ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fiction : Our Lyrics {Kamikaze Fiction}

    ลำดับตอนที่ #6 : Our Lyrics : Chapter 5

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.17K
      10
      7 มิ.ย. 55

    Chapter 5

     

    ถ้าจะลำบากขนาดนี้รอซื้อหนังมาดูที่บ้านดีกว่ามั้ง

    ประโยคเรียกเสียงหัวเราะที่ทำให้อีกคนหันไปมองเจ้าของเสียงด้วยหางตาผ่านแว่นดำและหัวเราะร่วนออกมา ชุดที่เปลี่ยนหลังจากเสร็จงานคอนเสิร์ตขนาดเล็ก ถึงจะแต่งแค่เพียงเสื้อเชิ้ตแขนยาวพอดีตัวกับกางเกงขาสั้น แว่นดำเพื่อปกปิดใบหน้าอีกหน่อย แต่ก็คงไม่อาจปกปิดกายขาวผ่องที่บ่งบองออร่าถึงความเป็นศิลปินได้

    น้อยคนนักที่เดินผ่านเธอแล้วไม่เหลียวหลังกลับมามองคนข้างๆอีกคราเพื่อให้แน่ใจ. .บ้างก็ไม่สนใจ บ้างก็หันไปซุบซิบกับคนที่เดินมาด้วย บ้างยังหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปด้วยซ้ำ. .รู้สึกประหม่าอย่างบอกไม่ถูก.. ไม่เคยเดินห้างแล้วอึดอัดเท่านี้มาก่อน ความคิดที่ไปไกลว่าอาจจะตกเป็นข่าวกับคนตัวเล็กทำให้เขาเดินออกห่างเธอและทิ้งระยะห่างโดยให้อีกคนนำหน้าไปหนึ่งเมตร

    ดวงตากลมหันหาคนร่างสูงเพื่อจะถามความเห็นว่าอยากดูเรื่องอะไรแต่กลับเจอแต่ความว่างเปล่า หยุดและเหลียวหลังหาร่างสูงที่ค่อยๆเดินมาหยุดข้างเธอ เขายิ้มแห้งส่วนเธอก็ทำได้แค่ขมวดคิ้ว ไม่ทันได้เอ่ยปากถามว่าทำไมถึงเดินช้าขนาดนั้นก็ต้องละความสนใจไปหาเด็กผู้หญิงตัวเล็กคนหนึ่งที่เดินตรงมาหาพร้อมกับโทรศัพท์ในมือ

    พี่ฟาง ขอถ่ายรูปด้วยได้ไหมคะเธอไม่ได้อึกอักแต่กลับตอบตกลงและย่อตัวเพื่อให้อยู่ระดับเดียวกันกับคนตัวเล็ก เมื่อได้รูปแล้วเด็กคนนั้นก็เดินหายไป เธอหันกลับไปมองอีกคนที่เดินทิ้งระยะห่างไปด้านข้างเสียเยอะจึงเร่งฝีเท้าไปดึงเขามาใกล้

    รังเกียจเหรอปล่อยชายเสื้อคนร่างโปร่งให้เป็นอิสระก่อนจะถามปนหัวเราะออกไป รอยยิ้มแหยๆที่ทำให้เธออมยิ้ม อะไรของเขานะ . .อีกคนส่ายหน้าไปมาและทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ก่อนจะเริ่มเดินต่อไป

    เลือกหนังให้หน่อยเอ่ยเบาๆขณะที่เธอและเขามาหยุดอยู่ที่มอนิเตอร์จอใหญ่ที่เลื่อนตารางหนังนับเกือบสิบเรื่องขึ้นไปมา

    อ้าว ที่ชวนมาดูไม่ได้มีหนังที่อยากดูไว้แล้วเหรอ

    อยากดูหนัง แต่ไม่รู้จะดูเรื่องอะไรดวงตาไร้เดียงสานั่นทำให้เขาหลุดยิ้มออกมาและส่ายหน้าพร้อมกับหัวเราะในลำคอ คนอะไร อยากดูหนังแต่มาแบบไม่มีจุดมุ่งหมาย. .น่ารักชะมัดยาก

    งั้นเอางี้เอ่ยออกไปก่อนจะก้าวเท้าไปยังช่องซื้อตั๋วหนังโดยไม่รออีกคน

     

    เอ่อ เอาหนังที่ใกล้เวลานี้ที่สุดครับเอ่ยออกไปอย่างเก้ๆกังๆแต่ยังทิ้งท้ายด้วยน้ำเสียงน่ารักให้พนักงานสาวยิ้มและพยักหน้าก่อนจะก้มลงกดจอคอมพิวเตอร์ให้เขาดู

    กี่ที่คะ

    สองค่ะเบิกตามองราคาที่ปรากฏขึ้นก่อนจะหยิบกระเป๋าหนังดำออกมาและหยิบธนบัตรสีเทาใบเดียวในกระเป๋ายื่นให้ . .เป็นคนไม่ชอบพกเงินเท่าไหร่ ถ้าหมดก็กดเอทีเอ็ม. .

    ไม่นานนักตั๋วสองใบก็อยู่ในมือ กลับหลังหันมาอีกทีคนตัวเล็กก็กำลังวุ่นอยู่กับป็อปคอร์นเต็มกล่องที่เพิ่งซื้อมาใหม่ๆ เดินเข้าไปหาเพื่อช่วยถือแก้วน้ำแก้วใหญ่ให้อีกคนได้จัดการข้าวโพดร้อนถนัดมือ

    นี่ ค่าตั๋วเท่าไหร่เหรอคะคำถามที่ทำให้เขายิ้มบางๆแล้วหยิบป็อปคอร์นในกล่องมากินบ้าง

    ไม่เป็นไร กินไปเถอะ

    เลี้ยงหรอเนี่ยยักคิ้วให้คนร่างเล็กยิ้มกว้างก่อนจะเดินนำเข้าไปยังโรงหนัง ไม่ลืมที่จะหยุดรออีกคนเพราะเกรงว่าคนร่างบางจะหลงแถวที่นั่ง แต่ก็คงไม่ เพราะเธอและเขานั่งชั้นบนสุดของโรงหนัง. .สำหรับดารา ถ้าไม่นั่งบนสุด ก็คงเป็นล่างสุด

    ลำบากเหมือนกันแหะ. .นั่งแถวบนก็กระเป๋าแบนกันหน่อยก็เท่านั้นเอง. .สบายกว่าด้านล่างที่ไม่ต้องเงยคอให้เมื่อย

     

    อ๊ายยยยยยยยยยยยยเสียงคนด้านข้างที่ทำให้เขาต้องสะดุ้งโหยงและจับแขนคนร่างเล็กที่โผเกาะแขนไว้ซะแน่น ก็คงไม่แปลกที่คนตัวเล็กจะตกใจกลัวซะขนาดนั้น ทีแรกก็ไม่ได้รู้หรอกว่าหนังที่ตัวเองไปเลือกให้นั้นจะเป็นหนังผีซึ่ง ตัวเองก็ไม่ได้ดูบ่อยแต่ก็ไม่ได้กลัว. .อีกคนยกสองมือปิดหูและหลับตาปี๋พลางโน้มมาที่แขนเขาเป็นเหมือนเกราะกำบังภาพบนจอยักษ์ หัวเราะในลำคอก่อนจะเอื้อมไปลูบหัวคนตัวเล็กเบาๆ

    กลัวมากมั้ยอีกคนพยักหน้างึกงักและกลับไปอยู่ในท่าเดิม ขดเหมือนกิ้งกือ แตกต่างก็แค่ดูน่ารักเอามากๆก็เท่านั้นเอง

    ออกไปข้างนอกมั้ย

    อื้อออได้ยินแค่เสียงตอบรับเล็ดลอดออกมา แต่ใบหน้ายังคงก้มงุดอย่างนั้น ลุกขึ้นก่อนจะสะกิดให้อีกคนตามออกมาไม่ทันได้ก้าวจนพ้นเก้าอี้ตัวสุดท้ายร่างเล็กก็พุ่งพรวดเพื่อที่จะแทรกตัวออกจากโรงหนังให้เร็วที่สุด. .แต่ตัวเธอเองยังไม่พ้น แล้วฟางจะพ้นได้ยังไงกัน พยายามจะหลบแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว. .ไม่รู้ว่ายังไงแต่สุดท้ายก็ล้มลงไปนั่งกับเก้าอี้ตัวริมสุดโดยมีร่างเล็กที่ทิ้งน้ำหนักทั้งหมดลงบนตักของเขา

    ใบหน้าหวานที่กระแทกลงมาให้ไหล่กว้าง ขาที่หยัดไม่อยู่ด้วยความกลัวที่ทำให้เธอมุ่งแต่จะวิ่งออกนอกโรงหนังทำให้สุดท้ายมาตกอยู่ในอ้อมกอดเขา

    ฟาง ใจเย็นหัวเราะกับใบหน้าเหวอของอีกคนที่ทำท่าจะฟาดมือใส่แขนเขาแต่ก็ลดมือลงและเปลี่ยนเป็นยันกายลุกขึ้นแล้ววิ่งออกไปจากโรงหนังแทน

     

    คืนนี้จะนอนหลับมั้ยเนี่ย เลือกหนังยังไงเนี่ยทำปากบู้พลางเสยผมที่ปิดหน้าขึ้นพลางสะบัดหน้าไล่ภาพน่ากลัวชวนสะดุ้งออกไป เฮ้อ. .กลัวจริงๆนะเนี่ย

    อีกคนทิ้งกายลงกับโซฟาหน้าโรงหนังข้างเธอ มองเขาที่ดูชิวๆ. .เท้าที่วางพาดยาวไม่เกรงใจคนเดินผ่าน หัวที่พิงกับกำแพงและพูดอย่างอารมณ์ดี

    ก็ตอนจองไม่รู้หรอก ก็บอกเขาว่าเอาหนังที่ใกล้ที่สุด แล้วก็จองบนสุดสำหรับคุณดาราไง แต่ไม่นึกว่าจะเป็นหนังผี ไม่นึกว่าฟางจะกลัวขนาดนี้ด้วย ฮ่าๆร่ายยาวจนสุดท้ายก็หยุดยิ้มไม่ได้ หัวเราะออกมานิดๆแต่ใบหน้าของฟางจะขวัญหายไม่จาง เอื้อมมือไปวางลงบนผมบลอนด์เบาและยีมันอย่างเบามือก่อนขะเขยิบไปใกล้และถือวิสาสะโน้มหัวฟูลงมาซบไหล่เขา

    ขวัญเอ๊ย ขวัญมา ฮ่าๆเอ่ยออกไปและปล่อยให้อีกคนหายกลัว

    มันก็แค่หนัง ไม่มีอะไรหรอก

     



    แชะ!

    พึ่บ. .หันควับไปมองต้นเสียงและน้ำหนักที่ไหล่ชองเขาที่ยกขึ้นเร็วไว สัญชาตญาณที่ทำให้เขาต้องลุกขึ้นและก้าวเท้าเตรียมวิ่งออกไปล่าชายคนหนึ่งที่ยกกล้องโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายเขาและฟางแต่ทว่า. .

    ไม่ต้องตามไปหรอก ถ้าแก้วตามไป เรื่องมันจะยาว อีกอย่างเขาจะจำหน้าแก้วได้นะร่างบางเตือนสติและรั้งไว้ด้วยการคว้าแขนเขาไว้. .พยักหน้าเบาๆก่อนจะถอนหายใจอย่างเป็นกังวล

    ถ้ามันเป็นข่าว ก็ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ฟางไม่ทำโปรดิวเซอร์หน้าใหม่เสียชื่อหรอกเหมือนหญิงสาวร่างเล็กกับใบหน้าหวาดกลัวจะหายไปแล้ว เหลือก็แต่คนเดิมที่ทวีคูณความน่ารักเข้าไปอีกเท่าตัว ยิ้มให้กับร่างเล็กที่พยายามทำให้เขาโล่งใจ

    เหมือนวันนี้เราจะผลัดกันปลอบนะ

    ไปเถอะ 

    ผลักแผ่นหลังคนร่างโปร่งให้เดินหน้า เธอคงไม่กลับเข้าไปในโรงหนังนั่นอีกต่อให้มันได้รับรางวัลออสการ์หรือหนังดีเด่น มันน่ากลัวจนขนลุกเกินไป คืนนี้ยังคิดไม่ตกว่าเธอจะนอนได้หรือไม่ อ่า.. จะโทษคนร่างสูงข้างเธอก็ไม่ได้สินะ เดาสุ่มเลือกหนังเพราะเธอไม่ยอมเลือกมาแต่แรก. .ที่จริงเขาเลี้ยงหนังด้วยซ้ำไป

     

    ขอโทษนะ แก้วเสียเงินฟรีเลย ไว้ฟางชดเชยให้นะ เอ่ยพลางยื่นเงินให้กับหญิงสาวประจำร้านไอศกรีมแบรนด์หนึ่ง. .ด้วยความที่ไม่รู้จะทำอะไรจึงเลือกที่จะหาอะไรทานไปเดินไป..นานๆเธอจะได้เที่ยวที

    ก็เพราะไม่มีเพื่อนมาเดินเท่าไหร่นัก. .คนเดียวก็แปลกอยู่ ยิ่งเป็นคนอยู่คนเดียวไม่เป็นอย่างเธอ

    ไม่เป็นไรหรอก พูดเหมือนฟางว่างบ่อยขนาดนั้นว่าพลางกัดไอศกรีมโคนในมือไปอีกคำ มองคนตัวเล็กที่มองรอบๆก้อนขนมหวานว่าจะเลือกกัดมุมไหนก่อนจึงหัวเราะในใจเล็กๆ

    ยังไงแก้วก็ต้องเป็นโปรดิวเซอร์ให้ฟางไม่ใช่เหรอตาใสหันมาสบตาเขาทำให้ยิ้มและนิ่งไปพักหนึ่งก่อนจะแกล้งพูดออกไปให้ฟางฟาดแขนเฉี่ยวเสื้อเขา ดีที่หลบทัน

    เบื่อหน้าตายเลย

                    ฟึ่บ!

    แหน่ะ! ไม่โดนวืด..เพล้ง เสียงเอฟเฟคหน้าแตกและเสียฟอร์มของเธอทำให้ต้องก้มหน้างุดหลบอีกคนที่หัวเราะลั่น กัดของหวานเพื่อคงฟอร์มของเธอ. .เชอะ! มองอีกคนด้วยหางตาที่ทำท่าเดินกินอย่างสบายใจ 

    หมั่นไส้

    อะไรนะโน้มลงไปแกล้งจ้องอีกคนที่ทำหน้าบู้ใส่ นึกขำที่งอนเขาเหมือนเด็กๆ. .ก็แค่หลบทัน ฮ่ะๆ

    คนอะไร เก๊กก็เก๊ก

    ไม่ได้เก๊ก ก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว แก้วว่าก่อนจะจัดการไอศกรีมใหม้หมดเสีย..นี่เขากับฟางกำลังเดินอย่างไม่มีจุดหมาย เดินตามคนตัวเล็กไปอย่างนั้น. .จะไปไหนก็ยังไม่รู้ เหมือนฟางจะเดินไปเรื่อยๆอย่างนั้น

    เท่ดีนะกลายเป็นคำชมที่ทำให้เขาต้องขมวดคิ้วจนคนตัวเล็กหันมามองหน้าและยิ้มบางๆ

    ก็ แมนดี เธอว่าอีกคำชมก่อนจะก้มหน้ากัดขนมปังโคนเพื่อหลบตาเขา ไม่รู้สิ. .ชมแก้วต่อหน้ามัน. .

    . .ยังไงๆ แหะ

    น่ารักล่ะสิน้ำเสียงนิ่งๆทำให้ฟางหลุดขำออกมาก่อนจะตอบอืมออกมาให้ลำคอทำให้เขาต้องอมยิ้มและมองเหมือนว่าอีกคนพูดจริงรึเปล่า. .ทั้งที่ปกติแล้ว ฟางจะกล้ามากกว่าเขาที่คอยหลบตาอยู่เรื่อย คราวนี้มันกลับอยากรู้. .

    ว่าไงนะคำถามที่ทำให้ฟางเงยหน้าขึ้นมายักคิ้วใส่แล้วขยับริมฝีปากเป็นคำทำให้ใบหน้าของเขา..

    ชมว่าน่ารักแค่นี้ต้องหน้าแดงด้วยเหรอ  ฮะๆไม่สนใจอีกคนที่แกล้งเอามือแตะตัวเขาให้สนใจ ซึ่งอีกคนก็ทำเป็นนิ่งและเดินต่อ

    ยิ้มกรุ้มกริ่มที่แก้วทำเป็นเมินเธอและพยายามนิ่งให้ใบหน้าขึ้นสีระเรื่อนั้นจางลงตามเวลา. .และมันก็เป็นเช่นนั้น ใบหน้าเขากลายเป็นเหมือนปกติ ขาวผ่องเช่นเคย แปลกที่ใบหน้าเรียบเฉยกึ่งเย็นชาทำให้เธอจ้องมองอยู่นานพลางอมยิ้ม

    กลับกันยังคำถามกึ่งๆว่าเขาอยากกลับหรือแค่ถามไถ่ทำให้เธอพยักหน้าขึ้นลง. .ที่จริงก็ไม่รู้จะไปไหนต่อ นั่งรถเล่นคงจะดีกว่ามั้ง. .รถติดเช่นเคย

    แสงไฟสีแดงอ่อนๆทำให้บรรยากาศยิ่งดูน่าเบื่อ.. พลางมองรถหลายคันแล่นผ่าน ใบหน้าของเขาก็นิ่งเฉยเหมือนเคย. .แค่เฉยๆเขายังดูดี ยิ้มกับตัวเองเมื่อความคิดแบบนั้นผุดขึ้น..เธอก็แค่รู้สึกคนข้างๆนั้นน่ามองอย่างบอกไม่ถูก. .

    มองอยู่นั่นล่ะ มีอะไรรึเปล่านั่นทำให้เธอต้องเหวอและแกล้งทำเป็นมองตรงไปข้างหน้า

     

    ยังไม่อยากกลับบ้านเอ่ยขึ้นลอยๆก่อนจะเคาะนิ้วกับจังหวะเพลงบนขาเรียวของเธอ

    แล้วจะไปไหนล่ะ สองทุ่มแล้วนะ เขาขยับมือจากพวงมาลัยและวางมันลงที่ใหม่ไม่ห่างจากที่เดิมนัก คาดว่าคงเมื่อยจากการนั่งอยู่ในท่านั้นนานๆ แต่เหมือนเขาจะยังสบายๆ ตามใจว่าเธออยากไปไหนก็ไป

     ไปบ้านโปรดิวเซอร์

    พี่เอบ้านอีกทางเลยนะ

    โปรดิวเซอร์ที่บ้านใกล้ฟางสินั่นทำให้เธอเบิกตากว้างจนเกือบเหยียบเบรกกระทันหัน. .ก็ใครมันจะไปคิด ว่าจู่ๆคนข้างๆจะพูดว่าอยากไปเที่ยวบ้านเขา . .บ้านใหม่ที่ยังไม่สมบูรณ์แบบเท่าไหร่ เหลืออีกห้องหนึ่งที่ยังเหลือ..

    ล้อเล่น อย่าทำหน้างั้นสิ กลับบ้านแหละใบหน้าเหวอทำให้เธอรู้สึกใจไม่ดี บางทีก็อาจจะล้ำเส้นหรือสนิทกับเขาไวเกินไป. .นิสัยของเธอที่อาจเข้ากับคนอื่นง่ายหรือเร็วไปจริงๆ

    ถ้ายังไม่อยากกลับจริงๆ ไปบ้านแก้วก่อนก็ได้รอยยิ้มนั่นปรากฎขึ้นจางๆและหันมาให้เธอเห็น. .สบายใจ และพยักหน้าให้เป็นไปตามนั้น.. รู้สึกโล่งที่เขาไม่ถามว่าทำไมต้องไป. .เห็นผลที่มันปรากฎชัดในใจ

    ว่าไม่อยากอยู่คนเดียว. .

     

    ก็แค่เบื่อกับการกลับบ้านไปเจอบ้านเดิมๆ. .ห้องนอนเดิมๆ..ไม่รู้สิ ก็แค่เบื่อ. . เหงา ล่ะมั้ง

     

    อยู่คนเดียวเหรอคำถามที่ผุดขึ้นเมื่ออีกคนปล่อยให้เธอเดินสำรวจอย่างสบายใจ ยกเว้นห้องชั้นสองที่เธอไม่กล้ายุ่งย่ามมาก นั่งลงกับโซฟากว้างพร้อมกับรับโกโก้ร้อนในแก้วขาวมาในมือ จิบมันตามมารยาทแต่สุดท้ายก็กลับวางไม่ลง ปล่อยให้อีกคนขำเธอเหมือนที่กำลังกินโอวัลตินไม่วางมือ

    อร่อยใช่ไหม

    เคยเป็นบาริสต้าเหรอคำถามที่ทำให้เขายิ้มก่อนจะตอบออกไป

    ตอนม.ปลายเคยช่วยน้าทำร้านคอฟฟี่ช็อปน่ะ

    บอกสูตรมั่งสิ

    ไม่ได้ สูตรของน้า ห้ามเผยแพร่พองลมเหมือนเด็กอย่างเสียดาย มองน้ำหวานสีน้ำตาลเข้มในแก้วที่เหลือเพียงครึ่งเดียว. .รู้สึกว่ามันหอมหวานกลมกล่อมอย่างบอกไม่ถูก.. ความรู้สึกที่ไม่เหมือนคอฟฟี่ช็อปทั่วไป

    แล้วจะได้กินอีกไหมล่ะ ส่งสายตาเจ้าเล่ห์ไปหาใบหน้าคมที่ยิ้มและเอ่ยออกมานิ่งๆ

    เดี๋ยวทำใส่กระติกให้กลับไปกินบ้านเลยเอามั้ยสุดท้ายก็หัวเราะร่วนออกมาทั้งคู่ คนร่างโปร่งตัดสินใจลุกขึ้นก่อนจะเรียกให้คนตัวเล็กเดินตามเขาเข้าไปในครัว ไม่นานนักก็เลื่อนตัวเองขึ้นไปนั่งบนเคาท์เตอร์ที่ตั้งกลางห้องครัว บอกให้คนร่างบางหยิบแก้วเปล่าและกดน้ำร้อนใส่ จากนั้นก็บอกสูตรอัตราการใส่ส่วนผสมต่างๆ จนสุดท้ายเมื่อเสร็จแก้วนั้นก็เข้ามาอยู่ในมือเขา.. ยกมันขึ้นลองชิม ก่อนจะทิ้งให้รสชาติไหลลงคอไปช้าๆ

    ยังไม่เสร็จแหย่ให้อีกคนทะลึ้งตาใส่ก่อนจะบ่นอุบว่าเธอก็ทำตามสูตรเขาแล้ว ปล่อยให้อีกคนบ่นก่อนจะหยิบนมสีขาวโพลนลงลวดลายบนโกโก้. .การกระทำของเขาทำให้คนตัวเล็กเบิกตากว้างเหมือนเด็ก. .ทั้งๆที่อายุทั้งสองคนก็บรรลุนิติภาวะมาได้ซักพัก นึกขำที่ฟางดูตื่นเต้นและอยากทำได้บ้าง

    มองรูปบนโกโก้ที่เป็นสีขาวตัดกับสีน้ำตาลทำให้เห็นเป็นรูปเด่นชัด. .รูปหัวใจ.. ที่ทำให้เธอใจเต้น เผลอคิดไปเองว่าเขาตั้งใจก่อนจะสะบัดหัวไล่ความคิด. .ลายนี้อาจจะทำง่ายสุดล่ะมั้ง. .อีกอย่าง ใครๆเขาก็ทำเป็นลายนี้ ยิ้มกับสิ่งที่ปรากฎตรงหน้าที่เขายื่นมันให้มาอยู่ในมือเธอ. .ยิ้มกว้างบนใบหน้าหล่อเหลาทำให้เธอเอ่ยขอบคุณออกไป

    ขอบคุณ. .สำหรับความสุขวันนี้

    จำสูตรไม่ได้แล้วยกมือขึ้นเกาหัวแก้เก้อเขิน . ถึงวิธีของเขามันไมได้มากมาย แต่ก็พิถีพิถันอยู่ ใส่ครึ่งช้อนบ้าง เต็มบ้าง พูนบ้าง . .นึกไม่ออกว่าอะไรเป็นอะไร ความจำของเธอกำลังปนกันมั่วซั่วไปเสียหมด

    ไว้โอกาสหน้าจะทำให้กินอีกละกันยกที่เหลือในแก้วให้คนตัวเล็กเป็นคนจัดการ ส่วนตัวเองก็ลุกออกจากเคาท์เตอร์และมุ่งไปยังอ่างล้างแก้วและจัดการให้เรียบร้อย

    ปล่อยให้คนร่างบางส่งเสียงพูดคุยเจื้อยแจ้วอย่างนั้นพลางทำความสะอาด.. หันไปมองคนตัวเล็กที่กระดกจนหมดแล้วยื่นแก้วใบนั้นให้เธอ รับมันมาและเก็บกวาดใบสุดท้ายให้เรียบร้อยก่อนจะจัดเก็บเข้าตู้

     

    5 ทุ่มกว่าๆ. .ยกโทรศัพท์ขึ้นดูเวลาในขณะที่รถคันหรูสีดำกำลังเคลื่อนเข้าสู่หน้าบ้านของเธอ. .เปิดประตูรถและเอ่ยขอบคุณก่อนจะปิดมันและโบกมือลา. .ยกมือขึ้นป้องปากที่หาวนอนด้วยความอ่อนเพลีย

    . .ดีเหมือนกัน ที่ไม่ต้องอยู่คนเดียว. .กลับบ้านก็นอนเลยแบบนี้

    อยากให้เป็นแบบนี้ทุกวัน. .

     

    อา. .อยากดื่มโกโก้ร้อนทุกวันด้วย




















    © Tenpoints !

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×