คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : FB ~ 02
FB ~ 02
“มากันทำไมเยอะแยะเนี่ย!!” มินโฮ มันทำหน้าเซ็งทันทีเมื่อเห็นว่าผู้เป็นแม่พาใครเดินเข้าตัวบ้านมา ผมก็ไม่ได้อยากมาเยือนหรอกนะ แต่โดนแม่บังคับมาเนี่ยสิ ขัดก็ไม่ได้ ทำท่าจะร้องไห้ฟูมฟาย ...แม่ใครว่ะ
“กรี๊ดดด!! คุณแม่พาใครมาคะ น่ารักจังเลย” พี่คนสวยวิ่งเข้ามาเกาะแขนผู้หญิงวัยกลางคนที่ไอ้บ้านั่นเรียกว่าแม่แล้วจีบปากจีบคอถามท่าทางสนอกสนใจ
เอ่อ...ช่วยเก็บอาการสนใจกันหน่อยได้มั้ยครับ แต่ละคนในบ้านที่หันมามองกูทำตาโตกันใหญ่
“ก็หนูคนนี้ไง เจ้าสาวตาโฮ หนูคีย์ไงลูก”
“เอ่อ..คือ” คุณแม่ไอ้มินโฮครับ ทำไมไปพูดแบบนั้นละค๊าบบบ
“กรี๊ดดด!! น่ารักอ่ะ ตาโฮเมียนายสวยเป็นบ้า ยินดีด้วยนะ น่าเสียดายพี่กลับมาไม่ทันงานแต่งนาย” ให้กูเครียดได้มั้ย บ้านนี้หาใครปกติได้สักคนมั้ยว่ะ ทั้งแม่ ทั้งพี่เมิงเนี่ย
“หนูแทยอนเพิ่งกลับมาถึงหรอจ๊ะ น้าก็เสียดายที่หนูกลับมาไม่ทันงานแต่ง ตาโฮน้องชายหนูน่ะ จูบน้องคีย์ด้วยนะ”
“แม่!!” ผมเผลอตวาดเสียงดัง ใครที่ไหนกันให้เอาเรื่องนี้มาพูดเนี่ย
“จริงหรอคะคุณน้า อร๊ายยยย เสียดาย”
“จริงสิจ๊ะ ถ้าไม่เชื่อเดี๋ยวน้าเอาคลิปที่น้าถ่ายไว้มาให้ดู”
“แม่ฮะ”
“เงียบน่าตาคีย์ แม่จะเม้าท์กับหนูแทยอน”
อ้าว!! คุณหญิงแม่...หาว่ากูเสือกซะงั้น
“ตาโฮ อธิบายมาเดี๋ยวนี้นะ แกจูบน้องคีย์จริงๆ ช่ะ”
เชี่ย!! แล้วยัยพี่สาวไอ้บ้านี่จะไปถามมันทำม้ายยย
“ทำไมผมต้องอธิบาย” มินโฮพูดเสียงดัง ทำหน้าโหด ไอ้บ้านี่ไม่แคร์ใครเลยแฮะ
“ตาโฮ!!!”
“พี่กับแม่จะมาวุ่นวายอะไรกับชีวิตผมนักหนาเนี่ย บอกให้แต่งก็แต่งให้แล้วไง” มินโฮทำท่ารำคาญสุดๆ
เอิ่ม...นั่นแม่กับพี่เมิงนะ ใจเย็นๆ
“อะไรกันตาโฮ นายไม่ควรไปว่าคุณแม่แบบนั้นนะ” ชายวัยกลางคนพูดขึ้น ถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นพ่อมัน
“พ่อไม่เข้าใจผมหรอก แม่วุ่นวายกับชีวิตผมมากเกินไป”
หืม นั่นเพราะเขาหวังดีกับเมิงหรอก ..แต่ไม่นับที่บังคับแต่งงานนะ หึหึ
“โธ่ คุณพี่ใจเย็นๆ ค่ะ” คุณแม่ของผมรีบเข้าประคองคุณหญิงแม่มันทันทีที่ทำท่าจะเป็นลม
“คุณแม่ขาเดี๋ยวแทยอนช่วย” พี่มันโบกมือโบกไม้ ยัดยาดมให้คุณหญิงแม่มันดม แม่บ้านวิ่งหายาหอมยาอมกันให้วุ่นวาย
ผมกวาดสายตาสำรวจผู้คนรอบบ้านที่ยังคงวิ่งวุ่น คุณชายพ่อของมันประคองคุณหญิงแม่ไปนั่งที่โซฟา คุณแม่ผมหาพัดผมมาพัดให้ คนที่เป็นพี่สาวมันก็วุ่นวายกับยาดมที่โบกไปมาตกจมูกคนเป็นลม เฮ้อออ ไอ้บ้านั่นยืนมองแบบไร้อารมณ์
เจริญมาก...สามีกู
“ไม่รู้ล่ะ ตาโฮ ถึงพี่จะไม่เห็นกับตาว่านายจูบน้องคีย์จริงๆ ในงานแต่ง แต่พี่ยืนยันคำพูดคุณแม่ แกต้องรับผิดชอบ” ยัยพี่สาวหันมาพูดกับน้องชายท่าทางจริงจัง
รับผิดชอบ?....รับผิดชอบไรแว๊
ผมหันไปหาไอ้มินโฮ เชี่ย มันหันหน้าหนีผมไปแอบหัวเราะคนเดียวซะงั้น กูไม่ขำ เมิงเข้าใจมั้ยว่ากูไม่เคลียร์ อธิบายมาดิ รับผิดชอบไรของพี่เมิง
“เอาล่ะ ตาโฮ ตอนแรกแม่บอกว่าแค่แต่งงานเฉยๆ ไม่มีการผูกมัด เมื่อครบกำหนด 77 วันก็จะสามารถหย่ากันได้ แต่นี่แกปู้ยี่ปู้ยำหนูคีย์แบบนี้แล้วยังจะไม่รับผิดชอบ ทำไมถึงเป็นคนแบบนี้ ถึงจะแค่จูบแต่ก็ถือว่าเป็นการผิดประเพณี แกต้องรับผิดชอบชีวิตหนูคีย์” คุณหญิงแม่มันว่าด้วยท่าทีที่จริงจัง เชี่ย! บ้านเมิงคลั่งลัทธิผีกันรึไงเนี่ย ส่วนไอ้บ้านั่นก็ทำหน้าเบื่อโลกเต็มที
แต่ละคนทำหน้าจริงจังไปมั้ยค๊าบบบ ไม่เว้นแม้แต่แม่กู โอยยยย กูอยากจะร้องไห้ กูเครียด!!
“ไม่ต้องรับผิดชอบหรอกครับ คือว่าผมเป็นผู้ชายนะ”
ใช่แล้ว กูกับมันเป็นผู้ชาย ที่ไม่รู้ว่าอะไรทำไมถึงต้องมาแต่งงานกัน ถึงอย่างนั้นผมก็มั่นใจว่าผมเป็นผู้ชาย กูแมนครับ กูแมนนนนน!!!
“ไม่ได้!!”
ประสานเสียงกันเป็นหนึ่งเดียวทั้งบ้าน -_-"
เชี่ยแล้วมั้ยล่ะ ทุกสายตาหันมามองกูเหมือนตัวประหลาดหลุดมาจากอวตาร กูพูดไรผิดวะ ใครก็ได้ช่วยผมที คนบ้านนี้ไม่ปกติสักคน
“แม่ ผมแค่จูบหมอนั่นตามพิธิ ไม่ได้ปู้ยี่ปู้ยำ” ไอ้มินโฮอธิบายสั้นๆ ด้วยเสียงเรียบๆ แต่หน้าแม่งโหดฉิบหาย
“ไม่ต้องมาแก้ตัว ถึงจะแค่จูบ แต่นั่นถือว่าทำเกินหน้าที่”
“เกินหน้าที่ยังไง พิธิแต่งที่ไหนเขาก็จูบเจ้าสาวกันทั้งนั้น”
เออจริงของมัน แต่มันไม่จริงตรงที่ กูไม่ใช่เจ้าสาวไงเชี่ย!!
“แต่หนูคีย์ไม่ใช่ผู้หญิง ตามพิธีสั่งห้าม” คุณชายพ่อที่นั่งเงียบมานานเอ่ยขึ้นมา
เกิดความเงียบปกคลุมบ้านไปชั่วขณะ
“เรื่องมันก็เกิดขึ้นมาขนาดนี้แล้ว แม่คิดว่าคงปล่อยพวกเราทั้งคู่ไว้แบบนี้ไม่ได้ น้าขอโทษนะตาโฮ ที่ดึงเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย เป็นความผิดน้าเอง น้าน่าจะหาวิธีอื่น แต่ว่ามันไม่ทันการแล้วจริงๆ คนที่มีคุณสมบัติแบบที่มินโฮมี น้าก็หาไม่ได้แล้ว คนที่เกิดปีเดียวกันกับหนูคีย์ และต้องเกิดห่างกัน 77 วัน น้าก็เห็นว่ามีแต่เรา แต่เรื่องทั้งหมดจะไม่บานปลายเลย ถ้าในวันแต่งตาโฮไม่จูบหนูคีย์ของน้า”
“หมายความว่า...”
“ใช่จ๊ะ ผิดกฏ”
เชี่ย!! เกิดอะไรขึ้นอีกล่ะ
“ผิดกฏ?....ยังไง”
“ลูกต้องรับผิดชอบนะ ตาโฮ” คุณหญิงแม่มันรีบแทรกขึ้น
ผมหันไปมองคุณหญิงแม่มัน หันไปมองคุณชายพ่อมัน หันไปมองคุณแม่ผม
นี่มันเรื่องเหี้ยอะไรกัน!!!!!!!
“การที่ลูกทำอย่างนั้น มันทำให้พิธีถูกบังคับว่าจะต้องทำให้สมบูรณ์อย่างที่มนุษย์ธรรมดาทั่วไปทำ คือเข้าใจใช่มั้ยว่าถ้าเข้าพีแล้วแต่งแค่ตามพิธีโดยที่ลูกไม่จูบหนูคีย์ มันก็จะสามารถหย่าได้ในกำหนดเดิมคือหลังจากแต่ง 7 วัน”
ตอนนี้ผมกำลังนั่งพะอืดพะอมอยู่ในห้องอาหารร่วมกับพวกคุรๆ ทั้งหลายหลังจากแม่บ้านเดินเข้ามาแจ้งว่าถึงเวลาอาหารกลางวันแล้ว
แบบว่าผมกลั้นหายใจควักเอาสมบัติผู้ดีที่มีน้อยนิดออกมาใช้อย่างเต็มที่ ทั้งที่ความจริงแล้วกูอยากเอามือทั้งสองข้างยกขึ้นมาขยี้หัวตัวเองให้ยุ่งเหยิงหลังจากนั่งฟังมานานหลายชัวโมงยังไม่รู้เลยเนี่ย ว่าที่กูต้องแต่งงานมันเรื่องอะไร
พูดจาวกไปเวียนมาอ้อมโลกกัน กะให้คนสำคัยอย่างกูงงใช่มั้ย -*-
“ทานเยอะๆ เลยจ๊ะหนูคีย์” คุณหญิงแม่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ทำใจดีตักอาหารมาวางใส่จานให้
เอิ่มมมม... อยู่เมืองนอกมาสามปี ไม่มีใครทำอะไรให้ บอกตรงๆ นะ มีคนมาเอาใจแบบนี้กูโคตรหลอน
จะไม่แดรกก็ไม่ได้ ก็เล่นนั่งจ้องกูเป็นตาเดียว ไม่คิดจะไปหยิบไปจับอะไรกันหน่อยหรอ
“ใช่จ๊ะ ไม่ต้องเกรงใจนะ กินเยอะๆ เลย” ยัยพี่สาวคะยั้นคะยอให้กูกินซะเหลือเกิน นี่ถ้าป้อนกูได้คงทำไปแล้ว
“กินเยอะๆ นะหนู นี่แม่ตาโฮเขาสั่งให้คุณแม่บ้านทำไว้เพื่อต้อนรับหนูโดยเฉพาะเลยนะ” คุณชายพ่อไอ้บ้านั่นก็อีกคน
โอย!!! กับข้าวจะล้นจานกูแล้วมั้ยนั่น เลิกตักมากันสักที กูกินไม่หมดแล้วว้อยยยย
ผมทนนั่งทานรับฟังพวกเหล่าคุณๆ คุยกันเงียบๆ ครับ เดี๋ยวแม่งหาว่ากูเรื่องมาก
“คุณน้องนี่โชคดีจังนะคะ หนูคีย์หน้าตาน่ารักมาก มีลูกน่ารักแบบนี้คงหวงแย่เลยสิคะเนี่ย” คุณหญิงแม่มินโฮเป็นคนเอ่ยขึ้นมาครับ
ขอบคุณมากครับคุณหญิงแม่สามี แต่ผมเป็นผู้ชาย ใช้คำว่าหล่อจะเหมาะกว่ามั้ย!!!!
“จริงด้วยคะคุณแม่ ตาโฮของเรานี่โชคดีนะค่ะ ที่ได้น้องคีย์มาเป็นภรรยา”
พรวด!!!!!! ผมสำลักเลยครับคราวนี้ ทั้งช้อนทั้งส้อมหล่นกระทบจานดังเคร้ง
“เป็นอะไรลูกคีย์ กินดีๆ สิจ๊ะ” คุณแม่ผมส่งน้ำให้ พร้อมบริการลูบหลังให้ลูกชาย
“แหม น้องคีย์คงเขินนะคะ”
เอิ่ม...คุณพี่ไอ้มินโฮครับ อันนี้ไม่ได้เรียกเขินครับ แต่มันเป็นอาการแบบ ไงดีว่ะ วินิจฉัยไม่ถูก
“โถ..น่าเอ็นดู”
คุณหญิงแม่ยิ้มปลื้มซะเหลือเกิน พรืด~ ขอถอนหายใจเสียงดังหน่อย กูจะบ้า
“ดีนะคะเนี่ยที่ตาโฮยอมตกลงแต่งกับน้องคีย์ ยัยบาร์บี้นั่นหน้าตาสู้น้องสะใภ้คนนี้ของพี่ไม่ได้สักคน”
ไม่ทราบว่ายัยบาร์บี้นั่นคือใคร กูรู้จักมั้ย แล้วเกี่ยวอะไรกับวงจรชีวิตกู แค่นี้ยังยุ่งเหยิงไม่พอหรือไง
“อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิจ๊ะ น้องคีย์ แล้วก็ไม่ต้องกังวลนะ พี่รับรองว่า จะไม่ให้ใครหน้าไหนมาเกาะแกะตาโฮได้อีก” ยัยคุณพี่รีบพูดด้วยสายตาห่วงใย
เดี๋ยวก่อนครับคุณหญิงพี่ ได้โปรดอย่ามองหน้าผมด้วยสายตาแบบนั้น ผมยังไม่ได้คิดอะไรเลยนะนั่น
“หนูคีย์ไม่ต้องกังวลใจนะจ๊ะ แม่ก็จะช่วยด้วยอีกคน”
คือ....
“ใช่ ใครก็ตามที่มาทำให้น้องสะใภ้พี่ต้องวุ่นวาย พี่จะจัดการเอง”
เอ่อ....
“แหม ขอบคุณทุกคนนะคะ ที่เอ็นดูลูกของน้าน่ะค่ะ” แม่ก็อีกคน -*-
คือว่า.....นี่มันเหี้ยอะไรกับ!!!!!
ผมหันไปมองไอ้คุรสามีที่นั่งกินข้าวไม่สนใจใคร กินเอากินเอาอย่างกับพวกอายอดตายอยากมาจากไหน เมิงสนใจกูบ้างมั้ยเนี่ย จะทำเชี่ยอะไรก็ทำสักอย่างสิว่ะ
ไอ้เชี่ย....กูอยากตาย!!
ดูเหมือนหมอนั่นจะสามารถรับรู้สารจากผมได้ มันวางช้อนลงมองไปที่คุณหญิงแม่ที คุณชายพ่อทีแล้วในที่สุดมันก็ยอมปริปากพูดอะไรบ้าง
“เอาล่ะ...แล้วผมต้องทำไง” ไอ้บ้านั่นถามเสียงเรียบ ทุกคนยิ้มแก้มแทบฉีก ปรี่เข้าไปหามันอย่างกับได้ถ้วยรางวัลฟุตบอลโลก
เชี่ย!! ถ้าเมิงจะถามคำถามนี้เมิงนั่งแดรกต่อไปเลย
“หมายความว่า ลูกยอมรับแล้วใช่มั้ย?”
“ก็มันมาถึงขั้นนี้แล้ว ผมจะเลือกอะไรได้”
“แหม พูดเหมือนไม่เต็มใจ” ก็ไม่เต็มใจนะเซ่
“ลูกต้องใช้ชีวิตอย่างสามีภรรยาจริงๆ กับหนูคีย์”
“หา?????” ผมกับมันร้องออกมาพร้อมกัน
“ไม่หาล่ะ แล้วตั้งแต่อาทิตย์หน้าเป็นต้นไป หนูคีย์จะย้ายมาเรียนที่เดียวกับลูก แล้วก็ย้ายไปอยู่ที่เดียวกับลูกด้วย”
“หา?????”
“ไม่หาล่ะ พวกเราเตรียมบ้านของลูกสองคนไว้ให้แล้ว อยู่ลึกเข้าไปในซอยนี้เอง ถัดไปจากบ้านหลังนี้ห้าหลัง บ้านหลังไม่ใหญ่มาก แต่มีความเป็นส่วนตัวสูง ลูกกับหนูคีย์จะต้องย้ายไปอยู่ด้วยกันสองคน แบบไม่มีแม่บ้าน ไม่มีคนรับใช้ ไม่มีอะไรทั้งนั้น ลูกๆ ต้องทำกันเองหมด สร้างครอบครัวกันเองหมด ^6^”
“หา?????”
-----Shadow Me------
หายไปนานกับเรื่องนี้ ไม่มีเวลาแต่งเลย แหะๆ ยังรออ่านกันอยู่รึเปล่าเอ่ย!!!
ถ้ายังรออยู่ ขอกำลังใจหน่อยสิ หุหุ
คิดถึงรีดเดอร์ใจจะขาดเลยแว๊
>w<
ความคิดเห็น