ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฟาโรห์ที่รัก ตอน จอมใจฟาโรห์

    ลำดับตอนที่ #7 : หมากตัวต่อไป การเดินพันแห่งเทพเจ้า

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.76K
      11
      22 เม.ย. 55

        พรพิงค์นั่งอย่างเปล่าเปลี่ยว เธอชันเข่าขึ้นและอกเข่า น้ำตาไหลรินจากดวงตานองไปทั้งสองแก้มของเธอ เธอมองเห็นแต่ทรายกับทราย และขอบฟ้าสีคราม เธอนั่งอิงหลังกับโค่นต้นอินทผลัม ร่มเงาของมันทำให้เธอหลบความร้อนแห่งดวงอาทิตย์ได้ เธอสะอึกสะอื้นเป็นเวลานานจนเธอนั้นเจ็บหน้าอกไปหมด เธอคิดถึงบ้าน คิดถึงอนาคตของเธอ เพราะกี่ไม่กี่ปีเธอก็จะเรียนจบมหาวิทยาลัย เธอจะได้ทำงานเก็บเงินเพื่อที่จะได้เป็นเที่ยวอียิปต์ เมื่อเธอนึกถึงความคิดที่เธอได้วางแผนไว้ เธอก็ถึงกับอึ้งเธอปาดน้ำตาออกจากใบหน้า เธอยิ้มขึ้นมาอย่างไม่เต็มที่นัก 

        "อียิปต์เหรอ ตายจริงเรานี้นับว่าโชคดีเหมือนกันน่ะ เรามาอียิปต์เองฟรีๆโดยไม่ต้องเสียค่าเครื่องบิน ดีจริงๆ คำอธิษฐานของเราเป็นไปได้ก้าวหนึ่งแล้ว"

       พรพิงค์ลุกขึ้นและเดินไปจนสุดขอบต้นอินทผลัมต้นสุดท้าย เธอของเธอสัมผัสพื้นทรายที่ร้อนระอุ 

       "และเราจะไปไหนได้น่ะ ขอให้มีกลุ่มคาราวา หรือ ชนเผ่าเร่ร่อนอะไรก็ได้ผ่านมาที่โอเอซิสแห่งนี้เถิดไม่อย่างนั้นเราคงตายเป็นผีเฝ้าทะเลทรายแห่งนี้แน่ๆ"

       พรพิงค์กลับมายังตำแหน่งเดิมของเธอแล้วนั่งลง เธอหลับตาลงแล้วหลับไป

       ทางด้านวิหารแห่งแสงสว่าง สุริยเทพราห์ จันทรเทพท็อต และเทพคอนชูซึ่งกำลังเล่นอยู่การพนันอยู่นั้น เทพีไอซิสพร้อมด้วยเทพีเนปทีนก็เสด็จเข้ามากลางครัน 

       "ขอนมัสการพระบรมบิดาสุริยเทพราห์ วิทยาเทพท็อต และเทพคอนชู"

        "พวกเจ้ามาก็ดีแล้ว ข้ากำลังจะจนมุมเสียแล้ว"

        "พระบรมบิดาสุริยเทพราห์ทรงพระปรีชาสามารถ คงไม่ต้องพึ่งเทพีอย่างพวกเราที่มิได้มีสติปัญญาเลิศนักหรอกเพคะ"

       "ฮา...ฮา... เนปทีน เนปทีน..."

        "เสด็จพี่ หมดทางแล้ว หมากตัวนี้ไม่สามารถที่จะเดินไปไหนได้อีกแล้วกระหม่อม"

        "ข้ายอมสิโรราบต่อเจ้า น้องข้า"

        "เสด็จพี่ จำได้ไหมว่าท่านเคยบอกกับหม่อมฉันว่า หากพระองค์ทรงแพ้หม่อมฉัน หากหม่อมฉันขออะไร พระองค์จะต้องให้ โดยมิอาจจะรีบเลี่ยงได้"

       "ข้าจำได้ เจ้าว่ามาเถิด ข้าตอนนี้ก็ไม่ต่างจากทาสของเจ้า"

       "คือว่า ข้าแต่เสด็จพี่ หม่อมฉันขอให้พระองค์ทรงกระทำตามที่เทพีไอซีสวินวอนขอ"

       "จะมาขออะไรกัน ตอนนี้แม่สาวมนุษย์จากโลกแห่งอนาคตนั้นก็มายังดินแดนอียิปต์โบราณแล้วมิใช่หรือ อย่าทำเป็นว่าข้าไม่รู้"

       "พระองค์ทรงทราบแล้วเหรอเพคะ"

        "ถูกต้องเนปทีน"

        "ไฉนพระองค์ทรงทราบ"

        "ไอซีสทำอย่างว่าข้าไม่รู้นิสัยของเจ้า เจ้าเคยยอมข้าตั้งแต่เมื่อไร เมื่อเจ้าประสงค์อยากจะให้นางมา ข้าก็รีบทางให้ การเดินตารางหมากคราวนี้ ข้าก็รู้ว่าน้องข้ามาในอีแบบเดิม ตั้งแต่ครั้งยุคแห่งเทพนิยายเจ้าก็เอาหมากนี้มาตบตาข้าทุกครั้ง ข้าก็ยอมเพราะข้าชอบในการเดินหมาก ถึงข้าจะไม่เคยชนะเจ้าซะตาหนึ่งเลย"

       "เสด็จพี่ หม่อมฉันขอพระองค์โปรดอภัยแก่หม่อมฉันเถิดพ่ะย่ะค่ะ"

        "เจ้าไม่ต้องมาขอข้า ท็อต"

       เสียงสุริยเทพราห์เสมือนว่าพระองค์ทรงกริ้ว เทพีไอซิส และเทพีเนปทีนแทบช็อก เทพคอนชูถึงกับงงกับเรื่องราวเพราะพระองค์ทรงมิรู้เห็นด้วย

       "ข้าก็ไม่ได้ว่าอะไร เจ้าจงดูแลนางให้ดูเป็นพอ หากองค์ฟาโรห์มีอันเป็นไป ข้าจะนำนางกลับคืนสู่มาตุภูมิที่นางจากมา"

       "พระองค์ทรงพระเมตตาเพคะ"

       "จงอย่าดีใจไปไอซิส เจ้าต้องเราเล่นนี้กับข้า อุปสรรคทุกอย่างที่น่าต้องประสบจะมาจากข้าทั้งสิ้น ข้าจะได้เป็นราชินีแห่งอียิปต์ได้หรือไม่ต้องมาจากตัวของนางเอง หากนางชนะใจข้าได้ ข้าก็จะยอมให้นางเป็นราชินีแห่งฟาโรห์"

       "หม่อมฉันจะช่วยนางทุกวิถีทางเพื่อให้นางได้เป็นราชินีแห่งองค์ฟาโรห์"

        "ข้าจะค่อยดู เกมส์เริ่มขึ้นแล้ว"

        สุริยเทพราห์ทรงร่ายเวทย์มนต์ แสงระยิบระยับดุจแสงของหินห้อยลอยไปมาภาพอันเสมือนกระจกแก้วก็ปรากฏขึ้น ภาพของพรพิงค์ที่กำลังนอนหลับอยู่นั้นเอง สุริยเทพราห์มองด้วยสายพระเนตรที่แสดงถึงความไม่พอพระทัยเป็นอันมาก พระองค์ทรงชูมือยกขึ้นเหนือศีรษะ แสงสีดำอำมหิตพุ่งเข้าไปยังกระจกใส 

       "พระองค์ทรงจะทำอะไรเพคะ"

       "เจ้ารอดูต่อไปเถิดไอซิส"

       คณะพ่อค้าค้าทาสกำลังเดินทางผ่านทะเลทราย ชายชราผู้แต่งกายภูมิฐานนั่งบนหลังอูฐ ประกบข้าด้วยลูกน้องซึ่งเป็นผู้ช่วย เขากำลังจะมุ่งหน้ากลับอียิปต์หลังจากที่เดินทางไปยังแอฟริกามาพร้อมด้วยทาสผิวสีดำสามคนเป็นชายหนึ่งคนและเด็กหญิงสองคน ทั้งสามเป็นพี่น้องกัน 

       "พี่ ข้าเหนื่อยแล้วหิวน้ำ"

       "ข้าก็เช่นกัน ข้าหิวน้ำเหลือเกิน"

       "ท่าน น้องสาวทั้งสองของข้าเหนื่อมากพอแล้ว ข้าได้โปรดหยุดเพื่อให้นางพักเถิด"

      "เราต้องเดินทางให้ไปถึงอียิปต์ให้ทันคืนนี้น่ะเจ้าทาส"

       "ข้าทราบ แต่ข้าขอวินวอนของความเมตตาจากท่านได้โปรด"

       "นายขอรับ ข้าเห็นข้างหน้ามีโอเอซีสขอรับ"

       "เจ้าทาส ช่างโชคดี เราจะแวะยังโอเอซีส คงจะมีแหล่งน้ำให้น้องของมันได้ดื่มกันบ้าง ดีจริงๆ เราจะได้เก็บน้ำดื่มเพิ่มด้วย"

       คณะพ่อค้าทาสมุ่งหน้าไปสู่ โอเอซีสซึ่งเป็นที่พรพิงค์อยู่นั้นเอง 

        เทพีไอซิสตะลึง "ไม่น่ะพระองค์ พวกเขาคือพ่อค้าทาส"

       "ฮา..ฮา... ข้าจะดูซิว่านางจะได้เป็นนางทาส หรือ เจ้านางกันแน่"

       "พรพิงค์หนีเร็ว......"

        พรพิงค์สะดุ้งตื่นขึ้นมา "เสียงใครอ่ะ"

         "นายท่านนั้น ผู้หญิงงามเหลือเกิน"

         "จริงของเจ้า เจ้าไปจับนางมา"

         พรพิงค์ซึ่งกำลังงงที่ถูกปลุกให้เกิดจากเสียงที่นางไม่เห็นเจ้าของเสียง เธอตะลึงกลัวกับชายปริศนาในชุดอาหรับสองคน ที่จู่โจมเข้าหาพรพิงค์อย่างรวดเร็ว

        "พวกแกเป็นใคร"

        "แม่นาง เจ้าช่างงดงามจริงๆ หากเราปล่อยเจ้าไว้คงเสียดายเป็นนักหนา"

         ลูกน้องของพ่อค้าทาสจับตัวพรพิงค์ไว้ เอาเชือกมัดไว้ที่มือของเธอ และอุ้มนางไป พรพิงค์ทั้งดิ้นและกริ๊ด แต่เธอมิอาจจะสู้แรงลูกน้องของพ่อค้าทาสได้ เธอถูกโยนลงตรงหน้าพ่อค้าทาส เท้าของเธอถูกมัดไว้ 

        "เจ้าทั้งสองจงไปเก็บกักน้ำมาให้ทาสผิวดำมันกิน"

        "ขอรับนาย"

         พ่อค้าทาสลงจากหลังอูฐมาลงยังพรพิงค์ ด้วยอาการที่สิเน่หาพรพิงค์มาก 

         "แม่นาง เจ้าช่างเสมือนดอกไม้ที่มีค่าแห่งทะเลทราย ข้าโชคดีที่ได้เจ้ามา หากข้าจะขายเจ้าไปก็คงเสียดายเป็นแน่ เช่นนั้นข้าจะรับเจ้าไว้ในฐานะคนรักของข้า"

        พรพิงค์ส่ายหน้า

        "หนูยังเด็กมาก และท่านก็แก่รุ่นคุณปู่คุณตาหนูได้ ท่านเมตตาหนูเถิด"

        "ข้าไม่สน ข้าพอใจเจ้า แม่นาง ฮา...ฮา..."

        พ่อค้าทาสหันไปมองด้านหลัง 

         "พวกมันกินกันพอแล้ว เราต้องเดินทางต่อ"

         "ท่านขออีกสักหน่อย น้องข้ายังเด็กมาก"

         "พอแล้ว เสียเวลา"

          พ่อค้าทาสขึ้นนั่งบนหลังอูฐ 
     
         "พวกเจ้าให้นางนั่งบนอูฐที่ข้าซื้อมาไป เจ้าต้องรัดเชือกนางให้ดีๆน่ะ"

         "ขอรับ"

          ลูกน้องอุ้มพรพิงค์ขึ้นกับหลังอูฐ แล้วมัดเธอไว้อย่างแน่นหนา เธอแทบจะดิ้นไปไหนไม่ได้ เธอกำลังจะถูกปิดตา เธอมองไปยังเด็กหญิงทาสผิวดำที่มีท่าทีที่เหนื่อยล้า 

        "ท่านหนูขออย่างหนึ่ง และข้าจะไม่หนีไปไหนหากท่านทำตามที่หนูขอ"

         "ไหนจนว่ามา"

          "ขอให้เด็กหญิงทั้งสองนั่งร่วมไปกับหนูจะได้ไหม ดูน้องเขาเหนื่อยอ่อน คงจะเป็นไข้แดดเป็นแน่"

        "แต่เจ้าต้องตกลงยอมเป็นคนรักของข้า"

        "หนูยอมค่ะ"

         "พวกเจ้าจงเอาเด็กทาสมาอยู่กับนาง"

         "ขอบคุณน้ำใจแม่นางมาก"

          "ไม่เป็นหรอกพี่ชาย เราขอดูแลน้องสาวทั้งสองของท่านเอง"

          เด็กหญิงทาสทั้งสองขึ้นนั่งแนบกับพรพิงค์ พรพิงค์ถูกปลดเชือกออกเพื่อให้สะดวกกับการนั่งอูฐ พรพิงค์เหมือนจะโชคดีที่เธอได้อาศัยกลุ่มพ่อค้าทาสเดินทางไปยังอียิปต์ แต่ก็เป็นความโชคร้ายของเธอ ซึ่งเธอคงไม่พ้นจากการตกเป็นคนรัก หรือไม่ก็ตกเป็นทาสของพ่อค้าทาสผู้บ้าตัญหาคนนี้เป็นแน่ 

        ทางด้านบนสวรรค์ เทพีไอซิสวิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด พรพิงค์ถูกจับไปเป็นทาสเสียแล้ว 

        "พรพิงค์..."

        "พระพี่นางเราจะทำอย่างไรดี"

        "พระองค์ ทรงกระทำเกินไปแล้ว ครั้งต่อไปหากถึงคราวของหม่อมฉัน หม่อมฉันจะไม่ยอมพระองค์เด็ดขาด"

        "เจ้าจงอย่าลืมนะไอซิส ว่าอาณาจักรอียิปต์ผู้ใดเป็นผู้สถาปนา"

        เทพีไอซิสถึงการเงียบไป เพราะเทพีมิอาจจะสู้สุริยเทพราห์ได้เป็นแน่ นางได้เพียงแค่มองภาพของพรพิงค์ที่กำลังเดินทางไปพร้อมคณะพ่อค้าทาส 

        "ไอซิสนี้มันเป็นเกมส์ระหว่างเจ้ากับข้า แต่พรพิงค์คือหมากที่มีหัวใจ นางมีสิทธิ์ที่จะชนะเราทั้งสองได้ด้วยนางเอง"

       "เกมส์นี้หม่อมฉันต้องชนะพระองค์ เช่นไรก็ตาม นางต้องได้เป็นราชินีแห่งอียิปต์ตามประสงค์แห่งหม่อมฉัน"
        
         เทพีไอซิสเดินจากไปจากวิหารแห่งแสงตะวัน พระองค์ทรงพิโรธและเกรี้ยวกราด เทพีส่งพลังออกมาจากร่างเสมือนสายฟ้าแห่งการทำลายล้าง ไม่ทันใดนางก็หายวับไปท่ามกลางสายเนตรแห่งเทพเจ้าทั้งหลาย

        "พระพี่นางทรงโกรธมาก"

        เงามืดที่แอบอยู่โดยไม่มีสนใจ อยู่หลังเสาในสุดของวิหารแห่งแสงตะวัน เปล่งเพลิงแห่งความแค้นที่แผ่ซ่านออกมา แววตาสีแดงก่ำเสมือนเลือดที่นองในสงคราม กรงเล็บที่ยาวขีดกับเสาจนเป็นรอย นั้นคือ อธรรมเทพเช็ต ศัตรูแห่งเทพีไอซิสตั้งแต่สมัยแห่งเทพนิยาย 

        "สุริยเทพราห์ทรงหลงเชื่อเรา ดีมากพระองค์ดีมาก ข้าจะทำให้ไอซิสพ่ายต่อเรา ฮา...ฮา...ฮา...."

       ที่แท้แล้ว อธรรมเทพเซ็ตอยู่เบื้องหลังแห่งการกระทำแห่งสุริยเทพราห์ ด้วยพระประสงค์ที่ชั่วร้าย

       "หากพระองค์กับไอซิสบาดหมางกัน ไอซิสก็จะไม่ปกป้องบัลลังก์แห่งสุริยเทพ ข้าก็ขึ้นเป็นสุริยมหาเทพแทนราห์ ฮา.....ฮา......"

         ครั้งยุคแห่งเทพนิยาย อธรรมเทพเซ็ตก็มิเคยละทิ้งแผนการยึดครองบัลลังก์แห่งดวงตะวัน พระองค์ยุยงให้องค์สุริยเทพราห์ต่อต้านการกระทำของเทพีไอซิสอันเสมือนการวางเมล็ดแห่งความแตกแยกใส่ไว้ไปในจิตใจระหว่างเทพเจ้าทั้งสองพระองค์ ครานี้อธรรมเทพยังรอคอยอย่างใจเย็น เสมือนชาวไร่ที่โรยเมล็ดพืชพันธุ์และรอให้มันเติบโตและเก็บเกี่ยวไม่มีผิด เริ่มจะน่าเป็นห่วงเสียแล้วว่่า องค์สุริยเทพราห์จะทรงกระทำอะไรกับพรพิงค์หญิงสาวจากโลกอนาคต และเทพีไอซิสจะทรงช่วยเหลือเธอได้หรือไม่ ?  

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×