คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 12 Press conference
เมื่อวานหลังจากวางโทรศัพท์แบมแบมก็ร้องไห้จนหลับไปเลย
ผมล่ะสงสารแต่ก็ไม่รู้จะช่วยยังไง พรุ่งนี้ก็จะคัมแบคแล้ว
ทางบริษัทก็จะจัดแถลงข่าวหลังจากที่พวกเราอัดรายการเสร็จด้วย ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ
ว่าทำไมทางบริษัทถึงจะต้องให้แบมแบมเป็นคนพูดเอง
แค่นี้สภาพจิตใจก็บอบช้ำจะแย่อยู่แล้ว กันต์ฮยองก็อีกคน
ไปเจรจามาก็ไม่คิดจะช่วยน้องบ้างเลยหรือไง
“ฮยอง
ตั้งแต่บ่ายเมื่อวานแบมแบมก็ร้องไห้จนสลบไปยังไม่ฟื้นเลย จะคัมแบคแล้วด้วย
จะไหวหรอ เราเลื่อนไปอีกอาทิตย์ก็ได้นี่นา”
“ไม่ได้หรอก
ประกาศไปหมดแล้ว เรื่องแถลงข่าวด้วย”
“นั่นยิ่งแล้วใหญ่
ฮยองไปคุยยังไงทำไมถึงต้องให้แบมแบมพูดเอง จริงๆ ให้ผู้ใหญ่แถลงไปก็ได้
หรือไม่ฮยองก็แถลงไปดิ”
“ถ้าเจ้าตัวไม่ออกมาพูดใครจะเชื่อ”
“แล้วตกลงฮยองจะให้แถลงว่ายังไง
ปฏิเสธ ไม่เคยคบกันหรอ รูปออกชัด”
“เปล่าก็แค่บอกว่าเคยคบ
แต่เลิกแล้ว”
“ฮยอง
แล้วผลมันต่างกันตรงไหนกับการที่เขาจะคบกันต่อเล่าฮยอง~ ยังไงมันก็คือการยอมรับว่าแบมแบมมีแฟนแล้ว
และแฟนก็เป็นผู้ชาย จะยังคบกันอยู่หรือเลิกกันแล้วมันก็ไม่ต่างกันนี่ฮยอง
ถ้าจะกังวลเรื่องข่าวกลัวแฟนคลับจะรับไม่ได้ผมเข้าใจ แต่มันก็ควรจะแถลงว่าเข้าใจผิดหรืออะไรอย่างอื่นสิ
เดี๋ยวนะ แล้วตกลงเมื่อวานฮยองไปไหนมานอกจากที่บริษัท อย่าบอกนะว่า...”
“ไม่ต้องมาทำสายตาคาดโทษฉันแบบนั้นเลย
ฉันไปหานายนั่นมาจริงๆ แต่ฉันไม่ได้บังคับให้เขาเลิกกับแบมแบมเสียหน่อย”
“โธ่ ฮยอง~ แค่ฮยองไปคุยกับเขา
เกริ่นเรื่องอนาคตในวงการและอธิบายเรื่องกฎของบริษัทให้ฟังมันก็ชัดเจนเกินพอแล้วว่าต้องการให้เขาทำอะไร
ฮยองรู้ไหมว่าเมื่อวานแบมแบมมันอาการหนักขนาดไหน
ผมไม่เคยเห็นมันเป็นแบบนี้มาก่อนเลยนะ แล้วฮยองแน่ใจหรอว่าวิธีนี้มันจะได้ผลอ่ะ”
“มันก็ไม่มีวิธีอื่นแล้วนี่ เดี๋ยวฉันไปดูแบมแบมก่อน” บ้าไปแล้ว
บ้ากันทั้งบริษัท คิดว่ากันต์ฮยองจะเข้าใจพวกเราดีที่สุดเสียอีก
คิดอะไรกันก็ไม่รู้ ผมว่า เอาเข้าจริงต่อให้แบมแบมไม่เลิก
และไม่แถลงข่าวยังไงบริษัทก็ไม่ฉีกสัญญาเราหรอก ก็เราเป็นศิลปินเบอร์แรกของค่าย
แถมยังเป็นตัวทำรายได้มากมายมหาศาลให้บริษัทอีก ถึงผมจะเป็นศิลปินแต่ผมก็มองการตลาดออกนะ
ตอนนี้คงต้องปล่อยไปก่อน คัมแบครอบนี้แบมแบมต้องเป็นหุ่นยนต์แหงๆ
ร่างกายก็ทำงานไปแต่ไร้หัวใจ เฮ้อ...จริงๆ ผมก็พอรู้เรื่องของแบมแบมมาบ้าง
โลกเรานี่มันก็กลมดีนะครับ ไว้จะไปลองสืบจากแฟนของเจ้ายูคยอมดูซะหน่อยดีกว่า
เพราะยังไงผมว่าเรื่องนี้กันต์ฮยองทำไม่ถูก
.
.
.
I’ll be your Sunflower…Forever…My
Sunshine
ข้อความที่พี่แจบอมส่งมาหลังจากที่เราคุยกันในวันนั้น
ผมเพิ่งได้อ่านมัน
ถ้าเลือกได้ผมก็ไม่อยากเป็นดวงอาทิตย์ที่มีแสงสว่างเจิดจ้าแต่ต้องอยู่ลำพังบนท้องฟ้าที่กว้างใหญ่หรอกนะ
ผมยอมเป็นแมลงอะไรสักอย่างก็ได้ ขอแค่ได้อยู่กับดอกทานตะวันดอกนั้น
ผมเหนื่อยเหลือเกิน...ไม่รู้เรี่ยวแรงมันหายไปไหนหมด
ทั้งๆ ที่วันนี้เป็นวันคัมแบคแท้ๆ เมื่อวานกันต์ฮยองมาซักซ้อมทำความเข้าใจกับผมว่าต้องพูดอะไรบ้างในงานแถลงข่าววันนี้
ผมไม่อยากทำแบบนั้นเลยมันดูเห็นแก่ตัวเกินไป ผมรู้ว่ากันต์ฮยองเป็นห่วงผมขนาดไหน
ผมรู้ว่าที่ฮยองทำไปทั้งหมดก็เพราะหวังดีกับผม ขนมกล่องเดิมที่ได้มาจากพี่แจบอม
จนมาถึงวันนี้ผมก็ยังไม่ได้ชิมมันเลย
คิดถึง...คิดถึงมาก...ผมไม่อยากเชื่อเลยว่าเราจะเลิกกันแล้วจริงๆ
ขนมทุกชิ้นยังสวยและน่ากินเหมือนเดิม
ผมไม่อยากกินมันเพราะกลัวว่าของขวัญชิ้นพิเศษชิ้นสุดท้ายนี้จะหายไป
ผมหยิบกล่องขึ้นมาเปิดออกดูและเลือกที่จะหยิบช็อคโกแลตทรัฟเฟิลลูกเล็กขึ้นมาชิม
เพียงแค่คำเล็กๆ คำเดียวที่กัดมันและได้ลิ้มรสหวานปนขมของช็อคโกแลตรวมถึงรสอ่อนนุ่มละมุมลิ้นของชีสที่สอดแทรกอยู่ภายในก็ทำให้น้ำตาของผมไหลรินอีกครั้ง
ภาพในความทรงจำทุกอย่างมันไหลย้อนกลับมา
“แบมแบมมา ร้องไห้ทำไมตาบวมกันพอดี
เดี๋ยวต้องไปแต่งหน้าแล้วนะ”
“ฮยอง...ผมไม่ไหวแล้ว...ผมจะผ่านมันไปได้ยังไงครับ”
“ฟังฮยองนะ ผู้ชายคนนั้นเขารักแบมแบมมากนะ
เขายอมเสียสละทุกอย่างเพื่อแบม เพราะฉะนั้นแบมต้องก้าวต่อไปให้ได้นะ
เพื่อตัวเองแล้วก็เพื่อคนที่เขารักแบมแบมด้วยรู้ไหม”
“นี่...ฮยอง...ได้คุยกับ...”
“เอาเป็นว่า วันนี้ทำให้เต็มที่นะ
ส่วนเรื่องแถลงข่าวถ้าไม่ไหวจริงๆ ฮยองจะช่วยพูดให้เองนะ”
“ขอบคุณนะครับ
ฮยอง”
.
.
.
ร้องไห้อีกแล้ว เฮ้อ...ผมไม่อยากให้แบมแบมเป็นแบบนี้เลย
แล้วยังต้องฝืนไปทำงานอีก เพลงโปรโมทรอบนี้ก็ดันความหมายดีมีความสุขซะเหลือเกิน
ผมคงทนอยู่เฉยๆ แบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้วล่ะ
“มีเรื่องให้ช่วยหน่อยว่ะยูคยอม...”
เท่านี้ก็เรียบร้อย หวังว่าผมคงพอช่วยอะไรได้บ้างและทุกอย่างคงยังไม่สายเกินไป
การอัดผ่านไปได้ด้วยดีวันนี้แฟนๆ
มากันเยอะเลยทำให้เสียงเชียร์ตอนที่อัดดังมากเลยครับ ดังจนน่าตกใจ ท่าทางแฟนๆ
จะคิดถึงพวกเรามากนะเนี่ย พวกเรากำลังเดินกลับออกไปขึ้นรถก็มีน้องๆ
แฟนคลับเจ้าประจำที่ติดตามพวกเรามาตั้งแต่ยังเป็นเด็กฝึกหัดและตามพวกเราไปทุกที่
ทุกงานไม่ว่าจะไกลหรือจะดึกแค่ไหนก็ตาม หนึ่งในกลุ่มนั้นยื่นถุงขนมของโปรดให้แบมแบมแต่ขนมเจ้ากรรมดันมาจากร้าน
ลอร์ดเจ
“แบมแบมอปป้า ไฟท์ติ้ง!!!” ผมเห็นแววตาของแบมแบมที่เศร้าลงแต่ก็ปรับกลับมายิ้มอย่างสดใสให้แฟนคลับ
จะว่าแฟนคลับกลุ่มนี้ไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นก็แปลก
แต่ถ้ารู้แล้วทำไมถึงยังซื้อขนมร้านนี้มาให้แบมแบมอีกนะ
“อปป้าถามอะไรหน่อยสิ
ทำไมถึงซื้อขนมร้านนี้มาให้แบมแบมล่ะ”
“โธ่ แจ็คสันอปป้าไม่รู้เรื่องเลยหรอไง”
“เรื่องอะไรอ่ะ”
“ก็เรื่องแฟนแบมแบมอปป้าไงคะ เจบีอปป้าน่ะน่ารักมากเลย
ฉันว่าเหมาะกับแบมแบมอปป้ามากกว่าแจ็คสันอปป้าอีกนะ ไม่รู้แฟนคลับบางคนจิ้นแจ็คแบมไปได้ไง”
“ย๊า!!!”
“ก็มันจริงนี่นา อ่ะ
ฉันซื้อหมากฝรั่งมาฝากอปป้าด้วย ไปก่อนนะคะ”
“เดี๋ยวสิ ตกลงพวกเธอรู้เรื่องแฟนของแบมแบมหรอ”
“รู้สิคะ มีแฟนคลับตั้งหลายกลุ่มที่เชียร์นะ
เพราะพวกเราก็ไปอุดหนุนขนมร้านนี้กันบ่อยๆ จะบอกอะไรให้นะ พวกอปป้าที่ร้านลอร์ดเจเขาก็มีแฟนคลับเป็นของตัวเองเหมือนกันนะคะ”
“ขนาดนั้นเลยหรอ”
“ก็แต่ละคนหน้าตาดีระดับเป็นไอดอลได้ทั้งนั้นเลย”
“นี่อปป้าขอเบอร์ติดต่อพวกเธอหน่อยสิ
เผื่อต้องการความช่วยเหลือ”
“ไอกู~
นี่อปป้าจีบพวกเราหรอ คิกคิก”
“เอามาเหอะน่า”
“ย๊า! แจ็คสันหวังเดินเร็วๆ หน่อยเดี๋ยวไม่ทันแถลงข่าว
มัวแต่คุยกับแฟนคลับอยู่นั่นแหละ”
“รู้แล้วคร้าบ~ กันต์ฮยอง อปป้าไปก่อนนะ แต้งกิ้ว”
ได้ข้อมูลเพิ่มเติมมาแบบนี้ และถ้ามีกลุ่มแฟนคลับที่รู้เรื่องแล้วแต่ไม่แอนตี้แถมยังสนับสนุน
ดูเหมือนจะจัดการอะไรๆ ได้ง่ายขึ้นแล้วสิ
.
.
.
ในนามของต้นสังกัดและศิลปินวง เดอ เลจเจนท์
ผมกันต์ผู้จัดการวงขอแถลงว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องจริงครับ แต่ว่าผู้ชายอีกคนในภาพคือเพื่อนสนิทของแบมแบมและที่มีภาพออกไปแบบนั้นก็เพราะว่าเพื่อนของแบมแบมเมาครับ
วันนั้นเป็นวันที่มีการแสดงโชว์เคสและหลังจากที่การแสดงเสร็จสิ้นพวกเราก็ได้ไปฉลองกันต่อครับ
ไปกันหลายคน ผมเองรวมถึงแจ็คสันก็ไปครับ และบุคคลในภาพพวกเราก็รู้จักดีครับ
จึงขอให้ทุกท่านเข้าใจตามนี้นะครับ ขอบคุณครับ
เพื่อนสนิทงั้นหรอ...เจบีคือคนที่แบมแบมคนนี้รักสุดหัวใจต่างหาก
และในวันนั้นพี่แจบอมก็ไม่ได้เมาสักนิด พวกเรามีความสุขมากต่างหาก
การเลี้ยงฉลองที่ไปกันหลายคนรวมทั้งกันต์ฮยองและแจ็คสันมันก็ใช่ แต่ผมกับพี่แจบอมไม่ได้ไปด้วยสักหน่อย
เฮ้อ...แต่ยังไงก็ต้องขอบคุณกันต์ฮยองที่พูดแทนผม
เพราะถ้าจะให้ผมพูดเองผมคงทำใจไม่ได้ มันดูเห็นแก่ตัวเกินไป
เหมือนเป็นการโยนความผิดทั้งหมดไปให้พี่แจบอม ตลกสิ้นดี พี่แจบอมไม่เคยดื่มเลยด้วยซ้ำไม่ว่าผมจะชวนกี่ครั้ง
ชวนยังไงเขาก็ไม่เคยดื่ม มีแต่ผมเนี่ยแหละที่ดื่มและเขาจะเมาได้ยังไง
ขอโทษ...ขอโทษจริงๆ...ขอโทษนะอิมแจบอม
“คุณแบมแบมครับ
ไม่ทราบว่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับคุณอิมแจบอมเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆ หรอครับ
แต่รูปมันดูเกินกว่าคำว่าเพื่อนนะครับ”
“ทางเราได้แถลงไปแล้วครับ
ของดการตอบคำถามนะครับ”
“เดี๋ยวสิคุณ
คิดหรอว่าการที่ให้เมเนเจอร์ออกมาพูดแทนแล้วคนเขาจะเชื่อ สื่อไม่ได้โง่นะคุณ”
“นั่นสิคะ คุณแบมแบมพูดอะไรหน่อยสิคะ”
“ปกปิดความจริง แบบนี้ไม่ดีนะคะ”
“ใช่ๆ พูดแบบนี้มันแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ชัดๆ
รูปที่ออกมานัวเนียกันขนาดนั้น”
“ขอจบการแถลงเท่านี้นะครับ”
“เดี๋ยวสิคุณ แบบนี้พวกเราคงต้องไปสัมภาษณ์อิมแจบอมแล้วล่ะ...”
นั่นคือประโยคสุดท้ายที่ผมได้ยินก่อนที่สติทั้งหมดของผมจะดับวูบไป
“เฮ้ย แบมแบม!!! แบมแบมนายฟื้นสิ”
“แจ็คสันช่วยพาแบมแบมไปที่รถที
เดี๋ยวฮยองจัดการทางนี้เอง”
“ครับฮยอง” พวกนักข่าวนี่ก็เหลือเกิน ผมคิดอยู่แล้วว่าถึงออกมาแถลงข่าวก็ต้องโดนกัดไม่ปล่อย
ในเมื่อรูปมันชัดเจนออกขนาดนั้น ปากคอนักข่าวแต่ละคนก็ร้ายกาจ หยาบคายเหลือเกิน
คนที่ตอนนี้สภาพจิตใจกำลังย่ำแย่อยู่ถึงได้เป็นลมล้มพับไปแบบนี้ไง
“แบมแบมเป็นยังไงบ้าง”
“ก็อย่างที่เห็นอ่ะฮยอง
ผมบอกแล้วใช่ป่ะว่าแถลงไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก ฮยองก็ไม่เชื่อ
ผมคิดมาตลอดว่าฮยองจะเป็นคนที่เข้าใจพวกเราดีที่สุด แต่ทำไมฮยองถึงทำแบบนี้อ่ะ
ผมโคตรผิดหวังเลย”
“แล้วนายจะให้ฉันทำยังไง
ผู้ใหญ่ก็กดดันมาให้ฉันไปจัดการให้เรียบร้อย คิดว่าฉันไม่อยากช่วยแบมแบมหรอไง
คิดว่าฉันไม่สงสารแบมหรอไง นายรู้ไหมว่าวันที่ฉันไปคุยกับเจบีมาฉันรู้สึกแย่ขนาดไหน
ยิ่งเจบีเสียสละและบอกว่าเข้าใจมากแค่ไหน
ฉันก็ยิ่งรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนเลวมากขึ้นเท่านั้น
ฉันไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้ จะมีใครเข้าใจฉันบ้างไหม...” เสียงของกันต์ฮยองระบายความรู้สึกที่อัดอั้นภายในดังขึ้นเรื่อยๆ
จนกลายเป็นตะคอกใส่ผมกลับเงียบลงพร้อมกลับไหล่กว้างที่สั่นเทา
“ฮะ...ฮยอง”
“ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น...ฮึ่ก...ฉันเหนื่อย
นายขับรถทีได้ไหม”
“ผมขอโทษ...ฮยอง”
โดนนิ่งใส่แบบนี้ผมจะทำอะไรได้ ก็ต้องยอมลงมาแล้วทำหน้าที่ขับรถกลับหอแทนกันต์ฮยองที่เหมือนจะร้องไห้อยู่ตอนนี้
ผมไม่เคยเห็นฮยองโมโหจนร้องไห้มาก่อนเลย ผมขอโทษจริงๆ
ที่ลืมคิดถึงความรู้สึกของฮยอง
ว่าฮยองเองก็คงเจอแรงกดดันจากรอบด้านมาไม่น้อยไปกว่าผมหรือแบมแบมเลย
ฮยองเองก็เหนื่อยเพื่อพวกเรามามาก ผมไม่ดีเองที่ต่อว่าฮยองออกไปแบบนั้น
ความคิดเห็น