ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC - channuneo] The Killer

    ลำดับตอนที่ #1 : The Killer : Intro

    • อัปเดตล่าสุด 3 มิ.ย. 57





    INTRO : THE KILLER 
     

     

     

     

     

     

     
     
     
    ตึก.. ตึก..   
     
     
    ตึก.. ตึก..
     
     
    เสียงกระสุนปืนแหวกอากาศดังลั่น ชายชุดดำนับสิบวิ่งขวักไขว่อลมาน ควันจากแรงกระแทกของลูกตะกัวฟุ้งกระจายไปทุกพื้นที่ 
    เสียงหัวใจเต้นระทึกแข่งกับเสียงปืนอยู่ทุกขณะ มือเรียวกระชับกระบอกปืนเข้ามาแนบกับตัวพลางผ่อนลมหายใจเข้าออกช้าๆ 
    ท่ามกลางเสียงโหยหวนของเพื่อนร่วมทีม
     
    จุนโฮแทรกตัวอยู่หลังแทงค์น้ำขนาดใหญ่ ดวงตาเรียวเล็กจดจ้องร่างสูงไม่วางตา คนแล้วคนเล่าที่ถูกใบหน้าคมปลิดชีวิต 
    ควันสีขาวพวยพุ่งออกมาจากปลายกระบอกปืนครั้งแล้วครั้งเล่า 
     
    เกือบยี่สิบคนที่ล้มตายลงอย่างน่าเวทนา.. ในขณะที่ฝ่ายตรงข้ามมีแค่สองคน... 
    ร่างสูงใหญ่ของคนทั้งคู่ยืนนิ่งอยู่กลางลานกว้างของโกดังร้างอย่างไม่กลัวเกรง เจ้าของใบหน้าคมหรี่ตามองกวาดไปรอบๆ 
    ก่อนจะเหนี่ยวไกปืนอีกครั้ง  
     
    สูดลมหายใจลึกเมื่อเห็นเพื่อนร่วมทีมล้มไปอีกคน เสียงหอบหนักและเสียงร้องโวยวายทำให้ต้องหลับตาลงตั้งสติให้ตัวเองมากขึ้น 
    มือเรียวสั่นเทากระชับกระบอกปืนในมือแน่น สะดุ้งเฮือกอีกครั้งเมื่อได้ยินเสียงลั่นกระสุน ดวงตาเรียวเบิกกว้าง
    เมื่อเห็นคนตัวสูงก้าวพรวดเข้าไปกระชากคอเสื้อของคนที่เขาจำได้ลางๆว่าเป็นคนของฝ่ายตัวเอง
     
    " ใครส่งแกมา... " 
    เป็นครั้งแรกที่ได้ยินเสียงของคนคนนี้ เสียงทุ้มเข้มกดต่ำจนน่ากลัว ดังก้อไปทั่วโกดัง
     
    คนโดนเค้นตัวลอยจากพื้นเพราะแรงกระชาก ใบหน้าซีดเผือกอึกอักเลี่ยงคำตอบ มือหนารั้งคอเสื้อมาประประชิดตัวพลางจ่อปืนเข้าที่ขมับ
     
    " ฉันถามว่าใครส่งแกมา!! "
    ดวงตาคมจ้องเขม็งนับถอยหลังในใจช้าๆ เมื่อไม่ได้รับคำตอบ มือหนาก็ปล่อยร่างนั้นให้ร่วงลงกระแทกพื้น 
    จ่อกระบอกปืนส่งลูกกระสุนตรงเข้ากลางแผ่นอกโดยไม่ลังเล จุนโฮสะดุ้งเฮือกพร้อมกับร่างไร้วิญาณที่กระตุกรับความตายเป็นครั้งสุดท้าย
    ชานซองผละออกจากกองซากไร้วิญาณพลางสาวเท้าหนี คิ้วหนาขมวดเข้าหากันก่อนจะกวาดสายตาไปทั่วหาเหยื่อคนต่อไป  
     
    " ใจร้อนแบบนี้แล้วจะรู้เรื่องมั้ยวะ "
    แทคยอนโพล่งออกมาขัดน้องชายขี้ใจร้อนของตัวเอง นั่งนิ่งอยู่บนท่อน้ำด้วยท่าทางสบายๆมองคนตัวโตที่กำลังจ้องเขม็งหาสิ่งผิดปกติ
     
    " ตายหมดแบบนี้ผีตัวไหนจะลุกขึ้นมาตอบ " 
    ชานซองตวัดสายตามองคนขี้บ่นด้วยอารมณ์เริ่มจะหงุดหงิดมากกว่าเดิม 
     
    " ฉันรู้นะว่ายังมีคนอยู่ในนี้!! " 
    เสียงทุ้มตะโกนลั่น พลางเหนียวไกเตรียมสังหารใครก็ตามที่บังอาจโผล่หน้าออกมา จุนโฮขยับตัวหนีเพราะร่างสูงเดินเข้ามาใกล้ 
    จนถอยเข้าไปชนกันแท็งก์เหล็กด้านหลังเสียงดัง ไวกว่าความคิดชานซองหันขวับมาตามต้นเสียง มือบางยกขึ้นมาปิดปากตัวเอง 
    ซ่อนตัวเข้ากับกับกำบังให้มากกว่าเดิม
    พยายามทำตัวให้นิ่งมากที่สุด กลั้นแม้กระทั่งเสียงขอลมหายใจ คนตัวสูงยังคงย่างกายเข้ามา 
    ควันสีขาวยังคงลอยออกจากปลายกระบอกปืน ดวงตาเรียวเล็งจ้องไปยังภาพตรงหน้าพลางกระชับปืนในมือให้แน่นขึ้น 
    ใบหน้าเนียนแดงระเรื่อเพราะความร้อนจากอุณหภูมิจากที่ซ่อนตัว แก้มใสตอนนี้เปรอะเปื้อนไปด้วยเศษดินจนหมองไปหมด
     
    " เปรี๊ยง~! "
     
    จุนโฮสะดุ้งตัวโยน ถอยหลังชิดเข้ากับกำแพงเพราะเสียงปืนที่อีกคนแกล้งยิงขึ้นบนอากาศ
    หลังจากที่เสียงปืนเงียบลง รู้สึกเหมือนบรรยากาศรอบข้างเงียบจนเขาต้องกลั้นลมหายใจ เสียงฝีเท้าหนักๆดังชัดขึ้นเรื่อยๆ 
    ราวกับจงใจจะให้ได้ยิน 
     
    " นายเป็นใคร " 
    เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นข้างหูพร้อมกับความเย็นของโลหะจากปากกระบอกปืนจ่อเข้าที่ขมับ
    ดวงตาเรียวค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปจ้องเพชรฆาตตรงหน้า สายตาดุดันถูกส่งออกมากลืนกินความรู้สึกช้าๆ 
    สัมผัสเย็นเฉียบที่ขมับซ้ายทำให้ร่างเล็กเล็กต้องเบือนหน้าหนี
     
    " ฉันถามว่านายเป็นใคร!! " 
    ถูกคว้าเข้าที่ใต้ราวแขนอย่างแรงจนตัวลอยขึ้นเหนือพื้น เพราะเสียงทุ้มที่ตะคอกเข้าใส่กับแรงกระชากที่ไม่ทันได้ตั้งตัวมือบาง
    เผลอปล่อยอาวุธเพียงอย่างเดียวในมือร่วงลงก่อนจะคว้าหมับเข้าที่ไหล่หนาเพื่อผยุงตัวเอง
     
    ขาที่ลอยไม่ติดพื้นทำให้ร่างเล็กไม่กล้าขยับตัว ดวงตาเรียวเหลือบมองดวงตาคมหวาดๆ 
    ชานซองจ้องลึกเข้้าไปในดวงตาก่อนจะเหวี่ยงคนตัวเล็กกว่าลงจนข้อศอกไถลไปกับพื้นคอนกรีต จุนโฮกัดฟันแน่นกลั้นเสียงร้องของตัวเอง 
    ร่างสูงก้าวเข้ามาใช้ปลายกระบอกปืนจ่อเข้าที่คางเรียว ออกแรงดันจนใบหน้าหวานเชิดขึ้น 
     
    " ถามไม่ตอบ อยากเป็นแบบไอ้พวกนั้นใช่ไหม!! "
    ใบหน้าหวานซีดเผือดแต่ก็เลือกที่จะไม่ตอบอะไรออกไป เหงื่อเม็ดเล็กผุดพรายเต็มใบหน้า มือบางสั่นระริกกำแน่น หัวใจดวงน้อยเต้นรัว 
    กลัวในชะตากรรมของตัวเอง ใบหน้าคมโน้มลงมาใกล้ ออกแรงกดปลายกระบอกปืน บังคับให้ร่างเล็กเอ่ยปากพูด 
    ก่อนจะเริ่มนับถอยหลังในใจอีกครั้ง มุมปากหยักปรากฏรอยยิ้มที่ดูน่าขนลุก สอดนิ้วเตรียมเหนี่ยวไกปืน 
     
    " ชานซอง.. เดี๋ยวก่อน "
    แทคยอนกระโดดลงมาจากท่อน้ำหลังจากที่นั่งดูอยู่นาน ไล้สายตามองร่างบางที่เงยหน้าหนีปลายกระบอกปืนด้วยความเจ็บปวด 
    ไม่มีข้อมูล.. พยายามมองเท่าไรก็ไม่อาจรู้ว่าคนคนนี้คือใคร ต่างจากพวกที่นอนตายเกลือน
     
    จะปล่อยให้ชานซองฆ่าคนตายสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ แต่ก็ไม่ไว้ใจ..
    แทคยอนหย่อนตัวลงข้างใบหน้าหวานนิ่ง คนตัวเล็กออกแรงดิ้นหนีมือหนาที่กำลังรวบข้อมือเขาไว้ด้วยมือเดียวของชานซอง
     
    " อาจจะไม่ใช่คนของฝ่ายนั้น... ไม่แน่ใจ.. "
     
    ได้ยินแบบนั้นจุนโฮเลยพยายามขืนตัวเองออกแต่ก็เป็นไปได้ยากเพราะแรงของคนตรงหน้า 
    เรียวปากบางเม้มเข้าหากันสะกดกั้นความเจ็บปวดที่ร้าวขึ้นมา
     
    " จ..เจ็บ.. นะ.. "
     
    เสียงหวานร้องออกมาเตือนสติ ชานซองลดปลายกระบอกปืนลงแต่ไม่วายออกแรงกระชากร่างงบางให้ลุกขึ้นก่อนจะรั้งเข้ามาหาตัวเอง
    ตัวเล็ก.. หน้าหวาน.. ดูเหมือนไร้พิษสงแบบนี้อาจจะไม่ใช่คนของฝ่ายนั้นก็จริง..
    แต่ทำไมถึงเข้ามาอยู่ในที่แบบนี้ได้ มันไม่แปลกไปหน่อยหรือไง
     
    คิ้วเข้มขมวดแน่นอย่างนึกสงสัย ชายซองสบตากับแทคยอนแวบหนึ่งก่อนจะยกร่างเล็กขึ้นมาพาดบ่า 
    จุนโฮเบิกตากว้างที่จู่ๆก็ตัวลอยขึ้นไปอยู่บนไหล่หนาของอีกคน
     
    " จะพาฉันไปไหน! ปล่อยนะ! " 
     
    " พาไปสอบสวนน่ะสิ... "
    ชานซองเอ่ยเสียงเรียบไม่สนใจว่าคนตัวเล็กจะมีท่าทีตกใจแค่ไหน ไม่รู้ว่าเป็นใคร น่าแปลกที่แทคยอนไม่มีข้อมูล.. 
    สาวเท้ายาวๆออกจากโกดังร้างไปที่รถทรงคลาสสิกสีสวย
     
     
     
    " ฉันจะถามนายแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว นายเป็นใคร และมาอยู่ที่ี้ได้ยังไง "​
     
    โยนร่างบางเข้าไปในรถจนเสียงหวานร้องออกมาเพราะความเจ็บเบาๆ จุนโฮถอยร่นไปชิดประตูอีกด้าน 
    สายตาคมดุดันมองคนตัวเล็กนั่งราวกับต้องการฉีกร่างเขาออกเป็นชิ้นๆ ก่อนจะกอดอกยืนอิงทางออกเอาไว้
     
    " ไม่ตอบ? " เสียงทุ้มแค่นหัวเราะ ชะโงกหน้าเข้าไปจนจมูกโด่งของทั้งคู่เกือบชนกัน 
    " ว่าไง? ตัวเล็กแบบนี้นัดเดียว.. ไม่รอดรู้ไหม.. "
    " อย่านะ... " เสียงหวานอ้อมแอ้มตอบพลางเบือนหน้าหนีสายตาคม ชานซองคิ้วขมวดอีกครั้งพลางไล้สายตาสำรวจคนตรงหน้า
     
    " ตัวนายเป็นตุ๊กตาอัดเสียงรึไง พูดมาอยู่ได้ เจ็บนะ ปล่อยนะ อย่านะ " พูดเสียงดุก่อนจะยกมือขึ้นมาบีบสันกรามเล็กเบาๆเป็นเชิงขู่ 
    ดูเหมือนจะไม่สู้คนเท่าไร
    แต่ก็นะ.. นิ่งๆแบบนี้ แสบตอนจบละเจอมาเยอะ...
     
    " เปล่า.. ฉันแค่.. " คนตัวเล็กกัดริมฝีปากตัวเองเบาๆด้วยความประม่า แต่นั้นกลับทำให้ชานซองสงสัยกับท่าทางของจุนโฮมากกว่าเดิม 
    เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง... ต้องไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดาหรือสามัญชนที่หลงเข้ามาแน่ๆ
     
    " นายเป็นใคร.. "
     
    กดเสียงต่ำถามอีกครั้งพลาดเบียดตัวเองเข้าไปหา มือบางเลื่อนออกมาดันอกแกร่งให้ออกห่างจากตัวอัตโนมัติ 
    สัญชาตญาณที่ถูกสั่งสอนมาเริ่มบอกว่ากำลังเกิดเรื่องไม่ดีและต้องป้องกันตัว
     
    " ถอยออกไป... " ชานซองยกยิ้มมุมปากก้มหน้าลงไปจนในที่สึดจมูกโด่งก็สัมผัสกันแผ่วเบา ลมหายใจร้อนเป่ารดอยู่บนเรียวปากสีหวาน 
    มือหนาลูบไล้เอวบางผ่านเนื้อผ้า ก่อนที่จะสอดมือเข้าไป มือเล็กคว้าจับข้อมือหนาแน่น 
    ชานซองแค้นหัวเราะอีกครั้งเพราะจัดได้ถึงความผิดปกติของคนตัวเล็ก สายตาที่แข็งกร้าวขึ้นเล็กน้อย กับท่าทีที่พร้อมจะตอบโต้เขาได้ทุกเมื่อ 
     
    " ไม่ใช่คนที่บังเอิญหลงเข้ามาจริงๆสินะ.. "
     
    เสียงสตาร์ทรถทำให้ทั้งคู่ผละออกจากกัน จุนโฮนั่งตัวลีบติดอยู่กับประตู ส่วนชานซองนั่งคุมเชิงอยู่ข้างหลัง โดยมีแทคยอรเป็นคนขับ 
    จุนโฮเลิกลักลอบมองไปรอบๆตัว เบียดตัวเข้าประตูเข้ามากกว่าเดิม ถึงร่างสูงจะนั่งนิ่งๆแล้วก็เถอะ แต่ยังปรายตามองเขาเป็นระยะๆ
    คนตัวเล็กนั่งเงียบไม่ไหวติ่ง แต่เพราะความเร็วของรถที่ทำให้ร่างบางเซไปเซมา แว่วเสียงของรถตำรวจดังมาไกลๆ 
    ชานซองหันไปตามเสียงพลางขมวดคิ้วอารมณ์เสีย มือหนายกกระบอกปืนคู่ใจขึ้นก่อนจะลั่นไกทะลุกระจกรถออกไปอย่างไม่ใยดี
     
    "ไอ้ชาน กระจกรถแม่งไม่ได้ถูกๆนะเว้ย" 
    แทคยอนพูดอย่างหงุดหงิด พ่นลมหายใจพรืด เสียงหวอรถตำรวจได้ยินชัดขึ้นเรื่อยๆ เหยียบคันเร่งจนมิด ขับปาดซ้ายขวาอย่างกวนๆ 
    ทำเอาจุนโฮที่นั่งติดประตูแทบอ้วก ดวงตาเรียวเบิกกว้างเมื่อเห็นรถตำรวจคันหนึ่งพุ่งแซงหักพวงมาลัยขวางกลางถนน 
    แทนที่แทคยอนจะหักหลบกลับขับพุ่งเข้าไปตรงๆ
    เสี้ยงวินาทีก่อนที่รถทั้งสองจะชนอัดกัน แทคยอนหักหลบเฉียดท้ายรถตำรวจ ก่อนจะหักพวงมาลัยกลับจนล้อส่งเสียงเอี๊ยดครูดไปกับถนน 
    จุนโฮถอนหายใจออกมาหนักๆ พึ่งรู้ตัวว่าเผลอกลั้นหายใจไประหว่างนาทีระทึก 
     
    "หึ..." 
    รอยยิ้มมุมปากของแทคยอนปรากฏขึ้น ดวงตาคมจ้องดวงตาเรียวจากกระจกมองหลัง เลิกคิ้วขึ้นอย่างกวนๆ 
     
    ไม่ทันได้ตั้งตัวจุนโฮกลับต้องสะดุ้งเฮือกอีกครั้งเมื่อวิถีกระสุนแหวกอากาศเฉียดแก้มเนียนไปเสี้ยวเดียวก่อนจะทะลุเข้ากับกระจกหน้า
    จนมันทะลายลง แทคยอนยกมือบังเศษกระจกลวกๆเพื่อไม่ให้โดนตัวเองพลางเหยียบคันเร่งจนมิดอีกครั้ง
     
    " อยากตายรึไงห้ะ! นั่งโง่อยู่แบบนี้จะได้จัดให้! " 
    ชานซองหันมาตะหวาดใส่คนตัวเล็ก มือหนากดหัวทุยนั้นให้กดต่ำลง ยิงปืนสวนกลับฝ่ายตรงข้ามเพื่อสกัดไอ่พวกตำรวจน่ารำคาญใจ
     
    "กระจกกู...ไม่เหลือละ" 
    แทคยอนถอนหายใจ ชานซองทำเป็นไม่ได้ยิน ดวงตาคมหรี่ลงเหนี่ยวไกยิงล้อหน้าของรถตำรวจที่ยิงสวนมาเมื่อกี้อย่างแม่นยำ 
    จุนโฮไม่สามารถคาดเดาสถานการณ์ได้เพราะมือหนายังคงกดศีรษะของเขาอยู่ ชานซองกวาดสายตามองไปรอบๆเห็นว่ายังมีรถตำรวจตามมา
    ริมฝีปากหยักยกยิ้มเหี้ยมชะโงกตัวออกจากกระจกรถ รัวกระสุนสองนัด เจาะล้อหน้ารถตำรวจ 
    เป้าหมายคันสุดท้ายเสียหลักปัดลงข้างทาง ลดตัวเข้ามาอยู่ในรถเหมือนเดิมพร้อมกับระบายยิ้มอยู่ในใจก่อนจะปล่อยคนตัวเล็กให้เป็นอิสระ 
    ได้ยิงไอ่พวกตำรวจก๊อกแก๊กเล่นแบบนี้ก็สบายใจไปอีกแบบเหมือนกันนะ...
     
    จุนโฮกลืนน้ำลายลงคอช้าๆ พลางหันไปมองด้านหลังที่ไร้วี่แว่วของตำรวจ อะไรกัน.. แปปเดียวเอง..
     
     
     
    ------------------
     
     
     
    "วันที่ 21 สิบโมงตรง พวกมันนัดกันส่งของ" 
    เสียงทุ้มนุ่มของคิมมินจุนดังขึ้นก่อนที่เจ้าตัวจะลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินวนไปรอบๆหน้าห้องประชุม อีจุนโฮจ้องแผนที่ตรงกลางนิ่ง 
    พยายามทำความเข้าใจกับเรื่องราวทั้งหมดที่ได้รับมา แผนบุกโกดังส่งของ ของวายร้ายที่ติดแบล็คลิสอันดับต้นๆของโซล 
    ยอมรับเลยว่าไม่ถนัดเรื่องแบบนี้ ที่เขามีก็มีแค่มันสมองที่ค่อนข้างจะโดดเด่น แต่คราวนี้ต้องลงพื้นที่ด้วย...
     
    " งานนี้เราประมาทไม่ได้ ฉันเลยต้องให้นายเข้าไปร่วมกับแผนครั้งนี้... "​ 
    ร่างบางตกใจเล็กน้อยเมื่อมินจุนโผล่ขึ้นมาด้านหลังพร้อมกับสัมผัสแผ่วเบาแตะลงที่บ่าเป็นเชิงขอร้อง..
     
    " ลำพังเพียงแค่ยกกำลังเข้าไปบุกคงไม่ได้ ฉันหวังว่านายจะเป็นตัวเลือกสุดท้ายของเรา ถ้าเกิดเราพลาดขึ้นมา.. "
    " …ครับ " เสียงหวานตอบแผ่วเบาเผลอกำมือเข้าหากันสะกดอารมณ์เครียดที่รุมเร้า... ถึงจะพอต่อสู้ปัดป้องตัวเองได้อยู่บ้าง 
    ปืนผาหน้าไม้ก็เคยใช้ แต่ก็ไม่ใช้เรื่องที่ถนัดอยู่ดี 
     
    แต่ข้อหนึ่งของจุนโฮที่มินจุนยอมรับ ถึงขนาดกับฝากความหวังสุดท้ายเอาไว้ด้วยก็เพราะความฉลาด...
    สองจุนโฮเป็นเด็กใหม่ ฝ่ายนู้นไม่เคยรู้ข้อมูลของจุนโฮ สามเอาตัวรอดเก่งไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม
     
    " จำไว้ ถ้าโดนจับได้ อย่าให้มันฆ่า.. ทำยังไงก็ได้ แทรงแซงเข้าไปอยู่กับพวกมันให้เนียนที่สุด.. อย่าให้มันรู้ว่านาย.. เป็นสายลับ "
    จุนโฮถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะค่อยๆพยักหน้ารับคำสั่งช้าๆ
     
    " ถ้าเข้าไปได้แล้ว หาทางติดต่อฉันกลับมาด้วย.. ฉันรู้ว่ามันไม่ยากสำหรับนาย " 
    มินจุนรู้ว่าการส่งลูกน้องเข้าไปในครั้งนี้มันอันตรายแค่ไหน ฝ่ายตรงข้ามไม่ใช่เล่นๆ แผนสำรองคงจะจำเป็นที่สุดในเวลานี้ 
    จุนโฮคือความเชื่อใจสุดท้าย 
     
    เกมส์นี้เล่นยาก.. จนตั้งเลือกใช้วิธีแกมโกง..
     
    " ครับ…" 
    ตอบรับเสียงอ่อนอีกครั้ง ไม่ง่ายเลยครั้งนี้.. 
     
    จุนโฮเข้ามาทำงานกับมินจุนได้แค่สองเดือน เข้ามาในตำแหน่งของบุคคลากรณ์ที่มีความสามารถในเรื่องของการวางแผน 
    กลยุทธวิธีต่าง ความฉลาดหัวไวปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่างได้ดีเป็นอันดับหนึ่ง แต่วันนี้กลับต้องเปลี่ยนตำแหน่งมาเป็นสายลับแบบกระทันหัน.. 
    มินจุนเคยเปรยๆกับเขาไว้ก่อนแล้วว่างานนี้เล่นด้วยกำลังยาก ต้องอาศัยสมองเข้าสู้ ปกติจุนโฮเป็นคนร่างเริงติดจะเหวี่ยงนิดๆด้วยซ้ำไป 
    แต่มาเจอเรื่องแบบนี้กลับพูดไม่ออกเลยทีเดียว...
     
    " ส่วนพวกนาย ทำใหเต็มที่ สกัดจุนโฮไว้ไม่ให้โดนยิง.. "
    มินจุนกวาดสายตาไปทั่วห้องพลางกำชัดเสียงหนัก นั้นยิ่งทำให้จุนโฮหน้าเสียลงมากกว่าเดิม ในเมื่อทุกคนต้องทำเพื่อรักษาตัวเขาเอาไว้แบบนี้
     
    ทุกคนในห้องประชุมพยักหน้ารับ สัมผัสหนักๆที่ไหล่ทำให้จุนโฮต้องหันไปมอง เป็นโจควอน พี่ชายคนสนิทของเขา กำลังส่งยิ้มให้กำลังใจมาให้ 
     
    "นายทำได้อยู่แล้วจุนโฮ"
    รอยยิ้มที่มักจะแสดงออกให้ทุกคนได้เห็นอย่างสดใสเมื่อได้รับภารกิจ จุนโฮมักจะตื่นเต้นและสนุกกับงานเสมอ แต่วันนี้กลับหายไป 
    ทุกชีวิตกลับต้องมาเสี่ยงเพื่อเขาคนเดียว
     
    " เอาละ แยกย้ายกันไปเตรียมตัวได้  " 
    คนเป็นหัวหน้าออกปากสั่งพลางเดินออกจากห้องประชุม ทุกคนในห้องยังคงนั่งนิ่ง...
    แน่นอนว่าทุกคนรู้ว่าต้องไปเผชิญกับอะไร จึงหวังว่าให้มันเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้ผลจริงๆซักที หลายครั้งที่บุกเข้าจับแต่ก็ตาย
    หรือไม่ก็บาดเจ็บกลับไปทุกครั้ง ด้วยเหตุนี้จุนโฮจึงถูกดึงตัวให้เข้ามาช่วย มินจุนไม่อยากเห็นพี่น้องของตัวเองหายไปต่อหต้าต่อตาอีกแล้ว
     
    " ทุกคนผมขอโทษนะ.. "
    เสียงเล็กเอ่ยออกมาเบาๆ เพราะความไม่สบายใจ " อะไรจุนโฮ นายช่วยเรามากี่ครั้งแล้ว... "​ 
    รอยยิ้มเล็กฝุดขึ้น เพื่อนร่วมทีมทุกคนต่างส่งยิ้มให้คนตัวเล็ก หลายครั้งที่จุนโฮเป็นคนควบคุมแผนการบุกอยู่เบื้องหลัง 
    และความคิดไหวพริบในการแก้ปัณหาของจุนโฮ สามารถช่วยหลายคนให้รอดจากความตายได้อยู่บ่อยๆ 
     
    " นายไม่เคยลงสนามจริงนี่นะ ทำหน้าซีดเชียว ไม่ต้องห่วงหรอกมีพวกฉันคอยช่วยเยอะแยะ "
    จุนโฮมองไปรอบๆห้องประชุม เห็นรอยยิ้มจริงใจจากทุกคนส่งมาที่เขา ดวงตาเรียวเล็กก็ทำท่าจะร้องไห้ขึ้นมาดื้อๆ 
     
    "อ้าวๆ อย่าร้องเชียวนะ เป็นสายลับห้ามร้องไห้" 
    โจควอนเอ่ยแซว ทุกคนในห้อวประชุมหัวเราะออกมาพร้อมกัน ทำให้จุนโฮเริ่มยิ้ม 
     
    "ผมจะทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด" 
    ร่างเล็กลุกขึ้นโค้งให้กับทุกคน รอยยิ้มตอบรับเขาอีกครั้ง กอนที่ทุกคนจะทยอยออกห้องไป 
     
    โจควอนยื่นซองสีน้ำตาลขึ้นตรงหน้าจุนโฮขมวดคิ้วสงสัย
     
    " รับไปสิ "
    มือบางรับซองนั้นออกมากจากมือพี่ชายคนสนิทมาแบบงงๆ ไม่ปล่อยให้จุนโฮถามอะไรต่อ 
    โจควอนยกยิ้มให้เล็กๆก่อนจะเดินออกจากห้องตามคนอื่นไป จุนโฮแกะซองนั้นออกช้าๆ มีเพียงรูปถ่ายสองใบที่มีคำบรรยายสั้นๆติดอยู่ด้านหลัง
     
     
     
     
     
    '  ฮวางชานซอง ' มือขวาอันดับหนึ่ง ฆ่าไม่เลือกไร้ความปราณี 
    ' อ๊คแทคยอน ' มือซ้ายสายตาไว เจ้าเล่ห์หลอกล่อเป็นที่หนึ่ง





     

    --------------------------
    ออกแล้ววว ตอนอินโทร โฮกกก แต่งนานมากกกก 5555 เรื่องนี้แต่งสองคนกับน้องฝน (@MmolradaA)
    เพราะฝนอยากแต่งเกี่ยวสายลับมีแรงบันดาลใจมากจาก cold eyes ของจุนโฮ 
    ส่วนเพ้นอยากต่อ the killer จาก sf ที่เคยแต่งไว้อยู่แล้ว เราเลยฟิวชั่นกันซะเลย ฮาาา

    ทักทายมาทาง twitter ก็ได้ค่าา @dbdqb , @MmolradaA



     

    >SQWEEZ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×