ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {WANNA ONE&PRODUCE 101} Honey Star (Linho | OngNielHoon)

    ลำดับตอนที่ #1 : Honey Star : Chapter 1 อยากจะรู้จักให้มากกว่านี้

    • อัปเดตล่าสุด 25 ส.ค. 60


    [FIC] Honey Star ดวงดาราแห่งความวุ่นวาย

    Lai Kuanlin x  Yoo Seonho



     

    Chapter 1 อยากจะรู้จักให้มากกว่านี้

     




                แม้จะเดบิวต์มาได้เพียงสองปีแต่ชื่อเสียงของวงก็เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่ในเกาหลีแต่ยังรวมไปถึงประเทศเพื่อนบ้าน และดังไกลข้ามทวีปจนเรียกได้ว่าเป็นบอยแบนด์ที่ดังไปทั่วโลก ด้วยสมาชิกที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสามารถ เพียบพร้อมด้วยหน้าตาและบุคลิกอันเป็นเอกลักษณ์ การแสดงบทเวทีที่ยอดเยี่ยม เสน่ห์ดึงดูดมัดใจทั้งแฟนคลับทุกเพศทุกวัย ทุกอย่างได้รวมอยู่ในคนทั้งหกนี้ จนคนเบื้องหลังและหลายสำนักข่าวต่างก็คาดเดากันว่าอีกไม่นานก็อาจเรียกได้ว่าเป็นฮัลรยูสตาร์แห่งยุคอีกวงหนึ่ง

     

                เสียงกรี๊ดสลับเสียงเรียกตะโกนชื่อโดยแฟนคลับหญิงสาวกว่าร้อยชีวิตดังขึ้นเมื่อมีการปรากฎตัวของหนุ่มทั้งหกคนที่ใบหน้างดงามราวกับรูปปั้นที่มีชีวิต สัดส่วนทองคำที่ยากจะหาได้ ความสมบูรณ์แบบได้รวมตัวกันในนามของบอยแบนด์ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นบอยแบนด์ที่เพอร์เฟคที่สุดในวินาทีนี้

     

                Soda Pop

     

     

                ทั้งหกคนรีบก้าวเดินเข้าสตูดิโอของรายการเพื่อป้องกันความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้นภายนอก ตอนเริ่มแรกเดบิวต์พวกเขาก็มักจะเดินช้าๆเพื่อแวะทักทายแฟนๆ แต่หลังจากสองปีที่ได้อยู่ในวงการ ความนิยมที่เพิ่มขึ้นและตารางงานที่แน่นขนัดทำให้ทุกอย่างต้องดำเนินไปอย่างรวดเร็ว

     

                “จินยองกับฮยอนบินแต่งหน้าก่อนเลย”

     

                เมื่อถึงห้องพัก ‘คังดงโฮ’ พี่ใหญ่ที่ควบตำแหน่งหัวหน้าวงจัดการสมาชิกให้เริ่มแต่งตัวสำหรับการอัดเทปของรายการ แม้สมาชิกจะมีเพียงหกคนแต่เพราะช่วงนี้พวกเขาอยู่ในระหว่างการโปรโมตและมีงานเยอะมาก จึงต้องจัดสรรเวลาของสมาชิกให้แบ่งกันแต่งตัวและพักผ่อนระหว่างตารางงานเพื่อให้ออกมาดีทั้งงานและสุขภาพก็ไม่แย่มากด้วย สมาชิกสองคนที่ได้พักไปก่อนหน้านี้เริ่มนั่งประจำเก้าอี้เพื่อเริ่มแต่งหน้า และสมาชิกสี่คนที่เหลือก็เลือกจะนั่งเอนกายลงบนโซฟา

     

                “วันนี้มีเดบิวต์สเตจของวงน้องใหม่ค่าย YH ด้วยแหละ ไม่รู้ถ่ายกันไปหรือยัง”

     

                ‘คังแดเนียล’ คาริสม่าไอคอนของวงพูดคุยกับสมาชิกภายในห้องอย่างตื่นเต้น สิ่งหนึ่งนอกจากการขึ้นเวทีในรายการเพลงวันนี้เขายังมาเพื่อดูเวทีแรกของวงน้องใหม่ที่กำลังได้รับความสนใจจากหลายๆคน รวมไปถึงตัวของแดเนียลเอง

     

                “ดูพี่สนใจวงนี้นะ น่าสนใจขนาดนั้นเลย?”

                “โหย น่าสนใจออก นี่ไปอ่านมานะ เขาบอกว่าวงนี้เหมือนสร้างมาเป็น The Next Soda Pop เลยนะ ก็เลยต้องจับตามองหน่อย”

                “เหรอ”

     

                คนฟังพูดออกเชิงประชดเอาหน่อยๆ จริงๆ ‘ไลควานลิน’ เองก็ได้ยินผ่านหูอ่านข่าวผ่านตามาบ้างกับการที่ค่ายเพลงชื่อดังอีกค่ายหนึ่งอย่าง YH Entertainment กำลังจะเดบิวต์วงน้องใหม่ มีการปล่อยประวัติและภาพโปรโมตสมาชิกออกมานิดหน่อยแล้ว แต่ไม่ว่าจะดูยังไงก็คงไม่ออกมาเพื่อแข่งกับวงของเขาแน่นอน นอกจากแค่มีจำนวนสมาชิกเท่ากัน อย่างอื่นก็คงไม่มีอะไรเหมือนกันอีก การที่ไม่มีข้อมูลอะไรมากกว่านี้ก็ทำให้ไม่สามารถพูดอะไรได้มาก ก็คงทำได้แค่รอดูต่อไป

     

                นั่งรอสมาชิกแต่งหน้าอยู่นานจนหนังตาเริ่มตก ถึงจะเลือกงีบหลับสักพักหนึ่งก็ได้ แต่เพราะระบบร่างกายของเขาไวต่อการพักผ่อนมากจนจากงีบจะกลายเป็นหลับยาวและถ้าตื่นมาก็จะทำให้ไม่สดชื่นแล้วก็หงุดหงิด  ควานลินจึงเลือกออกไปเดินยืดเส้นยืดสายด้วยการมุ่งตรงไปยังตู้กดกาแฟที่อยู่อีกฝั่งทางเดินของห้องพักศิลปิน

     

                สายตาควานลินเริ่มจะเบลอๆอันเป็นผลจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ เขาแค่รีบก้าวเท้าเพื่อไปถึงสิ่งที่จะทำให้เขาตาสว่างได้ไวๆ แต่ดูว่ามันก็จะมาหาอย่างไม่ทันตั้งตัว..

     

                “โอ๊ย! ร้อนๆๆ”

               

                สัมผัสร้อนของของเหลวจากกาแฟในมือของคนใส่แว่นหัวฟูตรงหน้าเขาส่งผลให้มือหนารีบสะบัดมือคลายร้อน มืออีกข้างลูบบริเวณเสื้อที่โดนของร้อนหกใส่ เสื้อขาวตัวโปรดของเขาเปื้อนเป็นวงกาแฟไปแล้ว

     

                “ขะ..ขอโทษครับ ขอโทษครับ เป็นอะไรไหมครับ”

     

                คนต้นเหตุผู้เป็นเจ้าของกาแฟที่เปื้อนตัวควานลินร้อนรนกับการที่ทำอีกฝ่ายเดือดร้อน มีเพียงแค่คำขอโทษที่ต้องเอ่ยกล่าวก่อนและเขาไม่รู้ว่าควรทำยังไงต่อไป

     

                “ร้อนสิครับ!”

                “อะ..เอ่อ.. ผมขอโทษครับ ถ้างั้นไปห้องน้ำกันเถอะครับ”

     

                อดีตเจ้าของกาแฟรีบพาไอดอลร่างสูงที่ตอนนี้หงุดหงิดเกินกว่าจะพูดอะไรไปยังห้องน้ำที่อยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ ควานลินลูบมือไล่ความปวดร้อนไปมาตลอดทางเดิน เมื่อถึงห้องน้ำ เจ้าของกาแฟต้นเหตุรีบเปิดก๊อกน้ำเย็นให้มือคนเจ็บเข้าไปล้างทำความสะอาด

     

                “ผมควรจะทำยังไงดี.. เอาเป็นว่าผมจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้นะครับ รวมไปถึงเสื้อที่เลอะด้วย”

                “ไม่เป็นไรครับ จริงๆผมก็เดินไม่ดูทางด้วย ไม่ใช่ความผิดของคุณแค่คนเดียว”

     

                จะไปโทษเป็นความผิดของอีกฝ่ายทั้งหมดก็ดูจะแย่เกินไป ในเมื่อตอนนั้นเองถ้าเขาเดินมองทางให้ดีสักหน่อยก็คงจะไม่เกิดเหตุแบบนี้ขึ้น เหมือนว่าอีกฝ่ายก็เป็นแค่สตาฟธรรมดาๆที่กินเงินเดือน หากจะต้องมาเสียค่ารักษาพยาบาลให้เขาก็คงจะโดนบริษัทต้นสังกัดเรียกเยอะจนทำให้เดือดร้อนกว่าที่เขาโดนน้ำร้อนหกใส่แค่เพียงเล็กน้อย

     

                “จะดีเหรอครับ”

                “ครับ ไม่เป็นไรจริงๆ ถ้างั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”

     

                ว่าจบไอดอลร่างสูงก็เดินออกจากห้องน้ำไปโดยไม่ต่อความยาว คนที่ยังคงอยู่ในห้องน้ำครุ่นคิดกับบางสิ่งบางอย่างนอกเหนือจากสิ่งที่เขาทำผิดไป ดวงตาภายใต้แว่นหนาเบิกกว้างเมื่อเขาคิดถึงอีกสิ่งที่เขาทำผิดพลาดไป

     

                “ตายล่ะ! ลืมเคารพรุ่นพี่ไลควานลิน เมื่อกี๊คือรุ่นพี่ไลควานลินนี่นา”

     

                ในใจถึงกับตื่นตระหนกเมื่อการที่เจออุบัติเหตุไม่ได้คาดคิดของเขาทำให้เอาแต่สนใจเรื่องอาการเจ็บของอีกคนมากกว่าจะสนใจว่าคนๆนั้นเป็นใคร สิ่งสำคัญสำหรับการเป็นน้องใหม่อย่างเขาควรทำคือการต้องเคารพรุ่นพี่และทำตัวให้น่าเอ็นดูเข้าไว้ถึงจะอยู่ได้ง่ายในวงการ ถึงจะเป็นน้องใหม่ที่รุ่นพี่จะจำได้หรือไม่ได้มันก็เป็นธรรมเนียมที่เขาต้องทำ นี่ยังไม่ทันจะเดบิวต์เลยเขาก็ไม่ได้ทำความเคารพรุ่นพี่แถมยังไปทำเรื่องเดือดร้อนให้อีก

     

                ถ้ารุ่นพี่ไลควานลินจำได้ เขานี่ล่ะจะโดนหมายหัวแล้วทำวงเดือดร้อน

     

                “อ่า แกนี่มันแย่จริงๆยูซอนโฮ”

                “อยู่นี่เองซอนโฮ ไหนว่าจะไปซื้อกาแฟให้พี่จีซองไง นี่พี่จีซองให้มาตามหาเนี่ย รีบๆกลับห้องได้แล้วนะ”

                “คร้าบบบ พี่จีฮุน”

     

     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

                คิวอัดเทปรายการเพลงในวันนี้ ศิลปินยังคงคล้ายกับเทปของเมื่อวาน น้องใหม่อย่างวง BON.Era ที่ยังไม่ได้เคารพหรือฝากตัวกับรุ่นพี่เมื่อวานนี้เพราะความผิดพลาดของตารางเวลาก็มีความตั้งใจจะทำความเคารพรุ่นพี่ศิลปินให้ครบทุกคนและทุกวงให้ได้ สำนักข่าวหลายแห่งต่างลงข่าวจับตาการเดบิวต์ของพวกเขาเพราะมาจากค่ายดังของประเทศ แต่พวกเขาก็ต้องถ่อมตัวและให้ความเคารพทุกคนในฐานะของรุ่นน้อง

     

                หลังจากไล่แนะนำตัวกับรุ่นพี่หลายๆคนในห้องพักมาเกือบหมด ก็มาถึงวงสุดท้ายที่มีห้องพักอยู่ในสุดและดูจะเป็นส่วนตัวมากที่สุด รุ่นพี่วงดังที่กลายมาเป็นไอดอลของหลายๆวงที่กำลังจะเดบิวต์ต่อมาด้วยความสามารถและชื่อเสียงที่เหมือนเดบิวต์มามากกว่าอายุวงสองปี เด็กใหม่อย่างพวกเขาก็ประหม่ามิใช่น้อย ทั้งหกชีวิตมองหน้าสลับกันไปมาเพราะไม่มีใครกล้าที่จะเป็นคนเริ่ม แม้แต่หัวหน้าวงเอง..

     

                “พี่จีซองต้องเริ่มนะ ถ้าไม่งั้นก็ไม่มีคนเริ่มแล้ว”

     

                เมื่อน้องในวงบอกเช่นนั้น พี่ใหญ่ที่ต้องตกเป็นหัวหน้าวงด้วยก็เป็นคนเคาะประตูห้องพักห้องสุดท้ายที่พวกเขาจะใช้เวลาในการแนะนำตัวด้วย ประตูห้องพักแทบจะถูกเปิดออกในทันทีหลังการเคาะครั้งสุดท้าย ภายหลังประตูที่เปิดออกเผยใบหน้าหล่อของรุ่นพี่คนดังที่ทำเอาคนมองใจเต้นตึกตัก

     

                “มีอะไรหรือเปล่าครับ”

                “อะ..เอ่อ.. พวกเราเพิ่งเดบิวต์ก็เลยอยากจะมาทำความเคารพน่ะครับ”

                “อ๋อ เข้ามาสิครับ”

     

                เจ้าของห้องพักเปิดประตูกว้างออกเป็นการต้อนรับ น้องใหม่ทั้งหกเดินเข้าไปอย่างเกร็งๆโดยมีพี่ใหญ่นำทีม สายตาของอีกห้าชีวิตภายในห้องจับจ้องมายังหกเลือดใหม่ไฟแรงที่เดินก้าวเข้ามา เมื่อเข้ามาครบทีมพี่ใหญ่ของวงก็สะกิดน้องๆอีกห้าคนที่แข็งทื่อราวกับหิน เป็นสัญญาณให้เริ่มต้น

     

                “สวัสดีครับ พวกเราวง BON.Era ขอฝากตัวด้วยครับ!”

     

                สิ้นเสียงทักทายและแนะนำตัว รุ่นน้องทั้งหกก้มโค้งศีรษะลงอย่างนอบน้อมและพร้อมเพรียง เจ้าของห้องพักผู้เป็นรุ่นพี่ปรบมือเป็นการต้อนรับอย่างเป็นมิตรและอบอุ่น

     

                “นี่ไงแดน อยากรู้จักเขาก็มาให้รู้จักถึงที่เลย” คนตัวโตหันไปคุยกับว่าที่แฟนคลับวงน้องใหม่ที่เมื่อวานเจ้าตัวเพิ่งจะพูดถึงการเดบิวต์ของรุ่นน้องไป

     

                “อยากรู้จักทีละคนจัง แนะนำตัวหน่อยสิ”

     

                แดเนียลยิ้มกว้างเมื่อได้เจอกับคนที่เขาเพิ่งจะพูดถึงไปเมื่อวาน เมื่อวันนี้น้องใหม่มาหาถึงห้องพักเขาเองก็อยากจะรู้จักกับทุกคนให้ได้ด้วยนิสัยของเขาที่เป็นมิตรได้กับทุกคน ในเมื่อรุ่นน้องเองก็อยากจะให้พวกเขาได้รู้จักเขาเองก็ควรถือโอกาสนี้รู้จักรุ่นน้องเสียเลย เพราะอีกไม่นาน BON.Era ก็คงจะกลายเป็นอีกวงที่ใครๆก็อยากรู้จัก เชื่อเขาเถอะ

     

                “สวัสดีครับ ผมยุนจีซอง เป็นหัวหน้าวง ตำแหน่งเต้นนำครับ”

     

                เริ่มต้นที่พี่ใหญ่ของวงอย่างยุนจีซอง ที่ควบตำแหน่งเป็นหัวหน้าวงด้วยอายุและประสบการณ์ที่มากที่สุดเป็นคนเริ่มแนะนำตัวให้น้องๆเป็นตัวอย่างก่อน

     

                “สวัสดีครับ ผมคิมจงฮยอน ชื่อในวงการคือเจอาร์ ตำแหน่งร้องนำครับ”

                “สวัสดีครับ ผมองซองอู ไม่ใช่ฮง ไม่ใช่กง ไม่ใช่อุง ไม่ใช่อน แต่เป็นองซองอู ตำแหน่งเต้นนำครับ”
                “สวัสดีครับ ผมคิมแจฮวาน ตำแหน่งในวงเป็นแรปเปอร์ ถูกยกให้เป็นวิชวลของวงด้วยครับ”

                “สวัสดีครับ ผมปาร์คจีฮุน ตำแหน่งร้องนำครับ”

                “สวัสดีครับ ผมยูซอนโฮ เป็นน้องเล็กของวง ตำแหน่งร้องนำครับ”

     

                หลังแนะนำตัวเสร็จทั้งหกก็ได้รับเสียงปรบมืออีกครั้ง ด้วยการต้อนรับและรอยยิ้มที่ถูกส่งมาให้พวกเขาทำให้สมาชิกวงน้องใหม่เกร็งน้อยลงเล็กน้อย เมื่อหมดสิ่งที่พวกเขาเตรียมมาก็เหมือนว่าจะหมดเวลาการเคารพรุ่นพี่แล้ว

     

                “ถ้าอย่างนั้นพวกเราไม่รบกวนรุ่นพี่แล้วนะครับ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”

     

                BON.Era โค้งตัวลงเป็นลาครั้งสุดท้าย สมาชิกสี่คนหันหลังและกลับออกไปยังทางที่พวกเขาเดินเข้ามา แต่น้องเล็กสองคนของวงที่ดูกังวลกับบางสิ่ง คนตัวเล็กกว่าส่งสายตาให้น้องเล็กตัวสูงที่ยืนข้างๆเป็นสัญญาณให้ทำบางสิ่งที่พวกเขาเหมือนว่าจะตกลงกันไว้

     

                “สองคนมีอะไรหรือเปล่าน่ะ พี่ๆเขาเดินกันไปแล้วนะ” รุ่นพี่หน้าหล่อที่เปิดประตูให้พวกเขาถามขึ้นเมื่อเห็นท่าทีแปลกของน้องเล็กน้องใหม่

     

                “คะ..คือ.. รุ่นพี่ไลควานลินครับ..”

     

                เจ้าของชื่อที่ถูกเรียกหันมองรุ่นน้องตัวสูงที่เรียกเขา กล่องสีขาวมุกขนาดปานกลางถูกยื่นให้เจ้าของชื่ออย่างนอบน้อม แม้จะตั้งใจสะกดตัวเองไม่ให้สั่นแต่แขนสองข้างที่หยิบยื่นกล่องให้รุ่นพี่ก็สั่นราวกับเจ้าเข้า ควานลินลุกจากโซฟามาหารุ่นน้องผู้ตั้งใจมอบของให้เขา

     

                “เป็นแฟนคลับฉันเหรอ ขอบใจมากนะ”

                “อะ..เอ่อ ไม่ใช่ครับ คือ.. เมื่อวานผมเดินชนรุ่นพี่ แล้ว.. กาแฟหกใส่รุ่นพี่ไงครับ”

                รุ่นพี่ร่างสูงขมวดคิ้วเข้าหากัน ควานลินรู้ว่ามันคือเหตุการณ์ไหนเพราะมันมีแค่คนเดียวเท่านั้นที่ทำกาแฟหกใส่เขา คนเมื่อวานคือคนที่ใส่แว่นหัวกระเซอะกระเซิงที่ถ้าให้เขาไปตามหาอีกครั้งก็คงจะจำหน้าไม่ได้แต่คนที่ขอโทษเขาในวันนี้ตรงหน้าเขากลับเป็นเด็กหนุ่มหน้าใสไร้กรอบแว่นบนใบหน้าแถมผมก็ดูเข้าที่เข้าทางไม่เหลือเค้าเดิมของคนเมื่อวาน ต่างกันราวฟ้ากับเหวจนเขาเองไม่เอะใจสักนิดว่ารุ่นน้องคนนี้ได้สร้างเรื่องเดือดร้อนให้เขา

     

                “คือนายเหรอ นายแว่นคนเมื่อวาน?”

                “ครับ ผมขอโทษครับที่เมื่อวานสร้างเรื่องเดือดร้อนให้รุ่นพี่ ขอโทษที่เมื่อวานไม่ได้เคารพรุ่นพี่เพราะผมตกใจมากจริงๆ แว่นผมเมื่อวานมันก็มองไม่ค่อยชัดด้วยครับ วันนี้ผมเลยเอาเจลเย็นกับยาแก้ปวดมาให้รุ่นพี่ แล้วก็ซื้อเสื้อมาคืนด้วยครับ ผมหวังว่ารุ่นพี่จะรับคำขอโทษจากผมและให้อภัยผมด้วยนะครับ”

     

                คานลินยังอึ้งๆอยู่กับคนตรงหน้าที่รัวใส่มาเป็นชุด เขายังคงไม่เชื่อว่าเป็นคนๆเดียวกันกับเมื่อวาน

     

                “นายชื่ออะไรนะ”

                “ผมยูซอนโฮครับ”

                “นายเมื่อวานกับนาย.. คนเดียวกันจริงเหรอ”

                “ครับ”

     

                ในเมื่อรุ่นน้องยูซอนโฮรู้เรื่องนี้และยืนยันว่าเป็นตัวเอง เขาเองก็คงต้องเชื่อจริงๆ ควานลินรับของจากมือรุ่นน้องมา ซอนโฮกับเพื่อนร่วมวงอีกคนโค้งอย่างสำนึกผิดให้เขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนควานลินต้องเอามือวางบนไหล่ให้เงยหน้าขึ้นเป็นการให้อภัยและจะได้ปล่อยความรู้สึกผิดไม่ให้มากดทับศีรษะน้องเพื่อจะต้องก้มลงให้เขาอีก

     

                “ฉันรับคำขอโทษนะ ไม่ต้องกังวลหรอก กลับห้องพักพวกนายได้แล้วล่ะ”

     

                รุ่นน้องทั้งสองคนโค้งตัวลงเพื่อลารุ่นพี่ทั้งหกรอบห้องแล้วจึงเดินออกไปอย่างเงียบๆ ควานลินเปิดดูของในกล่องหลังทั้งสองออกไปพบว่ามียาสารพัดประโยชน์ ส่วนข้างใต้สุดมีเสื้อสีขาวแบรนด์ดังที่เขาชอบและเป็นไซส์ของเขาพอดี คาดว่าคงจะหาข้อมูลจนรู้ว่าอะไรที่เขาชอบใส่และจะใส่มัน

     

                “เป็นวงที่น่าสนใจจริงๆนะ อ่า.. ฉันชอบจีฮุนล่ะ ตัวเล็กน่ารักมากๆเลย” มินฮยอนพูดไปก็ยิ้มไป

                “มันต้องเป็นไม่ใช่ฮง ไม่ใช่กง แต่เป็นคุณองต่างหาก แค่การแนะนำตัวก็กินขาดแล้ว” แดเนียลผู้ชอบยิ้มและเสียงหัวเราะเลือกคนที่สามารถทำให้เขาชอบใจกับการแนะนำตัวที่แฝงด้วยอารมณ์ขันอย่างองซองอู

                “ผมก็ว่าจีฮุนครับ”

                “ฉันก็ทีมจีฮุนล่ะ”

     

                ดูเหมือนว่าวงบอยแบนด์ที่มีภาพลักษณ์ที่เท่และหล่อจะชอบในสิ่งที่พวกเขาไม่ค่อยแสดงออกให้แฟนๆได้เห็นและเลือกในสิ่งที่ตรงข้ามกับภาพลักษณ์พวกเขา แบจินยองกับคังดงโฮก็เป็นอีกสองคนที่เลือกความน่ารักแบบปาร์คจีฮุน

                “ผมว่าคุณจงฮยอนยิ้มน่ารักนะครับ เหมือนโอนิบูกิเลย”

     

                ควอนฮยอนบินที่ชื่นชอบการ์ตูนกลับเลือกจงฮยอนที่มีลักษณะคล้ายกับการ์ตูนที่เขาชอบ สมาชิกแต่ละคนก็ชอบต่างคนต่างสไตล์ แต่ดูสมาชิกวงรุ่นน้องที่ฮอตที่สุดในหมู่วงรุ่นพี่ก็คงเป็นจีฮุนที่ได้ไปสามโหวต กับจงฮยอนและซองอูที่ได้ไปคนละหนึ่งโหวต

     

                “แล้วควานลินล่ะ คนไหนดี”

     

                เพราะเอาแต่จ้องมองของในกล่องที่รุ่นน้องให้มาไม่ได้สนใจกับที่พวกพี่ๆพูดสักเท่าไร เขาได้แต่ส่ายหัวไปมาไม่ได้ให้คำตอบกับคำถามที่พี่ชายถาม ควานลินกลับไปนั่งพักยังโซฟาและวางกล่องที่ได้มาไว้บนตัก หยิบโทรศัพท์มือถือที่วางบนโซฟาขึ้นมาเล่นเหมือนจะไม่สนจอะไร

     

                แต่ใครจะไปรู้ว่าคำแรกที่ไลควานลินพิมพ์ลงไปในมือถือ ก็เป็นคำตอบของคำถามที่เขาไม่ได้ตอบพี่ๆ           

               

     

     

               

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

     

     

                “ย่าห์! คิมแจฮวาน! นายกล้าพูดว่าตัวเองเป็นวิชวลทั้งๆที่นายทิ้งกางเกงในย้วยๆของนายไว้กลางห้องแบบนี้เนี่ยนะ! องซองอู ห้ามเอาสติกเกอร์หน้านายมาแปะไว้ที่หัวเตียงฉันแบบนี้ว้อยย! ปาร์คจีฮุน ยูซอนโฮ ห้ามนอนกิน!!”

     

                เสียงบ่นหลังอาบน้ำเสร็จของหัวหน้าออมม่าผู้บ่นได้ตลอด น้องสี่คนโดนบ่นเป็นปกติ เหลือก็แต่พี่รองที่ไม่โดนบ่นเป็นปกติเช่นกัน ห้าชีวิตเว้นพี่ใหญ่นอนดูรายการโทรทัศน์ยามดึกมีเสียงหัวเราะที่กลบเสียงบ่นดังขึ้นอย่างพร้อมเพรียง เสียงบ่นที่ดูไร้ความหมายเมื่อเด็กๆไม่แม้แต่จะสนใจ จีซองจึงปิดสิ่งที่แย่งความสนใจของเขาให้มันสิ้นเรื่อง

     

                “โบเนร่า!!!”

                “คร้าบบบบบบ!!!”

     

                เสียงขานรับทั้งห้าดังขึ้นอย่างเอื่อยๆทั้งๆที่ยังคงนอนอยู่ ออมม่าหัวหน้าวงเริ่มเม้มปากและกอดอกกับพฤติกรรมของเด็กๆให้รู้ว่าเขาต้องเอาจริงแล้ว เมื่อเห็นสีหน้าที่เริ่มนิ่งของหัวหน้าวงที่ทำให้พวกเขาเงียบได้อย่างไม่ได้นัดหมาย ห้าร่างเปื่อยๆที่เคยนอนอย่างสบายใจก็กลายมาเป็นค่อยๆลุกขึ้นมายืนเรียงแถวหน้ากระดานตามระเบียบที่ตกลงกันไว้ว่าเมื่อไรที่พี่ใหญ่เริ่มพูดพวกเขาจะต้องเคารพและรับฟัง

     

                “แจ้ ไปเก็บลิงในห้องลงตะกร้า อ๋งไปแคะสติกเกอร์ออกจากเตียง ฮุนโฮเอาขนมไปเก็บแล้วล้างมือ ทุกคนให้เวลาหนึ่งนาที ปฏิบัติ!”

     

                สี่ชีวิตรีบวิ่งไปทำตามคำสั่งของออมม่าประจำวงอย่างรวดเร็ว เหลือสมาชิกคนเดียวที่ไม่โดนคำสั่งหนึ่งนาทีเพราะไม่มีเรื่องอะไรจะให้โดนบ่นเหมือนคนอื่นๆ

     

                “มาเป็นหัวหน้าวงแทนพี่เถอะจงฮยอน”

                “ผมทำได้ไม่ดีเท่าพี่หรอกครับ เด็กๆเชื่อฟังพี่ที่สุดแล้ว”

     

                จริงๆจีซองไม่ค่อยอยากจะเชื่อที่จงฮยอนบอกเท่าไร ตั้งแต่บริษัทเริ่มฟอร์มวงจะให้พวกเขาได้เดบิวต์ด้วยกัน ใช้ชีวิตร่วมกันตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงเป็นเวลาเกือบๆครึ่งปีเพื่อให้สนิทและรู้จักนิสัยใจคอกันจะได้มีความเป็นทีมเวิร์คได้มากขึ้น จีซองเชื่อว่าบริษัทคิดถูกที่ทำแบบนี้เพราะตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันมันทำให้เขาค้นพบนิสัยของแต่ละคน พบว่าเขาต้องใช้พลังงานมากเพียงใดในการจัดการเด็กๆพวกนี้ เริ่มค้นพบมาตรการให้เด็กๆฟังเขาในฐานะของหัวหน้าวง แต่จีซองทำคนเดียวก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องยากกับการจัดการผู้ชายหกคนที่รวมตัวเขาเองด้วยให้อยู่ในทิศทางเดียวกันตลอด ดังนั้นพี่รองที่แสนอบอุ่นอย่างจงฮยอนก็เข้ามาคอยช่วยแบ่งเบาภาระในการดูแลสองน้องเล็กแสนซนอย่างจีฮุนและซอนโฮที่นอนห้องเดียวกันกับจงฮยอน และเหมือนว่าสองแสบจะเชื่อฟังจงฮยอนมากเสียด้วย ถ้าวงรุ่นพี่อย่างโซดาป๊อปมีศาสนามินฮยอน วงรุ่นน้องอย่างโบเนร่าก็มีศาสนาจงฮยอนที่มีผู้ศรัทธานับถือคือปาร์คจีฮุนกับยูซอนโฮนี่แหละ นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมจีซองไม่ค่อยอยากจะเชื่อที่จงฮยอนบอกว่าเด็กๆเชื่อฟังเขาที่สุด แท้จริงอาจจะเป็นเทพเจ้าจงฮยอนเสียมากกว่าที่สมาชิกให้การเชื่อฟัง

     

                “54321 หมดเวลา!”

     

                เมื่อหมดเวลาคำสั่งหนึ่งนาที สี่ชีวิตที่โดนมอบหมายภารกิจจัดการตัวเองก็กลับมายืนเรียงตามลำดับอายุกันเป็นหน้ากระดาน จีซองวนมือเป็นสัญลักษณ์ให้นั่งเป็นวงกลมสำหรับการประชุมในค่ำคืนนี้ ทั้งหกนั่งลงเป็นวงเพื่อการพูดคุยที่มีเป็นประจำในทุกคืน

     

                “โอเค งั้นเริ่มคุยแล้วนะ วันนี้มีใครเจอปัญหาอะไรในตารางงานบ้างไหม”

                “มันหิวอ่ะครับพี่ ผมหิว ผมอยากได้ขนมระหว่างวัน”

     

                ซอนโฮน้องเล็กผู้ประสบปัญหาการกินห้ามื้อสม่ำเสมอ แต่สมาชิกที่ฟังเรื่องนี้ทุกวันไม่เห็นว่ามันคือปัญหาในเมื่อน้องเล็กพูดเรื่องนี้ทุกวันเป็นปกติ ทีแรกค่ายเองก็ไม่อนุญาตด้วยซ้ำที่จะให้น้องกินมากขนาดนี้แต่เพราะเห็นว่าซอนโฮเป็นน้องเล็กและกำลังโต(แม้ว่าจริงๆอายุเท่านี้จะเพิ่มส่วนสูงได้อีกไม่กี่เซน) เลยยอมให้กินห้ามื้อได้ตามที่ขอ

     

                “ผมเกร็งมากๆเลยตอนที่ไปทักทายรุ่นพี่” แจฮวานบอกปัญหาที่เขาพบเจอวันนี้

                “ใช่ๆ แข็งทื่อเลย”

                “อะไรแข็งอ่ะพี่อ๋ง”

                “แล้วแต่น้องแจ้จะคิดเลยจ้ะ”

     

                สองพี่น้องคนกลางของวงหัวเราะคิกคักกับตลกลามกที่ชอบเล่นกันอยู่สองคน จนหัวหน้าวงส่งสายตามาเตือนว่าพวกเขากำลังออกนอกเรื่องกันอีกแล้ว ซองอูและแจฮวานจึงได้เงียบลง

     

                “อื้ม ก็อย่างที่แจฮวานบอกว่าพวกเรายังไม่ค่อยมั่นใจกัน วันหลังเราต้องมั่นใจกันมากกว่านี้นะ พี่จะพยายามทำให้พวกเรามั่นใจมากกว่านี้นะ.. เออใช่มีข่าวดี พี่ผู้จัดการบอกว่าเพลงของพวกเราอยู่ในชาร์ตออนไลน์อันดับหนึ่งคงที่นะ All Kill ทุกเว็บ ปรบมือ!!!”

     

                สมาชิกต่างก็ปรบมือกันกันอย่างดีใจ นับว่าเป็นความภูมิใจที่ตอนนี้ซิงเกิ้ลแรกซึ่งเป็นซิงเกิ้ลเดบิวต์ของพวกเขาได้ก้าวสู่อันดับหนึ่งของชาร์ตแม้จะเพิ่งปล่อยออกมาเมื่อวาน ซึ่งเพลงของพวกเขาก็โค่นแชมป์ของวงรุ่นพี่สุดป๊อปอย่างโซดาป๊อปลงได้ ถึงจะรู้ว่าที่โค่นได้เนื่องจากความนิยมบนชาร์ตเพลงของโซดาป๊อปเริ่มลดลงเป็นเพราะวงรุ่นพี่ปล่อยเพลงออกมาพักหนึ่งแล้วจนตอนนี้ก็กำลังจะจบกิจกรรมโปรโมต แต่ไม่ว่าจะได้ที่หนึ่งเพราะอะไรแต่ตอนนี้ก็ถือว่าเป็นที่หนึ่งในชาร์ตเพลงได้สำเร็จแล้ว

     

                “แล้วก็พรุ่งนี้พี่ผู้จัดการบอกว่าจะมีข่าวดีมาบอกพวกเราอีกเรื่องนึง แต่ก็ไม่รู้เป็นเรื่องอะไรนะ.. วันนี้ยังมีใครมีปัญหาอะไรอีกไหม”

     

                คนรอบวงต่างก็ส่ายศีรษะไปมาเป็นการบอกว่าไม่มีใครเจอปัญหาในวันนี้

     

                “งั้นคืนนี้ก็พักผ่อนกันได้ พรุ่งนี้ตารางงานเช้านะเตรียมตัวตื่นกันด้วย.. Who are the boys of the new era?

                “We are BON.Era!”

     

                สิ้นสุดการประชุมวงประจำวันสมาชิกก็เริ่มแยกย้ายกันเข้าห้องนอนของตน เว้นแต่น้องเล็กที่เข้ามากอดแขนพี่ใหญ่ไม่ยอมปล่อยให้เข้าห้อง

     

                “พี่ครับ ขอขนมหน่อย ขอขนมหน่อยนะ กินเสร็จสัญญาว่าจะแปรงฟัน”

               

                ว่าแล้ว.. หนีไม่พ้นเรื่องกิน      

     

                “จงฮยอนอ่า...”

     

                จีซองเรียกเทพเจ้าของศาสนาที่น้องเล็กนักล่าห้ามื้อนับถือให้มาพาน้องกลับสู่ห้องนอนอันเป็นเขตศาสนาจงฮยอน เป็นการแสดงการเมินเฉยต่อคำขอที่น้องมีต่อเขา จงฮยอนเดินมาจับมือน้องเล็กที่ทำปากแบะใส่พี่ใหญ่ให้กลับเข้าไปห้องนอนอย่างง่ายดาย จีซองถอนหายใจเมื่อเห็นสมาชิกทุกคนกลับเข้าห้องของตัวเองครบ ก่อนจะเดินเข้าห้องนอนของตัวเองเพื่อพักผ่อน

     

                กลับหอมาพักผ่อนดันเหนื่อยกว่าออกไปทำงานตามตารางงานได้ยังไงกัน ยุนจีซอง

     

     

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

     

     

                หลังจบตารางงานประจำวัน สมาชิกวงโบเนร่ากลับมายังหอพัก พวกเขาเริ่มการประชุมยามค่ำคืนเร็วกว่าปกติเนื่องจากวันนี้มีพี่ผู้จัดการวงจะเข้าร่วมประชุมด้วย

                 

                “พวกเราจะต้องเข้าร่วมอัดรายการกีฬาสีไอดอลด้วยนะ”

     

                สมาชิกหกคนดูจะตื่นเต้นกับตารางงานใหม่แต่ในขณะเดียวกันพวกเขาก็สัมผัสได้ถึงความเหนื่อยและความยากที่จะเกิดขึ้น แม้โบเนร่าจะเพิ่งเดบิวต์แต่ก็ได้รับความสนใจจนมีงานทุกวันจนไม่มีวันหยุดพักผ่อน ยิ่งเวลาจะออกกำลังกายก็ยิ่งไม่มี แต่ไอดอลทุกคนต่างก็รู้ดีว่าการได้เข้าร่วมรายการกีฬาสีนี้จะสามารถเพิ่มความน่าสนใจและได้รับความนิยมได้มากขึ้น ดังนั้นยังไงพวกเขาก็ไม่มีทางจะปฏิเสธอย่างแน่นอน

     

                “อันนี้เป็นรายชื่อกีฬาที่เราจะลงได้ เขาให้เรามาเลือกว่าเราอยากจะลงอันไหน”

     

                ลิสต์รายชื่อกีฬาหลากหลายประเภทส่งมาให้พวกเขา เมื่อสายตาไล่อ่านรายชื่อกีฬาที่ให้ลงแข่งแล้วพวกเขาถึงกับยิ้มแหยๆ เมื่อไม่มีรายชื่อกีฬาใดเลยที่จะทำให้พวกเขาได้แสดงทักษะออกมา เอาจริงๆไม่ว่าจะกีฬาประเภทใดสมาชิกหกคนแห่งโบเนร่าก็เรียกได้ว่ามีทักษะอยู่ในระดับต่ำ จนหลายครั้งซองอูก็ชอบพูดว่าโบเนร่าสะกดคำว่ากีฬาไม่เป็น เหมือนจะเว้นซอนโฮที่สะกดคำว่าบาสเกตบอลได้อยู่คนเดียว แต่ก็ไม่มีกีฬาบาสอยู่ในลิสต์ที่จะให้ลงแข่งและถึงมีให้ลงแข่งก็รับประกันความพ่ายแพ้เพราะแค่น้องเล็กเล่นได้แต่พี่อีกห้าคนก็เล่นไม่เป็นอยู่ดี กีฬาเป็นทีมเล่นถ้าเล่นเป็นคนเดียวก็ยอมรับความพ่ายแพ้ได้เลย

     

                “ลงวิ่งผลัด 4x100 ไหม จงกับอ๋งก็วิ่งเร็วอยู่นี่ ฮุนก็ตัวเล็กลู่ลม โฮก็ขายาวอยู่”

     

                จีซองเสนอความคิดเห็น ถ้าเป็นกีฬาวิ่งก็ดูว่าจะพอไหวมากที่สุด แม้สมาชิกจะไม่เคยแข่งวิ่งเร็วกันเองอย่างจริงจัง แต่จากประโยคที่ครูฝึกและสมาชิกในวงชอบพูดกันว่า ‘จงฮยอนต้องมาก่อน’ ที่ได้มาจากตอนที่พวกเขาอยู่ในหอพักเด็กฝึกหัดแล้วมักจะตื่นสายทำให้ต้องวิ่งไปบริษัทอยู่บ่อยๆ จงฮยอนมักจะวิ่งไปถึงคนแรกอยู่เสมอ กับอีกคนที่มีฉายา ‘ซองอูนักวิ่งราว’ ที่มักจะขโมยของกินจากสมาชิกในวงแล้ววิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว ก็ดูว่าสองคนนี้อาจจะมีพรสวรรค์ด้านการวิ่งอยู่ ส่วนจีฮุนก็ตัวเล็กที่สุดกับซอนโฮที่ขายาวก็มีเกณฑ์ว่าจะใช้ร่างกายช่วยเรื่องความเร็วได้

     

                “ส่วนสูงผมยังน้อยกว่าค่าเฉลี่ยของรุ่นพี่โซดาป๊อปตั้งสามเซ็นนะ วิ่งไปจะแพ้เอาสิ”

     

                จีฮุนไม่อยากลงแข่ง ด้วยความที่ตัวเล็กแล้วก็ไม่ได้วิ่งเร็วอะไรเลย ถ้าลงไปก็เห็นแต่จะทำให้ทีมแพ้

     

                “เอาน่า ลงๆไปเถอะ วิ่งเอาสนุก ส่วนพี่กับแจ้ก็จะลงยิงธนู”

                “โอ้โห อะไรทำให้พี่ไว้ใจให้ผมลงยิงธนู โยนกางเกงในลงตะกร้าผมยังโยนไม่ลงเลย”

                “นายเป็นวิชวลเซ็นเตอร์ ตอนยิงธนูนะรับรองได้ซีนหล่อแบบเป็นข่าวชัวร์ เราอาจจะไม่ได้เป็น Legend ด้านกีฬา แต่เรื่องลีลาความบ้าเนี่ยนะพี่ว่าเราทำได้”

     

                เมื่อพูดคุยกันไปสักพักก็มีความเห็นตรงกันกับพี่ใหญ่ สรุปว่าโบเนร่าก็ลงวิ่งกับยิงธนูกันไปตามที่พูดคุย จีซองเขียนประเภทกีฬาที่จะลงแข่งขันลงในใบรายการเพื่อสรุปให้กับผู้จัดการ

     

                “โอเคเรียบร้อยเนอะ ตารางพรุ่งนี้ก็มีอัดรายการเพลงตอนสิบเอ็ดโมงนะ หลังจากนั้นก็มีเข้าบริษัท ตอนห้าโมงเย็นมีไลฟ์สด สองทุ่มมีไปออกรายการวิทยุนะ.. แล้วก็มีข่าวดีมาบอกนะ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปบริษัทอนุญาตให้พวกเราใช้มือถือกันได้แล้ว..”

     

                พี่ผู้จัดการวงพูดยังไม่ทันจบ แต่เพียงแค่ได้ยินว่าจะได้รับมือถือคืนก็ทำเอาเด็กๆส่งเสียงร้องดีใจกันใหญ่ พวกเขาโดนยึดมือถือไปตั้งแต่บริษัทบอกว่าจะได้เดบิวต์เพื่อเป็นการปกปิดความลับที่จะออกมาก่อนมีการเปิดตัว ดังนั้นก็แทบจะไม่รู้ข่าวสารอะไรเว้นเสียแต่จะเดินไปคุยกับใครสักคนที่มีมือถือหรือโทรทัศน์เพื่ออัพเดทมันให้กับพวกเขา

     

                “นี่ๆฟังก่อน ที่อนุญาตให้ใช้มือถือก็มีข้อตกลงในการใช้นะ พี่จะแจกมือถือคืนให้ตอนที่พวกเรากลับมาถึงหอแล้ว กำหนดเวลาเล่นคือตั้งแต่กลับถึงหอจนก่อนจีซองเข้านอน จีซองจะเป็นคนเก็บตอนก่อนเข้านอนทุกวัน ข้อห้ามที่สำคัญมากๆเลยคือห้ามเล่น SNSส่วนตัวคืออินสตาแกรม เฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ ห้ามเล่นจนกว่าค่ายจะอนุญาต แต่จะมีแอคเคาท์กลางซึ่งเป็นไพรเวทแอคเคาท์ไม่ใช่ออฟฟิเชียลแอคเคาท์ เอาไว้ให้ทุกคนล็อกอินในเครื่องของตัวเองให้ใช้เพื่อดูรูปจากแฟนคลับอย่างเงียบๆได้ แต่ห้ามอัพอะไรลงไป ส่วน Kakaotalk ให้เล่นได้แต่ห้ามเอาเรื่องในวงกับเรื่องงานไปพูดเด็ดขาด เพราะถ้าเกิดมีคนแคปเรื่องไม่ดีออกมาไม่ใช่แค่ตัวพวกนายจะเสียหายแต่มันจะส่งผลถึงวงด้วย ถ้ามีใครทำผิดกฎนี้ทั้งวงจะไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้มือถือจนกว่าจะเห็นสมควร.. ถือว่าทุกคนเข้าใจตรงกันนะ”

     

                “คร้าบ!!!

                “วันนี้ก็มีเรื่องแค่นี้ คนอื่นไปพักผ่อนได้ ส่วนซอนโฮขอคุยด้วยก่อน”

     

                แม้จะมีกฎมากไปเสียหน่อยแต่สมาชิกทุกคนก็ยอมรับเพราะอย่างน้อยก็จะได้ทำให้พวกเขามีโลกภายนอกบ้าง เมื่อสิ้นสุดการประชุมประจำวันผู้จัดการก็เอากล่องที่ใส่โทรศัพท์มือถือของสมาชิกมาแจกโทรศัพท์คืน คนที่ได้รับมือถือของตัวเองไปทั้งห้าคนก็ไปพักผ่อนของตัวเอง เหลือเพียงแต่น้องเล็กของวงที่แยกออกมาคุยส่วนตัว

     

                “ซอนโฮ เรื่องค่าเสื้อกับค่ายาของรุ่นพี่ไลควานลินที่ขอเบิกไป พี่จำเป็นต้องงดอาหารของนายจากวันละห้ามื้อเหลือสี่มื้อจนกว่าจะครบของที่ขอเบิกนะ”

                “หะ..หา!! ได้ไงอ่ะครับ! ไหนตกลงว่ายอมให้กินวันละห้ามื้อได้ แบบนี้ผมจะอยู่ได้ยังไง หักจากรายได้ผมไม่ได้เหรอครับ”

     

                ยิ่งกว่าเงินที่หายไปคือการที่อาหารหนึ่งมื้อกำลังจะจากไป ซอนโฮใช้ชีวิตเติบโตมาด้วยอาหารสามมื้อหลัก สองมื้อรองมาตลอด การได้เป็นเด็กฝึกหัดและได้เดบิวต์ด้วยอาหารที่เจริญแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องง่าย คำพูดที่บอกว่าหิวอยู่ตลอดเวลาทำให้ซอนโฮเคยโดนเรียกพบกับพฤติกรรมการกินที่มากเกินคนทั่วไป ทีแรกคิดว่ายังไงก็คงจะต้องโดนลดอาหารจากห้ามื้อเป็นสามมื้อ แต่พอไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลผลออกมาว่าระบบเผาผลาญดีมาก บวกกับอายุยังอยู่ในช่วงที่เจริญเติบโตได้และส่วนสูงก็ยังไม่หยุดเพิ่ม ทำให้บริษัทยอมจำนนเห็นว่าเป็นผลแก่ภาพลักษณ์ของตัวซอนโฮเองที่เป็นผู้ชายยิ่งสูงก็ยิ่งดี ทำให้น้องเล็กยูซอนโฮวัยยี่สิบปีได้รับอนุญาตสำหรับอาหารห้ามื้อไปจนกว่าจะอายุยี่สิบเอ็ดปี นั่นหมายถึงว่าเหลือเวลาอีกเกือบปีในข้อตกลงนี้ แต่นี่เขาเพิ่งเลยอายุยี่สิบมาแค่ไม่กี่เดือนเองก็มาโดนลดมื้ออาหารอย่างไม่ทันตั้งตัว ซอนโฮไม่ยอม!

     

                “เราเคยคุยกันแล้วนะว่ายังไงปีหน้าจากห้ามื้อก็จะเหลือแค่สามมื้อ ถือโอกาสนี้ลองงดดูเถอะ อีกอย่างมันเป็นการทำโทษสำหรับความผิดพลาดของนายด้วย”

                “หักจากเงินผมเถอะนะครับ นะครับพี่ครับ ตารางงานวันนึงเยอะจะตายสี่มื้อจะไปพอได้ยังไง”

                “ถ้าสี่มื้อไม่ตกลงก็จะให้เหลือแค่สามมื้อนะ”

                “พี่ครับ พี่ยองอุนสุดหล่อ พี่ยองอุนสุดหล่อหล่อสุด”

                “สี่.. สาม.. สอง..”

                “โอเคครับๆ สี่มื้อก็ได้ แต่พี่ต้องคำนวณให้ผมดูด้วยนะว่ามันโดนหักครบแล้วจริงๆอ่ะ ไม่ใช่มาหักผมเกินค่าที่เบิกไปนะ ไม่งั้นผมจะกินหกมื้อเลย!!!

     

                เมื่อเจรจากับพี่ผู้จัดการจบ ผู้จัดการวงก็กลับไปปล่อยให้เป็นเวลาพักผ่อนของศิลปินที่ดูแล ซอนโฮที่ตอนแรกก็คิดว่าจะมีความสุขกับการเล่นมือถือแต่ก็ต้องคอตก ขาดมือถือมาหลายเดือนก็พบว่าอยู่ได้ แต่เขาไม่เคยขาดอาหารสักมื้อเลยนะ พรุ่งนี้จะอยู่ได้ไหมเขาไม่รู้เลย ร่างกายเขาจะดื้อและเรียกร้องไหมว่าอาหารหายไปไหน ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วโบเนร่าจะเหลือสมาชิกห้าคนหรือเปล่า ถ้าเขาพบว่าเขาขาดอาหารไม่ได้แล้วต้องใช้เวลาไปตามหามัน..

     

                ประตูห้องน้องเล็กเปิดออกอย่างช้าๆ พี่ในห้องอย่างจงฮยอนกับจีฮุนที่นั่งตื่นเต้นกับโทรศัพท์ในมือก็ละสายตาเมื่อรู้สึกว่าประตูถูกเปิดออก แต่มันก็ไร้เสียงของคนที่เพิ่งเข้ามา ทั้งคู่ต่างรับรู้ด้วยท่าทางและใบหน้าของซอนโฮที่เพิ่งเข้ามา น้องเม้มปาก เดินก้มหน้า แปลกจากที่น้องเคยเป็นจนพี่ทั้งสองไม่สามารถจะอยู่เฉยได้ แค่โดนเรียกไปก็รู้แล้วว่าต้องมีเรื่อง ยิ่งกลับมาเป็นแบบนี้ก็รู้เลยว่าน้องเล็กซอนโฮต้องโดนเรื่องไม่ดีมาแน่

     

                “เกิดอะไรขึ้นหะเรา บอกพี่มาสิ” จงฮยอนพี่ใหญ่ของห้องเข้ามากอดคอซอนโฮและถามอย่างอ่อนโยน

                “พะ..พี่ครับ..”

                “เกิดอะไรขึ้นอ่า โดนดุหรอ”

     

     

     

                “ผมโดนงดอาหารวันละมื้อครับ แงงงงงงงงงงงงง”

               

               

                           

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

     

     

     

     

                การอัดรายการล่วงหน้าสำหรับงานกีฬาสีไอดอล วงโบเนร่าดูจะตื่นเต้นเป็นพิเศษเนื่องจากเป็นครั้งแรกที่ได้มาร่วมงานนี้ พวกเขาได้อยู่ทีม D ซึ่งอยู่ร่วมกับรุ่นพี่ร่วมค่ายคือวง Super Senior วง g(x) วง SHINe และวง MRT แม้จะมีการลงแข่งวิ่งและยิงธนูแต่พวกเขาก็ไม่ได้ฝึกซ้อมอะไรมากนัก

     

                หลังจากพิธีเปิดสิ้นสุดลงและกำลังจะเริ่มการแข่งขันกีฬาประเภทแรก ท้องไส้ที่อัดแน่นไปด้วยมื้อเช้าของซอนโฮก็เริ่มส่งสัญญาณการทำงานที่ผิดปกติ ท้องเริ่มส่งเสียงแปลกๆแถมตอนนี้ก็อยากจะปล่อยแก๊สออกมา

     

                “พี่ครับ ผมอยากไปห้องน้ำ ห้องน้ำไปทางไหน”

     

                ซอนโฮถามพี่ๆในวงถึงทางไปห้องน้ำ แต่พวกเขาทั้งหกก็เพิ่งเคยมาที่นี่เป็นครั้งแรกเหมือนกันดังนั้นจึงไม่มีใครรู้ว่าที่ที่ซอนโฮอยากจะไปมันอยู่ที่ไหน

     

                “จงฮยอน พาน้องไปห้องน้ำหน่อย”

                “ไม่เอาอ่ะเดี๋ยวผมไปเอง ผมอยากปล่อยหนัก”

     

                จีซองให้จงฮยอนที่เขาไว้ใจเป็นคนพาน้องเล็กไปห้องน้ำแม้จะไม่รู้ทางก็ตามแต่ไปสองก็ยังดีกว่าให้น้องไปหลงคนเดียว จริงๆอยากจะเป็นคนพาซอนโฮไปเองแต่เพราะว่าจีซองเองก็กำลังจะลงแข่งกีฬาแล้วจึงต้องไปเตรียมตัว แต่เมื่อน้องเล็กบอกว่าอยากจะปล่อยหนัก พี่ๆก็เป็นอันรู้กันว่าซอนโฮไม่ชอบให้ใครอยู่ใกล้เวลาเข้าห้องน้ำเพราะจะกังวลจนทำให้สามารถทำธุระได้อย่างสบายใจ

     

                “โอเคๆ ไปแล้วรีบมานะ ไปไม่ถูกยังไงก็ถามทางเอาล่ะ”

     

                แม้น้องจะโตแล้วแต่จีซองก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้อยู่ดี ซอนโฮรีบก้าวเท้าเดินออกจากบริเวณถ่ายทำอย่างรวดเร็ว แม้ไม่รู้ทิศรู้ทางแต่ก็คาดว่าห้องน้ำไม่ยากเกินจะหาหรอก

     

                แต่ก็เหมือนจะคิดผิดอย่างมาก เมื่อตอนนี้ข้าศึกเริ่มประชิดประตูเมืองแล้วแต่ซอนโฮเองก็ยังหาทางไปไม่เจอเลย

     

     

                “มายืนทำอะไรคนเดียวตรงนี้”

     

                เสียงท้มต่ำดังขึ้นจากหูข้างซ้าย ซอนโฮสะดุ้งเล็กน้อยแต่เมื่อตั้งสติได้ก็รีบโค้งตัวลงเคารพรุ่นพี่ที่คราวนี้เขาจะต้องไม่พลาดการเคารพแบบคราวทีแล้ว

     

                “สวัสดีครับรุ่นพี่ไลควานลิน”

                “จะไปไหนน่ะ ห้องน้ำเหรอ”

                “ใช่ครับ เอ่อ.. รุ่นพี่ครับ ผมอยากจะถามหน่อยว่าห้องน้ำไปทางไหนครับ”

     

                ดูเหมือนว่าควานลินจะมาได้ทันเวลาพอดีอย่างกับรู้ใจว่าซอนโฮกำลังต้องการใครสักคนที่ผ่านมาเพื่อบอกว่าห้องน้ำต้องเดินไปที่ใด

     

                “ฉันก็กำลังจะไปพอดีเลย ไปด้วยกันสิ”

     

                รุ่นพี่รุ่นน้องตัวสูงต่างก็เดินไปห้องน้ำด้วยกันอย่างเงียบๆ ซอนโฮเดินไปผิดทางอย่างมหันต์เขาเดินมาทางขวาทั้งๆที่จริงแล้วห้องน้ำต้องเดินไปทางซ้าย ระหว่างทางซอนโฮไม่ได้พูดอะไรมากเพราะสติตอนนี้เขาจะต้องเก็บมันไว้เพื่ออดทนก่อนสิ่งไม่พึงประสงค์จะออกมาก่อนถึงที่หมาย เมื่อมายังห้องน้ำซอนโฮรีบตรงดิ่งเข้าไปแล้วปิดประตูเพื่อความเป็นส่วนตัว

     

                ซอนโฮใช้เวลาสักพักในการปลดทุกข์ ตอนนี้ก็รู้สึกสบายกายสบายใจมากขึ้นจนเป็นปกติ หลังจากล้างมือเสร็จเดินออกมาข้างนอกเห็นร่างของรุ่นพี่ตัวสูงคนเดิมยืนพิงกำแพงอยู่ เขาคิดว่าเขาก็เข้าห้องน้ำไปนานพอควรแล้วมันก็เงียบมากจนไม่คิดว่ารุ่นพี่ไลควานลินจะยังยืนอยู่ตรงบริเวณนี้และดูไม่มีเหตุผลเลยที่รุ่นพี่จะต้องยืนรอเขา

     

                ก็ถ้ารู้ตอนนี้มีใครอยู่ข้างนอกเขาคงต้องเก็บทนทุกข์กับความกังวลในการทำธุระในห้องน้ำไม่ได้

     

                “เข้านานจังนะ รอตั้งนานแหนะ”

                “รุ่นพี่รอผมเหรอครับ”

                “อื้ม ก็เผื่อจะเดินกลับไปไม่ถูกน่ะ เสร็จแล้วใช่ไหมจะได้กลับไปสนาม”

     

                ซอนโฮตอบกลับว่าครับอย่างเบาๆ เขาแปลกใจนิดหน่อยที่รุ่นพี่บอกว่ารอเขาอยู่ทั้งๆที่ก็ไม่ได้สนิทกันจนถึงกับต้องให้อีกฝ่ายมารอ

     

                “จริงๆเรียกฉันแค่พี่เฉยๆก็ได้นะ จะได้สนิทกันมากขึ้น”

     

                ควานลินเป็นฝ่ายทำลายความเงียบด้วยการเริ่มจะตีสนิทกับรุ่นน้องยูซอนโฮ ซอนโฮประหลาดใจที่จู่ๆก็เริ่มบทสนทนามาแบบนี้ ก็แค่เคยไปเดินชนหนึ่งรอบ แนะนำตัวและขอโทษอีกหนึ่งรอบ และวันนี้อีกหนึ่งรอบรวมเป็นสามรอบ ด้วยสถานการณ์การเจอสามรอบที่ไม่ได้น่าจะทำให้สนิทกันหรืออยากจะสนิทกันเลย

     

                “จะดีเหรอครับ”

                “ดีสิ นอกจากสมาชิกในวงแล้วฉันก็ไม่ค่อยมีเพื่อนที่เกาหลี แต่จากที่นายเดินชนฉันตอนนั้น แล้วก็ได้มาเจอกันอีกวันนี้ มันต้องมีเรื่องให้ฉันกับนายสนิทกันแน่เลย”

     

                น้องใหม่ในวงการแบบซอนโฮรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่รุ่นพี่มีท่าทางอยากจะสนิทด้วย แม้จะเริ่มต้นอย่างปุบปับทำให้ไม่ทันตั้งตัวแต่มันเป็นโอกาสที่ดีที่เขาจะได้สนิทกับรุ่นพี่ในวงการเข้าไว้ ยิ่งเป็นรุ่นพี่ไอดอลคนดังอีกมันไม่มีเหตุผลเลยที่จะต้องปฏิเสธ ไม่ใช่ว่าถ้าสนิทกับคนดังแล้วจะเพิ่มกระแสความนิยม แต่ถ้าได้รู้จักเพื่อเรียนรู้เรื่องราวต่างๆละก็มันคงจะดีเอามากๆ

     

                “ถ้าแบบนั้นรุ่นพี่เรียกผมว่าซอนโฮเฉยๆก็ได้ครับ”

     

                ทั้งคู่ส่งยิ้มให้กันเป็นการเริ่มต้นมิตรภาพที่ดีและนอกจากนี้ก็เป็นยิ้มที่เอาไว้แก้ความเคอะเขินที่มีต่อกัน ก็เพิ่งจะเจอกันสามครั้งแต่จะเริ่มสนิทกันแล้วมันยังทำตัวไม่ค่อยถูก แม้ว่าปกติแล้วควานลินก็ไม่ใช่คนที่น่าอึดอัดและซอนโฮเองก็เรียกได้ว่ามีมนุษยสัมพันธ์ที่ดีเลิศก็ตาม

     

               

                “เอ่อ.. ซอนโฮ คือ.. ฉัน..”

     

                หลังจากยิ้มที่ส่งให้กันอยู่สักพัก ควานลินเองก็มีประโยคที่ทำให้รูปปากของเขาเปลี่ยนจากรอยยิ้มมาเป็นขยับเพื่อพูดบางสิ่ง พูดยังไม่จบแต่เขาก็ชั่งใจและลังเลที่จะพูดบางสิ่งออกไป ไม่รู้ว่าพูดออกไปมันจะแปลกไปไหม สีหน้าของซอนโฮก็เต็มไปด้วยความอยากรู้ถึงประโยคที่ดูจะยังไม่สิ้นสุดถึงสิ่งที่พี่คนที่กำลังจะสนิทจะพูดออกมา

     

               

     

     

     

                “คือ..

     

     









     

     

                ”ฉันขอเบอร์ของนายได้ไหม”

     

     

     

     

     

     

     

                To be continued…

     

     

                - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

     

               

                สวัสดีผู้อ่านทุกท่านค่ะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่จักรวาลของดวงดาราแห่งความวุ่นวายค่า

                ขอแนะนำตัวเองหน่อยนะคะ ผู้แต่งเรื่องนี้ นามปากกา Q.Mistea เพราะงั้นก็เลยอยากจะขอแทนตัวเองว่า คุณชาแล้วกันนะคะ (Mistea = Miss Tea = นางสาวชา แต่เห็นมีคุณอง คุณแดน นี่เลยขอเป็นคุณชาบ้าง 555)

                เรื่องนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากความอยากเป็นเมนสารพัดอย่างของผู้ใหญ่บ้านโดยเฉพาะวิชวลเนี่ยที่ผู้ใหญ่อยากจะเป็นเหลือเกิน เลยลองคิดดูเล่นๆว่าถ้าลองให้ตัวละครสลับตำแหน่งปกติของตัวเองกันจะเป็นยังไง(ซึ่งแท้จริงก็ไม่ได้เป็นสาระสำคัญของเรื่องสักเท่าไรด้วย) บวกกับคิดถึงความห่างไกลของสองเด็กคิวบ์ด้วย ก็เลยได้มาเป็นฟิคเรื่องนี้(ซึ่งจริงๆความห่างนี้มันเกิดเป็น SF Looking to You ไปแล้วรอบนึงด้วย) สำหรับฟิคเรื่องนี้ถึงจะไม่มีน้องเขี้ยว พิซองอุน น้องหวีมาเป็นตัวหลักแต่รับรองว่ายังไงก็มาแจมแน่นอนค่ะ

     

                ตอนนี้น้องหลินเขาก็เป็นผู้พายเรือหลินฮุนเองแบบมาแรงจนคุณชาจะไปเปลี่ยนเรือกับน้องแล้วนะคะ! เห็นแต่ละโมเมนท์แล้วแบบอื้อหือ!! เรือหลินโฮที่นั่งอยู่นี่โคลงเคลงมาก 555 แต่ยังไงซะคุณชาจะยังคงอยู่ข้างน้องเจี๊ยบกับของกินเสมอนะคะ T^T

                ถึงน้องหลินกับน้องเจี๊ยบจะไม่มีโมเมนท์คู่กันเลยเพราะความห่างไกลกันมันก็ไม่ได้สำคัญเลย ยังไงคุณชาก็รักน้องสองคนเพราะเป็นไลควานลินกับยูซอนโฮมากกว่าความเป็นหลินโฮอยู่แล้ว จะชิปไม่ชิปยังไงก็รักน้องกันอยู่แล้วใช่ไหมคะ? ช่วงนี้ยังไงก็ติดตาม Wanna One และน้องเจี๊ยบไปด้วยกันนะคะ

     

                ตอนแรกอาจจะไม่ได้มีอะไรมากเพราะอยากจะแนะนำตัวละครเป็นหลัก แต่ตอนต่อๆไปรับรองเนื้อหาแน่นอนค่ะ

                ฝากฟิคเรื่องนี้เอาไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ คุณผู้อ่าน :D

     

                Q.Mistea ควีนมิสที --- คุณชาเองค่ะ!

                2017.08.25 วันเกิดคุณองซองอูคนตลก / #Energetic9thWin

       

     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×