ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC - channuneo] The Killer

    ลำดับตอนที่ #3 : The Killer : Mission 2

    • อัปเดตล่าสุด 3 มิ.ย. 57


    MISSION 2


     

     





     

         มินจุนกดวางสายจากชายหนุ่มรุ่นน้องที่เขาตัดสินใจส่งเข้าไปเป็นสายสืบในแก๊งค์วายร้ายชื่อดังด้วยความหนักใจ
    เขาไม่อยากจะส่งจุนโฮเข้าไปเสี่ยงอันตรายขนาดนั้น แต่ถ้าไม่เข้าถ้ำเสือก็ไม่รู้จะจับเสือได้ยังไง 
    ดวงตาเรียวตวัดมองชายหนุ่มเจ้าปัญหาที่ทำให้เขายังไม่ได้กลับบ้านไปพักผ่อนซักที มินจุนกำโทรศัพท์ในมือแน่นพลางถอนหายใจออกมาดังๆ 
     
    "คุณครับ ให้ข้อมูลกับผมด้วยเถอะครับ นะครับ" 
    ประโยคเดิมซ้ำๆหลุดออกจากปากของนักข่าวช่างตื้อ ถ้าเป็นข่าวเรื่องคดีอื่น ยังไงเขาก็ยอมบอกอยู่ แต่เป็นคดีนี้...
     
    "ผมบอกแล้วไงว่าบอกไม่ได้จริงๆ" 
    มินจุนเอ่ยปฏิเสธไปเป็นรอบที่ล้านของวัน ตาก็ต้องคอยมองไม่ให้คนคนนี้เดินไปไหน เพราะกลัวจะไปแอบดูเอกสาร 
    ไม่รู้ว่าตอนที่เขาเดินไปรับโทรศัพท์จะไปแอบดูอะไรบ้างรึเปล่า 
     
    "นี่คุณ ผมว่าคุณกลับไปพักผ่อนเถอะ ผมบอกข้อมูลไม่ได้จริงๆ" 
    " แต่ว่า.. " 
    ก่อนที่นักข่าวคนนั้นจะพูดอะไรขึ้นมาอีก มินจุนก็เอ่ยขัดขึ้นมาด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อน
     
    "วันเกิดเหตุผมไม่ได้อยู่ที่นี่ ผมให้ข้อมูลอะไรกับคุณไม่ได้จริงๆ ผมขอตัวนะครับ "
    มินจุนหยิบเอกสารทั้งหมดขึ้นมาไว้ในมือก่อนจะแทรกตัวออกไป
     
    อูยองมองตามหลังไปด้วยอารมณ์เสียดายที่อ้อนขอข้อมูลไม่สำเร็จ โกดังร้างเปื้อนเลือดตอนนี้เต็มไปด้วยตำรวจ 
    และสื่อมวลชนอีกแค่สองสามคนเท่านั้น 
    อุส่ารีบมาทำข่าวก่อนแท้ๆ นึกว่าจะได้อะไรกลับไปบ้าง.. 
     
    นักข่าวไฟแรงประจำปูซานเบะปากให้กับแผ่นหลังของมินจุนที่เดินหายลับผ่านผู้ชายร่างโปร่งไป
     
     
    " อุส่ารีบมา กลัวก็กลัว.. " 
    บ่นอุบอิบคนเดียวในลำคอพลางพาตัวเองเดินหนีออกมาข้างนอกบ้าง 
    ตายไป 20 กว่าคน.. ไม่ใช่เรื่องดีเลยนะเนี่ย..
     
     
     
     
    พรึ่บ..
     
    เงาดำวิ่งพาดผ่านด้านหลังไป อูยองหมุนตัวหันกลับไปมองแทบจะทันที แต่ก็พบกับความว่างเปล่า...
    หันซ้ายหันขวาก็ไม่เห็นใคร เมื่อกี้มัน... 
     
    กลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ เหมือนอากาศรอบตัวเย็นขึ้นมาดื้อๆ
     
    " ใครน่ะ.. " 
    กลั้นใจถาม ก่อนจะค่อยๆเดินเข้าไปด้านข้างของโกดัง 
     
    ไม่ใช่ผีหรอกน่า.. พึ่งตายเอง.. ไม่หรอกมั้ง..
    ปลอบตัวเองไปเดินกล้าๆกลัวๆเข้าไปด้วย สายตาสอดส่องเข้าไปในมุมมืดช้าๆ ด้วยนิสัยของนักข่าวอูยองจดจ้องอยู่กับภาพตรงหน้านิ่ง 
    พยายามหาสิ่งผิดปกติ
     
    " ที่นี่ไม่มีอะไรหรอก.. คุณกลับไปซะ.. " 
     
     
    " เห้ยย..! "
    เสียงนุ่มทุ้มที่ดังขึ้นทำอูยองสะดุ้งตัวโยน หันกลับมาที่ต้นเสียงแทบไม่ทัน
    ชายหนุ่มร่างสูงโปร่ง ตาโตมีเสน่ห์ สีหน้าไร้อารมณ์ใดใด มองจ้องมาที่เขาด้วยท่าทีนิ่งๆ
     
    "คุณ... อะ..อ่าวว คนนี่.. "
    อูยองพยายามมองสำรวจว่าคนตรงหน้านี้เป็นใคร สามารถที่จะให้ข้อมูลกับเขาได้รึเปล่า 
     
    "ผมบอกให้คุณกลับไปซะ" 
    เสียงทุ้มเอ่ยบอกอีกครั้ง ท่าทางนิ่งเฉยนั่นยิ่งกระตุกต่อมความเป็นนักข่าวของอูยองขึ้นมา 
     
    "คุณเป็นใคร เป็นคนจริงๆใช่มั้ย" 
    ร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงข้ามไม่ตอบ แต่กลับใช้สายตาดุๆจ้องกลับมาแทนอูยองเลยต้องหลบตาหนี
     
     
    ดุทำไมว่ะ..
     
    แต่หันหน้าหนีได้ไม่เท่าไรก็ต้องหันมาจ้องหน้าใบหน้าคมอีกครั้ง พลางพยายามเก็บรายละเอียดให้ได้มากที่สุด..
    คนคนนี้... เห็นตั้งแต่ตอนมาแล้วนี่นา เดินไปเดินมา แต่ก็ไม่เห็นจะพูดจากับใครหรืออะไร.. 
     
    " คุณต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้แน่.. "
    สัญชาตญาณนักข่าวกระตุ้นให้อูยองเริ่มหาคำตอบอีกครั้ง ชายหนุ่มผิวขาวตรงหน้าส่ายหัวน้อยๆก่อนจะทำท่าเดินหนีออกไป 
    จนอูยองต้องรีบคว้าชายเสื้อร่างสูงเอาไว้ 
     
    " อะไร.. " 
    " คุณพอจะให้ข้อมูลอะไรกับผมบ้างได้ไหม "
    " ผมไม่มีอะไรที่จะให้คุณ " 
    เสียงนุ่มทุ้มตอบกลับไร้อารมณ์ หากแต่แววตาทรงเสน่ห์นั่นทำให้คนตัวเล็กรู้สึกแปลกๆ 
     
    " ไม่จริง.. คุณต้องรู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้แน่ๆ ไม่งั้นคุณจะไล่ผมกลับทำไม... " 
     
     
     
     
     
    -------------
     
     
     
     
     
    เสียงเคาะประตูเรียกให้ชานซองค่อยๆลืมตาขึ้น แสงแดดที่ส่องเข้ามาทำให้ดวงตาคมต้องหรี่ลงเล็กน้อย ร่างสูงยันตัวลุกขึ้นนั่ง 
    มือหนายกขึ้นเสยผมลวกๆ คิ้วขมวดมุ่นเมื่อเสียงเคาะประตูยังดังไม่เลิก 
     
    ดวงตาคมปรายมองคนข้างกายที่นอนหลับสนิท ก่อนจะลุกขึ้นเดินโทงๆออกไปเปิดประตู 
     
    " มึงไม่คิดจะใส่กางเกงก่อนเหรอวะ " 
    แทคยอนผงะไปเล็กน้อยเมื่อเห็นสภาพของคนเป็นน้อง ที่ไม่มีเสื้อผ้าอยู่บนตัวซักชิ้น ไหนจะแผลนั้นอีก
     
    " มีอะไร " เสียงทุ้มเอ่ยถาม 
    สีหน้าของแทคยอนที่เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทำให้ชานซองเลือกที่จะเดินเข้าไปคว้าเอากางเกงมาใส่ 
     
    " เมื่อคืนหมอนั่นขโมยโทรศัพท์มึง "
    ชานซองหมุนตัวเดินกลับเข้าไปในห้องทันทีที่ได้ยินประโยคนั้นหลุดออกจากปากแทคยอน แต่ติดที่ว่าคนเป็นพี่กระชากตัวกลับมาซะก่อน 
     
    " กูไม่รู้ว่าเอาไปคุยอะไร ระวังเอาไว้หน่อยก็แล้วกัน " 
    ชานหยิบโทรศัพท์ในกางเกงส่งให้คนเป็นพี่ เพื่อตรวจสอบเบอร์โทรออก 
     
    "ฝากด้วยแล้วกัน ที่เหลือเดี๋ยวจัดการเอง" 
     
    เสียงปิดประตูดังปังทำให้แทคยอนได้แต่ส่ายศีรษะให้กับความใจร้อนของชายหนุ่มรุ่นน้อง มือหนาหมุนโทรศัพท์ในมือช้าๆ 
    นิ้วเรียวเลื่อนหาเบอร์ที่ใช้โทรออก ก็เห็นว่าจุนโฮลบไปแล้ว แทคยอนยกยิ้มมุมปากราวกับเจอของเล่นที่ถูกใจ 
     
    ลองกันซักตั้งนะอีจุนโฮ
     
     
     
    .
    .
    .
     
     
     
     
    จุนโฮที่กำลังนอนหลับถูกมือหนากระชากท่อนแขนให้ลุกขึ้นมาอย่างแรง ความง่วงงุนทำให้จุนโฮไม่สามารถที่จะปะติดปะต่อเรื่องราวได้ 
     
    " บอกแล้วใช่มั้ยว่าอย่าทำตัวเป็นหนอนบ่อนไส้... "
    แรงบีบที่ต้นแขนทำให้จุนโฮต้องเบ้ปากด้วยความเจ็บปวด ดวงตาเรียวเอ่อคลอไปด้วยน้ำใสเมื่อความเจ็บจากช่วงล่างเริ่มกลับมารุมเร้าอีกครั้ง 
     
    " จ..เจ็บ..! ชานซอง.. ป…ปล่อย "
    " ปล่อยเหรออีจุนโฮ ยังจะขอให้ปล่อยอีกหรือไง"
    เสียงทุ้มกดต่ำดวงตาแข็งกร้าวจนน่ากลัว ออกแรงบีบต้นแขนของคนตัวเล็กลากลงจากเตียงอย่างแรง ความเจ็บระบมทำให้ขาเรียวสั่นระริก 
     
    " เจ็บ!!! ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ! " 
    จุนโฮสะบัดแขนแรงๆหวังจะให้หลุดจากการเกาะกุม แต่มือหนากลับบีบแน่นราวกับคีมเหล็ก 
    แถมยังกระชากเข้าหาตัวจนขาเกือบลอยขึ้นจากพื้น  
     
    " อย่ามาทำเป็นเจ็บหน่อยเลย ถ้าเจ็บจะมีแรงลุกขึ้นไปโทรศัพท์แบบนั้นหรือไง...ว่าไงจุนโฮ เงียบทำไมล่ะ!? " 
    มือบางยกขึ้นมาพยุงตัวเองกับไหล่หนา พยายามเอาปลายเท้าแตะยันพื้น ก่อนจะโวยวายเสียงดังเพราะจู่ๆก็ถูกกระชากขึ้นมา
    ทั้งๆที่ได้นอนไปไม่กี่ชั่วโมง
     
    " เจ็บ..!! ชานซองง! " 
    ตะหวาดออกไปเพราะความรู้สึกร้าวที่ช่วงล่างจนหน้านิ่ว สะกดอารมณ์โมโหเอาไว้ให้มากที่สุด แต่ก็ไม่วายเสยตามองชานซองเขม็ง
    ปกติแล้วจุนโฮเป็นคนใจร้อน อารมณ์เสียง่าย ซื่อๆแสดงออกทุกอย่างออกมาตรงๆ มาเจอนิสัยแย่แบบนี้จะโวยวายก็คงไม่แปลก 
     
    ให้ทนก้มหน้ายอมรับอย่างเดียวคงไม่ได้ อีกอย่างพอจะรู้ทางแล้วว่า ยังไงชานซองก็คงไม่ฆ่าเขาแน่ๆ.. 
    โวยวายบ้างซะหน่อยคงไม่เป็นอะไร
     
    เพราะมันเจ็บมากรู้ไหมเจ้าบ้า! 
    เหมือนร่างจะแหลกไปทั้งตัว ทำได้แค่ขยำเสื้อของคนตรงหน้าระบายความเจ็บ
     
    " บอกว่าเจ็บไงเล่า! " 
    เสียงเล็กโวยวายเมื่อคนตัวสูงออกแรงลากอีกครั้ง มือหนาดันประตูห้องน้ำให้เปิดออกอย่างแรง จัดการเหวี่ยงคนตัวเล็กเข้าไปทันที 
    ร่างของจุนโฮกระแทกกับพื้นเสียงดังผลั่ก น้ำตาแทบร่วงเพราะความเจ็บระบมของสะโพกที่กระแทกพื้นเต็มๆ ยังไม่ทันจะได้ด่าออกไปซักคำ ฃมือหนาก็ตรงเข้ามาบีบสันกรามของจุนโฮเอาไว้แน่น
     
    "เอาไปโทรหาใคร!" 
    เสียงทุ้มตวาดดังก้องไปทั่วห้องน้ำ จุนโฮสะดุ้งเฮือกเพราะเสียงทุ้มที่ตวาดดังนั่น 
    ถึงจะออกปากโวยวายสุดท้ายก็ต้องปิดปากเงียบหนีสายตาน่ากลัวของชานซะทุกครั้งไป
     
    " ปล่อยย.. เจ็บนะ " 
    พยายามเบือนหน้าหนี แต่ก็ทำไม่ได้
    ชานซองสะบัดข้อมือตัวเองทิ้ง เป็นผลให้ใบหน้าหวานถูกเหวี่ยงไปตามแรงก่อนจะเดินออกจากห้องน้ำ ทิ้งคนตัวเล็กเอาไว้
     
     
     
    ปัง!! 
    เสียงประตูปิดลงดังจนจุนโฮตัวสั่น นึกหวาดหวั่นขึ้นมาในใจ
     
    " ถ้าไม่มีคำตอบให้ฉัน ก็อยู่ในนั้นไปนะ.. " 
    ชานซองกดเสียงขู่ พลางล็อคประตูห้องน้ำเอาไว้จากด้านนอก 
     
    " นายจะบ้าหรอ!! เปิดเดี๋ยวนี้นะชานซอง!! " 
    คนตัวเล็กยังคงเสียงแหบๆอยู่เล็กน้อย มือบางพยายามบิดลูกบิดประตูออก
     
    "ชานซอง!!! ไอ้บ้าชานซอง!!! เปิดประตู!!!"
    ปากก็ร้องโวยวาย มือก็ทุบ ขาก็อยากจะยกขึ้นมาถีบ ติดก็แต่สังขารไม่อำนวย ตะโกนจนเสียงแห้งก็ไม่มีเสียงตอบกลับมาซักนิด
     
    ชานซองยืนกอดอกทำหน้านิ่ง ชายตามองประตูห้องน้ำที่ดังออกมาเพราะแรงทุบเป็นระยะๆ 
    คนตัวเล็กโวยวายได้ไม่เท่าไรก็ได้ยินเสียงหอบดังออกมาเบาๆ ปากหยักแค่นยิ้มให้กับอีกคน ตัวก็เล็กยังจะอุส่าโวยวายไม่เข้าเรื่อง
    แรกๆมาก็ดุเหมือนลูกแมวอยู่หรอก.. เจอกวนประสาทเข้าไปซะหน่อยหัวเสียโวยวายซะงั้น
     
    " ชานซองง.. "
    จุนโฮออกปากเรียกเสียงเบา ทำเอาคนตัวสูงนึกโมโห ก็แค่บอกมาว่าเอามือถือไปโทรหาใครก็สิ้นเรื่อง
     
    ดวงตาคมตวัดมองประตูห้องน้ำ ยืนนิ่งรอเสียงโวยวาย แต่กลับมีเสียงทุบหนักๆดังออกมาแทน คนตัวสูงแค่นหัวเราะในลำคอ 
    ก่อนจะเดินออกจากห้อง ปล่อยเอาไว้ซักพักแล้วกัน...
     
     
     
    ชานซองก้าวยาวๆไปทางห้องของแทคยอน ประตูที่เปิดแง้มเอาไว้ทำให้เขาถือวิสาสะเปิดเข้าไป 
     
    " นั่นอะไร " เสียงทุ้มดังถามขึ้นทำเอาแทคยอนสะดุ้งเฮือก
    " ไอ้บ้า! ตกใจหมด "
    " มันคืออะไร " 
    ถามออกมาอีกครั้งเมื่อครั้งแรกไม่ได้คำตอบ แทคยอนยืดตัวตรงเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ คิ้วหนาขมวดแน่น 
     
    " ได้พิกัดจากเครื่องมึงที่ไอ่ลูกแมวนั้นเอาไปโทรแล้ว " 
    เลือกที่จะบอกผลของมันแทนการอธิบาย แสงกระพริบสีแดงที่ค่อยๆขยับอยู่บนหน้าจอขนาดใหญ่ทำให้แทคยอนยิ้มออกมาช้าๆ
    ก่อนจะคว้ากุญแจรถทำท่าสาวเท้าออกห้องไป
     
    " ไปไหนน่ะ? "
    " ก่อนที่เหยื่อจะรู้ตัว.. จะลองเป็น.. สายลับดูซะหน่อย "
    ชานซองมองตาแทคยอนนิ่งๆ ความหมายของการกระทำนั้นเดาไม่ยาก แทคยอนไม่ปล่อยเอาไว้แน่ไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นใคร
     
    " อืม ระวังตัวแล้วกัน.. "
    " หึ.. ระดับนี้ " แทคยอนแค้นยิ้มออกมาก่อนจะตบบ่าหนาสองสามที
     
    " บอกให้กูระวังตัว ว่าแต่มึงเหอะ.. แผลที่ท้องนั่นยังไง แสบไม่ใช่เล่นนะนั่น.. " 
    แทคยอนแกล้งต่อยเข้าที่สีข้าง พลางจ้องตาน้องชายอย่างรู้ทัน ก็เมื่อคืนเล่นซะต้องเดินไปปิดกล้องวงจรที่เตียงเลยทีเดียว 
     
    กล้องวงจรปิดมีอยู่ทุกทีในบ้าน ไว้ระวังตัวให้กันและกัน.. คราวที่แล้วโดนบุกบ้านตอนกลางคืน ชานซองแทบปางตายเพราะไม่ทันระวังตัว ด้วยเหตุนี้แทคยอนเลยโวยวายบ้านแทบแตก สั่งให้ลูกน้องติดกล้องวงจรไว้ทั่วบ้าน
     
     
     
    " นิดหน่อยไม่ตายหรอก "
     
    " เออนิดหน่อย ระวังจะแทงมึงตายขึ้นมาซักวัน ไม่ใช่ว่าแม่งมันยอมให้มึงเอาแล้วจะกลัวมึงนะ.. "
    เสียงทุ้มพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง จ้องหน้าน้องชายนิ่ง ถึงชานซองจะไม่ใช่น้องชายแท้ๆ แต่ก็รักมันซะยิ่งกว่าพี่น้องร่วมสายเลือด..
     
    " เออน่า ไม่ต้องกลัวหรอก ไม่โง่ขนาดนั้น " 
    ชานซองตอบปัดพลางหย่อนตัวลงบนโซฟาริมห้อง ยก psp ริมโต๊ะของแทคยอนขึ้นมากดเล่น 
    เห็นแบบนี้แทคยอนเลยได้แต่ส่ายหัวเบาๆก่อนจะเดินออกจากห้องไป
     
    " ฮยอง.. " 
    แต่ไม่ทันเดินพ้นประตู เสียงทุ่มนุ่มก็ร้องเรียกเอาไว้ซะก่อน คิ้วหนาขมวดเข้าหากันช้าๆ ปกติชานซองเรียกเขาว่าฮยองที่ไหน ไม่มึงกูก็เรียกชื่อห้วนๆ
     
    เรียกฮยองเมื่อไรนี่มัน.. 
     
    " ดูแลตัวเองด้วยนะ... "
     
     
    อ้อนทุกที..
     
     
     
     
     
     
    --------------------------
     
     
     
     
    เสียงถอนหายใจดังขึ้นอีกครั้งในรอบวัน ดวงตาเรียวเหลือบไปมองด้านหลัง พอเห็นว่านักข่าวจอมตื้อไม่ได้ตามมาก็สบายใจขึ้นกว่าเดิม 
    มินจุนยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดู ก่อนจะนวดท้ายทอยตัวเองเบาๆเพื่อคลายความเมื่อยล้าระหว่างเดินกลับไปที่รถ 
    สงสัยต้องนอนพักซักหน่อยแล้วมั้ง
     
    กว่าจะขับรถกลับมาถึงคอนโดตัวเองได้ก็เกือบจะไถลเข้าข้างทางไปหลายรอบ โชคดีที่กลับมาถึงคอนโดด้วยสภาพครบสามสิบสอง 
    ร่างโปร่งทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่ม ดวงตาเรียวเหลือบมองเอกสารที่วางอยู่บนโต๊ะข้างๆเตียงแล้วก็อดถอนหายใจออกมาไม่ได้ งานก็เยอะ 
    ลูกน้องก็ยังต้องไปเสี่ยงชีวิตเพราะเขาเป็นคนสั่งอีก… ไหนจะพวกที่ไปบุกโกดังแล้วเสียชีวิตอีกล่ะ…
     
    มินจุนได้แต่ยกมือขึ้นกุมขมับด้วยความปวดหัว ถอนหายใจออกมาอีกครั้ง ค่อยๆปิดเปลือกตาลง 
    ร่างกายที่เหนื่อยล้ามาทั้งวันทำให้มินจุนจมเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างรวดเร็ว
     
     
     
    -----------------------
     
     
     
     
    "มึงบอกมาให้มันดีๆได้มั้ย สรุปทางไหน ซ้ายหรือขวา" 
    เสียงทุ้มโวยวายเมื่อชานซองบอกตำแหน่งเจ้าของโทรศัพท์ไม่ได้อย่างที่เขาต้องการ 
     
    (ขวา) ชานซองบอกมาสั้นๆอีกครั้ง 
     
    "ขวามึงหรือขวากูล่ะโว้ย" 
    แทคยอนเดินดุ่มๆออกมายืนอยู่หน้าคอนโดหรู มองซ้ายมองขวาอย่างหงุดหงิด 
     
    (ขวามึงนั่นแหละ เดินไป)
    แทคยอนเม้มปากแน่นหันไปตามทิศที่คนน้องบอกก็เจอแต่ตึกสูง
     
    " อืม.. กูว่าไม่ใช่ละ  มันใช่ไหมเนี่ย "
    เสียงทุ้มโวยวายเบาๆ
     
    (ทำไมจะไม่ใช่ว้ะ แม่งอาจจะอยู่ในคอนโดก็ได้)
    ชานซองโวยวายกลับเพราะเห็นสัญญาณกระพริบสีแดงเลี้ยวเข้าไปด้านขวาจริงๆ
     
    " ไอ่เหี้ยย นี่แม่งไม่มีใครอยู่เลย มึงดูยังไงของมึงเนี่ย "
    แทคยอนเอี้ยวตัวหันกลับมาที่ถนน เพราะเมื่อกี้ยังเห็นหลังไวๆที่อุส่าเดินตามมาได้ซักระยะ
    ร่างสูงพลิกตัวหันหลังกลับ ด้วยความเร่งรีบทำให้ร่างของเขาชนปะทะกับใครบางคน 
     
     
    ตุ้บบ!
     
    "เฮ้ยๆ"
    อาจจะเป็นเพราะร่างของเขาใหญ่กว่า ทำให้อีกฝ่ายถึงกับโอนเอนทำท่าเหมือนจะล้ม เดือดร้อนแทคยอนต้องจับแขนเอาไว้
     
    " ขอโทษครับ พอดีผมไม่ได้ดูทาง... "
    ประโยคแสนสุภาพขาดหายไปเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายสะบัดมือเขาที่จับอยู่ทิ้งพร้อมกับวิ่งไปพยายามจะคว้ากระดาษที่ปลิวไปตกอยู่บนถนน 
    แต่โชคกลับไม่เข้าข้าง รถคันหนึ่งขับผ่านไปด้วยความเร็วสูง แค่พริบตาเดียวกระดาษแผ่นนั้นก็ปลิวหายไป 
    แทคยอนมองแผ่นหลังของร่างโปร่งที่ดูคุ้นตาด้วยความสงสัย
     
    " นี่คุณรู้มั้ยว่ากระดาษแผ่นนั้นมันสำคัญกับผมมากขนาดไหน "
    ร่างนั้นหันกลับมาโวยวายใส่เขาทันที แทคยอนยืนนิ่งเมื่อได้สบตากับอีกฝ่าย แทบอยากจะเก็บคำขอโทษเมื่อกี้ลงคอ 
      
     
    " อ๊ค แทคยอน "
    ดวงตาเรียวเบิกกว้างเมื่อเห็นคู่กรณีแบบเต็มๆตา นิ้วเรียวยกขึ้นชี้หน้าคนตัวสูงช้าๆ แทคยอนยกยิ้มมุมปาก ขยับเข้าไปใกล้ 
    ยกมือขึ้นจับปลายนิ้วเรียวช้าๆ
     
    " ดีใจนะเนี่ยที่คุณยังจำชื่อผมได้ด้วย คุณคิม มินจุน " 
    มินจุนถลึงตาใส่สะบัดมือแรงๆเพื่อให้หลุดจากการเกาะกุม ดวงตาเรียวเหลือบมองมืออีกข้างของคนตัวสูงกว่าที่กำลังเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า
     
    " ไม่ได้อยากจะจำซักนิด " เสียงนุ่มบอกพร้อมกับแค่นหัวเราะในลำคอ
     
     
    อ๊ค แทคยอน หนึ่งในแก๊งวายร้ายที่เป็นเป้าหมายของเขา ที่เจอกันทีไรเป็นอันต้องมีเรื่องทุกที มินจุนพยายามจะจับแทคยอนอยู่หลายครั้ง แต่ก็พลาดท่าเพราะหาหลักฐานมาจับแบบคาหนังคาเขาไม่ได้ซักที ทั้งๆที่รู้อยู่เต็มอกว่าวายร้ายตรงหน้าก่อเหตุสร้างเรื่องอยู่ตลอด
     
    " พูดแบบนี้ผมเสียใจนะ "
    มินจุนมองใบหน้าที่แสดงถึงความเสียใจอย่างสุดซึ้งของแทคยอน คิ้วกระตุกยิกๆด้วยความหมั่นไส้ ร่างโปร่งยกมือขึ้นเสยผมด้วยความหงุดหงิด ไหนจะเอกสารปลิวหาย ไหนจะต้องมาเจอกับไอ้คนกวนประสาทนี่อีก!
     
    มินจุนตัดสินใจเดินเลี่ยงไปอีกทาง มั่นใจว่าแทคยอนต้องเดินตามมาแน่นอน แล้วก็เป็นจริงอย่างที่คิด
     
    " นี่คุณ…ไม่เจอกันตั้งนาน ไม่มีอะไรจะคุยกันบ้างเหรอ "
    อาจจะเป็นเพราะเขากับแทคยอนไม่เคยเจอกันในสถานการณ์ปกติแบบนี้ซักเท่าไหร่ ทำให้มินจุนไม่เคยรู้เลยว่า
    อ๊ค แทคยอน มือซ้ายผู้ชาญฉลาดจะกวนมากขนาดนี้
     
    " ไม่มีอะไรจะต้องคุย! แล้วนี่จะเดินตามมาทำไม ไม่มี'งาน'ทำหรือยังไง "
    มินจุนกระแทกเสียงคำว่างานใส่หน้าคนตัวสูงชัดๆ คิ้วเรียวเลิกขึ้นสูงอย่างกวนๆ
     
    ก่อนที่แทคยอนจะได้เอ่ยตอบอะไรกลับไป เสียงโทรศัพท์ของร่างสูงก็ดังขัดขึ้นซะก่อน แทคยอนส่งรอยยิ้มที่ดูไม่น่าไว้วางใจมาให้ 
    ก่อนจะโค้งตัวลงเก้าสิบองศาอย่างกวนๆ
     
    " ไว้เจอกันใหม่นะครับคุณมินจุน คงจะ…เร็วๆนี้ "
     
     
     
     
    -------------------------------
     
     
     
     
     
     
    คนตัวเล็กนั่งกอดเข่านิ่งอยู่ในห้องน้ำ ดูเหมือนว่าข้างนอกฝนกำลังตกเพราะเสียงครืนๆของฟ้าในตอนนี้ 
    จุนโฮพยายามไม่สนใจเสียงฝนที่กำลังกระหน่ำลงมา ชานซองหายไปนานพอควรเลยพยายามคิดหาวิธีสืบที่อยู่ปาร์คจินยอง 
    แต่เจ้าบ้าชานซองนั่นมัน.. หาทางจัดการยากเลยทีเดียว ไม่รู้ว่าจะมาไม้ไหน อีกอย่างหื่นกามชะมัด..  
     
     
     
     
     พรึ๊บบ..!!
     
    " อ๋าาา…! นายจะทำอะไร! ปล่อยนะะ! "
    กำลังนั่งด่าคนตัวสูงในใจอยู่คนเดียวเบาๆ ประตูก็ถูกกระชากออกพร้อมกับความรู้สึกเบาหวิวที่ถูกมือหนารั้งขึ้นมา
     
    ชานซองคิ้วขมวดเข้าหากันเน่น เพราะพึ่งรู้ตัวว่าถูกคนตัวเล็กปั่นหัว.. 
    แทคยอนบอกว่าเบอร์ที่หาพิกัดได้เป็นเบอร์ใครก็ไม่รู้ เพราะจุนโฮโทรเข้าเครื่องใครซักคนที่ต่อสายตรงเข้าหาปลายสายที่แท้จริงอีกที
     
    ชานซองกัดฟันกรอดด้วยความโมโห ดวงตาคมตวัดมองคนตัวเล็กกว่าที่พยายามยื้อตัวเองต้านแรงของเขาเอาไว้ 
    ร่างสูงออกแรงกระชากทีเดียวร่างบางก็ปลิวตามแรงดึงออกมา 
     
     
    " อ้ะ!! เจ็บ.. ชานซองง..  " 
    มือหนาตรงเข้าจับต้นแขนทั้งสองข้างของร่างบางเอาไว้แน่นออกแรงดันจะแผ่นหลังเล็กกระแทกกับกำแผงดังอัก 
    ก้มหน้าลงไปเกือบชิด จุนโฮนิ่วหน้าหนีด้วยความเจ็บ
     
    " อย่าคิดว่าตัวเองฉลาดจนคนอื่นเขารู้ไม่ทัน "
     
    เสียงทุ้มกดต่ำ ดวงตาคมฉายประกายกร้าวจนจุนโฮนึกหวั่นอยู่ในใจ ดวงตาเรียวกรอกไปมาหาทางเอาตัวรอด 
    อาศัยจังหวะที่ชานซองผ่อนแรงลงสะบัดตัวหนีจากการเกาะกุมคว้าเอาโคมไฟหัวเตียงมาถือเอาไว้ในมือ
    คว้ามาโดยไม่รู้ตัว สายตาดุดันจ้องเขม็งทำให้ต้องหาอาวุธมาป้องกัน ถึงจะคว้าได้แค่โคมไฟก็เถอะ..
     
    " ก็อย่าคิดว่าฉันจะยอมนายทุกเรื่อง "
    พูดออกไปแบบนั้น ถึงจะไม่มั่นใจในการใช้อาวุธของตัวเองก็เถอะ ยิ่งเป็นแค่โคมไฟด้วยแล้ว... 
     
    ชานซองแค่นหัวเราะในลำคอ  ก้าวพรวดเดียวก็เข้ามาประชิดตัว ด้วยความตกใจที่คนตัวสูงเข้ามาใกล้ 
    มือบางยกมือขึ้นมาหวังจะกันตัวเองออกจากคนตรงหน้า แต่ไม่รู้ว่าเพราะความลืมตัวหรือตั้งใจกันแน่
    เหล็กหนาท้ายโคมไฟตัวเล็กสบัดออกจากมือ กระแทกเข้ากับหัวคิ้วของคนตรงหน้าอย่างแรง
     
     
    " อ่าา.. นายนี่มัน.. " 
    ชานซองหลับตาแน่นสะกดความเจ็บเอาไว้ เลือดสีแดงสดค่อยๆไหลลงมาจากหัวคิ้วช้าๆ
     
    จุนโฮเบิกตาโพลงเมื่อเห็นเลือดที่ไหลออกมา แต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยอาวุธในมือทิ้ง ดวงตาคมตวัดมองด้วยความโกรธ
    มือหนาคว้าจับข้อมือบาง บีบแรงๆจนจุนโฮต้องปล่อยโคมไฟตกลงบนพื้น 
     
    คว้าเอวบางขึ้นพาดบ่า จุนโฮดิ้นพล่านทำชานซองต้องล็อคตัวคนตัวเล็กเอาไว้ให้แน่นกว่าเดิม 
    กำปั้นเล็กแต่หนักทุบอั้กลงบนแผ่นหลังกว้างแรงๆ คนตัวสูงกัดฟันกรอด รวบขาคนตัวเล็กเอาไว้แน่น 
    ขยับดันให้ศีรษะมนทิ้งตัวลงต่ำมากกว่าเดิม จนเกือบจะร่วงลงจากไหล่ 
     
     
    " จุนโฮ!!!!!!!! " 
    ชานซองตะคอกใส่คนตัวเล็กเสียงดังลั่นด้วยอารมณ์โมโหเพราะคนตัวเล็กดิ้นไม่หยุด จุนโฮสะดุ้งเฮือกหยุดดิ้นทันที
     
     
    เสียงดัง น่ากลัว...
     
    ขยับตัวดิ้นมากก็ไม่ได้เพราะหลักที่ไม่ค่อยมั่นคงบนไหล่หนา บวกกับอาการเจ็บสะโพกที่ยังระบมไม่หาย 
    จุนโฮได้แต่กัดริมฝีปากตัวเองแน่น เสียงสายฝนที่กระหน่ำเทลงมาดังชัดขึ้นเมื่อร่างสูงเปิดประตูหน้าบ้านออก 
     
     
    "จ...จะทำอะไรน่ะ ปล่อยนะ!" 
    ถึงจะเจ็บแต่ก็ต้องดิ้นแล้วล่ะงานนี้ 
     
    ก็ขายาวๆเล่นก้าวออกมายืนกลางสายฝนพร้อมทั้งแบกเขาอยู่บนบ่า ทำเอาเปียกโชกตั้งแต่หัวจรดเท้า 
    เสื้อตัวโคร่งที่หยิบของชานซองออกมาใส่เมื่อคืนก็ใช่ว่าจะหนา เปียกทีแนบเนื้อจนเห็นไปถึงไหนต่อไหน 
     
    " ปล่อย?...โอเค ปล่อย " 
    ชานซองจับคนตัวเล็กให้ลอยเคว้งอยู่เหนือพื้นเล็กน้อยด้วยการรั้งใต้ราวแขนก่อนจะปล่อยลงอย่างไม่ใยดี 
    ถึงจะถูกปล่อยจากที่สูงไม่มากนักแต่นั้นก็ทำให้จุนโฮเซล้มไถลไปกับพื้นเอาได้ง่ายๆ 
     
    สะโพกบางกระแทกพื้นทำเอาความเจ็บแล่นพริ้ว หลุดร้องโอ้ยออกมาเบาๆ 
     
    " นายทำอะไร.. "
    ถึงจะไม่ได้คำตอบแต่ก็ยังคงถามออกไปแบบนั้น ร่างเล็กพยายามพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นมา 
    มือบางปาดเม็ดฝนออกจากใบหน้าพยายามที่จะลืมตาเงยหน้าเถียงร่างสูงที่ยืนนิ่งอยู่ให้ได้ 
     
    " ฉันต่างหากที่ต้องถามว่านายจะทำอะไร คิดจะทำอะไรอยู่จุนโฮ... " 
    มือหนาคว้าจับต้นแขนเรียว บีบแน่นด้วยความโมโห ปั่นหัวเขาจนหัวหมุนขนาดนี้... 
     
    " ฉันทำอะไร ไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้นแหละ... "
    คนตัวเล็กกว่าเถียงกลับ ค้อนสายตามองคนตัวโตนิ่ง ชานซองกระตุกยิ้มมุมปากออกแรงผลักเพียงนิดจุนโฮก็เซล้มลงไปบนพื้นอีกครั้ง 
     
    " ไม่ได้ทำ? เอาโทรศัพท์ฉันไปโทรหาใครก็ไม่รู้ แถมยังลบเบอร์โทรออกแบบนั้น นายจะให้ฉันคิดว่ายังไง? "
    ชานซองตะคอกกลับเสียงดัง 
     
    แต่คนตัวเล็กกลับนั่งนิ่ง ปล่อยให้สายฝนไหลผ่านตัวเองไป ปากอิ่มเม้มเข้าหากันช้าๆ ก่อนจะพยายามตั้งสติ 
    อากาศเย็นเฉียบในตอนนี้ทำให้จุนโฮได้สติกลับมาบ้าง จากที่เมื่อกี้ลืมตัวโวยวายไปยกใหญ่ ถอนหายใจออกมาเบาๆ
     
    จุนโฮ... เลิกทำให้ชานซองอารมณ์เสียซักที ไม่อย่างงั้นคงโดนหมอนี่ฆ่าเอาซักวันแน่
    ต้องยอมอ้อนให้ตายใจก่อนหรือเปล่า... ถึงจะคิดได้แบบนี้ก็เถอะ แต่การกระทำของชานซองมันไม่น่าให้อภัยนี่น่า...
    เงยหน้ามองคนตัวโตก็เห็นแต่สายตานิ่งมองกลับมากับเลือดสีแดงจางๆจากหัวคิ้ว
     
     
    " ฉันควรทำยังไงกับนายดีจุนโฮ... " 
    ทั้งสองตกอยู่ในความเงียบ มีเพียงเสียงฝนที่ตกลงมาอย่างหนักเท่านั้น จุนโฮห่อไหล่ด้วยความหนาวสั่นก้มหน้าหนีความผิดของตัวเอง 
    ก่อนจะสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงปิดประตูบ้าน 
     
    ดวงตาเรียวเบิกกว้างลืมความเจ็บของตัวเองไปทันที จุนโฮวิ่งไปเปิดประตูบ้านด้วยความตกใจ 
     
     
     
     
    ล็อค...
    ไอ้บ้าฮวางชานซอง!!! 
     
    " ชานซอง!!!! "
    กำปั้นเล็กทุบลงบนบานประตูอย่างแรง ปากก็ตะโกนเรียกชื่อไปด้วย เส้นผมสีอ่อนเปียกลู่แนบใบหน้าเรียว ริมฝีปากอิ่มสีซีดด้วยความหนาว 
     
    หันไปมองรอบๆบ้านก็ไม่เห็นอะไรนอกจากประตูเหล็กหนาสูงลิบ ถ้าปีนออกไปด้วยสภาพแบบนี้ตอนนี้คงได้ตายเอาง่ายๆแน่ๆ 
    แล้วอีกอย่าง.. จะหนีไปไหนไม่ได้.. คิดได้แบบนั้นคนตัวเล็กเลยเลือกที่จะพยุงตัวเองไปเดินรอบๆบ้าน 
    เพราะต่อให้ตะโกนเรียกคนในบ้านให้ตายยังไงก็ไม่ยอมเปิดประตูให้แน่
     
    แต่ทุกทางเข้าออกกลับปิดตายทุกทาง... ไอ่บ้าเอ้ยย!! ชอบมากรึไงเรื่องทรมานคนอื่นเนี่ย!!
     
    มือทั้งสองข้างถูกยกขึ้นมาถูต้นแขนแรงๆเพื่อบรรเทาความหนาว ไหล่บางสั่นเล็กน้อย เดินลากสังขารตัวเองมานั่งพิงประตูหน้าบ้าน 
    ขาทั้งสองข้างยกขึ้นชันเข่า ซบใบหน้าลงบนท่อนแขน 
     
    ฮวางชานซอง นอกจากจะบ้ากามแล้วยังชอบทรมานคนอื่น! ไอ้หื่นเอ้ย!
     
    ด่าไปก็เท่านั้น ยังไงคนโดนด่าก็ไม่ได้ยินอยู่ดี 
     
     
     
    ชานซองหัวเสียขึ้นมาอยู่บนห้อง ตัดสินใจอาบน้ำไล่ความเครียดออกไป 
    เพราะปลายสายจากแทคยอนที่บอกว่าถูกปั่นหัวให้เดินหาใครไม่รู้อยู่นานสองนาน และบังเอิญพบศัตรูคู่แค้นเจ้าเก่าเลยตัดสายไป 
    หัวสมองเริ่มคิดไปต่างๆนาๆ ถึงยังไงตอนนี้ก็ปักใจเชื่อแล้วว่าจุนโฮต้องการหวังผลประโยชน์อะไรซักอย่างจากพวกเขาเป็นแน่
    ถึงจะไม่มีหลักฐานก็เถอะ  
     
    หนำซ้ำปล่อยเอาไว้นอกบ้านแบบนี้ยังไม่ยอมหนีไปไหนอีก... คนจะหนีจริงๆก็หนีได้...
    แบบนี้มันแปลกเกินไป...
     
    เดินลงไปดูจากหน้าต่างก็เห็นจุนโฮนั่งกอดตัวเองพลางซุกหน้าเข้ากับตัว 
     
    เสื้อสีอ่อนตัวโตเปียกลู่แนบตัว.. เพราะความที่มันตัวใหญ่กว่าจุนโฮมากเลยทำให้ไหล่ตกลงมาจนเห็นไหล่มนสวย
    ยิ่งดูยิ่งไม่เห็นพิษสง... แต่ก็ไม่ใช่แบบนั้นเลย
     
     
     
    คนตัวเล็กนั่งหนาวสั่นไปได้ซักพัก ฝนก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดตก ดวงตาเรียวหรี่ลงเล็กน้อยเมื่อเห็นรถสีดำสนิทกำลังขับตรงเข้ามา 
    แล้วยังใกล้เข้ามาเรื่อยๆจนมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา จู่ๆสมองก็ตื้อตันหาทางไปไม่ถูกจุนโฮผุดลุกขึ้นขยับตัวหนีออกจากหน้าประตูบ้าน 
    สัญชาตญาณบอกว่าอยู่ตรงนี้ไม่ปลอดภัยแต่กลับไม่สามารถจะหาที่ซ่อนตัวได้ 
    เพราะม่านฝนทำให้ดวงตาเรียวเล็กเพ่งมองคนแปลกหน้าที่ค่อยๆก้าวลงมาช้าๆพร้อมกับชายหนุ่มร่างกายกำยำอีกสองคนประกบข้าง 
    ร่มคันโตสีดำสนิททำให้จุนโฮสังเกตเห็นใครบางคนได้ไม่ยากนัก ใบหน้าคมคายดูดุดัน..
     
    ประหม่าอย่างบอกไม่ถูก...
     
    จุนโฮพยายามทำตัวให้เล็กที่สุด แต่ยังไงคนคนนั้นก็ต้องมองเห็นเขา
     
     
    ดวงตาดุดันกวาดมาสบกับจุนโฮพอดี ร่างเล็กยืนตัวแข็งทื่อ อะไรบางอย่างในตัวกำลังส่งสัญญาณเตือน
    คิ้วของฝ่ายตรงข้ามที่เริ่มขมวดนิดๆทำให้จุนโฮเสียวสันหลังแปลกๆ เจ้าของใบหน้าดุดันเปลี่ยนเส้นทางจากเดินตรงไปยังประตูบ้าน
    มาเป็นเดินเข้ามาหาจุนโฮช้าๆ 
     
    คนตัวเล็กไม่สามารถควบคุมตัวเองไม่ให้สั่นได้ อาจจะเป็นเพราะความน่าเกรงขามของคนตรงหน้า 
     
     
     
    ปึก..! 
    พึ่งสังเกตว่าตัวเองเดินถอยหลังหนีคนตรงหน้าเรื่อยๆจนไม่ทันรู้ว่าประตูบ้านถูกเปิดออกเมื่อไร แผ่นหลังเล็กสัมผัสเข้ากับอกแกร่งเบาๆ 
    ใบหน้าหวานหันกลับไปมองชานซองที่เดินหน้านิ่งออกมา มือหนาคว้าเอวบางชิดเข้ามาหาตัว จุนโฮขยับตัวเข้าหาร่างสูงอย่างว่าง่าย..
     
    จู่ๆก็รู้สึกว่าชานซองดูปลอดภัยกว่าคนตรงหน้าตั้งเยอะ..
     
     
    " อ้ะ.. "
    แรงฉุดบังคับให้เดินทำจุนโฮสะดุ้งออกมาน้อยๆ ข้อมือถูกกำเอาไว้หลวมๆ ขาเล็กพยายามสาวเท้าตามร่างสูงที่ก้าวฉับๆขึ้นห้องไป 
    ชานซองออกแรงเหวี่ยงเล็กน้อยจุนโฮก็ลงไปนั่งตุ้บลงบนเตียง
     
    " อยู่ในนี้ ห้ามออกไปไหนเด็ดขาด " 
    " ทำไม " เสียงหวานถามออกไป สายตาฉายแววสงสัยเหมือนเด็กๆ 
     
    ชานซองดูเครียดกว่าปกติ.. ไม่สิ.. นี่อาจจะเป็นปกติ.. 
    ไม่รู้จะถอดรหัสความหมายของเหตุการณ์นี้ได้ยังไง คนที่เข้ามาเมื่อกี้ใคร.. 
     
    " ห้ามออกไปก็คือห้ามออกไป อาบน้ำซะให้เรียบร้อย เปียกซะยิ่งกว่าลูกแมว " 
    ชานซองมองจ้องไปที่เนื้อเนียนสีขาวจนคนตัวเล็กต้องปิดปากเงียบ ดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวเองไว้ทั้งตัว 
     
    " หึ.. "
    ปากหยักแค้นยิ้มเมื่อเห็นว่าจุนโฮระแวงการกระทำเขามากแค่ไหน เลยอดไม่ได้ที่จะ.. 
     
    " ถอยออกไปนะชานซอง... "
    มือเล็กกระชับผ้าห่มเข้าหาตัวพอเห็นว่าอีกคนทำท่าจะตรงเข้ามาหา อะไรกัน.. เมื่อกี้ยังทำท่าเครียดๆอยู่เลย.. 
     
    " ต้องทำโทษกันไว้ก่อน.. คนอย่างนายน่ะ.. " 
    " อะ..อื้มม~!! " 
     
    ไม่ทันที่จะได้ระวังอะไรไปมากกว่านั้น ชานซองตรงเข้าประกบปากกับเรียวปากสวยที่ตอนนี้มันเย็นชืดไปเพราะฝน 
    เรียวลิ้นร้อนเลาะเล็มกลีบปากให้กลับมาเป็นสีแดงอ่อนๆตามเดิมพลางรั้งคนตัวเล็กให้ลุกออกจากเตียง 
    กดจูบดูดปากหวานเล่นคลอเคลียจนพอใจก่อนจะถอนจูบออก 
     
    " แฮก… " 
     
    " ถ้ากลับมาไม่อยู่ในห้องละก็.. จะต่อจากนี้นะรู้ไหม.. " 
    " …คนลามก "
    ไม่รู้จะคิดหาคำไหนออกมาด่า เสียงหวานๆกับเรียวปากอิ่มที่ดูขึ้นสีขึ้นมาทำให้ชานซองนึกตลกในใจคนเดียว 
     
    ซื่อ.. ซื่อในแบบที่ยากจะคาดเดา เหมือนลูกแมวตัวเล็กที่แอบพกพิษสงเอาไว้มากจนชนิดที่เดาไม่ถูก
     
    " เตียงเปียกหมด.. แล้วก็คราวหลังหาเสื้อที่ตัวเล็กกว่านี้มาใส่ซะ " 
    ตัดสินใจออกคำสั่งเสียงเข้ม ก่อนจะเดินออกห้องไป
     
    ทิ้งให้จุนโฮปรับเรียกสติที่หายไปพร้อมรสจูบเพียงเวลาสั้นๆนั้นอยู่นาน..
     


     








     
    -------------
    ตอนนี้ออกช้า และรู้สึกว่ามันขาดๆไม่เต็มมากเลย TT 
    เพราะแต่งด้วยอารมณ์รีบๆ ไม่ว่างกันทั้งคู่ ขอโทษน้าาา v.v
    ไม่รู้ว่าจะถูกใจกันรึป่าว จะรอเคลียโปรเจคให้เสร็จก่อนค่อยลงก็ดูจะนานเกินไป 5555 
    ยังไงก็ตอชมกันได้เลยนะคะ 
    >SQWEEZ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×