๆบริหาร ทุกอย่างย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามสมัย หลังจากวันนั้นแล้ว ภาพลักษณ์เก่าๆ ที่ผมเคยมองว่าร้านนี้เอารัดเอาเปรียบลูกค้าจึงเปลี่ยนไปในทางบวก ระยะหลังที่รถผมมีปัญหา จึงมาใช้บริการตลอด  ผมได้มาใช้บริการยุคปฎิรูปใหม่ไม่เคยขาด จากความคุ้นเคยกันมา ตั้งแต่ที่เขาเพิ่งจบการศึกษามาใหม่ๆ  พ่อเลี้ยงคำภีร์.ที่ชาวบ้านเรียกขาน คงยังมีน้ำใจช่วยเหลือชาวบ้านดังเดิม ..แต่ในส่วนของ  ความโปร่งใส และความซื่อกับลูกค้า  ผมยังมองว่าภาพลักษณ์น่าจะยัง ไม่ดีขึ้น  

       ครั้งหลังสุด รถจักรยานยนต์ของผม เกิดอาการร้อนมากตรงเครื่องยนต์ น้ำมันจะไหลเยิ้มออกมาผมได้ปรึกษากับคนที่มีประสบการณ์ด้านช่าง เขาแนะนำให้ผมไปบอกช่างซ่อมรถว่า ขอให้แค่เปลี่ยนคาร์บูเรเตอร์ และแหวนบางตัว  เมื่อผมนำรถไปที่ร้านแล้ว ก็ได้บอกกับภริยาของคำภีร์

     “ช่วย เปลี่ยนคาร์บูเรเตอร์ ให้ด้วย ”

      "อาจารย์กลับไปก่อน  ถ้ามีการเปลี่ยนอะไหล่ จะโทรแจ้งให้ทราบ " ภริยาของคำภีร์  บอกผม 

      "นี่ เบอร์โทรของผมนะ อย่าลืมนะครับ ช่วยโทรบอกผมก่อน จะเปลี่ยนอะไหล่รถ" ผมเน้นย้ำเขา 

       สามวันต่อมา/// ผมได้รับโทรศัพท์จากภริยาของคำภีร์ ที่ได้โทรให้ผมไปรับรถ เนื่องจากซ่อมเสร็จแล้ว ผมจึงถามเรื่องราคา เพื่อจะได้เตรียมเงินไปชำระ

       "ค่าซ่อมเท่าไหร่ครับ " ผมสอบถาม

       "เจ็ดร้อยห้าสิบห้าบาท "ปลายสายตอบมา

       " หา  ว่าไงนะ "ผมอุทานด้วยความตกใจและงงงวย

        “เจ็ดร้อยห้าสิบห้า”ปลายสายยังกล่าวยืนยันราคาเดิม

         "ทำไมแพงจัง "ผมบ่นให้เขาได้ยิน

         "เปลี่ยนอะไหล่ หลายตัวของแท้ๆ ทั้งนั้น "เขาพูด

         "ก็ผมบอกแล้วไง ว่าเวลาจะทำอะไรจะเปลี่ยนอุปกรณ์อะไหล่ ต้องโทรมาหาและบอกผมก่อนว่ าจะอนุญาตให้เปลี่ยนหรือเปล่า" ผมพูดกับเขา

         "หนูขอโทษค่ะอาจารย์ เดี๋ยวหนูลดราคาให้ " เขาพูดขอความเห็นใจ

        ผมออกจากบ้านมาจ่ายเงิน พกความหงุดหงิด ที่ถูกทางร้านเอาเปรียบดังเดิม   ในใจผม// ได้สัญญากับตนเองว่า นับแต่นี้เป็นต้นไป. หากรถผมยางรั่วหรือรถเกิดปัญหาใดๆอีก  ผมจะไม่ยอมไปเหยียบร้านของพ่อเลี้ยงภีร์อีกอย่างแน่นอน.

        อะไรๆ. มันก็เกิดขึ้นได้ ผมออกจะผิดหวังในตัวคำภีร์อย่างมาก ไม่เคยคิดเลยว่าเขาจะเปลี่ยนแปลงตัวตน เป็นคนเห็นแก่ได้ ละโมบมองแต่ความร่ำรวย ดูเหมือนคนในครอบครัวเขา จะมีพฤติกรรมเดียวกัน คือปากหวานก้นเปรี้ยว หน้าซื่อ  ใจคด.. ดูเหมือนเขากำลังบ่มเพาะลูกไม้ให้เดินตามรอยพ่อได้ อย่างไม่ผิดเพี้ยน..

        "นี่ครับเงินค่าซ่อมรถ "ผมจ่ายเงินให้เขาไป 760 บาท 

       "หนูลดให้อาจารย์ 5 บาทค่ะ "เขาพูดพลางหยิบเหรียญ 10 บาท ยื่นมาให้ผม

       "ไม่ต้องลดราคาให้ผมหรอก จริงๆร้านต้องทอนให้ผม 5 บาท ผมยกให้เลยจะได้ไม่ต้องเป็นบุญคุณกัน

       หลังจากผมจ่ายเงินแล้ว ผมได้ต่อว่าเขาและอบรมเรื่องจรรยาบรรณ ให้ครู่หนึ่ง

        "ทางร้านคุณ เป็นอย่างนี้ตลอด  ใครๆก็พูดถึงเรื่องการกระทำในด้านการเอารัดเอาเปรียบลูกค้า นี่ขนาดผมยังโดนกับตัวเองมา ไม่รู่้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง  ผมอยากฝากข้อคิดไว้สั้นๆว่า  คำว่า ซื่อกินไม่หมด คนกินไม่นาน ยังเป็นคาถา ที่ใช้ได้ตลอดกาล "

         ภริยาของภีร์ ทำตาปริบๆ ไม่ได้โต้ตอบใดๆ จริงๆแล้วหากเขาทำตามที่ได้ตกลงกันไว้ ตั้งแต่เบื้องต้น

                                       ผมจะไม่ว่าอะไรเลย สักคำ และจากนี้ไป

                                    .ผมสัญญาว่า    ผมจะไม่ขอเหยียบร้านนี้อีกต่อไป 

                                                      ขลุ่ย  บ้านข่อย

                                                         ๒๐  ตุลาคม  ๒๕๖๕)

     

     

     

     

     

      " 

     

     

     

       

     

     

         

     

     

     

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      คำนิยมล่าสุด

      ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

      ความคิดเห็น

      ×