คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Our Lyrics : Chapter 4
Chapter 4
มองสองร่างร่วมโต๊ะอาหาร. .ดูเหมือนจะคุยอะไรกันเรื่องอาหารหรือกับข้าวบนโต๊ะ ถ้าเขาเงี่ยหูฟังไม่ผิด จับใจความได้ทำนองไถ่ถามว่าอันนี้ไม่กินเหรอ ไม่ชอบกินอันนั้นเหรอ เอากับข้าวอย่างนั้นมั้ย เติมน้ำให้มั้ย หรือว่าสิ่งที่ตนกำลังล้อเล่นกับรุ่นน้องทั้งสองมัน. ..สะบัดหัวไล่ความคิดก่อนจะลุกขึ้นนำจานเปล่ากับท้องอิ่มๆไปยังห้องครัว
แก้ว. .ไม่หรอก มันต้องรอแฟนเก่าจากออสสิ
ฟาง. .ฟางคงไม่คิดจะมีแฟนตอนนี้หรอก
ก็คงสนิทกันเหมือนเพื่อนทั่วไป. .เชื่ออย่างนั้นจึงปล่อยให้เด็กสองคนกุ๊กกิ๊กตามภาษาเพื่อนวัยรุ่น นำเนื้อเพลงที่แก้วแต่งไว้เสร็จเข้าห้องทำเพลงเสียจะดีกว่า
รู้สึกเหมือนตัวเองกินข้าวช้าเป็นพิเศษ ส่วนมากจะเขี่ยและตักมันเชื่องช้าเสียเหลือเกิน. .มัวแต่คุยกับอีกคนจนลืมเวลา. .รู้ตัวอีกทีโปรดิวเซอร์คนโตของเธอก็หายไปแล้ว เหลือแต่คนร่างโปร่งที่นั่งข้างๆเธอ ไม่รู้สิ. .มองเขายิ้มแบบนั้นก็อยากจะพูดให้เขายิ้มต่อ. .บทสนทนายืดยาวที่จับใจความได้แต่เรื่องที่ไม่ค่อยมีสาระเท่าไหร่ เช่น แก้วไม่ชอบกินผัก ชอบกินน้ำเย็นที่มีน้ำแข็งในแก้วเยอะๆ ชอบกินข้าวคำน้ำคำ ไม่ชอบกินเผ็ด ชอบกินหวาน บางวันตื่นสายก็กินมื้อเย็นแค่มื้อเดียว. .ไม่รู้ว่าอะไรเยอะแยะเรื่องมากแบบนี้ แต่ก็น่ารักดีนะ ชอบกินน้ำเย็นที่มีน้ำแข็ง น้ำเย็นเฉยๆไม่ได้
“อิ่มยัง” เสียงทุ้มเอ่ยพลางมองอีกคนพยักหน้า คว้าจานของเธอและเขามาไว้ในมือก่อนจะนำไปล้างให้เรียบร้อยโดยมีฟางช่วยล้างแก้วให้
แก้วเพียงสามใบแน่นอนว่าคงเสร็จก่อนเธอเป็นแน่ คนตัวเล็กกำลังจะกลายเป็นตัวยุ่งเมื่อเธอไม่ยอมนั่งรอบนเคาท์เตอร์ครัวแต่กลับมาวุ่นวายแถวๆเฮดโฟนของเธอ
“อยากฟังมั่ง” จานใบสุดท้ายถูกวางคว่ำก่อนจะเช็ดมือกับผ้าที่แขวนไว้ให้แห้งและกลับหลังหันไปหาคนร่างเล็กที่เงยหน้ามองเธอตาใส “เท่อ่ะ” คนร่างโปร่งหัวเราะก่อนจะถอดมันออกและสวมให้เธอ. .คนแรกที่ได้ยุ่งกับเฮดโฟนตัวโปรดของแก้ว. .ระยะที่ใกล้พอจะสวมให้อีกคนทำให้เธอหลบสายตาเขา . .ทำไมต้องหลบล่ะ ..นั่นสินะ
ตัดสินใจเงยหน้าขึ้นมองนัยน์ตาคมนั่นที่จ้องมองลึกลงไปในดวงตากลมโตของเธอ.. และกลายเป็นเขาที่มองเธอกับเฮดโฟนสลับไปมา. .ไม่กล้ายิ่งกว่าเธอด้วยซ้ำ หัวเราะเล็กๆเมื่ออีกคนหยิบไอพอดทัชขึ้นมาและใส่ไว้ในมือเธอ
“อยากฟังอะไรก็เลือกเอานะ” ยิ้มกว้างๆก่อนจะเดินออกจากห้องครัวและตามพี่เอเข้าไปในห้องโฮมสตูดิโอ ส่วนเธอก็ได้แต่ก้มลงมองลายชื่อเพลงในไอพอดของเขา. .ส่ายหน้าพร้อมรอยยิ้มเล็กๆเมื่อพบว่าสไตล์เพลงต่างๆถูกแยกเป็นไฟล์อย่างเป็นระเบียบ. .เพลงรักช้าๆที่มีจำนวนน้อยที่สุด
เลื่อนลงเรื่อยๆก่อนจะสะดุดตากับชื่อลิสต์. .ชื่ออัลบัมแรกของเธอ กดเข้าไปด้วยความแคลงใจก่อนจะพบว่าเขาโหลดเพลงเธอมาใส่ครบทุกเพลง. .ยิ้ม แค่นั้นล่ะที่เธอรู้สึก
แต่คง. .เอามาศึกษาแนวเพลงของเธอล่ะมั้ง
สุ่มเลือกเพลงไหนซักเพลงก่อนจะนั่งลงกับโซฟากลางบ้าน. .เบื่อที่ต้องฟังแต่เพลงจึงถือวิสาสะค้นอย่างอื่นในเครื่องแทน. .แต่ก็ต้องพองลมเมื่อพบแต่ความว่างเปล่า. .รูปที่ถ่ายแต่วิวกับเครื่องสตูดิโอ เฮดโฟน และเทคโนโลยีที่ใช้ทำงาน. .มีแต่รูปแบบนี้งั้นเหรอ?
ใส่อะไรน่าสนใจลงไปบ้างสิ
“ทำอะไรอยู่หนุ่มๆ” เสียงทักทายของเธอไม่ได้ทำให้พี่เอเบี่ยงความสนใจเท่าไหร่ นั่งลงข้างๆคนร่างสูงที่นั่งคนละมุมกับพี่เอ โซฟาตัวไม่ใหญ่มากที่ยุบตัวลงเมื่อเธอทิ้งกายข้างเขา อีกคนตอบและเธอก็ระบายยิ้มออกมา
“ทำเพลงให้คนแถวนี้”
“อยากเห็นเนื้อเพลงอ่ะ” ร้องขอมีเหรอเขาจะไม่ยอม ยื่นกระดาษเนื้อเพลงที่เขากำลังทำความมั่นใจว่าเนื้อหาของมันควรจะเป็นอย่างที่แต่งหรือเปล่า อาจจะปรับเปลี่ยนนิดหน่อยเพื่อให้ไม่ซ้ำกับใครและมีเอกลักษณ์ เนื้อเพลงแนวอกหักที่เรียกว่าหากเป็นตอนสมัยมัยธยมแค่อ่านก็น้ำตาคลอ . .แต่งดีเหมือนกันแหะ
“ร้องให้ฟังหน่อยสิ”
“รอคนไกด์เอาดีกว่ามั้ยคะ” เธอหัวเราะกับคำลงท้ายของแก้วแต่ก็เซ้าซี้อยู่นานจนเขายอมร้องท่อนคอรัสให้ฟัง
เสียงเขาก็ไม่เลวนักหรอก. .แต่ท่าจะเหมาะกับเพลงผู้ชายมากกว่า
“เพราะเนอะ ใครแต่งก็ไม่รู้” หัวเราะร่วนกับคนร่างสูงที่เริ่มพูดเก่งขึ้นเป็นกอง ก่อนจะเงยหน้าและเงี่ยหูฟังพี่เอที่กดทำนองมั่วไปหมด ยังไม่มีท่าทีว่าจะเรียบเรียงเสร็จในเร็ววันเท่าไหร่..คงลองซาวน์ใหม่ๆดูล่ะมั้ง
“ช่วยมั้ยพี่เอ” เขาเอ่ยก่อนจะลุกไปดูคนร่างหนายกมือขึ้นเกาหัว
“ไม่เป็นไร แกแต่งเนื้อทั้งเพลงกับตีคอร์ดคร่าวๆก็ทำเยอะแล้ว อยากทำเหรอ” ไม่ได้เงยหน้าจากงานที่กำลังทำ แต่กดคีย์บอร์ดลองหลายๆจังหวะจนเธอปวดหัวแทน. .เพลงช้าหรือเพลงเร็วกัน ทำไมกดเยอะแยะแบบนี้
วิถีโปรนิเนอะ. .อย่ายุ่งเลย
“งั้น ไว้พี่เอทำเสียงกลองกับเบสเสร็จแก้วค่อยมาเติมอย่างอื่นแล้วกัน” ชายหนุ่มพยักหน้าและเหมือนจะไล่ให้เธอกับฟางออกไปนอกห้องจะได้ไม่รบกวนสมาธิ เดินออกไปโดยมีคนร่างเล็กวิ่งตามออกมา
ยกนาฬิกาที่มือขึ้นก่อนจะจ้องมองมัน. .เวลาผ่านไปเร็วเสมอ ที่บอกพี่เอว่าอยากลองทำมันก็แค่ข้ออ้างที่เธอพูดไปงั้นๆทั้งที่ความจริงแค่จะมานั่งเล่นผลาญเวลาไปอย่างนั้น หยิบเฮดโฟนของคนร่างโปร่งออกก่อนจะสวมใส่คออีกคนที่เดินอยู่ข้างหน้าเธอ เขาสะดุ้งก่อนจะหันกลับและสะบัดเฮดโฟนหลุดออกจากบ่า
“เฮ้ย!” เสียงทุ้มตะโกนก่อนจะเอื้อมมือรีบคว้ามัน จังหวะเดียวกันที่เธอรีบโน้มลงไปรับ กระแทกร่างเล็กเข้าอย่างจังก่อนจะล้มลงไปกองกับพื้นทั้งคู่โดยที่คนร่างบางลงไปอยู่ใต้ร่างโปร่ง เฮดโฟนที่สองมือประคองยังคงปลอดภัย ในสภาพที่ดูไม่ค่อยดีนัก มือกร้านเลื่อนของในมือในวางลงกับพื้นให้พ้นทางก่อนจะเผลอเหยียบมันก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นและดึงร่างเล็กขึ้นมา
“เจ็บมั้ย ขอโทษนะ”
“ไม่เป็นไร ขอโทษนะ เกือบทำตกแหน่ะ” เธอว่าและทัดผมที่ปรกหน้า มองอีกคนก้มลงไปหยิบเฮดโฟนขึ้นมาแล้วยัดมันใส่กระเป๋าจะได้ไม่เกิดเหตุอันตรายต่อมัน แก้วหันมายิ้มให้เธอก่อนจะแบมือขอไอพอดของเขาคืนด้วย
มือเล็กกำลังจะส่งมันให้เขา มองใบหน้าหวานที่เม้มปากเป็นเส้นตรงเหมือนมีอะไรบางอย่างทำให้เขาขมวดคิ้วเล็กๆ ฟางชะงักมือก่อนจะเดินอ้อมตัวเธอแล้วหยิบไอพอดใสกระเป๋าเป้เขาแทนที่จะยื่นให้ ฟางหันมายิ้มแห้งๆก่อนจะรูดซิปให้พร้อม เกาหัวก่อนจะเดินไปหากระเป๋าหนังสีน้ำตาลของตัวเองแล้วหยิบมันขึ้นมาแต่มือเล็กของฟางก็ยันไว้
มองอีกคนด้วยความสงสัยแต่ฟางก็ทำท่าทางแปลกๆอีกแล้ว มีอะไร?
มือนุ่มจับมือเขาเอาไว้ก่อนจะลากไปฝั่งริมของโซฟาโดยมีฟางที่นั่งคั่นระหว่างเขากับกระเป๋า
“มีอะไรเปล่าเนี่ย แปลกๆนะ”
“เปล๊า” ตอบเสียงสูงก่อนจะจับให้แก้วนั่งเฉยๆ
ก้มลงมองมือตัวเองที่ฟางจับไว้แน่นให้เขานั่งนิ่ง. .ก็นิ่งแล้วแต่ฟางก็ไม่ยอมปล่อยเสียที ก็รู้แหละว่ามีอะไร แต่ไหนๆของในกระเป๋ามันก็เป็นของเธอ กลับบ้านไปค่อยดูก็แล้วกัน จ้องมือฟางอยู่นานจนอีกคนคงสังเกต และรีบดึงมือออก
นิ่งอยู่นานกระทั่งฟางทำลายความเงียบด้วยสิ่งที่ทำให้เธอแปลกใจ
ฟางชอบทำให้เธอประหลาดใจอยู่เสมอ. .และวันนี้ก็เป็นคำว่า
“ถ่ายรูปด้วยกันนะ”
ไม่ทันได้ตอบตกลง แบล็คเบอรี่สีสันของเธอที่เหมือนของเล่นเด็กก็ถูกหยิบขึ้นมาก่อนจะยกลอยในอากาศ กลับด้านและตั้งตรงหันกล้องมาหาเธอกับฟาง ร่างที่เบียดมาใกล้พร้อมกับกลิ่นหอมทำให้เขาต้องยิ้มสู้กล้องไปพร้อมกับฟาง. .ก็ขนาดนี้แล้วจะปฏิเสธยังไงกัน
หงายกลับมาดูผลและกดเซฟเก็บไว้. .ไม่นานนักฟางก็นำไปตั้งเป็นรูปดิสเพลย์ของบีบีเธอ และจู่ๆก็ทำเธอสะดุ้งด้วยการเงยหน้ามามองและเอ่ยอะไรที่ทำให้เธอใจเต้นดังกว่าปกติ
“แก้วเล่นบีบีมั้ย ขอพินหน่อย” เอ่อ. .ค้างท่าที่จะลุกหรือจะนั่งทำให้ฟางโพล่งตาเชิงคำถาม
“อยู่ในกระเป๋าน่ะ” อ้าปากร้องอ๋อก่อนจะเป็นคนหยิบของในกระเป๋ามาให้เขา เจอไอโฟนเครื่องนึงกับแบล็คเบอรี่สีขาวอีกอันทำให้เธอมึนงง
“ใช้มือถือสองเครื่องเลยเหรอ” หยิบออกมาทั้งสองอันก่อนจะให้เขารับไป
“เอาไว้คุยกับเอาไว้เล่นเกม” ตอบพลางเปิดบาร์โค้ดให้ฟางสแกนมันไปด้วยความที่เธอจำพินรหัสประจำแบล็คเบอรี่ของตัวเองไม่ได้
“ขอเบอร์ด้วยได้มั้ย” ผู้หญิง..ขอเบอร์เธอก่อน
ว้าว. ..
อึกอักก่อนจะชูมือถือสองเครื่องในมือขึ้นในอากาศ
“เอาสองเบอร์เลยก็ได้” ยิ้มตาหยีให้ก่อนจะหยิบมากดเบอร์ของเธอและโทรออก
“เมมด้วยนะ” ไม่ทันได้กดเมมฟางก็เอามือถือเธอไปเมมชื่อตัวเองเสียเรียบร้อย. .จะบอกทำไมถ้าอย่างนั้น ที่จริงถ้าฟางจะค้นกระเป๋าแก้ว หยิบมือถือสองเครื่องออกมาแล้วกดเมมเบอร์ แอดอีเมล แอดพิน ฟอลโล่วทวิตเตอร์ แอดเฟสบุ๊ค แอดสไกป์ เลยก็ได้นะ. . ขนาดนี้แล้วก็
พยักหน้าแล้วก็หลุดหัวเราะออกมา ขำตัวเองที่ทำตามคุณนายข้างเธอทุกอย่าง ในที่สุดวงจรการติดต่อของเธอกับฟางก็ครบทุกทางแล้ว. .เขินเล็กๆที่เป็นผู้หญิงมาขออะไรเธอเยอะขนาดนี้. .ก็ไม่เคยมองผู้หญิงคนอื่นนอกจาก..
“เอามาก็เอาไปเก็บที่เดิมให้ด้วยนะ” เลิกคิดฟุ้งซ่านแล้วสั่งให้อีกคนนำไปเก็บที่เดิม
“ฟางไม่ชอบขับรถเหรอ” มองคนร่างบางที่ส่ายหน้าไปมาระหว่างหยิบซีดีนับสิบแผ่นของเขาจากช่องเก็บของหน้ารถออกมา มือกร้านชะงักจากการเอื้อมไปหยุดการกระทำซนๆนั่นก่อนจะปล่อยให้ฟางเล่นต่อไป มองนาฬิกาดิจิตอลหน้าปัดรถที่บอกเวลาเกือบเที่ยงคืน เผลอไผลนั่งเล่นที่บ้านพี่เอนานไปหน่อย มัวแต่คุย
“ซื้อรถขนาดนั้นก็น่าจะขับโชว์นะ” แต่ก็คงเปลืองน้ำมันน่าดู...
“มันไม่ใช่ของฟางหรอก ของน้องสาวน่ะ”
“ฟางมีน้องสาวด้วยเหรอ”
“อื้ม ชื่อเฟย์ มันซื้อมาขับแล้วบอกไม่ถูกใจเลยโยนคันนี้ให้ฟางแล้วไปซื้อเฟอรารี่สีแดงแทน ดีเนอะ” หันควับไปยังอีกคนที่พูดหน้าตาเฉย
ง่ายจริง ไม่อยากขับก็โยนทิ้งให้คนอื่น
“ไปเอาเงินมาจากไหนกันเนี่ย”
“พ่อชอบรถน่ะ ก็เลยสนับสนุน” ถ้างั้นแบ่งกันซักคันก็ได้นะ. .หัวเราะในใจกับความคิดตัวเอง ปล่อยให้ฟางวุ่นกับการเลือกซีดีเต็มหน้าตักเธอเพื่อเปิดฟังเสียที
นิ่งอยู่ครู่หนึ่งกว่าอีกคนจะเลือกแผ่นได้ เธอเอนหลังพิงเบาะนุ่มก่อนจะร้องคลอตามมันไป. .เสียงทุ้มของโชเฟอร์แทรกขึ้นทำให้เธอฉีกยิ้มออกมาบางๆ
“งั้นวันหลัง อยากได้โชเฟอร์ก็บอกนะ”
“ทุกวันเลยได้มั้ย” ตอบเสียงทะเล้น แต่ก็มองอีกคนด้วยสายตาจริงจัง. .ถึงหน้าเธอจะยิ้มร่ากับเขาก็เถอะ
หวังเหรอ?. .คงงั้นล่ะมั้ง
“ค่อยว่ากันก็แล้วกัน” หัวเราะในลำคอก่อนจะตอบออกไป เอื้อมไปยีหัวคนตัวเล็กเบาๆด้วยความหมั่นไส้ พอสนิทก็ถึงกับจะเริ่มใช้กันแล้วเหรอ. .ไอตัวแสบ
ส่งหางตาไปยังอีกคนที่เริ่มคุกคามร่างกายเธอด้วยการเอื้อมเอามือยาวนั่นมายีหัว . .ไม่ได้ถือสาอะไร แต่ก็แอบนึกขำๆกับตัวเอง. .นี่เขาถือว่าเราสนิทกันขนาดมาเล่นหัวเธอแล้วใช่ไหมเนี่ย ทำเป็นส่งสายตาค้อนไปให้อีกคนหัวเราะเล่นก่อนจะส่งเสียงฮัมตามเพลงระหว่างเดินทาง
“Baby baby baby Oh like baby baby baby no like~” เสียงของคนอารมณ์ดีก้องไปทั่วห้องนอนพลางร่างนั้นทิ้งกายลงกับเตียงนุ่ม ล้วงกระเป๋าเป้ส่วนตัวพลางควานหาไอพอดเพื่อหยิบมันออกมาชาร์ตก่อนที่เครื่องจะดับ รู้สึกถึงเครื่องเล่นเพลงรูปทรงแบนสี่เหลี่ยมจึงหยิบออกมาก่อนจะกดปุ่มกลมด้านล่างเพื่อเช็คว่าเหลือพลังงานอีกกี่เปอร์เซนต์
“เห้ย!” พลันทิ้งไอพอดลงกับเตียง
“หยิบสลับกันเปล่าวะเนี่ย” หยิบมันขึ้นมาดูใหม่ก่อนจะพบว่าวอลเปเปอร์ของไอพอดเธอไม่ใช่รูปตัวโน๊ตดังเดิม แต่กลับเป็นใบหน้าหวานกำลังยิ้มแฉ่งให้เขา สีที่ใช้โปรแกรมถ่ายภาพปรับนิดหน่อยทำให้ดูอาร์ตขึ้นมา. .เพ่งมองคนในรูปนั้นก่อนจะยิ้มและพึมพำออกมาเบาๆ
“ตัวแสบเอ๊ย” ยิ้มกว้างๆและเลื่อนไปอีกหน้าก่อนจะเข้าไปดูคลังรูปว่ามันใช้ของเธอรึเปล่า. .หรือเธอทำอะไรกับไอพอดของเขาบ้าง สิ่งที่น่าสนใจเพิ่มขึ้นเกือบสิบรูป. . เต็มไปด้วยฟาง ฟาง และฟาง ดูท่าฟางจะลองใช้เอฟเฟคทุกแบบในนั้นเลยก็ว่าได้. .สนุกล่ะสิไอตัวแสบ เล่นถ่ายรูปตัวเองไว้บนไอพอดคนอื่น
ขำกับหน้าตาน่ารักหลายรูปแบบของคนตัวเล็กที่ยิ้มบ้าง บู้บ้าง แลบลิ้นบ้าง. .นี่คิดว่ามันเป็นไอพอดของเธอรึไงกัน? ไม่อายมั่งเหรอ . .ท่าจะมั่นนะ ฮ่ะๆ
นึกบางอย่างได้จึงรีบเอาไอพอดชาร์ตก่อนมันจะดับไปแล้วเอื้อมไปหยิบบีบีของเธอขึ้นมา นอนหงายก่อนจะยกบีบีขึ้นเหนือตัวและไล่หาชื่อคอนแทคคนใหม่ที่ไม่ค่อยคุ้นนัก ชื่อบีบีที่ตั้งเป็นชื่อของตัวเองทำให้เขาหาได้ง่ายขึ้น
‘tons of ur pics is on my ipod, u know it’s not yours right?’ รูปของเธออยู่ในไอพอดฉันเยอะไปหมด..เธอรู้ว่ามันไม่ใช่ของเธอใช่มั้ย
ไม่นานนักเสียงบีบีก็ดังขึ้น ตอบไวแหะ กดเพื่ออ่านข้อความตอบกลับก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ
‘I know, im cute right? Hahaha :P’ รู้สิ ฉันน่ารักใช่ไหมล่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า
‘makkkkkkkkk , jon tong tung pen wallpaper loey!’ มากกกกกกกก จนต้องตั้งเป็นวอลเปเปอร์เลย ..ส่งภาษาคาราโอเกะออกไปพร้อมกับยิ้มให้แบล็คเบอรี่ ผู้หญิงคนนี้หลงตัวเองชะมัด . .หลุดหัวเราะออกมาอีกครั้งเมื่อคู่สนทนาตอบ. .
‘oyy kern >///< hehe , so u will see my face everyday ngai ka ;P’ โอ๊ย เขิน ฮี่ๆ คุณจะได้เห็นหน้าฉันทุกวันไงคะ
อีโมแลบลิ้นทำให้เขาหุบยิ้มไม่ลง ทาบมันลงกับหน้าอกก่อนจะหายใจออกแรงๆ กำลังยิ้มกว้างจนแทบเอามือสองข้างปิดหน้าตัวเอง
ทำไมน่ารักแบบนี้นะ ไม่ไหวแล้ว
นิ้วเรียวกดส่งออกไปว่าขอตัวไปอาบน้ำก่อนจะวางมันไว้หัวเตียงและไม่แตะมันอีก.. ไม่เอา เดี๋ยวยาว คุยกับคนคุยเก่งคงไม่ได้เป็นอันทำอะไรแน่ๆ ดึกแล้ว ควรนอน พึมพำกับตัวเองสองสามประโยคก่อนจะหยิบเสื้อผ้าและมุ่งสู่ห้องน้ำทันที
หลงตัวเอง. ..ที่สุดในโลก!
หัวเราะกับตัวเองที่ชอบทำตัวแบบนี้ ไม่นึกว่าแก้วจะทักมาก่อน ทีแรกตกใจจนไม่รู้จะตอบอะไร คิดอยู่ครู่หนึ่งจึงตอบออกไป เธอกำลังขำตัวเอง เขาดูจะสนุกไปด้วยแหะ. .ยิ้มอย่างเก้อเขินที่อวยตัวเองเสียมากจนลืมตัวพลันนึกขึ้นได้
สนิทกันขนาดนั้นแล้วสินะ
หวังว่าเขาคงไม่มองว่าเราหลงตัวเอง แค่ล้อเล่นนิดหน่อยเอง ยิ้มกับแบล็คเบอรี่ก่อนจะกดอ่านข้อความสุดท้ายของเขาก่อนที่จะหายไป. .คงจะไปอาบน้ำอย่างว่า เมื่อเธอส่งตอบกลับไปว่าโอเค ตามสบายกับอีโมหน้ายิ้ม แต่มันจะยังไม่ขึ้นตัวอักษรว่าเขาได้อ่านข้อความแล้ว
งั้นขอตัวไปอาบน้ำบ้างก็แล้วกัน. .
โยนมันไว้สักแห่งบนเตียงแล้วเข้าไปทำภารกิจให้เรียบร้อยเสีย ไม่นานนักก็ออกมาพร้อมกับชุดนอนสีชมพูหวานๆสีโปรดของเธอ ไม่ค่อยคิดอะไรมากกับสีชมพูอ่อนของมัน เพราะยังไงก็ไม่มีใครเห็นเธอตอนกลางคืนอยู่แล้ว พิงกายลงกับหัวเตียงที่ชิดกำแพงก่อนจะหยิบใบตารางออกมาคลี่ดู. .พรุ่งนี้มีร้องเพลงที่พารากอนตอนบ่ายโมง ก็ดีนะ อาจจะได้ช็อปปิ้งเดินเล่นต่อคนเดียวสบายๆ..
เหลือบมองโทรศัพท์ที่มันเงียบหายไป. .เธอยังไม่ง่วง กดเข้าไปดูคอนแทคที่เธอคุยค้างไว้ก่อนจะพิมพ์ประโยคหนึ่งลงไป
‘still there?’ ยังอยู่มั้ย. . ถามออกไป ไม่แน่อีกคนอาจจะนอนไปแล้ว แล้วนี่เธอไปกวนเวลาเขารึเปล่า ลืมคิดไปสนิทก่อนจะกดส่ง.. อ่า ไม่ทันแล้วล่ะฟาง
‘yep, mee aria pow?’ ยังอยู่ มีอะไรเปล่า. .ภาษาคาราโอเกะตามถนัดถูกส่งกลับทันที. .มันอยู่ในมือเขาอยู่แล้ว. .มันเปิดหน้านั้นอยู่แล้ว เขากำลังจะพิมพ์บางอย่างลองทักฟางดูแต่ฟางกลับทักมาก่อน. .ไม่รู้สิ
ก็แค่อยากคุยด้วย. .ยิ้ม
‘tmr available mai?’ พรุ่งนี้ ว่างมั้ย
‘sure, free mak haha’ แน่นอน ว่างมาก ฮ่าฮ่า
อืม พรุ่งนี้ได้ตื่นสาย ไม่มีงาน เรื่องเพลงพี่เอก็ทำไปเถอะ ขี้เกียจ. .คำเดียวที่หยุดทุกอย่างไว้ ทิ้งกายลงนอนและหยิบบีบีขึ้นอ่าน
‘I got work @paragon tmr 1pm , yark doo movie after work but mai mee friend doo’ มีงานพรุ่งนี้ที่พารากอนตอนบ่ายโมง อยากดูหนังหลังเสร็จงานแต่ไม่มีเพื่อนดู
เขาไล่อ่านก่อนจะรีบคว่ำบีบีลงกับเตียงใหญ่ซะ. .มันค้างไว้แค่นั้น. .ให้มันหยุดไว้ก่อน
เขาอยากลุ้น
ความคิดบ้าๆทำให้หัวเราะตัวเองเบาๆก่อนจะจ้องมองบีบีสีขาวที่เห็นเพียงด้านหลังของมัน. .อย่าเพิ่งอ่าน. .อย่าเพิ่งอ่าน. .
อดใจได้ไม่ถึง1นาทีก็ต้องคว้ามันมา. .ปลดล็อค.. เข้าไปดูในโปรแกรมแชทนั่น. .และเปิดอ่าน
‘pai doo duay gun mai?’ ไปดูด้วยกันมั้ย
‘อ๊าก!’ สั้นๆง่ายๆที่ตะโกนออกมาในใจ ดาราชวนแก้วไปดูหนัง!!!
“เห้ย!” โพล่งออกมากับตัวเองและพยายามทำให้ตัวเองตาสว่างพลางอ่านข้อความซ้ำไปซ้ำมากว่าร้อยรอบ. .จะดูมากไปมั้ยถ้าจะถ่ายเก็บไว้เป็นหลักฐานอันภูมิใจของเธอ
“บ้าไปแล้วไอ้แก้ว” ด่าตัวเองและส่ายหัวพลางหัวเราะ สงบสติอารมณ์ก่อนจะพิมพ์ตอบออกไปอย่างสุภาพตามมาดของตัวเอง รักษาความเป็นตัวของโปรดิวเซอร์คนนี้ไว้
‘see u tmr , goodnight kub J’ เจอกันพรุ่งนี้ ราตรีสวัสดิ์ครับ
‘GN ka <3’ กู๊ดไนท์ค่ะ
อีโมน่ารักๆนั่น. .พยายามมองมันเป็นปากและตายิ้มหยีๆแทนที่จะเป็นอีกอย่าง. .อ่า รู้สึกใจเต้น จะละลาย.. กับคนคนนี้. .น่ารักชะมัด. .เลิกคิดมากฟุ้งซ่านก่อนจะหยุดคิด. .
แล้วเธอ. .ฟาง
. .ทำอย่างนี้กับทุกคนรึเปล่า?. .เธอน่ารักแบบนี้กับทุกคนรึเปล่า
ความคิดเห็น