สวยแต่รูป
สาวสวยแต่รูป แต่จิตใจหาได้ งดงามไม่
ผู้เข้าชมรวม
63
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
สวยแต่รูป
บัวคำ.ในวัยสาวเป็นสาวที่มีรูปงาม หน้าตาสวยหวานไม่แพ้ดาราไทย ผิวขาว วัยขณะนั้นของเธอประมาณยี่สิบเศษๆ เธอเป็นแม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวและขนมหวาน ที่ตลาดบ้านห้วยยางนา ผมมีโอกาสมาเป็นลูกค้าของเธอ และเป็นลูกค้าประจำในภายหลัง ร้านค้าที่จะขายอาหารเพื่อฝากท้องช่วงเวลานั้นหาได้ยากมาก ร้านค้าที่ใกล้ที่ทำงานที่สุด มีแถวๆข้างวัด คือร้านอาหารตามสั่งของนายน้อย ไกลไปอีกนิดคือร้านก๋วยเตี๋ยวข้างโรงเรียนปงวัง ร้านจำหน่ายข้าวแกงที่ผมไปประกินประจำคือร้านพี่นงค์ภริยาของคนทำงานชลประทาน
"อาจารย์ขลุ่ยเที่ยงนี้ เราไปหาข้าวกินกันนะ "เพื่อนร่วมงานที่ทำงานมาก่อนชักชวน
"ที่ไหนดี ครับ "
"ข้างตลาด บ้านห้วยยางนา "
"ได้ครับใกล้ๆเที่ยง ผมจะไปรอที่โรงเก็บรถ "
เมื่อถึงเวลาเที่ยงวัน ผมได้เดินออกจากห้องพักทำงาน แล้วมารอเพื่อนร่วมงาน จากนั้นเราจึงขี่จักรยานยนต์ มุ่งหน้าไปร้านอาหารข้างตลาด..สิบนาที ต่อมาเราจึงมาถึงร้าน
"ขลุ่ย กินอะไรดี " เพื่อนร่วมงานรุ่นพี่ถาม
"อะไรก็ได้ครับ สั่งเหมือนๆกันไปเลย จะได้เสร็จเร็วๆ "ผมตอบ
"งั้นก๋วยเตี๋ยวเนื้อเปื่อยลูกชิ้น ดีมั้ย" เพื่อนร่วมงาน เสนอความเห็น
"ครับตามนี้เลย "
เป็นครั้งแรก..ที่ผมได้มาลองชิมฝืมือการปรุงรสชาติก๋วยเตี๋ยวร้านนี้ โครงสร้างของร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งนี้ส่วนใหญ่ทำจากไม้ไผ่หลังคามุงหญ้าคา ที่ด้านข้างร้านมีต้นมะขามต้นใหญ่ช่วยเสริมร่มเงาได้อีกชั้นหนึ่ง. ลมในเดือนพฤศจิกายน พัดจนใบมะขามกวัดแกว่งไปมา ในร้านค้าที่ผมมองเข้าไปได้พบหญิงสาว ผิวขาว หน้าตาสวย ร่างท้วม กำลังขยุ้มหยิบเส้นก๋วยเตี๋ยวใส่กระชอนลวดด้ามไม้ แล้วใส่ลงเขย่าในหม้อก๋วยเตี๋ยวที่น้ำกำลังเดือด จากนั้นเธอก็ทำให้เส้นสะเด็ดน้ำ แล้วเทลงในชามตราไก่ จัดการลวกถั่วงอกตามมาภายหลัง ทำการใส่เครื่องเคียงต่างๆลงเพิ่ม แล้วเธอก็นำมาเสริฟให้ลูกค้า เราสองคนได้สั่งก๋วยเตี๋ยวน้ำเนื้อเปื่อย ลูกชิ้น
"เสร็จแล้วเจ๊า จ๋าน " เธอพูดภาษาเหนือที่เป็นภาษาท้องถิ่น พร้อมนำก๋วยเตี๋ยวมาเสริฟให้
"เอานี่.จารย์ขลุ่ย ปรุงรสตามใจชอบเลย "เพื่อนร่วมงาน หยิบกระเช้าเครื่องปรุง ที่เป็นชุด ส่งมาให้
" ขอบคุณครับ " ผมพูด
ผมเอื้อมมือจับชามก๋วยเตี๋ยว มาวางไว้ด้านหน้าพร้อมปรุงรสตามใจปากตนเอง ขณะกินสายตาก็มองที่แม่ค้า.เป็นระยะๆ (แม่ค้าคนนี้สวยมากเลย ) ผมคิดในใจ เพียงแค่เดือนแรกที่มาทำงานที่ลำปางก็ได้พบช้างเผือก. .โดยบังเอิญ ยอมรับว่า แม่ค้าคนนี้สวยถูกใจมาก
"ของหวาน บ๊อ .. จ๋าน "แม่ค้าพูด
"ก็ได้ สองถ้วยเลย ครับ " เพิ่อนร่วมงาน ตอบแม่ค้า หลังกินทั้งของคาว ของหวาน เสร็จ เพื่อนร่วมงาน ก็รับเป็นเจ้ามือชำระเงินเสียเอง จากนั้นเราจึงเดินทางกลับมาที่ทำงาน
***********************************
. ผมมาทราบภายหลังว่า แม่ค้าก๋วยเตี๋ยวคนนี้ ชื่อบัวคำ ยอมรับว่าแม่ค้าคนนี้สวยมาก . ทำให้อาจารย์หนุ่มๆ ภายในที่ทำงานของผมหลายคนหวั่นไหวและดูเหมือนอยากจะจีบเธอเป็นภริยาเสียด้วย เมื่อผมเริ่มคุ้นและชินกับแม่ค้าคนนี้แล้ว จึงพยายามสืบสาวราวเรื่องจากชาวบ้านแถวนั้นว่า บัวคำเป็นลูกเต้าเหล่าใคร และมีสถานะอย่างไร จึงทราบโดยแจ้งชัดว่า เธอมีครอบครัวแล้วและเพิ่งคลอดลูกสาวได้เพียงหกเดือน
"ไม่อยากจะเชื่อเลยนะว่าบัวคำจะมีสามีและลูกแล้ว น่าเสียดายจัง "อ.สุรเชษฐ์ พูด
"ใช่..น่าเสียดายมากๆ นี่หากเธอประกวดนางงามลำปาง รับรองว่าต้องได้เป็นตำแหน่งเทพี แน่ๆ " ผมพูดเสริม
ขณะที่ผมกับอ.สุรเชษฐ์ นั่งกินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านแห่งนี้ พลางวิพากษ์วิจารย์แม่ค้าคนสวย
“รู้จักกันช้าไปนิดนึง ไม่งั้นผมจีบเธอแน่ๆ " อาจารย์สุรเชษฐ์พูด
“ตอนนี้ ก็ยังจีบได้ นี่ ” ผมพูด
“ไม่.เอาหรอก ”อาจารย์สุรเชษฐ์พูด ช่วงเวลาที่เราพูดคุยกันนั้น ผมกับอาจารย์สุรเชษฐ์ ยังไม่ทราบว่าบัวคำกับสามีของเธอเริ่มห่างเหินกันแล้ว
*************************************************************
ช่วงบัวคำ ไปทำงานที่จังหวัดนครปฐม จนเธอได้สามี และได้ลูกสาวคนแรก จึงได้กลับมาอยู่ลำปางบ้านเกิด เพื่อขายก๋วยเตี๋ยว แรกๆที่บัวคำกลับมาอยู่ลำปางใหม่ๆ สามีของเธอ ยังกลับมาเยี่ยมลูกบ้าง.. แต่หลังจากนั้นไปไม่นานเขาก็ไม่เคยกลับมาหาทั้งภริยาและลูกอีกเลย จนวันนี้. บัวคำต้องจ้างยายข้างๆบ้านเลี้ยงลูกสาวที่กำลังแบเบาะ ส่วนเธอก็ทำมาค้าขายก๋วยเตี๋ยวและขนมหวานนานาชนิด นอกจากหน้าตา เป็นตัวดึงดูดลูกค้าแล้ว ความช่างพูดช่างเอาใจ ก็เป็นเสน่ห์ให้ลูกค้าเข้ามาอุดหนุนได้ไม่น้อย วันๆหลังจากเก็บ(ปิด)ร้านแล้ว รายได้ที่คิดหักลบกลบหนี้ไม่น้อยเลย เธอฟูมฟักเลี้ยงดูลูกสาวอย่างดียิ่ง ..มิได้ทำให้ลูกเกิดปมด้อยแม้แต่น้อย
หลังจากที่ผมทำงานได้ระยะหนึ่ง ทุกๆช่วงเลิกงาน ผมจะมานั่่งอ่านหนังสือพิมพ์ พร้อมสั่งขนมหวานกิน ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ มื้อเที่ยง ผมจะมากินก๋วยเตี๋ยว พร้อมรออ่านหนังสือพิมพ์ ที่มีรถประจำมาส่งให้ทางร้าน เวลาเดียวกันนี้มีพนักงานขับรถกรมทางหลวง มานั่งจีบเธอทุกๆ วัน และในที่สุดทั้งคู่ก็ได้แต่งงานกัน และก็นับเป็นโชคดีของบัวคำและลูกสาวที่ได้สามีและพ่อเลี้ยง ที่มีจิตใจอันประเสริฐยิ่ง
สามีใหม่ของบัวคำชื่อ วินัย เป็นพนักงานขับรถของกรมทางหลวง ผมรู้จักและเริ่มคุ้นเคยกับเขา ตั้งแต่เห็นมานั่งจีบบัวคำทุกๆ เย็นหลังเลิกงานทั้งคู่ดูใจกันเป็นปีๆ และได้อยู่กินกันจนมีบุตรชายหนึ่งคน วินัยเป็นคนขยัน รักลูกรักเมีย อย่างมาก ผมสนิทกับเขาจนสามารถเข้านอกออกใน ในบ้านของเขาได้ ดังกับบ้านของตนเอง ทุกๆเย็นๆ เขาจะแวะมาหาและมารับผมไปนั่งดื่มสุราเป็นเพื่อน เป็นเพระเขาเป็นคนชอบฟังเพลง สามสี่ปีที่ผมกับเขารู้จักกัน และมีความสนิทแนบแน่นมากขึ้นๆ แม้บัวคำจะสวยมากๆ แต่ผมก็ไม่เคยคิด ที่จะรักหรือชอบเธอเลยสักนิด .ผมมองเธอเหมือนเพื่อนและเหมือนน้องสาวมากกว่า พูดถึงในเวลานั้นที่วินัยมาจีบบัวคำ ดูเขาค่อนข้างจะหวั่นไหว เพราะเกรงว่าผมจะเป็นคู่แข่งคนสำคัญ ผมบอกเขาอย่างตรงไปตรงมาว่า การที่ผมมาที่ร้านบัวคำผมเพียงแค่ต้องการมานั่งอ่านหนังสือพิมพ์เท่านั้น นี่จึงทำให้เขาสบายใจ และกลายมาเป็นที่ดีต่อกัน
เงินเดือนทุกเดือนที่วินัยได้รับ เขาจะมอบให้บัวคำสามในสี่ส่วนจะเก็บไว้ใช้เองเพียงหนึ่งส่วน จากที่ผมสัมผัสกับครอบครัวนี้เห็นได้ว่าทั้งสามีและภริยามอบความรักและรักกันอย่างมั่นคงและอบอุ่นจุ๊บแจง ลูกของสามีคนก่อน วินัยได้รักเหมือนลูกในไส้ หวงแหนและรักใคร่ ทะนุถนอมไม่แพ้ลูกตนเอง วินวินลูกชายของวินัยที่เกิดจากบัวคำในวัยเด็ก น่าตาดี แต่ด้วยสภาพแวดล้อมที่ในละแวกบ้านมีแต่เด็กผู้หญิง วินวินจึงมีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศ กลายเป็นเด็กตุ้งติ้ง และเป็นคนรักสวยรักงาม สุดจะทัดทานให้เป็นไปดังธรรมชาติตามสูติบัตรกำหนดเพศเกิดไว้
ผมเริ่มรู้สึกไม่ค่อยจะชอบนิสัยของบัวคำมากขึ้นตามลำดับ นับแต่ที่เธอนำเรื่องของผม ไปบอกเล่าให้กับแม่ค้า และลูกค้าคนอื่นๆฟังว่าผม ชอบชวนสามีเขาไปเที่ยวจนดึกๆ ดื่นๆ และยังชอบชวนสามีเขาเล่นการพนัน.ทั้งๆที่ตัวผม ไม่ชอบการเล่นพนันเลยสักนิด นี่คือการทำลายชื่อเสียง และสร้างความเสื่อมเสียให้กับตัวผม จนผมต้องไปพูดกับเธอที่ร้านเพื่อเคลียร์ปัญหาต่อหน้าสามีเธอเอง
"บัวคำ ลองถามวินัยเองซิว่า.. ทุกครั้งที่ไปดื่มเหล้า หรือไปโน่นไปนี่กันใครเป็นคนชวนใครกันแน่ " ผมพูดในขณะที่วินัย สามีของเธอ กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์
“ฉันเองแหละ เป็นคนชวนอาจารย์ โดยตลอด ก็ฉันไม่รู้จะชวนใครไปนี่ ”วินัยพูด
"ได้ยินชัดหรือยัง บัวคำ เธอไปพูดกับคนอื่นๆ ให้ผมเสียหายอย่างนี้..แย่นะ " ผมพูด
"โทษฉันนี่ จะไปโทษอาจารย์ เขาทำไม ฉันเป็นฝ่ายผิดเอง พอๆ. จบเถอะ "วินัยพูด
"จากนี้ไป หากวินัยมาชวนผมที่บ้าน ผมก็จะไม่ไปกับเขาอีก โดยเด็ดขาด "ผมพูด
ผมพูดต่อหน้ากับบุคคลทั้งสองและจากนั้นมา ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งนี้ผมก็ไม่ไปเหยียบอีกเลย
**********************************************************************************
สองปีต่อมาผมมาทราบว่า ทั้งคู่ระหองระแหง ทะเลาะเบาะแว้งไม่เว้นแต่ละวัน วินัยต้องไปเช่าบ้านอยู่ในเมือง ทั้งคู่แยกกันอยู่ แต่ไม่ถึงกับหย่าขาดจากการเป็นสามี ภริยา..
วินวินเริ่มโตเป็นหนุ่ม. ขณะที่พ่อกับแม่ต้องอยู่กันคนละแห่ง แม่ก็เอาแต่สนุกสนาน ฮาเฮ.จากที่เคยก๋วยเตี๋ยวอย่างเดียว และเมื่อขาดรายได้จากสามี ก็เลยรับงานขายหวยใต้ดินที่ไม่เหนื่อยมากแต่มีรายได้เป็นกอบเป็นกำ ในที่สุดบัวคำ จึงหยุดกิจการร้านก๋วยเตี๋ยว วินวินขาดพ่อ ที่จะให้คำแนะนำปรึกษาในทุกๆด้าน เมื่อเขาเรียนจบชั้นปวช. จากวิทยาลัยแห่งหนึ่งไม่รู้จะไปปรึกษาเรื่องอนาคตของตนอย่างไร จึงได้มาขอพบผมที่บ้าน
"อา ครับ ...ผมขอรบกวนเวลาของอาหน่อย .."วินนิน พูด
"วิน จะให้ช่วยเหลืออะไรเหรอ " ผมพูด
"ผมจบปวชแล้ว ได้ข่าวว่าที่มหาวิทยาลัย จะเปิดรับนศ ใหม่ ผมจึงอยากขอคำแนะนำว่า ระหว่างสาขาการท่องเที่ยวกับสาขาการจัดการ ผมควรจะเลือกเรียนสาขาไหนดี "วินวินพูด
ผมได้ให้ข้อแนะวินวิน จนชัดแจ้ง ..วินวิน ได้ตัดสินใจที่จะเลือกเรียนสาขาการท่องเที่ยว และเขาก็สามารถเรียนจบในสาขาที่ตัดสินใจเรียน วันนี้ผมทราบข่าวว่า เขาทำงานในจังหวัดลำปาง.และมีโครงการจะแปลงเพศดังที่เขาฝันไว้
ชีวิตบัวคำ สาวรูปงาม.แต่ใจเสื่อมทรามได้เกิดเรื่องฉาว เมื่อมีประเด็นข่าวไปแย่งสามี เพื่อนรักในวัยสาว จนเกิดการตบตีกัน และวันนี้เพื่อนที่เคยรักใคร่ก็กลายเป็นไม้เบื่อไม้เมาที่ชาวบ้านคอยระวังว่า หากทั้งสองมาเจอกันในงานมงคล อวะมงคลของหมู่บ้าน คงจะเกิดศึกตบตีกันในงานอีก
*****************************************************************************
บัวคำ..ในวันนี้ .เที่ยวตะลอนๆ ร่อนเร่ หาเงินแบบง่ายๆ ผู้ชายคนไหนฐานะดี มีเงินให้ใช้ เธอก็จะสนิทสนม เพื่อแลกกับวัตถุเงินตรา เมื่อเขาหมดเงินเธอก็เปลี่ยนตัวบุคคลไปเรื่อยๆ ไม่น่าเชื่อ.จริงๆเลยว่าคนบางคนสวยแต่รูป.แต่จูบไม่หอม.. ครอบครัวที่เคยอบอุ่นคือสามี ภริยาและลูกอีกสองในอดีต ต้องอยู่กันคนละทิศละทางจุ๊บแจง ลูกสาวต้องเปลี่ยนสภาพเพศเป็นทอม ส่วนวินวินต้องมีเพศ สภาพเป็น ผู้หญิง..
ใครจะเป็นอะไร ฉันไม่สนใจ. ขอให้ฉันมีความสุข สนุกไปวันๆ บัวคำ คงคิดได้แค่นี้....กระมัง
ก่อนหน้าเมื่อปีที่แล้ว ช่วงแม่ของบัวคำเสียชีวิต ผมได้พบกับพระวินัย ซึ่งครองในสมณเพศ ท่านมาร่วมงานศพ อดีตแม่ยาย..ผมไม่ได้มีโอกาสได้พูดคุยสอบถามสารทุกข์สุกดิบ
“หลวงพี่ บวชนานแล้วหรือครับ ผมไม่เจอกับหลวงพี่มาเกือบ 5 ปีแล้ว ”ผมถาม
“หลังจาก อาตมาเออรี่จากงานก็เข้าวัดอุปสมบทเลย ”พระวินัยพูด
“บวชได้กี่พรรษาแล้ว ครับ ”ผมถาม
“6 พรรษา ”พระวินัยตอบ
“เร็วจังครับ ”
เมื่อถึงช่วงพิธีกรรมทางศาสนา ผมจึงยุติการพูดคุยกับทางพระ…. เมื่อเสร็จการสวดพระอภิธรรมแล้ว ท่านจึงเดินทางกลับไปวัดในเมือง
ท่านนิ่ง สุขุม สงบ ร่มเย็น ทราบข่าวจากคนใกล้ชิดว่า ท่านคงจะครองผ้าเหลือง ตลอดไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่.
ฝ่ายชาย..อยู่ในร่มกาสาวพัตร์ ที่สงบร่มเย็น ส่วนฝ่ายหญิงอยู่ในโลกียสุขที่ร้อนบรรลัย
น้ำกับไฟ ..เย็นกับร้อน เลือกเอาตามใจชอบ.นะ บัวคำ
ขลุ่ย บ้านข่อย
๑ ตค ๖๕
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ ขลุ่ย บ้านข่อย ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ขลุ่ย บ้านข่อย
ความคิดเห็น