ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic GOT7] Caramel Love (BBam & JackBam)

    ลำดับตอนที่ #13 : Chapter 13 Worry about you

    • อัปเดตล่าสุด 21 ธ.ค. 59


    “เจบีฮยอง ได้ดูข่าวรึเปล่าฮะ”

     

    “ไม่อ่ะ...” 

     

    ก็รู้ดีอยู่แล้วว่าข่าวจะออกมายังไง ทำไมยองแจถึงต้องวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาแบบนี้ด้วยนะ ผมเห็นแก่ตัวเกินไปรึเปล่า

     

    นะที่บอกเลิกแบมแบมไปแบบนั้น และยังปล่อยให้แบมแบมต้องไปเผชิญหน้ากับนักข่าวมากมายเพียงลำพัง

     

    “แบมแบมเป็นลมล้มพับไปกลางงานแถลงข่าวเลยนะฮยอง”

     

    “เมื่อกี้นายว่าอะไรนะ”

     

    “ฮยองทำอะไรสักอย่างสิฮะ ผมว่าแบบนี้มันไม่ถูกอ่ะ ถ้าแบมแบมเป็นอะไรไปมากกว่านี้ฮยองยังจะอยู่เฉยอีกหรอฮะ”

     

    “แต่ว่า...” ผมสัญญากับกันต์ฮยองไว้แล้วนี่ ยังไงก็คงมีคนดูแลแบมแบมอยู่แล้ว ไม่ใช่ไม่เป็นห่วง ไม่ใช่ไม่อยากไป

     

    หา แต่ตอนนี้ทุกอย่างไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว หน้าที่ดูแลและอยู่เคียงข้างแบมแบมไม่ใช่ของผมอีกต่อไปแล้ว เดี๋ยวมัน

     

    ก็จะผ่านไป เข้มแข็งไว้นะแบมแบม

     

     

    “โธ่ ฮยอง~ ผมล่ะไม่เข้าใจฮยองจริงๆ” ขอบใจมากนะยองแจ แต่ปล่อยให้เป็นแบบนี้แหละดีแล้ว เดี๋ยวทุกอย่างมัน

     

    ก็จะดีขึ้นเอง รวมถึงหัวใจของผมเองด้วย เวลาจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น

     

     

     

    ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าเจบีฮยองจะมาอารมณ์ศิลป์ ตีหน้านิ่งอะไรตอนนี้ ทำเป็นเฉยชาแต่ก็นั่งเศร้า ขนมแต่ละ

     

    อย่างที่ทำออกมาก็ไร้ชีวิตชีวาตามไปด้วย ไม่ใช่ว่ามันไม่อร่อยหรือรสชาติแย่ลงหรอกนะครับ แต่บางอย่างมันขาด

     

    หายไป สงสัยต้องร่วมมือกับแจ็คสันฮยองตามคำบอกเล่าของยูคยอมซะแล้ว

     

    “ยูคยอมมา...”

     

    “ทำหน้าแบบนี้เดินออกมาแสดงว่าไม่ได้ผลสินะ”

     

    “ฮื่อ...เราจะทำยังไงกันต่อไปดีอ่ะ”

     

    “รอดูไปก่อน ถ้าไม่ดีขึ้นเราค่อยไปปรึกษาแจ็คสันฮยอง”

     

    “โอเค แล้วนี่นายจะอยู่ที่ร้านทั้งวันเลยหรือไง”

     

    “ก็กลับเกาหลีคราวนี้ฉันตั้งใจจะมาอยู่กับนายนี่นา”

     

    “ไหนๆ ก็อยู่ว่างๆ แล้วถ่ายรูปร้านให้หน่อยดิ”

     

    “ทำไมต้องถ่ายอ่ะ ฉันอยากถ่ายรูปนายมากกว่า”

     

    “อุตส่าห์จะช่วยเขียนคอลั่มแนะนำร้านขนมให้ ไม่เอาหรือไง ยังคิดหัวข้อไม่ออกไม่ใช่หรอ”

     

    “อืม...ก็ดีเหมือนกัน”

     

    “งั้นก็ถ่ายไปนะ ฉันทำงานต่อก่อน” ไม่ได้เจอกันพักใหญ่ อยู่ดีๆ จะมาตามติดและนั่งจ้องทั้งวันแบบนี้ผมก็เขินเป็น

     

    เหมือนกันนะ คิดแล้วก็สงสารเจบีฮยองเพราะตั้งแต่ยูคยอมกลับมาก็มักจะมาขลุกอยู่ที่ร้านทั้งวัน มาร์คฮยองกับจู

     

    เนียร์ฮยองก็หยอกกันเป็นระยะๆ เจบีฮยองก็ได้แต่เก็บตัวอยู่ในห้องอบขนม หลังจากวันนั้นที่เจบีฮยองฝากพวกผม

     

    ปิดร้าน มารู้เรื่องอีกที เจบีฮยองกับแบมแบมก็เลิกกันซะแล้ว ถึงแจ็คสันฮยองจะไม่บอก ผมก็ไม่เชื่ออยู่แล้วแหละว่า

     

    เขาจะเลิกกัน ปกติเห็นสวีทกันจะตาย ยิ่งมาได้ยินเรื่องราวจากแจ็คสันฮยองแบบนี้ ผมยิ่งสงสารเจบีฮยอง ทำแบบนี้

     

    มันโหดร้ายเกินไปจริงๆ

    .

    .

    .

    หลังจากที่แบมแบมหมดสติไปเมื่อวันก่อน สองวันที่ผ่านมาแบมแบมก็กลับไปทำตัวปกติ ฝืนยิ้ม พยายามหัวเราะทำ

     

    เหมือนทุกอย่างเป็นเรื่องตลกและแสดงออกว่ามีความสุขดี รวมถึงวันนี้ก็ด้วย นายอาจจะหลอกแฟนคลับหรือคน

     

    อื่นๆ ได้ แต่ยังไงก็หลอกหัวใจและความรู้สึกของตัวเองไม่ได้หรอกนะ

     

    “ยังมีไข้อยู่เลย ทำไมถึงดื้อแบบนี้นะ”

     

    “กินยาแล้วเดี๋ยวก็หายน่า ติดโรคขี้บ่นมากจากกันต์ฮยองรึไง”

     

    “ไม่ไหวก็อย่าฝืนเลย เป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง ช่วงนี้นายยิ่งพักผ่อนน้อยๆ อยู่”

     

    “ฉันไม่ตายง่ายๆ หรอกน่า” ดูสิครับ ยังจะทำเป็นพูดติดตลก ที่แอบนอนร้องไห้ทุกคืนคิดว่าผมไม่รู้หรือไง ก็แค่ไม่พูด

     

    หรอกนะ เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องผมก็อาสาไปนอนเป็นเพื่อนแบมแบมเอง ผมอยากให้กันต์ฮยองได้พักบ้าง

     

     

    “แบมแบมไข้ลดรึยัง”

     

    “ยังเลยครับ แต่เห็นว่ากินยาไปแล้วนะ ฮยองเองก็เหมือนกัน มัวแต่ห่วงคนอื่น ไหนมาดูซิ” ผมแนบหลังมือลงไปบน

     

    หน้าผากของเมเนเจอร์สุดที่รัก แล้วก็พบว่าอุณหภูมิร่างกายของกันต์ฮยองก็ไม่ได้ต่ำไปกว่าแบมแบมเลย

     

    “โห~ ฮยองก็ตัวร้อนจี๋เลยอ่ะ สงสัยวันนี้ผมได้ลากทั้งดูโอ้ผม ทั้งเมเนเจอร์ไปโรงพยาบาลแล้วมั้งเนี่ย ไม่ดูแลตัวเอง

     

    เลย แก่แล้วยังจะดื้ออีก”

     

    “ย๊า!!! แจ็คสันหวัง ฉันไม่มีอารมณ์มาทะเลาะกับนายนะ”

     

    “ก็ผมเป็นห่วงอ่ะ”

     

    “....” โดนหยอดแค่นี้ถึงกับใบ้รับประทานเลยหรอครับ จะว่าไปกันต์ฮยองเวลาโดนแกล้งแล้วเขินเนี่ยก็น่ารักไปอีก

     

    แบบนะครับ ปกติเห็นแต่โมโห หงุดหงิด โวยวาย แต่ยิ่งโวยวายก็ยิ่งแกล้งสนุก ผมถึงชอบแกล้งไง อยากโดนด่า โดน

     

    ตะคอกใส่ นี่ผมโรคจิตรึเปล่านะ

     

     

    “เป็นห่วงจริงๆ นะ ฮยองไปพักเถอะเดี๋ยวผมดูแลแบมแบมเอง อีกสักพักก็จะขึ้นเวทีแล้ว”

     

    “อื้ม...ขอบใจนะ”

     

    De Legend สแตนบายแบคสเตจด้วยครับ”

     

    “คร้าบ~ แบมแบมไหวแน่นะ”

     

    “อื้ม เรามาทำวันนี้ให้เต็มที่กันเถอะ เดอ เลจเจนท์ ไฟท์ติ้ง!

     

     

     

     

    Miss you I really miss you (คิดถึงเธอฉันคิดถึงเธอจริงๆ นะ)


    네가  생각할  있게  노랠 불러줄(แล้วเธอจะคิดถึงฉันได้มั้ย ฉันจะร้องเพลงให้เธอ)

    Turn the radio o-o-on Turn the radio o-o-on (ลองเปิดวิทยุฟังสิ เปิดวิทยุฟังนะ)

    Cuz I wanna be (เพราะฉันอยากจะให้มันเป็นแบบนั้น)

    ...............

     

    “แบมแบม!!!” ทำไมอยู่ดีๆ แบมแบมก็ล้มพับลงไปแบบนั้น ผมรีบเข้าไปดูอาการ ทำให้การอัดรายการ ทั้งเพลง แสง

     

    และเสียง ทุกอย่างหยุดลงทันที โห ตัวร้อนจี๋เลย ผมรีบแบกแบมแบมขึ้นหลังและวิ่งลงจากเวทีทันที

     

    “ขอโทษครับ ขอทางหน่อยครับ” ทีมงานต่างเข้ามารุมล้อมด้วยความตกใจ ผมจึงต้องขอแหวกทางและรีบพาแบม

     

    แบมไปที่รถทันที โดยไม่ลืมโทรตามกันต์ฮยอง ทันทีที่มาถึงรถ กันต์ฮยองดูตกใจไม่น้อยแต่ก็ทำท่าจะเปิดประตูด้าน

     

    คนขับแล้วก้าวขึ้นไปจนผมต้องรั้งเอาไว้ ก็สภาพกันต์ฮยองก็แทบจะไม่ต่างอะไรจากแบมแบมเลย ขืนปล่อยให้คน

     

    ป่วยขับเกิดน็อคไปกลางทางอีกคนคงแย่กันไปหมด

     

     

    “ฮยองไปนั่งกับแบมแบมเถอะ เดี๋ยวผมขับเอง” พูดจบผมก็รีบออกรถตรงดิ่งไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันที กว่าจะ

     

    ออกจากตึกของทางสถานีได้ก็วุ่นวายพอควรเพราะแฟนคลับมากมายต่างมารุมล้อมรอบรถ ผมเลยต้องบีบแตรเสียง

     

    ดังลั่นเพื่อให้ทุกคนถอยห่างออกไป ผมรู้ว่าทุกคนเป็นห่วงแบมแบมและน้องๆ แฟนคลับก็คงจะตกใจไม่น้อยที่อยู่ดีๆ 

    ชานฮีเป็นแบบนี้

    .

    .

    .

     

     

     

    “คุณหมอครับ แบมแบมเป็นยังไงบ้าง”

     

     

    “ไข้ขึ้นสูงประกอบกับการพักผ่อนไม่เพียงพอและได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วนครับ หมอได้ให้น้ำเกลือผสมวิตามิน

     

    บำรุงร่างกายให้แล้ว นอนค้างที่นี่สักคืนพรุ่งนี้เช้ารอน้ำเกลือขวดที่สองหมดก็น่าจะกลับบ้านได้แล้วครับ”

     

    “แล้วเรื่องสมองไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหมครับ คือน้องล้มทั้งยืนเลยเกรงว่า...”

     

    “หมอได้ทำการสแกนสมองเรียบร้อยแล้วครับ ถึงจะล้มไปแบบนั้นแต่สมองก็ไม่ได้การกระทบกระเทือนอะไรหายห่วงได้ครับ หมอขอตัวก่อนนะครับ”

     

    “เฮ้อ...ค่อยยังชั่ว”

     

     

    “แล้วทีนี้จะทำยังไงดีอ่ะฮยอง ผมอยากให้แบมแบมพักให้พอก่อนเกิดพรุ่งนี้ฟื้นปุ๊บแล้วให้ไปอัดรายการเลยกลัวจะ

     

    ล้มไปแบบวันนี้อีก”

     

    “ฉันรู้แล้วน่า เดี๋ยวจะเข้าไปเจรจากับที่บริษัท อย่างน้อยก็ของดกิจกรรมทั้งหมดแล้วเลื่อนออกไปสักอาทิตย์นึงละกัน 

     

    รอให้แบมแบมพักฟื้นจนหายเป็นปกติก่อนค่อยว่ากันใหม่ ฝากแบมแบมด้วยนะ”

     

     

    “เดี๋ยวสิฮยอง...” ผมรั้งข้อมือกันต์ฮยองไว้ก่อนจะรวบตัวคนตรงหน้าเข้ามากอดไว้ ไข้ลดแล้วนี่อุณหภูมิในร่างกาย

     

    ปกติแล้ว ผมค่อยๆ คลายวงแขนออกแต่ใบหน้าหวานตรงหน้ากลับแดงก่ำ

     

     

    “โอ๊ะ ฮยองหน้าแดงแปร๊ดเลยอ่ะ ไข้กลับแน่เลย ไหนผมดูซิ”

     

    “มะ...ไม่ต้องดูอะไรแล้ว...ฉันหายแล้ว ไปก่อนนะ”

     

    “ขับรถดีๆ นะครับ ผมเป็นห่วง...”

     

    “รู้แล้วน่า” ยิ่งเขินยิ่งน่ารัก นี่ผมหลงรักกันต์ฮยองเข้าแล้วหรือไง ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน รู้แค่ว่า

     

    กันต์ฮยองไม่เหมือนพวกผู้หญิงที่ผมเคยควง ชีวิตผมวันไหนที่ไม่มีกันต์ฮยอง ไม่ได้คุย ไม่ได้แกล้ง ไม่ได้กวน

     

    ประสาทหรือยั่วโมโห มันเหงาแปลกๆ ต่างจากผู้หญิงพวกนั้นที่ไม่จำเป็นต้องมี ชีวิตผมก็สงบสุขดี

     

     

    กันต์ฮยองก็ไม่อยู่แล้ว ผมควรจะโทรไปบอกอาการของแบมแบมกับแฟนของแบมดีไหมนะ ตอนนี้น่าจะเป็นโอกาสที่

     

    ดี แบมแบมไม่สบายหนักขนาดนี้จะไม่บอกเขามันก็ใจดำเกินไปมั้ง

     

     

    “ฮัลโหล เออ ยูคยอม ตอนนี้แบมแบมไม่สบายหนัก ฉันอยากให้นายพาแฟนแบมมาที่นี่หน่อย”

     

    เอาจริงดิฮยอง แล้วเกิดเมเนเจอร์ฮยองจับได้ขึ้นมาทำไง

     

    “เกิดอะไรขึ้นฉันรับผิดชอบเองน่า หรือว่านายไม่อยากช่วยสองคนนี้ให้มีความสุขรึไง”

     

    อยากสิคร้าบ เนี่ยยองแจมาบ่นให้ฟังทุกวันเลย ว่าตอนนี้เจบีฮยองเหมือนหุ่นยนต์เลยวันๆ เอาแต่หมกตัวอยู่ในห้อง

     

    อบขนมไม่พูดไม่จา ไม่ออกมาเจอหน้าใครเลย

     

    “เออ งั้นก็ด่วนๆ เลย แค่นี้นะ บาย” หลังจากที่ผมวางสายไปไม่นานร่างของคนสามคนก็ปรากฏที่หน้าประตูห้องพักผู้

     

    ป่วยพิเศษ แฟนแบมแบมท่าทางจะอาการหนักจริงๆ ตามบวมเป่งกับรอยคล้ำใต้ตา ตัวผอมเป็นหนังหุ้มกระดูกแบบ

     

    นี้ยังมีชีวิตอยู่ได้ยังไงเนี่ย

     

    “เอ่อ...เข้ามาก่อนสิครับ คุณคือเจบีใช่ไหม”

     

    “ครับ...แต่แบบนี้มันจะดีหรอครับ คุณกันต์บอกผมว่า...”

     

    “เข้าไปเถอะครับ เดี๋ยวพวกผมไปรอด้านนอก จะช่วยดูต้นทางให้เอง”

     

    “ขอบคุณครับ” ผมเอ่ยไปด้วยเสียงแผ่วเบา คิดถึงเหลือเกิน ผมจะได้เจอแบมแบมแล้วจริงๆ ใช่ไหม

     

    “อ้อ แล้วก็...แบมแบมรักคุณมากนะเจบี...” ชานยงตบบ่าผมเบาๆ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป วันนี้อยู่ดีๆยองแจก็

     

    เดินเข้ามาบอกผมในห้องอบขนมว่าแบมแบมล้มทั้งยืนบนเวทีขณะที่อัดรายการอยู่ วินาทีนั้นผมแทบอยากจะวิ่ง

     

    ออกไปหาแบมแบมที่สถานีให้รู้แล้วรู้รอด แต่คำขอร้องของคุณกันต์ที่ก้องอยู่ในหูผม ทำให้ผมต้องข่มใจระงับ

     

    อารมณ์ความรู้สึกต่างๆ มากมายเอาไว้

     

    ถ้าไม่ได้ยูคยอมแฟนของยองแจผมก็คงไม่ได้มาพบกับแบมแบมแบบนี้ ร่างบางไร้สตินอนหลับตาพริ้มอยู่บนเตียง 

     

    ข้อมือบางที่มีสายน้ำเกลือเสียบไว้ ใบหน้าหวานซูบซีด แก้มใสตอบลงอย่างเห็นได้ชัด

     

    “พี่ขอโทษ...” ผมไม่ได้ต้องการให้มันเป็นแบบนี้เลย ผมประคองมือเรียวมาแนบไว้ข้างแก้ม ความรู้สึกผิด ความ

     

    เสียใจ และความเจ็บปวดแล่นปราดเข้ามาที่หัวใจ น้ำตาของผมไหลรินลงมาอย่างช้าๆ แค่เห็นแบมแบมต้องมาเป็น

     

    แบบนี้เพราะผม ผมก็แทบจะทนไม่ไหวแล้ว ทำไมต้องเป็นแบบนี้ด้วย ทำไมคนที่ป่วยไม่เป็นผมแทน ทำไมคนที่ต้อง

     

    มาเจออะไรแบบนี้ไม่เป็นผม ผมทำทุกอย่างแล้วทำไมถึงยังเป็นแบบนี้

     

    “พี่บีอย่าทิ้งแบมไปนะ...” ร่างบางที่ละเมอออกมาด้วยพิษไข้ ผมกระชับมือเรียวนั้นไว้แน่น

     

    “พี่อยู่ตรงนี้แล้วครับ คนดี” ผมเอื้อมมืออีกข้างไปลูบหัวแบมแบมอย่างแผ่วเบา

     

    “แบมรักพี่บีนะ...”

    “...”

     

    “แบมแบมรักแจบอม...”

     

    “ครับ...อิมแจบอมคนนี้ก็รักแบมแบม” ผมจุมพิตลงบนหลังมือเรียวก่อนจะปล่อยให้ร่างบางจมลงสู่ห้วงนิทรา ฝันดี

    นะครับ ที่รักของพี่

     

     

        -----------

     

    ขอโทษนะคะที่หายไปนาน อาจจะนานมากจนไม่มีใครตามแล้ว 5555

    แต่เรากลับมาแล้วนะคะ จะไม่ทำให้เนิ่นช้าออกไปอีก 

    ยังไงก็อย่าลืมคอมเม้นหรือติดแท็ก #FicCRM ในทวิตเตอร์เป็นกำลังใจให้เราด้วยนะคะ

     

    ขอบคุณค่า ^^

     

        
    O W E N TM.
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×