ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : The Killer : Mission 3
MISSIONS 3
คนตัวเล็กขยับตัวฮึดฮัดไปมาอยู่บนเตียง ทำไมต้องต้องห้ามไม่ให้ออกไปด้วยว้ะ..
แล้วทำไมเราต้องฟังมันด้วย..
แล้วคนคนนั้นคือใคคร ทำไมชานซองต้องทำท่าเครียดแบบนั้น ความคิดมากมายตีกันในหัวยุ่งไปหมด
คว้าหมอนใบโตขึ้นมากอดพลางซุกหน้าเข้าหาไออุ่น
อยู่เฉยๆแบบนี้น่าเบื่อชะมัด....
จุนโฮถอนหายใจเอนตัวลงนอนบนเตียงช้าๆ ดวงตาเรียวจ้องเพดานเขม็ง ลิ้นเล็กเลียริมฝีปากตัวเองด้วยความเคยชินระหว่างที่ใช้ความคิด
ชิ…คิดว่าจะกลัวรึไง ไอ้ชานซองคนบ้ากาม
ขาวเรียวยันตัวเองลุกขึ้นจากเตียงก้าวเข้าหาตู้เสื้อผ้า ก่อนจะรื้อหาชุดที่สามารถพรางตัวได้ลวกๆ
มือเล็กคว้าเอาฮู้ดตัวโตของเจ้าของห้องเอามาใส่ ขยับหมวกของเสื้อกระชับเข้าหาตัวเองให้ปิดลงมา
" ใครจะไปยอมกัน.. ต้องตามหาที่อยู่นั้นให้ได้.. "
เม้มปากเข้าหากันก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ พยายามตั้งสติให้ตัวเอง
บอกตรงๆ.. กลัวเหมือนกันนะ ถ้าโดนหมอนั้นจับได้ขึ้นมาละ..
จะโดนแบบ.. วันนั้นรึเปล่า..
ทะเลาะกับตัวเองอยู่หน้าประตู ก่อนจะตัดสินใจสบัดหัวไล่ความกังวนออกไป
ต้องพยายามไม่ให้พลาดสิจุนโฮ! จะได้ไม่โดนไอ่มือปืนโหดนั้นทำแบบนั้นได้อีก ถึงจะไม่เชียวชาญการลงสนามเองก็เถอะ
มือบางค่อยๆ เปิดประตูออกช้าๆ
จุนโฮค่อยๆเดินออกมาจากห้อง แผ่นหลังบางแนบอยู่กับกำแพงเย็นเฉียบ ไปคุยกันอยู่ที่ไหนวะ...
ไฟก็ปิดมึดทำเอามองอะไรไม่ค่อยเห็น ชานซองปิดไฟหรอ.. ปิดทำไมกัน...
พยายามหรี่ตามองทางให้ได้มากที่สุด แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีกล้องบ้าๆนั้นอาจจะจับภาพเขาได้ยากขึ้น
คนตัวเล็กพยายามซ่อนตัวเองอยู่ในฮู้ดตัวโตเดินไปตามทางที่พอจะเดาได้ จากความทรงจำที่เคยถูกหิ้วเข้ามาน่ะนะ..
ลิ้นเล็กแลบเลียริมฝีปากแห้งผากด้วยความเคยชิน ไม่รู้ว่าไปคุยกันอยู่ห้องไหน
ก่อนจะตัดสินใจเดินเปิดไล่ไปทีละห้อง...
เสียวสันหลังขึ้นมาเป็นระยะๆ กังวลว่าจะมีใครซักคนโผล่ออกมาตอนนี้
แต่ดูเหมือนว่าบ้านหลังนี้จะอยู่กันแค่สองคน จุนโอยังคงเดินไปเปิดประตูทุกบานที่สามารถเปิดออกได้
แต่ก็ไม่มีอะไรน่าสนใจ แต่ละห้องว่างเปล่า.. เหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นมา
ก่อนจะมาหยุดยืนอยู่หน้าประตูห้องที่เดาเอาเองว่าน่าจะเป็นห้องของแทคยอน
ห้องที่อยู่มุมซ้ายสุด...
ใบหน้าหวานแนบไปกับประตูบานใหญ่ เสียงพึมพำที่ดังอยูาเบาๆทำให้คนตัวเล็กเริ่มมั่นใจขึ้นมา มือบางกำลูกบิดประตูแน่น สูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะเปิดผ่างเข้าไป
สายตาทุกคู่หันขวับมาจ้องแขกไม่ได้รับเชิญเป็นตาเดียว จุนโฮแสร้งทำเป็นยืนค้างดวงตาเรียวเบิกกว้าง
พยายามกวาดสายตาหาสิ่งปกติไปทั่วห้อง จนมาหยุดอยู่ที่ข้อมือหนาของแขกตรงหน้า...
" จุนโฮ... "
เสียงร้องเตือนจากชานซองทำเอาจุนโฮต้องเบือนหน้าหนีจากชายคนนั้น..
"ข..ขอโทษครับ"
ร่างเล็กปิดประตูเสียงดังปัง ดวงตาที่เคยเต็มไปด้วยความตกใจแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม
รอยสัก...
แต่ผู้ชายชุดดำคนนั้นมีรอยสัก
ในช่วงเวลาแค่พริบตาเดียว จุนโฮสังเกตุเห็นรอยสักที่มีอัษรอะไรบางอย่าง รวมถึงสัญลักณ์คุ้นตา..
อย่างนี้ก็ได้อะไรเพิ่มขึ้นมานิดหนึ่ง..
เร็วกว่าความคิด จุนโฮรีบสาวเท้าลงไปข้างล่าง และไม่ลืมที่จะเลียวมองระแวงหลังเป็นระยะๆ มือบางผลักประตูบ้านออก ฝนหยุดตกแล้ว รถตู้คันนั้นจอดอยู่ที่เดิม..
มันจะไปที่นั้นไหมนะ.. ที่อยู่ของปาร์คจินยอง..
ต้องใช่สิ สัญลักษณ์ตรงข้อมือคุ้นตามาก แต่คิดไม่อกว่าเคยเห็นที่ไหน..
คยตัวเล็กพ่นลมหายใจออกมาช้าๆ ตั้งสติ หนี..
หนี คือความคิดเดียวในตอนนี้ หนีขึ้นรถคันนี้ไป.. งานอาจจะคืบหน้ามากกว่านี้..
ลาก่อนชานซอง..
------------------
ร่างสูงใหญ่ของชานซองเปิดประตูห้องของแทคยอนอย่างแรงจนมันกระแทกผนังเสียงดังปัง แทคยอนที่เดินตามออกมาไม่ได้เอ่ยห้ามหรือพูดให้คนเป็นน้องใจเย็นลง ปล่อยให้ชานซองเดินเร็วๆกลับไปที่ห้องด้วยอารมณ์หงุดหงิดแบบนั้น
กล้ามาก..อีจุนโฮ
แทคยอนได้แต่นับถือความกล้าของไอ้ลูกแมวอยู่ในใจ
ชานซองกำหมัดแน่น ใบหน้าหล่อเหลาเคร่งขรึมจนดูน่ากลัว โกรธตั้งแต่เห็นจุนโฮโผล่เข้าไปในห้อง...
สั่งอะไรเคยฟังบ้างไหม...
มือหนาเปิดประตูห้องเข้าไปก่อนจะชะงักนิ่ง โกรธมากขึ้ยเป็นเท่าตัวเมื่อไม่เห็นจุนโฮอยู่ในห้อง ดวงตาคมแข็งกร้าว ตวัดมองไปทางประตูบ้าน
อีจุนโฮ...อยากเจอดีใช่มั้ย...
" แทค บอกฮยองว่าอย่าพึ่งออกมา "
ชานตะโกนบอกเสียงดัง ซึ่งแทคยอนเองก็พยักหน้ารับอย่างรู้กัน ริมฝีปากบางยกยิ้มขึ้น
เอาซะไอ้ชานหัวปั่น...ใช่เล่นนะอีจุนโฮ
ชานซองกวาดสายตาไปทั่วบ้าน เปิดประตูทุกห้องแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา ดวงตาคมตวัดมองออกไปนอกหน้าต่าง เปิดประตูหน้าบ้านออกอย่างแรง สาวเท้าหาร่างเล็กแต่ก็ไม่เจออะไร
" เห็นผู้ชายคนที่นั่งตากฝนอยู่เมื่อกี้มั้ย "
เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามชายคนขับรถที่ยืนนิ่งรออยู่หน้าบ้าน
" ไม่ครับ "
คนขับรถก้มหน้าตอบ มือหนาตรงเข้าคว้ากุญแจรถที่ชายคนนั้นถือเอาไว้อยู่ กระชากมาไว้ในมือ กดปลดล็อคก่อนจะกระชากประตูให้เปิดออก...
"คิดว่าจะหนีฉันพ้นเหรอ อีจุนโฮ..."
มือหนาคว้าเสื้อฮู้ดตัวโคร่งเข้าหาตัวเองอย่างแรง คนตัวเล็กลอยติดมือไปกระแทกกับอกแกร่งดังอักก่อนที่จะถูกลากให้เดินตามด้วยอารมณ์โมโห
กล้าทำแบบนี้แสดงว่าคราวที่แล้วไม่เข็ดสินะ.. กล้าขัดคำสั่งฉันสินะ จุนโฮ..
ขาเรียวแทบจะต้องวิ่งตามอีกคนที่เอาแต่ใจ อยากจะสะบัดแขนออกจากมือหนาก็ทำไม่ได้ โอ้ย นี่เขาต้องโดนลากแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่!
" ฉันบอกว่ายังไงอีจุนโฮ "
เสียงทุ้มเข้มกดต่ำ ออกแรงเหวี่ยงจนร่างเล็กกระแทกเข้ากับประตูห้องของแทคยอนอย่างแรง
จุนโฮกัดริมฝีปากเพื่อกลั้นเสียงร้อง จุกอยู่ไม่น้อยแต่ก็ต้องอดทนเอาไว้
"กล้ามากนะ เปิดประตูเข้ามาแบบนั้น แล้วยังจะแอบไปขึ้นรถอีก..."
มือหนาบีบสันกรามเล็กบังคับให้เชิดหน้าขึ้น หมวกฮู้ดร่วงหล่นจากศีรษะกลม ดวงตาเรียวหรี่ลงเพราะความเจ็บ
ผิดแผนจนได้... ทำไมไอ่บ้านั้นไม่ออกมาขึ้นรถก่อนว้ะ!
ใบหน้าคมก้มลงมาจนชิด ดวงตาคมแข็งกร้าวจนจุนโฮไม่กล้าที่จะสบตา มือหนาข้างที่ว่างเปิดประตูผลักคนตัวเล็กเข้าไปในห้อง ห้องที่จุนโฮไม่เคยเห็นมาก่อน โต๊ะทำงานเอกสารกองเต็มไปหมด คอมพิวเตอร์ที่ตอนนี้หน้าจอมืดสนิท จุนโฮลอบสังเกตเก็บทุกรายละเอียดไว้ในความทรงจำ ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาอันตรายแบบนี้ก็เถอะ
จุนโฮก้าวถอยหลังช้าๆกลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อกเมื่อรับรู้ได้ว่าสิ่งที่เขากำลังจะเจอคืออะไร ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกเมื่อถอยไปชนกับโต๊ะทำงาน
" ตอนนั้นฉันบอกว่ายังไง ถ้ากลับไปที่ห้องแล้วไม่เจอนาย ฉันบอกแล้วใช่มั้ยว่าต้องเจอกับอะไร หืม.. "
มือบางยกขึ้นดันแผ่นอกหนาเอาไว้ จ้องมองคนตรงหน้าอย่างหวาดๆ คนตรงหน้ากำลังโกรธ...มากซะด้วย
" อ้ะ..! "
ชานซองบีบสันกรามเล็กแน่นพลางดันให้เชิดขึ้นจนบางต้องอกแรงทุบไหล่หนาให้ปล่อยออก
" ตอบมา!! "
เสียงทุ้มตวาดดังลั่นทั่วห้อง คนตัวเล็กสะดุ้งเฮือกเบือนหน้าหนี
ไม่ใช่เล่นๆแล้ว.. พยายามไม่ตอบโต้อะไรมากเพื่อที่ชานซองจะไม่ต้องโมโหไปมากกว่านี้
" … "
เงียบให้คือคำตอบที่คิดออกในตอนนี้ ก็คิดว่าจะหนีพ้นแล้วนี่น่า.. บ้าชิป..
" ฉันบอกให้ตอบมา!! "
" อะ..อะไรเล่า.. ก็.. "
อึกอักคิดหาคำพูด จะให้ตอบว่ายังไงละว่ะไอ่บ้า..
ตอบไม่ถูกใจก็โดนดุอีกละสิ มันน่ากลัวนะรู้ไหม.. ฮึ๊ยย..
คนตัวโตกระตุกยิ้มเพราะท่าทางหวาดๆของลูกแมวจอมแสบ ก็รู้ว่าจะโดนอะไรยังจะกล้าขัดคำสั่งอีก
ใครส่งนายมาหรอ อีจุนโฮ.. หึ
" ไม่เข็ดสินะ.. "
ผละมือออกจากสันกรามสวยแล้วเลือกที่จะรั้งตัวอีกคนเข้ามาหาตัวเองพลางก้มลงไปซุกไซร้เข้ากับซอกคอหอม
ออกแรงงับเบาๆก่อนจะดูดเม้มจนเป็นรอยขึ้นมาอีกครั้ง
ทั้งๆที่ของเก่ายังไม่ทันหาย ก็อยากดื้อเองนี่นะ..
" ชานซอง.. ไม่เอานะ.. ปล่อยย.. "
เสียงหวานรีบออกปากห้ามพยายามเอามือดันใบหน้าหล่อเหลานั้นให้ออกจากตัวแต่กลับถือมือหนาล็อคเอาไว้
สัมผัสร้อนที่ซอกคอคลอเคลียไม่ห่างและไม่มีท่าทีว่าจะหยุดเอาง่ายๆ จุนโฮกัดริมฝีปากตัวเองแน่นเพราะปากหยักที่ลากไปมาจนขึ้นมาถึงเรียวปากอื่ม
" ฉันเตือนนายแล้ว.. "
ชานซองหวังจะประกบจูบลงบนกลีมปากสีหวานแต่คนตัวเล็กก็เบือนหน้าหนีซะก่อน
มันต้องไม่มีครั้งที่สองสิ...
" นายจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ.. "
" ทำไมจะไม่ได้.. ฉันจะฆ่านายก็ได้ แล้วทำไมฉันจะทำแบบนี้กับนายไม่ได้.. "
คนตัวเล็กเผลอกัดริมฝีปากตัวเองด้วยอารมณ์โมโหที่ค่อยๆก่อตัวขึ้น
มันจะมากเกินไปแล้ว..
" นายมัน.. ไอ่คนชอบเอาเปรียบ.. "
" งั้นหรอ.. ไหนลองหนีออกจากฉันให้ได้ในตอนนี้สิ.. ให้เวลาสองนาที ถ้าทำไม่ได้.. เตรียมครางเสียงหวานๆให้ฉันฟังทั้งคืนได้เลย.. "
!!!!
ไอ่.. ไอ่คนหน้าด้าน ไม่มียางอาย พูดออกมาได้ยังไงว่ะ!
หน้าขึ้นสีแดงเถือกไปถึงหู พยายามดิ้นออกจากร่างสูง แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นไปได้ยากเพราะแรงที่โอบรัดรอบเอวอยู่ตอนนี้
สองนาที...
จุนโฮสะบัดตัวอย่างแรง ลอบมองไปที่ประตู อยู่ใกล้แค่นี้ แค่นิดเดียว แขนแกร่งโอบ ล็อคเอวบางแน่น ยืนนิ่งๆมองคนในอ้อมกอดดิ้นพล่านเอาตัวรอด ริมฝีปากหยักยกยิ้มมุมปาก แค่นหัวเราะในลำคอ
" อีกหนึ่งนาที "
เสียงทุ้มพูดนิ่งๆ มือหนาจับรวบมือบางที่พยายามทุบจิกตีข่วนแผ่นอกของเขา จุนโฮตวัดสายตามองด้วยความขุ่นเคือง ขยับข้อมือหมุนบิดออกทางด้านนิ้วโป้งของคนตัวสูง ใช้ทฤษฎีตามที่เคยเรียนมา ซึ่งมันควรจะได้ผลสิ...
ชานซองเลิกคิ้วก่อนจะหรี่ตาลงจับข้อมือแน่นกว่าเดิม ขายาวขยับก้าวเข้าไปใกล้ จุนโฮถอยหลังชิดโต๊ะทำงานใบหน้าหวานผงะถอยไปข้างหลังเมื่อจมูกโด่งของคนตัวสูงขยับเฉียดเข้ามาใกล้
" สามสิบวิ "
จุนโฮมองค้อนใส่ ยกเท้าขึ้นกระทืบแรงๆบนเท้าของคนตัวสูง ถึงแม้ว่าชานซองจะไหวตัวหลบทัน แต่แรงที่จับยึดข้อมือก็ผ่อนลงเล็กน้อย จุนโฮเบี่ยงตัววิ่งพรวดตรงไปที่ประตูทันที
ชานซองหัวเราะเสียงต่ำ อาศัยแขนยาวกวาดรัดเอวบาง กระชากทีเดียวคนตัวเล็กก็ปลิวกลับเข้ามาในอ้อมกอด จุนโฮเบิกตากว้าง หัวใจเต้นระรัวด้วยความตกใจ
เร็วเกินไป...
ชานซอง...เป็นคนที่มีความคล่องแคล่วสูง ไหวพริบดี รู้ทันคน แถมยังแรงเยอะ จุดอ่อนของไอ้บ้านี่อยู่ตรงไหนกัน!
" ห้า... "
เสียงทุ้มกระซิบริมใบหู จุนโฮกัดริมฝีปากแน่น สะบัดตัวดิ้นแรงๆอีกครั้งอย่างไม่ยอมแพ้
" สี่..."
จมูกโด่งไล้สัมผัสลงมาที่ซอกคอขาว ริมฝีปากร้อนคลอเคลียเบาๆทำให้จุนโฮต้องสะบัดหน้าหนี
" สาม...หึ..."
" สอง.. "
กำปั้นเล็กออกแรงเฮือกสุกท้ายทุบลงไปอักใหญ่กลางแผงอก
ทำไปงั้นแหละ.. รู้ว่ายังไงก็หนีออกจากไอ่บ้านี่ไม่ได้แน่
" หนึ่ง.. "
" ชานซอง.. ไม่เอานะ.. "
สิ้นเสียงนับจุนโฮก้มหน้างุดเสียงหวานอ้อมแอ่มบอกพลางซ่อนตัวเองเข้ากับอีกคน... พยายามก้มหลบปากหยักที่ทำท่าจะตรงเข้ามาจูบ
มันไม่รู้จะทำยังไงแล้ว..
" จะหาว่าฉันเอาเปรียบไม่ได้นะ.. "
บู้ๆๆๆ
ฝ่ายแทคยอนเมื่อปิดประตูล็อคกลอนให้ไอ้น้องชายตัวดีเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินลากขามาทรุดตัวลงนั่งอยู่บนโซฟา
มือหนาคว้าเอารีโมทมาเปิดทีวี เร่งเสียงให้ดังเพื่อกลบเสียงครางที่ดังแว่วออกมาจากในห้องของตัวเอง
นี่กูเป็นเจ้าของห้องนะเว้ย...
แล้วไอ่ลูกแมวนั้นก็เป็นใครที่ไหนไม่รู้ที่ยังหาคำตอบไม่ได้ มึงยังล่อกินซะ..
คิดไปก็ได้แต่กุมขมับไป
นิสัยใจร้อนของน้องชายแก้ยังไงก็แก้ไม่ได้ แต่อย่างว่าชานซองเป็นคนเลือดร้อนไม่แปลกที่จะตอบโต้ด้วยวิธีนั้นแทนการฆ่า...
จะให้ชานซองฆ่าใครสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ และ จะเก็บใครที่ไหนไม่รู้ไว้ในบ้านสุ่มสี่สุ่มห้าเช่นกัน..
ต้องรีบสืบหาที่มาของจุนโฮให้ได้เร็วที่สุดแล้วสิ..
คิดได้แบบนั้นก็เด้งตัวขึ้นหวังจะตรงเข้าห้องทำงานตัวเอง แต่ก็ต้องชะงักยืนอยู่ที่เดิม ไอ่เสียงสยิวแบบนี้เมื่อไรมันจะเสร็จกันวะ..
ทิ้งตัวลงโซฟาอย่างเดิม ก่อนจะพยายามคิดหาวิธีสืบที่เร็วที่สุด
โทรศัพท์ก็พลาดไปหนึ่ง.. จุนโฮฉลาดไม่ใช่เล่น.. แสดงว่าไม่ใช่คนธรรมดา..
แต่จู่ๆหน้าของใครบางคนที่พึ่งเจอกันเมื่อตอนเย็นก็ลอยเข้ามา..แทคยอนยกยิ้มมุมปากเมื่อคิดย้อนไปถึงวันแรกที่เขากับมินจุนเจอกัน
.
.
.
แทคยอนก้มลงมองลิสท์รายการสิ่งของต่างๆที่อยู่บนเรือ ตรวจเช็คทุกอย่างให้ถูกต้องที่สุด
เขาไม่เคยทำงานพลาดและไม่มีวันพลาด ดวงตาคมกวาดมองรายละเอียดเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะยื่นแฟ้มสีดำสนิทให้กับลูกน้องที่ยืนอยู่ข้างๆ
"เรียบร้อยดี ไปบอกชานซองให้เตรียมตัวได้"
ดวงตาคมมองส่งลูกน้องจนลับสายตา ก่อนจะกวาดมองตรวจเช็คทุกอย่างเป็นครั้งสุดท้าย
"เรียบร้อยดีนะ"
เสียงทุ้มของใครอีกคนดังขึ้นก่อนที่เจ้าของเสียงจะปรากฎตัว แทคยอนโค้งคำนับ ก่อนจะเอ่ยตอบ
"ครับ ไม่ต้องห่วง"
"ดี..."
บทสนทนาดำเนินไปช้าๆก่อนที่ทั้งห้องจะเงียบสงบ มินจุนขยับตัวด้วยความอึดอัด หลบอยู่ในซอกของลังขนอาวุธแบบนี้มาตั้งนานแล้ว
ไอ้บ้านั่นก็ไม่ยอมออกไปจากห้องใต้ท้องเรือนี่ซักที ยืนนิ่งอยู่ในซักพัก เมื่อมั่นใจว่าไม่มีใครอยู่ในห้องมืดนี่แล้วก็ค่อยๆขยับตัวออกมาจากที่ซ่อน
มือบางกำเครื่องอัดเสียงในมือแน่น เหอะ...จะแน่ขนาดไหนกันเชียว เสียงฝีเท้าที่ดังใกล้เข้ามาทำให้มินจุนเม้มริมฝีปากแน่น
ขยับแทรกกลับเข้าไปยืนอยู่ที่เดิม แสงจากด้านนอกทำให้เขาต้องหลับตาลง
"ชาน ทำไรวะ" จำเสียงได้ นายคนที่ยืนเช็คของอยู่เมื่อกี้
"จะดูของหน่อย"
เสียงทุ้มที่ไม่คุ้นเคยทำให้มินจุนต้องหรี่ตามอง ร่างสูงใหญ่ของทั้งคู่อยู่ห่างจากเขาไม่มาก
นายคนที่เช็คของอยู่ตอนแรกหันหน้ามาทางเขา ส่วนอีกคน ยืนหันหลังให้
"กูเช็คแล้ว"
เจ้าของชื่อชานพยักหน้าก่อนจะเดินออกจากห้องไปง่ายๆ
มินจุนเลิกคิ้วขึ้น สงสัยจะเชื่อใจกันมาก... ขอแค่ไอ้หมอนี่เดินออกจากห้องไป...
หัวใจของมินจุนกระตุกวูบเมื่อเห็นรอยยิ้มมุมปากของคนตัวสูงที่ยังคงยืนอยู่ในห้อง คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน
เพราะอีกคนไม่ยอมเดินออกไปซักที แทคยอนยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมจนน่าหวั่นใจ อะไรของหมอนั่นว้ะ รีบเดินออกไปสิ..
เร่งคนตัวสูงในใจอยู่คนเดียว แต่แล้วจู่ๆเสียงทุ้มก็โพล่งออกมา
" แต่อาจจะมีหมามีแมวหลงเข้ามาสองสามตัว.. ช่างมันเถอะ "
พูดแค่นั้นก็ย้ายตัวเองออกไปอย่างว่าง่าย อะไรวะบทจะไปก็ไปดื้อๆ... มินจุนค่อยๆขยับออกจากที่ซ่อนตัว
มองซ้ายมองขวาเมื่อเห็นว่าไม่มีใครจึงเป่าลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่
" ฟู่วว.. ไอ่พวกกระจอกเอ้ย.. หึหึ "
ยิ้มกริ่มให้กับแผนตัวเอง ร่างโปร่งเดินสำรวจข้าวของผิดกฎหมายเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปที่ประตู ตุ้บ!
" อ้ะ.. "
" ชู่… "
ปากบางถูกมือหนาปิดเอาไว้ รวมถึงตัวของเขาเองก็โดนคนตัวสูงที่โผล่เข้ามาตอนไหนไม่รู้โอบรอบตัวเอาไว้ด้วย
มินจุนเบิกตากว้าง ไม่คิดว่าจะมีใครย้อนกลับมาอีก
" อย่าโวยวาย.. เดี๋ยวคนข้างนอกก็ได้แห่กันเข้ามาพอดี "
แทคยอนพูดดักอีกคนที่กำลังจะอ้าปากโวยวาย มินจุนขมวดคิ้วแน่น ไอ้บ้านี่มัน...
" ไง...มั่นใจขนาดไหนกันเชียวถึงกล้าขึ้นมาอยู่บนเรือนี่น่ะ "
เสียงทุ้มเอ่ยพูดอย่างกวนๆ ก่อนจะปล่อยมือที่ปิดปากคนตัวเล็กออก
ซึ่งมินจุนเองก็ฉลาดพอที่จะเงียบ มือบางขยับเลื่อนช้าๆเก็บเครื่องอัดเสียงเข้ากระเป๋ากางเกง
"ผมกำลังพูดกับคุณอยู่นะ"
ปลายนิ้วของคนตัวสูงเชยคางของมินจุนให้เงยขึ้นมามองหน้ากันชัดๆ มือบางปัดมือหนาอย่างแรงก่อนจะขยับถอยออก
แต่ก็ช้ากว่าร่างสูง มือหนาคว้าหมับข้อที่ข้อมือเล็ก พรางลากเข้ามาหาตัว
" อะ..อะไรของนาย.. " แทคยอนกระตุกยิ้มให้กับท่าทางหวาดๆของอีกคน
" คิดไปถึงไหนกันคุณ ผมไม่พิศวาสคุณหรอกนะ "
ไม่พิศวาส แต่ที่จับมือเขาอยู่นี่หมายความว่าไง.. ไหนจะสายตาที่เอาแต่จ้องไม่เลิกนี่อีก..
" ผมแค่สนใจไอ้นี้น่ะ…"
สิ้นเสียงทุ้ม แทคยอนเลื่อนมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงที่มินจุนพึ่งจะยัดเครื่องอัดเสียงลงไป
ก่อนจะคว้าไอ้เครื่องเจ้าปัญหาออกมาโชว์ขึ้นตรงหน้า
ดวงตาเรียวเบิกกว้างทำท่าจะคว้าเอาคืน แต่คนตัวสูงก็รู้ทันดึงมือหลบ มินจุนเม้มริมฝีปากแน่น จ้องเขม็งไปที่คนตรงหน้า
" เอามาให้ฉัน "
" ให้ก็โง่แล้วแหละคุณ "
แทคยอนส่งยิ้มกวนก่อนจะเก็บเครื่องอัดเสียงเข้ากระเป๋ากางเกง ใครจะไปยอม...
มินจุนพุ่งตัวเข้าหา มือก็คว้าตะปบลงบนกระเป๋ากางเกงของคนตัวสูง แทคยอนหลบวูบด้วยความเสียว...
" เฉียดไปนิดเดียวนะคุณ จะแต๊ะอั๋งผมเหรอ "
มินจุนอ้าปากพะงาบๆแยกเขี้ยวใส่ ก่อนจะพยายามพุ่งตัวเจ้าหาอีกครั้ง คราวนี้แทคยอนรวบข้อมือทั้งสองข้างของคนตัวเล็กกว่าเอาไว้
" อย่าให้ผมใช้กำลังน่า.. อยู่ในนี้จนกว่าผมจะมาตามให้ออกมา.. ถ้าคุณฉลาดพอก็คงรู้ว่าต้องทำยังไง ถ้าไม่อยากโดนจับโยนลงทะเล.. "
แทคยอนเอ่ยเสียงเรียบ แต่มีพลังพอที่จะทำให้มินจุนนิ่งฟังอยู่เงียบๆได้...
" อยู่ในนี้เข้าใจมั้ย "
มินจุนสะบัดข้อมือแรงๆให้หลุดจากการเกาะกุม ไม่เอ่ยตอบอะไรทั้งนั้น แค่นี้ก็หงุดหงิดอารมณ์เสียจนจะบ้าอยู่แล้ว
ถึงแม้ท่าทางจะดูดื้อดึงขนาดไหน แต่สุดท้ายมินจุนก็อยู่ในห้องตามที่แทคยอนบอก คิดมาถึงตอนนี้ก็อดที่จะยกยิ้มขึ้นมาไม่ได้
.
.
.
มือหนาล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง หยิบกระเป๋าตังหนังสีดำขึ้นมา
" ยังคงไม่รอบคอบเหมือนเดิมนะมินจุน… "
----------------------------------
ร่างโปร่งขมวดคิ้วมุ่นขณะที่กำลังค้นรถเพื่อหากระเป๋าตังของตัวเอง
จำได้ว่าใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงนี่หว่า...
" โว้ย อยู่ไหนวะ "
บ่นพึมพำโวยวายอยู่คนเดียว ก่อนจะพาลใส่รถปิดประตูดังลั่นลานจอด เดินหัวเสียเข้าไปในคอนโด
ขึ้นไปหาบนห้องอีกทีก็ได้ อาจจะอยู่ในกระเป๋า...
มินจุนแทบจะรื้อห้องทิ้ง ช่วงนี้มีเรื่องปวดหัวมากวนใจหลายเรื่องจนแทบจะทึ้งหัวตัวเองวันละล้านรอบ ไหนจะต้องคอยปิดข่าวจุนโฮ
ไหนจะไอ่นักข่าวจอมตื๊อที่โทรหาวันละสามรอบหลังมื้ออาหาร ไหนจะไอ่คนลึกลับหน้าหล่อที่พึ่งเจอที่โกดัง
ใช่ไอ่คนลึกลับนั่น.. ไม่เข้าใจเลย เดินเข้าเดินออกโกดังแบบไม่ทำอะไร...
ยังดีที่ไอ่นักข่าวจอมตื้อเบนความสนใจไป
แต่จะอะไรก็ตาม ตอนนี้กระเป๋าตังอยู่ไหน!!
ไม่ไม่ไม่ กระเป๋าตังไม่สำคัญเท่าไร แต่..
การ์ดในกระเป๋าตังนั้นต่างหาก!!! อยู่ไหนว้ะะะะ!!
มินจุนทรุดตัวนั่งลงกับพื้นพลางกุมขมับอย่างไร้ทางออก การ์ดนั้นสำคัญต่อเขามาก..
เอ้ะ.. หรือว่า.. ตอนที่หอบมาพร้อมเอกสารนั้น..
มัวแต่สนใจกระดาษจนลืมกระเป๋าตังหรอ.. ไม่น่า.. อ๊ค แทคยอน... ไอ้บ้าเอ้ย!!!
ยิ่งเป็นแทคยอนยิ่งแล้วใหญ่ ต้องรีบไปเอาคืนมาให้ได้ ทำยังไงดี ควรทำยังไงดี...
เดินวนรอบห้องด้วยความกังวล ถ้าแทคยอนเปิดกระเป๋าล่ะก็... ไอ้บ้านั่นต้องรู้ข้อมูลของจุนโฮแน่ๆ ฟันขาวขบกัดริมฝีปากอิ่มอย่างเป็นกังวล
คิ้วเรียวขมวดแน่น เจอไอ้บ้านี่ทีไรมีเรื่องทุกทีเลยสิน่า!!
ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาอย่างแรง มือเรียวยกขึ้นกุมขมับ แทคยอน ไอ้บ้าแทคยอนทำให้เขาต้องปวดหัวแบบนี้มากี่รอบแล้ววะ!
ร่างโปร่งเม้มริมฝีปากแน่น เหตุการณ์ที่ไม่อยากจะจำดันลอยเข้ามาในหัว...
.
.
.
ร่างโปร่งกระวนกระวายต่อสายประสานงานให้วุ่นไปหมด อีกสามนาทีจะเริ่มงาน.. แต่เพชรหายไป..
" เจ้าพวกบ้า!! ตามหาให้ทั่วสิ!! โรงแรมมันก็มีอยู่แค่นี้!! ตามหาให้หมดถ้าลากคอไอ่บ้านั้นกลับมาไม่ได้ไม่ต้องกลับมาให้ฉันเห็นหน้าซักคน!!! "
ประกาศกร้าวจนเส้นเลือดขึ้น โกรธจนตัวสั่น ไอ่บ้าอ๊คแทคยอน!!
ถ้าไอ่บ้านั้นขโมยเพชรหายไปจริงๆละก็..
แย่แน่ๆ มินจุนกัดริมฝีปากตัวเองด้วยความกังวล เดินเข้าไปในห้องที่มีตู้กระจกใส ในนั้นมันควรจะมีเพชรวางอยู่
ดวงตาเรียวหรี่ลงเมื่อสังเกตเห็นกระดาษใบเล็กวางอยู่ข้างในตู้ใส มือเรียวรีบคว้าออกมาดู
'ตามหาเค้าให้เจอนะที่รัก...'
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครเป็นคนเขียน มือบางขยำกระดาษในมือจนยับยู่ยี่ กัดฟันกรอดด้วยความโมโห...
ตามหาเค้าให้เจอนะที่รัก.. งั้นหรอ.. ได้..
ร่างโปร่งสาวเท้าออกจากห้องด้วยความไว ในใจคิดแค่จากลากหัวไอ่จอมโจรกะล่อนมาเข้าตารางด้วยน้ำมือตัวเองให้ได้
ไอ่พวกลูกน้องก็แม่ง! ไม่ได้เรื่อง!
มินจุนกระชากประตูห้องออกด้วยความโมโห แต่ยังไม่ทันได้ก้าวออกจากห้องไปก็ต้องชะงักฝีเท้าตัวเองเอาไว้ เพราะ..
" โอ๊ะ.. เก่งจัง ตามหาผมเจอด้วย.. "
อะ..ไอ่บ้า..นี่.. มาดักรออย่างงั้นหรอ..
แบบนี้มัน...
หยามกันเกินไปแล้ว!!!
"ว่าไงที่รัก..."
มินจุนมองใบหน้ายียวนกวนประสาทของคนที่ยืนกอดอกพิงกำแพงอยู่ตรงหน้า แทคยอนยกยิ้มมุมปากอย่างกวนๆ
มือหนาที่สวมถุงมือสีดำยกขึ้นมาแตะปลายคิ้วเป็นเชิงล้อเลียน มินจุนกวาดสายตามองร่างที่อยู่ในชุดดำดูรัดกุมตรงหน้า
ด้วยอารมณ์โมโหที่พุ่งปรี้ด ดวงตาเรียวจ้องเขม็งไปที่กระเป๋าสะพายของคนตัวสูง มั่นใจว่าเพชรต้องอยู่ในนั้นแน่
" ใครที่รักนาย ส่งเพชรมาให้ฉัน "
มินจุนว่าก่อนจะขยับตัวเข้าหา แทคยอนเองก็ไม่ขยับตัวหลบ ยืนอยู่นิ่งๆเป็นเชิงท้าทาย
" นายทำแบบนี้ต้องการอะไร "
ถามด้วยความหงุดหงิด เพราะพอจะเอื้อมคว้ากระเป๋า คนตัวสูงก็ขยับหลบ แถมยังยื่นหน้าเข้ามาใกล้อีก!
" นานๆเราจะได้เจอกันทีน่า...ไม่คิดถึงกันบ้างหรือไง "
เสียงทุ้มว่า พร้อมกับทำหน้าอ้อน จนมินจุนอยากจะถีบให้ติดกำแพง
" ถ้าจุดประสงค์นายมีแค่นี้ก็กลับไปซะ "
ดวงตาเรียวกลับมานิ่งสงบ แทคยอนยักไหล่เมื่อได้ยินประโยคเป็นเชิงไล่กลายๆ
พลิกตัวหันหลังกลับทั้งๆที่รู้ว่าไม่ควรหันหลังให้คนตรงหน้า สัมผัสเย็นของโลหะที่จ่ออยู่บนเอวทำให้เขาชะงัก
แรงดึงรั้งจากกระเป๋าทำให้มือหนาต้องยกขึ้นมาจับสายสะพายไว้แน่น
" อย่าหันหลังให้ศัตรู... " มินจุนแค่นหัวเราะในลำคอ
" คุณไม่ใช่ศัตรูซะหน่อย.. " แทคยอนตอบเสียงเรียบ แทคยอนหันหลังกลับมาเผชิญหน้ากับคนตรงหน้า
ไม่วายขยับตัวเจ้าหาปลายกระบอกปืน...
มินจุนจ้องร่างสูงไม่วางตา ซึ่งแทคยอนเองก็จ้องกลับมาเหมือนกัน
" ยิงสิ "
" ยิงแน่ "
คนตัวเล็กกว่าสวนกลับไปทันทีพร้อมกับออกแรงกระชากกระเป๋ามาถือไว้ในมือ แทคยอนยิ้มกริ่ม
ขยับเข้าหาปลายกระบอกปืนจนมินจุนต้องใช้กระเป๋าดันรักษาระยะห่างเอาไว้
" ถอยออกไป ไม่งั้นยิงจริงๆด้วย "
" ก็แค่แวะมาบอกรัก...ไม่เห็นต้องไล่กันเลย..."
ร่างโปร่งนิ่งค้างไปเมื่อได้สบสายตากับดวงตาคมกริบที่จ้องมองลงมา
" คิดถึงนะมินจุนอ่า... "
เสียงกระซิบสุดท้ายดังขึ้นข้างใบหู พร้อมกับกระเป๋าที่อยู่ในมือก็โดนดึงกลับไปแบบไม่รูัตัว พอดึงสติกลับมาได้ก็อยากจะร้องออกมาดังๆ!
ไอ้บ้าแทคยอน!!! ไอ้...
ดวงตาเรียวเหลือบไปเห็นกระดาษแผ่นเล็กปลิวตกอยู่บนพื้น ยกมือขึ้นเสยผมถอนหายใจอย่างอารมณ์เสีย
แต่ก็เดินไปหยิบขึ้นมา
'ไว้เจอกันใหม่นะครับที่รัก'
.
.
.
มินจุนสะบัดศีรษะไปมาเร็วๆเพื่อไล่ความคิดบ้าๆออกจากสมอง ฮึ่ย! ตามมาหลอกหลอนไม่จบไม่สิ้น !
โว้ยยยย กระเป๋าตัง!!
มินจุนทิ้งตังลงนอนแผ่บนโซฟาตัวแคบ ขยี้ผมตัวเองจนฟูฟ่อง คิดไม่ออกว่าจะต้องไปเอาคืนยังไง
ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูทำให้มินจุนต้องดึงตัวเองบุกขึ้นมานั่ง เหลือบมองนาฬิกาบนฝาผนังเล็กน้อย ก่อจะเดินออกไปเปิด เวลานี้ไท่ค่อยมีใครมาหรอกนอกจาก...
" ฮัลโหล สวัสดีเพื่อนรักกกกก "
เสียงแหลมเล็กเอ่ยทักมาก่อนที่ประตูตะเปิดออกหมดซะอีก มินจุนถอนหายใจก่อนจะเดินนำเข้ามาในห้องก่อน โจควอนปิดประตูพร้อมกับล็อคห้องให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินมาทรุดตัวลงนั่งบนโซฟา ที่ประจำ
" เป็นอะไร "
โจควอนเอ่ยทักเมื่อเห็นท่าทางหมดอาลัยตายอยากของมินจุน จมูกโด่งพ่นลมหายใจพรืด นั่นยิ่งทำให้โจควอนต้องขยับเข้าไปใกล้เพื่อนตัวเองมากยิ่งขึ้น มีเรื่องอะไรที่ทำให้มินจุนเป็นกังวลขนาดนั้น
" กระเป๋าตังหาย " เพื่อนตัวเล็กอ้าปากค้าง ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ
" แค่กระเป๋าตังหายนี่เครียดขนาดนั้นเลยเรอะ เอาน่า...เงินน่ะ หาใหม่ได้ "
" ไม่ได้เครียดเรื่องเงิน! ในกระเป๋าตังนั่นมีการ์ดใส่ข้อมูลของจุนโฮอยู่! "
" ห๊าาาาาา!! ไม่จริงงง! "
ควอนอ้าปากค้างตาโต ก่อนจะค่อยๆทรุดตัวลงข้างๆ
" จริง.. "
มินจุนตอบกลับเสียงอ่อย..
ให้ตายเถอะ เรื่องสำคัญแบบนี้พลาดได้ไงนะ
" หายที่ไหน.. "
หน้าตาตื่นๆของควอนแสดงออกอย่างชัดเจน ก็ความปลอดภัยของจุนโฮสำคัญที่สุด หายไปแบบนี้แย่แน่ๆไม่ว่ามันจะหายไปอยู่ที่ไหนก็เถอะ
" หายไปตอนเจอ.. แทคยอน "
" เจอแทคยอน!!!! "
คราวนี้โตควอนหน้าเสียเข้าไปมากกว่าเดิม หายที่ไหนไม่หาย หายไปตอนเจอศัตรูที่เอาจุนโฮเข้าไปฝากไว้ซะอีก ตายแน่ๆ ถ้าแทคยอนรู้ว่าจุนโฮเป็นสายลับละก็... ไม่อยากจะเดาเลย
ควอนนั่งนิ่งพลางคิดหาทางแก้ไขยังไงก็ต้องเอากระเป๋าตังกลับมาให้ได้ ก่อนที่ความจะแตก
มินจุนเองก็หันมาสงบสติอารมณ์เลิกโวยวาย พลางคิดว่าตัวเองจะติดต่อกับวายร้ายคนนี้ได้ยังไง เบอร์อะไรก็ไม่มีซักอย่าง
แต่เอ้ะ.. ตอนนี้เหมือนว่าจะเคย..
.
.
.
" มีคนติดอยู่ข้างในครับ!! "
ประโยคแรกที่ได้ยินเมื่อก้าวลงจากรถมายังที่เกิดเหตุวาวเพลิง มินจุนเบิกตากว้างวิ่งนำเข้าไปในตัวตึกทันที
พร้อมกับลูกน้องคนอื่นๆที่พากันวิ่งตามเข้ามา
มือบางยกขึ้นปิดจมูก ควันไฟโขมงทำให้มินจุนรู้สึกแสบตา แต่ดวงตาเรียวก็พยายามสอดส่ายหาทั้งคนที่ติดอยู่ข้างใน
รวมถึงตัวต้นเหตุการวางเพลิงครั้งนี้
หรี่ตาลงพยายามมองหาตัวต้นเหตุ พร้อมกับคอยเปิดทางให้คนที่วิ่งกรูกันหนีตาย
มินจุนสาวเท้าขึ้นไปยังชั้นสิบสองที่ได้รับรายงานมาว่าเป็นชั้นที่มีการวางเพลิง
แค่ขึ้นมาให้ถึงชั้นนี้ก็แทบตายแล้ว...
มือเรียวพังประตูออกทุกห้องเพื่อตรวจหาไอ่จอมวายร้ายทั้งๆที่ควันสีขาวลอยบังทัศนวิสัยจนแทบไม่เห็นอะไร
เคร้งงง~!
เสียงเหมือนมีใครกำลังโยนอะไรบางอย่างทำให้มินจุนรีบวิ่งไปที่ต้นเสียงตรงหัวบันไดทางขึ้น
ฮวางชานซอง.. ไอ่วายร้ายหน้าหล่อที่กำลังยืนแตะถังน้ำมันลงไปชั้นข้างล่างอย่างไม่ใยดี...
ดวงตาเรียวยาวดูน่ากลัวหันมามอง ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงทักทายแล้วแตะถังน้ำมันถังสุดท้ายลงชั้นล่างไป
มินจุนจ้องเขม็งก้าวพรวดเข้าไปหา แต่ชานซองกลับหันหลังกลับวิ่งขึ้นไปอีกชั้น ขาเรียววิ่งตามอย่างไม่ยอมแพ้
ก้าวข้ามบันไดทีละหลายๆขั้น เสียงฝีเท้าดังอยู่ไม่ไกล ถึงจะหอบเหนื่อนสำลักควันขนาดไหนแต่ขาทั้งสองข้างก็ไม่ยอมหยุด
วิ่งมาจนถึงชั้นบนสุด มือบางผลักประตูดาดฟ้าออกอย่างแรง พลางกวาดสายตามองหาตัววายร้ายที่เขาวิ่งตาม แต่กลับไม่เจอ...
หายไปไหนวะ!!!
มินจุนกำมือแน่นหอบหนักๆ พยายามสูดอากาศเข้าปอดถี่ๆ
" ไง "
น้ำเสียงกวนๆที่คุ้นเคยทำเอามินจุนตัวแข็งท่ือ... ไอ้บ้านี่อีกแล้ว...
แล้วชานซองไปไหน.. หายตัวได้รึไงว้ะ! ก็เห็นยังวิ่งมาทางนี้อยู่เลย!!
เลือกที่จะหันซ้ายหันขวามองหาคนที่วิ่งตามมาเมื่อกี้
" เห้~ คุณ.. ผมยืนอยู่ตรงหน้าคุณนะ.. มองหาอะไร "
คนตัวเล็กกว่าหันมาค้อนมองด้วยอารมณ์โกรธ เจอไอ่พวกบ้านี่ทีไรเป็นต้องพินาศทุกที!
แทคยอนโบกมือไปมาเรียกร้องความสนใจ หลายครั้งที่ยืนคุยกันโต้งๆแบบนี้ แต่ก็จับไม่ได้ซักที..
เพราะอะไรละ.. ดูหุ่นพวกมันซะก่อน..
" ไม่สงสารคนที่เขาไม่รู้เรื่องด้วยรึไง.. ทำแบบนี้ "
ถามออกไปนิ่งๆ จ้องหน้าแทคยอนอย่างเอาเรื่อง แต่มีหรือที่อีกคนจะไม่จ้องกลับ มองลึกเข้าไปในเรียวตาสวยพลางยกยิ้มขึ้นมา
" คุณคงรู้จักคำว่าหน้าที่นะมินจุน "
ตอบลอยหน้าลอยตาก่อนจะยื่นเศษกระดาษบางอย่างให้
" อะไร.. " มินจุนมองคนตรงหน้าแบบกล้าๆกลัว
" ผมต้องไปแล้ว ครั้งนี้เรามีเวลาดด้วยกันน้อยจัง.. "
แทคยอนยื่นกระดาษแผ่นเล็กเข้าหามากกว่าเดิม
" ผมอยากเจอคุณให้นานกว่านี้แล้วก็ไม่ใช่ในสภานการณ์ที่ผมเป็นผู้ร้ายแบบนี้ด้วย.. "
ดวงตาคมมองคนตรงหน้าด้วยอารมณ์เว้าวอนแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน.. มือบางยังระแวงที่จะยื่นมือออกไปรับ
" แทคยอน! ต้องไปแล้ว! "
เสียงใครซักคนที่จำรางๆได้ว่าเป็นชานซองตะโกนขึ้นมาจากในตึก คนตัวศูงขมวดคิ้วเข้าหากันพลางถอนหายใจทิ้งเฮือกใหญ่และก้มลงวางเศษกระดาษแผ่นเล็กไว้ตรงหน้า
" วางไว้ตรงนี้นะ.. "
มินจุนอยากจะรั้งตัวแทคยอนเอาไว้ แล้วใส่กุญแจมือส่งเข้าตารางซะให้เรื่องทุกอย่างจบไปซักที เหนื่อยที่จะต้องวิ่งตาม แต่ก็ทำไม่ได้ แทคยอนกับชานซองเก่งเกินไป..
นึกโมโหตัวเองอยู่บ่อยๆที่มีโอกาสยืนต่อหน้าอยู่แทบทุกครั้งแต่ก็ทำอะไรไม่ได้
ร่างโปร่งก้มลงมองกระดาษแผ่นเล็กที่วางอยู่บนพื้น ก่อนที่ลมจะพัดมันปลิวหายไป มินจุนก้มลงหยิบมันขึ้นมา ตัวเลขสิบหลักทำให้ติ้วเรียวค่อยๆเลิกขึ้น
"ทิ้งเบอร์ไว้ให้เนี่ยนะ..."
.
.
.
มินจุนกระเด้งตัวขึ้นจากโซฟา รีบวิ่งเข้าไปค้นในห้องนอนของตัวเองทันที ตอนนั้นเก็บไว้ไหนวะ คงไม่ได้ทิ้งไปแล้วหรอกนะ...
โจควอนวิ่งตามมินจุนเข้ามาในห้องอย่างงงๆ เห็นเพื่อนตัวเองกำลังค้นนู่นค้นนี้ก็ได้แต่เกาหัวตัวเอง ก่อนจะเอ่ยปากถาม
" หาอะไรน่ะ ช่วยหามั้ย "
" กระดาษแผ่นเล็กๆ "
มินจุนตอบสั้นๆ มือเรียวคว่ำถังขยะที่มีแต่เศษกระดาษเต็มไปหมดลงบนพื้นห้อง
แต่เรื่องมันก็นานมาแล้ว...ไม่น่าจะอยู่ในถังขยะนะ
โจควอนมองเพื่อนสนิทที่ยืนพึมพำอยู่คนเดียวโดยที่ไม่รู้จะช่วยยังไง เพราะเขาไม่รู้ว่ากระดาษแผ่นนั้นหน้าตาเป็นไง เขียนอะไรเอาไว้
" ทำไมไม่ลองค้นกระเป๋า ตู้ ลิ้นชักอะไรแบบนี้ดูล่ะ "
เอ่ยเสนอไปก่อนจะเดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงนุ่ม มินจุนขมวดคิ้วแน่น
" ฉันไม่น่าจะเก็บไว้ในกระเป๋านะ "
ปากพูดแบบนั้นแต่มือก็เริ่มค้นตามที่โจควอนบอก กระเป๋ากับตู้ไม่มี ถ้าในลิ้นชักไม่มีก็คง...
เจอแล้ว!
มินจุนคว้ากระดาษแผ่นเล็กมาถือไว้ในมือ
ต้องโทรจริงๆสินะ..
" เห้ยย เบอร์โทรเลยหรอ! "
" มันไม่ใช่เบอร์หมอนั้นจริงๆหรอก คงไม่โง่ทิ้งเบอร์ไว้ให้สาวถึงรังตัวเองหรอก แต่ยังไงก็ต้องลองโทร.. "
--------------
" ช้าหน่อยได่ไหม.."
มือเรียวเอื้อมไปกระตุกชายเสื้อของชานซองเบาๆ กลีบปากอิ่มสีหวานแดงช้ำจากรสจูบเล็กน้อยเม้มเข้าหากันเพราะความกลัว..
พามาที่ไหนก็ไม่รู้ เดินก็ลำบากแล้ว.. ยังจะเดินเร็วอีกเดินตามไม่ทัน..
ความจริงคนตัวสูงไม่ได้เดินเร็วหรอก แต่เพราะสะโพกของคนตัวเล็กที่ระบบไปหมดจนแทบจะอยากลงไปคลานกับพื้น
" เดินช้าชะมัด.. "
บ่นเสียงนิ่งออกมาพลางชะลอความเร็วลงเล็กน้อย.. เล็กน้อยเท่านั้นแหละ.. จุนโฮก็ยังเดินตามไม่ทันอยู่ดี
ผู้คนมากมายขวักไขว่ในตึกร้างแห่งหนึ่ง ตึกร้างที่ไม่ควรจะมีคนอยู่.. แต่ตอนนี้กลับมีชายฉกรรจ์ เดินชนไหล่กันไปมาทำเอาจุนโฮหน้านิ่ว
บ่อน.. บ่อนขนาดใหญ่..
ไม่รู้ว่าพี่มินจุนรู้รึยังว่ามีบ่อนใหญ่ขนาดนี้อยู่ใจกลางเมือง
ดวงตาเรียวชาวสอดส่องไปทั่วพลางเก็บรายละเอียด ถึงแม้ว่าสติที่มีค่อนข้างจะเลือนลางเต็มที
บึก..!
จุนโฮเซไปตามแรงกระแทกเพราะจำนวนคน เซไปหาแผ่นหลังแกร่งของคนตัวโต
" ก็รู้ว่าไม่ไหวก็ยังจะตามมาอีก "
ร่างสูงหันมาดุเสียงเข้ม ก่อนจะสาวเท้ายาวๆหนี จุนโฮเบิกตากว้างรีบฝืนตัวเองเดินตามไป ก่อนที่จะโดนคนพวกนี้เหยียบตาย..
ไอ่คนใจร้ายเอ้ย!!
ถ้าให้อยู่บ้านเฉยๆมีหวังงานไม่คืบหน้าแน่ ถึงต้องยอมลากสังขารแย่ๆของตัวเองตามมา
ชานซองอยู่ในสูทดำ เสยผมเปิดหน้าผากขึ้นจนหมด สายตาคมดุดันกวาดตาไปทั่ว หลายคนที่ต้องยอมหลบให้อย่างเกรงๆ และหลายคนยกมือไหว้..
ชานซองในลุคแบบนี้ น่ากลัวไม่น้อยเลย..
แผ่นหลังกว้างห่างออกไปเรื่อยๆทำให้จุนโฮต้องรีบก้าวตามเร็วๆ แต่ก็ยังตามไม่ทันอยู่ดี
" ชานซองรอด้วย "
เสียงหวานแหบตะโกนเรียก แต่เหมือนว่าคนตัวสูงจะไม่ได้ยิน เสียงในบ่อนนี่ก็ดังอย่างกับอะไรดี จุนโฮพยายามสอดแทรกตัวผ่านผู้คนเพื่อที่จะตามร่างสูงให้ทัน
เดินนำลิ่วโดยไม่หันมามองจุนโฮเลยแม้แต่น้อย ร่างเล็กกัดฟันแน่น แทบจะทนกันความเจ็บระบมของสะโพกไม่ไหวอยู่แล้วนะ...
จุนโฮจ้องแผ่นหลังกว้างเขม็ง กลัวจะหลง... ถ้าหลงเขาต้องตายแน่ๆ
ด้วยความเร่งรีบและไม่ได้มองทาง ทำให้จุนโฮเดินชนกับชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ ร่างเล็กเซออกนอกเส้นทางเผลอละสายตาออกจากแผ่นหลังกว้าง แค่พริบตาเดียวชานซองก็หายไปซะแล้ว
จุนโฮก้มศีรษะลงเป็นเชิงขอโทษ โชคดีที่ชายคนนั้นไม่เอาเรื่อง ขาเรียวก้าวเดินต่อไปทางที่เขาเห็นแผ่นหลังกว้างเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะหยุดยืนอยู่ตรงทางแยก หันซ้ายหันขวาด้วยความสับสน ไปทางไหนดีล่ะทีนี้...
เสียงสีและเสียงดังอึกทึกทำให้ร่างเล็กน้องเดินหลบมุม พยายามยืดตัวมองหาชานซอง
ไม่น่าจะหายาก.. สูงเด่นแบบนั้น..
แต่ยิ่งหาเท่าไรก็หาไม่เจอ เสียงโหวกเหวกโวยวายฟังไม่ได้ศัพท์ทำเอาจุนโฮต้องก้มหน้าตั้งสติ สายตาพร่ามัวไปหมด
" นายจะใจร้ายเกินไปแล้ว.. "
จู่ๆก็คิดถึงมินจุนเอาดื้อๆ ไม่รู้ว่างานนี้มันจะยากไปรึป่าว รู้สึกว่าตัวเองไม่แข้มแข็งพอไม่เหมาะกับงานแบบนี้เลย..
จะหาที่อยู่นั้นได้ยังไง..
พ่นลมหายใจทิ้งเฮือกใหญ่
ภาพของพี่น้องที่ล้มตายไปต่อหน้าต่อตาแวบเข้ามาในสมอง เสียงร้องโอดครวญน่ากลัวนั้นยังจำมันได้ดี
ไม่ได้สิจุนโฮ.. อุส่ามาได้ถึงตรงนี้แล้ว..
คนตัวเล็กสลัดความคิดออกไปให้หมด ก่อนจะเริ่มใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์
ตัดสินใจเดินเข้าในทางเดิน ยาวลึกเข้าไป..
ที่นี่อาจจะเกี่ยวกับคนที่ชื่อปาร์คจินยองก็ได้..
เสียงดังของผู้คนเริ่มเบาลงเรื่อยๆ จุนโฮกวาดสายตามองรอบๆด้วยความสงสัย มันเป็นทางเดินไปห้องอะไรวะ...
แผ่นหลังบางแนบสนิทกับกำแพง ค่อยๆเดินเข้าไปลึกขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาเรียวหรี่ลงเมื่อเห็นประตูห้องห้องหนึ่ง
มันจะมีอะไรเกี่ยวข้องจริงหรอ..
เสียงดวงดูแล้วกันจุนโฮ อยากน้อยอาจจะได้รู้อะไรเพิ่มขึ้นบ้าง...
พยายามเดินให้เสียงฝีเท้ากระทบพื้นให้น้อยที่สุดจนกระทั่งมาหยุดอยู่หน้าประตูสีแดงเข้ม..
มือเรียวค่อยๆยื่นออกไปแตะกับลูกบิดประตูที่เย็นเฉียบ..
ปัง!!!
ไม่ทันที่จะได้เปิดประตูออก ก็ต้องสะดุ้งเฮือกกับเสียงปืนที่ดังมาจากทางเดินเมื่อกี้..
ดวงตาเรียวเล็กพยายามหรี่มองกลับไป แสงไฟไหววูปจากปลายทางทำให้จุนโฮกลืนน้ำลายลงคอช้าๆ ดูเหมือนจะเกิดเรื่องซะแล้ว
จุนโฮหันกลับมามองลูกบิดตรงหน้า เผลอเลียริมฝีปากบางอย่างลืมตัว
ปัง!!
เสียงกระสุนปืนนัดที่สองดังขึ้น เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาทำให้จุนโฮผละมือออกพลางขยับตัวหนี ผู้คนพากันวิ่งหนีเข้ามาตามทางเดิน
คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน ก้อนเนื้อในอกเต้นเร็วขึ้นกว่าเดิม
คนตัวเล็กตัดสินใจที่จะเดินย้อนกลับไป พลางหลบแรงกระแทกของคนที่วิ่งสวนเข้ามา สาวเท้าเร็วขึ้นเมื่อได้ยินโวยวายและเสียงปืนดึงขึ้นอีกนัด
" ฉันบอกไว้ว่ายังไง!!! "
เสียงตะหวาดดังไปทั่ว เลือดแดงสดนองเจิงเต็มพื้นจุนโฮเบิกตากล้างด้วยความตกใจ ชานซองยืนอยู่กลางซากศพจำนวนหนึ่ง...
ชายชุดดำคนหนึ่งถูกมือหนากระชากเข้ามาหาตัว ปลายกระบอกปืนกระบอกเดิมที่เคยเห็นในวันนั้นจ่อเข้าที่ขมับ
" พวกแกมันไม่ได้เรื่อง.. น่าสมเพศสิ้นดี.. "
ร่างสูงกดเสียงต่ำกระซิบขู่จนจุนโฮเผลอถอยหนี จากประชากรที่ล้นหลามก่อนหน้าตอนนี้เหลือเพียงไม่ถึงครั้ง บางคนก็วิ่งหนีออกไป บางคนก็หลบอยู่ใต้โต๊ะ..
ปัง!!!
อีกครั้งที่คนตัวเล็กสะดุ้งจนตัวโยน หันไปมองที่อื่นแปปเดียวเอง..
ร่างไร้วิญญาณกระแทกลงกับพื้น กลิ่นคาวเลือดพุ่งกระจายไปทั่ว บรรยากาศเหมือนทุกอย่างถูกหยุดเวลา..
ชายชุดดำที่เหลือบืนนิ่งก้มหน้าไมมีแม้แต่เสียงของลมหายใจ..
ชานซองยืนนิ่งจ้องมองลูกน้องที่เหลือ ก่อนจะสบัดปลายกระบอกปืนใส่คนตรงหน้าจนหน้าหันเรียงคน
" จะไปทำอะไรก็ทำ.. "
หันตัวหนีเหน็บกระบอกปืนเข้ากับหลังกางเกง เดินข้ามกองเลือดทิ้งตัวลงกับโซฟาสีแดงสดตรงมุมด้านใน คนตัวเล็กเหลือบมองไปรอบๆชายชุดดำเดินออกจากห้องไปโดยไม่ลืมที่จะหิ้วร่างไร้ลมหายใจออกไปด้วย ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติราวกลับว่านี่เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นเป็นประจำ
บ้าไปแล้ว...
จุนโฮค่อยๆขยับตัวบ้าง สมองขาวโพลนตื้อตันไปหมด เมื่อกี้มันอะไร...
รู้แต่ว่าตอนนี้ไม่กล้าเข้าใกล้ใครซักคน.. โดยเฉพาะชานซอง.. ถ้าแทคยอนไม่ห้ามให้ไม่ให้ฆ่าเขาเองละก็.. คงมีสภาพไม่ต่างจากเมื่อกี้แน่ๆ..
" อ้ะ.. "
ในขณะที่กำลังเดินออกมาจากปากทางเดินก็มีมือหยาบแตะเข้าที่เอวบาง ร่างเล็กขยับตัวหนีอัตโนมัติหันไปจ้องต้นเหตุแทบจะทันที
" พึ่งมาหรอ.. ไม่เคยเห็นหน้าเลย "
เสียงทักทายเอ่ยขึ้นท่ามกลางผู้คนที่เริ่มขวักไขว่เหมือนเดิม จุนโฮพยักหน้าให้น้อยๆก่อนจะเอี้ยวตัวหนีออก
" เดี๋ยวสิ คุยกันซักหน่อยจะเป็นไร.. " ข้อมือบางถูกรั้งไว้จากคนเดิม
" ปล่อย.. " แกล้งพูดเสียงเข้ม ทั้งๆที่ในใจกลัวแทบบ้า..
ชายแปลกหน้ายิ้มกริ่มดึงกระชากคนตัวเล็กเข้าหาตัว มือหยาบแตะสัมผัสแก้มนุ่มแผ่วเบา จุนโฮเบิกตากว้างปัดมือออกอย่างขยะแขยง
" ปล่อย! "
พยายามสะบัดตัวออกจากอีกคนแรงๆ แต่เหมือนว่าแรงของเขาจะสู้คนตรงหน้าไม่ได้เลย
" จุ๊ๆ...อย่าดุนักเลย "
ชายแปลกหน้าส่ายศีรษะยิ้มๆเมื่อเห็นดวงตาเรียวเริ่มแข็งกร้าว
มือบางบิดข้อมือแรงๆก่อนจะออกแรงผลักคนตรงหน้าออก ชายแปลกหน้าซวนเซเล็กน้อย อาจจะเป็นเพราะกำลังเมา จุนโฮรีบแกะมือปลาหมึกที่เกี่ยวเอวเขาอยู่ออก รีบพลิกตัวออกเดินทันที
" อ้ะ! "
ร่างเล็กร้องเสียงหลงเมื่อวงแขนของไอ้คนเดิมเกี่ยวรัดเอวเขาไว้แน่นจากทางด้านหลัง
" ปล่อยนะเว้ย! "
ขาเรียวถูกยกลอยขึ้นจากพื้น ทำให้จุนโฮใจหายวูบ
" บอกให้ปล่อย!! "
จุนโฮดิ้นพล่าน ตะโกนเสียงดังเพื่อเรียกร้องความสนใจจากคนอื่นๆ แต่ไม่มีใครหันมาสนใจเลยซักนิด จุนโฮจิกเล็บลงบนท่อนแขนที่โอบรัดเอวของเขาอยู่แรงๆ
" ฤทธิ์เยอะนักนะ เดี๋ยวจะทำให้ร้องไม่ออกเลย "
จุนโฮตัวสั่นเทาอย่างช่วยไม่ได้ แผ่นหลังบางถูกดันให้ติดเสา จุนโฮพยายามดันหน้าของไอ้หื่นโรคจิตก่อนจะยกเท้าขึ้นยันเข้าไปที่หน้าท้อง
จุนโฮหอบหนัก ดวงตาเรียวจ้องเขม็งไปยังร่างสูงที่ยืนอยู่ไม่ห่าง ฮวางชานซอง...อยู่ตรงนั้นมาตั้งแต่ต้น...เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างแต่กลับไม่มาช่วยเขาซักนิด!
ดวงตาเรียวยาวจ้องมาที่คนตัวเล็กนิ่งๆ มือหยาบคู่นั้นกำลังไล้สะโพกอิ่มขึ้นไปหาเอวบางเรื่อยๆ
" ไอ่..บ้าเอ้ย.. ปล่อยนะ!! "
วันนี้มันวันอะไรกันแน่! ที่ทำไปทั้งหมดเหมือนจะไม่ได้อะไรกลับมาซักอย่าง! เหนื่อยร่างแทบแหลกยังจะต้องมาปัดไอ่ขี้เมานี่ออกจากตัวอีกหรอ!
แล้วไอ่บ้าชานซองนั้นนั่งตาบอดอยู่รึไง!! ฮึ๊ยยย!!
จุนโฮดิ้นไปมาในวงแขน แรงค่อยๆอ่อนลงเหลือน้อยลทุกที เอาตัวรอดจากคนเมาไม่มีสติยังไม่ได้เลยจุนโฮ.. ทั้งๆที่เคยฝึกมาแล้ว.. ทุเรศชะมัด..
ร่างบางจ้องไปที่ใบหน้าคม เว้าวอนเป็นครั้งสุดท้าย..
อย่าปล่อยไว้แบบนี้ชานซอง.. ทำอะไรซักอย่างสิ..
สติทั้งหมดค่อยๆเลือนลาง ชานซองแค่นยิ้มก่อนจะเบือนหน้าหนีช้าๆ
นายมันใจร้ายที่สุดเลยชานซอง..
คนตัวเล็กหันมาใช้แรงเฮือกสุดท้ายที่มี ผลักอกคนตรงหน้าออกแต่ก็ไม่เป็นผล ปากหนาตรงหน้าตรงเข้ามาซุกไซร้เข้ากับซอกคอหอม..
" อ้ะ..!! ปล่อยนะ!! "
เบิกตากว้างด้วยความตกใจ พยายามหาทางดิ้นหนี แต่เหมือนจะไม่มีทางไหนช่วยให้ออกจากเหตุการณ์บ้าๆนี้ได้เลย...
หยดน้ำใสๆค่อยๆเอ่อล้นออกมา จุนโฮสะกดเสียงร้องของตัวเองไว้ตัวสั่นเพราะความกลัว
ชายตรงหน้าไล้จูบขึ้นมาจนถึงสันกรามเล็กจนกระทั่ง..
" แกควรมีมารยาทและให้เกียติ์ที่นี้มากกว่านี้นะ ไอ่พวกเศษสวะ.. "
แรงกระชากขากใครซักคนทำให้จุนโฮหลุดออกจากอ้อมแขนนั้น แขนเล็กยกขึ้นมาปาดน้ำตาออกลวกๆก่อนจะเงยหน้ามองบุคคลปริศนา..
นั้นมัน..
ผู้ชายคนนั้น.. คนที่เข้ามาหาชานซองตอนเย็น..
------------
อัพช้าใช่ไหม? 5555
อยากทวง,เร่งไรท์ ติดแท็ก #theKiller ในทวิตแล้วด่ามาได้ไม่ยั้งเลย คอยอ่านทุกข้อความทุกข้อเสนอ 55
หรือไม่สะใจ @dbdqb , @MmolradaA ฟอลมาทวงกันได้
ถ้าจะอ่านแล้วไม่เม้นก็ ติดแท๊ก #TheKiller ในทวิต
แล้วคอมเม้นสั้นๆมาหน่อยก็ได้นะคะคนเขียนจะได้ชื่นใจอุส่าจัดเต็ม ^^
ฮอลลล ยาวไหม 555555
กว่าจะจบตอนนี้ได้ ถึงเราจะอัพฟิคช้าแต่ก็อัดแน่นไปด้วยตวาวยาวน้า (แถ) ถถถถถถ
◊
>SQWEEZ
แล้วทำไมเราต้องฟังมันด้วย..
แล้วคนคนนั้นคือใคคร ทำไมชานซองต้องทำท่าเครียดแบบนั้น ความคิดมากมายตีกันในหัวยุ่งไปหมด
คว้าหมอนใบโตขึ้นมากอดพลางซุกหน้าเข้าหาไออุ่น
อยู่เฉยๆแบบนี้น่าเบื่อชะมัด....
จุนโฮถอนหายใจเอนตัวลงนอนบนเตียงช้าๆ ดวงตาเรียวจ้องเพดานเขม็ง ลิ้นเล็กเลียริมฝีปากตัวเองด้วยความเคยชินระหว่างที่ใช้ความคิด
ชิ…คิดว่าจะกลัวรึไง ไอ้ชานซองคนบ้ากาม
ขาวเรียวยันตัวเองลุกขึ้นจากเตียงก้าวเข้าหาตู้เสื้อผ้า ก่อนจะรื้อหาชุดที่สามารถพรางตัวได้ลวกๆ
มือเล็กคว้าเอาฮู้ดตัวโตของเจ้าของห้องเอามาใส่ ขยับหมวกของเสื้อกระชับเข้าหาตัวเองให้ปิดลงมา
" ใครจะไปยอมกัน.. ต้องตามหาที่อยู่นั้นให้ได้.. "
เม้มปากเข้าหากันก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ พยายามตั้งสติให้ตัวเอง
บอกตรงๆ.. กลัวเหมือนกันนะ ถ้าโดนหมอนั้นจับได้ขึ้นมาละ..
จะโดนแบบ.. วันนั้นรึเปล่า..
ทะเลาะกับตัวเองอยู่หน้าประตู ก่อนจะตัดสินใจสบัดหัวไล่ความกังวนออกไป
ต้องพยายามไม่ให้พลาดสิจุนโฮ! จะได้ไม่โดนไอ่มือปืนโหดนั้นทำแบบนั้นได้อีก ถึงจะไม่เชียวชาญการลงสนามเองก็เถอะ
มือบางค่อยๆ เปิดประตูออกช้าๆ
จุนโฮค่อยๆเดินออกมาจากห้อง แผ่นหลังบางแนบอยู่กับกำแพงเย็นเฉียบ ไปคุยกันอยู่ที่ไหนวะ...
ไฟก็ปิดมึดทำเอามองอะไรไม่ค่อยเห็น ชานซองปิดไฟหรอ.. ปิดทำไมกัน...
พยายามหรี่ตามองทางให้ได้มากที่สุด แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีกล้องบ้าๆนั้นอาจจะจับภาพเขาได้ยากขึ้น
คนตัวเล็กพยายามซ่อนตัวเองอยู่ในฮู้ดตัวโตเดินไปตามทางที่พอจะเดาได้ จากความทรงจำที่เคยถูกหิ้วเข้ามาน่ะนะ..
ลิ้นเล็กแลบเลียริมฝีปากแห้งผากด้วยความเคยชิน ไม่รู้ว่าไปคุยกันอยู่ห้องไหน
ก่อนจะตัดสินใจเดินเปิดไล่ไปทีละห้อง...
เสียวสันหลังขึ้นมาเป็นระยะๆ กังวลว่าจะมีใครซักคนโผล่ออกมาตอนนี้
แต่ดูเหมือนว่าบ้านหลังนี้จะอยู่กันแค่สองคน จุนโอยังคงเดินไปเปิดประตูทุกบานที่สามารถเปิดออกได้
แต่ก็ไม่มีอะไรน่าสนใจ แต่ละห้องว่างเปล่า.. เหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นมา
ก่อนจะมาหยุดยืนอยู่หน้าประตูห้องที่เดาเอาเองว่าน่าจะเป็นห้องของแทคยอน
ห้องที่อยู่มุมซ้ายสุด...
ใบหน้าหวานแนบไปกับประตูบานใหญ่ เสียงพึมพำที่ดังอยูาเบาๆทำให้คนตัวเล็กเริ่มมั่นใจขึ้นมา มือบางกำลูกบิดประตูแน่น สูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะเปิดผ่างเข้าไป
สายตาทุกคู่หันขวับมาจ้องแขกไม่ได้รับเชิญเป็นตาเดียว จุนโฮแสร้งทำเป็นยืนค้างดวงตาเรียวเบิกกว้าง
พยายามกวาดสายตาหาสิ่งปกติไปทั่วห้อง จนมาหยุดอยู่ที่ข้อมือหนาของแขกตรงหน้า...
" จุนโฮ... "
เสียงร้องเตือนจากชานซองทำเอาจุนโฮต้องเบือนหน้าหนีจากชายคนนั้น..
"ข..ขอโทษครับ"
ร่างเล็กปิดประตูเสียงดังปัง ดวงตาที่เคยเต็มไปด้วยความตกใจแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม
รอยสัก...
แต่ผู้ชายชุดดำคนนั้นมีรอยสัก
ในช่วงเวลาแค่พริบตาเดียว จุนโฮสังเกตุเห็นรอยสักที่มีอัษรอะไรบางอย่าง รวมถึงสัญลักณ์คุ้นตา..
อย่างนี้ก็ได้อะไรเพิ่มขึ้นมานิดหนึ่ง..
เร็วกว่าความคิด จุนโฮรีบสาวเท้าลงไปข้างล่าง และไม่ลืมที่จะเลียวมองระแวงหลังเป็นระยะๆ มือบางผลักประตูบ้านออก ฝนหยุดตกแล้ว รถตู้คันนั้นจอดอยู่ที่เดิม..
มันจะไปที่นั้นไหมนะ.. ที่อยู่ของปาร์คจินยอง..
ต้องใช่สิ สัญลักษณ์ตรงข้อมือคุ้นตามาก แต่คิดไม่อกว่าเคยเห็นที่ไหน..
คยตัวเล็กพ่นลมหายใจออกมาช้าๆ ตั้งสติ หนี..
หนี คือความคิดเดียวในตอนนี้ หนีขึ้นรถคันนี้ไป.. งานอาจจะคืบหน้ามากกว่านี้..
ลาก่อนชานซอง..
------------------
ร่างสูงใหญ่ของชานซองเปิดประตูห้องของแทคยอนอย่างแรงจนมันกระแทกผนังเสียงดังปัง แทคยอนที่เดินตามออกมาไม่ได้เอ่ยห้ามหรือพูดให้คนเป็นน้องใจเย็นลง ปล่อยให้ชานซองเดินเร็วๆกลับไปที่ห้องด้วยอารมณ์หงุดหงิดแบบนั้น
กล้ามาก..อีจุนโฮ
แทคยอนได้แต่นับถือความกล้าของไอ้ลูกแมวอยู่ในใจ
ชานซองกำหมัดแน่น ใบหน้าหล่อเหลาเคร่งขรึมจนดูน่ากลัว โกรธตั้งแต่เห็นจุนโฮโผล่เข้าไปในห้อง...
สั่งอะไรเคยฟังบ้างไหม...
มือหนาเปิดประตูห้องเข้าไปก่อนจะชะงักนิ่ง โกรธมากขึ้ยเป็นเท่าตัวเมื่อไม่เห็นจุนโฮอยู่ในห้อง ดวงตาคมแข็งกร้าว ตวัดมองไปทางประตูบ้าน
อีจุนโฮ...อยากเจอดีใช่มั้ย...
" แทค บอกฮยองว่าอย่าพึ่งออกมา "
ชานตะโกนบอกเสียงดัง ซึ่งแทคยอนเองก็พยักหน้ารับอย่างรู้กัน ริมฝีปากบางยกยิ้มขึ้น
เอาซะไอ้ชานหัวปั่น...ใช่เล่นนะอีจุนโฮ
ชานซองกวาดสายตาไปทั่วบ้าน เปิดประตูทุกห้องแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา ดวงตาคมตวัดมองออกไปนอกหน้าต่าง เปิดประตูหน้าบ้านออกอย่างแรง สาวเท้าหาร่างเล็กแต่ก็ไม่เจออะไร
" เห็นผู้ชายคนที่นั่งตากฝนอยู่เมื่อกี้มั้ย "
เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามชายคนขับรถที่ยืนนิ่งรออยู่หน้าบ้าน
" ไม่ครับ "
คนขับรถก้มหน้าตอบ มือหนาตรงเข้าคว้ากุญแจรถที่ชายคนนั้นถือเอาไว้อยู่ กระชากมาไว้ในมือ กดปลดล็อคก่อนจะกระชากประตูให้เปิดออก...
"คิดว่าจะหนีฉันพ้นเหรอ อีจุนโฮ..."
มือหนาคว้าเสื้อฮู้ดตัวโคร่งเข้าหาตัวเองอย่างแรง คนตัวเล็กลอยติดมือไปกระแทกกับอกแกร่งดังอักก่อนที่จะถูกลากให้เดินตามด้วยอารมณ์โมโห
กล้าทำแบบนี้แสดงว่าคราวที่แล้วไม่เข็ดสินะ.. กล้าขัดคำสั่งฉันสินะ จุนโฮ..
ขาเรียวแทบจะต้องวิ่งตามอีกคนที่เอาแต่ใจ อยากจะสะบัดแขนออกจากมือหนาก็ทำไม่ได้ โอ้ย นี่เขาต้องโดนลากแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่!
" ฉันบอกว่ายังไงอีจุนโฮ "
เสียงทุ้มเข้มกดต่ำ ออกแรงเหวี่ยงจนร่างเล็กกระแทกเข้ากับประตูห้องของแทคยอนอย่างแรง
จุนโฮกัดริมฝีปากเพื่อกลั้นเสียงร้อง จุกอยู่ไม่น้อยแต่ก็ต้องอดทนเอาไว้
"กล้ามากนะ เปิดประตูเข้ามาแบบนั้น แล้วยังจะแอบไปขึ้นรถอีก..."
มือหนาบีบสันกรามเล็กบังคับให้เชิดหน้าขึ้น หมวกฮู้ดร่วงหล่นจากศีรษะกลม ดวงตาเรียวหรี่ลงเพราะความเจ็บ
ผิดแผนจนได้... ทำไมไอ่บ้านั้นไม่ออกมาขึ้นรถก่อนว้ะ!
ใบหน้าคมก้มลงมาจนชิด ดวงตาคมแข็งกร้าวจนจุนโฮไม่กล้าที่จะสบตา มือหนาข้างที่ว่างเปิดประตูผลักคนตัวเล็กเข้าไปในห้อง ห้องที่จุนโฮไม่เคยเห็นมาก่อน โต๊ะทำงานเอกสารกองเต็มไปหมด คอมพิวเตอร์ที่ตอนนี้หน้าจอมืดสนิท จุนโฮลอบสังเกตเก็บทุกรายละเอียดไว้ในความทรงจำ ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาอันตรายแบบนี้ก็เถอะ
จุนโฮก้าวถอยหลังช้าๆกลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อกเมื่อรับรู้ได้ว่าสิ่งที่เขากำลังจะเจอคืออะไร ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกเมื่อถอยไปชนกับโต๊ะทำงาน
" ตอนนั้นฉันบอกว่ายังไง ถ้ากลับไปที่ห้องแล้วไม่เจอนาย ฉันบอกแล้วใช่มั้ยว่าต้องเจอกับอะไร หืม.. "
มือบางยกขึ้นดันแผ่นอกหนาเอาไว้ จ้องมองคนตรงหน้าอย่างหวาดๆ คนตรงหน้ากำลังโกรธ...มากซะด้วย
" อ้ะ..! "
ชานซองบีบสันกรามเล็กแน่นพลางดันให้เชิดขึ้นจนบางต้องอกแรงทุบไหล่หนาให้ปล่อยออก
" ตอบมา!! "
เสียงทุ้มตวาดดังลั่นทั่วห้อง คนตัวเล็กสะดุ้งเฮือกเบือนหน้าหนี
ไม่ใช่เล่นๆแล้ว.. พยายามไม่ตอบโต้อะไรมากเพื่อที่ชานซองจะไม่ต้องโมโหไปมากกว่านี้
" … "
เงียบให้คือคำตอบที่คิดออกในตอนนี้ ก็คิดว่าจะหนีพ้นแล้วนี่น่า.. บ้าชิป..
" ฉันบอกให้ตอบมา!! "
" อะ..อะไรเล่า.. ก็.. "
อึกอักคิดหาคำพูด จะให้ตอบว่ายังไงละว่ะไอ่บ้า..
ตอบไม่ถูกใจก็โดนดุอีกละสิ มันน่ากลัวนะรู้ไหม.. ฮึ๊ยย..
คนตัวโตกระตุกยิ้มเพราะท่าทางหวาดๆของลูกแมวจอมแสบ ก็รู้ว่าจะโดนอะไรยังจะกล้าขัดคำสั่งอีก
ใครส่งนายมาหรอ อีจุนโฮ.. หึ
" ไม่เข็ดสินะ.. "
ผละมือออกจากสันกรามสวยแล้วเลือกที่จะรั้งตัวอีกคนเข้ามาหาตัวเองพลางก้มลงไปซุกไซร้เข้ากับซอกคอหอม
ออกแรงงับเบาๆก่อนจะดูดเม้มจนเป็นรอยขึ้นมาอีกครั้ง
ทั้งๆที่ของเก่ายังไม่ทันหาย ก็อยากดื้อเองนี่นะ..
" ชานซอง.. ไม่เอานะ.. ปล่อยย.. "
เสียงหวานรีบออกปากห้ามพยายามเอามือดันใบหน้าหล่อเหลานั้นให้ออกจากตัวแต่กลับถือมือหนาล็อคเอาไว้
สัมผัสร้อนที่ซอกคอคลอเคลียไม่ห่างและไม่มีท่าทีว่าจะหยุดเอาง่ายๆ จุนโฮกัดริมฝีปากตัวเองแน่นเพราะปากหยักที่ลากไปมาจนขึ้นมาถึงเรียวปากอื่ม
" ฉันเตือนนายแล้ว.. "
ชานซองหวังจะประกบจูบลงบนกลีมปากสีหวานแต่คนตัวเล็กก็เบือนหน้าหนีซะก่อน
มันต้องไม่มีครั้งที่สองสิ...
" นายจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ.. "
" ทำไมจะไม่ได้.. ฉันจะฆ่านายก็ได้ แล้วทำไมฉันจะทำแบบนี้กับนายไม่ได้.. "
คนตัวเล็กเผลอกัดริมฝีปากตัวเองด้วยอารมณ์โมโหที่ค่อยๆก่อตัวขึ้น
มันจะมากเกินไปแล้ว..
" นายมัน.. ไอ่คนชอบเอาเปรียบ.. "
" งั้นหรอ.. ไหนลองหนีออกจากฉันให้ได้ในตอนนี้สิ.. ให้เวลาสองนาที ถ้าทำไม่ได้.. เตรียมครางเสียงหวานๆให้ฉันฟังทั้งคืนได้เลย.. "
!!!!
ไอ่.. ไอ่คนหน้าด้าน ไม่มียางอาย พูดออกมาได้ยังไงว่ะ!
หน้าขึ้นสีแดงเถือกไปถึงหู พยายามดิ้นออกจากร่างสูง แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นไปได้ยากเพราะแรงที่โอบรัดรอบเอวอยู่ตอนนี้
สองนาที...
จุนโฮสะบัดตัวอย่างแรง ลอบมองไปที่ประตู อยู่ใกล้แค่นี้ แค่นิดเดียว แขนแกร่งโอบ ล็อคเอวบางแน่น ยืนนิ่งๆมองคนในอ้อมกอดดิ้นพล่านเอาตัวรอด ริมฝีปากหยักยกยิ้มมุมปาก แค่นหัวเราะในลำคอ
" อีกหนึ่งนาที "
เสียงทุ้มพูดนิ่งๆ มือหนาจับรวบมือบางที่พยายามทุบจิกตีข่วนแผ่นอกของเขา จุนโฮตวัดสายตามองด้วยความขุ่นเคือง ขยับข้อมือหมุนบิดออกทางด้านนิ้วโป้งของคนตัวสูง ใช้ทฤษฎีตามที่เคยเรียนมา ซึ่งมันควรจะได้ผลสิ...
ชานซองเลิกคิ้วก่อนจะหรี่ตาลงจับข้อมือแน่นกว่าเดิม ขายาวขยับก้าวเข้าไปใกล้ จุนโฮถอยหลังชิดโต๊ะทำงานใบหน้าหวานผงะถอยไปข้างหลังเมื่อจมูกโด่งของคนตัวสูงขยับเฉียดเข้ามาใกล้
" สามสิบวิ "
จุนโฮมองค้อนใส่ ยกเท้าขึ้นกระทืบแรงๆบนเท้าของคนตัวสูง ถึงแม้ว่าชานซองจะไหวตัวหลบทัน แต่แรงที่จับยึดข้อมือก็ผ่อนลงเล็กน้อย จุนโฮเบี่ยงตัววิ่งพรวดตรงไปที่ประตูทันที
ชานซองหัวเราะเสียงต่ำ อาศัยแขนยาวกวาดรัดเอวบาง กระชากทีเดียวคนตัวเล็กก็ปลิวกลับเข้ามาในอ้อมกอด จุนโฮเบิกตากว้าง หัวใจเต้นระรัวด้วยความตกใจ
เร็วเกินไป...
ชานซอง...เป็นคนที่มีความคล่องแคล่วสูง ไหวพริบดี รู้ทันคน แถมยังแรงเยอะ จุดอ่อนของไอ้บ้านี่อยู่ตรงไหนกัน!
" ห้า... "
เสียงทุ้มกระซิบริมใบหู จุนโฮกัดริมฝีปากแน่น สะบัดตัวดิ้นแรงๆอีกครั้งอย่างไม่ยอมแพ้
" สี่..."
จมูกโด่งไล้สัมผัสลงมาที่ซอกคอขาว ริมฝีปากร้อนคลอเคลียเบาๆทำให้จุนโฮต้องสะบัดหน้าหนี
" สาม...หึ..."
" สอง.. "
กำปั้นเล็กออกแรงเฮือกสุกท้ายทุบลงไปอักใหญ่กลางแผงอก
ทำไปงั้นแหละ.. รู้ว่ายังไงก็หนีออกจากไอ่บ้านี่ไม่ได้แน่
" หนึ่ง.. "
" ชานซอง.. ไม่เอานะ.. "
สิ้นเสียงนับจุนโฮก้มหน้างุดเสียงหวานอ้อมแอ่มบอกพลางซ่อนตัวเองเข้ากับอีกคน... พยายามก้มหลบปากหยักที่ทำท่าจะตรงเข้ามาจูบ
มันไม่รู้จะทำยังไงแล้ว..
" จะหาว่าฉันเอาเปรียบไม่ได้นะ.. "
บู้ๆๆๆ
ฝ่ายแทคยอนเมื่อปิดประตูล็อคกลอนให้ไอ้น้องชายตัวดีเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินลากขามาทรุดตัวลงนั่งอยู่บนโซฟา
มือหนาคว้าเอารีโมทมาเปิดทีวี เร่งเสียงให้ดังเพื่อกลบเสียงครางที่ดังแว่วออกมาจากในห้องของตัวเอง
นี่กูเป็นเจ้าของห้องนะเว้ย...
แล้วไอ่ลูกแมวนั้นก็เป็นใครที่ไหนไม่รู้ที่ยังหาคำตอบไม่ได้ มึงยังล่อกินซะ..
คิดไปก็ได้แต่กุมขมับไป
นิสัยใจร้อนของน้องชายแก้ยังไงก็แก้ไม่ได้ แต่อย่างว่าชานซองเป็นคนเลือดร้อนไม่แปลกที่จะตอบโต้ด้วยวิธีนั้นแทนการฆ่า...
จะให้ชานซองฆ่าใครสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ และ จะเก็บใครที่ไหนไม่รู้ไว้ในบ้านสุ่มสี่สุ่มห้าเช่นกัน..
ต้องรีบสืบหาที่มาของจุนโฮให้ได้เร็วที่สุดแล้วสิ..
คิดได้แบบนั้นก็เด้งตัวขึ้นหวังจะตรงเข้าห้องทำงานตัวเอง แต่ก็ต้องชะงักยืนอยู่ที่เดิม ไอ่เสียงสยิวแบบนี้เมื่อไรมันจะเสร็จกันวะ..
ทิ้งตัวลงโซฟาอย่างเดิม ก่อนจะพยายามคิดหาวิธีสืบที่เร็วที่สุด
โทรศัพท์ก็พลาดไปหนึ่ง.. จุนโฮฉลาดไม่ใช่เล่น.. แสดงว่าไม่ใช่คนธรรมดา..
แต่จู่ๆหน้าของใครบางคนที่พึ่งเจอกันเมื่อตอนเย็นก็ลอยเข้ามา..แทคยอนยกยิ้มมุมปากเมื่อคิดย้อนไปถึงวันแรกที่เขากับมินจุนเจอกัน
.
.
.
แทคยอนก้มลงมองลิสท์รายการสิ่งของต่างๆที่อยู่บนเรือ ตรวจเช็คทุกอย่างให้ถูกต้องที่สุด
เขาไม่เคยทำงานพลาดและไม่มีวันพลาด ดวงตาคมกวาดมองรายละเอียดเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะยื่นแฟ้มสีดำสนิทให้กับลูกน้องที่ยืนอยู่ข้างๆ
"เรียบร้อยดี ไปบอกชานซองให้เตรียมตัวได้"
ดวงตาคมมองส่งลูกน้องจนลับสายตา ก่อนจะกวาดมองตรวจเช็คทุกอย่างเป็นครั้งสุดท้าย
"เรียบร้อยดีนะ"
เสียงทุ้มของใครอีกคนดังขึ้นก่อนที่เจ้าของเสียงจะปรากฎตัว แทคยอนโค้งคำนับ ก่อนจะเอ่ยตอบ
"ครับ ไม่ต้องห่วง"
"ดี..."
บทสนทนาดำเนินไปช้าๆก่อนที่ทั้งห้องจะเงียบสงบ มินจุนขยับตัวด้วยความอึดอัด หลบอยู่ในซอกของลังขนอาวุธแบบนี้มาตั้งนานแล้ว
ไอ้บ้านั่นก็ไม่ยอมออกไปจากห้องใต้ท้องเรือนี่ซักที ยืนนิ่งอยู่ในซักพัก เมื่อมั่นใจว่าไม่มีใครอยู่ในห้องมืดนี่แล้วก็ค่อยๆขยับตัวออกมาจากที่ซ่อน
มือบางกำเครื่องอัดเสียงในมือแน่น เหอะ...จะแน่ขนาดไหนกันเชียว เสียงฝีเท้าที่ดังใกล้เข้ามาทำให้มินจุนเม้มริมฝีปากแน่น
ขยับแทรกกลับเข้าไปยืนอยู่ที่เดิม แสงจากด้านนอกทำให้เขาต้องหลับตาลง
"ชาน ทำไรวะ" จำเสียงได้ นายคนที่ยืนเช็คของอยู่เมื่อกี้
"จะดูของหน่อย"
เสียงทุ้มที่ไม่คุ้นเคยทำให้มินจุนต้องหรี่ตามอง ร่างสูงใหญ่ของทั้งคู่อยู่ห่างจากเขาไม่มาก
นายคนที่เช็คของอยู่ตอนแรกหันหน้ามาทางเขา ส่วนอีกคน ยืนหันหลังให้
"กูเช็คแล้ว"
เจ้าของชื่อชานพยักหน้าก่อนจะเดินออกจากห้องไปง่ายๆ
มินจุนเลิกคิ้วขึ้น สงสัยจะเชื่อใจกันมาก... ขอแค่ไอ้หมอนี่เดินออกจากห้องไป...
หัวใจของมินจุนกระตุกวูบเมื่อเห็นรอยยิ้มมุมปากของคนตัวสูงที่ยังคงยืนอยู่ในห้อง คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน
เพราะอีกคนไม่ยอมเดินออกไปซักที แทคยอนยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมจนน่าหวั่นใจ อะไรของหมอนั่นว้ะ รีบเดินออกไปสิ..
เร่งคนตัวสูงในใจอยู่คนเดียว แต่แล้วจู่ๆเสียงทุ้มก็โพล่งออกมา
" แต่อาจจะมีหมามีแมวหลงเข้ามาสองสามตัว.. ช่างมันเถอะ "
พูดแค่นั้นก็ย้ายตัวเองออกไปอย่างว่าง่าย อะไรวะบทจะไปก็ไปดื้อๆ... มินจุนค่อยๆขยับออกจากที่ซ่อนตัว
มองซ้ายมองขวาเมื่อเห็นว่าไม่มีใครจึงเป่าลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่
" ฟู่วว.. ไอ่พวกกระจอกเอ้ย.. หึหึ "
ยิ้มกริ่มให้กับแผนตัวเอง ร่างโปร่งเดินสำรวจข้าวของผิดกฎหมายเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปที่ประตู ตุ้บ!
" อ้ะ.. "
" ชู่… "
ปากบางถูกมือหนาปิดเอาไว้ รวมถึงตัวของเขาเองก็โดนคนตัวสูงที่โผล่เข้ามาตอนไหนไม่รู้โอบรอบตัวเอาไว้ด้วย
มินจุนเบิกตากว้าง ไม่คิดว่าจะมีใครย้อนกลับมาอีก
" อย่าโวยวาย.. เดี๋ยวคนข้างนอกก็ได้แห่กันเข้ามาพอดี "
แทคยอนพูดดักอีกคนที่กำลังจะอ้าปากโวยวาย มินจุนขมวดคิ้วแน่น ไอ้บ้านี่มัน...
" ไง...มั่นใจขนาดไหนกันเชียวถึงกล้าขึ้นมาอยู่บนเรือนี่น่ะ "
เสียงทุ้มเอ่ยพูดอย่างกวนๆ ก่อนจะปล่อยมือที่ปิดปากคนตัวเล็กออก
ซึ่งมินจุนเองก็ฉลาดพอที่จะเงียบ มือบางขยับเลื่อนช้าๆเก็บเครื่องอัดเสียงเข้ากระเป๋ากางเกง
"ผมกำลังพูดกับคุณอยู่นะ"
ปลายนิ้วของคนตัวสูงเชยคางของมินจุนให้เงยขึ้นมามองหน้ากันชัดๆ มือบางปัดมือหนาอย่างแรงก่อนจะขยับถอยออก
แต่ก็ช้ากว่าร่างสูง มือหนาคว้าหมับข้อที่ข้อมือเล็ก พรางลากเข้ามาหาตัว
" อะ..อะไรของนาย.. " แทคยอนกระตุกยิ้มให้กับท่าทางหวาดๆของอีกคน
" คิดไปถึงไหนกันคุณ ผมไม่พิศวาสคุณหรอกนะ "
ไม่พิศวาส แต่ที่จับมือเขาอยู่นี่หมายความว่าไง.. ไหนจะสายตาที่เอาแต่จ้องไม่เลิกนี่อีก..
" ผมแค่สนใจไอ้นี้น่ะ…"
สิ้นเสียงทุ้ม แทคยอนเลื่อนมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงที่มินจุนพึ่งจะยัดเครื่องอัดเสียงลงไป
ก่อนจะคว้าไอ้เครื่องเจ้าปัญหาออกมาโชว์ขึ้นตรงหน้า
ดวงตาเรียวเบิกกว้างทำท่าจะคว้าเอาคืน แต่คนตัวสูงก็รู้ทันดึงมือหลบ มินจุนเม้มริมฝีปากแน่น จ้องเขม็งไปที่คนตรงหน้า
" เอามาให้ฉัน "
" ให้ก็โง่แล้วแหละคุณ "
แทคยอนส่งยิ้มกวนก่อนจะเก็บเครื่องอัดเสียงเข้ากระเป๋ากางเกง ใครจะไปยอม...
มินจุนพุ่งตัวเข้าหา มือก็คว้าตะปบลงบนกระเป๋ากางเกงของคนตัวสูง แทคยอนหลบวูบด้วยความเสียว...
" เฉียดไปนิดเดียวนะคุณ จะแต๊ะอั๋งผมเหรอ "
มินจุนอ้าปากพะงาบๆแยกเขี้ยวใส่ ก่อนจะพยายามพุ่งตัวเจ้าหาอีกครั้ง คราวนี้แทคยอนรวบข้อมือทั้งสองข้างของคนตัวเล็กกว่าเอาไว้
" อย่าให้ผมใช้กำลังน่า.. อยู่ในนี้จนกว่าผมจะมาตามให้ออกมา.. ถ้าคุณฉลาดพอก็คงรู้ว่าต้องทำยังไง ถ้าไม่อยากโดนจับโยนลงทะเล.. "
แทคยอนเอ่ยเสียงเรียบ แต่มีพลังพอที่จะทำให้มินจุนนิ่งฟังอยู่เงียบๆได้...
" อยู่ในนี้เข้าใจมั้ย "
มินจุนสะบัดข้อมือแรงๆให้หลุดจากการเกาะกุม ไม่เอ่ยตอบอะไรทั้งนั้น แค่นี้ก็หงุดหงิดอารมณ์เสียจนจะบ้าอยู่แล้ว
ถึงแม้ท่าทางจะดูดื้อดึงขนาดไหน แต่สุดท้ายมินจุนก็อยู่ในห้องตามที่แทคยอนบอก คิดมาถึงตอนนี้ก็อดที่จะยกยิ้มขึ้นมาไม่ได้
.
.
.
มือหนาล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง หยิบกระเป๋าตังหนังสีดำขึ้นมา
" ยังคงไม่รอบคอบเหมือนเดิมนะมินจุน… "
----------------------------------
ร่างโปร่งขมวดคิ้วมุ่นขณะที่กำลังค้นรถเพื่อหากระเป๋าตังของตัวเอง
จำได้ว่าใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงนี่หว่า...
" โว้ย อยู่ไหนวะ "
บ่นพึมพำโวยวายอยู่คนเดียว ก่อนจะพาลใส่รถปิดประตูดังลั่นลานจอด เดินหัวเสียเข้าไปในคอนโด
ขึ้นไปหาบนห้องอีกทีก็ได้ อาจจะอยู่ในกระเป๋า...
มินจุนแทบจะรื้อห้องทิ้ง ช่วงนี้มีเรื่องปวดหัวมากวนใจหลายเรื่องจนแทบจะทึ้งหัวตัวเองวันละล้านรอบ ไหนจะต้องคอยปิดข่าวจุนโฮ
ไหนจะไอ่นักข่าวจอมตื๊อที่โทรหาวันละสามรอบหลังมื้ออาหาร ไหนจะไอ่คนลึกลับหน้าหล่อที่พึ่งเจอที่โกดัง
ใช่ไอ่คนลึกลับนั่น.. ไม่เข้าใจเลย เดินเข้าเดินออกโกดังแบบไม่ทำอะไร...
ยังดีที่ไอ่นักข่าวจอมตื้อเบนความสนใจไป
แต่จะอะไรก็ตาม ตอนนี้กระเป๋าตังอยู่ไหน!!
ไม่ไม่ไม่ กระเป๋าตังไม่สำคัญเท่าไร แต่..
การ์ดในกระเป๋าตังนั้นต่างหาก!!! อยู่ไหนว้ะะะะ!!
มินจุนทรุดตัวนั่งลงกับพื้นพลางกุมขมับอย่างไร้ทางออก การ์ดนั้นสำคัญต่อเขามาก..
เอ้ะ.. หรือว่า.. ตอนที่หอบมาพร้อมเอกสารนั้น..
มัวแต่สนใจกระดาษจนลืมกระเป๋าตังหรอ.. ไม่น่า.. อ๊ค แทคยอน... ไอ้บ้าเอ้ย!!!
ยิ่งเป็นแทคยอนยิ่งแล้วใหญ่ ต้องรีบไปเอาคืนมาให้ได้ ทำยังไงดี ควรทำยังไงดี...
เดินวนรอบห้องด้วยความกังวล ถ้าแทคยอนเปิดกระเป๋าล่ะก็... ไอ้บ้านั่นต้องรู้ข้อมูลของจุนโฮแน่ๆ ฟันขาวขบกัดริมฝีปากอิ่มอย่างเป็นกังวล
คิ้วเรียวขมวดแน่น เจอไอ้บ้านี่ทีไรมีเรื่องทุกทีเลยสิน่า!!
ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาอย่างแรง มือเรียวยกขึ้นกุมขมับ แทคยอน ไอ้บ้าแทคยอนทำให้เขาต้องปวดหัวแบบนี้มากี่รอบแล้ววะ!
ร่างโปร่งเม้มริมฝีปากแน่น เหตุการณ์ที่ไม่อยากจะจำดันลอยเข้ามาในหัว...
.
.
.
ร่างโปร่งกระวนกระวายต่อสายประสานงานให้วุ่นไปหมด อีกสามนาทีจะเริ่มงาน.. แต่เพชรหายไป..
" เจ้าพวกบ้า!! ตามหาให้ทั่วสิ!! โรงแรมมันก็มีอยู่แค่นี้!! ตามหาให้หมดถ้าลากคอไอ่บ้านั้นกลับมาไม่ได้ไม่ต้องกลับมาให้ฉันเห็นหน้าซักคน!!! "
ประกาศกร้าวจนเส้นเลือดขึ้น โกรธจนตัวสั่น ไอ่บ้าอ๊คแทคยอน!!
ถ้าไอ่บ้านั้นขโมยเพชรหายไปจริงๆละก็..
แย่แน่ๆ มินจุนกัดริมฝีปากตัวเองด้วยความกังวล เดินเข้าไปในห้องที่มีตู้กระจกใส ในนั้นมันควรจะมีเพชรวางอยู่
ดวงตาเรียวหรี่ลงเมื่อสังเกตเห็นกระดาษใบเล็กวางอยู่ข้างในตู้ใส มือเรียวรีบคว้าออกมาดู
'ตามหาเค้าให้เจอนะที่รัก...'
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครเป็นคนเขียน มือบางขยำกระดาษในมือจนยับยู่ยี่ กัดฟันกรอดด้วยความโมโห...
ตามหาเค้าให้เจอนะที่รัก.. งั้นหรอ.. ได้..
ร่างโปร่งสาวเท้าออกจากห้องด้วยความไว ในใจคิดแค่จากลากหัวไอ่จอมโจรกะล่อนมาเข้าตารางด้วยน้ำมือตัวเองให้ได้
ไอ่พวกลูกน้องก็แม่ง! ไม่ได้เรื่อง!
มินจุนกระชากประตูห้องออกด้วยความโมโห แต่ยังไม่ทันได้ก้าวออกจากห้องไปก็ต้องชะงักฝีเท้าตัวเองเอาไว้ เพราะ..
" โอ๊ะ.. เก่งจัง ตามหาผมเจอด้วย.. "
อะ..ไอ่บ้า..นี่.. มาดักรออย่างงั้นหรอ..
แบบนี้มัน...
หยามกันเกินไปแล้ว!!!
"ว่าไงที่รัก..."
มินจุนมองใบหน้ายียวนกวนประสาทของคนที่ยืนกอดอกพิงกำแพงอยู่ตรงหน้า แทคยอนยกยิ้มมุมปากอย่างกวนๆ
มือหนาที่สวมถุงมือสีดำยกขึ้นมาแตะปลายคิ้วเป็นเชิงล้อเลียน มินจุนกวาดสายตามองร่างที่อยู่ในชุดดำดูรัดกุมตรงหน้า
ด้วยอารมณ์โมโหที่พุ่งปรี้ด ดวงตาเรียวจ้องเขม็งไปที่กระเป๋าสะพายของคนตัวสูง มั่นใจว่าเพชรต้องอยู่ในนั้นแน่
" ใครที่รักนาย ส่งเพชรมาให้ฉัน "
มินจุนว่าก่อนจะขยับตัวเข้าหา แทคยอนเองก็ไม่ขยับตัวหลบ ยืนอยู่นิ่งๆเป็นเชิงท้าทาย
" นายทำแบบนี้ต้องการอะไร "
ถามด้วยความหงุดหงิด เพราะพอจะเอื้อมคว้ากระเป๋า คนตัวสูงก็ขยับหลบ แถมยังยื่นหน้าเข้ามาใกล้อีก!
" นานๆเราจะได้เจอกันทีน่า...ไม่คิดถึงกันบ้างหรือไง "
เสียงทุ้มว่า พร้อมกับทำหน้าอ้อน จนมินจุนอยากจะถีบให้ติดกำแพง
" ถ้าจุดประสงค์นายมีแค่นี้ก็กลับไปซะ "
ดวงตาเรียวกลับมานิ่งสงบ แทคยอนยักไหล่เมื่อได้ยินประโยคเป็นเชิงไล่กลายๆ
พลิกตัวหันหลังกลับทั้งๆที่รู้ว่าไม่ควรหันหลังให้คนตรงหน้า สัมผัสเย็นของโลหะที่จ่ออยู่บนเอวทำให้เขาชะงัก
แรงดึงรั้งจากกระเป๋าทำให้มือหนาต้องยกขึ้นมาจับสายสะพายไว้แน่น
" อย่าหันหลังให้ศัตรู... " มินจุนแค่นหัวเราะในลำคอ
" คุณไม่ใช่ศัตรูซะหน่อย.. " แทคยอนตอบเสียงเรียบ แทคยอนหันหลังกลับมาเผชิญหน้ากับคนตรงหน้า
ไม่วายขยับตัวเจ้าหาปลายกระบอกปืน...
มินจุนจ้องร่างสูงไม่วางตา ซึ่งแทคยอนเองก็จ้องกลับมาเหมือนกัน
" ยิงสิ "
" ยิงแน่ "
คนตัวเล็กกว่าสวนกลับไปทันทีพร้อมกับออกแรงกระชากกระเป๋ามาถือไว้ในมือ แทคยอนยิ้มกริ่ม
ขยับเข้าหาปลายกระบอกปืนจนมินจุนต้องใช้กระเป๋าดันรักษาระยะห่างเอาไว้
" ถอยออกไป ไม่งั้นยิงจริงๆด้วย "
" ก็แค่แวะมาบอกรัก...ไม่เห็นต้องไล่กันเลย..."
ร่างโปร่งนิ่งค้างไปเมื่อได้สบสายตากับดวงตาคมกริบที่จ้องมองลงมา
" คิดถึงนะมินจุนอ่า... "
เสียงกระซิบสุดท้ายดังขึ้นข้างใบหู พร้อมกับกระเป๋าที่อยู่ในมือก็โดนดึงกลับไปแบบไม่รูัตัว พอดึงสติกลับมาได้ก็อยากจะร้องออกมาดังๆ!
ไอ้บ้าแทคยอน!!! ไอ้...
ดวงตาเรียวเหลือบไปเห็นกระดาษแผ่นเล็กปลิวตกอยู่บนพื้น ยกมือขึ้นเสยผมถอนหายใจอย่างอารมณ์เสีย
แต่ก็เดินไปหยิบขึ้นมา
'ไว้เจอกันใหม่นะครับที่รัก'
.
.
.
มินจุนสะบัดศีรษะไปมาเร็วๆเพื่อไล่ความคิดบ้าๆออกจากสมอง ฮึ่ย! ตามมาหลอกหลอนไม่จบไม่สิ้น !
โว้ยยยย กระเป๋าตัง!!
มินจุนทิ้งตังลงนอนแผ่บนโซฟาตัวแคบ ขยี้ผมตัวเองจนฟูฟ่อง คิดไม่ออกว่าจะต้องไปเอาคืนยังไง
ก๊อกๆ
เสียงเคาะประตูทำให้มินจุนต้องดึงตัวเองบุกขึ้นมานั่ง เหลือบมองนาฬิกาบนฝาผนังเล็กน้อย ก่อจะเดินออกไปเปิด เวลานี้ไท่ค่อยมีใครมาหรอกนอกจาก...
" ฮัลโหล สวัสดีเพื่อนรักกกกก "
เสียงแหลมเล็กเอ่ยทักมาก่อนที่ประตูตะเปิดออกหมดซะอีก มินจุนถอนหายใจก่อนจะเดินนำเข้ามาในห้องก่อน โจควอนปิดประตูพร้อมกับล็อคห้องให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินมาทรุดตัวลงนั่งบนโซฟา ที่ประจำ
" เป็นอะไร "
โจควอนเอ่ยทักเมื่อเห็นท่าทางหมดอาลัยตายอยากของมินจุน จมูกโด่งพ่นลมหายใจพรืด นั่นยิ่งทำให้โจควอนต้องขยับเข้าไปใกล้เพื่อนตัวเองมากยิ่งขึ้น มีเรื่องอะไรที่ทำให้มินจุนเป็นกังวลขนาดนั้น
" กระเป๋าตังหาย " เพื่อนตัวเล็กอ้าปากค้าง ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ
" แค่กระเป๋าตังหายนี่เครียดขนาดนั้นเลยเรอะ เอาน่า...เงินน่ะ หาใหม่ได้ "
" ไม่ได้เครียดเรื่องเงิน! ในกระเป๋าตังนั่นมีการ์ดใส่ข้อมูลของจุนโฮอยู่! "
" ห๊าาาาาา!! ไม่จริงงง! "
ควอนอ้าปากค้างตาโต ก่อนจะค่อยๆทรุดตัวลงข้างๆ
" จริง.. "
มินจุนตอบกลับเสียงอ่อย..
ให้ตายเถอะ เรื่องสำคัญแบบนี้พลาดได้ไงนะ
" หายที่ไหน.. "
หน้าตาตื่นๆของควอนแสดงออกอย่างชัดเจน ก็ความปลอดภัยของจุนโฮสำคัญที่สุด หายไปแบบนี้แย่แน่ๆไม่ว่ามันจะหายไปอยู่ที่ไหนก็เถอะ
" หายไปตอนเจอ.. แทคยอน "
" เจอแทคยอน!!!! "
คราวนี้โตควอนหน้าเสียเข้าไปมากกว่าเดิม หายที่ไหนไม่หาย หายไปตอนเจอศัตรูที่เอาจุนโฮเข้าไปฝากไว้ซะอีก ตายแน่ๆ ถ้าแทคยอนรู้ว่าจุนโฮเป็นสายลับละก็... ไม่อยากจะเดาเลย
ควอนนั่งนิ่งพลางคิดหาทางแก้ไขยังไงก็ต้องเอากระเป๋าตังกลับมาให้ได้ ก่อนที่ความจะแตก
มินจุนเองก็หันมาสงบสติอารมณ์เลิกโวยวาย พลางคิดว่าตัวเองจะติดต่อกับวายร้ายคนนี้ได้ยังไง เบอร์อะไรก็ไม่มีซักอย่าง
แต่เอ้ะ.. ตอนนี้เหมือนว่าจะเคย..
.
.
.
" มีคนติดอยู่ข้างในครับ!! "
ประโยคแรกที่ได้ยินเมื่อก้าวลงจากรถมายังที่เกิดเหตุวาวเพลิง มินจุนเบิกตากว้างวิ่งนำเข้าไปในตัวตึกทันที
พร้อมกับลูกน้องคนอื่นๆที่พากันวิ่งตามเข้ามา
มือบางยกขึ้นปิดจมูก ควันไฟโขมงทำให้มินจุนรู้สึกแสบตา แต่ดวงตาเรียวก็พยายามสอดส่ายหาทั้งคนที่ติดอยู่ข้างใน
รวมถึงตัวต้นเหตุการวางเพลิงครั้งนี้
หรี่ตาลงพยายามมองหาตัวต้นเหตุ พร้อมกับคอยเปิดทางให้คนที่วิ่งกรูกันหนีตาย
มินจุนสาวเท้าขึ้นไปยังชั้นสิบสองที่ได้รับรายงานมาว่าเป็นชั้นที่มีการวางเพลิง
แค่ขึ้นมาให้ถึงชั้นนี้ก็แทบตายแล้ว...
มือเรียวพังประตูออกทุกห้องเพื่อตรวจหาไอ่จอมวายร้ายทั้งๆที่ควันสีขาวลอยบังทัศนวิสัยจนแทบไม่เห็นอะไร
เคร้งงง~!
เสียงเหมือนมีใครกำลังโยนอะไรบางอย่างทำให้มินจุนรีบวิ่งไปที่ต้นเสียงตรงหัวบันไดทางขึ้น
ฮวางชานซอง.. ไอ่วายร้ายหน้าหล่อที่กำลังยืนแตะถังน้ำมันลงไปชั้นข้างล่างอย่างไม่ใยดี...
ดวงตาเรียวยาวดูน่ากลัวหันมามอง ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงทักทายแล้วแตะถังน้ำมันถังสุดท้ายลงชั้นล่างไป
มินจุนจ้องเขม็งก้าวพรวดเข้าไปหา แต่ชานซองกลับหันหลังกลับวิ่งขึ้นไปอีกชั้น ขาเรียววิ่งตามอย่างไม่ยอมแพ้
ก้าวข้ามบันไดทีละหลายๆขั้น เสียงฝีเท้าดังอยู่ไม่ไกล ถึงจะหอบเหนื่อนสำลักควันขนาดไหนแต่ขาทั้งสองข้างก็ไม่ยอมหยุด
วิ่งมาจนถึงชั้นบนสุด มือบางผลักประตูดาดฟ้าออกอย่างแรง พลางกวาดสายตามองหาตัววายร้ายที่เขาวิ่งตาม แต่กลับไม่เจอ...
หายไปไหนวะ!!!
มินจุนกำมือแน่นหอบหนักๆ พยายามสูดอากาศเข้าปอดถี่ๆ
" ไง "
น้ำเสียงกวนๆที่คุ้นเคยทำเอามินจุนตัวแข็งท่ือ... ไอ้บ้านี่อีกแล้ว...
แล้วชานซองไปไหน.. หายตัวได้รึไงว้ะ! ก็เห็นยังวิ่งมาทางนี้อยู่เลย!!
เลือกที่จะหันซ้ายหันขวามองหาคนที่วิ่งตามมาเมื่อกี้
" เห้~ คุณ.. ผมยืนอยู่ตรงหน้าคุณนะ.. มองหาอะไร "
คนตัวเล็กกว่าหันมาค้อนมองด้วยอารมณ์โกรธ เจอไอ่พวกบ้านี่ทีไรเป็นต้องพินาศทุกที!
แทคยอนโบกมือไปมาเรียกร้องความสนใจ หลายครั้งที่ยืนคุยกันโต้งๆแบบนี้ แต่ก็จับไม่ได้ซักที..
เพราะอะไรละ.. ดูหุ่นพวกมันซะก่อน..
" ไม่สงสารคนที่เขาไม่รู้เรื่องด้วยรึไง.. ทำแบบนี้ "
ถามออกไปนิ่งๆ จ้องหน้าแทคยอนอย่างเอาเรื่อง แต่มีหรือที่อีกคนจะไม่จ้องกลับ มองลึกเข้าไปในเรียวตาสวยพลางยกยิ้มขึ้นมา
" คุณคงรู้จักคำว่าหน้าที่นะมินจุน "
ตอบลอยหน้าลอยตาก่อนจะยื่นเศษกระดาษบางอย่างให้
" อะไร.. " มินจุนมองคนตรงหน้าแบบกล้าๆกลัว
" ผมต้องไปแล้ว ครั้งนี้เรามีเวลาดด้วยกันน้อยจัง.. "
แทคยอนยื่นกระดาษแผ่นเล็กเข้าหามากกว่าเดิม
" ผมอยากเจอคุณให้นานกว่านี้แล้วก็ไม่ใช่ในสภานการณ์ที่ผมเป็นผู้ร้ายแบบนี้ด้วย.. "
ดวงตาคมมองคนตรงหน้าด้วยอารมณ์เว้าวอนแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน.. มือบางยังระแวงที่จะยื่นมือออกไปรับ
" แทคยอน! ต้องไปแล้ว! "
เสียงใครซักคนที่จำรางๆได้ว่าเป็นชานซองตะโกนขึ้นมาจากในตึก คนตัวศูงขมวดคิ้วเข้าหากันพลางถอนหายใจทิ้งเฮือกใหญ่และก้มลงวางเศษกระดาษแผ่นเล็กไว้ตรงหน้า
" วางไว้ตรงนี้นะ.. "
มินจุนอยากจะรั้งตัวแทคยอนเอาไว้ แล้วใส่กุญแจมือส่งเข้าตารางซะให้เรื่องทุกอย่างจบไปซักที เหนื่อยที่จะต้องวิ่งตาม แต่ก็ทำไม่ได้ แทคยอนกับชานซองเก่งเกินไป..
นึกโมโหตัวเองอยู่บ่อยๆที่มีโอกาสยืนต่อหน้าอยู่แทบทุกครั้งแต่ก็ทำอะไรไม่ได้
ร่างโปร่งก้มลงมองกระดาษแผ่นเล็กที่วางอยู่บนพื้น ก่อนที่ลมจะพัดมันปลิวหายไป มินจุนก้มลงหยิบมันขึ้นมา ตัวเลขสิบหลักทำให้ติ้วเรียวค่อยๆเลิกขึ้น
"ทิ้งเบอร์ไว้ให้เนี่ยนะ..."
.
.
.
มินจุนกระเด้งตัวขึ้นจากโซฟา รีบวิ่งเข้าไปค้นในห้องนอนของตัวเองทันที ตอนนั้นเก็บไว้ไหนวะ คงไม่ได้ทิ้งไปแล้วหรอกนะ...
โจควอนวิ่งตามมินจุนเข้ามาในห้องอย่างงงๆ เห็นเพื่อนตัวเองกำลังค้นนู่นค้นนี้ก็ได้แต่เกาหัวตัวเอง ก่อนจะเอ่ยปากถาม
" หาอะไรน่ะ ช่วยหามั้ย "
" กระดาษแผ่นเล็กๆ "
มินจุนตอบสั้นๆ มือเรียวคว่ำถังขยะที่มีแต่เศษกระดาษเต็มไปหมดลงบนพื้นห้อง
แต่เรื่องมันก็นานมาแล้ว...ไม่น่าจะอยู่ในถังขยะนะ
โจควอนมองเพื่อนสนิทที่ยืนพึมพำอยู่คนเดียวโดยที่ไม่รู้จะช่วยยังไง เพราะเขาไม่รู้ว่ากระดาษแผ่นนั้นหน้าตาเป็นไง เขียนอะไรเอาไว้
" ทำไมไม่ลองค้นกระเป๋า ตู้ ลิ้นชักอะไรแบบนี้ดูล่ะ "
เอ่ยเสนอไปก่อนจะเดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงนุ่ม มินจุนขมวดคิ้วแน่น
" ฉันไม่น่าจะเก็บไว้ในกระเป๋านะ "
ปากพูดแบบนั้นแต่มือก็เริ่มค้นตามที่โจควอนบอก กระเป๋ากับตู้ไม่มี ถ้าในลิ้นชักไม่มีก็คง...
เจอแล้ว!
มินจุนคว้ากระดาษแผ่นเล็กมาถือไว้ในมือ
ต้องโทรจริงๆสินะ..
" เห้ยย เบอร์โทรเลยหรอ! "
" มันไม่ใช่เบอร์หมอนั้นจริงๆหรอก คงไม่โง่ทิ้งเบอร์ไว้ให้สาวถึงรังตัวเองหรอก แต่ยังไงก็ต้องลองโทร.. "
--------------
" ช้าหน่อยได่ไหม.."
มือเรียวเอื้อมไปกระตุกชายเสื้อของชานซองเบาๆ กลีบปากอิ่มสีหวานแดงช้ำจากรสจูบเล็กน้อยเม้มเข้าหากันเพราะความกลัว..
พามาที่ไหนก็ไม่รู้ เดินก็ลำบากแล้ว.. ยังจะเดินเร็วอีกเดินตามไม่ทัน..
ความจริงคนตัวสูงไม่ได้เดินเร็วหรอก แต่เพราะสะโพกของคนตัวเล็กที่ระบบไปหมดจนแทบจะอยากลงไปคลานกับพื้น
" เดินช้าชะมัด.. "
บ่นเสียงนิ่งออกมาพลางชะลอความเร็วลงเล็กน้อย.. เล็กน้อยเท่านั้นแหละ.. จุนโฮก็ยังเดินตามไม่ทันอยู่ดี
ผู้คนมากมายขวักไขว่ในตึกร้างแห่งหนึ่ง ตึกร้างที่ไม่ควรจะมีคนอยู่.. แต่ตอนนี้กลับมีชายฉกรรจ์ เดินชนไหล่กันไปมาทำเอาจุนโฮหน้านิ่ว
บ่อน.. บ่อนขนาดใหญ่..
ไม่รู้ว่าพี่มินจุนรู้รึยังว่ามีบ่อนใหญ่ขนาดนี้อยู่ใจกลางเมือง
ดวงตาเรียวชาวสอดส่องไปทั่วพลางเก็บรายละเอียด ถึงแม้ว่าสติที่มีค่อนข้างจะเลือนลางเต็มที
บึก..!
จุนโฮเซไปตามแรงกระแทกเพราะจำนวนคน เซไปหาแผ่นหลังแกร่งของคนตัวโต
" ก็รู้ว่าไม่ไหวก็ยังจะตามมาอีก "
ร่างสูงหันมาดุเสียงเข้ม ก่อนจะสาวเท้ายาวๆหนี จุนโฮเบิกตากว้างรีบฝืนตัวเองเดินตามไป ก่อนที่จะโดนคนพวกนี้เหยียบตาย..
ไอ่คนใจร้ายเอ้ย!!
ถ้าให้อยู่บ้านเฉยๆมีหวังงานไม่คืบหน้าแน่ ถึงต้องยอมลากสังขารแย่ๆของตัวเองตามมา
ชานซองอยู่ในสูทดำ เสยผมเปิดหน้าผากขึ้นจนหมด สายตาคมดุดันกวาดตาไปทั่ว หลายคนที่ต้องยอมหลบให้อย่างเกรงๆ และหลายคนยกมือไหว้..
ชานซองในลุคแบบนี้ น่ากลัวไม่น้อยเลย..
แผ่นหลังกว้างห่างออกไปเรื่อยๆทำให้จุนโฮต้องรีบก้าวตามเร็วๆ แต่ก็ยังตามไม่ทันอยู่ดี
" ชานซองรอด้วย "
เสียงหวานแหบตะโกนเรียก แต่เหมือนว่าคนตัวสูงจะไม่ได้ยิน เสียงในบ่อนนี่ก็ดังอย่างกับอะไรดี จุนโฮพยายามสอดแทรกตัวผ่านผู้คนเพื่อที่จะตามร่างสูงให้ทัน
เดินนำลิ่วโดยไม่หันมามองจุนโฮเลยแม้แต่น้อย ร่างเล็กกัดฟันแน่น แทบจะทนกันความเจ็บระบมของสะโพกไม่ไหวอยู่แล้วนะ...
จุนโฮจ้องแผ่นหลังกว้างเขม็ง กลัวจะหลง... ถ้าหลงเขาต้องตายแน่ๆ
ด้วยความเร่งรีบและไม่ได้มองทาง ทำให้จุนโฮเดินชนกับชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ ร่างเล็กเซออกนอกเส้นทางเผลอละสายตาออกจากแผ่นหลังกว้าง แค่พริบตาเดียวชานซองก็หายไปซะแล้ว
จุนโฮก้มศีรษะลงเป็นเชิงขอโทษ โชคดีที่ชายคนนั้นไม่เอาเรื่อง ขาเรียวก้าวเดินต่อไปทางที่เขาเห็นแผ่นหลังกว้างเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะหยุดยืนอยู่ตรงทางแยก หันซ้ายหันขวาด้วยความสับสน ไปทางไหนดีล่ะทีนี้...
เสียงสีและเสียงดังอึกทึกทำให้ร่างเล็กน้องเดินหลบมุม พยายามยืดตัวมองหาชานซอง
ไม่น่าจะหายาก.. สูงเด่นแบบนั้น..
แต่ยิ่งหาเท่าไรก็หาไม่เจอ เสียงโหวกเหวกโวยวายฟังไม่ได้ศัพท์ทำเอาจุนโฮต้องก้มหน้าตั้งสติ สายตาพร่ามัวไปหมด
" นายจะใจร้ายเกินไปแล้ว.. "
จู่ๆก็คิดถึงมินจุนเอาดื้อๆ ไม่รู้ว่างานนี้มันจะยากไปรึป่าว รู้สึกว่าตัวเองไม่แข้มแข็งพอไม่เหมาะกับงานแบบนี้เลย..
จะหาที่อยู่นั้นได้ยังไง..
พ่นลมหายใจทิ้งเฮือกใหญ่
ภาพของพี่น้องที่ล้มตายไปต่อหน้าต่อตาแวบเข้ามาในสมอง เสียงร้องโอดครวญน่ากลัวนั้นยังจำมันได้ดี
ไม่ได้สิจุนโฮ.. อุส่ามาได้ถึงตรงนี้แล้ว..
คนตัวเล็กสลัดความคิดออกไปให้หมด ก่อนจะเริ่มใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์
ตัดสินใจเดินเข้าในทางเดิน ยาวลึกเข้าไป..
ที่นี่อาจจะเกี่ยวกับคนที่ชื่อปาร์คจินยองก็ได้..
เสียงดังของผู้คนเริ่มเบาลงเรื่อยๆ จุนโฮกวาดสายตามองรอบๆด้วยความสงสัย มันเป็นทางเดินไปห้องอะไรวะ...
แผ่นหลังบางแนบสนิทกับกำแพง ค่อยๆเดินเข้าไปลึกขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาเรียวหรี่ลงเมื่อเห็นประตูห้องห้องหนึ่ง
มันจะมีอะไรเกี่ยวข้องจริงหรอ..
เสียงดวงดูแล้วกันจุนโฮ อยากน้อยอาจจะได้รู้อะไรเพิ่มขึ้นบ้าง...
พยายามเดินให้เสียงฝีเท้ากระทบพื้นให้น้อยที่สุดจนกระทั่งมาหยุดอยู่หน้าประตูสีแดงเข้ม..
มือเรียวค่อยๆยื่นออกไปแตะกับลูกบิดประตูที่เย็นเฉียบ..
ปัง!!!
ไม่ทันที่จะได้เปิดประตูออก ก็ต้องสะดุ้งเฮือกกับเสียงปืนที่ดังมาจากทางเดินเมื่อกี้..
ดวงตาเรียวเล็กพยายามหรี่มองกลับไป แสงไฟไหววูปจากปลายทางทำให้จุนโฮกลืนน้ำลายลงคอช้าๆ ดูเหมือนจะเกิดเรื่องซะแล้ว
จุนโฮหันกลับมามองลูกบิดตรงหน้า เผลอเลียริมฝีปากบางอย่างลืมตัว
ปัง!!
เสียงกระสุนปืนนัดที่สองดังขึ้น เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาทำให้จุนโฮผละมือออกพลางขยับตัวหนี ผู้คนพากันวิ่งหนีเข้ามาตามทางเดิน
คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน ก้อนเนื้อในอกเต้นเร็วขึ้นกว่าเดิม
คนตัวเล็กตัดสินใจที่จะเดินย้อนกลับไป พลางหลบแรงกระแทกของคนที่วิ่งสวนเข้ามา สาวเท้าเร็วขึ้นเมื่อได้ยินโวยวายและเสียงปืนดึงขึ้นอีกนัด
" ฉันบอกไว้ว่ายังไง!!! "
เสียงตะหวาดดังไปทั่ว เลือดแดงสดนองเจิงเต็มพื้นจุนโฮเบิกตากล้างด้วยความตกใจ ชานซองยืนอยู่กลางซากศพจำนวนหนึ่ง...
ชายชุดดำคนหนึ่งถูกมือหนากระชากเข้ามาหาตัว ปลายกระบอกปืนกระบอกเดิมที่เคยเห็นในวันนั้นจ่อเข้าที่ขมับ
" พวกแกมันไม่ได้เรื่อง.. น่าสมเพศสิ้นดี.. "
ร่างสูงกดเสียงต่ำกระซิบขู่จนจุนโฮเผลอถอยหนี จากประชากรที่ล้นหลามก่อนหน้าตอนนี้เหลือเพียงไม่ถึงครั้ง บางคนก็วิ่งหนีออกไป บางคนก็หลบอยู่ใต้โต๊ะ..
ปัง!!!
อีกครั้งที่คนตัวเล็กสะดุ้งจนตัวโยน หันไปมองที่อื่นแปปเดียวเอง..
ร่างไร้วิญญาณกระแทกลงกับพื้น กลิ่นคาวเลือดพุ่งกระจายไปทั่ว บรรยากาศเหมือนทุกอย่างถูกหยุดเวลา..
ชายชุดดำที่เหลือบืนนิ่งก้มหน้าไมมีแม้แต่เสียงของลมหายใจ..
ชานซองยืนนิ่งจ้องมองลูกน้องที่เหลือ ก่อนจะสบัดปลายกระบอกปืนใส่คนตรงหน้าจนหน้าหันเรียงคน
" จะไปทำอะไรก็ทำ.. "
หันตัวหนีเหน็บกระบอกปืนเข้ากับหลังกางเกง เดินข้ามกองเลือดทิ้งตัวลงกับโซฟาสีแดงสดตรงมุมด้านใน คนตัวเล็กเหลือบมองไปรอบๆชายชุดดำเดินออกจากห้องไปโดยไม่ลืมที่จะหิ้วร่างไร้ลมหายใจออกไปด้วย ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติราวกลับว่านี่เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นเป็นประจำ
บ้าไปแล้ว...
จุนโฮค่อยๆขยับตัวบ้าง สมองขาวโพลนตื้อตันไปหมด เมื่อกี้มันอะไร...
รู้แต่ว่าตอนนี้ไม่กล้าเข้าใกล้ใครซักคน.. โดยเฉพาะชานซอง.. ถ้าแทคยอนไม่ห้ามให้ไม่ให้ฆ่าเขาเองละก็.. คงมีสภาพไม่ต่างจากเมื่อกี้แน่ๆ..
" อ้ะ.. "
ในขณะที่กำลังเดินออกมาจากปากทางเดินก็มีมือหยาบแตะเข้าที่เอวบาง ร่างเล็กขยับตัวหนีอัตโนมัติหันไปจ้องต้นเหตุแทบจะทันที
" พึ่งมาหรอ.. ไม่เคยเห็นหน้าเลย "
เสียงทักทายเอ่ยขึ้นท่ามกลางผู้คนที่เริ่มขวักไขว่เหมือนเดิม จุนโฮพยักหน้าให้น้อยๆก่อนจะเอี้ยวตัวหนีออก
" เดี๋ยวสิ คุยกันซักหน่อยจะเป็นไร.. " ข้อมือบางถูกรั้งไว้จากคนเดิม
" ปล่อย.. " แกล้งพูดเสียงเข้ม ทั้งๆที่ในใจกลัวแทบบ้า..
ชายแปลกหน้ายิ้มกริ่มดึงกระชากคนตัวเล็กเข้าหาตัว มือหยาบแตะสัมผัสแก้มนุ่มแผ่วเบา จุนโฮเบิกตากว้างปัดมือออกอย่างขยะแขยง
" ปล่อย! "
พยายามสะบัดตัวออกจากอีกคนแรงๆ แต่เหมือนว่าแรงของเขาจะสู้คนตรงหน้าไม่ได้เลย
" จุ๊ๆ...อย่าดุนักเลย "
ชายแปลกหน้าส่ายศีรษะยิ้มๆเมื่อเห็นดวงตาเรียวเริ่มแข็งกร้าว
มือบางบิดข้อมือแรงๆก่อนจะออกแรงผลักคนตรงหน้าออก ชายแปลกหน้าซวนเซเล็กน้อย อาจจะเป็นเพราะกำลังเมา จุนโฮรีบแกะมือปลาหมึกที่เกี่ยวเอวเขาอยู่ออก รีบพลิกตัวออกเดินทันที
" อ้ะ! "
ร่างเล็กร้องเสียงหลงเมื่อวงแขนของไอ้คนเดิมเกี่ยวรัดเอวเขาไว้แน่นจากทางด้านหลัง
" ปล่อยนะเว้ย! "
ขาเรียวถูกยกลอยขึ้นจากพื้น ทำให้จุนโฮใจหายวูบ
" บอกให้ปล่อย!! "
จุนโฮดิ้นพล่าน ตะโกนเสียงดังเพื่อเรียกร้องความสนใจจากคนอื่นๆ แต่ไม่มีใครหันมาสนใจเลยซักนิด จุนโฮจิกเล็บลงบนท่อนแขนที่โอบรัดเอวของเขาอยู่แรงๆ
" ฤทธิ์เยอะนักนะ เดี๋ยวจะทำให้ร้องไม่ออกเลย "
จุนโฮตัวสั่นเทาอย่างช่วยไม่ได้ แผ่นหลังบางถูกดันให้ติดเสา จุนโฮพยายามดันหน้าของไอ้หื่นโรคจิตก่อนจะยกเท้าขึ้นยันเข้าไปที่หน้าท้อง
จุนโฮหอบหนัก ดวงตาเรียวจ้องเขม็งไปยังร่างสูงที่ยืนอยู่ไม่ห่าง ฮวางชานซอง...อยู่ตรงนั้นมาตั้งแต่ต้น...เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างแต่กลับไม่มาช่วยเขาซักนิด!
ดวงตาเรียวยาวจ้องมาที่คนตัวเล็กนิ่งๆ มือหยาบคู่นั้นกำลังไล้สะโพกอิ่มขึ้นไปหาเอวบางเรื่อยๆ
" ไอ่..บ้าเอ้ย.. ปล่อยนะ!! "
วันนี้มันวันอะไรกันแน่! ที่ทำไปทั้งหมดเหมือนจะไม่ได้อะไรกลับมาซักอย่าง! เหนื่อยร่างแทบแหลกยังจะต้องมาปัดไอ่ขี้เมานี่ออกจากตัวอีกหรอ!
แล้วไอ่บ้าชานซองนั้นนั่งตาบอดอยู่รึไง!! ฮึ๊ยยย!!
จุนโฮดิ้นไปมาในวงแขน แรงค่อยๆอ่อนลงเหลือน้อยลทุกที เอาตัวรอดจากคนเมาไม่มีสติยังไม่ได้เลยจุนโฮ.. ทั้งๆที่เคยฝึกมาแล้ว.. ทุเรศชะมัด..
ร่างบางจ้องไปที่ใบหน้าคม เว้าวอนเป็นครั้งสุดท้าย..
อย่าปล่อยไว้แบบนี้ชานซอง.. ทำอะไรซักอย่างสิ..
สติทั้งหมดค่อยๆเลือนลาง ชานซองแค่นยิ้มก่อนจะเบือนหน้าหนีช้าๆ
นายมันใจร้ายที่สุดเลยชานซอง..
คนตัวเล็กหันมาใช้แรงเฮือกสุดท้ายที่มี ผลักอกคนตรงหน้าออกแต่ก็ไม่เป็นผล ปากหนาตรงหน้าตรงเข้ามาซุกไซร้เข้ากับซอกคอหอม..
" อ้ะ..!! ปล่อยนะ!! "
เบิกตากว้างด้วยความตกใจ พยายามหาทางดิ้นหนี แต่เหมือนจะไม่มีทางไหนช่วยให้ออกจากเหตุการณ์บ้าๆนี้ได้เลย...
หยดน้ำใสๆค่อยๆเอ่อล้นออกมา จุนโฮสะกดเสียงร้องของตัวเองไว้ตัวสั่นเพราะความกลัว
ชายตรงหน้าไล้จูบขึ้นมาจนถึงสันกรามเล็กจนกระทั่ง..
" แกควรมีมารยาทและให้เกียติ์ที่นี้มากกว่านี้นะ ไอ่พวกเศษสวะ.. "
แรงกระชากขากใครซักคนทำให้จุนโฮหลุดออกจากอ้อมแขนนั้น แขนเล็กยกขึ้นมาปาดน้ำตาออกลวกๆก่อนจะเงยหน้ามองบุคคลปริศนา..
นั้นมัน..
ผู้ชายคนนั้น.. คนที่เข้ามาหาชานซองตอนเย็น..
------------
อัพช้าใช่ไหม? 5555
อยากทวง,เร่งไรท์ ติดแท็ก #theKiller ในทวิตแล้วด่ามาได้ไม่ยั้งเลย คอยอ่านทุกข้อความทุกข้อเสนอ 55
หรือไม่สะใจ @dbdqb , @MmolradaA ฟอลมาทวงกันได้
ถ้าจะอ่านแล้วไม่เม้นก็ ติดแท๊ก #TheKiller ในทวิต
แล้วคอมเม้นสั้นๆมาหน่อยก็ได้นะคะคนเขียนจะได้ชื่นใจอุส่าจัดเต็ม ^^
ฮอลลล ยาวไหม 555555
กว่าจะจบตอนนี้ได้ ถึงเราจะอัพฟิคช้าแต่ก็อัดแน่นไปด้วยตวาวยาวน้า (แถ) ถถถถถถ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น