นาง..ผู้โชคร้าย - นาง..ผู้โชคร้าย นิยาย นาง..ผู้โชคร้าย : Dek-D.com - Writer

    นาง..ผู้โชคร้าย

    เป็นเหตุการณ์ในอดีต ที่สตรีคนหนึ่งตายทั้งกลม และมาปรากฎกายให้เห็นเนืองๆ

    ผู้เข้าชมรวม

    85

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    85

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  23 ก.ย. 65 / 15:51 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

     

                                                         นาง.. ผู้โชคร้าย

          ในเขตเทศบาลตำบล …..ประมาณปี 2510  ณ ห้องแถวที่คนอรัญเรียกกันว่าตลาดใน  นางไหมที่คนทั่วไปรู้จักกันดีมีอายุเพียงประมาณสี่สิบปี เธอเป็นแม่ของเพื่อนผมเอง สามีของเธอคือนายโซ๊ยตี๋  เป็นคนไทยเชื้อสายจีนประกอบ อาชีพ ค้าขายจำพวกน้ำอัดลมโบราณ ที่เป็นน้ำสีต่างๆเช่น สีแดงเขียว ส้ม เหลือง ม่วง ดำ แล้วอัดแก๊ส(โซดา) ใส่น้ำแข็งบดก้อนเล็กๆ ให้มันมีรสชาติแบบน้ำอัดลมที่ขายในท้องตลาดในปัจจุบัน นางไหมมีลูกกับนายโซ้ยตี๋แล้วสามคน คนเล็กสุดอายุ 6  ขวบ และปัจจุบันเธอกำลังตั้งครรภ์ลูกคนที่ 4 ซึ่งอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าก็จะครบกำหนดคลอด โดยปกติทุกๆวัน นางไหมจะออกไปช่วยสามีขายน้ำซาสี่ ที่ตลาดข้างคิวรถอำเภอตาพระยาและวัฒนานคร เมื่อครรภ์ของภริยาแก่ และใกล้กำหนดคลอดนายโซ๊ยตี๋ จึงให้ภริยาหยุดพักผ่อนอยู่กับบ้าน 

       “ลื้ออยู่บ้านเถอะ อีกไม่กี่สัปดาห์  ก็จะคลอดแล้ว  ” นายโซ๊ยตี๋ บอกภริยาด้วยเพราะ ความห่วงใยและหวังดี

      “อั้ว รู้ตัวดี ไม่ต้องห่วงหรอก” นางไหมพูด

                          (เธอพูด เนื่องจากมีประสบการณ์ในการคลอดลูกมาแล้วสามคน)

      “ ลื้อ.ชื่ออั้วเถอะ  อั้วขายคนเดียวก็ได้ ”นายโซ๊ยตี๋ พูด

       สมัยที่ผมยังเด็ก..ในวันเสาร์ อาทิตย์  ผมจะเป็นลูกค้าประจำ สั่งน้ำซาสี่มากินเสมอ ที่เมืองอรัญฯจะมีน้ำอัดลมแบบโบราณเพียงเจ้าเดียว ต่อมา. มีแป้ะก่วยได้มาลอกเลียนแบบและกลายเป็นคู่แข่งขันแย่งลูกค้ากันในที่สุด

          * *************************************************************************************** 

      เมื่อยุคเมื่อ50 ปีก่อน การฝากครรภ์อาจจะยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมกันมากนัก การคลอดลูกของผู้หญิงไทยในชนบท ส่วนมาก ยังต้องพึ่งพาหมอตำแย ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าคนในยุคปัจจุบันพอจะคุ้นๆ  หรือเคยได้ยินหรือเปล่า เพื่อเสริมความรู้สักเล็กน้อย ขออธิบายความหมายโดยอ้างอิงจาก พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒  คำว่า ตำแย ก็คือคำที่ใช้เรียกหญิงผู้ทําคลอดตามแผนโบราณ  การคลอดของสุภาพสตรี ไม่ว่าจะยุคไหนก็มีความเสี่ยงจนถึงขั้นเป็นอันตรายแก่ชีวิตได้ 

      ทุกๆคนในบ้านของนายโซ๊ยตี๋ต่างรอวันที่จะมีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้น.  สายของวันหนึ่งขณะที่ลูกของเขาไปโรงเรียนเพื่อเรียน หนังสือ  ตัวของเขาได้เข็นรถไปขายน้ำอัดลมโบราณเช่นปกติทุกวัน จู่ๆนางไหมซึ่งอยู่บ้านคนเดียวตามลำพัง  ก็เกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรง..  ชาวบ้านแถวนั้น ต่างก็ออกไปประกอบอาชีพค้าขายกันหมด จึงไม่มีใครที่จะเข้าไปช่วยเหลือ นางไหมได้ หมอตำแยที่นัดว่าจะมาดูแลเธอในวันนี้ก็เกิดต้องติดธุระต้องไปทำคลอดต่างตำบล นางไหมจึงต้องช่วยเหลือตนเองตามมีตามเกิด  

      “ใครอยู่แถวนี้ ช่วยฉันด้วย  ฉันปวดท้อง” นางไหม ร้องขอความช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครได้ยิน

        และในที่สุดเธอก็หมดลมหายใจ ตรงห้องนอน  จนเที่ยงวัน…เมื่อนายโซ๊ยตี๋ สามีของเธอกลับมากินข้าวและพักผ่อนเหมือนเช่นทุกวัน เมื่อจอดรถเข็นแล้วก็เดินเข้าไปในบ้าน ..ไม่ทันไรเขาก็ต้องตกตะลึง  เมื่อเห็นข้าวของ กระจัดกระจาย  ทั้งยังมีรอยเลือดไหลนองพื้น มองไปตรงริมห้อง เห็นภริยานอนพิงฝาหมดสติ  นายโซ๊ยตี๋พยายามเข้าไปปฐมพยาบาล และคลำชีพจรดู…แต่ทุกอย่างมันสายไปเสียแล้ว.  ปรากฎว่านางไหมสิ้นชีวิตไปแล้ว..นายโซ๊ยตี๋ร่ำไห้ปานใจจะขาด ปากพร่ำบ่น  ดังคนเสียสติว่า 

       “ทำไมอั๊ว จึงไม่อยู่ดูแลลื้อ ”  เขาพร่ำพรรณา วนเวียนไปมา   ..ดูน่าสงสาร 

        ครู่ต่อมา ลูกๆที่ไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนก็กลับมาบ้าน เมื่ออยู่กันครบทั้งครอบครัวเสียงร่ำไห้ ยิ่งดังมากขึ้น  เป็นที่น่าเวทนาสงสารยิ่งนัก เพื่อนบ้านพอรู้ข่าวก็เข้ามาช่วยกันปลอบใจ และหาทางช่วยเหลือเพื่อเตรียมจัดงานศพให้  ตามความเชื่อของคนโบราญ คือหากหญิงท้องได้เสียชีวิตใขณะตั้งครรภ์ ก่อนจะทำการฌาปณกิจต้องทำพิธีแยกลูกจากแม่ก่อน เพื่อมิให้ดวงวิญญาณมีห่วงยามสู่ปรภพ และต้องกระทำโดยบุคคลซึ่งมีอักขระอาคมกำกับ มิเช่นนั้นความอาเพทจะเกิดตกแก่คนพรากลูกพรากแม่  เมื่อแยกศพแม่และศพทารกแล้ว ศพทารกต้องนำไปประกอบพิธีอาบน้ำปะแป้ง มีของเซ่นไหว้ เฉกเช่นหนึ่งวิญญาณกุมารเพื่อให้มีความสุข และจะไม่มีการเผาศพทารกที่แยกออกจากท้องศพแม่แต่ต้องฝังและคอยดูแลเช่นไหว้ข้าว ไหว้น้ำทำบุญตามประเพณีในวันสำคัญทางศาสนาต่างๆ

       ผีตายทั้งกลม (ตายทั้งหมด) เป็นผีไทยลักษณะหนึ่ง โดยผู้หญิงที่ตายขณะที่กำลังตั้งครรภ์ลูกในท้อง   หรือขณะที่กำลังคลอดลูก ถ้าในขณะที่กำลังจะคลอดลูกนั้น แล้วเกิดตายขึ้นมา ทั้งแม่และลูกถือว่าเป็นการตายโหงอีกรูปแบบหนึ่ง   กรณีการตายของนางไหม จึงจัดว่าเป็นผีตายทั้งกลม  นายโซ๊ยตี๋ ได้จัดการงานศพของภริยา ตามประเพณีเพื่อนๆ ในชั้นเรียนรู้สึกเห็นใจ พิศมัยลูกของนายโซ๊ยตี๋  ที่ต้องสูญเสียแม่ไปอย่างไม่มัวันกลับ

                     * ****************************************************************************  

      เหตุการณ์ ของผีนางไหม ประเดิมหลอกกับเพื่อนติดกัน ..หลังจากเสียชีวิตใหม่ๆ คือบ้านน้าถนอม. น้าถนอมเป็น อดีตทหารเกณฑ์และผ่านการบวชมาหลายพรรษา ยังครองความโสดจนอายุใกล้ 50 แล้ว  มีบ้านติดกับบ้านนางไหม น้าถนอมได้มาเช่าห้องแถวห้องนี้เพื่อให้บริการตัดผม ที่หน้าร้านมีป้ายติดโฆษณา ชื่อ ถนอมเกศา  แกจะมาเปิดร้านสักเก้าโมงเช้าและจะปิดร้านช่วงเวลา สอง- สามทุ่ม แล้วก็จะกลับไปนอนที่บ้านในหมู่บ้านอรัญฯ   หมู่บ้านอรัญถือเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ที่สุดของอำเภออรัญประเทศ พื้นที่หมู่บ้านอยู่ใกล้กับวัดหลวงเก่า   สมัยก่อนในเขตเทศบาล.ไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึง  ไฟฟ้าในเมืองอรัญซึ่งต้องใช้เครื่องปั่น จะเปิดให้บริการระหว่าง 05.00 น - 20.00 น เท่านั้น ที่วัดหลวงเก่ามีต้นโพธิ์ซึ่งมีอายุเกือบร้อยปีหลายต้น  ณ วันนี้ ต้นโพธิ์ก็ยังคงยืนต้นตระหง่าน ใครผ่านไปมาบริเวณนี้ ขนหัวต้องลุกแน่ ด้วยเพราะบริเวณนี้มีบ้านปลูกสร้างเพียงไม่กี่หลัง  มืดก็มืดและเปลี่ยวมาก กลางคืนลมพัดค่อนข้างแรง เสียงใบโพธิ์ พัดกระทบกัน ดังจนน่ากลัว ถัดจากต้นโพธิ์มีสะพานข้ามลำห้วยเล็กๆ ข้างสะพานมีต้นไผ่หนาแน่น เวลาลมพัดเสียงเสียดสีของต้นไผ่ดังจนน่ากลัว โดยเฉพาะกลางคืน สะพานข้ามแห่งนี้จึงแทบไม่มีใครใช้เลย 

         แม้น้าถนอม จะรู้ว่าการตายของนางไหม เป็นผีตายทั้งกลม ที่อาจจะเป็นผี มีวิญญาญที่เฮี้ยนแกก็ไม่ได้หลบหลู่แต่ประการใด ทั้งยังได้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้   คืนหนึ่งหลังพระสวดพระอภิธรรมเสร็จประมาณสองทุ่มเศษ น้าถนอม นอนพิงพนักโต๊ะตัดผม นั่งอ่านหนังสือบางกอกที่เป็นนวนิยายอย่างเพลิดเพลิน ทั้งๆที่ไม่มีลมพัดเลยสักนิด แต่กลับปรากฎ ว่าที่หน้าต่างทั้งสองด้านได้มากระทบกันดัง ปัง. ปัง  / 

         แกต้องหยุดชะงัก หันมาดูที่ต้นเสียง จากนั้นได้วางหนังสือบางกอกบนชั้นด้านหน้าที่มีกระจกเงา ที่ให้ลูกค้ามองทรงผม แล้วเดินไปที่หน้าต่าง เพื่อผลักหน้าต่างออกไปให้อยู่ในสภาพดังเดิม แกเอื้อมมือไปเอาขอสับ เพื่อสับลงตรงช่องรูด้านล่างจนเรียบร้อยแแล้ว จึงเดินมาหยิบหนังสือเพื่ออ่านนวนิยายต่อ..ครู่ต่อมา.หน้าต่างก็กระแทกกันแรงกว่าเดิมดัง  โครม.. 

    ไฟฟ้าได้เกิดดับลง แต่เป็นการดับเฉพาะที่บ้านน้าถนอมหลังเดียว  แกหยิบตะเกียงพร้อมใช้ไม้ขีดขึ้นมาจุดให้แสงสว่าง..  จู่ๆไม่รู้แมวดำ มาจากไหนกระโจนพรวดเข้าไปในบ้านแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย  เล่นเอาแกสะดุ้ง โหยง ขนลุกซู่  จนต้องอุทาน..  

        “ช่วยด้วย ผีหลอก.. ”

               สถานการณ์แบบนี้ เป็นใครก็คงอยู่ไม่ได้ แกจึงรีบปิดร้าน. กลับบ้านทันที.

        หลังเสร็จจากงานศพ อาจารย์ทางไสยศาสตร์ ได้แยกแม่ แยกลูกเสร็จแล้ว ครอบครัวของนายโซ๊ยตี๋ คงทำใจไม่ได้ กับสภาพบรรยากาศภายในบ้านที่เคยอยู่ ทั้งครอบครัวพ่อลูก จึงอพยพย้ายถิ่นจากบ้านหลังนี้ ไปอยู่ที่อำเภอตราพระยา..บ้านหลังนี้ได้ว่างลง   ต่อมา..ได้มีคนจากเมืองแปดริ้วชื่อลุงพลัด มาขอเช่าอยู่ต่อ   ในช่วงแรกลุงพลัดแกมาอยู่เพียงคนเดียวตั้งใจว่าจะค่อยๆ ขนของและครอบครัวมาอยู่ภายหลัง     คืนแรก.ที่เข้ามาพัก ก็เจอความเฮี้ยนของนางไหมทันที ในขณะเพิ่งเคลิ้มหลับ ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงไกวเปล พร้อมเสียงเพลงที่ร้องกล่อมลูกนอน ที่มุมห้อง     

        เอ่..เอ๊ เอ  เอ....ๆซ้ำ ๆอยู่หลายรอบ.แกลุกขึ้นมาเพื่อหาต้นเสียง.แต่ก็หาไม่เจอ..จากนั้นก็ผลอยหลับไป แต่ในขณะหลับ สมองก็ครุ่นคิด เห็นภาพหญิงสาวผมยาวไกวเปลกล่อมลูก ทั้งยังได้อุ้มลูกขึ้นมาให้นม.อย่างทะนุถนอม   คืนแรกกว่าลุงพลัดจะหลับได้ มันช่างเป็นการหลับที่ยากมากครั้งหนึ่ง..    

       “พี่หนอม  ผมรู้สึกว่า เมื่อคืน ผมเห็นผู้หญิงผมยาวไกวเปลกล่อมลูก หน้าเธอซีดเซียว ผมพยายามขยี้ตาแล้ว คิดว่า มันไม่ได้ฝันไป” ลุงพลัด เอ่ยปากบอกเล่าเรื่องให้น้าถนอมฟัง

      “สงสัยดวงวิญญาญของไหม.  คงเฮี้ยนเอาการ เอาอย่างนี้..พลัด..ไปนิมนต์พระมาสวดถอนดวงวิญญาณและทำบุญซ้ำอีกครั้งหนึ่งก๋็ดีนะ” น้าถนอมเสนอแนะ

                                  ******************************************************

       เมื่อลุงพลัด คนจากเมืองแปดริ้ว ได้ประสบเหตุการณ์ดังกล่าว เขาจึงได้นิมนต์พระมาสวดถอนดวงวิญญาญให้นางไหมไปสู่สุขคติ   ต่อมาอีกสัปดาห์ ครอบครัวของลุงพลัดก็ได้ย้ายมาอยู่กันทั้งครอบครัว การหลอกหลอนของนางไหม จึงไม่เกิดขึ้นอีกเลยกับลุงพลัด

       กรณีของนางไหม ถือเป็นหญิงที่คลอดตามทั้งกลมที่โด่งดังที่สุดในอดีต  และเป็นรายแรกและรายเดียว ที่คนเมืองอรัญฯ  ได้พบกับเหตุการณ์ต่างๆ ของเธอบ่อยที่สุดกอรปกับในยุคนั้นมีหนังไทยเรื่องแม่นาคพระโขนง ที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับความเฮี้ยนของผีตายทั้งกลม จึงทำให้คนที่อยู่ในเมืองอรัญ มักได้พบเห็นนางไหม มาในอิริยาบทต่างๆ  บ้างก็เห็นภาพนางไหมกับลูกน้อยยืนรอใสบาตรพระ ในช่วงระยะเวลา05.30 -06.00 น. แต่พอเข้าไปใกล้ๆเพื่อจะได้เห็นชัดๆกับไม่พบเห็นใครเลยสักคน         

       “ไปส่งขนม  เดี๋ยวนี้เลย    ”  แม่สั่งผมด้วยน้ำเสียง อันดัง

      “เดี๋ยวผียายไหม หลอกน่ะแม่  หนูต้องผ่านหนาบ้านแก ”   

      ปกติผมจะต้องเอาซาลาเปา ขนมจีบ ไปส่งตามร้านกาแฟ ระหว่าง 05.00-0530 น  ทุกวัน

      “จะไปหรือไม่ไป …”

      “เช้าๆ ก่อนไม่ได้ หรือแม่ ”

      “ไม่ได้  เดี๋ยวคนกินกาแฟ ต้องรอกิน”

                                   ไม้เรียวที่แม่หลาวอย่างดี. ที่พร้อมจะหวดก้น .

       ระหว่างผี..กับไม้เรียว แม่้จะกลัวผี ก็ต้องกัดฟันหลับตา…รีบปั่นจักรยานให้ผ่านพ้นบ้าน น้าไหมให้เร็วที่สุด..

                                                    ขลุ่ย   บ้านข่อย

                                                (๒๓  กันยายน   ๒๕๖๕)

     

     

     

                                         

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×