หมา ผี - หมา ผี นิยาย หมา ผี : Dek-D.com - Writer

    หมา ผี

    ผมต้องสะดุ้ง เมื่อได้พบกับหมาตัวใหญ่มาก...มันมองมา ด้วยท่าทางน่ากลัว

    ผู้เข้าชมรวม

    97

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    97

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  3 ต.ค. 65 / 13:57 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

                                                   หมา..  ผี

     เรื่องราวนี้ เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงๆ นอกจากผมจะได้ประสบและสัมผัสกับตนเองถึงสามครั้งแล้ว  ยังมีคนที่สัญจรอยู่บนถนนเส้นทางนี้(ลำปาง -เชียงราย) ไม่ว่าจะเป็นโชเฟอร์ขับรถสองแถว คนขับรถบรรทุกพ่วง  ขับรถบรรทุกน้ำมัน แม่ค้าขายผักชื่อจุก เพื่อนบ้านที่พักในหมู่บ้านเดียวกันกับผม ซึ่งเธอต้องออกไปซื้อผักสดๆในเมืองมาขาย  โดยทุกๆวัน เธอจะเอารถจักรยานยนต์พ่วงข้างขี่ออกจากบ้านประมาณ 1 ทุ่ม  และต้องต้องรอรถผักที่มาจากเชียงใหม่และลำพูน กว่าจะหาซื้อผักได้ครบถ้วนก็ปาไปสี่ทุ่มเศษ กว่าจะได้กลับเข้ามาและถึงบ้านก็อยู่ในห้วงเวลาประมาณห้าทุ่มถึงสองยาม 

    จุกเป็นภริยาของ พี่บริบูรณ์ เพื่อนต่างหน่วยงาน.. ที่ผมกับเขารู้จักกัน เพราะผู้ใหญ่บ้านแนะนำให้รู้จัก  แม้อายุของผมจะแก่กว่าเขาสองปี แต่ผมก็ติดปากเรียกเขาว่าพี่บูรณ์ ตลอดเวลา..พี่บูรณ์ เป็นพนักงานขับรถให้หน่วยงานราชการ ที่ศาลากลาง เป็นคนอารมณ์ดี สุภาพ ผู้บังคับบัญชารักใคร่ บ้านของเขาอยู่ห่างจากผมไปไม่ไกลนัก  แรกที่รู้จักกันใหม่ๆผมกับเขามีโอกาสได้พบปะดื่มสุรากันบ้างตามประสา พูดได้ว่าชาวบ้าน ที่ผมมองว่าเป็นคนดีเสมอต้นเสมอปลาย คงหนีไม่พ้นเขา พี่บูรณ์เป็นคนขยัน หากมีเวลา วันเสาร์- อาทิตย์ เขาจะไปรับจ้างขับรถตู้โดยสาร ระหว่างจังหวัดลำปาง- น่าน ครอบครัวของเขาที่ผมได้สัมผัสดูอบอุ่น  เขาและภริยามีบุตรสาวสามคน

               ****************************************************************

                      ในวันทำบุญตานก๋วยสลาก ..ซึ่งผมได้พบพี่บูรณ์ที่ตลาดโดยบังเอิญ

    “ อาจารย์  เดี๋ยวแวะที่บ้านผมสักหน่อยนะ พอดีแม่บ้านผม ทำอาหารไว้มากมายเลย ตั้งใจจะไปชวนอาจารย์ที่บ้าน แต่โชคดีที่มาเจอกันที่ตลาดก่อน เลยไม่ต้องแวะไปหาแล้วล่ะ ” พี่บูรณ์พูด

    “จัดเลี้ยงอะไร เป็นพิเศษเหรอพี่ ”ผมพูด

    “ไม่หรอกครับ พอดีแม่บ้านทำอาหารไปทำบุญเมื่อเช้า และได้ทำเผื่อไว้ จะได้ชวนเพื่อนๆ มานั่งดื่มสังสรรค์กันตอนเย็น เพียงแค่นั้นเอง ”พี่บูรณ์ พูด

    “ครับ เดี๋ยวจะตามไปทีหลังนะ ” ผมพูด

    ผมแวะกลับไปที่บ้าน บอกกับแม่บ้านว่า จะแวะมาที่บ้านพี่บูรณ์ จะได้เธอไม่ห่วง  จากนั้นจึงขับรถมาท่ี่บ้านพี่ บูรณ์ ไม่ถึงสองนาทีรถก็มาถึง

    “จอดไว้ตรงนั้นเลยครับ..อาจารย์”  พี่บูรณ์ พูด

    สมาชิกในวงสุรา มี 6 คน ส่วนใหญ่เป็นคนคุ้นๆ กัน เวลาผ่านมา สามสิบนาที… ในวงสนทนาได้คุยเรื่องทั่วๆ ไปตามที่นึกอยากพูด จนมาถึงตอหนึ่งที่ผมคุยเรื่องประเพณีทางเหนือ ที่มีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลแก่ผู้ล่วงลับ  สมาชิกแต่และคน ก็ได้คุยเรื่องประสบการณ์ การพบกับสิ่งลี้ลับในรูปแบบต่างๆ ช่วงหนึ่งพี่จุกได้ขอเล่าเรื่องประสบการณ์ที่เธอพบให้สมาชิกในวงฟัง

    “คืนวันหนึ่ง ในขณะที่ฉันขับรถกลับจากตลาด หลังจากได้ผักมาแล้ว พอมาถึงบริเวณหลักกิโลเมตรเยื้องๆ ปั๊ม ปตท. ฉันก็ต้องตกใจ จนเกือบช็อก เพราะเห็นหมาตัวเบ่อเริ่มเทิ่ม ดำสนิทจนแทบมองไม่เห็น  นัยตามันมีสีเขียวเข้มเป็นประกาย ยืนจังก้าบริเวณนั้น มันกำลังจะเดินข้ามถนน ฉันต้องใช้เท้าเหยียบเบรคอย่างกระทันหัน มันชะงัก.กับที่ "พี่จุกพูด 

                   เธอ..นิ่งไปสักครู่ แล้วบอกเล่าต่อไปอีกว่า 

    “ฉันต้องเบี่ยงหน้ารถออกไปทางด้านขวา เพราะกลัวจะชนมัน.. เมื่อขับรถเลยไปสักนิดได้หยุดรถ แล้วหันกลับมา มามองมัน ปรากฎว่าไม่เจออะไรเลย ฉันว่ามันแปลกนะ ทั้งๆที่มีรถยนต์ขับตามหลังและเปิดไฟสว่างโล่.”พี่จุกพูด

     “พี่ตาฝาด หรือเปล่า”ผมพูด       

               แกยืนยันแบบจริงจังถึงขั้นสาบาน

    “ไม่มีทาง ตาจะฝาดอย่าง แน่นอน .ทุกครั้งที่ฉันขับรถมาถึงทางเข้าวัดช้างเผือก ก็ต้องกัดฟันและข่มความกลัว โดยพยายามไม่มอง ต้องรีบบิดคันเร่ง ขับรถผ่านไปให้เร็วที่สุด”พี่จุกพูด 

    “หมาฝรั่งพันธุ์ อัลเซเชี้ยน หรือเปล่า แถวๆนั้น ผมเคยเห็นมีคนเลี้ยงอยู่นะ”ผมพูด

    “ไม่ใช่เด็ดขาด ฉันเคยเห็น.ฉันรู้ นี่มันไม่ใช่พันธุ์อัลเซเชี่ยน  ฉันเข้าใจว่าต้องเป็นหมาผีแน่ๆ "พี่จุกพู

    สามีของพี่จุกคือพี่บูรณ์ ซึ่งเป็นพนักงานขับรถให้หัวหน้าพัฒนาการจังหวัด จะกลับเข้ามาบ้านของเขา มักเป็นเวลาที่ไม่แน่นอน หากเจ้านายต้องออกต่างจังหวัด กว่าตัวเขาจะกลับเข้าบ้านได้ ก็ดึกๆดื่นๆ  เมื่อพี่จุกเปิดฉากเล่าเรื่องถึงตอนเจอหมาก็เข้าล๊อค .เพราะเขาก็เคยเจอกับหมาผีตัวนี้ หลายครั้ง  แต่ไม่ได้เอะใจว่ามันเป็นหมาชาวบ้านหรือหมาอะไรกันแน่

    “อาจารย์เชื่อมั้ย ผมนี่นะ..จังงัง ขนลูกซู่ไปหมด มันยืนนิ่ง ตรงหลักกิโล ตาเขียวปัด  มองมาที่รถมอเตอร์ไซด์ของผม อย่างไม่สะทกสท้าน  ผมมองไป ตัวมันใหญ่มากจริงๆตั้งแต่เกิดมา ผมไม่เคยเห็นหมาตัวไหนใหญ่เท่านี้เลย”

    “อ้าว แล้วพี่บูรณ์ ไม่เอารถตู้มาเหรอคืนนั้น   ”ผมพูด

    “ไม่หรอก..วันนั้นผมขี่รถเครื่องกลับมาบ้าน ผมเข้าใจว่ามันคงไม่ใช่หมาธรรมดาแน่ๆ ”

    “อ้าว….แล้วมันเป็นหมาอะไรล่ะ ”ผมถาม

    “คงเป็นหมาผี มั๊ง” พี่บูรณ์ตอบ

               หมาตัวนี้ ยังเป็นที่เคลือบแคลงใจ ของคนฟังในวงสุรา และอยากหาคำตอบให้ชัดเจน

     นี่คือสองเหตุการณ์ ที่คนในครอบครัวเดียวกัน เจอกับหมาผีแบบจะๆ แต่ต่างเวลา ในที่สุดพี่บูรณ์สามีของพี่จุก จึงขอร้องให้เมีย เลิกขายผัก เพราะเกรงจะเป็นอันตรายหาก ตกใจที่ต้องขับรถหนีมัน แล้วมาทำไร่สับปะรดแทน  แม้พี่จุกจะทำไร่จะเหนื่อยจะร้อน แต่มันไม่เสี่ยงกับที่อาจจบชีวิตเพราะอุบัติเหตุ..ที่อาจเกิดขึ้นไม่วันใดก็วันหนึ่ง 

            ********************************************************************

     ต้องบอกว่า.ในรัศมีตรงนี้ สถิติการเกิดอุบัติเหตุ  จนทำให้มีการเสียชีวิตมีอัตรา ค่อนข้างสูงเฉลี่ยเดือนละ  2 ศพ และนี่ก็เพิ่งเกิดขึ้น.เมื่อช่วงเวลา 23.น.เศษของวันที่13 กรกฎาคมที่ผ่านมา..ทำให้นักศึกษาต้องจบชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุ..โดยไม่ทราบสาเหตุ.ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา   จริงๆแล้ว อุบัติเหตุ.. มันเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา  แต่ ณ ตรงจุดนี้ มันมักจะเกิดช่วงระหว่าง 23.00 น.ถึงช่วงเวลา 02.00น.ของอีกวันเสมอ นี่คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญกระมัง

                                  *************************************

    ขอย้อนกลับไป ในขณะที่ผมกำลังศึกษาต่อในระดับปริญญาโทของมหาวิทยาลัยของรัฐ ที่มีนโยบายขยายการศึกษามายังส่วนภูมิภาค ผมได้เข้ามาเรียนเป็นรุ่นที่ 2  รุ่นแรกที่เปิดสอนส่วนใหญ่จะมีข้าราชการเข้ามาศึกษามีตั้งแต่ระดับปลัดจังหวัด นายอำเภอ รองผู้กำกับ สารวัตร นายทหารระดับสัญญาบัตร มีตั้งแต่ยศร้อยตรีจนถึงยศพันเอก ข้าราชการทุกกระทรวงที่หวังในโอกาสที่จะได้รับความก้าวหน้าต่างมาเรียนเพื่อปรับวุฒิให้สูงขึ้น ทุกคนจึงสมัครเข้ามาเรียน  รุ่นของผม มีผู้เข้าศึกษาประมาณ120 คน ..ทุกคนที่มาศึกษาส่วนใหญ่เป็นข้าราชการมาจากจังหวัดภาคเหนือ นับแต่จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่  ลำพูน แม่ฮ่องสอน แพร่ น่าน นครสวรรค์ พิษณุโลก พิจิตร  สำหรับบุคลากรที่เข้าศึกษาในภาคเอกชน และรัฐวิสาหกิจมี พนักงานธนาคาร ผู้จัดการประปาส่วนภูมิภาค พนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิต 

    ผู้ที่เข้าศึกษาจะต้องเรียนสามวัน คือวันศุกร์ระหว่างเวลา18.00-21.00 นและวันเสาร์ อาทิตย์ เริ่มเรียน 8.-00 น-  16.00น.ในจำนวนผู้เข้าเรียนทั้งหมด มีผมกับน้องอีกคนหนึ่งที่ทำงานแบงค์ ต้องใช้จักรยานยนต์ เป็นพาหนะมาเรียน  นอกนั้นเขาใช้รถยนต์กัน  ด้วยเพราะผมตั้งใจจะมาเรียนเพื่อปรับวุฒิและเพื่อเพิ่มพูนความรู้ให้สูงขึ้น  จึงไม่ใส่ใจกับเรื่องยานพาหนะกับหัวโขนต่างๆ คิดอย่างเดียวคือต้องเรียนให้จบในระยะเวลาที่เขากำหนด  เฉพาะวันศุกร์เท่านั้น ที่ผมต้องขี่จักรยนต์กลับถึงบ้านค่ำมาก ระยะทางจากบ้านไปสถานศึกษาที่เรียนมีระยะทาง 22 กิโลเมตร ไปกลับก็ 44 กม. และเส้นทางนี้ จะต้องผ่านหลักกิโลเมตรที่ 717 (ลำปาง –เชียงราย)  แม้ผมจะเคยบอกกับตัวเองว่า “ผมไม่กลัวผี “  แต่พอผ่านตรงจุดนี้ ก็ออกจะหวั่นไหวอยู่บ้าง..หนึ่งปี  ที่ผ่านมาก็เป็นปกติดี ไม่เจอกับสิ่งใดๆให้ขบคิด

    .แต่.ในที่สุด  สิ่งที่ผมต้องประสบก็เกิดขึ้นจนได้.. เมื่อผมเรียนชั้นปีสุดท้าย หลังเลิกเรียนในคืนเดือนมืดคืนนั้น….  ประมาณเดือนธันวาคมช่วงหน้าหนาวที่มีอากาศเย็นยะเยือก    ผมต้องใส่เสื้อผ้าหนาๆหลายชั้นรวมทั้งต้องใส่ถุงมือกันหนาว  คืนนี้ผมต้องกลับบ้านดึกกว่าทุกครั้ง เพราะต้องไปช่วยเพื่อนๆในกลุ่มทำรายงานกันในเมือง  เวลาในขณะนั้นประมาณห้าทุ่มกว่า เพื่อนร่วมชั้นเรียนที่เป็นสารวัตรตำรวจ ได้ห่วงใยผม จึงอาสจะขับรถมาส่งผมที่บ้าน 

    “เดี๋ยวจอดรถไว้ที่โรงเรียนก่อน. พรุ่งนี้ค่อยมาเอาก็ได้นะ ”เพื่อนนายตำรวจพูด ผมขอบคุณเขาและปฎิเสธที่จะให้เขามาส่ง           

    “ขอเป็นครั้งหน้าก็แล้วกันครับ ”ผมพูด

    จากนั้นผมจึงขอตัวกลุ่มเพื่อนๆที่ทำงานกลุ่มร่วมกัน เดินทางกลับมาบ้าน ด้วยความเร็วของรถประมาณไม่เกิน  40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ง่วงก็ง่วง แต่ก็ข่มตาและตั้งสติอยู่ตลอด. ครั้นมาถึงหลักกิโลเมตร717  ตรงทางเข้าวัดช้างเผือก พลันต้องทำให้ตาสว่าง เมื่อสายตาต้องประสบกับนัยน์ตาสัตว์ ที่มีแสงสะท้อนให้รู้..ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร นึกว่า เป็นหมา แถวๆนั้น ที่กำลังจะข้ามถนนธรรมดาๆ แต่พอเข้าไปใกล้อีกนิด ผมก็ต้องตกใจ เพราะได้เห็นหมาไทยสีดำสนิทตัวใหญ่กว่าแอลเซเชียนเสียอีก..       

     "อุวะ  หมาอะไร วะเนี่ยะ  “ ผมอุทานขึ้น.. 

     มันมองมาที่ผม ด้วยสายตาดุดันดูทีท่ามันไม่ได้กลัวเราเลยสักนิด ผมต้องบิดคันเร่งให้เร็วขึ้น  เพราะกลัวมันจะกระโจน ใส่.. ช่วงนี้ ผมต้องบิดคันเร่งหนีให้ไกลจากตัวมันให้มากที่สุด .ครั้นเลยมาสัก10 เมตร ผมหันหลังกลับไปอีกครั้ง ก็ไม่รู้มันหายไปไหน ผมนี่ขนลุกไปทั้งตัว.. ขณะขับรถใกล้จะถึงบ้าน ก็คิดในใจว่า..หมาผีหลอกกู  เสียแล้ว.. เมื่อถึงบ้านก็อาบน้ำ พักผ่อน พยายามลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน

     แต่แล้วอีกสัปดาห์ต่อมา.. ผมไปนั่งกินขนมเส้น(ขนมจีน) ที่ร้านค้ามุงหญ้าคา ริมถนนทางหลวง ในขณะที่ผมกำลังจะเล่าเรื่องหมาผี ที่ได้พบ..ให้แม่ค้าขนมจีนฟัง ยังไม่ทันไร.. พี่สาวของแม่ค้าขนมจีนก็พูดแทรกด้วยภาษาไทยปนเหนือ    

    “อาจารย์..ไปเจอมัน ตรงหลักกิโลเมตร 717ทางเข้าวัดช้างเผิอก แม่นก่อ “เธอพูด   

    “ใช่. รู้ได้ไง "ผมพูด แทนที่ผมจะเป็นคนบอกเล่าในสิ่งที่ผมเจอ ผมกลับต้องมาเป็นคนฟังแทน  เธอได้เปิดฉาก เล่าเรื่องโดยทันทีว่าช่วงที่เธอเป็นพนักงานขายของในห้างใหญ่ในเมือง จะเลิกงานประมาณสี่ทุ่ม และต้องขี่จักรยาน ยนต์ กลับบ้านคนเดียวต้องผ่านบริเวณนี้อย่างเลี่ยงไม่ได้  เดือนมืดของคืนหนึ่่งเมื่อเธอขี่จักรยานยนต์  มาถึงบริเวณดังกล่าว เธอต้องตกใจจนเกือบช็อค เพราะได้เห็นหมาดำตัวใหญ่มหึมา ยืนหน้าเชิดและมองมาที่เธอ.. นัยน์ตามันสีเขียวเป็นประกาย ดูน่ากลัว     

    “ฉันเป็นผู้หญิง มาคนเดียว..ใครเล่าจะไม่กลัว พอตั้งสติได้.ฉันต้องบิดคันเร่งหนีมัน จนใกล้ปั้มน้ำมัน ที่มีแสงสว่างเพียงพอ แล้วจึงค่อยชะลอ.ความเร็ว ” เธอพูด ด้วยอาการตื่นเต้น

    “ผมก็เจอแบบเดียวกันนี้เลย แสดงว่าคนทางบ้านเรา ก็เจอเหมือนๆ กันเลยนะ  ” ผมพูด 

    วันถัดมา. ฉันต้องไปบอกกับผู้จัดการ ว่าขอเปลี่ยนกะทำงาน ขอเป็นทำงานช่วงเช้าแทน. ผู้จัดการ ก็ยินยอมให้เปลี่ยน.” เธอพูด

    ขอชื่นชมผู้จัดการ ที่เข้าใจปัญหาและห่วงใย ด้านความปลอดภัยของพนักงาน.. นี่คือเหตุการณ์ ที่เหลือเชื่อ    ว่า.ทำไมผมกับเขา และชาวบ้านอีกหลายคน จึงได้มาเจอกับเหตุการณ์กับหมาผีตัวนั้น.เหมือนกัน..  เรื่องนี้..ใครไม่เจอไม่รู้..ครับ ที่ผมบอกเล่ามา .จึงเป็นวิจารณญาณของแต่ละคน  

       จากวันนั้นถึงวันนี้.  จะมีใครพบเหตุการณ์ดังกล่าว อีกบ้างหรือไม่   ผมไม่.แน่ใจ

                                               ขลุ่ย  บ้านข่อย   

                                               (๓  -๑๐ - ๖๕)

           

       

     

    นิยายแฟร์ 2024
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×