คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : The Killer : Mission 6
THE KILLER - missions 6
“ นายอยู่ที่นั่นแล้วใช่ไหม.. ”
นิชคุณกรอกเสียงนิ่งๆลงกับปลายสาย มือหนึ่งค่อยๆคนกาแฟในแก้วช้าๆ ท้องฟ้ายามเย็นหายลับไปนานแล้ว
เวลาแบบนี้ทำให้นิชคุณถอนหายใจได้วันละหลายๆครั้ง มันเป็นช่วงเวลาที่มืดมน..
“ อืม พึ่งถึงเมื่อกี้ “
ปลายสายตอบกับด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่งไม่ต่างกัน บรรยากาศในโทรศัพท์เงียบเชียบจนน่าใจหาย
“ ระวังตัวด้วยละ ครั้งนี้พวกมินจุนเข้าไปด้วย “
“ รู้แล้ว.. ก็ไม่เคยเห็นจะสำเร็จซักครั้ง ขยันหาเรื่องจริงๆนะ ”
เสียงทุ้มแค่นหัวเราะออกมา สัญญาณขาดๆหายๆ ดูเหมือนว่าคนในปลายสายจะอยู่ในที่ที่ห่างไกลจากที่ที่นิชคุณอยู่
“ หึหึ เอาน่า รายนั้นยอมใครซะที่ไหนละ ”
“ แล้วนี่จะมาไหม.. ”
นิชคุณละสายตาออกจากวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่าง ย้ายสายตาลงมองมือตัวเอง
“ ไป.. แต่อีกซักพัก ”
“ …ไม่ต้องมาก็ได้ ”
ยกแก้วกาแฟขึ้นมาจรดริมฝีปาก รสชาติขมปร่าติดอยู่ที่ปลายลิ้น กลิ่นหอมอ่อนๆทำให้เขาผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย
" ไม่อยากให้ฉันไป? " ถามเสียงสูง มุมปากหยักยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย
" กลัวจะวุ่นวายซะเปล่าๆ "
" ไม่หรอกน่า.. ฉันจะดูอยู่ห่างๆ "
นิชคุณหรี่ตาลงเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถึงใครบางคนที่ยืนแอบอยู่หน้าประตู เสียงทุ้มกระแอมก่อนจะกดวางสาย พลิกตัวหันกลับมาเผชิญหน้ากับบานประตูห้อง
" คุณจะอยู่ตรงนั้นอีกนานมั้ย "
เอ่ยทักออกไปแบบนั้น แต่แทนคนที่แอบซ่อนอยู่หลังบานประตูจะออกมา กลับมีแต่ความเงียบ
คิ้วเข้มขมวดมุ่น ลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินตรงไปเปิดประตู กวาดสายตามองซ้ายขวากลับไม่เจอใคร
เสียงฝีเท้าดึงความสนใจจากนิชคุณได้เป็นอย่างดี เจ้าของร่างสูงกับรอยยิ้มกว้างกำลังเดินตรงเข้ามาหา
" จินอุน เห็นอูยองมั้ย "
" อูยอง? อ๋อ นายนักข่าวคนนั้นน่ะเหรอครับ เห็นวิ่งออกไปเมื่อกี้นี้เอง "
" วิ่ง? "
นิชคุณย้อนถาม ก่อนจะหันกลับมามองโต๊ะวางเอกสารที่ตั้งอยู่หน้าประตู คิ้วเรียวขมวดเป็นปมยิ่งกว่าเดิมเมื่อเห็นว่าเอกสารสำคัญหายไป กุญแจรถก็ด้วย
" จินอุน นายเอาแผนที่โกดังไปรึเปล่า "
นิชคุณถามเสียงดัง ซึ่งจินอุนก็ส่ายศีรษะปฏิเสธทันที
ร่างสูงสูดหายใจเข้าหนักเพื่อระงับอารมณ์ของตัวเองเมื่อปะติดปะต่อเรื่องทั้งหมดได้ ขายาวๆรีบก้าวไปคว้าเอาปืนเหน็บไว้ข้างเอว รวมถึงกุญแจรถอีกคันมากำแน่นไว้ในมือ
" นั่นคุณฮยองจะไปไหนครับ?! "
จินอุนตะโกนถามตามหลังร่างสูงที่ก้าวดุ่มๆออกจากตึกตรงไปที่รถ
" ตามจับหัวขโมย "
--------------
ตุ้บ..
เสียงบางอย่างกระทบกับพื้นดังขึ้นมาจากหลังรถ คนตัวเล็กหันขวับพลางกวาดสวยตาหาต้นกำเนิด หรี่ตามมองยอดใบไม้ที่ขยับขึ้นลง ราวกับว่ามีบางอย่างไปกระทบมัน สาวเท้าเข้าหาพุ่มไม้ตรงหน้าช้าๆพยายามมองหาสิ่งผิดปกติ เงาดำที่เหมือนว่ายังอยู่ตรงนั้น
อะไร..
ตุ้บบ!!
เฮือก..
จุนโฮหลับตาแน่นคิดว่าต้องมีใครโผล่ออกมาแน่นๆ แต่ก็พบกับความเงียบ.. ดวงตาเรียวค่อยๆลืมตามอง ร่างสูงใหญ่ของชายชุดดำนอนนิ่งๆอยู่แทบเท้าร่างเล็ก ขาเรียวขยับถอยหลังทันทีด้วยความตกใจ
เสียงฝีเท้าดังขึ้นเบาๆจากบริเวณพุ่มไม้มืด ใครบางคนกำลังเดินเข้ามาหาเขา และคนคนนั้นคือสาเหตุที่ทำให้ชายชุดดำตายแน่นอน
จุนโฮกลืนน้ำลายลงคอช้าๆ ขาก้าวถอยหลังอัตโนมัติ และเขาคงจะออกวิ่งไปแล้วถ้าไม่เห็นหน้าเจ้าของเงาดำนั่นซะก่อน..
" พี่มินจุน... ”
" ไง ไม่เจอกันนานเลยนะ "
จุนโฮที่ตอนแรกเดินถอยหนี กลับรีบสาวเท้าเข้าหาทำท่าจะโวยวาย แต่ติดที่คนเป็นพี่ยกนิ้วส่งเสียงชู่ขึ้นมาเบาๆ
" อย่าพึ่ง ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาบ่น ได้เรื่องอะไรบ้างมั้ย "
จุนโฮถอนหายใจเบาๆเหลือบมองมีดในมือของคนตรงหน้า ก่อนจะไล่สายตาขึ้นมาสบ
" รอยสัก "
รีบบอกข้อมูลที่คิดว่าน่าจะมีประโยชน์ที่สุดในตอนนี้ สัญลักษณ์คุ้นตานั่น.. มันต้องเป็นจุญแจสำคัญที่จะทำให้ทุกอย่างคืบหน้ากว่านี้ได้แน่
" รอยสักที่ชานซองมี มันเหมือนสัญลักษณ์อะไรบางอย่าง "
มือบางก้มลงหยิบเศษกิ่งไม้พลางจรดปลายแหลมลงกับพื้นดิน วาดภาพตามที่ในหัวสมองพอจะจำได้
" แค่ชานซองหรอ "
ย่อตัวลงมานั่งตามจุนโฮ ในขณะที่ดวงตาสวยจดจ้องอยู่ที่ภาพวาดตรงหน้าไม่วางตา
" ไม่ ซึลองก็มี "
" ซึลอง? "
" คนที่ผมเจอ คนที่เหมือนจะเป็นคนสนิทของจินยอง เอ่อ.. แล้วก็แทคยอน ผมไม่แน่ใจว่ามีรึป่าว "
มินจุนละสายตาออกจากสัญลักษณ์ตรงหน้า พลางขมวดคิ้วแน่น
หมอนั้นก็มีรอยสักอย่างนั้นหรอ..
" แทคยอนมีตรงหน้าอก แต่ผมไม่ทันเห็น "
จุนโฮพูดทั้งๆที่ยังขีดเขียนพื้นดิน สัญลักษณ์ที่ดูเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแปลกๆ
มีตัวหนังสือที่ไม่เข้าใจความหมายอยู่ตรงกลาง..
' SHST '
มินจุนหันกลับมาให้ความสนใจสิ่งที่คนตัวเล็กเขียนอีกครั้ง
" คิดว่ามันมีความหมายซ่อนอยู่งั้นหรอ.. "
จุนโฮพยักหน้ารับช้าๆ
" ผมอยากให้พี่เอาตัวหนังสือพวกนี้ไปค้นดู ว่ามันเกี่ยวข้องกับอะไรบ้าง "
มินจุน จ้องตัวหนังสือตรงหน้านิ่งพยายามจำเอาไว้
" สัญลักษณ์นี่.. ผมคุ้นตาเหมือนเคยเห็นที่ไหน.. "
นิ้วเรียวขีดรูปร่างที่คล้ายกับไฟหรืออาจจะเป็นควันซ้ำไปซ้ำมา ไฟที่ครุ่นกรุ่นอยู่ในลูกแก้ว..
สายตามุ่งมั่นฉายออกมาจากดวงตาเรียว จุนโฮดูแข้มแข็งกว่าที่คิดถึงแม้ว่าพละกำลังหรือความสามารถในการป้องกันตัวจะมีไม่มาก แต่เรื่องความมุมานะเพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ขององค์กร จุนโฮคือคนที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อแลกมาให้ได้ ไม่ว่าเขาจะเอาตัวเข้าแลกก็ตาม..
มองหน้าคนตัวเล็กด้วยความสงสาร ก่อนที่สายตาจะไปสะดุดเข้ากับอะไรบางอย่าง..
รอยช้ำสีหวานบริเวณซอกคอขาว..
“ จุนโฮ.. คอนาย.. “
มินจุนเลื่อนไปแตะรอยแดงนั้นเบาๆ จุนโฮผงะตัวหนีเล็กน้อยพลางกระชับคอเสื้อขึ้นมาปิด
เบือนสายตาหนีดวงตาสวยของคนเป็นพี่ที่มองมา..
“ ..เอ่อ ผม “
" เอาเป็นว่าถ้าฉันหาความหมายตัวหนังสือพวกนี้ได้ ฉันจะส่งข่าวมาบอก
แล้ว.. ฉันจะพยายามจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด.. “
เลือกที่จะตัดบทแทนที่จะเค้นหาที่มาของรอยนั้น.. ดูก็รู้ว่ามันมาจากอะไร..
และดูเหมือนจุนโฮจะไม่อยากพูดถึงมัน
" ส่งข่าวมาบอก.. หมายความว่าวันนี้ผมจะไม่ได้กลับไปกับพี่หรอ.. "
คนตัวเล็กละสายตาออกจากสัญลักษณ์ที่ตัวเองกำลังสนใจทันที มินจุนส่ายหน้าช้าๆ ร่างเล็กมีสีหน้าที่หม่นลงอย่างเห็นได้ชัด
" ถ้าวันนี้เราทำสำเร็จ สามารถจับตัวแทคยอนและชานซองได้พี่จะล้างปากพวกมันให้บอกที่อยู่จินยองมาให้ได้ ส่วนนายจะต้องอยู่สืบเรื่องของจินยองอีกแรงถ้าพวกมันไม่ยอมพูด "
" แล้วถ้ามัน.. ไม่สำเร็จ.. "
ถามเสียงแผ่ว เพราะฝีมือสองคนนั้นไม่ใช่เล่นๆเลย ยิ่งครั้งนี้ดูจะเข้มงวดกว่าเดิมด้วยซ้ำ
ปัง!!!
ทั้งคู่หันมามองหน้ากันเมื่อได้ยินเสียงปืนดังขึ้น มินจุนลุกขึ้นก่อน จุนโฮเองก็รีบลุกตาม คนเป็นพี่ยื่นมีดในมือให้จุนโฮรวมถึงวัตถุเล็กๆคล้ายๆเข็มกลัด...
" หาทางเอาไปติดในทีที่คิดว่าจะตามไปถึงที่อยู่จินยองได้ คิดว่ามันน่าจะมา.. และนายต้องอยู่ข้างชานซองไปก่อน เพราะฉันเองก็ไม่มั่นใจว่าเรื่องจะจบง่ายอย่างที่คิดรึเปล่า ”
มินจุนดึงปืนที่เหน็บอยู่ข้างเอวมาถือกระชับไว้ในมือ
" ยังไงก็เถอะ ดูแลตัวเองด้วย "
มินจุนเดินตรงเข้าไปในความมืดทันทีหลังจากที่พูดจบ ทำให้จุนโฮไม่มีโอกาสได้ถามอะไรอีก ก้มลงมองเครื่องเล็กๆในมือ ยังไงเรื่องนี้คงไม่จบลงง่ายๆสินะ
มันเหมือนทุกอย่างกำลังเริ่มต้น...
แล้วแบบนี้เมื่อไหร่เขาจะหลุดพ้นซักทีล่ะ...
ปัง!
เสียงปืนที่ดังขึ้นอีกนัดทำให้จุนโฮสะดุ้ง เขาไม่สามารถเดาได้เลยว่าสถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไง หวังว่าตอนนี้ฝั่งพี่มินจุนจะได้เปรียบอยู่นะ...
จุนโฮหรี่ตามองโกดังตรงหน้าแสงไฟเล็กจากปลายปืนขยับไปมาอยู่ภายในนั้น ขยับตัวหมอบลงกับพื้นให้ได้มากที่สุด เพราะเสียงฝีเท้าหนักๆที่วิ่งผ่านคนตัวเล็กมุ่งหน้าเข้าไปในไปในโกดัง พยายามรี่ตาโฟกัสเงาดำสามถึงสี่คนเพราะคงไม่ใช่คนของชานซอง
ควอน..
ใบหน้าแบบนั้น สายตาแบบนั้น จำได้ขึ้นใจ..
โจควอนกับลูกน้องกำลังแนบตัวชิดกับผนัง หนึ่งในนั้นพาร่างของตัวเองตะกายขึ้นไปบนขั้นสองผ่านทางผนังรั้วเหล็กของโกดัง เพียงพริบตาเดียวกลุ่มชายชุดดำที่บริเวณหน้าประตูทางเข้าหายไป... และแทบจะทันทีควอนรีบย้ายตัวเองเข้าไปข้างในพร้อมกับลูกน้องที่เหลือ
จุนโฮค่อยๆยันตัวเองขึ้น ประตูทางเข้าด้านหลังไร้คนของชานซองเฝ้าไปชั่วขณะ
ทางสะดวก..
รีบเดินตามควอนเข้าไปทันที..
-------------------------
โกดังกว้าง เปลวไฟจากปลายปืนสว่างวาปไปทั่วบริเวณ ต่างฝ่ายต่างตะลุมบอนเข้าหากัน มินจุนมองไปทั่วโกดัง มันใหญ่.. ใหญ่จนทำให้คิดว่าไอ่ของผิดกฏหมายพวกนี้มันจะไปตกอยู่ในมือวายร้ายได้อีกกี่คน แทงค์เหล็กหนาตั้งตระหงาอยู่ตรงกลาง มีบันไดทอดยาวขึ้นไปจนถึงด้านบน บริเวณผนังเต็มไปด้วยนั่งร้านที่เหมือนจะเป็นนั่งร้านถาวรถูกเชื่อมติดเข้าหากันเป็นอย่างดี เหมือนว่าที่นี่ จะถูกสร้างมาเพื่อเก็บของผิดกฏหมาย อาวุธร้ายแรงโดยเฉพาะ
คอนเทนเนอร์ที่เตรียมพร้อมในการขนย้ายระรานตาเต็มไปหมด ไหนจะเศษซากการก่อสร้าง ท่อนเหล็ก ทุกอย่างที่พร้อมจะเป็นฐานทัพขนาดย่อม รวมถึงห้องควบคุมสิ่งอำนวยความสะดวก
มินจุนพยายามไล่ความรู้สึกจุกอกลงคอ มันน่ากลัวเกินไป.. ไม่คิดว่าไอ่พวกวายร้ายจะเหิมเกริมได้ขนาดนี้
ดวงตาเรียวกวาดมองหาร่างของแทคยอนและชานซอง ชายชุดดำกับพวกของเขากำลังเข้าตะลุมบอนกันจนไม่รู้ว่าฝ่ายไหนเป็นฝ่ายไหน
มินจุนเบี่ยงตัวหลบหมัดหลุนๆของชายชุดดำคนหนึ่งที่พุ่งเข้ามา ขาเรียวขยับยันโครมเข้าที่หน้าท้องของคนตรงหน้า ปืนในมือถูกยกขึ้นจ่อ เขาไม่อยากฆ่าใครถ้าไม่จำเป็น...
ใช้ด้ามปืนฟาดลงบนขมับของชายคนนั้นเต็มแรงจนสลบเหมือด ก่อนที่จะกวาดสายตาหาคู่กรณีของตัวเองอีกครั้ง
มินจุนหรี่ตาลงเมื่อเห็นเป้าหมาย แทคยอนกับลูกน้องอีกห้าหกคนอยู่ท่ามกลางวงล้อมของลูกน้องของเขา พยายามที่จะฝ่าวงหนีออกไป รวมถึงชานซองกำลังปลิดชีวิตลูกน้องเขาทีละคน..
คราวนี้ฉันจะต้องจับนายให้ได้
ขาเรียวที่ขยับก้าวไปข้างหน้าหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงกริ๊กเบาๆ พร้อมกับสัมผัสหนักของปลายกระบอกปืนกดลงบนแผ่นหลัง มินจุนสูดลมหายใจเข้าก่อนจะยกมือขึ้นช้าๆ ดวงตาเรียวเหลือบมองไปข้างหลัง
ร่างโปร่งตัดสินใจใช้ความเร็วของตัวเองให้เป็นประโยชน์ พลิกตัวกลับหลังหันปัดปลายกระบอกปืนของอีกฝ่ายให้ปัดไปด้านข้าง เสียงปืนลั่นเปรี้ยงแต่มินจุนไม่ได้สนใจ อาศัยจังหวะนั้นตบปลายกระบอกปืนลงบนท้ายทอย
ปลายกระบอกปืนเล็งไปที่แผ่นหลังกว้างของแทคยอนที่ยืนอยู่บนโครงนั่งร้าน แต่กลับมีมือดีกระโดดคว้าเอาปลายปืนจากด้านหลัง ทำให้มินจุนเซลง แต่ก็พลิกตัวกลับขึ้นมาสบัดด้ามปืนเข้ากระแทกท้องของชายชุดดำอย่างจังพร้อมกับปล่อยหมัดหนักเข้าที่ปลายคางซ้ำ
ดวงตาเรียวกวาดมองหาเส้นทางก่อนจะวิ่งอ้อมไปอีกด้าน เจอชายชุดดำสองคนยืนดักอยู่กลางทาง ริมฝีปากอิ่มขยับพ่นคำสบถออกมาเบาๆ มันใช่เวลามาขวางมั้ยวะ!
ทั้งสองคนพุ่งเข้ามาหาเขาพร้อมกัน มินจุนก้มตัวหลบหมัดจากคนแรกมาได้แต่เบี่ยงตัวหลบขาของอีกคนไม่ทัน เซไปด้านข้างเล็กน้อย เจ็บหน่วงบริเวณสีข้างที่โดนเตะ หรี่ตาลงเมื่อเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามดึงมีดออกมาถือไว้ในมือ คมวาววับทำให้เขาเพิ่มความระวังตัวมากขึ้น
-------------------------
จุนโฮเดินเรียบชิดกำแพง พยายามเบียดตัวหลบมุมให้พ้นสายตาไอ่พวกชุดดำให้มากที่สุด ตอนนี้คนของทั้งสองฝ่ายส่วนมากก็ไปรวมกันตะลุมบอนกันอยู่ที่ชานซองและแทคยอน..
เป็นหุ่นยนต์รึไงนะสองคนนั้น น่ากลัวชะมัด..
เพราะความสนใจของพวกชายชุดดำส่วนใหญ่ไปอยู่ที่มินจุนและควอน เลยทำให้ไม่เป็นอุปสรรคในการพรางตัวสักเท่าไร สอดส่องสายตาของคนที่คิดว่าน่าจะเป็นจินยองถึงจะไม่เคยเห็นหน้า แต่คงเดาไม่ยาก ราศีคงจะมองออกได้ อีกอย่าง จะมีรอยสักเหมือนกันอีกคนไหมนะ..
ดวงตาเรียวเหงนมองขึ้นไปด้านบนโกดัง คนอย่างจินยองคงไม่อยู่ให้หาเจอง่ายๆหรอกสินะ..
บันไดที่ถูกต่อเข้ากับนั่งร้านสูงขึ้นไปด้านบนหลายชั้นจนจุนโฮเผลอกัดริมฝีปากตัวเอง แก้มเนียนที่เคยเป็นสีชมพูใส ตอนนี้เปรอะเปื้อนเต็มไปด้วยคราบฝุ่นดิน ถ้าเป็นปกติคนตัวเล็กคงจะออกคำสั่งให้ใครซักคนในหน่วยปราบขึ้นไปสำรวจด้านบนไปแล้ว แต่ครั้งนี้เขาต้องทำเอง..
ทางขึ้นบันไดอยู่ด้านหน้า ห่างจากตัวเขาเองประมาน 500 เมตร ไม่ใช่เล่นๆเลยที่ต้องไปให้ถึงตรงนั้นโดยที่จะไม่มีใครมองเห็น
แต่เพราะตอนนี้คนของชานซองไม่รู้ว่าร่างบางเป็นตำรวจเลยทำให้จุนโฮไม่กลัวว่าจะมีใครพุ่งเข้ามาทำร้าย แต่อย่างน้อยก็กลัวโดนลูกหลงละนะ..
นึกนับถือควอนกับคนอื่นๆ ไม่รู้ว่าทนอยู่ในสถานการณ์กดดันแบบนี้ได้ยังไง เหงื่อเม็ดเล็กฝุดออกมาเรื่อยๆ กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งอยู่ในอากาศ
—————————
แทคยอนกระโดดลงมาจากโครงเหล็ก ยกเท้ายันหลังของคนที่กำลังเล็งวิถีกระสุนไปหาน้องชายของตัวเอง เตะเข้าที่หลังหูเต็มแรงก่อนจะดึงตัวเองขึ้นไปยืนบนคานเหล็กชั้นสอง เพราะมินจุนยังวิ่งตามเขาไม่เลิก..
มินจุน.. รู้อยู่แล้วว่าต้องมา...
แทคยอนเลือกที่จะจัดการพวกของมินจุนอยู่ข้างบน เขาถนัดที่จะใช้สายตา.. ส่วนชานซองถนัดที่จะใช้ความเร็ว..
และเวลานี้คงจะพะวงเรื่องจริยธรรมคงไม่ได้ ในเมื่อมีเสี้ยมแหลมอยู่ใต้เท้ายั่วเยี้ยไปมาขนาดนี้..
แทคยอนรัวกระสุนลงไปยังเบื้องล่างไม่หยุดแต่ก็พอสะกิดให้เกิดแผลเล็กๆเท่านั้น เขาเลือกที่จะยิงแขนหรือขามากกว่าที่จะทำให้จบชีวิตลง แต่ถ้าเป็นชานซอง จะไม่มีใครรอดซักคน..
ชานซองกระโดดลงมาจากราวบันไดชั้นสองลงบนแผ่นหลังของร่างหนึ่งก่อนจะยันตัวขึ้นไปบนคอนเทนเนอร์เพื่อไปหายังอีกฝั่งของโกดัง โดยที่มีร่างสูงของฝ่ายตรงข้ามวิ่งตามมา
“ จะอะไรกันนักหนาว่ะ.. ”
สถบออกมาพร้อมกับกระโดลงขึ้นเกาะโครงเหล็กที่เต็มไปด้วยดินปืนหมุนตัวขึ้นยืน ยกปืนเล็งและเหนี่ยวไกใส่ร่างสูงอีกสองคนทันที ย้ายตัวลงมายืนแนบเข้ากับแทงค์ด้านข้าง แต่จู่ๆก็ถูกหมัดปริศนาปล่อยกระทบหัวคิ้ว ชานซองหันไปรวบมือทั้งสองคนคนตรงหน้าด้วยมือเดียว ออกแรงปล่อยหมัดเข้าสวนเต็มหน้าท้อง โน้มตัววิ่งพุ่งชนร่างสูงยกตัวอีกคนขึ้นบ่าก่อนจะพลิกตัวปล่อยให้ตกลงไปเบื้องล่าง
มือหนาปาดหยดเลือดจากหัวคิ้วลวกๆ ชายกำยำห้าถึงหกคนวิ่งเข้าหา สายตาจดจ้องเพียงหวังจะจับตัวเขาไปให้เจ้านาย ปากหยักกระตุกยิ้มก่อนที่หนึ่งในนั้นจะวิ่งเข้ามา ชานซองเบียงตัวหลบบปลายปืนกระโจนตัวไปด้านหลัง ล็อคคอคนตรงหน้าแน่น คว้าเอาปืนในมือมาถือทั้งๆที่ยังโอบรอบร่างสูงใหญ่อยู่ ออกแรงลั่นไกปืนในมือทั้งสองยิงรัวใส่พวกที่เหลือรอบตัว ก่อนจัดการกับเจ้าของปืน ร่างสูงยันข้อพับจนคนตรงหน้าล้มลง ใช้มือหมุนศรีษะนั้นจนเกิดเสียงลั่นของกระดูกรอบคอปล่อยให้ร่างไร้วิญญาณร่วงลงกระทบกับพื้น
มินจุนวิ่งตรงไปที่แทคยอนอยู่พลางหลบวิถีกระสุนไปด้วย แต่วันคงไม่ราบลื่นตลอดทาง ชายชุดดำสองคนวิ่งตรงมาหา มินจุนเบียงตัวหลบเลี้ยวไปอีกทางก่อนจะสไลด์ตัวลงใต้นั่งร้านที่ขวางเอาไว้ยกปืนขึ้นยิงร่างโปร่งที่วิ่งสวนเข้ามาทันที เสียงร้องโหยหวนและเสียงปืนดังระงมเหมือนสัญญาณเตือนภัยไม่มีหยุด
ชานซองใช้หัวโหม่งเข้าใส่และคว้าเอาสะโพกหนาของฝ่ายตรงข้ามขึ้นเหวี่ยงลง พื้นรองเท้าหนาหวังจะตามลงกระทืบซ้ำแต่อีกคนเบียงตัวหลบทันและกลับยกสันรองเท้าขึ้นสบัดเข้าใส่สันกรามใบหน้าหล่อเข้าจนหน้าหันเซไปอีกทาง หมัดหนักจากร่างสูงตามเข้ามาย้ำแต่ชานซองยกแขนแกร่งขึ้นกั้นก่อนจะใช้ศอกตบเข้าที่หน้า จับหัวนั้นกระแทกเข้ากับฝนังปูนย้ำอีกครั้งจนร่างสูงใหญ่ล้มลงบนกองท่อนเหล็ก เป็นโอกาสให้อีกคนคว้าเหล็กหนาขึ้นมาสบัดฟาดใส่ช่วงท้องชานซองจนตัวงอ ใบหน้าหล่อสบัดหัวแรงๆเพื่อเรียกสติกลับมา พยายามยันตัวเองขึ้น ปลายกระบอกปืนสีดำเงากำลังเล็งมาตรงหน้าเขา
“ ฉันอยากเห็นสีหน้าแกเวลานี้จริงๆ ”
“ หึ.. ”
ปัง!!
สายตาที่หมายจ้องจะปลิดชีวิตเขาในตอนแรกล้มลงทันที กลายเป็นร่างสูงของแทคยอนปรากฏอยู่ตรงหน้าแทน
ปืนสั้นสีดำลอยออกจากมือคนเป็นพี่ ชานซองคว้ามันเอาไว้ในมือก่อนจะยักคิ้วให้เป็นเชิงขอบคุณ
ชานซองวิ่งเข้าเอาตัวชนอีกคนที่ทำท่าจะวิ่งเข้าหา กระแทกเข้ากับคอนเทนเนอร์ด้านหลังก่อนจะตบสันกรามด้วยด้ามปืนจนหน้าหัน ยกเท้าขึ้นยันซ้ำจนร่างโปร่งเซกระเด็นไปกระแทกกับตู้กระจกพังทะลายลงมา
แทคยอนก้มลงหลบหมัดทำให้กำปั้นหนานั้นกระแทเข้ากับทงค์น้ำด้านหลังเต็มก่อนจะถูกแทคยอนสวนกลับด้วยหมัดหนัก
———
อูยองก้มลงดูแผนที่ในมือ ก่อนจะเงยขึ้นมาดูทางอีกครั้ง มืออีกข้างก็บังคับพวงมาลัยรถของนิชคุณที่แอบไปขโมยกุญแจมา จะว่าเขาเป็นคนนิสัยไม่ดีก็ได้นะ แต่เขาต้องได้จ้อมูลในการทำข่าวเรื่องนี้ให้ได้
ทางที่ขับมาเปลี่ยว.. ท้องฟ้าเริ่มมืดสนิททำให้เขาต้องเพ่งมองทาง จนในที่สุดก็มาถึงจุดหมาย
ร่างโปร่งเดินลงจากรถตรงดิ่งไปที่ประตูโกดังทันที ขาเรียวหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด มือทั้งสองข้างประคองกล้องที่ห้อยคอเอาไว้เริ่มเปียกชื้น
ลมหายใจถี่กระชั้นอย่างช่วยไม่ได้เมื่อขาค่อยๆก้าวเข้าไปใกล้ทางเข้ามากขึ้น เอาหน่า.. แค่เข้าไปถ่ายรูปเก็บข้อมูลแปปเดียว คงไม่เป็นไรมั้ง.. คงไม่มีอะไรมากหรอก
ดวงตาเรียวเบิกกว้างเมื่อก้าวเข้ามา อูยองรู้สึกเหมือนตัวเองหลุดเข้ามาอีกโลก ฝ่ายไหนเป็นฝ่ายไหน เขาไม่สามารถบอกได้ กวาดสายตามองเก็บรายละเอียดให้ได้มากที่สุด ทางชั้นสองนั่นดูเหมือนจะมีเหตุการณ์อะไรบางอย่าง
อูยองยกกล้องขึ้นมาถ่ายโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองกำลังกลายเป็นเป้านิ่ง
ปัง!
รู้สึกเหมือนตัวเองโดนอะไรบางอย่างกระแทกอย่างแรงจนตัวเองล้มกลิ้ง ยังไม่ทันจะตั้งตัวหรือหายตกใจจากเสียงปืนที่พึ่งดังขึ้นเมื่อกี้ เขาก็โดนลากไปหลบอยู่ในซอก ระหว่างแทงก์น้ำกับกำแพง ซอกแคบๆที่คนสองคนไม่น่าจะมาอยู่ด้วยกันได้
ดวงตาเรียวเบิกกว้างเมื่อเห็นว่าคนที่ช่วยเขาคือใคร ริมฝีปากบางขยับเผยอขึ้น แต่กลับโดนฝ่ามือหนายกขึ้นมาปิดซะก่อน
"ชู่.."
นิชคุณถลึงตาใส่คนตัวเล็กกว่าที่อยู่ในสภาวะสับสน ร่างสูงพ่นลมหายใจด้วยความหงุดหงิด ถ้าเกิดเขามาไม่ทัน นักข่าวจอมจุ้นอาจจะไม่ได้มายืนจ้องหน้าเขาแบบนี้แล้วก็ได้
ทั้งคู่ยืนตัวแข็งทื่อก่อนที่อูยองจะขยับตัวยุกยิกเหมือนพยายามที่จะออกไปจากตรงนี้ ดวงตาคมถลึงใส่อีกครั้ง แต่ดวงตาเรียวกลับฉายแววตื่นตระหนก
“ พรวดพลาดเข้ามาไม่เข้าเรื่อง ”
อูยองปัดมือของนิชคุณออกก่อนจะกระซิบเบาๆ
" กล้องของผม "
คนตัวสูงมองตามนิ้วเรียวที่ขยับชี้ไปทางที่กล้องตกอยู่ ถอนหายใจหนักๆออกมาอีกครั้ง
"คุณจะไปไหน?"
ก่อนที่เขาจะวิ่งออกไปจากซอกแคบ มือเรียวก็จับยึดแขนของเขาเอาไว้ซะก่อน
"เอากล้องให้ไงล่ะ รออยู่ตรงนี้ เข้าใจไหม”
เสียงทุ้มกดต่ำ ดวงตาคมดุจนน่ากลัว อูยองเม้มปากแน่นก่อนจะพยักหน้า
รู้หรอกน่าว่าทำผิด... ชิ..
ร่างสูงก้าวยาวๆไปคว้ากล้องมาได้ ดวงตาคู่สวยกวาดมองหาลู่ทางที่พอจะพาทั้งเขาและอูยองออกไปได้ ประตูทางออกที่ใกล้ที่สุดดูท่าทางจะฝ่าไปยาก ชายชุดดำหลายคนกำลังต่อสู้กันจนมองไม่ออกว่าฝ่ายไหนไปฝ่ายไหน
นิชคุณวิ่งกลับมาหาคนที่ยืนตัวลีบติดกับกำแพง ยื่นกล้องในมือให้ก่อนคว้าข้อมือเล็กเอาไว้
"เราต้องออกไปจากที่นี่"
"แต่ว่า..." ยังถ่ายไม่ได้ซักรูปเลยนะ
ประโยคหลังถูกกลืนหายไปในลำคอเมื่อเจอสายตาดุๆที่ส่งมา
"เราต้องวิ่ง"
"วิ่ง?"
"ใช่ ต้องวิ่งลอดนั่งร้านนั่น ไปออกทางประตูนั้น"
อูยองขยับตัวออกมาชะโงกดูตามที่นิชคุณบอก อ้าปากพะงาบๆเพราะมันไม่ใช่ระยะทางใกล้ๆเลย มันคนละฝากกันเลยนี่น่า..
"ใกล้กว่านี้ไม่มีแล้วเหรอ"
"จะออกไปไหม?”
ดวงตาสองคู่สอดประสานกันอีกครั้ง ดวงตาคมจ้องนิ่งในขณะที่อีกคนใจสั่นระรัวขึ้นมาซะเฉยๆ เสียงปืนที่ดังขึ้นเรียกสติให้อูยองรีบขยับปากตอบ
"ก็ได้.."
"ดี งั้นวิ่งไปก่อน เดี๋ยวจะระวังให้เอง"
มือเรียวกระชับกล้องเอาไว้ในมือแน่น ก่อนจะพยักหน้ารับอย่างช่วยไม่ได้
"วิ่ง!"
อูยองสูดลมหายใจลึกก่อนจะออกวิ่งตามคำบอกของคนตัวสูง ลำบากก็ตรงต้องประคองกล้องสุดที่รักไปด้วยเนี่ยแหละ!
ร่างโปร่งพยายามก้าวขาให้ยาวที่สุด แต่ก่อนที่เขาจะก้มตัวลงลอดนั่งร้าน มือของคนที่วิ่งตามหลังมาก็รั้งแขนของเขาเอาไว้อย่างแรง ร่างสูงพลิกเอาตัวเองบังคนตัวเล็กเอาไว้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอด เสียงปืนที่ดังติดๆกันสองครั้งทำให้อูยองสะดุ้งสุดตัว
คนตัวสูงรั้งให้ร่างเล็กลุกขึ้น ดันไปติดกับผนังและเอาตัวเองบังไว้อีกชั้น เพราะไอ่พวกชุดดำที่แห่กรูกันเข้ามา นิชคุณยกปืนยิงสะกัดและจับไหล่หนาของร่างสูงใหญ่ที่วิ่งเข้ามาเหวี่ยงลงกับพื้น ร่างเล็กหลับตาปี๋กำเสื้อของคนที่กำลังเอาตัวเป็นเกาะป้องกันแน่น ได้ยินเสียงตุ้บตับกับแรงสะเทือนจากคนตรงหน้ายิ่งทำให้อูยองกลัวไปใหญ่
"ไปต่อ!"
ยังไม่ทันได้คิดอะไรต่อ มือหนากดศีรษะกลมให้ก้มลงวิ่งลอดนั่งร้านไปก่อน ส่วนตัวเองกวาดสายตามองตรงไปยังที่มาของกระสุน ก่อนจะยกปืนขึ้นมายิงตรงไปยังชายชุดดำที่ยืนอยู่บนชั้นสองอย่างแม่นยำ
อูยองวิ่งลอดนั่งร้านออกมาได้อย่างรวดเร็ว ในจังหวะที่เขากำลังจะหันกลับไปมองด้านหลัง เสียงกริ๊กที่ดังขึ้นเบาๆก็ทำเอาตัวแข็งทื่อ มือทั้งสองข้างยกขึ้นอัตโนมัติ โดยที่มือข้างหนึ่งยังถือกล้องอยู่
อูยองกลืนน้ำลายเอื้อกเมื่อหันไปเจอปลายกระบอกปืนจ่ออยู่กลางหน้าผาก ใจสั่นระรัวด้วยความกลัว
ก่อนที่ชายชุดดำตรงหน้าจะทรุดตัวลงด้วยด้ามปืนของนิชคุณที่ฟาดลงบนท้ายทอย ร่างสูงหอบหนักก่อนจะคว้าเอาคนที่ยืนเอ๋อให้ออกวิ่งอีกครั้ง...
พระเจ้า.. ช่วยจางอูยองด้วย..
นี่ผมกำลังทำอะไรอยู่ที่นี่!!!!
-------------------
มินจุนใจหายวาบเมื่อเห็นว่าลูกน้องของตัวเองเริ่มล้มลงไปทีละคน พวกที่ล้อมแทคยอนเอาไว้ก็เหมือนจะกันไว้ไม่ไหว เขาจะปล่อยให้แทคยอนหนีไปไม่ได้
เป้าหมายอยู่ไม่ไกล มินจุนขยับตัวหลบ แทรกตัวอยู่หลังคอนเทนเนอร์ พยายามกำบังตัวเองให้พ้นจากสายตาฝ่ายตรงข้ามจนตอนนี้มาหยุดอยู่ที่ด้านหลังของแทคยอน
ชายชุดดำคนทางซ้ายขยับตัวพุ่งเข้ามาหา ขยับเบี่ยงตัวหลบมีดคม ล็อคแขนของชายคนนั้นไว้แน่น ก่อนที่ขาเรียวจะออกแรงถีบหน้าท้องของอีกคนที่ทำท่าจะพุ่งเข้ามากระเด็นไปกระแทกกับเสาเต็มแรง
ออกแรงบีบให้ชายชุดดำปล่อยมีดที่ถืออยู่ในมือก่อนจะเตะออกไปให้ไกลจากตัว จับแขนไพล่หลังโดยเอาปืนจ่อศีรษะเอาไว้ กุญแจมือที่พกมาถูกหยิบออกมาใช้
มินจุนเค้นหัวเราะเตะเน้นไปที่สีข้างเพื่อเป็นการแก้แค้นเล็กๆน้อยๆ ส่วนชายอีกคนที่เขาเตะไปกระแทกกับเสาโดนลูกน้องของเขาจัดการเรียบร้อย
อ๊คแทคยอน...
คิ้วเรียวขมวดหมับรีบออกวิ่งทันที หวังว่าลูกน้องของเขาคงยังไม่พลาดท่าหรอกนะ
กริ๊ก...
"มันจบแล้วแทค"
ปลายกระบอกปืนจ่ออยู่ตรงหน้าอกของคนตัวสูง แทคยอนหันมามองมอง ค่อยๆไล่สายตาลงมองปลายปืนที่จ่ออยู่ตรงหน้าอกตัวเอง ก่อนจะสบตากับดวงตาเรียวนิ่ง
"ฉันรู้อยู่แล้วว่านายต้องมา"
มินจุนเพิ่มแรงกดปลายกระบอกปืน กวาดสายตามองร่างของลูกน้องตัวเองที่นอนอยู่บนพื้น
"คราวนี้ฉันจะไม่ปล่อยให้นายหนีออกไปได้"
ดวงตาคมสงบนิ่ง ไม่มีแววขี้เล่นเหมือนตอนที่เจอกันครั้งสุดท้าย ก็แน่ล่ะ สถานการณ์มันต่างกัน...
"ขอโทษนะ แต่ฉันคงยอมให้นายจับไม่ได้"
มือหนาตบแรงๆเข้าที่ข้อมือบางที่กำด้ามปืน ทำให้มินจุนเผลอปล่อยปืนในมือร่วงลงกระแทกพื้น ก่อนจะเตะออกไปไกล ดวงตาเรียวตวัดมองก่อนจะพลิกมือคว้าหมับเข้าที่ข้อมือหนา แต่แรงของแทคยอนเยอะกว่ามาก ทำให้เขากลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
มือข้างหนึ่งถูกจับไพล่หลังเอาไว้ มืออีกจ้างที่เป็นอิสระถูกมือใหญ่จับยึดไว้เฉยๆ
ลมหายใจร้อนเป่ารดอยู่ข้างใบหู
"มันจบแล้ว มินจุนอ่า..."
ร่างโปร่งกัดฟันกรอด ยืนนิ่งเหมือนยอมจำนน แทคยอนค่อยๆปล่อยมือออก มินจุนรอจังหวะก่อนจะพลิกตัวหันกลับมา ดึงปืนอีกกระบอกที่เหน็บอยู่ข้างเอวขึ้นมาจ่อในระยะประชิดอีกครั้ง
"ใครกันแน่ที่จะจบ" นิ้วเรียวสอดเข้าไปในไกปืน ถ้าหากแทคยอนขยับเขาก็คงเหนี่ยวไกแน่
ปลายกระบอกปืนที่จ่ออยู่บริเวณหน้าอกข้างซ้ายไม่ทำให้คนตัวสูงกลัวซักนิด ดวงตาคมสบนิ่งกับคนตรงข้ามอีกครั้ง จ้องลึกเข้าไปในดวงตาเรียวราวกับต้องการจะรู้อะไรบางอย่าง
"คุณไม่ยิงผมหรอก"
เสียงทุ้มแผ่วเบาแต่กลับดังสะท้อน ริมฝีปากอิ่มยกยิ้มมุมปาก กระชับปืนในมือแน่น
"ทำไมนายถึงมั่นใจนักล่ะ"
"เพราะคุณสั่งให้จับเป็นไงล่ะ"
ร่างสูงเอ่ยตอบทันที มินจุนแค่นหัวเราะเบาๆในลำคอ หรี่ตาลงดูท่าทีนิ่งๆของคนตรงหน้า ก่อนจะตัดสินใจเหนี่ยวไกทันทีที่ร่างสูงขยับตัว
ปัง!
แต่เหมือนกับว่าแทคยอนจะรู้อยู่แล้วว่ามินจุนจะต้องเหนี่ยวไกแน่ มือหนาปัดข้อมือของคนตรงข้าม ทำให้กระสุนเฉี่ยวเข้าที่หัวไหล่ซ้าย มินจุนกัดฟันกรอด เหนี่ยวไกอีกครั้ง ครั้งนี้แทคยอนจับยึดข้อมือบางเอาไว้ ทำให้กระสุนลั่นเปรี้ยงขึ้นฟ้า
แทคยอนพลิกตัวให้มินจุนเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของตัวเอง ล็อคมือทั้งสองข้างของคนตัวเล็กกว่าเอาไว้ ออกแรงบีบจนมินจุนปล่อยปืนในมือ
"ผมบอกแล้วว่ายังไงผมก็ไม่ยอมให้คุณจับง่ายๆหรอก" เสียงทุ้มกระซิบชิดริมใบหู มินจุนสะบัดตัวแรงๆ แต่ก็ยังสู้แรงแทคยอนไม่ได้ ร่างสูงบังคับให้เขาเดินออกไปทางประตูโดยมีปืนจ่ออยู่ที่เอว
ในอีกด้านหนึ่งของโกดัง
จุนโฮยืนนิ่งมองพี่ชายตัวเอง แย่แล้ว.. แบบนี้แย่แน่ๆ ใจกำลังคิดหาทางช่วยพี่ชาย แต่ก็พลัดเหลือบไปเป็นสายตาคมที่กำลังมองมา
ชานซอง..
แย่ละ..
คนตัวเล็กตัดสินใจรีบเดินไปที่บันได เอาไงเอากันว่ะ.. ต้องหาจินยองให้เจอให้ได้ บนดินไม่เจอ ถ้าไม่หาบนฟ้าก็ไม่รู้จะหาที่ไหนแล้ว
" จุนโฮ! "
เสียงทุ้มตะหวาดลั่น ไม่ต้องเดาเลยว่าคนตัวสูงจะอยู่ไหนอารมณ์ไหน
ร่างบางหยุดกึก หลบอยู่หลังคอนเทนเนอร์ เสียงปืนยังคงดังขึ้นไม่หยุด อย่างน้อยคงมีคนถ่วงเวลาชานซองไม่ให้มาถึงตัวได้ง่ายๆ จุนโฮค่อยๆโผล่หน้าออกไป ดูเหมือนว่าชานซองจะพยายามตรงเข้ามาหาเรื่องเขา
มินจุนดิ้นสะบัดตัวอย่างแรงอีกครั้ง ดวงตาเรียวกวาดมองไปรอบๆพยายามหาทางรอด นี่มือหรือเหล็ก ล็อคแน่นไปแล้วนะ!!!
แทคยอนพยายามผลักให้มินจุนที่กำลังขืนตัวให้ออกเดินไปข้างหน้า ดวงตาคมเหลือบไปเห็นพวกของมินจุนกำลังวิ่งตรงมาทางนี้พอดี คนที่วิ่งนำหน้ามานั่น... โจควอนสินะ
ร่างสูงกระตุกยิ้มมุมปากหยุดเดินเสียดื้อๆ กวาดสายตามองหาร่างของน้องชาย แทคยอนสบตากับชานซองแวบหนึ่ง ก่อนจะยกปืนที่จ่อเอวมินจุนอยู่ขึ้นยิงเปรี้ยงไปทางแทงก์แก๊สขนาดใหญ่
จุนโฮที่กำขยับตัวออกจากที่กำบังอีกครั้ง ตกใจจนเผลอถอยหลังชิดกำแผง ก้าวขาออกไปได้ไม่เท่าไร ก็รู้สึกว่าตัวเองถูกฉุดด้วยแรงจากใครบางคนก่อนจะล้มลงพร้อมกับเสียงระเบิดดังกึกก้องไปทั่ว
" อยากตายมากไหมจุนโฮ!! บอกให้อยู่ในรถไง!! "
" ก..ก็ ใ.. อ้ะ! "
ยังไม่ทันพูดจบ ตาเรียวก็เหลือไปเห็นหยดเลือดที่ไหลออกมาจากมือคนตรงหน้า คงเป็นเพราะตอนที่ล้มเมื่อกี้ ต้องไปโดนอะไรแน่ๆ แต่จู่ๆร่างสูงก็คว้าข้อมือเล็กฉุดขึ้นให้ออกวิ่ง พร้อมๆกับชานซองที่กำลังรัวยิงไปที่แทงค์ตรงกลางโกดัง
“ นายทำอะไรของนาย!! “
จุนโฮเบิกตากว้างชานซองรัวยิงไปที่แทงค์ไม่หยุด
เสียงระเบิดทำให้มินจุนสะดุ้งสุดตัว ใจหายวาบเมื่อเห็นโจควอนกำลังวิ่งตรงมาช่วยเขา..
แทคยอนและชานซองก็ยังไม่เลิกที่จะกราดยิงเสริมแรงระเบิด
"นายกะจะฆ่าคนทั้งโกดังเลยรึไง!!"
ร่างโปร่งตวาดเสียงดัง แทคยอนไม่ตอบ
ออกแรงกระชากให้มินจุนออกวิ่งต่อ ร่างโปร่งพยายามที่จะหันกลับไปมองด้านหลัง โจควอนจะเป็นยังไงบ้าง ลูกน้องของเขาจะโดนระเบิดรึเปล่า
ร่างคุ้นตาสามสี่คนกระโจนหนีเปลวเพลิงออกมารอดอย่างหวุดหวิด ภาพสุดท้ายที่มินจุนเห็นคือภาพของเพื่อนตัวดีกำลังประจันหน้ากับฮวางชานซอง..
ก่อนที่เขาจะถูกแทคยอนกระชากออกจากตรงนั้นไป..
ชานซองเดินไปลากคอเสื้อของชายหนุ่มหน้าสวยขึ้นมา มือซ้ายของคิมมินจุนสินะ..
แสงไฟจากเปลวเพลิงส่องสว่างออกมาถึงข้างนอกทำให้จุนโฮเห็นภาพตรงหน้าเต็มตา ภาพของพี่ชายคนสนิทกำลังถูกคนตัวโตยกขึ้นมาจนตัวลอย
อย่านะ ชานซอง.. ขอร้อง..
ใจดวงน้อยเต้นรัวอยู่ในอก พยายามคิดหนทางช่วยอีกคน แต่ในสถานการณ์แบบนี้กลับตื้อตันคิดอะไรไม่ออก ชานซองผลักควอนล้มลงไปกับพื้น ก่อนจะสาวเท้ายาวๆไปกระทืบซ้ำ จนจุนโฮรีบวิ่งเข้าไปรั้งร่างสูงเอาไว้
“ ชานซอง! พอเถอะ! ป..ไปกันเถอะ นะ.. ”
พูดอ้อนวอนและพยายามไม่มองร่างที่นอนกระอักเลือดอยู่บนพื้น มือบางกระตุกข้อมือหนาที่ยังมีเลือดไหลออกจากรอยแผลกลางฝ่ามือ พยายามดึงให้เดินออกจากตรงนั้น
“ ถอยออกไปจุนโฮ.. ” ชานซองดันคนตัวเล็กออกไปพลางเดินขึ้นไปกระชากโจควอนขึ้นมาอีกครั้ง
“ ไง.. ควอนสินะ.. ”
ปากหยักยกยิ้มขึ้นช้าๆเมื่อเห็นแววตาอีกคนที่กำลังจ้องหน้าเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย
“ แกมันชั่ว.. ”
เสียงแหบพร่าร้องเถียงออกมาอย่างยากลำบาก ถึงยังไงเขาก็ไม่ยอมตายด้วยน้ำมือของคนที่เขาพยายามตามจับมาแทบทั้งชีวิตหรอก.. ยิ่งได้เห็นสีหน้าแย่ๆของจุนโฮแล้วยิ่งไม่น่าให้อภัย..
ชานซองผลักร่างโปร่งลอยไปกระแทกพื้นอีกครั้ง โจควอนกัดปากกลั้นเสียงร้องของตัวเอง พยุงตัวขึ้น ลูกน้องสามสี่คนของมินจุนที่เหลืออยู่ก็เหมือนกัน มองแค้นชานซองที่ยืนเหยียดยิ้มอยู่นิ่งๆ
“ เอาสิ ลุกขึ้นมา.. พวกแกทั้งหมดนั้นแหละ.. “
แสงไฟจากด้านในโกดังค่อยๆมอดลง เหลือเพียงแสงไฟเล็กๆทำให้เห็นแค่เสี้ยวหน้าเท่านั้น
เสียงหอบเล็กๆดังออกมาจากปากอิ่ม แก้มอูมๆนั้นขยับขึ้นแรงตามแรงหอบ นิชคุณปิดปากคนตัวเล็กแน่น สายตาทั้งคู่จดจ้องไปที่คนตัวสูงยืนอยู่ท่ามกลางคนของอีกฝ่าย
คนบ้าอะไรน่ากลัวชะมัด..
สายตาคมนั้น ถ้าโดนจ้องตรงๆละก็ มีหวังหัวใจวายตายแหง่ๆ ถึงจะหล่อมากก็เถอะ
ทำไมจางอูยองต้องมาเจอกับเรื่องแบบนี้ด้วยนะ..
แล้วทำไมไอ่หน้าหล่อข้างหลังผมมันต้องปิดปากผมแน่นขนาดนี้ด้วย!
“ อื้ออ.. ”
อูยองโวยวายเบาๆ นิชคุณเลยคลายมือออกจากปากบาง แต่ก็ยังไม่วายกดหัวทุยให้หมอบลงต่ำหลบสายตาคม หลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่
“ นี่คุณผมเจ็บ.. ”
“ ชู่วว.. อยากตายรึไง! “
เพราะคนตัวเล็กเริ่มดิ้นยุกยิก เลยต้องออกแรงบังคับให้นั่งนิ่งๆอยู่ในอ้อมกอด แต่เหมือนว่ามันจะทำให้อูยองลำบากมากกว่าเดิม
ตุ้บบ!!
ร่างสูงใหญ่ของชายคนหนึ่งลอยตกลงมาอยู่ตรงหน้า คนตัวเล็กสะดุ้งเฮือกถอยร่นเข้าไปชิดกับแผ่นอกของอีกคน
คนบ้าอะไร หันไปคุยกันแปปเดี๋ยวต่อยร่วงแล้วรึไง
ยังเป็นคนอยู่รึป่าวน่ะไอ่หมอนี่!!
ทั้งคู่หันไปมองภาพตรงหน้าทันที ชานซองกำลังยกปืนขึ้นจ่อใครคนหนึ่งแต่กลับโดนคนตัวเล็กที่โดนสะบัดออกเมื่อกี้ห้ามไว้ก่อน เลยเลือกที่จะให้สันปืนสบัดตบหน้าอีกคนจนสลบลงกับพื้นแทน
“ เราต้องไปแล้ว ก่อนที่มันจะเห็นเราซะก่อน..”
————————————
"ปล่อยฉัน!"
"แทคยอน! ฉันบอกให้ปล่อย นี่จะพาฉันไปไหน!!?"
"ไอ้บ้าแทค! ปล่อยฉัน!"
เสียงโวยวายของมินจุนดังลั่นตลอดทาง แต่แทคยอนกลับไม่สนใจทั้งผลักทั้งดันให้เดินตรงไปตามเส้นทางมืดสนิท จนมาถึงรถที่จอดอยู่ทำให้มินจุนเริ่มรู้ชะตากรรมของตัวเอง
เสียงหอบหายใจของมินจุนดังชัดเจนในความเงียบสงบยามค่ำคืน แทคยอนกดปลายกระบอกปืนลงไปบนแผ่นหลังของคนตัวเล็กกว่า พร้อมกับกระชากประตูรถให้เปิดออก
"ขึ้นไป"
"ไม่"
ร่างโปร่งพลิกตัวหันมาเผชิญหน้า สบดวงตาคมนิ่ง
"ยิงเลยสิ ให้ฉันตายยังดีซะกว่าไปกับนาย"
"ทำไม ไปกับผมแล้วยังไง คุณกลัว?"
ถึงแม้ว่ารอบข้างจะมืดสนิท แต่เพราะแทคยอนก้มหน้าลงมาจนเกือบชิด ทำให้มินจุนเห็นว่ามุมปากของคนตัวสูงยกขึ้นเป็นรอยยิ้มกวนๆ
ยังไม่ทันที่เขาจะได้ขยับตัวก็โดนคนตัวสูงผลักแรงๆเข้าไปนั่งบนรถ มือหนาปิดบานประตูเสียงดังปัง รีบวิ่งขึ้นไปด้านคนขับทันที
มินจุนอาศัยจังหวะที่คนตัวสูงกำลังวิ่งอ้อมเปิดประตูรถเพื่อจะหนี ขาเรียวก้าวลงจากรถแต่แขนกลับถูกมือหนาดึงเอาไว้
"ไอ้บ้าเอ้ย!"
แทคยอนออกแรงกระชากให้คนตัวเล็กกว่าขึ้นมานั่งที่เดิม ชะโงกตัวไปปิดประตูรถ พร้อมกับออกรถทันที
"การเปิดประตูแล้วกระโดดลงไปแบบในละครมันเป็นความคิดที่โง่มากเลยนะมินจุน" เสียงทุ้มต่ำดังขึ้น มินจุนเม้มปากแน่นมองออกไปด้านนอกกระจก เขาไม่ได้คิดจะทำแบบนั้นซักหน่อย!
เสียงโทรศัพท์ของร่างสูงทำให้มินจุนที่นั่งถอนหายใจหนักๆด้วยความหงุดหงิดกลับมาสงบอีกครั้ง อยู่แบบนี้ก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อดี อย่างน้อยก็น่าจะพอสืบอะไรได้บ้าง
"ครับ"
ดวงตาเรียวเหลือบมองแขนข้างซ้ายที่โชกไปด้วยเลือดของแทคยอน นึกสมน้ำหน้าในใจ รับรองว่าครั้งหน้าถ้ามีโอกาสจะไม่แค่เฉียดไหล่แน่ๆ
"ครับ ผมโอเค ตอนนี้ออกมาแล้ว" ร่างสูงหันมามองมินจุนที่นั่งจ้องไปข้างหน้านิ่งๆ แอบฟังอยู่ล่ะสิ...
"ชานเหรอ ตอนผมออกมายังปลอดภัยอยู่ แต่ตอนนี้ไม่รู้" มินจุนเม้มริมฝีปาก สมองประมวลผลด้วยความรวดเร็ว จมอยู่ในห้วงของความคิดตัวเอง โดยไม่รู้สึกตัวเลยว่าแทคยอนหักรถหลบเข้าข้างทาง
"กำลังคิดอยู่หรือไงว่าผมคุยกับใคร?"
ร่างโปร่งสะดุ้งเฮือก มองซ้ายขวาเมื่อเห็นว่ารถจอดอยู่กับที่ก็จ้องคนขับเขม็ง
"อะไรของนาย"
"ปาร์คจินยอง อยากคุยกับเขามั้ยล่ะ"
ชื่อที่ออกมาจากริมฝีปากบางทำให้มินจุนหยุดโวยวาย ปาร์ค จินยอง คนที่เขากำลังตามหา ร่างโปร่งขยับถอยจนแผ่นหลังติดกับประตูเมื่อร่างสูงเบื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้
"แลกกับที่อยู่คอนโดนาย บอกฉันมา"
"ทำไมฉันต้องบอก"
แทคยอนถอนหายใจเสียงดัง แขนแกร่งทั้งสองข้างวางคร่อมกักตัวคนตัวเล็กกว่าเอาไว้ มินจุนเบิกตากว้าง มือทั้งสองข้างขยับดันแผ่นอกกว้างโดยอัตโนมัติ
"ทำบ้าอะไร!!" กลิ่นเลือดมันทำให้เขาอยากจะกลั้นหายใจตายให้รู้แล้วรู้รอด
"คอนโดนายอยู่ที่ไหน ถ้าไม่บอกฉันจูบจริงๆด้วย"
"จะบ้ารึไง!!!!" มินจุนตะคอกเสียงดัง ถลึงตาใส่คนตัวสูงที่เลื่อนหน้าเข้ามาหา จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น
"ถอยออกไป! ไอ้บ้าแทคยอนนนน!!!" ใบหน้าเรียวเบี่ยงหลบริมฝีปากที่ฉกวูบลงมา
"ว่าไงล่ะ" เสียงทุ้ใแหบพร่ากระซิบชิดริมใบหู
"เออๆ บอกแล้วๆ ถอยออกไปก่อนสิ!"
"ก็แค่นั้น เอาล่ะ ทีนี้ก็บอกมาได้แล้ว"
แทคยอนดึงตัวกลับไปนั่งประจำที่คนขับ
มินจุนสูดลมหายใจเข้าออกถี่ๆ ปรับลมหายใจให้กลับมาเป็นปกติ
"นายจะไปคอนโดฉันทำไม"
"ที่นั่นอาจจะมีอะไรดีๆ"
รถเริ่มเคลื่อนตัวอีกครั้ง ในขณะที่มินจุนขมวดคิ้วมุ่น
"นายหมายถึงอะไร"
"มินจุนอ่า...แค่บอกที่อยู่คอนโดคุณมาก็พอ"
—————————
ร่างสูงถอดเสื้อตัวนอกโยนลงบนพื้นด้วยอารมณ์ที่ยังคงหงุดหงิดไม่หาย ก่อนจะดึงเสื้อชื้นเหงื่อออกจากร่างโยนตามเสื้อตัวนอกไปติดๆ จุนโฮที่เดินตามเข้าห้องมาทีหลังต้องเบือนสายตาหลบแผ่นอกหนาของคนตัวสูง
จุนโฮนั่งลงบนปลายเตียงนิ่งๆ มองร่างสูงเดินไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลมาโยนไว้ข้างๆตัวเขา จุนโฮสะดุ้งเล็กน้อยเหลือบตามองชานซองด้วยความไม่เข้าใจ
"ทำแผลให้ฉัน"
"ทำไมฉันต้องทำด้วย"
ใบหน้าเรียวเชิดขึ้น ไม่ใช่ธุระอะไรของเขาซักหน่อย ทำเองไปสิ!
"ฉันได้แผลนี่ก็เพราะนาย" ดวงตาคมกริบจ้องคนตัวเล็กเขม็ง จุนโฮขยับตัวด้วยความอึดอัด
“ไม่เ..”
“ฉันบอกให้ทำ!”
" อะ..เออ!! รู้แล้วล่ะน่า นั่งสิ"
จุนโฮนั่งขัดสมาธิบนเตียง มือเล็กจัดการใช้แอลกอฮอล์ล้างแผลให้ก่อน ไม่คิดจะเบามือหรอกนะ ทำแรงขนาดไหนก็คงไม่เจ็บหรอกมั้ง เมื่อกี้ทั้งๆที่มือเจ็บยังซ้อมโจควอนซะน่วม... ไอ้บ้าเอ้ย
ถ้าไม่ห้ามไว้ละก็ ตายแน่ๆ
แต่น่าแปลก.. แปลกที่ชานซองยอมเชื่อเขา..
ปกติหมอนี่ต้องฆ่าไม่เลือกแล้วสิ แต่นี่ทำไม..
มือหนาวางนิ่งอยู่บนตักของคนตัวเล็ก ร่างสูงมองจุนโฮที่กำลังราดยาลงบนแผลของเขาแบบไม่ยั้งมือ มันแสบ.. แต่เขาก็ทนได้
"ไม่แสบรึไงวะ" เสียงเล็กบ่นงุบงิบอยู่คนเดียว ก่อนจะทำการใช้ผ้าพันแผลพันรอบมือหนา
"พันไม่เป็นรึไง" เสียงทุ้มเอ่ยถาม หลังจากมองท่าทางเก้ๆกังๆของคนตัวเล็กอยู่นาน ดวงตาเรียวตวัดมอง ก่อนจะส่งเสียงบอกเบาๆ
"ยกมือขึ้นสิ"
มือหนายกขึ้นตามคำบอกอย่างง่ายดาย คิ้วเรียวเลิกขึ้นเล็กน้อยด้วยความแปลกใจ มือเรียวจัดการพันแผลให้ช้าๆ
ร่างสูงพลิกมือไปมาดูผลงานของร่างเล็ก ก่อนจะลุกขึ้นยืนพร้อมกับใช้มืออีกข้างคว้าข้อมือบางเอาไว้
"อะไรของนาย แผลก็ทำเสร็จแล้วนี่ ปล่อยสิ"
ชานซองไม่ตอบ ออกแรงดึงให้คนตัวเล็กเดินตามเข้ามาในห้องน้ำ จุนโฮเบิกตากว้าง มือข้างที่ว่างคว้ากรอบประตูไว้แน่น
"ชานซอง! ทำบ้าอะไร ปล่อย!"
ร่างสูงหันมาออกแรงกระชากทีเดียวมือบางที่เกาะกรอบประตูก็หลุด ร่างเล็กตัวปลิวเข้ามาปะทะแผ่นอกกว้าง
"มือข้างขวาฉันใช้ไม่ได้"
"แล้วยังไง!?" จุนโฮสะบัดข้อมือแรงๆ ก่อนจะขยับถอยออกมาให้ห่างจากร่างสูง
มือหนาข้างซ้ายเอื้อมไปหยิบที่โกนหนวดขึ้นมาถือเอาไว้ ก่อนจะส่งให้คนตัวเล็กที่ยืนตัวแข็ง อย่าบอกนะว่าจะให้เขาโกนหนวดให้...
"โกนหนวดให้ฉัน"
"จะบ้าหรือไง! ใครจะไปทำ!!"
จุนโฮพูดเสียงดัง ร่างเล็กหันหลังกลับก้าวยาวๆเดินออกจากห้องน้ำ
"เฮ้ย! ทำบ้าอะไรเนี่ย! ชานซอง!"
ร่างเล็กร้องโวยวายลั่นเมื่อแขนแกร่งตวัดรอบเอวของเขา ขาทั้งสองข้างลอยขึ้นจากพื้น ก่อนจะถูกว่าลงบนเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้า แขนทั้งสองข้างวางคร่อมร่างเล็กเอาไว้ ใบหน้าคมเลื่อนเข้าหาใบหน้าหวานจนเกือบชิด ลมหายใจอุ่นที่เป่ารดซีกแก้มด้านขวา ทำให้จุนโฮต้องเบี่ยงหน้าหลบมากขึ้น
"เร็วสิ" เสียงทุ้มเอ่ยเร่ง จุนโฮได้แต่หงุดหงิดอยู่ในใจ ทำไมเขาต้องทำตามคำสั่งไอ้บ้านี่อีกแล้ว!
"ถอยออกไปหน่อยสิ! มันอึดอัดนะ!"
ชานซองขยับตัวขึ้นยืนตรง ทำให้จุนโฮต้องยืดตัวขึ้นเล็กน้อย มือเรียวที่เต็มไปด้วยโฟมโกนหนวดขยับเข้าหาใบหน้าคมที่โน้มลงมาช้าๆ
การที่ต้องมาโกนหนวดให้คนอื่นแบบนี้มันเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยทำมาก่อน แล้วก็ไม่คิดว่าจะต้องทำด้วย!
ชานซองมองริมฝีปากอิ่มของคนตัวเล็กที่เผยอขึ้นเล็กน้อยอย่างไม่รู้ตัวขณะกำลังกดมีดโกนลงบนสันกรามของเขา
ลมหายใจอุ่นเป่ารดซีกแก้มเพราะใบหน้าที่ขยับเลื่อนเข้ามาใกล้จนเกือบชิด มือเรียวเกร็งเล็กน้อยเพราะสายตาคมที่มองมา เขาไม่อยากทำให้คนตัวสูงเป็นแผล เพราะอาจจะโดนทำโทษได้...
จุนโฮขยับมองแค่ไรหนวดอ่อนๆรอบปากหยัก เพราะไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นไปสบตาคมที่กำลังมองเขาอยู่
ชานซองลอบมองปากอิ่มที่ชอบเถียงแวดๆ มองจมูกเล็กรั้นได้รูป มองตาเรียวที่มักจะส่งสายตาแข็งกร้าวใส่
ไม่รู้ว่าทำไมทุกครั้งที่โมโห พอเห็นคนตัวเล็กแล้วก็ใจเย็นขึ้นมาได้ง่ายๆ..
ทั้งๆที่วันนี้งานพังไม่เป็นท่าแท้ๆ
มือนิ่มเช็ดโฟมออกเบาๆหลังจากที่โกนเสร็จแล้ว จุนโฮละสายตาออกจากปากอิ่มของอีกคน เงยหน้าขึ้นมอง
"เสร็จล... อื้อ.."
หลังจากที่มองอยู่นาน เมื่อจุนโฮขยับริมฝีปากพูด ริมฝีปากหยักของคนตัวสูงก็กดจูบหนักๆลงไปทันที ดวงตาเรียวเบิกกว้าง ยกมือขึ้นดันแผ่นอกกว้างด้วยความตกใจ
"ไอ้บ้า ทำอะไรบ้าๆอีกแล้วนะ!"
ริมฝีปากอิ่มแดงช้ำเมื่อเป็นอิสระ ชานซองยกยิ้มมุมปากก่อนจะก้มลงไปประทับจูบอีกครั้ง สัมผัสร้อนทำให้จุนโฮหอบหายใจถี่ๆ ลิ้นร้อนไล้เล็มไปตามกลีบปากสีหวาน มือบางบีบต้นแขนของร่างสูงแน่นเมื่อมือหนาสอดแทรกเข้าไปในเสื้อของเขา
"สำหรับที่นายไม่ยอมเชื่อฟังคำสั่งของฉัน"
มือหนาขยับลูบเนื้อเนียนใต้เสื้อผ้า ริมฝีปากหยักคลอเคลียอยู่ข้างใบหูเล็ก
"ถ้ายังมีคราวหน้าอีกล่ะก็.." เสียงทุ้มยังพูดไม่ทันจบ จุนโฮที่นั่งนิ่งมานานก็ออกแรงผลักอกหนา
"อย่ามาขู่ซะให้ยาก!!" คนตัวเล็กวิ่งออกจากห้องน้ำ ดึงประตูปิดเสียงดังปัง
ไอ้บ้าชานซอง ไอ้คนฉวยโอกาส!
.
มั่วมาก มิชชั่นนี้ เพราะบู้แบบสุด ไม่รู้เรื่องก็ขอโทษด้วยนะคะ 555
ยังไงก็ถ้าจะติ ชม บ่น ทวง ในทวิตเตอร์ ติดแท็ก #TheKiller ด้วยนะคะะ 55555
ความคิดเห็น