นาง..ผู้โชคร้าย
เป็นเหตุการณ์ในอดีต ที่สตรีคนหนึ่งตายทั้งกลม และมาปรากฎกายให้เห็นเนืองๆ
ผู้เข้าชมรวม
85
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
นาง.. ผู้โชคร้าย
ในเขตเทศบาลตำบล …..ประมาณปี 2510 ณ ห้องแถวที่คนอรัญเรียกกันว่าตลาดใน นางไหมที่คนทั่วไปรู้จักกันดีมีอายุเพียงประมาณสี่สิบปี เธอเป็นแม่ของเพื่อนผมเอง สามีของเธอคือนายโซ๊ยตี๋ เป็นคนไทยเชื้อสายจีนประกอบ อาชีพ ค้าขายจำพวกน้ำอัดลมโบราณ ที่เป็นน้ำสีต่างๆเช่น สีแดงเขียว ส้ม เหลือง ม่วง ดำ แล้วอัดแก๊ส(โซดา) ใส่น้ำแข็งบดก้อนเล็กๆ ให้มันมีรสชาติแบบน้ำอัดลมที่ขายในท้องตลาดในปัจจุบัน นางไหมมีลูกกับนายโซ้ยตี๋แล้วสามคน คนเล็กสุดอายุ 6 ขวบ และปัจจุบันเธอกำลังตั้งครรภ์ลูกคนที่ 4 ซึ่งอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าก็จะครบกำหนดคลอด โดยปกติทุกๆวัน นางไหมจะออกไปช่วยสามีขายน้ำซาสี่ ที่ตลาดข้างคิวรถอำเภอตาพระยาและวัฒนานคร เมื่อครรภ์ของภริยาแก่ และใกล้กำหนดคลอดนายโซ๊ยตี๋ จึงให้ภริยาหยุดพักผ่อนอยู่กับบ้าน
“ลื้ออยู่บ้านเถอะ อีกไม่กี่สัปดาห์ ก็จะคลอดแล้ว ” นายโซ๊ยตี๋ บอกภริยาด้วยเพราะ ความห่วงใยและหวังดี
“อั้ว รู้ตัวดี ไม่ต้องห่วงหรอก” นางไหมพูด
(เธอพูด เนื่องจากมีประสบการณ์ในการคลอดลูกมาแล้วสามคน)
“ ลื้อ.ชื่ออั้วเถอะ อั้วขายคนเดียวก็ได้ ”นายโซ๊ยตี๋ พูด
สมัยที่ผมยังเด็ก..ในวันเสาร์ อาทิตย์ ผมจะเป็นลูกค้าประจำ สั่งน้ำซาสี่มากินเสมอ ที่เมืองอรัญฯจะมีน้ำอัดลมแบบโบราณเพียงเจ้าเดียว ต่อมา. มีแป้ะก่วยได้มาลอกเลียนแบบและกลายเป็นคู่แข่งขันแย่งลูกค้ากันในที่สุด
* ***************************************************************************************
เมื่อยุคเมื่อ50 ปีก่อน การฝากครรภ์อาจจะยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมกันมากนัก การคลอดลูกของผู้หญิงไทยในชนบท ส่วนมาก ยังต้องพึ่งพาหมอตำแย ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าคนในยุคปัจจุบันพอจะคุ้นๆ หรือเคยได้ยินหรือเปล่า เพื่อเสริมความรู้สักเล็กน้อย ขออธิบายความหมายโดยอ้างอิงจาก พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ คำว่า ตำแย ก็คือคำที่ใช้เรียกหญิงผู้ทําคลอดตามแผนโบราณ การคลอดของสุภาพสตรี ไม่ว่าจะยุคไหนก็มีความเสี่ยงจนถึงขั้นเป็นอันตรายแก่ชีวิตได้
ทุกๆคนในบ้านของนายโซ๊ยตี๋ต่างรอวันที่จะมีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้น. สายของวันหนึ่งขณะที่ลูกของเขาไปโรงเรียนเพื่อเรียน หนังสือ ตัวของเขาได้เข็นรถไปขายน้ำอัดลมโบราณเช่นปกติทุกวัน จู่ๆนางไหมซึ่งอยู่บ้านคนเดียวตามลำพัง ก็เกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรง.. ชาวบ้านแถวนั้น ต่างก็ออกไปประกอบอาชีพค้าขายกันหมด จึงไม่มีใครที่จะเข้าไปช่วยเหลือ นางไหมได้ หมอตำแยที่นัดว่าจะมาดูแลเธอในวันนี้ก็เกิดต้องติดธุระต้องไปทำคลอดต่างตำบล นางไหมจึงต้องช่วยเหลือตนเองตามมีตามเกิด
“ใครอยู่แถวนี้ ช่วยฉันด้วย ฉันปวดท้อง” นางไหม ร้องขอความช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครได้ยิน
และในที่สุดเธอก็หมดลมหายใจ ตรงห้องนอน จนเที่ยงวัน…เมื่อนายโซ๊ยตี๋ สามีของเธอกลับมากินข้าวและพักผ่อนเหมือนเช่นทุกวัน เมื่อจอดรถเข็นแล้วก็เดินเข้าไปในบ้าน ..ไม่ทันไรเขาก็ต้องตกตะลึง เมื่อเห็นข้าวของ กระจัดกระจาย ทั้งยังมีรอยเลือดไหลนองพื้น มองไปตรงริมห้อง เห็นภริยานอนพิงฝาหมดสติ นายโซ๊ยตี๋พยายามเข้าไปปฐมพยาบาล และคลำชีพจรดู…แต่ทุกอย่างมันสายไปเสียแล้ว. ปรากฎว่านางไหมสิ้นชีวิตไปแล้ว..นายโซ๊ยตี๋ร่ำไห้ปานใจจะขาด ปากพร่ำบ่น ดังคนเสียสติว่า
“ทำไมอั๊ว จึงไม่อยู่ดูแลลื้อ ” เขาพร่ำพรรณา วนเวียนไปมา ..ดูน่าสงสาร
ครู่ต่อมา ลูกๆที่ไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนก็กลับมาบ้าน เมื่ออยู่กันครบทั้งครอบครัวเสียงร่ำไห้ ยิ่งดังมากขึ้น เป็นที่น่าเวทนาสงสารยิ่งนัก เพื่อนบ้านพอรู้ข่าวก็เข้ามาช่วยกันปลอบใจ และหาทางช่วยเหลือเพื่อเตรียมจัดงานศพให้ ตามความเชื่อของคนโบราญ คือหากหญิงท้องได้เสียชีวิตใขณะตั้งครรภ์ ก่อนจะทำการฌาปณกิจต้องทำพิธีแยกลูกจากแม่ก่อน เพื่อมิให้ดวงวิญญาณมีห่วงยามสู่ปรภพ และต้องกระทำโดยบุคคลซึ่งมีอักขระอาคมกำกับ มิเช่นนั้นความอาเพทจะเกิดตกแก่คนพรากลูกพรากแม่ เมื่อแยกศพแม่และศพทารกแล้ว ศพทารกต้องนำไปประกอบพิธีอาบน้ำปะแป้ง มีของเซ่นไหว้ เฉกเช่นหนึ่งวิญญาณกุมารเพื่อให้มีความสุข และจะไม่มีการเผาศพทารกที่แยกออกจากท้องศพแม่แต่ต้องฝังและคอยดูแลเช่นไหว้ข้าว ไหว้น้ำทำบุญตามประเพณีในวันสำคัญทางศาสนาต่างๆ
ผีตายทั้งกลม (ตายทั้งหมด) เป็นผีไทยลักษณะหนึ่ง โดยผู้หญิงที่ตายขณะที่กำลังตั้งครรภ์ลูกในท้อง หรือขณะที่กำลังคลอดลูก ถ้าในขณะที่กำลังจะคลอดลูกนั้น แล้วเกิดตายขึ้นมา ทั้งแม่และลูกถือว่าเป็นการตายโหงอีกรูปแบบหนึ่ง กรณีการตายของนางไหม จึงจัดว่าเป็นผีตายทั้งกลม นายโซ๊ยตี๋ ได้จัดการงานศพของภริยา ตามประเพณีเพื่อนๆ ในชั้นเรียนรู้สึกเห็นใจ พิศมัยลูกของนายโซ๊ยตี๋ ที่ต้องสูญเสียแม่ไปอย่างไม่มัวันกลับ
* ****************************************************************************
เหตุการณ์ ของผีนางไหม ประเดิมหลอกกับเพื่อนติดกัน ..หลังจากเสียชีวิตใหม่ๆ คือบ้านน้าถนอม. น้าถนอมเป็น อดีตทหารเกณฑ์และผ่านการบวชมาหลายพรรษา ยังครองความโสดจนอายุใกล้ 50 แล้ว มีบ้านติดกับบ้านนางไหม น้าถนอมได้มาเช่าห้องแถวห้องนี้เพื่อให้บริการตัดผม ที่หน้าร้านมีป้ายติดโฆษณา ชื่อ ถนอมเกศา แกจะมาเปิดร้านสักเก้าโมงเช้าและจะปิดร้านช่วงเวลา สอง- สามทุ่ม แล้วก็จะกลับไปนอนที่บ้านในหมู่บ้านอรัญฯ หมู่บ้านอรัญถือเป็นหมู่บ้านเก่าแก่ที่สุดของอำเภออรัญประเทศ พื้นที่หมู่บ้านอยู่ใกล้กับวัดหลวงเก่า สมัยก่อนในเขตเทศบาล.ไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึง ไฟฟ้าในเมืองอรัญซึ่งต้องใช้เครื่องปั่น จะเปิดให้บริการระหว่าง 05.00 น - 20.00 น เท่านั้น ที่วัดหลวงเก่ามีต้นโพธิ์ซึ่งมีอายุเกือบร้อยปีหลายต้น ณ วันนี้ ต้นโพธิ์ก็ยังคงยืนต้นตระหง่าน ใครผ่านไปมาบริเวณนี้ ขนหัวต้องลุกแน่ ด้วยเพราะบริเวณนี้มีบ้านปลูกสร้างเพียงไม่กี่หลัง มืดก็มืดและเปลี่ยวมาก กลางคืนลมพัดค่อนข้างแรง เสียงใบโพธิ์ พัดกระทบกัน ดังจนน่ากลัว ถัดจากต้นโพธิ์มีสะพานข้ามลำห้วยเล็กๆ ข้างสะพานมีต้นไผ่หนาแน่น เวลาลมพัดเสียงเสียดสีของต้นไผ่ดังจนน่ากลัว โดยเฉพาะกลางคืน สะพานข้ามแห่งนี้จึงแทบไม่มีใครใช้เลย
แม้น้าถนอม จะรู้ว่าการตายของนางไหม เป็นผีตายทั้งกลม ที่อาจจะเป็นผี มีวิญญาญที่เฮี้ยนแกก็ไม่ได้หลบหลู่แต่ประการใด ทั้งยังได้ทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ คืนหนึ่งหลังพระสวดพระอภิธรรมเสร็จประมาณสองทุ่มเศษ น้าถนอม นอนพิงพนักโต๊ะตัดผม นั่งอ่านหนังสือบางกอกที่เป็นนวนิยายอย่างเพลิดเพลิน ทั้งๆที่ไม่มีลมพัดเลยสักนิด แต่กลับปรากฎ ว่าที่หน้าต่างทั้งสองด้านได้มากระทบกันดัง ปัง. ปัง /
แกต้องหยุดชะงัก หันมาดูที่ต้นเสียง จากนั้นได้วางหนังสือบางกอกบนชั้นด้านหน้าที่มีกระจกเงา ที่ให้ลูกค้ามองทรงผม แล้วเดินไปที่หน้าต่าง เพื่อผลักหน้าต่างออกไปให้อยู่ในสภาพดังเดิม แกเอื้อมมือไปเอาขอสับ เพื่อสับลงตรงช่องรูด้านล่างจนเรียบร้อยแแล้ว จึงเดินมาหยิบหนังสือเพื่ออ่านนวนิยายต่อ..ครู่ต่อมา.หน้าต่างก็กระแทกกันแรงกว่าเดิมดัง โครม..
ไฟฟ้าได้เกิดดับลง แต่เป็นการดับเฉพาะที่บ้านน้าถนอมหลังเดียว แกหยิบตะเกียงพร้อมใช้ไม้ขีดขึ้นมาจุดให้แสงสว่าง.. จู่ๆไม่รู้แมวดำ มาจากไหนกระโจนพรวดเข้าไปในบ้านแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย เล่นเอาแกสะดุ้ง โหยง ขนลุกซู่ จนต้องอุทาน..
“ช่วยด้วย ผีหลอก.. ”
สถานการณ์แบบนี้ เป็นใครก็คงอยู่ไม่ได้ แกจึงรีบปิดร้าน. กลับบ้านทันที.
หลังเสร็จจากงานศพ อาจารย์ทางไสยศาสตร์ ได้แยกแม่ แยกลูกเสร็จแล้ว ครอบครัวของนายโซ๊ยตี๋ คงทำใจไม่ได้ กับสภาพบรรยากาศภายในบ้านที่เคยอยู่ ทั้งครอบครัวพ่อลูก จึงอพยพย้ายถิ่นจากบ้านหลังนี้ ไปอยู่ที่อำเภอตราพระยา..บ้านหลังนี้ได้ว่างลง ต่อมา..ได้มีคนจากเมืองแปดริ้วชื่อลุงพลัด มาขอเช่าอยู่ต่อ ในช่วงแรกลุงพลัดแกมาอยู่เพียงคนเดียวตั้งใจว่าจะค่อยๆ ขนของและครอบครัวมาอยู่ภายหลัง คืนแรก.ที่เข้ามาพัก ก็เจอความเฮี้ยนของนางไหมทันที ในขณะเพิ่งเคลิ้มหลับ ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงไกวเปล พร้อมเสียงเพลงที่ร้องกล่อมลูกนอน ที่มุมห้อง
เอ่..เอ๊ เอ เอ....ๆซ้ำ ๆอยู่หลายรอบ.แกลุกขึ้นมาเพื่อหาต้นเสียง.แต่ก็หาไม่เจอ..จากนั้นก็ผลอยหลับไป แต่ในขณะหลับ สมองก็ครุ่นคิด เห็นภาพหญิงสาวผมยาวไกวเปลกล่อมลูก ทั้งยังได้อุ้มลูกขึ้นมาให้นม.อย่างทะนุถนอม คืนแรกกว่าลุงพลัดจะหลับได้ มันช่างเป็นการหลับที่ยากมากครั้งหนึ่ง..
“พี่หนอม ผมรู้สึกว่า เมื่อคืน ผมเห็นผู้หญิงผมยาวไกวเปลกล่อมลูก หน้าเธอซีดเซียว ผมพยายามขยี้ตาแล้ว คิดว่า มันไม่ได้ฝันไป” ลุงพลัด เอ่ยปากบอกเล่าเรื่องให้น้าถนอมฟัง
“สงสัยดวงวิญญาญของไหม. คงเฮี้ยนเอาการ เอาอย่างนี้..พลัด..ไปนิมนต์พระมาสวดถอนดวงวิญญาณและทำบุญซ้ำอีกครั้งหนึ่งก๋็ดีนะ” น้าถนอมเสนอแนะ
******************************************************
เมื่อลุงพลัด คนจากเมืองแปดริ้ว ได้ประสบเหตุการณ์ดังกล่าว เขาจึงได้นิมนต์พระมาสวดถอนดวงวิญญาญให้นางไหมไปสู่สุขคติ ต่อมาอีกสัปดาห์ ครอบครัวของลุงพลัดก็ได้ย้ายมาอยู่กันทั้งครอบครัว การหลอกหลอนของนางไหม จึงไม่เกิดขึ้นอีกเลยกับลุงพลัด
กรณีของนางไหม ถือเป็นหญิงที่คลอดตามทั้งกลมที่โด่งดังที่สุดในอดีต และเป็นรายแรกและรายเดียว ที่คนเมืองอรัญฯ ได้พบกับเหตุการณ์ต่างๆ ของเธอบ่อยที่สุดกอรปกับในยุคนั้นมีหนังไทยเรื่องแม่นาคพระโขนง ที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับความเฮี้ยนของผีตายทั้งกลม จึงทำให้คนที่อยู่ในเมืองอรัญ มักได้พบเห็นนางไหม มาในอิริยาบทต่างๆ บ้างก็เห็นภาพนางไหมกับลูกน้อยยืนรอใสบาตรพระ ในช่วงระยะเวลา05.30 -06.00 น. แต่พอเข้าไปใกล้ๆเพื่อจะได้เห็นชัดๆกับไม่พบเห็นใครเลยสักคน
“ไปส่งขนม เดี๋ยวนี้เลย ” แม่สั่งผมด้วยน้ำเสียง อันดัง
“เดี๋ยวผียายไหม หลอกน่ะแม่ หนูต้องผ่านหนาบ้านแก ”
ปกติผมจะต้องเอาซาลาเปา ขนมจีบ ไปส่งตามร้านกาแฟ ระหว่าง 05.00-0530 น ทุกวัน
“จะไปหรือไม่ไป …”
“เช้าๆ ก่อนไม่ได้ หรือแม่ ”
“ไม่ได้ เดี๋ยวคนกินกาแฟ ต้องรอกิน”
ไม้เรียวที่แม่หลาวอย่างดี. ที่พร้อมจะหวดก้น .
ระหว่างผี..กับไม้เรียว แม่้จะกลัวผี ก็ต้องกัดฟันหลับตา…รีบปั่นจักรยานให้ผ่านพ้นบ้าน น้าไหมให้เร็วที่สุด..
ขลุ่ย บ้านข่อย
(๒๓ กันยายน ๒๕๖๕)
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ ขลุ่ย บ้านข่อย ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ขลุ่ย บ้านข่อย
ความคิดเห็น