ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฟิค [หัวขโมยแห่งบารามอส] ตอน รักเธอจากนี้และตลอดไป

    ลำดับตอนที่ #5 : ความทรงจำครั้งยังเด็ก

    • อัปเดตล่าสุด 8 มิ.ย. 48


    สาวน้อยผมสีเงินนัยน์ตาสีทอง ค่อยๆย่องอย่างแผ่วเบา จากหน้าต่างที่เธอปีนเข้ามาเมื่อครู่

    โดยตั้งใจที่จะมุ่งหน้าไปยัง ประตูไม้บานสวยที่อยู่สุดทางเดินข้างหน้า ขณะที่กำลังย่องด้วยหัวใจระทึก



    กึ้ง! ประตูบานที่อยู่ใกล้ๆก็กระแทกออกอย่างแรง สาวน้อยสะดุ้งพรวด



    “เคโอลิน” เสียงที่เรียกนิ่มๆจากชายผู้มีนัยน์ตาสีทองและผมสีเงินที่ยาวมัดรวบไว้ด้านหลัง

    ทำให้ใบหน้าต้นแบบของเธอผู้ที่ถอดแบบออกมาได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน



    “ขะ ขะ ข๋า ท่านพ่อ” เสียงที่ปรับเปลี่ยนซ่อนความตกใจไว้อย่างรวดเร็ว เธอจะตกใจไม่ได้

    ถ้าหากความแตกว่าวันนี้ คุยกับมนุษย์ เธออาจต้องถูกกักบริเวณแรมเดือนเฉกเช่นเดียวกับเมื่อครั้งยังเด็ก



    “ไปไหนมา” เสียงที่นิ่มๆเข้มขึ้นนิดนึงเมื่อเอ่ยถามต่อ



    “ลูกไปที่สวนน้ำแข็งด้านหลังวังมาน่ะเพคะ อากาศวันนี้ร้อน ลูกเกรงว่าน้ำแข็งศักดิ์สิทธิ์แห่งสโนว์แลนด์

    จะละลาย อย่างน้อยด้วยความเย็นเพียงน้อยนิดของลูก คงทำห้ดับร้อนลงได้บ้างเพคะ”



    เสียงที่ตอบมา พร้อมทั้งดวงตาที่จ้องมองอย่างใสซื่อ ผู้เป็นพ่อจึงคลายความกังวล หารู้ไม่ว่า

    คำที่เคโอลินกล่าวบอกนั้น มีความจริงเพียง 1 ใน 4 ส่วนเท่านั้น เมื่อรุ่งสาง เธอไปที่สวนน้ำแข็ง

    แต่นับตั้งแต่ตะวันตรงหัว เธอก็แอบไปถึงชายแดนสโนว์แลนด์-คาโนวาล และได้พบกับชายหนุ่มนัยน์ตาสีฟ้า



    “งั้นหรือ พ่อให้ทหารไปตามเจ้า คงไม่ได้ไปดูที่แท่นน้ำแข็งศักดิ์สิทธิ์”



    “งั้นลูกขอลา ลูกอยากพักผ่อนนะเพคะ” กล่าวพลางโค้งตัวลงอย่างงดงามเช่นเคยแล้วเดินจากไป



    “ลูกหญิง พ่อจะไม่ยอมให้เจ้าเป็นไปตามคำทำนายหรอก” เสียงของผู้เป็นพ่อเอ่ยกับตัวเองเบาๆ





    เมื่อก้าวเข้ามาในห้องและปิดประตูลง



    “เฮ้อ~~ เกือบไปแล้วไหมล่ะ”

    จะว่าไปการคุยกับชาวมนุษย์ก็ดีหรอก โดยเฉพาะคู่สนทนาแรกที่เป็นมนุษย์ของเธอ

    พลันก็ตกอยู่ในห้วงความทรงจำ





        -ย้อนหลังกลับไปเมื่อ 13 ปีก่อน-

    เด็กหญิงผมสีเงินนัยน์ตาทองตัวน้อย พลัดหลงกับผู้ปกครองอย่างไม่ได้ตั้งใจและกำลังยืนอยู่คนเดียว

    ท่ามกลางทุ่งหิมะขาวสะอาดบริสุทธิ์



    “ที่นี่มัน เห็นท่านพ่อบอกว่าเป็นเขตสุดแดนสโนว์แลนด์” เด็กหญิงน้อยชักหวั่นเธอเคยออกนอก

    ปราสาทของสโนว์แลนด์ซะเมื่อไร  แล้วก็ตอนนี้ก็ไม่มีใครอยู่กับเธอซักคน พลันคิดก็เริ่มที่จะสะอื้น



    “ซวบ” เสียงแหวกพุ่มไม้ออกอย่างรวดเร็ว



    “จับสุนัขนั่นที!!!!”



    “เจ้าลาบราดอร์ เดอะเกรท ที่ 3 นั่น ช่วยข้าจับมันที” เสียงที่กระหืดกระหอบเล็กน้อยของเด็กชายตัวน้อย

    ผมสีทองนัยน์ตาฟ้า เอ่ยขึ้นอย่างตระหนก



    “วีสกาย่า” เสียงใสๆของเด็กหญิงเอ่ยทั้งที่หน้ายังอาบไปด้วยน้ำตาแล้วแท่งน้ำแข็งก็ล้อม

    สุนัขขนสีดำขลับเอาไว้ไม่ให้ไปไหนได้ เด็กชายรีบวิ่งไปจับล่ามใส่ปลอกคออย่างรวดเร็ว

    ด้วยความที่กลัวว่ามันจะหนีไปอีก แล้วหันมาจะเอ่ยคำขอบคุณแต่พบว่า



    “อ้าว นี่เธอร้องไห้ทำไมเนี่ย กลัวมันหรอ มันไม่ดุหรอกนะ แค่ตื่นคน ท่านพ่อสั่งให้

    ทหารเยอะแยะมากับข้า มันเลยเตลิด”



    เสียงเด็กหญิงน้อยยังสะอื้นไม่หยุด  



    “นี่เธอขาวทั้งตัวเหมือนดอกลิลลี่เลย”



    “ลิลลี่คืออะไร” เมื่อมีสิ่งมาเบนความสนใจ เด็กหญิงตัวน้อยจึงหยุดน้ำตาได้



    “ดอกไม้ไง เจ้าไม่รู้จัก?” เด็กชายถามพลางขมวดคิ้ว



    “สโนว์แลนด์ไม่เคยมีดอกไม้หรอก ..................

    ที่นี่มีแต่ความเย็นไม่มีดอกไม้ใดๆในโลกที่จะบานให้ข้าเห็นได้ในดินแดนแห่งนี้”



    “งั้นรอนี่นะ” ว่าพลางวิ่งลากเจ้าลาบราดอร์ เดอะเกรท ที่ 3 ไปในทิศทางที่ท่านพ่อของเธอสั่งห้าม

    ไม่ให้ไปเด็ดขาด แดนมนุษย์ เมืองซาเรส



    ไม่เกินไปกว่า 10 นาที เด็กชายก็วิ่งกลับมา



    “นี่ไง ข้าให้” เขาว่าพลางยื่นดอกลิลลี่สีขาวให้ด้วยรอยยิ้ม



    “ดอกไม้ไม่เคยหลั่งน้ำตา เจ้าที่เหมือนดอกไม้ก็ต้องไม่ร้องไห้ด้วยนะ” คำพูดของเด็กชาย

    ที่ใช้สำนวนโตเกินอายุเรียกรอยยิ้มจากหญิงตัวเล็กๆผมสีเงินได้



    “ขอบคุณนะ เธอเข้าไปในแดนซาเรส เป็นคนที่นั่นหรอ”



    “เปล่า ข้าเป็นเจ้าชายแห่งคาโนวาล เหตุที่มาที่นี่เป็นเพราะว่า ท่านพ่อของข้ามาทำธุระ ข้ามีชื่อว่า...”



    “เคโอลิน!!!!!!!!!!!” พลันแท่งน้ำแข็งก็ผุดขึ้นด้านหน้าระหว่างเจ้าชายตัวน้อยและธิดาจอมภูติหิมะ



    เสียงของจอมภูติเอ่ยขึ้น



    “มนุษย์ ไม่เคยไว้ใจได้ กลับคาโนวาลไปซะเจ้าชายน้อย สโนว์แลนด์ไม่คิดจะสุงสิง

    กับมนุษย์ที่แสนโสมม เคโอลินกลับ”



    ธิดาแห่งจอมภูติ จำต้องหันตัวกลับและเดินตามบิดาไปโดยไม่ทันจะได้รู้ชื่อของต้นเหตุที่ทำให้เธอ

    อยากออกไปด้านนอกสโนว์แลนด์ในอีก 13 ปีต่อมา



    “ถ้ารู้ชื่อก็ดีสินะ” หญิงสาวผมสีเงินที่งดงามดุจแพรไหมเอ่ยพลางนอนพลิกตัวกลับข้าง



            จะว่าไปท่านอัศวินเมื่อเย็นก็จะเข้าเดมอสที่คาโนวาล จะได้พบกันอีกครั้งไหมนะ

    แต่ช่างเถอะ หากชะตามี ก็คงได้พบกัน



             นอนคิดไปมาในไม่ช้าก็เข้าสู่ห้วงนิทรา



    เฮ้อ~ เสียงถอนหายใจถอดถอนจากเจ้าชายแห่งคาโนวาล จะดีหรือ ที่จะพาหญิงนางนั้นไปเดมอส

    หากแม้จะสมใจที่ได้แก้คืนเอวิเดส แต่อลิเซียเล่า เขาจะมองหน้าติดได้อย่างไร พลันคิด

    แรงโกรธที่ต้องการจะแก้แค้นคืนให้กับเอวิเดสมีมากกว่า

    จึงตัดสินใจที่จะพาธิดาจ้าวภูติแห่งสโนว์แลนด์ไปสู่เดมอส

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×