ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic GOT7] Caramel Love (BBam & JackBam)

    ลำดับตอนที่ #12 : Chapter 12 Press conference

    • อัปเดตล่าสุด 20 มิ.ย. 58



    Chapter 12
    Press conference

    เมื่อวานหลังจากวางโทรศัพท์แบมแบมก็ร้องไห้จนหลับไปเลย ผมล่ะสงสารแต่ก็ไม่รู้จะช่วยยังไง พรุ่งนี้ก็จะคัมแบคแล้ว ทางบริษัทก็จะจัดแถลงข่าวหลังจากที่พวกเราอัดรายการเสร็จด้วย ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมทางบริษัทถึงจะต้องให้แบมแบมเป็นคนพูดเอง แค่นี้สภาพจิตใจก็บอบช้ำจะแย่อยู่แล้ว กันต์ฮยองก็อีกคน ไปเจรจามาก็ไม่คิดจะช่วยน้องบ้างเลยหรือไง

     

    “ฮยอง ตั้งแต่บ่ายเมื่อวานแบมแบมก็ร้องไห้จนสลบไปยังไม่ฟื้นเลย จะคัมแบคแล้วด้วย จะไหวหรอ เราเลื่อนไปอีกอาทิตย์ก็ได้นี่นา”

     

    “ไม่ได้หรอก ประกาศไปหมดแล้ว เรื่องแถลงข่าวด้วย”

    “นั่นยิ่งแล้วใหญ่ ฮยองไปคุยยังไงทำไมถึงต้องให้แบมแบมพูดเอง จริงๆ ให้ผู้ใหญ่แถลงไปก็ได้ หรือไม่ฮยองก็แถลงไปดิ”

     

    “ถ้าเจ้าตัวไม่ออกมาพูดใครจะเชื่อ”

    “แล้วตกลงฮยองจะให้แถลงว่ายังไง ปฏิเสธ ไม่เคยคบกันหรอ รูปออกชัด”

    “เปล่าก็แค่บอกว่าเคยคบ แต่เลิกแล้ว”

     

    “ฮยอง แล้วผลมันต่างกันตรงไหนกับการที่เขาจะคบกันต่อเล่าฮยอง~ ยังไงมันก็คือการยอมรับว่าแบมแบมมีแฟนแล้ว และแฟนก็เป็นผู้ชาย จะยังคบกันอยู่หรือเลิกกันแล้วมันก็ไม่ต่างกันนี่ฮยอง ถ้าจะกังวลเรื่องข่าวกลัวแฟนคลับจะรับไม่ได้ผมเข้าใจ แต่มันก็ควรจะแถลงว่าเข้าใจผิดหรืออะไรอย่างอื่นสิ เดี๋ยวนะ แล้วตกลงเมื่อวานฮยองไปไหนมานอกจากที่บริษัท อย่าบอกนะว่า...”

     

    “ไม่ต้องมาทำสายตาคาดโทษฉันแบบนั้นเลย ฉันไปหานายนั่นมาจริงๆ แต่ฉันไม่ได้บังคับให้เขาเลิกกับแบมแบมเสียหน่อย”

     

    “โธ่ ฮยอง~ แค่ฮยองไปคุยกับเขา เกริ่นเรื่องอนาคตในวงการและอธิบายเรื่องกฎของบริษัทให้ฟังมันก็ชัดเจนเกินพอแล้วว่าต้องการให้เขาทำอะไร ฮยองรู้ไหมว่าเมื่อวานแบมแบมมันอาการหนักขนาดไหน ผมไม่เคยเห็นมันเป็นแบบนี้มาก่อนเลยนะ แล้วฮยองแน่ใจหรอว่าวิธีนี้มันจะได้ผลอ่ะ”

     

    “มันก็ไม่มีวิธีอื่นแล้วนี่ เดี๋ยวฉันไปดูแบมแบมก่อน” บ้าไปแล้ว บ้ากันทั้งบริษัท คิดว่ากันต์ฮยองจะเข้าใจพวกเราดีที่สุดเสียอีก คิดอะไรกันก็ไม่รู้ ผมว่า เอาเข้าจริงต่อให้แบมแบมไม่เลิก และไม่แถลงข่าวยังไงบริษัทก็ไม่ฉีกสัญญาเราหรอก ก็เราเป็นศิลปินเบอร์แรกของค่าย แถมยังเป็นตัวทำรายได้มากมายมหาศาลให้บริษัทอีก ถึงผมจะเป็นศิลปินแต่ผมก็มองการตลาดออกนะ ตอนนี้คงต้องปล่อยไปก่อน คัมแบครอบนี้แบมแบมต้องเป็นหุ่นยนต์แหงๆ ร่างกายก็ทำงานไปแต่ไร้หัวใจ เฮ้อ...จริงๆ ผมก็พอรู้เรื่องของแบมแบมมาบ้าง โลกเรานี่มันก็กลมดีนะครับ ไว้จะไปลองสืบจากแฟนของเจ้ายูคยอมดูซะหน่อยดีกว่า เพราะยังไงผมว่าเรื่องนี้กันต์ฮยองทำไม่ถูก

    .

    .

    .

    I’ll be your Sunflower…Forever…My Sunshine

     

    ข้อความที่พี่แจบอมส่งมาหลังจากที่เราคุยกันในวันนั้น ผมเพิ่งได้อ่านมัน ถ้าเลือกได้ผมก็ไม่อยากเป็นดวงอาทิตย์ที่มีแสงสว่างเจิดจ้าแต่ต้องอยู่ลำพังบนท้องฟ้าที่กว้างใหญ่หรอกนะ ผมยอมเป็นแมลงอะไรสักอย่างก็ได้ ขอแค่ได้อยู่กับดอกทานตะวันดอกนั้น

     

    ผมเหนื่อยเหลือเกิน...ไม่รู้เรี่ยวแรงมันหายไปไหนหมด ทั้งๆ ที่วันนี้เป็นวันคัมแบคแท้ๆ เมื่อวานกันต์ฮยองมาซักซ้อมทำความเข้าใจกับผมว่าต้องพูดอะไรบ้างในงานแถลงข่าววันนี้ ผมไม่อยากทำแบบนั้นเลยมันดูเห็นแก่ตัวเกินไป ผมรู้ว่ากันต์ฮยองเป็นห่วงผมขนาดไหน ผมรู้ว่าที่ฮยองทำไปทั้งหมดก็เพราะหวังดีกับผม ขนมกล่องเดิมที่ได้มาจากพี่แจบอม จนมาถึงวันนี้ผมก็ยังไม่ได้ชิมมันเลย คิดถึง...คิดถึงมาก...ผมไม่อยากเชื่อเลยว่าเราจะเลิกกันแล้วจริงๆ

     

    ขนมทุกชิ้นยังสวยและน่ากินเหมือนเดิม ผมไม่อยากกินมันเพราะกลัวว่าของขวัญชิ้นพิเศษชิ้นสุดท้ายนี้จะหายไป ผมหยิบกล่องขึ้นมาเปิดออกดูและเลือกที่จะหยิบช็อคโกแลตทรัฟเฟิลลูกเล็กขึ้นมาชิม เพียงแค่คำเล็กๆ คำเดียวที่กัดมันและได้ลิ้มรสหวานปนขมของช็อคโกแลตรวมถึงรสอ่อนนุ่มละมุมลิ้นของชีสที่สอดแทรกอยู่ภายในก็ทำให้น้ำตาของผมไหลรินอีกครั้ง ภาพในความทรงจำทุกอย่างมันไหลย้อนกลับมา

     

    “แบมแบมมา ร้องไห้ทำไมตาบวมกันพอดี เดี๋ยวต้องไปแต่งหน้าแล้วนะ”

    “ฮยอง...ผมไม่ไหวแล้ว...ผมจะผ่านมันไปได้ยังไงครับ”

    “ฟังฮยองนะ ผู้ชายคนนั้นเขารักแบมแบมมากนะ เขายอมเสียสละทุกอย่างเพื่อแบม เพราะฉะนั้นแบมต้องก้าวต่อไปให้ได้นะ เพื่อตัวเองแล้วก็เพื่อคนที่เขารักแบมแบมด้วยรู้ไหม”

     

    “นี่...ฮยอง...ได้คุยกับ...”

    “เอาเป็นว่า วันนี้ทำให้เต็มที่นะ ส่วนเรื่องแถลงข่าวถ้าไม่ไหวจริงๆ ฮยองจะช่วยพูดให้เองนะ”

    “ขอบคุณนะครับ ฮยอง”

    .

    .

    .

    ร้องไห้อีกแล้ว เฮ้อ...ผมไม่อยากให้แบมแบมเป็นแบบนี้เลย แล้วยังต้องฝืนไปทำงานอีก เพลงโปรโมทรอบนี้ก็ดันความหมายดีมีความสุขซะเหลือเกิน ผมคงทนอยู่เฉยๆ แบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้วล่ะ

     

    “มีเรื่องให้ช่วยหน่อยว่ะยูคยอม...” เท่านี้ก็เรียบร้อย หวังว่าผมคงพอช่วยอะไรได้บ้างและทุกอย่างคงยังไม่สายเกินไป

     

    การอัดผ่านไปได้ด้วยดีวันนี้แฟนๆ มากันเยอะเลยทำให้เสียงเชียร์ตอนที่อัดดังมากเลยครับ ดังจนน่าตกใจ ท่าทางแฟนๆ จะคิดถึงพวกเรามากนะเนี่ย พวกเรากำลังเดินกลับออกไปขึ้นรถก็มีน้องๆ แฟนคลับเจ้าประจำที่ติดตามพวกเรามาตั้งแต่ยังเป็นเด็กฝึกหัดและตามพวกเราไปทุกที่ ทุกงานไม่ว่าจะไกลหรือจะดึกแค่ไหนก็ตาม หนึ่งในกลุ่มนั้นยื่นถุงขนมของโปรดให้แบมแบมแต่ขนมเจ้ากรรมดันมาจากร้าน ลอร์ดเจ

     

    “แบมแบมอปป้า ไฟท์ติ้ง!!!” ผมเห็นแววตาของแบมแบมที่เศร้าลงแต่ก็ปรับกลับมายิ้มอย่างสดใสให้แฟนคลับ จะว่าแฟนคลับกลุ่มนี้ไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นก็แปลก แต่ถ้ารู้แล้วทำไมถึงยังซื้อขนมร้านนี้มาให้แบมแบมอีกนะ

     

    “อปป้าถามอะไรหน่อยสิ ทำไมถึงซื้อขนมร้านนี้มาให้แบมแบมล่ะ”

    “โธ่ แจ็คสันอปป้าไม่รู้เรื่องเลยหรอไง”

    “เรื่องอะไรอ่ะ”

    “ก็เรื่องแฟนแบมแบมอปป้าไงคะ เจบีอปป้าน่ะน่ารักมากเลย ฉันว่าเหมาะกับแบมแบมอปป้ามากกว่าแจ็คสันอปป้าอีกนะ ไม่รู้แฟนคลับบางคนจิ้นแจ็คแบมไปได้ไง”

     

    “ย๊า!!!

    “ก็มันจริงนี่นา อ่ะ ฉันซื้อหมากฝรั่งมาฝากอปป้าด้วย ไปก่อนนะคะ”

    “เดี๋ยวสิ ตกลงพวกเธอรู้เรื่องแฟนของแบมแบมหรอ”

    “รู้สิคะ มีแฟนคลับตั้งหลายกลุ่มที่เชียร์นะ เพราะพวกเราก็ไปอุดหนุนขนมร้านนี้กันบ่อยๆ จะบอกอะไรให้นะ พวกอปป้าที่ร้านลอร์ดเจเขาก็มีแฟนคลับเป็นของตัวเองเหมือนกันนะคะ”

     

    “ขนาดนั้นเลยหรอ”

    “ก็แต่ละคนหน้าตาดีระดับเป็นไอดอลได้ทั้งนั้นเลย”

    “นี่อปป้าขอเบอร์ติดต่อพวกเธอหน่อยสิ เผื่อต้องการความช่วยเหลือ”

    “ไอกู~ นี่อปป้าจีบพวกเราหรอ คิกคิก”

    “เอามาเหอะน่า”

    “ย๊า! แจ็คสันหวังเดินเร็วๆ หน่อยเดี๋ยวไม่ทันแถลงข่าว มัวแต่คุยกับแฟนคลับอยู่นั่นแหละ”

    “รู้แล้วคร้าบ~ กันต์ฮยอง อปป้าไปก่อนนะ แต้งกิ้ว” ได้ข้อมูลเพิ่มเติมมาแบบนี้ และถ้ามีกลุ่มแฟนคลับที่รู้เรื่องแล้วแต่ไม่แอนตี้แถมยังสนับสนุน ดูเหมือนจะจัดการอะไรๆ ได้ง่ายขึ้นแล้วสิ

    .

    .

    .

    ในนามของต้นสังกัดและศิลปินวง เดอ เลจเจนท์ ผมกันต์ผู้จัดการวงขอแถลงว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องจริงครับ แต่ว่าผู้ชายอีกคนในภาพคือเพื่อนสนิทของแบมแบมและที่มีภาพออกไปแบบนั้นก็เพราะว่าเพื่อนของแบมแบมเมาครับ วันนั้นเป็นวันที่มีการแสดงโชว์เคสและหลังจากที่การแสดงเสร็จสิ้นพวกเราก็ได้ไปฉลองกันต่อครับ ไปกันหลายคน ผมเองรวมถึงแจ็คสันก็ไปครับ และบุคคลในภาพพวกเราก็รู้จักดีครับ จึงขอให้ทุกท่านเข้าใจตามนี้นะครับ ขอบคุณครับ

     

    เพื่อนสนิทงั้นหรอ...เจบีคือคนที่แบมแบมคนนี้รักสุดหัวใจต่างหาก และในวันนั้นพี่แจบอมก็ไม่ได้เมาสักนิด พวกเรามีความสุขมากต่างหาก การเลี้ยงฉลองที่ไปกันหลายคนรวมทั้งกันต์ฮยองและแจ็คสันมันก็ใช่ แต่ผมกับพี่แจบอมไม่ได้ไปด้วยสักหน่อย เฮ้อ...แต่ยังไงก็ต้องขอบคุณกันต์ฮยองที่พูดแทนผม เพราะถ้าจะให้ผมพูดเองผมคงทำใจไม่ได้ มันดูเห็นแก่ตัวเกินไป เหมือนเป็นการโยนความผิดทั้งหมดไปให้พี่แจบอม ตลกสิ้นดี พี่แจบอมไม่เคยดื่มเลยด้วยซ้ำไม่ว่าผมจะชวนกี่ครั้ง ชวนยังไงเขาก็ไม่เคยดื่ม มีแต่ผมเนี่ยแหละที่ดื่มและเขาจะเมาได้ยังไง ขอโทษ...ขอโทษจริงๆ...ขอโทษนะอิมแจบอม

    “คุณแบมแบมครับ ไม่ทราบว่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับคุณอิมแจบอมเป็นแค่เพื่อนกันจริงๆ หรอครับ แต่รูปมันดูเกินกว่าคำว่าเพื่อนนะครับ”

     

    “ทางเราได้แถลงไปแล้วครับ ของดการตอบคำถามนะครับ”

    “เดี๋ยวสิคุณ คิดหรอว่าการที่ให้เมเนเจอร์ออกมาพูดแทนแล้วคนเขาจะเชื่อ สื่อไม่ได้โง่นะคุณ”

    “นั่นสิคะ คุณแบมแบมพูดอะไรหน่อยสิคะ”

    “ปกปิดความจริง แบบนี้ไม่ดีนะคะ”

    “ใช่ๆ พูดแบบนี้มันแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ชัดๆ รูปที่ออกมานัวเนียกันขนาดนั้น”

    “ขอจบการแถลงเท่านี้นะครับ”

    “เดี๋ยวสิคุณ แบบนี้พวกเราคงต้องไปสัมภาษณ์อิมแจบอมแล้วล่ะ...” นั่นคือประโยคสุดท้ายที่ผมได้ยินก่อนที่สติทั้งหมดของผมจะดับวูบไป

     

    “เฮ้ย แบมแบม!!! แบมแบมนายฟื้นสิ”

    “แจ็คสันช่วยพาแบมแบมไปที่รถที เดี๋ยวฮยองจัดการทางนี้เอง”

    “ครับฮยอง” พวกนักข่าวนี่ก็เหลือเกิน ผมคิดอยู่แล้วว่าถึงออกมาแถลงข่าวก็ต้องโดนกัดไม่ปล่อย ในเมื่อรูปมันชัดเจนออกขนาดนั้น ปากคอนักข่าวแต่ละคนก็ร้ายกาจ หยาบคายเหลือเกิน คนที่ตอนนี้สภาพจิตใจกำลังย่ำแย่อยู่ถึงได้เป็นลมล้มพับไปแบบนี้ไง

     

    “แบมแบมเป็นยังไงบ้าง”

    “ก็อย่างที่เห็นอ่ะฮยอง ผมบอกแล้วใช่ป่ะว่าแถลงไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก ฮยองก็ไม่เชื่อ ผมคิดมาตลอดว่าฮยองจะเป็นคนที่เข้าใจพวกเราดีที่สุด แต่ทำไมฮยองถึงทำแบบนี้อ่ะ ผมโคตรผิดหวังเลย”

     

    “แล้วนายจะให้ฉันทำยังไง ผู้ใหญ่ก็กดดันมาให้ฉันไปจัดการให้เรียบร้อย คิดว่าฉันไม่อยากช่วยแบมแบมหรอไง คิดว่าฉันไม่สงสารแบมหรอไง นายรู้ไหมว่าวันที่ฉันไปคุยกับเจบีมาฉันรู้สึกแย่ขนาดไหน ยิ่งเจบีเสียสละและบอกว่าเข้าใจมากแค่ไหน ฉันก็ยิ่งรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนเลวมากขึ้นเท่านั้น ฉันไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้ จะมีใครเข้าใจฉันบ้างไหม...” เสียงของกันต์ฮยองระบายความรู้สึกที่อัดอั้นภายในดังขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นตะคอกใส่ผมกลับเงียบลงพร้อมกลับไหล่กว้างที่สั่นเทา

     

    “ฮะ...ฮยอง”

    “ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น...ฮึ่ก...ฉันเหนื่อย นายขับรถทีได้ไหม”

    “ผมขอโทษ...ฮยอง” โดนนิ่งใส่แบบนี้ผมจะทำอะไรได้ ก็ต้องยอมลงมาแล้วทำหน้าที่ขับรถกลับหอแทนกันต์ฮยองที่เหมือนจะร้องไห้อยู่ตอนนี้ ผมไม่เคยเห็นฮยองโมโหจนร้องไห้มาก่อนเลย ผมขอโทษจริงๆ ที่ลืมคิดถึงความรู้สึกของฮยอง ว่าฮยองเองก็คงเจอแรงกดดันจากรอบด้านมาไม่น้อยไปกว่าผมหรือแบมแบมเลย ฮยองเองก็เหนื่อยเพื่อพวกเรามามาก ผมไม่ดีเองที่ต่อว่าฮยองออกไปแบบนั้น

    .

    .

    .

    TBC.

    ขอบคุณทุกเฟฟ ทุกวิวและทุกเม้นค่ะ พบกันใหม่พรุ่งนี้นะคะ  :)
    #FicCRM
    O W E N TM.
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×