ลำดับตอนที่ #57
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #57 : อาวยะกิ นางไม้ที่ปรารถนาจะมีรัก
อาวยะกิ
นางไม้ที่ปรารถนาจะมีรัก
ในบรรดาตำนานเรื่องเล่าของญี่ปุ่นที่ว่าด้วยเรื่องของภูตผีปีศาจ เรื่องต่อมาที่จะเสนอต่อไปนี้ เป็นตำนานที่ไม่ต่างจากเรื่องที่เล่าไปก่อนหน้านี้ ไม่น่าเชื่อเลยว่าที่ญี่ปุ่นจะมีตำนานความรักระหว่างปีศาจกับมนุษย์ อย่างเรื่องยูกิ อนนะ ที่เล่าถึงความรักของปีศาจหิมะกับมนุษย์หนุ่ม แต่วันนี้จะมาเล่าถึงตำนานความรักของ วิญญา๊ณสาวงามที่สถิตในต้นหลิวที่มาหลงรักกับมนุษย์
ทุกวันคงเคยแล้วที่เล่าถึงปีศาจโคดามะ ที่เป็นความเชื่อของคนญี่ปุ่นว่าในต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่และอายุนับมากกว่า100ปี จะมีวิญญาณสถิต ซึ่งความเชื่่อของเขาและเราก็ไม่ต่างกันเท่าไร แต่เรื่องนี้ที่จะเสนอนะจะมิใช่ปีศาจเต็มร้อย น่าจะเป็นภูตเทพธิดาผู้พิทักษ์ต้นหลิว อย่างบ้านเราึคงไม่พ้นนางไม้ จึงขอเรียกว่า นางไม้ล่ะกัน อย่างบ้านเรานางไม้เท่ากับเป็นเทพธิดาที่มีวิมานสถิตในต้นไม้ที่มีอายุมากกว่า 100ปีขึ้นไป
เรื่องเล่าของตำำนานรักที่จะออกแนวโปเยโปโลเยฉบับยี่ปุ่นมีดังต่อไปนี้...
ในสมัยบุมเม มีซามูไรหนุ่มที่รูปงามนามเพราะว่า "โทะโมะทะดะ" เขามีเจ้านายเป็นเจ้าเมืองโนะโต และเจ้าเมืองก็รักเอ็นดู ให้เขาเรียนหนังสือทั้งวิชาการและการทหาร พอเขาเรีัยนจบก็มีความสามารถฉลาดเฉลียวและมีฝีมือในทางอาวุธต่างๆเป็นที่โปรดปรานของเจ้าเมือง ต่อมาเขาได้รับมอบหมายไปติดต่อราชการลับกับเจ้าเมืองโตเกียว ซึ่งเป็นญาติกับเจ้าเมืองโนะโต
ขณะที่โทะโมะทะดะเดินทางไปทำธุระราชการลับที่โตเกียวระหว่างทางเกิดอากาศด้วยช่วงนั้นเป็นฤดูหนาวมีหิมะตกหนัก จึงลำบากต่อการเดินทางกลับเมืองโนะโต เขาเดินทางใช้เวลาถึง 3 วัน โทะโมะทะดะเดินทางด้วยม้าพายุหิมะก็พัดแรงเขาอ่อนแอเหน็ดเหนื่อยและเขาก็เดินทางจนมาถึงกระท่อมหลังหนึ่ง และมีต้นหลิวต้นใหญ่ 2 ต้น และต้นเล็กสูงไม่ถึงเข่า
โทะโมะทะดะลงจากม้าและเดินเข้าไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าของกระท่อม ซึ่งก็มีหญิงชราและชายชราออกมาดู
"พ่อคุณมาทำอะไรตรงนี้พายุหิมะมันเข้าดูๆหนาวตายเลยเข้ามา..เข้ามา"
"อาวยะกินำน้ำร้อนมาให้พ่อหนุ่มเขาหน่วยลูก"
"ค่ะ ท่านแม่"
ชายหนุ่มนั่งบนเบาะ ชายชรานำผ้าห่มผืนหนามาให้
"ห่มซะ จะช่วยให้บรรเทาความหนาวได้"
เปลวไฟที่ก่อเพื่อให้ความอบอุ่้น โทะโมะทะดะมองผ่านเปลวไฟตรงหน้า เขาเอามือเข้าผิงไฟ
"น้ำร้อนได้แล้วค่ะ"
โทะโมะทะดะมองไปตามเสียงของหญิงสาว เขาสะดุดมองใบหน้าที่สวยงามของหญิงสาว
"ดีเลยอ่ะ พ่อหนุ่มดื่มซะหน่วยเดี๋ยวยายใส่ชาให้มันหอมๆนะ"
โทะโมะทะดะ รับถ้วยชาและดื่ม
"ฮะ...อุ่น..อุ่นจริงๆ ขอขอบคุณท่านตาและท่านยายมากนะครับ"
"ไม่เป็นไรนะพ่อหนุ่ม ดีแล้ว..."
โทะโมะทะดะมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆหญิงชรา นางอายจึงหลบหน้าหันไปทางอื่น
"พ่อหนุ่ม..ฮา..ฮา..ฮา..นี่อาวยะกิลูกสาวข้า"
"อาวยะกิหรือ..."
โทะโมะทะดะมองไม่ขาดตา และเขาจึงเอ๋ยบทโคลงขึ้นว่า
"ระหว่างเดินทางไปหามารดาได้พบเยาวมาลย์ที่งามประดุจ บุปผางามกลางพนาวัลย์ เพื่อนางแล้วจึงได้พักค้างในเรือนนาง แม้นดวงสุริยาจะขึ้นแสดงถึงอรุณใหม่ข้ามิอาจอยากจะจากนวลนางไป" โทะโมะทะดะกล่าวแล้วจ้องอายวะกิไม่วางตา
อาวยะกิมองมาและยิ้มด้วยแก้มสีชมพูอ่อนงามและแววตาที่สดใสเหมือนมีดวงดาวทางช้างเผือกอยู่ภายใน นางจึงตอบเป็นโคลงไปว่า
"หากแม้นชายแขนอาภรณ์ข้าเร้นประดับด้วยสีสันแห่งดวงสุริยา หวังยิ่งว่าพี่ยาจะไม่จากน้องไป..."
โทะโมะทะดะได้ยินดังนั้น ตาตื่นลุกด้วยความยินดี ใจเต้นดีใจ อายวะกิรับความรู้สึกที่เขารักต่อเธอแล้ว...
"ข้าแต่ท่านตาท่านยายข้าทนมิหวังแล้ว ข้ารักบุตรสาวท่าน ข้าขอนางเป็นภรรยาได้หรือไม่ ข้าจะเลี้ยงนางเป็นอย่างดี"
และแล้วโทะโมะทะดะก็บอกกล่าวว่าตนเป็นใครมีที่มาอย่างไร พอหญิงชรา ชายชราทราบว่า้เขาเป็นซามูไรจึงยินยอมยก อายวะกิให้แก่เขา อาวยะกิก็ยินดีที่จะเป็นภรรยา วันต่อมาโทะโมะทะดะก็พาอาวยะกิขึ้นม้าและมุ่งหน้าไปยังโตเกียว
โทะโมะทะดะได้สาวงามมาเขาก็คิดหนักเกรงกลัวนางจะไม่ปลอดภัยเพราะความงามของนาง แต่ก็เป็นจริงนางก็ถูกจับไปเป็นนางกำนัลในวังของเจ้าเมืองโตเกียวจริงๆ โทะโมะทะดะก็ๆไม่รู้จะทำอย่างไรจึงส่งจดหมายลับให้นางหนีออกจากวังและทั้งสองจะหนีอาญาไปอาศัยในหมู่บ้านชนบทที่ห่างไกล
แต่จดหมายนั้นกลับไปอยู่ในมือของเจ้าเมือง เจ้าเมืองอ่านและเกิดความประัทับในความรักเขาทั้งสองจึงจัดพิธีแต่งงานให้อย่างใหญ่โต โทะโมะทะดะและอาวยะกิก็ได้เป็นสามีภรรยาได้ดั่งใจที่ปรารถนา
5 ปีต่อมาของความสุขและความสัมพันธ์ของสามีภรรยา ในขณะที่ทั้งสองกำลังนั่งชมสวนและบ่อน้ำที่ดอกบัวกำลังบานสะพรั่น อาวยะกิอยู่ๆในขณะที่กำลังจะในอยู่อ้อมกอดของโทะโมะทะดะ นางก็ร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวด
"โอ๊ย................."
"อาวยะกิเป็นอะไร..."
"ท่านพี่...ข้าเจ็บเหลือเกิน...."
อาวยะกิน้ำตาไหลแสดงถึงความเจ็บปวดอย่างมาก
"ท่านพี่....เรามาเป็นสามีภรรยากันได้เพราะผลแห่งบุญที่เราสร้างกันมา แต่....น้องช่างมีบุญน้อยเสียจริงๆ...ฟ้าให้เรามาพบกันและฟ้ายังมาพรากน้องจากท่านพี่อีก..."
"อาวยะกิน้องพูดอะไร...ใครก็ได้ไปตามหมอมาทีเร็ว"
พวกคนรับใช้วิ่งกันวุ่นวาย
"ไม่นะ อาวยะกิน้องต้องไม่เป็นอะไรเดี๋ยวหมอก็มา เจ้าต้องหาย"
"ท่านพี่...เวลาของน้องมาถึงแล้ว...พญามัจจุราชท่านย่อมต้องการชีวิตใครท่านย่อมต้องได้...."
อาวยะกิสิ้นลมเสียแล้ว
"อาวยะกิ........................."
โทะโมะทะดะอยู่ในความโศกเศร้า เจ้าเมืองพยายามจะหาสาวงามมาแต่งกับเขา แต่เขาก็รักเสียอาวยะกิเพียงนางเดียว เขาจึงสละทางโลกมุ่งสู่ทางธรรม เขาบวชเป็นพระและออกธุดงค์ไปตามที่ต่างๆ และเขาก็เดินทางผ่านมาบริเวณกระท่อมที่เป็นสถานที่เขากับอาวยะกิพบกัน และเขาก็หวังจะเข้าไปเยี่ยมเยือนผู้เป็นพ่อตา แม่ยายเสียด้วย แต่เขากลับไม่พบกระท่อมเขาพบเพียงต้นหลิวใหญ่ 2 ต้น และต้นเล็ก1ต้นที่ถูกตัดไปแล้วจนเหลือแต่ตอเท่านั้น...!!! โทะโมะทะดะจึงทราบได้ว่าภรรยาของเขานั้นคือ นางไม้ต้นหลิว และตายเพราะถูกตัดโค่นต้นมิใช่โรคร้ายหรือวิชามนต์ดำอันใดเลย... และเขายังคงอาลัยและส่งอุทิศส่วนบัญส่วนกุศลให้แก่อาวยะกิ นางไม้ต้นหลิวอันเป็นที่รักของเขาตลอดไป...
ทุกวันคงเคยแล้วที่เล่าถึงปีศาจโคดามะ ที่เป็นความเชื่อของคนญี่ปุ่นว่าในต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่และอายุนับมากกว่า100ปี จะมีวิญญาณสถิต ซึ่งความเชื่่อของเขาและเราก็ไม่ต่างกันเท่าไร แต่เรื่องนี้ที่จะเสนอนะจะมิใช่ปีศาจเต็มร้อย น่าจะเป็นภูตเทพธิดาผู้พิทักษ์ต้นหลิว อย่างบ้านเราึคงไม่พ้นนางไม้ จึงขอเรียกว่า นางไม้ล่ะกัน อย่างบ้านเรานางไม้เท่ากับเป็นเทพธิดาที่มีวิมานสถิตในต้นไม้ที่มีอายุมากกว่า 100ปีขึ้นไป
เรื่องเล่าของตำำนานรักที่จะออกแนวโปเยโปโลเยฉบับยี่ปุ่นมีดังต่อไปนี้...
ในสมัยบุมเม มีซามูไรหนุ่มที่รูปงามนามเพราะว่า "โทะโมะทะดะ" เขามีเจ้านายเป็นเจ้าเมืองโนะโต และเจ้าเมืองก็รักเอ็นดู ให้เขาเรียนหนังสือทั้งวิชาการและการทหาร พอเขาเรีัยนจบก็มีความสามารถฉลาดเฉลียวและมีฝีมือในทางอาวุธต่างๆเป็นที่โปรดปรานของเจ้าเมือง ต่อมาเขาได้รับมอบหมายไปติดต่อราชการลับกับเจ้าเมืองโตเกียว ซึ่งเป็นญาติกับเจ้าเมืองโนะโต
ขณะที่โทะโมะทะดะเดินทางไปทำธุระราชการลับที่โตเกียวระหว่างทางเกิดอากาศด้วยช่วงนั้นเป็นฤดูหนาวมีหิมะตกหนัก จึงลำบากต่อการเดินทางกลับเมืองโนะโต เขาเดินทางใช้เวลาถึง 3 วัน โทะโมะทะดะเดินทางด้วยม้าพายุหิมะก็พัดแรงเขาอ่อนแอเหน็ดเหนื่อยและเขาก็เดินทางจนมาถึงกระท่อมหลังหนึ่ง และมีต้นหลิวต้นใหญ่ 2 ต้น และต้นเล็กสูงไม่ถึงเข่า
โทะโมะทะดะลงจากม้าและเดินเข้าไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าของกระท่อม ซึ่งก็มีหญิงชราและชายชราออกมาดู
"พ่อคุณมาทำอะไรตรงนี้พายุหิมะมันเข้าดูๆหนาวตายเลยเข้ามา..เข้ามา"
"อาวยะกินำน้ำร้อนมาให้พ่อหนุ่มเขาหน่วยลูก"
"ค่ะ ท่านแม่"
ชายหนุ่มนั่งบนเบาะ ชายชรานำผ้าห่มผืนหนามาให้
"ห่มซะ จะช่วยให้บรรเทาความหนาวได้"
เปลวไฟที่ก่อเพื่อให้ความอบอุ่้น โทะโมะทะดะมองผ่านเปลวไฟตรงหน้า เขาเอามือเข้าผิงไฟ
"น้ำร้อนได้แล้วค่ะ"
โทะโมะทะดะมองไปตามเสียงของหญิงสาว เขาสะดุดมองใบหน้าที่สวยงามของหญิงสาว
"ดีเลยอ่ะ พ่อหนุ่มดื่มซะหน่วยเดี๋ยวยายใส่ชาให้มันหอมๆนะ"
โทะโมะทะดะ รับถ้วยชาและดื่ม
"ฮะ...อุ่น..อุ่นจริงๆ ขอขอบคุณท่านตาและท่านยายมากนะครับ"
"ไม่เป็นไรนะพ่อหนุ่ม ดีแล้ว..."
โทะโมะทะดะมองหญิงสาวที่นั่งอยู่ข้างๆหญิงชรา นางอายจึงหลบหน้าหันไปทางอื่น
"พ่อหนุ่ม..ฮา..ฮา..ฮา..นี่อาวยะกิลูกสาวข้า"
"อาวยะกิหรือ..."
โทะโมะทะดะมองไม่ขาดตา และเขาจึงเอ๋ยบทโคลงขึ้นว่า
"ระหว่างเดินทางไปหามารดาได้พบเยาวมาลย์ที่งามประดุจ บุปผางามกลางพนาวัลย์ เพื่อนางแล้วจึงได้พักค้างในเรือนนาง แม้นดวงสุริยาจะขึ้นแสดงถึงอรุณใหม่ข้ามิอาจอยากจะจากนวลนางไป" โทะโมะทะดะกล่าวแล้วจ้องอายวะกิไม่วางตา
อาวยะกิมองมาและยิ้มด้วยแก้มสีชมพูอ่อนงามและแววตาที่สดใสเหมือนมีดวงดาวทางช้างเผือกอยู่ภายใน นางจึงตอบเป็นโคลงไปว่า
"หากแม้นชายแขนอาภรณ์ข้าเร้นประดับด้วยสีสันแห่งดวงสุริยา หวังยิ่งว่าพี่ยาจะไม่จากน้องไป..."
โทะโมะทะดะได้ยินดังนั้น ตาตื่นลุกด้วยความยินดี ใจเต้นดีใจ อายวะกิรับความรู้สึกที่เขารักต่อเธอแล้ว...
"ข้าแต่ท่านตาท่านยายข้าทนมิหวังแล้ว ข้ารักบุตรสาวท่าน ข้าขอนางเป็นภรรยาได้หรือไม่ ข้าจะเลี้ยงนางเป็นอย่างดี"
และแล้วโทะโมะทะดะก็บอกกล่าวว่าตนเป็นใครมีที่มาอย่างไร พอหญิงชรา ชายชราทราบว่า้เขาเป็นซามูไรจึงยินยอมยก อายวะกิให้แก่เขา อาวยะกิก็ยินดีที่จะเป็นภรรยา วันต่อมาโทะโมะทะดะก็พาอาวยะกิขึ้นม้าและมุ่งหน้าไปยังโตเกียว
โทะโมะทะดะได้สาวงามมาเขาก็คิดหนักเกรงกลัวนางจะไม่ปลอดภัยเพราะความงามของนาง แต่ก็เป็นจริงนางก็ถูกจับไปเป็นนางกำนัลในวังของเจ้าเมืองโตเกียวจริงๆ โทะโมะทะดะก็ๆไม่รู้จะทำอย่างไรจึงส่งจดหมายลับให้นางหนีออกจากวังและทั้งสองจะหนีอาญาไปอาศัยในหมู่บ้านชนบทที่ห่างไกล
แต่จดหมายนั้นกลับไปอยู่ในมือของเจ้าเมือง เจ้าเมืองอ่านและเกิดความประัทับในความรักเขาทั้งสองจึงจัดพิธีแต่งงานให้อย่างใหญ่โต โทะโมะทะดะและอาวยะกิก็ได้เป็นสามีภรรยาได้ดั่งใจที่ปรารถนา
5 ปีต่อมาของความสุขและความสัมพันธ์ของสามีภรรยา ในขณะที่ทั้งสองกำลังนั่งชมสวนและบ่อน้ำที่ดอกบัวกำลังบานสะพรั่น อาวยะกิอยู่ๆในขณะที่กำลังจะในอยู่อ้อมกอดของโทะโมะทะดะ นางก็ร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวด
"โอ๊ย................."
"อาวยะกิเป็นอะไร..."
"ท่านพี่...ข้าเจ็บเหลือเกิน...."
อาวยะกิน้ำตาไหลแสดงถึงความเจ็บปวดอย่างมาก
"ท่านพี่....เรามาเป็นสามีภรรยากันได้เพราะผลแห่งบุญที่เราสร้างกันมา แต่....น้องช่างมีบุญน้อยเสียจริงๆ...ฟ้าให้เรามาพบกันและฟ้ายังมาพรากน้องจากท่านพี่อีก..."
"อาวยะกิน้องพูดอะไร...ใครก็ได้ไปตามหมอมาทีเร็ว"
พวกคนรับใช้วิ่งกันวุ่นวาย
"ไม่นะ อาวยะกิน้องต้องไม่เป็นอะไรเดี๋ยวหมอก็มา เจ้าต้องหาย"
"ท่านพี่...เวลาของน้องมาถึงแล้ว...พญามัจจุราชท่านย่อมต้องการชีวิตใครท่านย่อมต้องได้...."
อาวยะกิสิ้นลมเสียแล้ว
"อาวยะกิ........................."
โทะโมะทะดะอยู่ในความโศกเศร้า เจ้าเมืองพยายามจะหาสาวงามมาแต่งกับเขา แต่เขาก็รักเสียอาวยะกิเพียงนางเดียว เขาจึงสละทางโลกมุ่งสู่ทางธรรม เขาบวชเป็นพระและออกธุดงค์ไปตามที่ต่างๆ และเขาก็เดินทางผ่านมาบริเวณกระท่อมที่เป็นสถานที่เขากับอาวยะกิพบกัน และเขาก็หวังจะเข้าไปเยี่ยมเยือนผู้เป็นพ่อตา แม่ยายเสียด้วย แต่เขากลับไม่พบกระท่อมเขาพบเพียงต้นหลิวใหญ่ 2 ต้น และต้นเล็ก1ต้นที่ถูกตัดไปแล้วจนเหลือแต่ตอเท่านั้น...!!! โทะโมะทะดะจึงทราบได้ว่าภรรยาของเขานั้นคือ นางไม้ต้นหลิว และตายเพราะถูกตัดโค่นต้นมิใช่โรคร้ายหรือวิชามนต์ดำอันใดเลย... และเขายังคงอาลัยและส่งอุทิศส่วนบัญส่วนกุศลให้แก่อาวยะกิ นางไม้ต้นหลิวอันเป็นที่รักของเขาตลอดไป...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น