ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    THe Ultima

    ลำดับตอนที่ #4 : เทพธิดาเเห่งลิลิธ

    • อัปเดตล่าสุด 4 ก.พ. 49


    เวลาผ่านไปกว่า3ปี แลนเด็กหนุ่มผู้เดียวดายมาเกือบทั้งชีวิตได้เดินทางช่วยเหลือผู้คนมากมาย บางคนก็ชื่นชมบางคนก็เกรงกลัว ชื่อที่เหล่าคนทั้งหลายตั้งให้คือชื่อที่เหล่าปีศาจทั้งหลายต้องผวา ชื่อที่เหล่าโจรร้ายต้องตัวสั่น ชื่อนั้นคือ อสูรแห่งความพินาศ 

    แลนเดินทางคนเดียวหลังจากการตายของเบลเซฟผู้เป็นอาจารย์  บัดนี้แลนเดินทางมาทางตะวันออกมายังชายป่าแห่งความสงัด the silent forest” แลนเดินทางเข้าไปในป่าเรื่อย เสียงสายลมพัดทำให้เกิดเสียงใบไม้เสียดสีกันจนดูน่าขนลุก ใบไม้ทั้งหลายมีสีแดงและส้มซึ่งดูแล้วยิ่งหน้าหวั่นใจ แลนเดินทางไปเรื่อยจนพระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้าแลนจึงเดินออกมาจากป่าได้ แลนมองไปข้างหน้า เห็นหมู่บ้านยเล็กอยู่ตรงเนินเขาด้านหน้า แลนตัดสินใจที่จะเดินทางไปที่จะมืด เขารีบจ่วงเท้าเดินแบบกสัมภาระที่หนักอึ้งไปยังหมู่บ้าน เมื่อถึงหมู่บ้านแลนมองที่ป้ายหมู่บ้าน หมู่บ้านนี้ชื่อหมู่บ้าน ลิลิธ เป็นหมู่บ้านที่สวยงามด้านหน้ามีทหารยืนเฝ้ายามมากมายด้านในก็ครึกครื้นเต็มไปด้วยเสียงเพลง แลนเดินเข้าไปในหมู่บ้านแล้วแล้วจึงเรียกลุงคนหนึ่งมาถามว่า ท่านลุงที่แห่งนี้เขาจัดงานใดกันหรือท่านจึงดูครื้นเครงเช่นนี้ ลุงผู้นั้นหัวเราะลั่นแล้วตอบกลับไปว่า  พ่อหนุ่มเจ้าเป็นคนต่างเมืองสิถ้าที่นะ เขาจะจัดงานที่เรียกว่า ลูนิเรียกันทุกปีเพื่อเป็นการขอบคุณทวยเทพทั้งหลายที่ทำให้หมู่บ้านของเราปลอดภัย เจ้านี้ช่างโชคดีเสียจริงนะที่มาตรงกับเวลาที่จัดงานพอดิบพอดีมาสิมาร่วมงานฉลองกันเถอะ ลุงคนนั้นเชิญชวนแลน ก็ไม่กล้าที่จะปฏิเสธจึงตรงลงไป ลุงผู้นั้นก็ดีใจดึงแขนแลนเข้าไปในงานกลางดึกในคืนนั้นทุกคนจัดงานกันอย่างสนุกสนาน มีทั้งการกินเลี้ยง ทั้งการเต้นรำมากมายแลนรู้สึกประทับใจกับความเป็นอยู่ของพวกเขา แลนคิดว่าช่างเป็นชีวิตที่สงบสุขจริงๆไม่เหมือนกับชีวิตของเขาที่มีโดดเดี่ยวมาเกือบทั้งชีวิต ชีวิตก็มีแต่การฆั่นและแก้แค้น ไม่นานก็มีเสียงตะโกนเรียก พ่อหนุ่ม พ่อหนุ่ม คุณลุงคนนั้นเดินเข้ามาพร้อมกับแก้วเต็มแก้วไวน์ที่อยู่ในมือข้างหนึ่งส่วนอีกข้างหนึ่งจูงหญิงสาวหน้าตาสวยงามมากผู้หนึ่ง ผมของนางสีม่วงยาวถึงเอว ตาคมกริบ รูปร่างที่เทพีทั้งหลายไม่อาจเทียบ มาด้วย แลนมองเธอตาไม่กระพริบเพราะความงามของเธอ พ่อหนุ่มเอ๋ยนี้คือลูกสาวของฉัน เฟนเรีย รู้จักกันไว้สิ ลุงพูดจบก็เดินออกไปทั้งสองคนต่างเขินอายไม่รู้จะพูดอะไรกัน สวัสดี ข้าชิ่อแลน แลน ไปโอรอส ยินดีที่ได้รู้จักเจ้า หญิงสาวรู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำว่าไบโอรอส  ท่านเป็นเชื้อพระวงศ์ของอาณาจักรเฟอร์ราเซียเช่นนั้นหรือไรกัน แลนได้ฟังก็ตกใจ ท่านรู้จักด้วยหรือท่านเป็นคนของภาคใต้หรือไรจึงรู้จักตระกูลของเฟอร์ราเซีย หญิงสาวดีใจมากกระโดดเข้ากอดแลนทั้งน้ำตาแล้วพูดกับแลนว่า ข้าไงแลนข้าไงเจ้าจำไม่ได้หรือไงแลนรู้สึกเขินและงงเล็กน้อยกับคำพูดนั้นเมื่อเขาเพ่งมองเฟนเรียอีกครั้งทำให้เขานึกถึงเด็กหญิงที่เขาเคยเล่นด้วยประจำในอดีตเขาจึงจำได้ เจ้าเองเหรอไม่น่าเชื่อเลยเฟนเรีย เจ้าดูโตขึ้นมากเลยผ่านมากี่ปีแล้วเนี่ยที่เราแยกจากกันเกือบ15ปีแล้วสินะ แลนพูดด้วยความดีใจ ใช่ ข้าคิดถึงเจ้ามากพ่อข้าย้ายออกไปประจำการที่เมืองเดลซีที่อาณาจักรซาฟิสน่ะ จนพ่อข้าเกษียณออกมาจึงมาอยู่ที่หมู่บ้านแห่งนี้หลังจากที่ข้าได้ยินเรื่องการที่อาณาจักรทางใต้ถูกทำลาย ข้านึกว่าเจ้าคงไม่มีทางรอดแน่ข้าร้องไห้ทุกวันกว่าข้าจะเลิกเสียใจเกือบอาทิตย์หนึ่ง แต่ข้าดีใจมากเลยนะที่เจอเจ้าเพราะข้าคิดว่าชีวิตนี้ ข้าไม่มีทางได้เจอเจ้าจนกว่าจะตายแล้ว นางเช็ดน้ำตาออกแล้วลุกอออกไปนั่งข้างๆแลน แลนเจ้ารอดมาได้ยังไงรึบอกข้าหน่อยสิ เฟนเรียถามแลนอย่างตื่นเต้น แลนนิ่งไปชั่วครู่ทำหน้าเศร้าเหมือนไม่คิดจะตอบอะไร แลน.... เฟนเรียมองดูแลนด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะบอกับแลนไปว่า ข้าเข้าใจถ้าเจ้าไม่คิดจะนึกถึงเรื่องราวในอดีตนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องเล่าให้ข้าฟังก็ได้ เฟนเรียพูดด้วยเสียงที่อ่อนโยน ก่อนจะหันไปดูเขาเต้นรำกัน เฟนเรียจึงจับแขนแลนแล้วดึงแขนแลนไปที่ตรงส่วนเต้นรำ แลนตกใจและตื้นเต้นเพราะตนนั้นไม่เคยเต้นรำมาก่อนแลนจึงได้แต่ทำถ้าเหมือนเต้นรำตามเฟนเรีย เฟนเรียเห็นนางก็ยิ้มและหัวเราะเบาๆแล้วกระซิบบอกแลนว่า เจ้าเต้นรำไม่เป็นหรือไง แลนเขินอายไม่ค่อยกล้าที่จะบอก เดี่ยวข้าจะสอนให้ละกันนะ นางพูดตัดบทแล้วจับมือของแลนมาแตะที่หัวไหล่กับเอวของนางพร้อมกับบอกจังหวะเต้นรำให้แลนฟัง ทำให้แลนเต้นรำได้ทั้งสองเต้นรำกันอย่างมีความสุข ชาวบ้านทั้งหลายกลับไม่รู้ถึงความตายที่จะมาเยือน

                ในชั่วค่ำคืนนั้นเองแลนได้ไปอยู่ที่กระท่อมตรงเนินเขาด้านหลังของหมู่บ้านที่เป็นที่พักส่วนตัวของพ่อเฟนเรีย ในกลางดึกนั้นเองมีบางอย่างลอยมาจากเนินเขาด้านหน้าหมู่บ้านตรงไปทางหมู่บ้านอย่างรวดเร็วยามทั้งหลายที่เห็นสิ่งนั้นมาก็ตกใจ จึงคิดจะตะโกนเรียกชาวบ้านแต่ไม่ทันที่จะเปิดปากสิ่งนั้นก็บินผ่านฆ่าทหารยามตายสิ้นเหล่าอสูรทั้งหลายต่างเข้ามาในหมู่บ้านเข่นฆ่าผู้คน แลนที่อยู่ในกระท่อมลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจเขาใส่เสื้อคลุมสีดำสนิทของเขาแล้วหยิบดาบออกไปแต่ขณะที่เขาจะกลับหลังหันไปที่ประตูประตูก็ระเบิดเป็นชิ้น เผยให้เห็นเหล่ามารร้ายที่ใส่ผ้าคลุมสีดำสนิททั่วร่างกายถือดาบมาคนละเล่ม พวกมันกวาดสายตามองรอบห้องแล้วพุ่งไปที่แลนหวังจะเอาดาบนี้แทงใส่แลน แต่แลนหยิบดาบฟันดาบของมันจนเอียงไปแล้วจึงหมุนตัวกลับมาฟันมันเมื่อโดนฟันมันกลายเป็นขี้เถ้าลอยไปในอากาศ พวกอสูรที่มาด้วยต่างโกรธแค้นพุ่งเข้ามาหวังจะฆ่าแลนให้ตาย แต่แลนเบี่ยงตัวหลัวดาบทั้งหลายแล้วจับดาบในมือแน่นพร้อมตะโกนออกไปว่า มังกรสะบัดหาง แลนตวัดดาบไปทางพวกอสูรเหล่านั้นเกิดแรงคลื่นดาบพลังมหาศาลตัดอสูรเหล่านั้นขาดเป็นท่อนๆบ้านทั้งหลังถูกแรงคลื่นดาบฟันฟันจนขาดเป็นชิ้นๆระเบิดออกจากกัน แลนเดินออกมาจะตัวบ้านไปที่เนินเขาด้านหน้า ภาพที่เขาเห็นคือภาพของหมู่บ้านที่จมอยู่ในเปลวเพลิงเสียงร้องโอดโอยของเหล่าชาวบ้านที่ถูกฆ่าดังมาถึงที่ๆแลนอยู่ แลนตะลึงกับภาพนั้นเขานึกถึงอดีตที่เขาอยากลืมให้ลงอดีตที่เขาไปเคยลืม  แลนตั้งสติได้เขารีบวิ่งไปยังหมู่บ้านลิลิธโดยทันที เมื่อเขาไปถึงหมู่บ้านเหล่าอสูรที่ออกมาต่างพุ่งกรูกันมาที่แลน แลนจึงใช้ท่า มังกรกระหายรบ แลนฟาดดาบลงบนพื้นเสียงระเบิดดังสนั่นพื้นระเบิดเป็นแนวตรงแล้วระเบิดตรงที่เหล่าอสูรอยู่แรงระเบิดมีความรุนแรงมากขนาดทำลายบ้านที่อยู่ใกล้ๆจนเละเทะ แลนรีบวิ่งเข้าไปในหมู่บ้านแลนตะโกนเรียกเฟนเรียหลายครั้ง แลนวิ่งต่อไปเรื่อยจนถึงใจกลางหมู่บ้านแลนเห็นเฟนเรียนั่งพิงกำแพงหลบอยู่ตรงซอกซอย ซอยหนึ่งแลนรีบวิ่งไปดูอาการเฟนเรียนางบาดเจ็บสาหัส แลนจึงเอามือมาวางที่บาดแผลแล้วพูดออกไปว่า อิโดเครี เกิดแสงสีขาวขึ้นที่มือของแลนบาดแผลของเฟนเรียค่อยหายไปเรื่อยจนหมดเฟนเรียลืมตาตื่นขึ้นมาเห็นแลนก็ดีใจแต่นางเป็นคนอ่อนแอจึงสลบไปแลนอุ้มนางออกมาข้างนอกหวังจะพาออกไปนอกเมือง แต่ไม่ทันไรขณะที่แลนเดินมาถึงน้ำพุกลางเมือง เหล่าอสูรทั้งหลายร้อยตัวต่างบินวนกันเป็นพายุสีดำทมิฬ เมื่อพายุจางลงมึอสูรตัวหนึ่งใส่เกราะสีเงินดูน่าเกรงขามเดินออกมามีเหล่าอสูรทั้งหลายเดินตามออกมาด้วยอสูรตัวนั้นถือง้าวขนาดใหญ่ข้างหนึ่งกับดาบใหญ่อีกข้างหนึ่ง มันพูดกับแลนว่า เจ้ามนุษย์ยอมแพ้ซะเจ้าจะได้รับการไว้ชีวิต ฝ่ายแลนเมื่อได้ฟังก็หัวเราะพร้อมวางเฟนเรียนั่งพิงไว้ที่กำแพงก่อนจะเดินกลับมาตอบว่า เจ้าพวกโง่คิดว่าคนอย่างข้าจะมาสวามิภักดิ์กับผ้าขี้ริ้วขาดๆอย่างพวกแกกันเล่า แลนพูดเยาะเย้ย ฆ่ามันซะโทษฐานที่บังอาจมาขัดขวางเดรธ หัวหน้าของเดรธสั่งพร้อมชี้นิ้วไปที่แลน  เหล่าเดรธทั้งหลายต่างพุ่งเข้าไปหาแลนด้วยความเร็วสูง  แลนรีบชักดาบอิมพิว(ทอง) กับ ครินเซีย(เงิน)ออกมารับการโจมตีนั้น แลนเบี่ยงตัวหลบดาบที่มาไม่รู้จักจบเขาก้มตัวลงแล้วฟันดาบไปที่เหล่าอสูรทั้งหลายตายไปหลายตัว เขากระโดดขึ้นไปบนอากาศแล้วร่ายเวทย์มนต์ด้วยความรวดเร็วแล้วตะโกนออกมาว่า สายฟ้าจงบังเกิด เป็นพลังให้แก่ข้า ธันเดอร์  เกิดสายฟ้าขึ้นรอบๆตัวของแลน แลนเอาดาบอิมพิวกับครินเซียเก็บไว้ที่เอวแล้วสะบัดมือออำกพร้อมตะโกนออกไปด้วยเสียงที่ดังกึกก้องว่า มังกรสะท้านภพ แลนสะบัดมือออก ทำให้เกิดแรงดันขนาดมหาศาลระบิดเหล่าเดรธทั้งหลายที่ล้อมแลนไว้กระจุยกระจายไปจนหมด เมื่อแลนลงสู่พื้นร่างของเขาดูอ่อนเพลียเนื่องจากเสียพลังในการใช้มังกรสะท้านภพมาก ฮะ ฮะ ฮะ ฮะ เก่งมากเจ้าหนูเอาละเรามาทำให้จบๆเถอะ หัวหน้าของเหล่าเดรธพูดขึ้นพร้อมสั่งให้เดรธตัวอื่นรออยู่กับที่ มันเดินออกมาถือง้าวและดาบกวัดแกว่งไปมาเพื่อวอมอัพก่อนที่จะเริ่มต่อสู้ แลนชักดาบอิมพิวและครินเซียออกมากำแน่นในมือทั้ง2ข้าง สิ่งสิ่งเงียบสงบแม้แต่สายลมเบาก็ไม่มี อา..ใช่ข้าเกือบลืมไปเจ้าคงไม่รู้จักข้าสินะข้าคือ โคโรซัส เกรก หัวหน้าแห่งหน่วยเดรธและเป็นผู้พันแห่งอาฟรีสจ้าละ..หรือเจ้าไม้คิดจะบอกชื่อข้าก่อนตัวเจ้าจะตายหน่อยงั้นหรือ แลนหัวเราะเบาๆแล้วพูดออกไปด้วยเสียงที่แข็งกระด้างว่า เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้เพราะข้าไม่มีทางตายอยู่แล้วเมื่อพูดจบ แลนพุ่งตัวเขาไปหาโคโรซัสด้วยความเร็วสูง โคโรซัสตกใจเล็กน้อยก่อนจะใช้ดาบป้องกันการโจมตีของแลน แล้วควงง้าวอย่างรวดเร็วในมือฟาดไปที่เอวของแลน แลนจึงใช้ดาบอิมพิวป้องกันเอาแต่เนื่องจากมันมีแรงมาก ทำให้แลนถึงกับกระเด็นไปติดกำแพงจนกระอักเลือด แลนค่อยๆลุกขึ้นมาเช็ดเลือดออกจากปากแล้ววิ่งควงดาบทั้งสองข้างเขาฟันที่ดาบของโคโรซัส แต่โคโรซัสป้องกันได้แลนจึงกระโดดใช้ดาบอีกข้างฟาดไปที่ไหล่ของโคโรซัสแต่โคโรซัสใช้ง้าวมาฟาดที่ไหล่ทำให้สามารถกันการโจมตีได้ โคโรซัสหัวเราะแล้วพุฝดเยาะเย้ยแลนไปว่า อะไรกันแค่นี้เองหรือ แลนยิ้มแล้วใช้เท้เตะไปที่คอของโคโรซัส โคโรซัสล้มลงวไปตามแรงเตะจนหัวกระแทกกับพื้นจนพังทลาย แลนเดินออกมาห่างจากโคโรซัสเล็กน้อยและนึกว่าโคโรซัสคงจะตายแล้วแน่นอนจึงหันหลังเดินออกไปแต่เขาก็ต้องตกใจเมื่อมีดาบแทงทะลุไหล่ซ้ายของเขาแลนรีบผละตัวออกมาแลนอึ้งกับภาพที่เห็นโคโรซัสลุกขึ้นมาได้แล้วยังทำเหมือนกับว่าการโจมตีเมื่อตะกี้ไม่สามารถทำอะไรเขาได้เลย ดาบในมือของเขาหลุดจากมือ เขากุมแผลที่ไหล่ที่มือของเขาเต็มไปด้วยเลือดที่ไหลออกมาเหมือนกับน้ำตก แลนรีบใช้เวทย์รักษาแต่ เขาก็ต้องประหลาดเมื่อเขารักษาแล้วบาดแผลไม่อาจถูกฟื้นฟูได้ โคโรซัสหัวเราะลั่นแล้วบอกแลนไปว่า ไม่มีทางหรอก เมื่อถูกดาบทอซิแอกต์ [ Toxiach ] ของข้าแทงละก็ไม่มีทางที่จะใช้เวทย์แห่งแสงรักษาได้หรอกแลน รู้สึกเจ็บใจมากจึงจับ ดาบอิมพิ ขึ้นมาอีกครั้งส่วนมืออีกข้างหนึ่งจับที่ไหล่ไว้  แลนวิ่งเขาไปปะทะดาบกับ โคโรซัสแต่ด้วยการที่แลนบาดเจ็บหนักจึงทำให้ถูกผละกระเด็นออกมาเลนถูกผละออกมาก็ถอยล่นออกมาผิงกับกำแพงไว้ นี้น่ะหรือศิษย์ของผู้ที่เป็นจอมดาบแห่งยุค เหอะ กระจอก เอาล่ะตายไปซะโคโรซัส จับดาบพุ่งเข้าหาแลนหวังจะแทงให้ตาย ในชั่วเวลานั้นเองมีผ้าแพรขนาดใหญ่มาบังร่างกายของแลนไว้ ทำให้ดาบของโคโรซัสสะท้อนกลับมา โคโรซัสมองไปทั่วเพื่อหาผู้ใช้ผ้าแพรสีขาวนวล มีรอยถักเลข5อยู่ที่ขอบผ้า เมื่อมองตามทางยาวของผ้าเขาเห็นเฟนเรียยืนอยู่ตรงหน้าบ่อน้ำท่าทางเหน็ดเหนื่อย เจ้าอะไรกัน เมื่อสิ้นคำพูดโคโรซัสก็ถูกผ้าสะบัดเข้าอย่างจัง ทำให้เขากระเด็นลอยไปชนกับผนังบ้านจนพังทลาย เฟนเรียรีบวิ่งมาดูอาการของแลน ในช่วงเวลานั้นเองทำให้แลนมองเห็นรอยสักรูปตัวเลข5เหมือนกับที่หน้าผากของแลน เขา ที่อกของเฟนเรีย แลนลุกขึ้นมาทำหน้าตาด้วยความตกใจ เจ้าเป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกเลือกงั้นรึ เฟนเรียได้แก้มหน้า ตอนนั้นเองเสียงหัวเราะดังลั่นก็ออกมาจากบ้าน ฮะฮะฮะ ผู้ถูกเลือกงั้นรึยังเป็นแค่เด็กสาวตัวน้อยอีกตะหาก โคโรซัสเดินออกมาจากซากปรักหัหพังของบ้านพร้อมถือดาบของเขาอยู่ในมือ ช่างเป็นการโจมตีที่รุนแรงดีถ้าข้าไม่ใช้ง้าวของข้ากันไว้มีหวังข้าได้นอนหยอดน้ำข้าวต้มแน่ เขาขวางเศษด้ามที่พังทลายของง้าวใหญ่ออกมา จากนั้นเขาก็พุ่งเข้ามาที่เฟนเรียใช้ดาบฟันเข้าไปที่ผ้าแพรแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เขาฟันรัวขึ้นเรื่อยๆทำให้พลังในการป้องกันของเฟนเรียลดลงเรื่อยๆ แลนเห็นว่าเฟนเรียไม่ไหวแล้วจึงฝืนยืนขึ้นแล้วเอามือจับที่จี้สีแดงจากนั้นจึงกระตุกออกมา ทำให้เกิดเปลวไฟสีแดงขึ้นวิ่งวนรอบตัวแลน บังเกิดเป็นร่างของดาบขนากมหึมายาวกว่า2เมตร มีสีขาวนวลสวยงาม ประดับด้วยเพชรสีฟ้ากว่าสิบเม็ด  ที่ประกับดาบทีตัวเลข2อยู่และที่ตัวดาบมีอักษรเขียนว่า เอ็กโซนัส”[ Exsonus] แลนตวัดดาบอย่างแรงทำให้เกิดคลื่นพัลงขนาดใหญ่พุ่งเข้ากระแทรกตัวของโคโรซัสอย่างจัง ทำให้โคโรซัสกระเด็นออกไปจากเฟนเรีย  เฟนเรียล้มฮวบลงด้วยความเหน็ดเหนื่อย แลนวิ่งเข้าไปหาเฟนเรียทั้ง2มองหน้ากันและยิ้มให้กัน ในตอนนั้นเองโคโรซัสพุ่งเข้ามาที่แลนด้วยความโกรธแค้นแลนเตรียมตัวในท่าพร้อมกระบวนท่า มังกรคำราม เมื่อโคโรซีสเข้ามาแลนก็ตวัดดาบอย่างรวดเร็วทำให้เกิดพลังระเบิดขึ้นเป็นแนวๆ โคโรซัสตกใจแต่เมื่อจะหลบก็หลบไม่ทันเสียแล้ว พลังดาบทำลายหมู่บ้านกว่าครึ่งทุกสิ่งที่อยู่ในรัศมีพังพินาศ  แลนวาดมือลงทำให้เกิดแสงสีแดงทำให้ดาบหายไป เขาหันมายิ้มให้เฟนเรียแล้วจึงล้มสลบไป เฟนเรียใจหายที่เห็นแลนล้มลงนางวิ่งเขาไปเรียก แลน แลน ตอบซิแลน

    รุ่งเช้า

                แสงอาทิตย์ที่สดใจส่องมากระทบที่ตาของแลนทำให้แลนค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมา  เขาลุกขึ้นเห็นเฟนเรียนอนซบตักของเขาอยู่แลนยิ้มจากนั้นจึงปลุกเฟนเรียขึ้นมานางสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจแต่เมื่อนางเห็นแลนนางจึงยิ้มให้เขาแล้วส่งซุปร้อนให้ เธอหลับไปเกือบ3วันเชียวนะ ข้าล่ะเป็นห่วงแทบแย่ แลนเขินอายแล้วจึงมองไปที่เสื้อผ้าของตน เจ้าเป็นคนถอดเสื้อข้างั้นรึ เฟนเรียตกใจสุดขีดหน้าของเธอแดงกล้ำ ไม่ใช่นะไม่ใช่อย่างที่เธอคิดข้าแค่ถอดเสื้อออกม่เย็บให้แค่นั้นแหละไม่ได้ทำอะไรจริงๆนะ แลนหัวเราะเบาแล้วจึงลุกขึ้นมาในสภาพที่ใส่แค่กางเกงขายาวอยู่ตัวเดียว ที่ตัวของเขามีผ้าพันแผลฟันทั่วตัวไปหมดเขาเดินไปหยิบเสื้อและผู้คลุมที่ผิงอยู่ที่ไฟ จากนั้นจึงจัดแจงใส่เสื้ออย่างรวดเร็วเก็บดาบและมองไปที่หมู่บ้านอีกครั้งสิ่งที่เห็นคือภาพของหมู่บ้านที่พังพินาศ เสียใจด้วยนะแลนก้มหน้าลงอย่างเศร้าสร้อย  นางทำท่าซึมๆและเดินไปด้านหลังของแลน  นางครุ่นคิดแต่เรื่องที่ผ่านมาความเลวร้ายที่เคยเกิดขึ้นจับหมู่บ้านที่ตนเคยอยู่ นางตกใจเมื่อแลนเข้ามากอดนางจากด้านหลัง นางเขินอายหน้าของนางแดงกล้ำ แลนท่านทำอะไรนะ” “อย่าเศร้าไปเลยเฟนเรียสิ่งที่ผ่านมาน่ะมันคืออดีตผู้ที่มัวแต่จมอยู่ในอดีตย่อมไม่มีความสุข เดินทางไปกับข้าเถอะนะ นะแลนยิ้มกว้างปล่อยตัวออกจากนางแล้วเดินไปด้านหน้ายื่นมือมารอนางจับมือสีหน้าของเขาเปี่ยมด้วยความอ่อนโยนเฟนเรียจับมือเขาไว้แล้วเดินทางต่อไป

               

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×