สนุกกับการเป็นเมีย แม่ แลคนทำงาน - สนุกกับการเป็นเมีย แม่ แลคนทำงาน นิยาย สนุกกับการเป็นเมีย แม่ แลคนทำงาน : Dek-D.com - Writer

    สนุกกับการเป็นเมีย แม่ แลคนทำงาน

    สนุกกับการเป็นเมีย...แม่แลคนทำงาน การทำงาน...ของฉัน ฉันชอบทำงานทุกวัน ตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอนมีภาระหน้าที่ตั้งหลายอย่างที่ต้องทำ บางวันรู้สึกเหนื่อย แต่ส่วนมากแล้วจะสนุกกับมันมากกว่า ...ฉันคิดอย่างนี้ แต่มีบางคนอาจไม่เป็นอย่างนี้ มันน่าเห็นใจนะ ที่ต

    ผู้เข้าชมรวม

    1,635

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    65

    ผู้เข้าชมรวม


    1.63K

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  17 ก.พ. 56 / 03:20 น.


    ข้อมูลเบื้องต้นของเรื่องนี้

    สนุกกับการเป็นเมีย...แม่แลคนทำงาน

    การทำงาน...ของฉัน

                    ฉันชอบทำงานทุกวัน ตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอนมีภาระหน้าที่ตั้งหลายอย่างที่ต้องทำ บางวันรู้สึกเหนื่อย แต่ส่วนมากแล้วจะสนุกกับมันมากกว่า ...ฉันคิดอย่างนี้ แต่มีบางคนอาจไม่เป็นอย่างนี้  มันน่าเห็นใจนะ ที่ต้องเป็นทุกข์มากกว่าสุข  ที่ต้องพูดแบบนี้ เพราะฉันเคยเป็นทุกข์มากกว่าเป็นสุข...โมโห เหนื่อย  จนเกือบทำเอาชีวิตตนเองพังไปก็หลายที แต่ตอนนี้ มีความสุขมากกว่า...เพราะอะไรหรือ ลองมาดูรูปแบบชีวิตของฉันดูสิ  เผื่อว่ามันจะช่วยเธอได้บ้าง

                    - ฉันอายุ 39 ปี

                    -  แต่งงานแล้ว

                    -  มีลูกชาย 2 คน มีสามีเอาแต่ใจ แต่เป็นคนดีมีเหตุผล

                    -  ทำงานบ้านเองทุกอย่าง (สามีดูแลการบ้านลูกบางครั้ง)

                    -  บริหารเงินทุกบาทร่วมกัน

                    -  ช่วยเหลือครอบครัวทั้งสองฝ่าย

                    -  ญาติเยอะแต่ญาติก็ดีนะ

                    -  แด่น้องสาวที่จากไปและน้องชายที่กำลังมีปัญหา

                    -  เวลาว่างอ่านหนังสือที่ชอบ

                    -  ชอบเล่นดนตรีพื้นบ้าน (แต่ไม่เล่นแล้วจึงฟังแค่เพลง)

                    -  ไม่เล่นตัวเรื่อง SEX

                    -  สามีชอบสังสรรค์

                    -  ลูกพูดยาก บางทีก็พูดง่าย

                    -  ชีวิตไม่มีประจำวัน

                    -  ชอบพาลูกเที่ยวห้าง ดูหนัง ดูหนังสือ ซื้อของเล่น

                    -  ติดหนี้  6  ล้าน

                    -  ทำงานเป็นหัวหน้า

                    -  อาสางานไม่เคยเหนื่อย

                    -  เป็นครูสอนวิทยาศาสตร์

                    -  รักลูกศิษย์เหมือนลูก

                    -  รักโรงเรียนเหมือนบ้าน

                    - สอนความรู้คู่คุณธรรม

                    -  สวยพอประมาณ

                    -  มีคนบอกให้ปรับปรุงแต่ทำไมจึงยังเฉยๆ

                    -  มีดีที่สมอง

                    -  กตัญญู และนอบน้อม

                    -  ยินดีช่วยเหลือ

                    -  มีคนอิจฉา

                    -  ทำบุญสวดมนต์เป็นบางครั้ง

                    -  มั่นใจตัวเองสูง

                    -  ปฏิบัติตามพระบรมราโชวาท

                    -  เรารักพระเจ้าอยู่หัว

                    -  โอกาสดีๆที่เคยได้รับและอยากให้

                    -  วางแผนทำงานเสมอ

                    -  นอนดึกตื่นเช้า

    -  อยากนอนตื่นสายในบางวัน

    -  หน้าที่ชงกาแฟทั้งๆที่ฝีมือไม่ดี

    -  Order แม่ได้เสมอ

    -  บ้านโคตรรกแต่แสนน่าอยู่

    - ลูกต้องมาก่อน

    -  แอบอู้เพื่อเติมเชื้อฟืน

    -  สองมือทำได้ทุกอย่าง

    -  หนึ่งสมองที่สร้างและทำลายอะไรก็ได้

    -  แอบรักเพื่อเป็นกำลังใจ แต่มากไปกว่านี้ก็ Sayno

    -  สามีสารภาพว่ามีกิ๊ก

    ทุกอย่างที่เป็นฉันนี่มันเยอะเหมือนกันเนอะ  ขอภาวนาให้ฉันขยันพอที่จะเล่าทุกอย่างให้หมด สู้ๆเพื่อตัวเอง ครอบครัว สังคม และโลกใบนี้  จะได้ไม่เสียดาย หากวันหนึ่งต้องจากโลกนี้ไป  จะได้มีคนคิดถึง  ไม่มากก็น้อย...

    ฉันอายุ 39 ปี

                    เกิด ปีฉลู...........2516 .....คนจังหวัดที่เคยชื่อว่ายากจนที่สุด

    แต่ดีใจจังที่เกิดเป็นคนไทย  มากไปกว่านั้น เป็นคนที่ บ้านฉัน..เพราะไม่เคยแห้งแล้ง  ไม่เคยหนาว  ไม่เคยน้ำท่วม  มีผลไม้ให้กินตลอดปี...

    ฉันอยู่ที่ไหนเอ่ย ? อยากบอกนะแต่กลัวคนอื่นเสียชื่อเสียง  เพราะเรื่องบางเรื่อง  มันแย่จัง!!! 

    ปล.  ฉันเป็นคนบ้านนอก เกิดในครอบครัวที่มีเกียรติ แต่เงินน้อย หยิ่งในศักดิ์ศรี  ต้องเอาดีให้ได้  พ่อแม่เป็นชาวนา  แต่ญาติข้างแม่เป็นข้าราชการหมด เจริญรอยตามตากะยาย  และฉันมีย่าที่แสนดี เป็นคนเข้าวัดฟังธรรมเสมอ เป็นที่เลื่องชื่อลือนาม (ส่วนปู่เสียตั้งแต่ยังไม่เกิด) โตขึ้นเข้าเรียนโรงเรียนดีประจำจังหวัด หยิ่งไปกันใหญ่  เข้าเรียนวิทยาลัยครูฯแต่จบปริญญาตรี ในนามราชภัฏฯ...เรียนจบปริญญาโท...บริหารการศึกษา...แต่ดันไม่ค่อยอยากเป็นผู้บริหารซะงั้น...(เรียนทำไมคะคุณนาย)

                    และที่สำคัญ...ฉันรู้ว่าเป็นคนสำคัญของทุกคน...แม้ท่านเหล่านั้นจะไม่เคยบอกฉันสักครั้ง...(คิดเอาเองเพื่อความปลอดภัยของชีวิต)

    ไม่หรอก...หากฉันไม่สำคัญ...แล้วจะโตมาโดยปราศจากคนเลี้ยงได้อย่างไร  จริงมั้ย?

    แต่งงานแล้ว

                    1+1 เป็นเรา  ฉันบีบให้เขาแต่งงานกับฉันจนได้  เกือบไม่รอดแล้วเรา  ที่ว่าอย่างนี้  เพราะเสี่ยงมาก ด่วนใจร้อน เขามาจีบไม่ถึงเดือนก็ตกลงเอาเลย  ยังไม่ได้ทำสัญญาใจกันช้ำเลย  ยอม ยอมทุกอย่าง อย่างกะกลัวไม่ได้ (หรือจะใช่)  ทีนี้แก้ไขอะไรไม่ได้  ปล่อยเลยตามเลย ดีก็เอาไม่ดีก็เอา  ซื้อลอตเตอรีแล้วนิ  ชีวิตที่เจอบางวันก็ขึ้นสวรรค์  บางวันก็ธรรมดา  แต่บางวันก็เหมือนตกนรก  ดังนั้นหากมีน้องๆที่ยังโสดมาถาม “เอางัยล่ะพี่”  ก็มักจะตอบว่า  “แล้วแต่จะตัดสินใจ  อิอิ” 

                    มีลูกชาย 2 คน มีสามีเอาแต่ใจ แต่เป็นคนดีมีเหตุผล

                    “อับรา.....มีบุตรอยู่สองคน  บุตรสองคนมีบิดาชื่ออับรา.....

    คนหนึ่งตัวเล็ก  คนหนึ่งตัวใหญ่  แลมีแต่คนแข็งแรง  ชูมือซ้าย

    ชูมือขวา  ส่ายสะโพก  โยกศรีษะ...”  เป็นเพลงที่ฉันร้องล้อลูกชายทั้งสอง

                    หรือต้องเพลงนี้... “แก้มใครหนอมาแม่หอมหน่อย  แก้มน้อยๆของ....เอย  มือใครครับมาแม่จับหน่อย มือน้อยๆของ.....เอย  แขนใครครับมากอดแม่หน่อย แขนน้อยๆของ....เอย  เท้าใครครับ เดินเบาๆหน่อย เท้าน้อยๆของลูกแม่เอย  ตูดใครครับมาโดนตีหน่อย ตูดน้อยๆลูกพ่อเอย”

                    ลูกชายชอบวาดรูป  ดู T.V  เล่นเกม (หากปล่อยล่ะชอบมาก ต้องคุมบ้างเล่นบ้าง ไม่งั้นโวย) นอนเป็นจระเข้  หมุน 360  องศา เล่นของเล่น ป.4 แล้วยังเล่นอยู่ได้  การบ้านไม่ต้องพูดถึง  งานหิน  บางวันให้พ่อ บางวันให้แม่ (ถ้าพ่อเมาแม่ก็ต้องเหมา)

                    ลูกชายของแม่เก่งมาก ถึงอยู่บ้านนอกแต่อยากให้ลูกเรียนในเมือง  ตื่นแต่เช้าไปให้ทันรถตู้ กลับค่ำ กว่าจะกินข้าว ทำการบ้านเสร็จ

    โห เหนื่อยมาก  แต่เดี๋ยวนี้รู้สึกว่า  ทุเลาลงเรื่อยๆแล้ว  ลูกคงเรียนรู้ว่าพ่อแม่เหนื่อยที่ต้องทำงานมั้ง แต่คงเพราะเขาโตขึ้นด้วยแหละ หรือไม่ลูกชายคงรู้ว่า  เขาเป็นคนสำคัญ....

                    ตัวเล็กต้องได้ฟังนิทานก่อนนอน เล่มไหนก็ได้ คงขอแค่ได้ยินเสียงแม่หรือพ่อเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่จะเป็นแม่มากกว่า  เข้าทางแม่ เลยคว้าเอานิทานสีขาว  ของ ดร.อาจอง  ชุมสาย ณ อยุทธยา อ่านให้ฟัง  บางทีก็เปลี่ยนเป็น ไซอิ๋ว ที่ลูกซื้อมาเอง บนหัวเตียงนอนจะมีหนังสือวางอยู่เสมอ  บางทีลูกหลับแม่ก็หลับ บางวันอ่านหนังสือหลับในก็มี(เคยได้ยินแต่ขับรถหลับใน ลองมาอ่านหนังสือหลับในบ้างจะเป็นไรไป) บางวันเห็นแม่เป็นอย่างนั้น  ลูกก็จะบอกว่า “แม่ครับถ้าแม่ง่วงก็พอได้นะครับ” ชื่นใจ และละอายแก่ใจ  วันต่อมาเลยต้องชวนลูกนอนเร็วขึ้นไม่งั้นแม่จะง่วงแล้วอ่านไม่จบอีก ...บางทีก็ร่วมมือ...บางทีก็ไม่...แต่แม่กับพ่อไม่ค่อยไปไหน  ถ้าไม่จำเป็น  เพราะลูกมักนอนไม่หลับ...ลูกจะรอ...

                    ถึงใครจะว่าฉันมักร้องเพลงสมัยใหม่เพี้ยน  แต่เพลงกล่อมลูก ฉันร้องกล่อมลูกชายทั้งสองมาตั้งแต่เขาอยู่ในท้อง  อาทิ

                    อิ่มอุ่น,  คนเก็บฟืน, ดอกไม้จะบาน,  พิราบขาว,  เดือนเพ็ญ 

    จึงไม่แปลกใจเลย ที่มักเห็นลูกของแม่ทั้งสองร้องเพลงและเต้นกันอย่างสนุกสนาน  (สามคนกับพ่อเขา แต่ไม่ชอบทำให้คนอื่นดู  เป็นอันรู้กันว่าเราชอบเสียงเพลง)   บอกแล้วว่าอย่าให้โม้เรื่องลูก.......เลยลืมเรื่องสามีไปเลย  เอาไว้คราวหน้าล่ะกัน

     

                    ทำงานบ้านเองทุกอย่าง (สามีดูแลการบ้านลูกบางครั้ง)

                    ก็บอกแล้ว  ซื้อลอตเตอรีมาแล้วถูกก็เอาไม่ถูกก็เอา  ดังนั้นเมื่อกลับมาบ้าน  “ฉันคือแม่บ้าน” ทำทุกอย่าง  ส่วนเขาคือ “พ่อบ้านที่แสนโบราณ” (...เนียนมาก โคตรขี้เกียจล่ะไม่ว่า)

                    รถตู้ส่งลูกถึงที่ทำงานพ่อแม่แล้ว เรานั่งรถเข้าหมู่บ้านอีก ราว 4 กิโลเมตร ไปตามถนนรกรุงรังตกหลุมตกบ่อ  กลับเข้าบ้านราว 1 ทุ่ม พ่อลูกช่วยกันทำการบ้าน  แม่เร่งทำกับข้าว  สักประเดี๋ยวจะมีเสียงร้อง “แม่...แม่...แม่......แม่...แล้วก็แม่....” แรกๆคุณพ่อไม่พาลูกอาบน้ำ  แม่ต้องพาอาบหลังจากกินข้าวเสร็จแล้ว  แล้วค่อยกลับมาเก็บบ้าน  ล้างจาน  รีดผ้า(นี่คือแผนที่วางไว้)  แต่บางวันก็ต้องเปลี่ยนแผน  เพราะขืนรอให้งานบ้านเสร็จ  คุณลูกคงไม่ได้นอนกันพอดี  แล้วยิ่งถ้าวันไหนพ่อมีสังสรรค์  บอกการบ้านลูกไม่ได้เพราะหลับ  งานต้องตกที่แม่อีก   เราทะเลาะกันบ่อยมาก  ต้องทบทวนความรัก ... “คุณ  คนรักกันเขาไม่ทำให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดรู้สึกเหนื่อยหน่ายเวลาอยู่ด้วยกันหรอกนะ  หรือคุณไม่รักฉันแล้ว  เลิกกันก็ได้นะ”  หรือ  “แม่งโว๊ย...โคตรเหนื่อยเลย....เช้ง!!โชะ!!ย๊ากส์......”

    กันอยู่เนืองๆ  ตอนนี้ก็ดีขึ้น  สงสารลูกชะมัด  พอหายโกรธกันพ่อมักพูดว่า “พ่อกับแม่รักกันนะ”  แต่เชื่อไหมลูกคนโตบอก “พ่อครับถ้ารักกันเขาไม่ทะเลาะกันหรอก ! อั๊ยย่ะ  อายลูกไหมล่ะนั่น” 

                    ดังนั้นเราเลยคุยกันอีกทีตอนนั่งรถไปสองคน 

    ฉัน  “คุณๆเวลาทะเลาะกัน คุณอย่าสั่งให้ฉันหุบปากนะ  ฉันใจจะขาด”

    เขา  “ได้  5  นาทีพอไหม แล้วเลิกพูด  หากไม่หยุด สวย”

    ฉันก็น้อยใจอยู่นะ  เพราะบางคนเขาบอกสามีอยู่ในโอวาท  แต่คิดดูอีกที  ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย  แค่นี้ก็ดีแล้ว  ก็เราเล่นบ่นซะยาว ด่าตำหนิเขาทั้งนั้นใครเขาจะชอบฟัง คงมีโมโหมั่งแหละน่า

    ฉัน  “แล้วเรื่องงานบ้านว่าไง  ช่วยกันได้ไหม เวลามันไม่พอฉันทำคนเดียวไม่ทัน”

    เขา  “อือ  เดี๋ยวช่วยพาลูกทำการบ้าน  อาบน้ำ  ซักผ้า  พาลูกเข้านอน ผมจะพยายามนะคุณ  แต่บางทีมันก็ไม่ได้  น่าอย่าโกรธกันเลยนะ”....

                    เหตุการณ์แบบนี้ไม่ใช่หนังสั้นนะคุณ  แต่มันเป็นละครน้ำเน่าทีเดียวเชียวล่ะ....ยาววววว....  แต่เชื่อเถอะว่า  ความรักจะทำให้เรารับฟัง และอยากให้อภัยกันได้  อย่าเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว  เพราะคงไม่มีใครอยากเสียเปรียบหรอกเนอะ  คิดมันอย่างนี้แหละ  เพราะขืนดื้อดึงจะเอาให้มากกว่านี้  คงได้ทะเลาะกันอีก  สงสารลูก  เหนื่อยหนักก็พักซะหน่อย

    ลดมาตรฐานชีวิตลงสักนิด  หยวนๆกันไป  ....(ทีไปซื้อของยังต่อรองจ๊น ได้บ้างไม่ได้บ้างก็ยังยอม  นี่เพื่อครอบครัวที่เรารักแท้ๆทำไมจะยอมไม่ได้ว่ามั๊ย)...

     

    บริหารเงินทุกบาทร่วมกัน

                    บ้านฉันเป็นบ้านโบราณ  สุขทุกข์ก็ร่วมกัน

    สามี กินเหล้า เลี้ยงลูกน้อง  บริวาร ญาติมิตร ช่วยเหลือพ่อแม่พี่น้อง

    และ สร้างครอบครัว...ดูแลลูก...ดูแลภรรยา

    ภรรยา  ซื้อเสื้อผ้า  เครื่องเคียงความงาม  เครื่องครัวเครื่องเรือน ดูแลลูกน้อง  บริวาร ญาติมิตร ช่วยเหลือพ่อแม่พี่น้อง และ สร้างครอบครัว...ดูแลลูก...ดูแลสามี

                    เงินเดือนสองคนรวม 50,000 / เดือน รับจริง 5,000  ก็ต้องบริหารให้ได้ทุกอย่าง  อย่างมากก็อดบางอย่าง แต่เราจะไม่ทิ้งให้ใครคนใดคนหนึ่งลำบากก  เพราะเราเป็นครอบครัวเดียวกัน 

                    สามีกินเหล้า สังสรรค์กับเพื่อนบ้าง  เพื่อต้องการการยอมรับจากเพื่อนร่วมงาน  แสดง power (ไม่ได้ต้องการให้เมียยอมรับเพราะอย่างไรคุณก็ยอมผมอยู่แล้ว ดังนั้นผมไม่ได้เก่งเพื่อภรรยาแต่เพื่อผมเอง)

                    ภรรยาซื้อเครื่องเคียงความงาม  เพราะต้องการให้คนอื่นชมว่าสวย ให้ผู้หญิงด้วยกันอิจฉาว่าเราสวย  (รู้อยู่แล้วสามีรับได้ไม่งั้นคงไม่เลือกเรา  ดังนั้นฉันไม่ได้สวยเพื่อสามีแต่เพื่อฉันเอง)

                    เราต่างก็มีความสุขที่แตกต่าง  ชีวิตคนเราจะยืนยาวสักเพียงใดหนอ น่าจะมีบ้างที่สุขตามนิสัยของปุถุชน แต่อย่าได้บ่อยนัก  เพราะเราต้องทำงานหนักมากกว่าเดิมอีก  เพื่อหาเงินมาใช้หนี้  แต่เดี๋ยวนี้ก็ลดลงแล้วล่ะทั้งสองคน  ทำงานสบายขึ้น 

                    เราสร้างบ้าน  มีรถคันใหม่ขับ  ทำงานดี  มีการยอมรับ  เสียสละเพื่องาน  เป็นคนดีสำหรับทุกคน  ทั้งญาติและมิตร ยามเขาทุกข์เราช่วยเหลือ  ยามเราทุกข์เขาช่วยเหลือ  แบ่งปันกันไป  ฉันมีเพื่อนแท้นะ  เอาไว้จะเล่าให้ฟังอีกที

                   

    ช่วยเหลือครอบครัวทั้งสองฝ่าย

                    อันนี้ก็ต้องทำนะ  ทั้งฝ่ายฉันฝ่ายสามี  ช่วยได้ต้องรีบช่วย  หากไม่ได้ต้องหาหนทางช่วย  ไม่นิ่งดูดาย  อันนี้เหมือนซื้อลอตเตอรีอย่างว่าแหละ  มีหลายครั้งที่เดียว ที่สามีมีน้ำใจช่วยเหลือครอบครัวฉัน  เช่น

                    พ่อฉันลงทุนเลี้ยงหมู ขาดทุน ติดหนี้ สามีก็ช่วย

                    น้องชายที่จะแต่งงานเงินไม่พอแต่ดันไม่บอกแฟน คงกลัวเขารับไม่ไหว มางอแงเอากับแม่ แม่ไม่มีก็ขอมาทางพี่ สงสารแม่ ก็ช่วยไป ล่าสุด ติดหนี้ล้นพ้นตัว  เขาทวงมา รวม  80,000  ทั้งป้า น้า พ่อและแม่ มาขอให้ช่วยน้อง (เมียใช้เงินกันคนละกระเป๋าไม่รับรู้  รู้แต่ว่าทุกเดือนต้องมีเงินซื่อนมให้ลูก  นี่มันครอบครัวหรือธุรกิจ...) สงสารแม่...ช่วยไป บอกน้องขอเป็นสุดท้ายเพราะพี่ไม่ไหวแล้ว  สงสารสามีที่เขาช่วยเรามามากแล้ว  เพราะยังมีอื่นๆอีก  นี่ก็ให้พ่อกับแม่มาอยู่ด้วยเพื่อจะได้ดูแลยามแก่เฒ่า  อันว่ามุมแบบนี้ก็ดีอย่างกะขึ้นสวรรค์  อิอิ...

                    หันกลับมามอง ทางฉันบ้าง  แม้เป็นละอันพันละน้อยไม่เคยมองข้าม  ดูแลแม่สามี (พ่อเสียชีวิตแล้ว)  ยาย  หลาน  น้อง  ช่วยเหลืออย่างเต็มใจ หากบ้านนี้จะทำบุญเท่าไหร่ก็แล้วแต่สามี  จะช่วยแม่ช่วยยายไปเท่าไหร่ ก็ให้เขาตัดสินใจไป  ไม่ว่ากัน  ....เป็นอย่างนี้เสมอมา...

    มีอะไรกับข้าวก็ต้องส่งให้ถึงอยู่เสมออย่าได้เมินเฉย  เราเอาไปให้เองบ้าง หรือบางทีก็ให้ลูกถือไป เป็นการสอนเขาด้วย  รวมถึง  การบริการ ตา ยาย  ย่า  ทวด ต้องดูแลเป็นพิเศษ  เพราะท่านคือคนสำคัญ  ที่รักเราและทำให้เราเป็นคนสำคัญ.....

                   

     

     

     

     

    ญาติเยอะแต่ญาติก็ดีนะ

                    พ่อแม่ฉันเป็นชาวนา  แต่มีวิสัยทัศน์ส่งลูกให้เรียนสูงๆทุกคน  แค่ชาวนาคงไม่สามารถแต่โดยลำพัง  แม่ส่งน้องสาว ไปยู่กับป้าที่ต่างจังหวัด ส่งเสียให้เรียนหนังสือ  ในช่วงปิดเทอมฉันไปอยู่นั่นเหมือนกัน  ป้าฝึกฝนการเป็นคนดี  ขยันขันแข็ง  กตัญญู  การบ้านการเรือน  กิริยามารยาท  งานบ้าน  งานครัว  อ่านหนังสือเตรียมตัวสอบ  (ฉันสอบติดเพราะไปเตรียมตัวอยู่นั่น  เตรียมไว้ตั้งแต่ตอนปี 3 แล้ว  พอจบก็สอบบรรจุเป็นครูได้เลย)  ....พอเปิดเทอม  ก็ให้เงินค่าเทอม ค่าใช้จ่ายหลายพันบาท...แม่บอกต้องตอบแทนคุณ...ฉันตั้งใจและทำอย่างนั้น

    ฉันยังจำได้ ญาติเยอะมากแค่ไหน  ตากับยายมีลูก  รวม  12  คน  แต่ละคนมีลูกมีหลาน คนละ 2-3  คน  มารวมปีใหม่ทีเต็มบ้านเลย  ฉันกับลูกสาวป้า-ลุง อายุรุ่นราวเดียวกัน 4-5  คน  มีหน้าที่เป็นพนักงานบริการทุกอย่าง  ช่วยทำอาหาร  ไปซื้อของ  ล้างจาน  กวาดบ้าน  ถูบ้าน  ...โตขึ้นเราทุกคนได้ดี  มีงานทำ  ไม่เกี่ยงงานหนักเบา  .....

                    ทางฝ่ายคุณสามีก็มีเยอะเช่นกัน แต่เราเป็นคนโตกว่านอกนั้นยังเป็นเด็กเล็กๆอยู่  เป็นพี่ๆของลูกชาย  หน้าที่เราเลยต้องดูแล  พวกเขาเสียมากกว่า  เช่น  ซื้อหนังสือเรียน  เสื้อผ้า  อาหาร  ขนม  จัดงานสังสรรค์รวมญาติ  กินข้าวด้วยกัน  แล้วเด็กๆก็ถูกฝึกให้เป็น ...พนักงานบริการ...

                    บางวันในวันหยุดบ้านเรานอนตื่นสาย  ตื่นขึ้นมามักจะมีอาหารบ้าง  ผลไม้บ้าง หรือขนมก็มี  มาแขวนไว้ที่ประตูหน้าบ้าน  เป็นแม่สามี  หรือ ทวด   หรือเพื่อนบ้านก็มี  เอามาแขวนไว้ให้  ไม่อยากปลุกเพราะเห็นว่าเป็นวันหยุด  ขอบคุณมากๆสำหรับน้ำใจที่มีให้เสมอ

                   

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น

    ×