ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC - channuneo] The Killer

    ลำดับตอนที่ #4 : The Killer : Mission 3

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 731
      4
      3 มิ.ย. 57





    MISSIONS 3








     
    คนตัวเล็กขยับตัวฮึดฮัดไปมาอยู่บนเตียง ทำไมต้องต้องห้ามไม่ให้ออกไปด้วยว้ะ..
    แล้วทำไมเราต้องฟังมันด้วย..
    แล้วคนคนนั้นคือใคคร ทำไมชานซองต้องทำท่าเครียดแบบนั้น ความคิดมากมายตีกันในหัวยุ่งไปหมด 
    คว้าหมอนใบโตขึ้นมากอดพลางซุกหน้าเข้าหาไออุ่น 
    อยู่เฉยๆแบบนี้น่าเบื่อชะมัด....

    จุนโฮถอนหายใจเอนตัวลงนอนบนเตียงช้าๆ ดวงตาเรียวจ้องเพดานเขม็ง ลิ้นเล็กเลียริมฝีปากตัวเองด้วยความเคยชินระหว่างที่ใช้ความคิด 
    ชิ…คิดว่าจะกลัวรึไง ไอ้ชานซองคนบ้ากาม 

    ขาวเรียวยันตัวเองลุกขึ้นจากเตียงก้าวเข้าหาตู้เสื้อผ้า ก่อนจะรื้อหาชุดที่สามารถพรางตัวได้ลวกๆ
    มือเล็กคว้าเอาฮู้ดตัวโตของเจ้าของห้องเอามาใส่ ขยับหมวกของเสื้อกระชับเข้าหาตัวเองให้ปิดลงมา

    " ใครจะไปยอมกัน.. ต้องตามหาที่อยู่นั้นให้ได้.. "
    เม้มปากเข้าหากันก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ พยายามตั้งสติให้ตัวเอง

    บอกตรงๆ.. กลัวเหมือนกันนะ ถ้าโดนหมอนั้นจับได้ขึ้นมาละ..
    จะโดนแบบ.. วันนั้นรึเปล่า..

    ทะเลาะกับตัวเองอยู่หน้าประตู ก่อนจะตัดสินใจสบัดหัวไล่ความกังวนออกไป
    ต้องพยายามไม่ให้พลาดสิจุนโฮ! จะได้ไม่โดนไอ่มือปืนโหดนั้นทำแบบนั้นได้อีก ถึงจะไม่เชียวชาญการลงสนามเองก็เถอะ

    มือบางค่อยๆ เปิดประตูออกช้าๆ
    จุนโฮค่อยๆเดินออกมาจากห้อง แผ่นหลังบางแนบอยู่กับกำแพงเย็นเฉียบ ไปคุยกันอยู่ที่ไหนวะ...
    ไฟก็ปิดมึดทำเอามองอะไรไม่ค่อยเห็น ชานซองปิดไฟหรอ.. ปิดทำไมกัน...

    พยายามหรี่ตามองทางให้ได้มากที่สุด แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีกล้องบ้าๆนั้นอาจจะจับภาพเขาได้ยากขึ้น 
    คนตัวเล็กพยายามซ่อนตัวเองอยู่ในฮู้ดตัวโตเดินไปตามทางที่พอจะเดาได้ จากความทรงจำที่เคยถูกหิ้วเข้ามาน่ะนะ..

    ลิ้นเล็กแลบเลียริมฝีปากแห้งผากด้วยความเคยชิน ไม่รู้ว่าไปคุยกันอยู่ห้องไหน 
    ก่อนจะตัดสินใจเดินเปิดไล่ไปทีละห้อง... 
    เสียวสันหลังขึ้นมาเป็นระยะๆ กังวลว่าจะมีใครซักคนโผล่ออกมาตอนนี้ 
    แต่ดูเหมือนว่าบ้านหลังนี้จะอยู่กันแค่สองคน จุนโอยังคงเดินไปเปิดประตูทุกบานที่สามารถเปิดออกได้
    แต่ก็ไม่มีอะไรน่าสนใจ แต่ละห้องว่างเปล่า.. เหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นมา

    ก่อนจะมาหยุดยืนอยู่หน้าประตูห้องที่เดาเอาเองว่าน่าจะเป็นห้องของแทคยอน 
    ห้องที่อยู่มุมซ้ายสุด... 

    ใบหน้าหวานแนบไปกับประตูบานใหญ่ เสียงพึมพำที่ดังอยูาเบาๆทำให้คนตัวเล็กเริ่มมั่นใจขึ้นมา มือบางกำลูกบิดประตูแน่น สูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะเปิดผ่างเข้าไป

    สายตาทุกคู่หันขวับมาจ้องแขกไม่ได้รับเชิญเป็นตาเดียว จุนโฮแสร้งทำเป็นยืนค้างดวงตาเรียวเบิกกว้าง
    พยายามกวาดสายตาหาสิ่งปกติไปทั่วห้อง จนมาหยุดอยู่ที่ข้อมือหนาของแขกตรงหน้า... 

    " จุนโฮ... " 
    เสียงร้องเตือนจากชานซองทำเอาจุนโฮต้องเบือนหน้าหนีจากชายคนนั้น.. 

    "ข..ขอโทษครับ" 
    ร่างเล็กปิดประตูเสียงดังปัง ดวงตาที่เคยเต็มไปด้วยความตกใจแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม 

    รอยสัก... 
    แต่ผู้ชายชุดดำคนนั้นมีรอยสัก

    ในช่วงเวลาแค่พริบตาเดียว จุนโฮสังเกตุเห็นรอยสักที่มีอัษรอะไรบางอย่าง รวมถึงสัญลักณ์คุ้นตา.. 
    อย่างนี้ก็ได้อะไรเพิ่มขึ้นมานิดหนึ่ง.. 


    เร็วกว่าความคิด จุนโฮรีบสาวเท้าลงไปข้างล่าง และไม่ลืมที่จะเลียวมองระแวงหลังเป็นระยะๆ มือบางผลักประตูบ้านออก ฝนหยุดตกแล้ว รถตู้คันนั้นจอดอยู่ที่เดิม.. 

    มันจะไปที่นั้นไหมนะ.. ที่อยู่ของปาร์คจินยอง.. 
    ต้องใช่สิ สัญลักษณ์ตรงข้อมือคุ้นตามาก แต่คิดไม่อกว่าเคยเห็นที่ไหน.. 

    คยตัวเล็กพ่นลมหายใจออกมาช้าๆ ตั้งสติ หนี.. 
    หนี คือความคิดเดียวในตอนนี้ หนีขึ้นรถคันนี้ไป.. งานอาจจะคืบหน้ามากกว่านี้.. 

    ลาก่อนชานซอง.. 



    ------------------



    ร่างสูงใหญ่ของชานซองเปิดประตูห้องของแทคยอนอย่างแรงจนมันกระแทกผนังเสียงดังปัง แทคยอนที่เดินตามออกมาไม่ได้เอ่ยห้ามหรือพูดให้คนเป็นน้องใจเย็นลง ปล่อยให้ชานซองเดินเร็วๆกลับไปที่ห้องด้วยอารมณ์หงุดหงิดแบบนั้น

    กล้ามาก..อีจุนโฮ 

    แทคยอนได้แต่นับถือความกล้าของไอ้ลูกแมวอยู่ในใจ 

    ชานซองกำหมัดแน่น ใบหน้าหล่อเหลาเคร่งขรึมจนดูน่ากลัว โกรธตั้งแต่เห็นจุนโฮโผล่เข้าไปในห้อง...
    สั่งอะไรเคยฟังบ้างไหม... 

    มือหนาเปิดประตูห้องเข้าไปก่อนจะชะงักนิ่ง โกรธมากขึ้ยเป็นเท่าตัวเมื่อไม่เห็นจุนโฮอยู่ในห้อง ดวงตาคมแข็งกร้าว ตวัดมองไปทางประตูบ้าน

    อีจุนโฮ...อยากเจอดีใช่มั้ย...

    " แทค บอกฮยองว่าอย่าพึ่งออกมา " 
    ชานตะโกนบอกเสียงดัง ซึ่งแทคยอนเองก็พยักหน้ารับอย่างรู้กัน ริมฝีปากบางยกยิ้มขึ้น 
    เอาซะไอ้ชานหัวปั่น...ใช่เล่นนะอีจุนโฮ 

    ชานซองกวาดสายตาไปทั่วบ้าน เปิดประตูทุกห้องแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงา ดวงตาคมตวัดมองออกไปนอกหน้าต่าง เปิดประตูหน้าบ้านออกอย่างแรง สาวเท้าหาร่างเล็กแต่ก็ไม่เจออะไร

    " เห็นผู้ชายคนที่นั่งตากฝนอยู่เมื่อกี้มั้ย " 
    เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามชายคนขับรถที่ยืนนิ่งรออยู่หน้าบ้าน

    " ไม่ครับ " 
    คนขับรถก้มหน้าตอบ มือหนาตรงเข้าคว้ากุญแจรถที่ชายคนนั้นถือเอาไว้อยู่ กระชากมาไว้ในมือ กดปลดล็อคก่อนจะกระชากประตูให้เปิดออก... 

    "คิดว่าจะหนีฉันพ้นเหรอ อีจุนโฮ..."

    มือหนาคว้าเสื้อฮู้ดตัวโคร่งเข้าหาตัวเองอย่างแรง คนตัวเล็กลอยติดมือไปกระแทกกับอกแกร่งดังอักก่อนที่จะถูกลากให้เดินตามด้วยอารมณ์โมโห

    กล้าทำแบบนี้แสดงว่าคราวที่แล้วไม่เข็ดสินะ.. กล้าขัดคำสั่งฉันสินะ จุนโฮ..

    ขาเรียวแทบจะต้องวิ่งตามอีกคนที่เอาแต่ใจ อยากจะสะบัดแขนออกจากมือหนาก็ทำไม่ได้ โอ้ย นี่เขาต้องโดนลากแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่! 

    " ฉันบอกว่ายังไงอีจุนโฮ " 
    เสียงทุ้มเข้มกดต่ำ ออกแรงเหวี่ยงจนร่างเล็กกระแทกเข้ากับประตูห้องของแทคยอนอย่างแรง 

    จุนโฮกัดริมฝีปากเพื่อกลั้นเสียงร้อง จุกอยู่ไม่น้อยแต่ก็ต้องอดทนเอาไว้ 

    "กล้ามากนะ เปิดประตูเข้ามาแบบนั้น แล้วยังจะแอบไปขึ้นรถอีก..." 
    มือหนาบีบสันกรามเล็กบังคับให้เชิดหน้าขึ้น หมวกฮู้ดร่วงหล่นจากศีรษะกลม ดวงตาเรียวหรี่ลงเพราะความเจ็บ
    ผิดแผนจนได้... ทำไมไอ่บ้านั้นไม่ออกมาขึ้นรถก่อนว้ะ!

    ใบหน้าคมก้มลงมาจนชิด ดวงตาคมแข็งกร้าวจนจุนโฮไม่กล้าที่จะสบตา มือหนาข้างที่ว่างเปิดประตูผลักคนตัวเล็กเข้าไปในห้อง ห้องที่จุนโฮไม่เคยเห็นมาก่อน โต๊ะทำงานเอกสารกองเต็มไปหมด คอมพิวเตอร์ที่ตอนนี้หน้าจอมืดสนิท จุนโฮลอบสังเกตเก็บทุกรายละเอียดไว้ในความทรงจำ ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาอันตรายแบบนี้ก็เถอะ 
    จุนโฮก้าวถอยหลังช้าๆกลืนน้ำลายลงคอดังเอื้อกเมื่อรับรู้ได้ว่าสิ่งที่เขากำลังจะเจอคืออะไร ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกเมื่อถอยไปชนกับโต๊ะทำงาน 

    " ตอนนั้นฉันบอกว่ายังไง ถ้ากลับไปที่ห้องแล้วไม่เจอนาย ฉันบอกแล้วใช่มั้ยว่าต้องเจอกับอะไร หืม.. " 
    มือบางยกขึ้นดันแผ่นอกหนาเอาไว้ จ้องมองคนตรงหน้าอย่างหวาดๆ คนตรงหน้ากำลังโกรธ...มากซะด้วย

    " อ้ะ..! " 
    ชานซองบีบสันกรามเล็กแน่นพลางดันให้เชิดขึ้นจนบางต้องอกแรงทุบไหล่หนาให้ปล่อยออก

    " ตอบมา!! "​ 
    เสียงทุ้มตวาดดังลั่นทั่วห้อง คนตัวเล็กสะดุ้งเฮือกเบือนหน้าหนี 
    ไม่ใช่เล่นๆแล้ว.. พยายามไม่ตอบโต้อะไรมากเพื่อที่ชานซองจะไม่ต้องโมโหไปมากกว่านี้ 

    " … " 
    เงียบให้คือคำตอบที่คิดออกในตอนนี้ ก็คิดว่าจะหนีพ้นแล้วนี่น่า.. บ้าชิป..

    " ฉันบอกให้ตอบมา!! "
    " อะ..อะไรเล่า.. ก็.. " 
    อึกอักคิดหาคำพูด จะให้ตอบว่ายังไงละว่ะไอ่บ้า.. 
    ตอบไม่ถูกใจก็โดนดุอีกละสิ มันน่ากลัวนะรู้ไหม.. ฮึ๊ยย..

    คนตัวโตกระตุกยิ้มเพราะท่าทางหวาดๆของลูกแมวจอมแสบ ก็รู้ว่าจะโดนอะไรยังจะกล้าขัดคำสั่งอีก 
    ใครส่งนายมาหรอ อีจุนโฮ.. หึ 

    " ไม่เข็ดสินะ.. " 
    ผละมือออกจากสันกรามสวยแล้วเลือกที่จะรั้งตัวอีกคนเข้ามาหาตัวเองพลางก้มลงไปซุกไซร้เข้ากับซอกคอหอม 
    ออกแรงงับเบาๆก่อนจะดูดเม้มจนเป็นรอยขึ้นมาอีกครั้ง

    ทั้งๆที่ของเก่ายังไม่ทันหาย ก็อยากดื้อเองนี่นะ.. 

    " ชานซอง.. ไม่เอานะ.. ปล่อยย.. " 
    เสียงหวานรีบออกปากห้ามพยายามเอามือดันใบหน้าหล่อเหลานั้นให้ออกจากตัวแต่กลับถือมือหนาล็อคเอาไว้ 
    สัมผัสร้อนที่ซอกคอคลอเคลียไม่ห่างและไม่มีท่าทีว่าจะหยุดเอาง่ายๆ จุนโฮกัดริมฝีปากตัวเองแน่นเพราะปากหยักที่ลากไปมาจนขึ้นมาถึงเรียวปากอื่ม

    " ฉันเตือนนายแล้ว.. "​
    ชานซองหวังจะประกบจูบลงบนกลีมปากสีหวานแต่คนตัวเล็กก็เบือนหน้าหนีซะก่อน 

    มันต้องไม่มีครั้งที่สองสิ...

    " นายจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ.. " 
    " ทำไมจะไม่ได้.. ฉันจะฆ่านายก็ได้ แล้วทำไมฉันจะทำแบบนี้กับนายไม่ได้.. "​

    คนตัวเล็กเผลอกัดริมฝีปากตัวเองด้วยอารมณ์โมโหที่ค่อยๆก่อตัวขึ้น 
    มันจะมากเกินไปแล้ว..

    " นายมัน.. ไอ่คนชอบเอาเปรียบ.. " 
    "​ งั้นหรอ.. ไหนลองหนีออกจากฉันให้ได้ในตอนนี้สิ.. ให้เวลาสองนาที ถ้าทำไม่ได้.. เตรียมครางเสียงหวานๆให้ฉันฟังทั้งคืนได้เลย.. " 

    !!!!
    ไอ่.. ไอ่คนหน้าด้าน ไม่มียางอาย พูดออกมาได้ยังไงว่ะ!
    หน้าขึ้นสีแดงเถือกไปถึงหู พยายามดิ้นออกจากร่างสูง แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นไปได้ยากเพราะแรงที่โอบรัดรอบเอวอยู่ตอนนี้ 


    สองนาที...

    จุนโฮสะบัดตัวอย่างแรง ลอบมองไปที่ประตู อยู่ใกล้แค่นี้ แค่นิดเดียว แขนแกร่งโอบ ล็อคเอวบางแน่น ยืนนิ่งๆมองคนในอ้อมกอดดิ้นพล่านเอาตัวรอด ริมฝีปากหยักยกยิ้มมุมปาก แค่นหัวเราะในลำคอ 

    " อีกหนึ่งนาที " 
    เสียงทุ้มพูดนิ่งๆ มือหนาจับรวบมือบางที่พยายามทุบจิกตีข่วนแผ่นอกของเขา จุนโฮตวัดสายตามองด้วยความขุ่นเคือง ขยับข้อมือหมุนบิดออกทางด้านนิ้วโป้งของคนตัวสูง ใช้ทฤษฎีตามที่เคยเรียนมา ซึ่งมันควรจะได้ผลสิ... 

    ชานซองเลิกคิ้วก่อนจะหรี่ตาลงจับข้อมือแน่นกว่าเดิม ขายาวขยับก้าวเข้าไปใกล้ จุนโฮถอยหลังชิดโต๊ะทำงานใบหน้าหวานผงะถอยไปข้างหลังเมื่อจมูกโด่งของคนตัวสูงขยับเฉียดเข้ามาใกล้ 

    " สามสิบวิ " 
    จุนโฮมองค้อนใส่ ยกเท้าขึ้นกระทืบแรงๆบนเท้าของคนตัวสูง ถึงแม้ว่าชานซองจะไหวตัวหลบทัน แต่แรงที่จับยึดข้อมือก็ผ่อนลงเล็กน้อย จุนโฮเบี่ยงตัววิ่งพรวดตรงไปที่ประตูทันที

    ชานซองหัวเราะเสียงต่ำ อาศัยแขนยาวกวาดรัดเอวบาง กระชากทีเดียวคนตัวเล็กก็ปลิวกลับเข้ามาในอ้อมกอด จุนโฮเบิกตากว้าง หัวใจเต้นระรัวด้วยความตกใจ 

    เร็วเกินไป...

    ชานซอง...เป็นคนที่มีความคล่องแคล่วสูง ไหวพริบดี รู้ทันคน แถมยังแรงเยอะ จุดอ่อนของไอ้บ้านี่อยู่ตรงไหนกัน! 

    " ห้า... " 
    เสียงทุ้มกระซิบริมใบหู จุนโฮกัดริมฝีปากแน่น สะบัดตัวดิ้นแรงๆอีกครั้งอย่างไม่ยอมแพ้ 

    " สี่..." 
    จมูกโด่งไล้สัมผัสลงมาที่ซอกคอขาว ริมฝีปากร้อนคลอเคลียเบาๆทำให้จุนโฮต้องสะบัดหน้าหนี 

    " สาม...หึ..." 

    " สอง.. "
    กำปั้นเล็กออกแรงเฮือกสุกท้ายทุบลงไปอักใหญ่กลางแผงอก 
    ทำไปงั้นแหละ.. รู้ว่ายังไงก็หนีออกจากไอ่บ้านี่ไม่ได้แน่

    " หนึ่ง.. "
    " ชานซอง.. ไม่เอานะ.. " 

    สิ้นเสียงนับจุนโฮก้มหน้างุดเสียงหวานอ้อมแอ่มบอกพลางซ่อนตัวเองเข้ากับอีกคน... พยายามก้มหลบปากหยักที่ทำท่าจะตรงเข้ามาจูบ
    มันไม่รู้จะทำยังไงแล้ว.. 

    " จะหาว่าฉันเอาเปรียบไม่ได้นะ.. "



    บู้ๆๆๆ


    
ฝ่ายแทคยอนเมื่อปิดประตูล็อคกลอนให้ไอ้น้องชายตัวดีเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินลากขามาทรุดตัวลงนั่งอยู่บนโซฟา

    มือหนาคว้าเอารีโมทมาเปิดทีวี เร่งเสียงให้ดังเพื่อกลบเสียงครางที่ดังแว่วออกมาจากในห้องของตัวเอง

    

นี่กูเป็นเจ้าของห้องนะเว้ย...

    แล้วไอ่ลูกแมวนั้นก็เป็นใครที่ไหนไม่รู้ที่ยังหาคำตอบไม่ได้ มึงยังล่อกินซะ..
    
คิดไปก็ได้แต่กุมขมับไป 
    นิสัยใจร้อนของน้องชายแก้ยังไงก็แก้ไม่ได้

แต่อย่างว่าชานซองเป็นคนเลือดร้อนไม่แปลกที่จะตอบโต้ด้วยวิธีนั้นแทนการฆ่า...

    จะให้ชานซองฆ่าใครสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ และ จะเก็บใครที่ไหนไม่รู้ไว้ในบ้านสุ่มสี่สุ่มห้าเช่นกัน..

    ต้องรีบสืบหาที่มาของจุนโฮให้ได้เร็วที่สุดแล้วสิ..



    คิดได้แบบนั้นก็เด้งตัวขึ้นหวังจะตรงเข้าห้องทำงานตัวเอง แต่ก็ต้องชะงักยืนอยู่ที่เดิม
ไอ่เสียงสยิวแบบนี้เมื่อไรมันจะเสร็จกันวะ..

    
ทิ้งตัวลงโซฟาอย่างเดิม ก่อนจะพยายามคิดหาวิธีสืบที่เร็วที่สุด 
    โทรศัพท์ก็พลาดไปหนึ่ง.. จุนโฮฉลาดไม่ใช่เล่น.. แสดงว่าไม่ใช่คนธรรมดา..
    
แต่จู่ๆหน้าของใครบางคนที่พึ่งเจอกันเมื่อตอนเย็นก็ลอยเข้ามา..แทคยอนยกยิ้มมุมปากเมื่อคิดย้อนไปถึงวันแรกที่เขากับมินจุนเจอกัน


    .
    .
    .


    แทคยอนก้มลงมองลิสท์รายการสิ่งของต่างๆที่อยู่บนเรือ ตรวจเช็คทุกอย่างให้ถูกต้องที่สุด 
    เขาไม่เคยทำงานพลาดและไม่มีวันพลาด ดวงตาคมกวาดมองรายละเอียดเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะยื่นแฟ้มสีดำสนิทให้กับลูกน้องที่ยืนอยู่ข้างๆ



    "เรียบร้อยดี ไปบอกชานซองให้เตรียมตัวได้" 
    ดวงตาคมมองส่งลูกน้องจนลับสายตา ก่อนจะกวาดมองตรวจเช็คทุกอย่างเป็นครั้งสุดท้าย

    

"เรียบร้อยดีนะ" 
    เสียงทุ้มของใครอีกคนดังขึ้นก่อนที่เจ้าของเสียงจะปรากฎตัว แทคยอนโค้งคำนับ ก่อนจะเอ่ยตอบ



    "ครับ ไม่ต้องห่วง"

    "ดี..."
    
บทสนทนาดำเนินไปช้าๆก่อนที่ทั้งห้องจะเงียบสงบ


มินจุนขยับตัวด้วยความอึดอัด หลบอยู่ในซอกของลังขนอาวุธแบบนี้มาตั้งนานแล้ว 
    ไอ้บ้านั่นก็ไม่ยอมออกไปจากห้องใต้ท้องเรือนี่ซักที
ยืนนิ่งอยู่ในซักพัก เมื่อมั่นใจว่าไม่มีใครอยู่ในห้องมืดนี่แล้วก็ค่อยๆขยับตัวออกมาจากที่ซ่อน 

    มือบางกำเครื่องอัดเสียงในมือแน่น

เหอะ...จะแน่ขนาดไหนกันเชียว

เสียงฝีเท้าที่ดังใกล้เข้ามาทำให้มินจุนเม้มริมฝีปากแน่น 
    ขยับแทรกกลับเข้าไปยืนอยู่ที่เดิม แสงจากด้านนอกทำให้เขาต้องหลับตาลง



    "ชาน ทำไรวะ" จำเสียงได้ นายคนที่ยืนเช็คของอยู่เมื่อกี้
    
"จะดูของหน่อย" 
    เสียงทุ้มที่ไม่คุ้นเคยทำให้มินจุนต้องหรี่ตามอง ร่างสูงใหญ่ของทั้งคู่อยู่ห่างจากเขาไม่มาก 
    นายคนที่เช็คของอยู่ตอนแรกหันหน้ามาทางเขา ส่วนอีกคน ยืนหันหลังให้



    "กูเช็คแล้ว" 
    เจ้าของชื่อชานพยักหน้าก่อนจะเดินออกจากห้องไปง่ายๆ 
    มินจุนเลิกคิ้วขึ้น สงสัยจะเชื่อใจกันมาก...

ขอแค่ไอ้หมอนี่เดินออกจากห้องไป...


    หัวใจของมินจุนกระตุกวูบเมื่อเห็นรอยยิ้มมุมปากของคนตัวสูงที่ยังคงยืนอยู่ในห้อง
คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน 

    เพราะอีกคนไม่ยอมเดินออกไปซักที  แทคยอนยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมจนน่าหวั่นใจ
อะไรของหมอนั่นว้ะ รีบเดินออกไปสิ..

    เร่งคนตัวสูงในใจอยู่คนเดียว แต่แล้วจู่ๆเสียงทุ้มก็โพล่งออกมา

    

" แต่อาจจะมีหมามีแมวหลงเข้ามาสองสามตัว.. ช่างมันเถอะ "
    
พูดแค่นั้นก็ย้ายตัวเองออกไปอย่างว่าง่าย
อะไรวะบทจะไปก็ไปดื้อๆ...

มินจุนค่อยๆขยับออกจากที่ซ่อนตัว 
    มองซ้ายมองขวาเมื่อเห็นว่าไม่มีใครจึงเป่าลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่


    " ฟู่วว.. ไอ่พวกกระจอกเอ้ย.. หึหึ "

    ยิ้มกริ่มให้กับแผนตัวเอง ร่างโปร่งเดินสำรวจข้าวของผิดกฎหมายเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปที่ประตู

ตุ้บ!



    " อ้ะ.. "
    
" ชู่… " 
    ปากบางถูกมือหนาปิดเอาไว้ รวมถึงตัวของเขาเองก็โดนคนตัวสูงที่โผล่เข้ามาตอนไหนไม่รู้โอบรอบตัวเอาไว้ด้วย 
    มินจุนเบิกตากว้าง ไม่คิดว่าจะมีใครย้อนกลับมาอีก



    " อย่าโวยวาย.. เดี๋ยวคนข้างนอกก็ได้แห่กันเข้ามาพอดี " 
    แทคยอนพูดดักอีกคนที่กำลังจะอ้าปากโวยวาย

มินจุนขมวดคิ้วแน่น ไอ้บ้านี่มัน...


    " ไง...มั่นใจขนาดไหนกันเชียวถึงกล้าขึ้นมาอยู่บนเรือนี่น่ะ " 
    เสียงทุ้มเอ่ยพูดอย่างกวนๆ ก่อนจะปล่อยมือที่ปิดปากคนตัวเล็กออก 

    ซึ่งมินจุนเองก็ฉลาดพอที่จะเงียบ

มือบางขยับเลื่อนช้าๆเก็บเครื่องอัดเสียงเข้ากระเป๋ากางเกง

    

"ผมกำลังพูดกับคุณอยู่นะ" 
    ปลายนิ้วของคนตัวสูงเชยคางของมินจุนให้เงยขึ้นมามองหน้ากันชัดๆ มือบางปัดมือหนาอย่างแรงก่อนจะขยับถอยออก 
    แต่ก็ช้ากว่าร่างสูง มือหนาคว้าหมับข้อที่ข้อมือเล็ก พรางลากเข้ามาหาตัว

    
" อะ..อะไรของนาย.. "
แทคยอนกระตุกยิ้มให้กับท่าทางหวาดๆของอีกคน
    
" คิดไปถึงไหนกันคุณ ผมไม่พิศวาสคุณหรอกนะ "

    ไม่พิศวาส แต่ที่จับมือเขาอยู่นี่หมายความว่าไง.. ไหนจะสายตาที่เอาแต่จ้องไม่เลิกนี่อีก..

    " ผมแค่สนใจไอ้นี้น่ะ…" 
    สิ้นเสียงทุ้ม แทคยอนเลื่อนมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงที่มินจุนพึ่งจะยัดเครื่องอัดเสียงลงไป 
    ก่อนจะคว้าไอ้เครื่องเจ้าปัญหาออกมาโชว์ขึ้นตรงหน้า
    
ดวงตาเรียวเบิกกว้างทำท่าจะคว้าเอาคืน แต่คนตัวสูงก็รู้ทันดึงมือหลบ มินจุนเม้มริมฝีปากแน่น จ้องเขม็งไปที่คนตรงหน้า

    

" เอามาให้ฉัน "
    
" ให้ก็โง่แล้วแหละคุณ " 
    แทคยอนส่งยิ้มกวนก่อนจะเก็บเครื่องอัดเสียงเข้ากระเป๋ากางเกง

ใครจะไปยอม...
    

มินจุนพุ่งตัวเข้าหา มือก็คว้าตะปบลงบนกระเป๋ากางเกงของคนตัวสูง แทคยอนหลบวูบด้วยความเสียว...



    " เฉียดไปนิดเดียวนะคุณ จะแต๊ะอั๋งผมเหรอ "

    มินจุนอ้าปากพะงาบๆแยกเขี้ยวใส่ ก่อนจะพยายามพุ่งตัวเจ้าหาอีกครั้ง คราวนี้แทคยอนรวบข้อมือทั้งสองข้างของคนตัวเล็กกว่าเอาไว้

    
" อย่าให้ผมใช้กำลังน่า.. อยู่ในนี้จนกว่าผมจะมาตามให้ออกมา.. ถ้าคุณฉลาดพอก็คงรู้ว่าต้องทำยังไง ถ้าไม่อยากโดนจับโยนลงทะเล.. "

    แทคยอนเอ่ยเสียงเรียบ แต่มีพลังพอที่จะทำให้มินจุนนิ่งฟังอยู่เงียบๆได้...



    " อยู่ในนี้เข้าใจมั้ย "

    มินจุนสะบัดข้อมือแรงๆให้หลุดจากการเกาะกุม ไม่เอ่ยตอบอะไรทั้งนั้น แค่นี้ก็หงุดหงิดอารมณ์เสียจนจะบ้าอยู่แล้ว
    

ถึงแม้ท่าทางจะดูดื้อดึงขนาดไหน แต่สุดท้ายมินจุนก็อยู่ในห้องตามที่แทคยอนบอก คิดมาถึงตอนนี้ก็อดที่จะยกยิ้มขึ้นมาไม่ได้



    .
    .
    .


    มือหนาล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง หยิบกระเป๋าตังหนังสีดำขึ้นมา
    " ยังคงไม่รอบคอบเหมือนเดิมนะมินจุน… "
     
     
     
    ----------------------------------


    

ร่างโปร่งขมวดคิ้วมุ่นขณะที่กำลังค้นรถเพื่อหากระเป๋าตังของตัวเอง 
    จำได้ว่าใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงนี่หว่า...

    

" โว้ย อยู่ไหนวะ " 
    บ่นพึมพำโวยวายอยู่คนเดียว ก่อนจะพาลใส่รถปิดประตูดังลั่นลานจอด เดินหัวเสียเข้าไปในคอนโด 
    ขึ้นไปหาบนห้องอีกทีก็ได้ อาจจะอยู่ในกระเป๋า...



    มินจุนแทบจะรื้อห้องทิ้ง ช่วงนี้มีเรื่องปวดหัวมากวนใจหลายเรื่องจนแทบจะทึ้งหัวตัวเองวันละล้านรอบ

ไหนจะต้องคอยปิดข่าวจุนโฮ 
    ไหนจะไอ่นักข่าวจอมตื๊อที่โทรหาวันละสามรอบหลังมื้ออาหาร ไหนจะไอ่คนลึกลับหน้าหล่อที่พึ่งเจอที่โกดัง



    ใช่ไอ่คนลึกลับนั่น.. ไม่เข้าใจเลย เดินเข้าเดินออกโกดังแบบไม่ทำอะไร... 
    ยังดีที่ไอ่นักข่าวจอมตื้อเบนความสนใจไป


    
แต่จะอะไรก็ตาม ตอนนี้กระเป๋าตังอยู่ไหน!!
    
ไม่ไม่ไม่ กระเป๋าตังไม่สำคัญเท่าไร แต่.. 

    การ์ดในกระเป๋าตังนั้นต่างหาก!!!

 อยู่ไหนว้ะะะะ!!

    
มินจุนทรุดตัวนั่งลงกับพื้นพลางกุมขมับอย่างไร้ทางออก การ์ดนั้นสำคัญต่อเขามาก..
    

เอ้ะ.. หรือว่า..

ตอนที่หอบมาพร้อมเอกสารนั้น.. 

    มัวแต่สนใจกระดาษจนลืมกระเป๋าตังหรอ.. ไม่น่า..

อ๊ค แทคยอน...
ไอ้บ้าเอ้ย!!!



    ยิ่งเป็นแทคยอนยิ่งแล้วใหญ่ ต้องรีบไปเอาคืนมาให้ได้ ทำยังไงดี ควรทำยังไงดี...

    เดินวนรอบห้องด้วยความกังวล ถ้าแทคยอนเปิดกระเป๋าล่ะก็...

ไอ้บ้านั่นต้องรู้ข้อมูลของจุนโฮแน่ๆ
ฟันขาวขบกัดริมฝีปากอิ่มอย่างเป็นกังวล 
    คิ้วเรียวขมวดแน่น เจอไอ้บ้านี่ทีไรมีเรื่องทุกทีเลยสิน่า!!
     
    ทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาอย่างแรง มือเรียวยกขึ้นกุมขมับ แทคยอน ไอ้บ้าแทคยอนทำให้เขาต้องปวดหัวแบบนี้มากี่รอบแล้ววะ!

    ร่างโปร่งเม้มริมฝีปากแน่น เหตุการณ์ที่ไม่อยากจะจำดันลอยเข้ามาในหัว...





    .
    .
    .



    

ร่างโปร่งกระวนกระวายต่อสายประสานงานให้วุ่นไปหมด อีกสามนาทีจะเริ่มงาน.. แต่เพชรหายไป..


    " เจ้าพวกบ้า!! ตามหาให้ทั่วสิ!! โรงแรมมันก็มีอยู่แค่นี้!! ตามหาให้หมดถ้าลากคอไอ่บ้านั้นกลับมาไม่ได้ไม่ต้องกลับมาให้ฉันเห็นหน้าซักคน!!! "

    ประกาศกร้าวจนเส้นเลือดขึ้น โกรธจนตัวสั่น ไอ่บ้าอ๊คแทคยอน!!



    ถ้าไอ่บ้านั้นขโมยเพชรหายไปจริงๆละก็.. 
    แย่แน่ๆ

มินจุนกัดริมฝีปากตัวเองด้วยความกังวล เดินเข้าไปในห้องที่มีตู้กระจกใส ในนั้นมันควรจะมีเพชรวางอยู่

    ดวงตาเรียวหรี่ลงเมื่อสังเกตเห็นกระดาษใบเล็กวางอยู่ข้างในตู้ใส มือเรียวรีบคว้าออกมาดู



    'ตามหาเค้าให้เจอนะที่รัก...'

    ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครเป็นคนเขียน มือบางขยำกระดาษในมือจนยับยู่ยี่ กัดฟันกรอดด้วยความโมโห...



    ตามหาเค้าให้เจอนะที่รัก.. งั้นหรอ.. ได้..

    ร่างโปร่งสาวเท้าออกจากห้องด้วยความไว ในใจคิดแค่จากลากหัวไอ่จอมโจรกะล่อนมาเข้าตารางด้วยน้ำมือตัวเองให้ได้

    ไอ่พวกลูกน้องก็แม่ง! ไม่ได้เรื่อง! 

    มินจุนกระชากประตูห้องออกด้วยความโมโห
แต่ยังไม่ทันได้ก้าวออกจากห้องไปก็ต้องชะงักฝีเท้าตัวเองเอาไว้ เพราะ..


    " โอ๊ะ.. เก่งจัง ตามหาผมเจอด้วย.. "



    อะ..ไอ่บ้า..นี่..
มาดักรออย่างงั้นหรอ..


    แบบนี้มัน...



    หยามกันเกินไปแล้ว!!!

    

"ว่าไงที่รัก..." 
    มินจุนมองใบหน้ายียวนกวนประสาทของคนที่ยืนกอดอกพิงกำแพงอยู่ตรงหน้า
แทคยอนยกยิ้มมุมปากอย่างกวนๆ 
    มือหนาที่สวมถุงมือสีดำยกขึ้นมาแตะปลายคิ้วเป็นเชิงล้อเลียน มินจุนกวาดสายตามองร่างที่อยู่ในชุดดำดูรัดกุมตรงหน้า
    ด้วยอารมณ์โมโหที่พุ่งปรี้ด

ดวงตาเรียวจ้องเขม็งไปที่กระเป๋าสะพายของคนตัวสูง มั่นใจว่าเพชรต้องอยู่ในนั้นแน่

    

" ใครที่รักนาย ส่งเพชรมาให้ฉัน "

    มินจุนว่าก่อนจะขยับตัวเข้าหา แทคยอนเองก็ไม่ขยับตัวหลบ ยืนอยู่นิ่งๆเป็นเชิงท้าทาย

    

" นายทำแบบนี้ต้องการอะไร " 
    ถามด้วยความหงุดหงิด เพราะพอจะเอื้อมคว้ากระเป๋า คนตัวสูงก็ขยับหลบ แถมยังยื่นหน้าเข้ามาใกล้อีก!



    " นานๆเราจะได้เจอกันทีน่า...ไม่คิดถึงกันบ้างหรือไง " 
    เสียงทุ้มว่า พร้อมกับทำหน้าอ้อน จนมินจุนอยากจะถีบให้ติดกำแพง



    " ถ้าจุดประสงค์นายมีแค่นี้ก็กลับไปซะ " 
    ดวงตาเรียวกลับมานิ่งสงบ แทคยอนยักไหล่เมื่อได้ยินประโยคเป็นเชิงไล่กลายๆ 
    พลิกตัวหันหลังกลับทั้งๆที่รู้ว่าไม่ควรหันหลังให้คนตรงหน้า

สัมผัสเย็นของโลหะที่จ่ออยู่บนเอวทำให้เขาชะงัก 
    แรงดึงรั้งจากกระเป๋าทำให้มือหนาต้องยกขึ้นมาจับสายสะพายไว้แน่น

    

" อย่าหันหลังให้ศัตรู... " มินจุนแค่นหัวเราะในลำคอ

    " คุณไม่ใช่ศัตรูซะหน่อย.. " แทคยอนตอบเสียงเรียบ
แทคยอนหันหลังกลับมาเผชิญหน้ากับคนตรงหน้า 
    ไม่วายขยับตัวเจ้าหาปลายกระบอกปืน...

    
มินจุนจ้องร่างสูงไม่วางตา ซึ่งแทคยอนเองก็จ้องกลับมาเหมือนกัน

    

" ยิงสิ "
    
" ยิงแน่ "

    คนตัวเล็กกว่าสวนกลับไปทันทีพร้อมกับออกแรงกระชากกระเป๋ามาถือไว้ในมือ

แทคยอนยิ้มกริ่ม
    ขยับเข้าหาปลายกระบอกปืนจนมินจุนต้องใช้กระเป๋าดันรักษาระยะห่างเอาไว้



    " ถอยออกไป ไม่งั้นยิงจริงๆด้วย "

    " ก็แค่แวะมาบอกรัก...ไม่เห็นต้องไล่กันเลย..." 
    ร่างโปร่งนิ่งค้างไปเมื่อได้สบสายตากับดวงตาคมกริบที่จ้องมองลงมา



    " คิดถึงนะมินจุนอ่า... "

    เสียงกระซิบสุดท้ายดังขึ้นข้างใบหู พร้อมกับกระเป๋าที่อยู่ในมือก็โดนดึงกลับไปแบบไม่รูัตัว

พอดึงสติกลับมาได้ก็อยากจะร้องออกมาดังๆ! 
    ไอ้บ้าแทคยอน!!! ไอ้...

    
ดวงตาเรียวเหลือบไปเห็นกระดาษแผ่นเล็กปลิวตกอยู่บนพื้น ยกมือขึ้นเสยผมถอนหายใจอย่างอารมณ์เสีย 
    แต่ก็เดินไปหยิบขึ้นมา




    'ไว้เจอกันใหม่นะครับที่รัก'





    .
    .
    .



    มินจุนสะบัดศีรษะไปมาเร็วๆเพื่อไล่ความคิดบ้าๆออกจากสมอง ฮึ่ย! ตามมาหลอกหลอนไม่จบไม่สิ้น ! 

    โว้ยยยย กระเป๋าตัง!!
    มินจุนทิ้งตังลงนอนแผ่บนโซฟาตัวแคบ ขยี้ผมตัวเองจนฟูฟ่อง คิดไม่ออกว่าจะต้องไปเอาคืนยังไง 

    ก๊อกๆ 

    เสียงเคาะประตูทำให้มินจุนต้องดึงตัวเองบุกขึ้นมานั่ง เหลือบมองนาฬิกาบนฝาผนังเล็กน้อย ก่อจะเดินออกไปเปิด เวลานี้ไท่ค่อยมีใครมาหรอกนอกจาก...

    " ฮัลโหล สวัสดีเพื่อนรักกกกก " 
    เสียงแหลมเล็กเอ่ยทักมาก่อนที่ประตูตะเปิดออกหมดซะอีก มินจุนถอนหายใจก่อนจะเดินนำเข้ามาในห้องก่อน โจควอนปิดประตูพร้อมกับล็อคห้องให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินมาทรุดตัวลงนั่งบนโซฟา ที่ประจำ 

    " เป็นอะไร " 
    โจควอนเอ่ยทักเมื่อเห็นท่าทางหมดอาลัยตายอยากของมินจุน จมูกโด่งพ่นลมหายใจพรืด นั่นยิ่งทำให้โจควอนต้องขยับเข้าไปใกล้เพื่อนตัวเองมากยิ่งขึ้น มีเรื่องอะไรที่ทำให้มินจุนเป็นกังวลขนาดนั้น 

    " กระเป๋าตังหาย " เพื่อนตัวเล็กอ้าปากค้าง ก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ 

    " แค่กระเป๋าตังหายนี่เครียดขนาดนั้นเลยเรอะ เอาน่า...เงินน่ะ หาใหม่ได้ "
    " ไม่ได้เครียดเรื่องเงิน! ในกระเป๋าตังนั่นมีการ์ดใส่ข้อมูลของจุนโฮอยู่! " 

    " ห๊าาาาาา!! ไม่จริงงง! " 
    ควอนอ้าปากค้างตาโต ก่อนจะค่อยๆทรุดตัวลงข้างๆ 

    " จริง.. " 
    มินจุนตอบกลับเสียงอ่อย.. 
    ให้ตายเถอะ เรื่องสำคัญแบบนี้พลาดได้ไงนะ

    " หายที่ไหน.. "
    หน้าตาตื่นๆของควอนแสดงออกอย่างชัดเจน ก็ความปลอดภัยของจุนโฮสำคัญที่สุด หายไปแบบนี้แย่แน่ๆไม่ว่ามันจะหายไปอยู่ที่ไหนก็เถอะ

    " หายไปตอนเจอ.. แทคยอน "

    " เจอแทคยอน!!!! " 
    คราวนี้โตควอนหน้าเสียเข้าไปมากกว่าเดิม หายที่ไหนไม่หาย หายไปตอนเจอศัตรูที่เอาจุนโฮเข้าไปฝากไว้ซะอีก ตายแน่ๆ ถ้าแทคยอนรู้ว่าจุนโฮเป็นสายลับละก็... ไม่อยากจะเดาเลย

    ควอนนั่งนิ่งพลางคิดหาทางแก้ไขยังไงก็ต้องเอากระเป๋าตังกลับมาให้ได้ ก่อนที่ความจะแตก

    มินจุนเองก็หันมาสงบสติอารมณ์เลิกโวยวาย พลางคิดว่าตัวเองจะติดต่อกับวายร้ายคนนี้ได้ยังไง เบอร์อะไรก็ไม่มีซักอย่าง 

    แต่เอ้ะ.. ตอนนี้เหมือนว่าจะเคย..


    .
    .
    .



    " มีคนติดอยู่ข้างในครับ!! " 
    ประโยคแรกที่ได้ยินเมื่อก้าวลงจากรถมายังที่เกิดเหตุวาวเพลิง มินจุนเบิกตากว้างวิ่งนำเข้าไปในตัวตึกทันที 
    พร้อมกับลูกน้องคนอื่นๆที่พากันวิ่งตามเข้ามา 
    มือบางยกขึ้นปิดจมูก ควันไฟโขมงทำให้มินจุนรู้สึกแสบตา แต่ดวงตาเรียวก็พยายามสอดส่ายหาทั้งคนที่ติดอยู่ข้างใน 
    รวมถึงตัวต้นเหตุการวางเพลิงครั้งนี้ 

    หรี่ตาลงพยายามมองหาตัวต้นเหตุ พร้อมกับคอยเปิดทางให้คนที่วิ่งกรูกันหนีตาย 
    มินจุนสาวเท้าขึ้นไปยังชั้นสิบสองที่ได้รับรายงานมาว่าเป็นชั้นที่มีการวางเพลิง 

    แค่ขึ้นมาให้ถึงชั้นนี้ก็แทบตายแล้ว... 
    มือเรียวพังประตูออกทุกห้องเพื่อตรวจหาไอ่จอมวายร้ายทั้งๆที่ควันสีขาวลอยบังทัศนวิสัยจนแทบไม่เห็นอะไร

    เคร้งงง~! 
    เสียงเหมือนมีใครกำลังโยนอะไรบางอย่างทำให้มินจุนรีบวิ่งไปที่ต้นเสียงตรงหัวบันไดทางขึ้น

    ฮวางชานซอง.. ไอ่วายร้ายหน้าหล่อที่กำลังยืนแตะถังน้ำมันลงไปชั้นข้างล่างอย่างไม่ใยดี... 
    ดวงตาเรียวยาวดูน่ากลัวหันมามอง ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงทักทายแล้วแตะถังน้ำมันถังสุดท้ายลงชั้นล่างไป


    มินจุนจ้องเขม็งก้าวพรวดเข้าไปหา แต่ชานซองกลับหันหลังกลับวิ่งขึ้นไปอีกชั้น ขาเรียววิ่งตามอย่างไม่ยอมแพ้ 
    ก้าวข้ามบันไดทีละหลายๆขั้น เสียงฝีเท้าดังอยู่ไม่ไกล ถึงจะหอบเหนื่อนสำลักควันขนาดไหนแต่ขาทั้งสองข้างก็ไม่ยอมหยุด

    วิ่งมาจนถึงชั้นบนสุด มือบางผลักประตูดาดฟ้าออกอย่างแรง พลางกวาดสายตามองหาตัววายร้ายที่เขาวิ่งตาม แต่กลับไม่เจอ... 

    หายไปไหนวะ!!!

    มินจุนกำมือแน่นหอบหนักๆ พยายามสูดอากาศเข้าปอดถี่ๆ 

    " ไง " 
    น้ำเสียงกวนๆที่คุ้นเคยทำเอามินจุนตัวแข็งท่ือ... ไอ้บ้านี่อีกแล้ว... 

    แล้วชานซองไปไหน.. หายตัวได้รึไงว้ะ! ก็เห็นยังวิ่งมาทางนี้อยู่เลย!! 
    เลือกที่จะหันซ้ายหันขวามองหาคนที่วิ่งตามมาเมื่อกี้ 

    " เห้~ คุณ.. ผมยืนอยู่ตรงหน้าคุณนะ.. มองหาอะไร "​
    คนตัวเล็กกว่าหันมาค้อนมองด้วยอารมณ์โกรธ เจอไอ่พวกบ้านี่ทีไรเป็นต้องพินาศทุกที!

    แทคยอนโบกมือไปมาเรียกร้องความสนใจ หลายครั้งที่ยืนคุยกันโต้งๆแบบนี้ แต่ก็จับไม่ได้ซักที.. 
    เพราะอะไรละ.. ดูหุ่นพวกมันซะก่อน.. 

    " ไม่สงสารคนที่เขาไม่รู้เรื่องด้วยรึไง.. ทำแบบนี้ "​
    ถามออกไปนิ่งๆ จ้องหน้าแทคยอนอย่างเอาเรื่อง แต่มีหรือที่อีกคนจะไม่จ้องกลับ มองลึกเข้าไปในเรียวตาสวยพลางยกยิ้มขึ้นมา

    " คุณคงรู้จักคำว่าหน้าที่นะมินจุน " 
    ตอบลอยหน้าลอยตาก่อนจะยื่นเศษกระดาษบางอย่างให้ 
    " อะไร.. " มินจุนมองคนตรงหน้าแบบกล้าๆกลัว 
    " ผมต้องไปแล้ว ครั้งนี้เรามีเวลาดด้วยกันน้อยจัง.. "

    แทคยอนยื่นกระดาษแผ่นเล็กเข้าหามากกว่าเดิม 
    " ผมอยากเจอคุณให้นานกว่านี้แล้วก็ไม่ใช่ในสภานการณ์ที่ผมเป็นผู้ร้ายแบบนี้ด้วย.. "
    ดวงตาคมมองคนตรงหน้าด้วยอารมณ์เว้าวอนแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน.. มือบางยังระแวงที่จะยื่นมือออกไปรับ

    " แทคยอน! ต้องไปแล้ว! " 
    เสียงใครซักคนที่จำรางๆได้ว่าเป็นชานซองตะโกนขึ้นมาจากในตึก คนตัวศูงขมวดคิ้วเข้าหากันพลางถอนหายใจทิ้งเฮือกใหญ่และก้มลงวางเศษกระดาษแผ่นเล็กไว้ตรงหน้า
    " วางไว้ตรงนี้นะ.. "

    มินจุนอยากจะรั้งตัวแทคยอนเอาไว้ แล้วใส่กุญแจมือส่งเข้าตารางซะให้เรื่องทุกอย่างจบไปซักที เหนื่อยที่จะต้องวิ่งตาม แต่ก็ทำไม่ได้ แทคยอนกับชานซองเก่งเกินไป.. 
    นึกโมโหตัวเองอยู่บ่อยๆที่มีโอกาสยืนต่อหน้าอยู่แทบทุกครั้งแต่ก็ทำอะไรไม่ได้


    ร่างโปร่งก้มลงมองกระดาษแผ่นเล็กที่วางอยู่บนพื้น ก่อนที่ลมจะพัดมันปลิวหายไป มินจุนก้มลงหยิบมันขึ้นมา ตัวเลขสิบหลักทำให้ติ้วเรียวค่อยๆเลิกขึ้น

    "ทิ้งเบอร์ไว้ให้เนี่ยนะ..." 



    .
    .
    .




    มินจุนกระเด้งตัวขึ้นจากโซฟา รีบวิ่งเข้าไปค้นในห้องนอนของตัวเองทันที ตอนนั้นเก็บไว้ไหนวะ คงไม่ได้ทิ้งไปแล้วหรอกนะ... 

    โจควอนวิ่งตามมินจุนเข้ามาในห้องอย่างงงๆ เห็นเพื่อนตัวเองกำลังค้นนู่นค้นนี้ก็ได้แต่เกาหัวตัวเอง ก่อนจะเอ่ยปากถาม

    " หาอะไรน่ะ ช่วยหามั้ย "
    " กระดาษแผ่นเล็กๆ " 
    มินจุนตอบสั้นๆ มือเรียวคว่ำถังขยะที่มีแต่เศษกระดาษเต็มไปหมดลงบนพื้นห้อง
    แต่เรื่องมันก็นานมาแล้ว...ไม่น่าจะอยู่ในถังขยะนะ 

    โจควอนมองเพื่อนสนิทที่ยืนพึมพำอยู่คนเดียวโดยที่ไม่รู้จะช่วยยังไง เพราะเขาไม่รู้ว่ากระดาษแผ่นนั้นหน้าตาเป็นไง เขียนอะไรเอาไว้ 

    " ทำไมไม่ลองค้นกระเป๋า ตู้ ลิ้นชักอะไรแบบนี้ดูล่ะ " 
    เอ่ยเสนอไปก่อนจะเดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงนุ่ม มินจุนขมวดคิ้วแน่น 

    " ฉันไม่น่าจะเก็บไว้ในกระเป๋านะ " 
    ปากพูดแบบนั้นแต่มือก็เริ่มค้นตามที่โจควอนบอก กระเป๋ากับตู้ไม่มี ถ้าในลิ้นชักไม่มีก็คง...

    เจอแล้ว! 

    มินจุนคว้ากระดาษแผ่นเล็กมาถือไว้ในมือ 
    ต้องโทรจริงๆสินะ.. 

    " เห้ยย เบอร์โทรเลยหรอ! "​
    " มันไม่ใช่เบอร์หมอนั้นจริงๆหรอก คงไม่โง่ทิ้งเบอร์ไว้ให้สาวถึงรังตัวเองหรอก แต่ยังไงก็ต้องลองโทร.. "



    --------------




    " ช้าหน่อยได่ไหม.."
    มือเรียวเอื้อมไปกระตุกชายเสื้อของชานซองเบาๆ กลีบปากอิ่มสีหวานแดงช้ำจากรสจูบเล็กน้อยเม้มเข้าหากันเพราะความกลัว.. 

    พามาที่ไหนก็ไม่รู้ เดินก็ลำบากแล้ว.. ยังจะเดินเร็วอีกเดินตามไม่ทัน..
    ความจริงคนตัวสูงไม่ได้เดินเร็วหรอก แต่เพราะสะโพกของคนตัวเล็กที่ระบบไปหมดจนแทบจะอยากลงไปคลานกับพื้น 

    " เดินช้าชะมัด.. "​
    บ่นเสียงนิ่งออกมาพลางชะลอความเร็วลงเล็กน้อย.. เล็กน้อยเท่านั้นแหละ.. จุนโฮก็ยังเดินตามไม่ทันอยู่ดี

    ผู้คนมากมายขวักไขว่ในตึกร้างแห่งหนึ่ง ตึกร้างที่ไม่ควรจะมีคนอยู่.. แต่ตอนนี้กลับมีชายฉกรรจ์ เดินชนไหล่กันไปมาทำเอาจุนโฮหน้านิ่ว 

    บ่อน.. บ่อนขนาดใหญ่..
    ไม่รู้ว่าพี่มินจุนรู้รึยังว่ามีบ่อนใหญ่ขนาดนี้อยู่ใจกลางเมือง
    ดวงตาเรียวชาวสอดส่องไปทั่วพลางเก็บรายละเอียด ถึงแม้ว่าสติที่มีค่อนข้างจะเลือนลางเต็มที

    บึก..!
    จุนโฮเซไปตามแรงกระแทกเพราะจำนวนคน เซไปหาแผ่นหลังแกร่งของคนตัวโต

    " ก็รู้ว่าไม่ไหวก็ยังจะตามมาอีก "​
    ร่างสูงหันมาดุเสียงเข้ม ก่อนจะสาวเท้ายาวๆหนี จุนโฮเบิกตากว้างรีบฝืนตัวเองเดินตามไป ก่อนที่จะโดนคนพวกนี้เหยียบตาย..

    ไอ่คนใจร้ายเอ้ย!!
    ถ้าให้อยู่บ้านเฉยๆมีหวังงานไม่คืบหน้าแน่ ถึงต้องยอมลากสังขารแย่ๆของตัวเองตามมา 
    ชานซองอยู่ในสูทดำ เสยผมเปิดหน้าผากขึ้นจนหมด สายตาคมดุดันกวาดตาไปทั่ว หลายคนที่ต้องยอมหลบให้อย่างเกรงๆ และหลายคนยกมือไหว้..

    ชานซองในลุคแบบนี้ น่ากลัวไม่น้อยเลย..

    แผ่นหลังกว้างห่างออกไปเรื่อยๆทำให้จุนโฮต้องรีบก้าวตามเร็วๆ แต่ก็ยังตามไม่ทันอยู่ดี 

    " ชานซองรอด้วย " 
    เสียงหวานแหบตะโกนเรียก แต่เหมือนว่าคนตัวสูงจะไม่ได้ยิน เสียงในบ่อนนี่ก็ดังอย่างกับอะไรดี จุนโฮพยายามสอดแทรกตัวผ่านผู้คนเพื่อที่จะตามร่างสูงให้ทัน 

    เดินนำลิ่วโดยไม่หันมามองจุนโฮเลยแม้แต่น้อย ร่างเล็กกัดฟันแน่น แทบจะทนกันความเจ็บระบมของสะโพกไม่ไหวอยู่แล้วนะ... 

    จุนโฮจ้องแผ่นหลังกว้างเขม็ง กลัวจะหลง... ถ้าหลงเขาต้องตายแน่ๆ 

    ด้วยความเร่งรีบและไม่ได้มองทาง ทำให้จุนโฮเดินชนกับชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ ร่างเล็กเซออกนอกเส้นทางเผลอละสายตาออกจากแผ่นหลังกว้าง แค่พริบตาเดียวชานซองก็หายไปซะแล้ว 

    จุนโฮก้มศีรษะลงเป็นเชิงขอโทษ โชคดีที่ชายคนนั้นไม่เอาเรื่อง ขาเรียวก้าวเดินต่อไปทางที่เขาเห็นแผ่นหลังกว้างเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะหยุดยืนอยู่ตรงทางแยก หันซ้ายหันขวาด้วยความสับสน ไปทางไหนดีล่ะทีนี้... 

    เสียงสีและเสียงดังอึกทึกทำให้ร่างเล็กน้องเดินหลบมุม พยายามยืดตัวมองหาชานซอง
    ไม่น่าจะหายาก.. สูงเด่นแบบนั้น.. 
    แต่ยิ่งหาเท่าไรก็หาไม่เจอ เสียงโหวกเหวกโวยวายฟังไม่ได้ศัพท์ทำเอาจุนโฮต้องก้มหน้าตั้งสติ สายตาพร่ามัวไปหมด

    " นายจะใจร้ายเกินไปแล้ว.. " 
    จู่ๆก็คิดถึงมินจุนเอาดื้อๆ ไม่รู้ว่างานนี้มันจะยากไปรึป่าว รู้สึกว่าตัวเองไม่แข้มแข็งพอไม่เหมาะกับงานแบบนี้เลย.. 
    จะหาที่อยู่นั้นได้ยังไง..

    พ่นลมหายใจทิ้งเฮือกใหญ่ 
    ภาพของพี่น้องที่ล้มตายไปต่อหน้าต่อตาแวบเข้ามาในสมอง เสียงร้องโอดครวญน่ากลัวนั้นยังจำมันได้ดี
    ไม่ได้สิจุนโฮ.. อุส่ามาได้ถึงตรงนี้แล้ว..

    คนตัวเล็กสลัดความคิดออกไปให้หมด ก่อนจะเริ่มใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์ 
    ตัดสินใจเดินเข้าในทางเดิน ยาวลึกเข้าไป.. 
    ที่นี่อาจจะเกี่ยวกับคนที่ชื่อปาร์คจินยองก็ได้..

    เสียงดังของผู้คนเริ่มเบาลงเรื่อยๆ จุนโฮกวาดสายตามองรอบๆด้วยความสงสัย มันเป็นทางเดินไปห้องอะไรวะ... 

    แผ่นหลังบางแนบสนิทกับกำแพง ค่อยๆเดินเข้าไปลึกขึ้นเรื่อยๆ ดวงตาเรียวหรี่ลงเมื่อเห็นประตูห้องห้องหนึ่ง 

    มันจะมีอะไรเกี่ยวข้องจริงหรอ..
    เสียงดวงดูแล้วกันจุนโฮ อยากน้อยอาจจะได้รู้อะไรเพิ่มขึ้นบ้าง...
    พยายามเดินให้เสียงฝีเท้ากระทบพื้นให้น้อยที่สุดจนกระทั่งมาหยุดอยู่หน้าประตูสีแดงเข้ม.. 
    มือเรียวค่อยๆยื่นออกไปแตะกับลูกบิดประตูที่เย็นเฉียบ..


    ปัง!!!

    ไม่ทันที่จะได้เปิดประตูออก ก็ต้องสะดุ้งเฮือกกับเสียงปืนที่ดังมาจากทางเดินเมื่อกี้.. 

    ดวงตาเรียวเล็กพยายามหรี่มองกลับไป แสงไฟไหววูปจากปลายทางทำให้จุนโฮกลืนน้ำลายลงคอช้าๆ ดูเหมือนจะเกิดเรื่องซะแล้ว
    จุนโฮหันกลับมามองลูกบิดตรงหน้า เผลอเลียริมฝีปากบางอย่างลืมตัว


    ปัง!! 

    เสียงกระสุนปืนนัดที่สองดังขึ้น เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาทำให้จุนโฮผละมือออกพลางขยับตัวหนี ผู้คนพากันวิ่งหนีเข้ามาตามทางเดิน 
    คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน ก้อนเนื้อในอกเต้นเร็วขึ้นกว่าเดิม

    คนตัวเล็กตัดสินใจที่จะเดินย้อนกลับไป พลางหลบแรงกระแทกของคนที่วิ่งสวนเข้ามา สาวเท้าเร็วขึ้นเมื่อได้ยินโวยวายและเสียงปืนดึงขึ้นอีกนัด

    " ฉันบอกไว้ว่ายังไง!!! "​
    เสียงตะหวาดดังไปทั่ว เลือดแดงสดนองเจิงเต็มพื้นจุนโฮเบิกตากล้างด้วยความตกใจ ชานซองยืนอยู่กลางซากศพจำนวนหนึ่ง...

    ชายชุดดำคนหนึ่งถูกมือหนากระชากเข้ามาหาตัว ปลายกระบอกปืนกระบอกเดิมที่เคยเห็นในวันนั้นจ่อเข้าที่ขมับ

    " พวกแกมันไม่ได้เรื่อง.. น่าสมเพศสิ้นดี.. " 
    ร่างสูงกดเสียงต่ำกระซิบขู่จนจุนโฮเผลอถอยหนี จากประชากรที่ล้นหลามก่อนหน้าตอนนี้เหลือเพียงไม่ถึงครั้ง บางคนก็วิ่งหนีออกไป บางคนก็หลบอยู่ใต้โต๊ะ..

    ปัง!!!
    อีกครั้งที่คนตัวเล็กสะดุ้งจนตัวโยน หันไปมองที่อื่นแปปเดียวเอง..

    ร่างไร้วิญญาณกระแทกลงกับพื้น กลิ่นคาวเลือดพุ่งกระจายไปทั่ว บรรยากาศเหมือนทุกอย่างถูกหยุดเวลา.. 

    ชายชุดดำที่เหลือบืนนิ่งก้มหน้าไมมีแม้แต่เสียงของลมหายใจ..
    ชานซองยืนนิ่งจ้องมองลูกน้องที่เหลือ ก่อนจะสบัดปลายกระบอกปืนใส่คนตรงหน้าจนหน้าหันเรียงคน

    "​ จะไปทำอะไรก็ทำ.. " 
    หันตัวหนีเหน็บกระบอกปืนเข้ากับหลังกางเกง เดินข้ามกองเลือดทิ้งตัวลงกับโซฟาสีแดงสดตรงมุมด้านใน คนตัวเล็กเหลือบมองไปรอบๆชายชุดดำเดินออกจากห้องไปโดยไม่ลืมที่จะหิ้วร่างไร้ลมหายใจออกไปด้วย ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติราวกลับว่านี่เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นเป็นประจำ 

    บ้าไปแล้ว...

    จุนโฮค่อยๆขยับตัวบ้าง สมองขาวโพลนตื้อตันไปหมด เมื่อกี้มันอะไร... 
    รู้แต่ว่าตอนนี้ไม่กล้าเข้าใกล้ใครซักคน.. โดยเฉพาะชานซอง.. ถ้าแทคยอนไม่ห้ามให้ไม่ให้ฆ่าเขาเองละก็.. คงมีสภาพไม่ต่างจากเมื่อกี้แน่ๆ.. 

    " อ้ะ.. " 
    ในขณะที่กำลังเดินออกมาจากปากทางเดินก็มีมือหยาบแตะเข้าที่เอวบาง ร่างเล็กขยับตัวหนีอัตโนมัติหันไปจ้องต้นเหตุแทบจะทันที

    " พึ่งมาหรอ.. ไม่เคยเห็นหน้าเลย " 
    เสียงทักทายเอ่ยขึ้นท่ามกลางผู้คนที่เริ่มขวักไขว่เหมือนเดิม จุนโฮพยักหน้าให้น้อยๆก่อนจะเอี้ยวตัวหนีออก
    " เดี๋ยวสิ คุยกันซักหน่อยจะเป็นไร.. " ข้อมือบางถูกรั้งไว้จากคนเดิม 
    " ปล่อย.. " แกล้งพูดเสียงเข้ม ทั้งๆที่ในใจกลัวแทบบ้า..


    ชายแปลกหน้ายิ้มกริ่มดึงกระชากคนตัวเล็กเข้าหาตัว มือหยาบแตะสัมผัสแก้มนุ่มแผ่วเบา จุนโฮเบิกตากว้างปัดมือออกอย่างขยะแขยง 

    " ปล่อย! " 
    พยายามสะบัดตัวออกจากอีกคนแรงๆ แต่เหมือนว่าแรงของเขาจะสู้คนตรงหน้าไม่ได้เลย 

    " จุ๊ๆ...อย่าดุนักเลย " 
    ชายแปลกหน้าส่ายศีรษะยิ้มๆเมื่อเห็นดวงตาเรียวเริ่มแข็งกร้าว 
    มือบางบิดข้อมือแรงๆก่อนจะออกแรงผลักคนตรงหน้าออก ชายแปลกหน้าซวนเซเล็กน้อย อาจจะเป็นเพราะกำลังเมา จุนโฮรีบแกะมือปลาหมึกที่เกี่ยวเอวเขาอยู่ออก รีบพลิกตัวออกเดินทันที 

    " อ้ะ! " 
    ร่างเล็กร้องเสียงหลงเมื่อวงแขนของไอ้คนเดิมเกี่ยวรัดเอวเขาไว้แน่นจากทางด้านหลัง

    " ปล่อยนะเว้ย! "
    ขาเรียวถูกยกลอยขึ้นจากพื้น ทำให้จุนโฮใจหายวูบ 

    " บอกให้ปล่อย!! " 
    จุนโฮดิ้นพล่าน ตะโกนเสียงดังเพื่อเรียกร้องความสนใจจากคนอื่นๆ แต่ไม่มีใครหันมาสนใจเลยซักนิด จุนโฮจิกเล็บลงบนท่อนแขนที่โอบรัดเอวของเขาอยู่แรงๆ

    " ฤทธิ์เยอะนักนะ เดี๋ยวจะทำให้ร้องไม่ออกเลย " 
    จุนโฮตัวสั่นเทาอย่างช่วยไม่ได้ แผ่นหลังบางถูกดันให้ติดเสา จุนโฮพยายามดันหน้าของไอ้หื่นโรคจิตก่อนจะยกเท้าขึ้นยันเข้าไปที่หน้าท้อง 

    จุนโฮหอบหนัก ดวงตาเรียวจ้องเขม็งไปยังร่างสูงที่ยืนอยู่ไม่ห่าง ฮวางชานซอง...อยู่ตรงนั้นมาตั้งแต่ต้น...เห็นเหตุการณ์ทุกอย่างแต่กลับไม่มาช่วยเขาซักนิด! 

    ดวงตาเรียวยาวจ้องมาที่คนตัวเล็กนิ่งๆ มือหยาบคู่นั้นกำลังไล้สะโพกอิ่มขึ้นไปหาเอวบางเรื่อยๆ 

    " ไอ่..บ้าเอ้ย.. ปล่อยนะ!! "​
    วันนี้มันวันอะไรกันแน่! ที่ทำไปทั้งหมดเหมือนจะไม่ได้อะไรกลับมาซักอย่าง! เหนื่อยร่างแทบแหลกยังจะต้องมาปัดไอ่ขี้เมานี่ออกจากตัวอีกหรอ! 

    แล้วไอ่บ้าชานซองนั้นนั่งตาบอดอยู่รึไง!! ฮึ๊ยยย!!

    จุนโฮดิ้นไปมาในวงแขน แรงค่อยๆอ่อนลงเหลือน้อยลทุกที เอาตัวรอดจากคนเมาไม่มีสติยังไม่ได้เลยจุนโฮ.. ทั้งๆที่เคยฝึกมาแล้ว.. ทุเรศชะมัด..

    ร่างบางจ้องไปที่ใบหน้าคม เว้าวอนเป็นครั้งสุดท้าย.. 
    อย่าปล่อยไว้แบบนี้ชานซอง.. ทำอะไรซักอย่างสิ..

    สติทั้งหมดค่อยๆเลือนลาง ชานซองแค่นยิ้มก่อนจะเบือนหน้าหนีช้าๆ

    นายมันใจร้ายที่สุดเลยชานซอง.. 
    คนตัวเล็กหันมาใช้แรงเฮือกสุดท้ายที่มี ผลักอกคนตรงหน้าออกแต่ก็ไม่เป็นผล ปากหนาตรงหน้าตรงเข้ามาซุกไซร้เข้ากับซอกคอหอม..

    " อ้ะ..!! ปล่อยนะ!! "​
    เบิกตากว้างด้วยความตกใจ พยายามหาทางดิ้นหนี แต่เหมือนจะไม่มีทางไหนช่วยให้ออกจากเหตุการณ์บ้าๆนี้ได้เลย...
    หยดน้ำใสๆค่อยๆเอ่อล้นออกมา จุนโฮสะกดเสียงร้องของตัวเองไว้ตัวสั่นเพราะความกลัว

    ชายตรงหน้าไล้จูบขึ้นมาจนถึงสันกรามเล็กจนกระทั่ง.. 

    " แกควรมีมารยาทและให้เกียติ์ที่นี้มากกว่านี้นะ ไอ่พวกเศษสวะ.. " 
    แรงกระชากขากใครซักคนทำให้จุนโฮหลุดออกจากอ้อมแขนนั้น แขนเล็กยกขึ้นมาปาดน้ำตาออกลวกๆก่อนจะเงยหน้ามองบุคคลปริศนา..

    นั้นมัน.. 
    ผู้ชายคนนั้น.. คนที่เข้ามาหาชานซองตอนเย็น..









    ------------

    อัพช้าใช่ไหม? 5555 

    อยากทวง,เร่งไรท์ ติดแท็ก #theKiller ในทวิตแล้วด่ามาได้ไม่ยั้งเลย คอยอ่านทุกข้อความทุกข้อเสนอ 55
    หรือไม่สะใจ @dbdqb , @MmolradaA ฟอลมาทวงกันได้

    ถ้าจะอ่านแล้วไม่เม้นก็ ติดแท๊ก #TheKiller ในทวิต
    แล้วคอมเม้นสั้นๆมาหน่อยก็ได้นะคะคนเขียนจะได้ชื่นใจอุส่าจัดเต็ม ^^




    ฮอลลล ยาวไหม 555555 
    กว่าจะจบตอนนี้ได้ ถึงเราจะอัพฟิคช้าแต่ก็อัดแน่นไปด้วยตวาวยาวน้า (แถ) ถถถถถถ
    >SQWEEZ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×