ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฟาโรห์ที่รัก ตอน จอมใจฟาโรห์

    ลำดับตอนที่ #25 : การมาบรรจบกันระหว่างสายน้ำแห่งคงคากับสายน้ำแห่งไนล์

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 946
      5
      9 เม.ย. 56


          ดวงอาทิตย์แห่งวันใหม่ส่องสว่างกลางน่านฟ้าแห่งประจิมประเทศ เรือคณะเดินทางแห่งชมพูทวีปมาถึงยังฝั่งเทียบแล้ว องค์ฟาโรห์หนุ่มทรงยืนรอรับบนรถม้าซึ่งพระองค์เป็นผู้ขับเอง โดยมีบรรดาข้าราชบริพาร ขุนางน้อยใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการทูตและการค้ามารอกันพร้อมหน้า เหล่าทหารอารักขาดูแลก็มีหลายนายตั้งเป็นขบวนทิวแถวอย่างเป็นระเบียบ เจ้าชายวาสุเทพทรงเครื่องทรงเจ้าชายแห่งชมพูทวีปด้วยมงกุฎอันแสดงความเป็นเชื้อชาติกษัตริย์ และเครื่องอาภรณ์อันทำจากทองคำประดับอัญมณี ทำให้พระองค์มีรูปลักษณ์ดุจเทพเจ้าบนแดนสรวงแห่งภารตโบราณ ทรงดุจพระกฤษณะผู้ทรงเสน่ห์ก็ไม่ปาน แต่ต่างที่เจ้าชายทรงมีพระฉวีพรรณขาวเหลืองมิใช่สีนิลเข้ม เหล่านักบวชราชบัณฑิตที่มาพร้อมก็สวมแต่งกายอย่างงดงามสมเป็นราชอาคันตุกะจากแดนไกล กระดานไม้ถูกพาดลงมายังพื้นเบื้องล่าง เจ้าชายพร้อมคณะราชทูต นักบวชและบัณฑิตลงมายังเบื้องล่าง เจ้าชายวาสุเทพผู้มีสิริโฉมเข้ามาเบื้องพระพักตร์องค์ฟาโรห์ พ่อค้าชาวชมพูทวีปถูกใช้เป็นล่ามในการแปลภาษาในครั้งนี้

          "ข้าเจ้าชายวาสุเทพแห่งชมพูทวีปขอนมัสการพระมหาจักรพรรดิแห่งประจิมประเทศ" เจ้าชายวาสุเทพก้มศีรษะด้วยอาการอ่อนน้อม พ่อค้าชาวชมพูทวีปถวายการแปลภาษาแก่องค์ฟาโรห์ พระองค์ทรงพึงพาพระทัยในกิริยาของเจ้าชายหนุ่ม 

        "เจ้าชายท่านคงเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางมาไกล เราขอให้เจ้าชายราชทูตและบุคคลคนสนิทของเจ้าชายไปพักยังพระราชวังของเรา เพื่อที่จะปรึกษาหาความในข้อตกลงในการเจริญสัมพันธไมตรีกันระหว่างสองอาณาจักร" พ่อค้าชาวชมพูทวีปแปลภาษาอียิปต์เป็นภาษาสันสฤกตถวายแด่เจ้าชายวาสุเทพ

        "เช่นนั้นหวังว่าพระมหาจักรพรรดิจะทรงมีที่พอสำหรับ นักบวช ราชทูต ราชบัณฑิต และผู้ติดตามของหม่อมฉันพอ..." พ่อค้าชาวชมพูทวีปแปลคำตรัสของเจ้าชายวาสุเทพถวายต่อองค์ฟาโรห์ 

         "ทางรถได้จัดเตรียมไว้สำหรับทุกท่านขอรับเจ้าชายวาสุเทพ และขอให้เจ้าชายทรงประทับบนราชรถที่ทางเราเตรียมไว้ให้เพื่อเดินทางเข้าวังเถิด..." พ่อค้าแปลคำตรัสองค์ฟาโรห์ถวายเจ้าชายวาสุเทพ 

        เจ้าชายวาสุเทพทรงแย้มพระโอษฐ์อย่างเป็นมิตร ต่อองค์ฟาโรห์ผู้สง่างามบนรถม้าประดุจบุรุษชาตินักรบ ครั้งนี้เสมือนเป็นการมาบรรจบกันระหว่างสองมหานทีที่ยิ่งใหญ่ของโลก คือ สายชลแห่งคงคากับสายธารแห่งไนล์ ราชรถคันใหญ่ขับมาใกล้ องค์ฟาโรห์ยืนมาแสดงถึงว่าราชรถคันงามนี้คือราชรถที่เจ้าชายวาสุเทพทรงต้องประทับ เจ้าชายทรงดำเนินไปยังราชรถนั้น สารถีวางบันไดให้เจ้าชายขึ้นประทับบนพระที่ และแล้วขบวนทหารก็เคลื่อนขบวนไปทิวธงงดงามและยิ่งใหญ่ องค์ฟาโรห์ขับรถม้านำขบวนกลับเข้าสู่พระนคร ภายในพระนครหญิงสาวนางกำนัลแต่งชุดงดงามต่างโปรยดอกไม้เป็นการอวยพรและต้อนรับแขกผู้มาจากเยือนจากแดนไกล เสียงดนตรีประโคมดังชวนให้ขนลุกอย่างมีเกียรติ เจ้าชายวาสุเทพรู้สึกภาคภูมิพระทัยใจและชื่นชอบในการต้อนรับจากนครแห่งนี้

       ข้างทางที่ขบวนผ่านไปก็มีคณะกายกรรม นาฎลีลา ร่ายรำในท่วงท่าที่แปลกตา เจ้าชายวาสุเทพทรงทอดพระเนตรชมบ้านเมืองในสถาปัตยกรรมที่ในอาณาจักรของพระองค์ไม่มี ทั้งเทวรูปเทพเจ้าที่ทรงมีพระเศียรเป็นสัตว์ ต่างๆ ที่ยืนตระง่าตามถนนหนทาง และวิหารที่ใหญ่โตงดงามด้วยภาพฝาผนักอักษรภาพอียิปต์ เหล่าหญิงสาวชาวอียิปต์ก็ช่างงดงามผิดกับหญิงสาวในชมพูทวีป ขบวนต้อนรับคณะทูตก็เข้ามายังพระราชวังหลวง พรพิงค์ในฐานะพระราชินีแห่งอียิปต์แต่งกายด้วยชุดตัวใหม่ที่ตัดจากผ้าไหมสีเปลือกส้มออกอยู่ข้างกับพระพันปีในชุดผ้าสีทองประดับมุกเล็กๆปัดเป็นลวดลาย เหล่านางกำนัลต่างโปรยดอกไม้ดาษดาไปตามพื้นจนเต็มไปด้วยดอกไม้สีสันนานา องค์ฟาโรห์ทรงลงจากรถม้าและเดินมายังพรพิงค์

        "ข้ากลับมาแล้วยอดรักแห่งข้า"

         "องค์ฟาโรห์ของข้า" ทั้งสองสบสายตากันอย่างห่วงหา

         "เดี๋ยวก่อน เสร็จการรับเสด็จของเจ้าชายแห่งชมพูทวีปเสียก่อนเถิด...ค่อยแสดงความรักต่อกัน" พระพันปีตรัสอย่างเบาๆ

        เจ้าชายวาสุเทพทรงลงจากราชรถในท่วงท่าที่งดงาม พรพิงค์แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเลยว่าจะได้มีโอกาสได้ชื่นชมเจ้าชายแห่งอินเดียโบราณเช่นนี้ การแต่งกายเครื่องฉลองพระองค์เหล่านั้นเคยเห็นแต่ในภาพยนตร์อินเดีย หรือไม่ก็ภาพวาดตามหนังสือการ์ตูน พรพิงค์ถึงกับพอใจและเป็นสุขยิ่งนัก

          "เจ้าชายพ่ะย่ะค่ะ สตรีทั้งสองที่อยู่เบื้องพระพักตร์นี้ คือ พระราชินีและพระพันปีแห่งอียิปต์พ่ะย่ะค่ะ" พ่อค้าชาวชมพูทวีปผู้เป็นล่ามได้กล่าวแนะนำเจ้าชาย 
       
          เจ้าชายวาสุเทพเมื่อทรงทราบแล้วก็ทรงก้มศีรษะลงอย่างอ่อนน้อมเบื้องหน้าพระพันปีและพรพิงค์

          "ช่างน่าเอ็นดู... เอ็นดูยิ่งนัก" พระพันปีตรัสด้วยความพึงพอพระทัยในกิริยาอันอ่อนน้อมของเจ้าชายวาสุเทพ

         "ยินดีที่เราได้ต้อนรับเจ้าชายแห่งชมพูทวีปเพคะ" พรพิงค์กล่าว 

         เจ้าชายวาสุเทพถึงกับตะลึงเพราะพระองค์ทรงเข้าใจในสิ่งที่พรพิงค์กล่าว 

         "พระนางเจ้าทรงตรัสภาษาของหม่อมฉันได้" เจ้าชายวาสุเทพกล่าว

         "เราพูดได้นิดนึงเพคะเจ้าชาย" พรพิงค์กล่าว 

          เหตุการณ์นั้นสร้างความตื่นตะลึงให้แก่ผู้คนทั้งหลายร่วมถึงองค์ฟาโรห์และพระพันปีที่แทบจะไม่เชื่อเลยว่าพรพิงค์พูดภาษาสันสฤกตได้ 

         "พรพิงค์ พูดภาษาชมพูทวีปได้...." องค์ฟาโรห์ตรัสด้วยความตกพระทัย 

         พรพิงค์ยิ้มและไม่กล่าวอะไรอีก ซึ่งที่แท้ก็มาจากฤทธิ์พลังแห่งสายสร้อยจี้ดวงเนตรเทพเจ้าที่เธอสวมมาตลอดนั้นเอง จึงทำให้เธอฟังภาษาในช่วงสมัยนั้นออกไม่ว่าจะเป็นภาษาอะไรก็ตาม องค์ฟาโรห์เริ่มจะทรงเคืองพระทัยแต่ต้องทรงเก็บความรู้สึกนั้นไว้ เพื่อไม่เป็นการเสียมารยาทต่อพระราชอาคันตุกะ องค์ฟาโรห์เชื่อเชิญเจ้าชายวาสุเทพพร้อมด้วยราชทูต นักบวชและราชบัณฑิตเข้าไปยังท้องพระโรงที่ได้จัดเตรียมไว้ ภายในท้องพระโรงซึ่งเหล่าขุนนางน้อยใหญ่ในฝ่ายต่างๆพากันทำความเคารพองค์ฟาโรห์และพรพิงค์ บัลลังก์อันเป็นพระแท่นทองคำองค์ฟาโรห์กับพรพิงค์นั่งเคียงข้างกันมันเป็นความสมบูรณ์แบบแห่งพิภพเสมือนว่าในที่นี้ยมเทพโอซิริสกับพระเทพีไอซิสทรงประทับอยู่เคียงคู่กันมันเป็นความศักดิ์สิทธิ์และมงคลที่สุดในพระราชวัง 

          พ่อค้าชาวชมพูทวีปในคราวนี้กลายเป็นล่ามหลวงและเป็นผู้คอยดูแลเจ้าชายกับคณะทูตแห่งชมพูทวีป เขานำพาให้เจ้าชายวาสุเทพประทับบนพระแท่นอันจัดเตรียมไว้สำหรับพระราชอาคันตุกะ ยามที่เจ้าชายทรงประทับลงบนพระแท่นก็ทรงฉายแววแห่งความสง่าประดุจองค์อินทราเทพประทับบนพระแท่นปัณฑุกัมพลศิลาอาสน์เสียมิได้   


          องค์ฟาโรห์ทรงทอดพระเนตรมายังเจ้าชายวาสุเทพแล้วทรงตรัสว่า 

         "เรายินดีที่อาณาจักรแห่งบูรพาประเทศจะมาเป็นสัมพันธไมตรีกับเรา" พ่อค้าผู้เป็นล่ามหลวงแปลคำตรัสแห่งองค์ฟาโรห์ถวายเจ้าชายวาสุเทพ

         "ข้าพเจ้าก็ยินดีและดีใจที่ได้เป็นสัมพันธมิตรกับอาณาจักรของพระองค์ ทางพระราชบิดาของหม่อมฉันมีของกำนัลมามอบแด่พระองค์..." เจ้าชายวาสุเทพทรงหันไปยังข้าราชบริพารที่ติดตามมา หีบไม้ใบใหญ่จำนวนสิบใบถึงเลื่อนเข้ามายังหน้าเบื้องพระพักตร์แห่งองค์ฟาโรห์ เมื่อหีบเหล่านั้นถูกเปิดออกก็ปรากฏเครื่องอุปโภคที่ทำจากทองแดง เช่น คนโฑ หม้อหน้าตาประหลาดแต่คาดว่าน่าจะเป็นหม้อที่ชาวชมพูทวีปนิยมใช้กัน ตุ๊กตาทองคำประดับอัญมณี เช่น ตุ๊กตาม้า ช้าง และ เสือ เป็นต้น เครื่องประดับจำนวนมากนับพันอย่างได้ ซึ่งบรรจุอยู่ในหีบเงินฉลุเป็นลวดลายต่างๆ เช่น เถาดอกไม้ และสิงสาลาสัตว์ต่างๆ ซึ่งเครื่องประดับแต่ละชิ้นถูกบรรจุในกล่องของใครของมัน ผ้าไหมเนื้อดีจำนวนหลายสีสันปักด้วยอัญมณีหลากสีสันชวนกันแข่งระยิบระยับกันชวนน่าชมเป็นอย่างยิ่ง สร้างความตื่นพระทัยให้แก่พระพันปีเป็นอย่างมาก

        "เครื่องประดับ สายสร้อย แหวน กำไร หลากหลายเสียเหลือเกิน ผ้าไหมก็ช่างงามเสียจริง" แล้วพระพันปีทรงแย้มพระโอษฐ์อย่างพึงพอพระทัยยิ่งนัก 

         "พระองค์เพคะของขวัญจากพระราชาของข้าที่ส่งมาเชื่อมสัมพันธไมตรีกับเรานี้มีแต่ของดีๆทั้งนั้นเลยเพคะ" พรพิงค์กล่าว

          "ของขวัญเหล่านี้พระมารดาของหม่อมฉันเป็นผู้จัดเตรียมเองพ่ะย่ะค่ะ และพวกเราตั้งใจมอบของมีค่าเหล่านี้แด่พระมหาจักรพรรดิแห่งอียิปต์เพื่อเป็นสินน้ำใจเล็กน้อยจากชมพูทวีป" เจ้าชายวาสุเทพตรัสเสร็จ พ่อค้าผู้เป็นล่ามหลวงก็แปลคำตรัสนั้นถวายองค์ฟาโรห์ 

         องค์ฟาโรห์ยิ้มอย่างพึงพอพระทัย 

          "เราขอบพระทัยพระราชบิดา พระราชมารดาของเจ้าชายเป็นอย่างมาก เรายินดีที่สองอาณาจักรจะเป็นสัมพันธมิตรกันชั่วกาลนาน" พรพิงค์กล่าว เจ้าชายวาสุเทพก้มศีรษะลงเพื่อเป็นแสดงความยินดี 

         องค์ฟาโรห์เริ่มเคืองพระทัย เพราะพรพิงค์เข้ามายุ่งในส่วนของพระองค์มากจนเกินพอ 

        "เจ้าชายวาสุเทพเรายินดีกับของกำนัลเหล่านี้เราขอน้อมรับ แต่ความสัมพันธ์ในครั้งนี้เราทราบว่า ทางพระราชาแห่งชมพูทวีปทรงมีพระประสงค์ว่าจะทรงต้องการเผยแผ่ศาสนาของชมพูทวีป ทางเราขอน้อมรับศาสนาและวัฒนธรรมแห่งอาณาจักรของพระองค์ แต่ขอมีข้อตกลงว่า เราจะให้เหล่านักบวชและราชบัณฑิตของพระองค์เผยแผ่ศาสนาได้แค่ในเขตชานอาณาจักรของเรา เพราะหากเผยแผ่มายังใจกลางอาณาจักรแห่งเราแล้ว เราเกรงว่าศาสนาแห่งอียิปต์จะเป็นภัยจากศาสนาใหม่นี้" พ่อค้าผู้เป็นล่ามหลวงก็แปลคำตรัสถวายเจ้าชายวาสุเทพ 

         "หม่อมฉันยินดีพ่ะย่ะค่ะ เป็นพระมหากรุณาแห่งพระองค์แล้ว และสำหรับเรื่องอีกอย่าง เรื่องการค้าระหว่างเราสองอาณาจักรจะมีการพัฒนา ทางเราจะนำเครื่องเทศมาขายแก่อียิปต์ในอัตราที่มากขึ้นในราคาสมเหตุสมผล พร้อมสินค้าสิ้นเปลืองเช่น ผ้าไหม เครื่องประดับ และเครื่องอุปโภคจากทองแดง ทางเราจะลดราคาภาษีอื่นๆในทางการค้าระหว่างสองอาณาจักรพ่ะย่ะค่ะ" พ่อค้าแปลคำตรัสของเจ้าชายถวายแด่องค์ฟาโรห์

          องค์ฟาโรห์พึงพอพระทัยเป็นอย่างอันมาก พรพิงค์จับมือขององค์ฟาโรห์อย่างนุ่มนวล "ต่อแต่นี้ไปอาณาจักรของเราจะยิ่งใหญ่ในเรื่องการค้าในฝั่งบูรพาทิศแล้วนะเพคะพระองค์"

          "ใช่...." องค์ฟาโรห์ทรงแย้มพระโอษฐ์อย่างสุขล้น

          หลังจากการเจรจาเป็นไปได้อย่างราบรื่นและจบลงด้วยความพึงพอใจทั้งสองฝ่าย องค์ฟาโรห์โปรดให้คณะเดินทางจากชมพูทวีปพักในเขตพระราชวัง โดยให้เจ้าชายวาสุเทพประทับในพระตำหนักรับรอง ระหว่างที่องค์ฟาโรห์และพรพิงค์เป็นผู้พาเจ้าชายไปยังพระตำหนักรับรอง เหล่าเจ้าหญิงเชื้อพระวงศ์ทั้งหลายต่างแอบมองเจ้าชายหนุ่มรูปงามแห่งชมพูทวีปกันจากชั้นบนของพระตำหนัก ด้วยความงามแห่งเจ้าชายกลับทำให้เหล่าเจ้าหญิงพาฝันหวังปรารถนาเป็นคนรักของเจ้าชายผู้มาจากจากดินแดนอันไกลโพ้นพระองค์นี้ เจ้าหญิงแห่งราชวงศ์เก่าทรงดำเนินมาพร้อมกับนางกำนัลคนสนิทรุ่นราวคราวเดียวกันเพื่อหวังมาดูว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะพระตำหนักรับรองของเจ้าชายแห่งชมพูทวีปนั้นอยู่ใกล้กับพระตำหนักของเจ้าหญิงนั้นเอง

         เจ้าหญิงแห่งราชวงศ์อดีตพระคู่หมั้นแห่งองค์ฟาโรห์ทรงสิริโฉมดั่งดรุณีน้อย ใบหน้าถึงจะปราศจากรอยแย้มพระโอษฐ์ เพราะยังคงทุกข์อยู่กับการจากไปของพระมารดา เจ้าชายวาสุเทพทรงทอดพระเนตรดวงพระพักตร์แห่งเจ้าหญิง ดวงพระทัยของพระองค์ก็เต้นไม่สมประดีเหมือนศรบุปผามาลีจากพระกามเทพปักต้องยังพระอุระของพระองค์ พระองค์ทรงบังเกิดจิตปฎิพัทธ์ต่อเจ้าหญิงอียิปต์ผู้นี้เสียแล้ว เจ้าหญิงทรงทอดพระเนตรแห่งดวงพระเนตรอันแสนชุ่มฉ่ำแห่งเจ้าชายผู้เป็นพระราชอาคันตุกะยินทำให้เจ้าหญิงมิกล้าที่จะทรงสบพระเนตรต่อ 

         "น้องหญิง ท่านผู้นี้คือ เจ้าชายวาสุเทพแห่งชมพูทวีป ขอฝากน้องหญิงดูแลเจ้าชายพระองค์นี้ด้วย เพราะพระตำหนักรับรองอยู่ใกล้กับพระตำหนักของน้องหญิง" องค์ฟาโรห์ตรัสกับเจ้าหญิงแห่งราชวงศ์เก่า 

          "ได้เพคะพระองค์" เจ้าหญิงแห่งราชวงศ์เก่าตรัสต่อองค์ฟาโรห์ 

          พรพิงค์ยิ้มมอบแด่เจ้าหญิงแห่งราชวงศ์เก่า เจ้าหญิงก็ทรงแย้มพระโอษฐ์ตอบเช่นกัน 

           "เจ้าหญิงทรงต้องเหนื่อยหน่อยเสียแล้วเพคะ" พรพิงค์กล่าว

          "เรายินดีเพคะ พระราชินี เรายินดีที่จะช่วยผ่อนเบางานพระราชกิจของพระองค์ทั้งสองเพคะ" เจ้าหญิงแห่งราชวงศ์เก่าตรัส

          "อืม ดีมาก น้องหญิง" องค์ฟาโรห์ทรงแย้มพระโอษฐ์อย่างปิติ 

           เจ้าชายวาสุเทพมิอาจจะทรงทราบในการสนทนาของทั้งสามพระองค์ แต่สายพระเนตรของพระองค์หลังทรงไม่ยอมละไปจากเจ้าหญิงเลย พระองค์ทรงหลงรักเจ้าหญิงพระองค์นี่้เสียแล้ว และช่างเป็นความโชคดีของเจ้าหญิงแห่งราชวงศ์เก่าเสียจริงที่ทรงเป็นที่รักแห่งพระองค์ เจ้าชายวาสุเทพผู้รูปงามพระองค์นี้

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×