ลำดับตอนที่ #35
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #35 : วีรบุรุษแห่งกรีก : เจสันกับขนแกะทองคำ
วีรบุรุษแ่ห่งกรีก
เจสันกับขนแกะทองคำ
หลังจากที่หายไปนานมากพอสมควร ครั้งนี้เป็นการขอโทษท่านผู้ที่มีความสนใจในเทวตำนานนะครับ คราวนี้ได้นำวีรบุรุษ(หรือเปล่า)มาให้ท่านๆได้ทราบและรู้เรื่องราวของวีรบุรุษท่านนี้ ที่เป็นผู้ที่มีชีวิตที่โลดแล่นอย่างมีสีสันและรสชาติกลิ่นไอของการผจญภัย เพื่อให้ได้มาซึ่งขนแกะทองคำ นั้นแน่น่าจะรู้จักกันพอสมควร เพราะถูกสร้างเป็นทั้งภาพยนตร์ การ์ตูน และหนังสือมากมาย นามของเขาก็คือ "เจสัน" และเพราะเหตุไฉนเจสันจึงต้องการขนแกะทองคำนี้นัก ถึงกลับยอมที่จะเดินทางไปเอามันมาจากดินแดนที่กรีกเรียกว่าดินแดนสิ้นขอบโลก(ฟังแล้วน่ากลัวจริงๆ)
ตามตำนานที่เล่าขานนั้นกล่าวว่าเรื่องการเดินทางผจญภัยของเจสันนั้นถูกจดบันทึกไว้มากมายและมักจะมีมุมและบางตอนที่แตกต่างกัน แต่มีอันหนึ่งเดียวที่เป็นที่ยอมรับซึ่งเป็นบันทึกที่จดโดยนักปราชญ์นามว่า "อะพอลโลเนียสแห่งโรดส์"ซึ่ีงเขาบันทึกไว้ในช่วงราวศตวรรษที่ 3 ก่อนคริสตศักราช ( นานมาก......! แต่ถ้ามีการจดบันทึกก็แสดงว่า เรื่องของเจสันกับขนแกะทองคำนั้นมีมูลเหตุจริง! ) เรื่องของเจสันกล่าวไว้ว่า เจสันนั้นเป็นพระราชโอรสแห่งท้าวอีสันเจ้าเมืองไอออลกอส ซึ่งถูกท้าวพีเลียสผู้ซึ่งเป็นพระญาติ ลูกพี่ลูกน้องกันแย่งชิงบัลลังก์ หลังจากที่ท้าวอีสันถูกปลงพระชนม์นั้น พระมเหสีทรงส่งพระโอรสน้อยไปอยู่กับไครอน ซึ่งเป็นอมนุษย์ครึ่งคนครึ่งม้าที่เรียกว่า "เซนทอร์"
เจสันก็ได้ร่ำเรียนวิชาความรู้ทั้งยุทธศาสตร์และศิลปศาสตร์ต่างๆ เสมือนว่าเป็นเจ้าชาย จากไครอน วันเวลาผ่านไปจนเจสันเติบโตเป็นหนุ่มรูปงาม ไครอนเห็นว่าสมควรแก่เวลาแล้วที่เจสันต้องรับรู้ถึงชาติกำเนิดของเขา พอเจสันทราบว่าตนเองเป็นลูกของเจ้าเมืองไอออลกอส และทราบถึงสาเหตุที่ตนต้องมาเป็นเช่นนี้เพราะเจ้าเมืองคนปัจจุับันที่แย่งชิงบัลลังก์ไปจากท้าวอีสันผู้เป็นพระราชบิดา เจสันออกเดินทางไปทวนสิทธิ์อันชอบธรรมของตนคืน ระหว่างทางเจสันได้เดินทางมาจนถึงลำธารที่ไหลเชี่ยวกรากซึ่งเขาต้องข้ามมันไป ในขณะนั้นมีหญิงชราผู้น่าสงสารกำลังพยายามที่จะข้ามลำธารที่ไหล่เชี่ยวนั้น เจสันเกิดความสงสารเลยเข้าช่วยหญิงชราโดยอุ้มนางขึ้่นนั่งบนบ่าและพาข้ามลำธารน้ำนั้น พอเจสันข้ามลำธารมาถึงฝั่งแล้วพยายามจะล่างหญิงชราลงแต่หญิงชราที่เขาอุ้มมานั้นกลับหายไปเสียแล้ว แต่เบื้องหน้าของเขากลับเป็นหญิงสาวสง่างามในเครื่องทรงที่งดงาม แต่ดูแล้วมิใช่มนุษย์ธรรมดา และมีรัศมีอันเรืองรองแผ่กระจาย นางคือ เทพีเฮร่า ราชินีแห่งสรวงสวรรค์ นั้นเอง นางพึงพอใจเจสันเป็นอันมาก ถึงกับสัญญากับเจสันว่าหากเขาเตือนร้อนพระนางจะช่วยให้เขารอดพ้นจากอันตรายทั้งปวง และพระนางก็หายไป
เทพีเฮร่า ราชินีแห่งสรวงสวรรค์
เจสันตื่นตะลึงเพราะเขาได้พบเจอกับเทพเจ้าเสียแล้ว พอเขาได้สติขึ้นก็รู้ตัวว่า รองเท้าของเขาได้หายไปข้างหนึ่งเสียแล้ว แต่เขาก็ไม่เสียเวลาที่จะหารองเท้านั้น เขาเดินทางต่อไปยังเมืองไอออกอส และในที่สุดเขาก็เข้าเฝ้าท้าวพีเลียส ท้าวพีเลียสเมื่อทราบว่าเจสันซึ่งเป็นเ้จ้าของบัลลังก์ที่แท้จริงมาทวนบัลลังก์พระองค์กลับกลัวและระแวง แต่แปลกนั้นด้วยว่าเจสันมาเพียงคนเดียว แต่เหตุใดถึงกลัวเจสันนักและยังเอาขนแกะทองคำเป็นข้ออ้างให้เจสันเดินทางไปนำมาเพื่อแลกกับบัลลังก์ ซึ่ง ขนแกะทองคำนั้นอยู่ตั้งดินแดนสุดขอบโลกเลยทีเดียว (สงสัยในข้อนี้กันบ้างหรือเปล่าเอย) เจสันกลับยอมรับคำท้าของท้าวพิเลียสอีกด้วย เขาเป่าประกาศหาลูกเรือและผู้ที่สนใจที่จะร่วมการผจญภัยไปกับเขา แล้วเจสันยังหานายช่างต่อเรือฝีมือเยี่ยมเพื่อต่อเรือใช้เดินทางไปยังดินแดนสุดขอบโลกคือ เมืองคอลคิส นั่นเอง เจสันได้ผู้กล้่าที่สมัครใจมาเป็นลูกเรือซึ่งล้วนแต่เป็นคนที่ไม่ธรรมดา ดังนี้
เฮอร์คิวลิสจอมพลัง พระโอรสแห่งเทพซุสกับนางอัลคมีนา
ไฮลาส ซึ่งเป็นสหายรักของเฮอร์คิวลิส
ออร์ฟีอุสผู้ชำนาญดนตรีกาล พระโอรสแห่งเทพอะพอลโลกับนเทพีคัลลิโอพี ซึ่งเป็น1ใน 9 เทพีแห่งศิลปาศาสตร์ ที่รู้จักกันในนาม "มิวส์"
เอสเคลิปิอัส พระโอรสแห่งเทพอะพอลโล ซึ่งมีความสามารถในการแพทย์
ทีซีอัส วีรบุรุษผู้สังหารมิโนทอร์
ซีทีส และ คาเลอีส พระโอรสแห่งเทพโบเรียส เทพแห่งลมเหนือ
คาสเตอร์ และ พอลลักซ์ ผู้ชำนาญด้านมวยปล้ำ พระโอรสแห่งเทพซุสกับนางลีดา มเหสีท้าวทินดาริอุส และยังเป็นพระเชษฐาฝาแฝดแห่ง พระนางเฮเลน กับ ไคลเตมเนสตรา
เมลิเอเจอร์ เจ้าชายแห่งแคว้นแคลิโดเนีย ผู้ชำนาญอาวุธด้านหอก
ไทฟีส ผู้เชี่ยวชาญการเดินเรือ
เทพีอธีน่าประทานไม้โอ๊ดแก่อาร์กัสนายช่างต่อเรือ
เจสันเมื่อได้ลูกเรือที่ไม่ธรรมดาแล้ว ช่างต่อเรือของเขาก็ไม่ธรรมดา ช่างต่อเีรือนามว่า "อาร์กัส" ได้ฝันว่า เทพีอธีน่านำไม้โอ๊ตอย่างดีมามอบให้พร้อมกับบอกว่าจะมีผู้ที่ต้องการเดินทางไปยังดินแดนสุดขอบโลกจะมาขอให้เขาต่อเรือให้ พอเขาตื่นขึ้นมาก็พบว่าท่อนไม้โอ๊ตขนาดใหญ่นั้นถูกวางไว้ในโรงต่อเรืออย่างปริศนา ซึ่งความฝันของเขาเป็นความจริง เทพีอธีน่านำไม้โอ๊ตมามอบให้กับเขาเอง หลังจากนั้นเจสันทราบว่ามีช่างต่อเรือที่มีฝีมืออยู่ที่นี้เลยมาขอร้องให้อาร์กัสต่อเรือที่แข็งแรงให้ อาร์กัสรับทันทีเพราะเขาเห็นว่าเสมือนเป็นเทวโองการจากเบื้องบน อาร์กัสตั้งใจต่อเรือลำนี้มาก ในตำนานกล่าวว่าเทพีเฮร่าทรงต้องการจะติดต่อกับเจสันได้โดยง่าย จึงมาเข้าฝันอาร์กัสให้เขาแกะหัวเรือเป็นรูปของหญิงสาว ซึ่งเจสันมาเห็นเรือตอนสร้างเสร็จก็ยังตกตะลึงเพราะหัวเรือนั้นมีลักษณะเหมือนเทพีเฮร่าที่ตนเึคยเห็นมาในครั้งนั้นไม่มีผิด จากนั้นเมื่อเรือเสร็จแล้ว เจสันตั้งชื่อเรือว่า "อาร์โก" ซึ่งตามชื่อของผู้สร้าง
และแล้วคณะเดินทางของเจสันก็ออกเดินทางจากกรีก พวกเขาเรียกตนเองว่า "อาร์โกนอต"ซึ่งมีลูกเรือทั้งหมด 50 คน เป้าหมายของพวกเขาคือการเดินทางไปสู่ดินแดนสุดขอบโลก คือ เมืองคอลคิส (ซึ่งปัจจุับันคือส่วนหนึ่งของตุรกี สมัยก่อนคงไกลสุดของเขาละมั้ืง) ซึ่งเส้นทางที่พวกเขาเดินทางผ่านนั้น คือ ทะเลอีเจียน(ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน) ผ่านช่ิองแคบเฮลเลสปอนต์(ซึ่งเจ้าหญิงเฮลลีผลักตกจากหลังแกะทองคำลงไปนั้นเอง) เข้าสู่ทะเลยูซินี (ทะเลดำ) ในการเดินทางของเจสันก็ราบรื่นเพราะได้รับการช่วยเหลือจากเทพีเฮร่าที่ช่วยพวกเขาโดยการวานให้เทพเอโอลัสซึ่งเป็นเทพผู้ควบคุมลม ปล่อยเทพเซฟเฟอร์ ซึ่งเป็นเทพลมตะวันตก มาช่วยให้เรือของเจสันเดินไปได้อย่างสะดวก
เทพีเฮร่า ให้เทพเอโอลัส ซึ่งเป็นเทพผู้ควบคุมลม ปล่อยเทพเซฟเฟอร์เทพลมตะวันตกมาช่วยพัดเรือของเจสันให่เดินทางไปได้อย่างสะดวกราบรื่น
เมื่อเจสันและลูกเรือเดินทางมาถึงยังเกาะเลมนอสเพื่อหาน้ำจืด ซึ่งเกาะนี้เป็นเมืองที่มีแต่สตรี ซึ่งความจริงแล้วเมืองนี้มิได้มีสตรีอยู่อย่างนี้กันมาแต่ก็มีผู้ชายด้วยเช่นกัน แต่เมืองหนึ่งกลับต้องคำสาปของเทพีอะโฟไดทิ เทพีแห่งความงาม ซึ่งต้นเหตุมาจากการที่เหล่าหญิงสาวเกาัะเลมนอสล้มเลิกการบูชา้เทพีอะโฟไดทิ ทำให้เทพีโกรธจึงสาปให้พวกนางมีกลิ่นกายที่เหม็นจนสามีของพวกนางมิอาจจะทนได้ จึงพากันไปมีความสัมพันธ์กับหญิงสาวชาวเทรซ หญิงสาวชาวเกาะเลมนอสจึงทำการแก้แค้นสามีของพวกนางโดยการสังหารเสีย หลังจากนั้นผู้ชายจึงหายและสูญพันธุ์ไปหมดทั้งเกาะ เมื่อกลุ่มเรืออาร์โกหลงเข้ามาเมื่อทั้งเรือเป็นบุรุษทั้งหมด พวกนางจึงปิติปรีดาโดยเฉพาะอย่างยิ่งราชินีฮิปซิไพล ซึ่งสนับสนุนให้เหล่าหญิงสาวทั้งหลายร่วมหลับนอนกับคณะเรืออาร์โกของเจสัน เลยจับลูกเรือเป็นเพื่อนคู่หลับนอน ร่วมถึงเจสันด้วย และแล้วเหล่าลูกเรือก็จัดให้พวกเธอสมใจ
ภาพวาดเหล่าหญิงสาวชาวเกาะเลมนอสที่ทั้งเกาะมีแต่ผู้หญิง
เวลาผ่านไปหลายวัน เฮอร์คิวลิสซึ่งรอคอยอยู่ที่เรือเห็นถ้าไม่ดีจึงได้เข้าไปเตือนสติเจสัน จึงทำให้เจสันสำนึกระลึกขึ้นได้ถึงภารกิจในการตามหาขนแกะทองคำ พวกเขาจึงต้องอำลาจากเหล่าหญิงสาวแห่งเกาะเลมนอส ต่อมาหญิงสาวเหล่านั้นก็มีทายาทเป็นชายเพื่อสืบทอดเผ่าพันธุ์ต่อไป คณะเรืออาร์โกได้เดินทางมาถึงยังช่องแคบเฮล์เลปอนต์ซึ่งช่องแคบแห่งนี้เป็นสถานที่เจ้าหญิงเฮลลีพลัดตกลงมาจากแกะขนทองคำอย่างน่าอนาถ และได้เข้าจอดยังฝั่งฟรีเจียเพื่อหาเสบียงและน้ำจืด แต่ที่นี้ดังเป็นถิ่นที่อาศัยของยักษ์ มันได้ทำการโยนหินขับไล่ สุดท้ายเฮอร์คิวลิสผู้ทรงพลังได้ยิงธนูซึ่งเป็นธนูแห่งเทพอะพอลโล ด้วยพลังอันมหาศาลทำให้ยักษ์ตายไปทีละสองตน และแล้วฝ่ายยักษ์ก็ปราชัยและหนีเข้าไปในป่า คณะเรืออาร์โกจึงรีบออกเดินทางต่อไป
"
เหล่านางพรายต่างพากันลักพาตัวไฮลาส
เหล่านางพรายต่างพากันลักพาตัวไฮลาส
เหล่าผู้กล้าเดินทางต่อไปด้วยเสบียงใกล้จะหมดและน้ำจืดกำลังจะขาดแคลน จึงได้แวะเรือยังเกาะแห่งหนึ่ง ไฮลาส หนุ่มน้อยน่ามนผู้เป็นสหายรักของเฮอร์คิวลิสได้อาสารับหน้าที่ตักน้ำ โดยเขาได้เสาะหาแหล่งน้ำจืดจนพบว่ามีบึงน้ำจืดอยู่พอดี จึงได้ลงตัก ผลปรากฏว่าเหล่านางพรายที่อาศัยอยู่ในบึงน้ำแห่งนั้นเกิดหลงรักไฮลาสจึงได้ลักพาไฮลาสไปอยู่กับพวกนางยังวิมานของพวกนางใต้บึงน้ำแห่งนี้ เฮอร์คิวลิสไม่เห็นไฮลาสจึงได้เสียใจเป็นอันมากและไม่ยอมที่จะเดินทางไปกับเรืออาร์โกอีก เทพแห่งผืนน้ำทะเลองค์หนึ่งปรากฏขึ้นพร้อมกับแจ้งแก่เจสันว่า นี้เป็นประสงค์แห่งเทพซีอุสที่ต้องการให้เฮอร์คิวลิสผู้เป็นพระโอรสทำภารกิจบางอย่างของพระองค์ จึงมิอาจจะให้เฮอร์คิวลิสเดินทางร่วมไปอีกได้ จากนั้นเทพเจ้าแห่งผืนน้ำก็หายดำดิ่งลงไปใต้ฟองคลื่น
ปีศาจฮาร์ปี้ ที่เทพซีอุสส่งมาก่อกวนนักพยากรณ์ตาทิพย์
พระเทพีเฮร่าด้วยความพระกรุณาจึงได้สถิตยังหัวเรืออาร์โกแล้วบอกแจ้งแก่เจสันว่า มีเกาะแห่งหนึ่งเป็นที่พำนักแห่งนักพยากรณ์ผู้มีดวงตาทิพย์ที่สามารถทราบอนาคตได้ เจสันจึงเดินทางไปตามคำบอกของเทพีเฮร่า จนพบกับเกาะอันเป็นที่อยู่ของนักพยากรณ์ผลว่านักพยากรณ์นั้นเป็นคนตาบอดเพราะครั้งหนึ่งในอดีตเทพีเฮร่าทราบว่าเขามีความสามารถที่มองเห็นอนาคตได้พระเทพีจึงเสด็จมาหาเขาพร้อมทั้งถามว่า มหาเทพซีอุสมีพระชายาลับอยู่ที่ไหนบ้าง ด้วยความกลัวเขาจึงบอกความลับนี้แก่พระเทพี เทพีเฮร่าจึงออกตามล่าตามราวีพระชายาลับของมหาเทพซีอุส เทพซีอุสรู้เข้าว่าพระเทพีทราบจากนักพยากรณ์ผู้มีตาทิพย์ พระองค์จึงทราบให้เขากลายเป็นคนตาบอดและส่งปีศาจนกฮาร์ปี้มาก่อกวน เมื่อเขามีอาหารกินมันก็จะเข้าแย่งชิงอาหารจากเขาจนหมด เขาจึงทรมานเช่นนี้มานานหลายปี จนในที่สุดพระเทพีเฮร่าก็ได้ส่งเจสันและพวกมายังเกาะนี้ เจสันทราบถึงความเป็นไปจึงอาสาจะช่วยเหลือเขา คณะเรืออาร์โกร่วมแรงกันจับปีศาจฮาร์ปี้สำเร็จด้วยฝีมือของซีทัส กับ คาเลอีส พระโอรสแห่งเทพลมเหนือ นักพยากรณ์จึงเฉลยเส้นทางที่จะเดินทางไปยังอาณาจักรคอสคิส อันเป็นที่ขนแกะทองคำอยู่ เมื่อเจสันได้เส้นทางมาแล้วจึงออกเดินทางต่อไป
ช่องหินที่น่ากลัวมันจะบดขยี้เรือทุกลำที่จะผ่านมันเข้าไป
คณะเรืออาร์โกจึงเดินทางต่อไป แม้จะเสียดายที่เสียยอดฝีมือดีๆอย่างเฮอร์คิวลิสแต่ก็มิอาจจะหยุดการเดินทางในครั้งนี้ได้ พวกเขาจึงจำต้องเดินทางต่อไป พวกเขาเดินทางมายังด่านที่อันตรายที่เล่าขานกันมาอย่างน่าสยดสยอง คือ ซอกหินซิมเปิลเกด ซึ่งมันจะเคลื่อนเข้ากระทบกันต่อเมื่อมีเรือเข้ามาใกล้ๆพอเรือผ่านเข้าไปมันก็จะเข้ามากระทบบดเรือนั้นจนละเอียดไม่เคยมีผู้ใดหลงกลับมา นับว่าเป็นด่านปราการที่น่ากลัว คณะเรืออาร์โกได้รับความช่วยเหลือจากพระสมุทรไพไซดอน ซึ่งทรงเชื่อเหลือตามเทวโองการแห่งเทพีเฮร่านั้นเอง
เจ้าหญิงมีเดียนำแผนการของพระราชบิดามาแจ้งแก่เจสันด้วยความรักที่นางมีต่อเจสัน พร้อมมอบหินวิเศษไว้ให้เจสันช่วยในยามฉุกเฉิน
เมื่อคณะเรืออาร์โกผ่านช่องแคบหินบดขยี้มาได้ ก็เข้าสู่เขตอาณาจักรคอสคิส แห่งพระราชาเออิทิส ผู้เป็นเจ้าของขนแกะทองคำ เจสันเข้าเฝ้าพระราชาเออิทิสโดยทูลถึงเหตุผลของการมาขอขนแกะทองคำ เมื่อพระราชาเออิทิสทราบก็ทรงไม่พอพระทัยเพราะขนแกะทองคำเป็นของศักดิ์สิทธิ์ประจำอาณาจักร พระองค์จึงพยายามหาวิธีกำจัดคณะเรืออาร์โก เจ้าหญิงมีเดียผู้เป็นพระราชธิดาเกิดหลงรักเจสัน แต่ทราบแผนการของพระราชบิดาเข้าจึงแอบเอาความนี้ไปบอกเจสัน พร้อมมอบหินวิเศษที่นางร่ายเวทมนต์ไว้ ด้วยเจ้าหญิงมีเดียทรงเชี่ยวชาญในด้านเวทมนต์คาถา
เมื่อเขี้ยวมังกรกระทบสู่พื้นดินก็บังเกิดเป็นทหารขึ้นมากมาย
วันรุ่งขึ้นพระราชาเออิทิสทรงเรียกเจสันเข้าเฝ้า และมอบภารกิจให้แก่เจสันว่า หากกระทำภารกิจนี้สำเร็จพระองค์จะทรงมอบขนแกะทองคำนี้ให้แก่เจสัน เจสันทราบได้ทันทีว่าเป็นแผนการที่พระราชาเออิทิสต้องการจะสังหารตนเอง พระราชาเออิทิสมอบภารกิจให้เจสันต่อสู้กับวัวที่หายใจเป็นไฟ เจสันต้องสู้กับวัวที่หายใจเป็นไฟเสียก่อนแต่มันมีพละกำลังมาก แต่เจสันก็สามารถจับมันได้ด้วยหินวิเศษของเจ้าหญิงมีเดีย ไฟจากจมูกวัวไม่สามารถเผาพลาญเจสันได้ พระราชาเออิทิสถึงกับตกพระทัยเพราะวัวประหลาดนี้ไม่มีผู้ใดเคยจับได้มาก่อน พระองค์จึงเริ่มแผนการต่อไป พระองค์มอบเขี้ยวมังกรจำนวนหนึ่งแก่เจสัน โดยให้เจสันใช้วัวประหลาดนี้ไถและหว่านเขี้ยวมังกรลงไปตามรอยไถในพื้นที่ไร่ของพระองค์ หากเจสันทำสำเร็จก็จะได้ขนแกะทองคำไปเลย เจสันก็จับมันมาเทียบไถว่านโดยนำเขี้ยวมังกรมาโรยหว่านลงไปตามล่องของพื้นดินที่ไถไป ผลปรากฏว่าเขี้ยวมังกรที่หว่านลงไปนั้นเมื่อมันกระทบลงกับพื้นดินที่เจสันไถไว้ ก็กลายเป็นกองทัพทหารขึ้นมามากมาย และเข้ารอบเจสันไว้ เจสันพยายามที่จะหนีออกจากการที่ถูกกองทัพทหารเขี้ยวมังกรรอบ เจสันหาทางออกไม่ได้จึงนึกถึงเจ้าหญิงมีเดียผู้เลอโฉมที่ตนเองก็รักเช่นกัน จึงนึกได้ว่าตนนั้นมีของวิเศษที่นางมอบไว้ให้ เจสันจึงหยิบมันออกมาจากชุดเกราะและตั้งสติจึงขว้างมันออกไปเมื่อมันเข้าไปยังกองทัพทหารไปถูกทหารคนหนึ่ง ทหารก็คิดว่าหินนั้นถูกขว้างมาจากทหารในกลุ่มเดียวกันมันจึงบ้าคลั่งไล่ฆ่ากันเอง จนทหารทั้งกองทัพตายหมดทั้งกองเพราะหินวิเศษของเจ้าหญิงมีเดีย เจสันจึงรอดมาได้
เจ้าหญิงมีเดียนำทางเจสันมายังที่เก็บขนแกะทองคำ
เจ้าหญิงมีเดียทรงเข้ามานำเจสันไปยังพระอุทยานหลวงในส่วนที่ลึกที่สุดซึ่งไม่เคยมีใครทราบมาก่อนว่ามีสถานที่แห่งนี้อยู่ในพระอุทยานนอกจากเชื้อพระวงศ์ นางพาเจสันมายังเนินเขาที่ไม่สูงมากพร้อมทั้งชี้ให้เจสันเห็นต้นโอ๊ตยักษ์ที่มีแสงที่ทองส่องประกายซึ่งนั้นก็คือขนแกะทองคำที่ถูกแขวงไว้บนกิ่งต้นโอ๊ตเพื่อเป็นการนมัสการเทพแอรีสเทพเจ้าแห่งสงคราม เจสันดีใจที่ขนแกะทองคำที่ตนตามหาจะเข้ามาใกล้เพียงแค่เอื้อมเท่านั้น แต่แล้วก็ปรากฏมังกรยักษ์พุ่งออกมาจากด้านหลังต้นโอ๊ตนั้น มันเป็นยามชั้นดีที่มันคอยเฝ้าขนแกะทองคำ มันเป็นมังกรที่พระราชาเออิทิสใช้ให้เฝ้าขนแกะทองคำ มันไม่เคยหลับเลยมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว
เจ้าหญิงมีเดียสะกดมังกรร้ายให้หลบใหล
เจ้าหญิงมีเดียพาเจสันลงจากเนินเขาเข้าไปใกล้ต้นโอ๊ตนั้น นางใช้พลังอำนาจที่นางร่ายเวทมนต์สะกดให้มังกรร้ายตนนี้หลับลง เจสันปีนขึ้นไปนำขนแกะลงมา เจสันพาเจ้าหญิงมีเดียขึ้นเรืออาร์โกกลับไปยังดินแดนกรีก สร้างความพิโรธให้แก่พระราชาเออิทิสผู้เป็นพระราชบิดา พระองค์ทรงส่งพระราชโอรสพระองค์โตเดินทัพเรือไปจับเจ้าหญิงมีเดียกลับมาพร้อมกับการถล่มเรืออาร์โกให้พินาศ แต่เจ้าหญิงมีเดียทรงช่วยเจสันอีกครั้ง โดยให้เรืออาร์โกแวะพักเรือยังเกาะแห่งหนึ่ง กองเรือของพระเชษฐาก็แวะตามหมายที่จะจับเจ้าหญิงมีเดีย สุดท้ายเจ้าหญิงมีเดียก็สังหารพระเชษฐาของนางเอง ตามตำนานว่าเจสันเป็นผู้สังหารเจ้าชายแห่งคอสคิส สร้างความพิโรธให้แก่มหาเทพซีอุสเป็นอันมาก เรืออาร์โกจึงถูกพายุพัดไปอยู่กลางทะเลทรายแห่งลีเบีย
ด้วยความพิโรธแห่งมหาเทพซีอุสทำให้เรืออาร์โกถูกพัดมาถึงทะเลทรายลิเบีย
คณะเรืออาร์โกต้องทนทุกข์ทรมานกับเสบียงและน้ำดื่มที่กำลังจะหมด เจสันได้รับคำชี้แนะจากเทพธิดาแห่งทะเลทรายลิเบีย พระองค์ทรงบอกเส้นทางที่สามารถเดินทางออกสู่ทะเลได้ ขึ้นเดินทางขึ้นไปทางเหนือใช้เวลา 12 วัน เจสันบอกกับลูกเรือของเขา แต่เขาไม่อาจจะทิ้งเรืออาร์โกได้ พระเทพีเฮร่าจึงช่วยเสกให้เรืออาร์โกมีน้ำหนักที่เบาลง ทำให้คณะเรืออาร์โกช่วยกันยกเรือติดไปด้วยได้ ในที่สุดก็มาถึงทะเลสาบทริโทนิส ซึ่งเชื่อมต่อกับทะเล
เหล่าเทพธิดาเฮสเพอริดีสเข้าช่วยเหลือคณะเรืออาร์โก
ด้วยความเหนื่อยล้าและความหิวกระหายทำให้ลูกเรือล้มป่วย พวกเขาได้รับความช่วยเหลือจากเทพธิดาเฮสเพอริดีสทั้งสาม ซึ่งเป็นนางไม้ผู้มีหน้าที่เฝ้าต้นแอปเปิ้ลทองคำอันเป็นผลไม้แห่งเทพเจ้า พวกนางกล่าวว่า เมื่อไม่นานมานี้เฮอร์คิวลิสได้รับภารกิจเพื่อล้างบาปที่ตนได้สังหารชายาและบุตรของตน และได้เดินทางมายังที่แห่งนี้เพื่อมาเอาผลแอปเปิ้ลทองคำ ซึ่งเป็น 1 ใน 12 ภารกิจชำระบาปของเขา และเขาก็ได้สะดุดก้อนหินก้อนหนึ่งทำให้เกิดน้ำพุพวยพุ่งขึ้นมา คณะเรืออาร์โกรอดตายพวกเขาได้แหล่งน้ำจืดที่เฮอร์คิวลิสซึ่งเคยเป็นหนึ่งในคณะเรืออาร์โกได้ทำไว้ด้วยความบังเอิญ
เทพไทรทันผู้เป่าสังข์ทรงให้ความช่วยเหลือคณะเรืออาร์โก
คณะเรืออาร์โกหาเสบียงและน้ำดื่มได้แล้ว ก็เริ่มออกเดินทางมุ่งหน้าไปยังดินแดนกรีซ แต่เรือก็มิอาจจะมุ่งสู่ทะเลได้ไม่ ด้วยกระแสมรสุม เจสันจึงอธิษฐานวินวอนต่อเทพยดาให้ช่วยเหลือ หากสามารถช่วยให้พวกเขาสามารถออกสู่ทะเลได้จะถวายเครื่องเงินเป็นเครื่องบรรณาการ และแล้วพระสมุทรไพโซดอนทรงมอบหมายให้เทพไทรทันผู้เป็นพระราชโอรสเข้าให้ความช่วยเหลือคณะเรืออาร์โก เทพไทรทันปรากฏกายขึ้นท่ามกลางคลื่นทะเลที่บ้าระห่ำและแล้วพระองค์ทรงเป่าลมช่วยให้เรืออาร์โกแล่นออกสู่มหาสมุทรได้เป็นการสำเร็จ เจสันจึงให้ยูฟีมัสนำเครื่องเงินมาถวายแด่เทพไทรทัน เทพไทรทันทรงถูกชะตากับยูฟีมัสจึงทรงมอบก้อนดินก้อนหนึ่งมอบให้แก่ยูฟีมัส คณะเรืออาร์โกเดินทางต่อไปยังมุ่งหน้าสู่ดินแดนกรีซอันเป็นจุดหมายปลายทาง
ทาลอสผู้พิทักษ์แห่งเกาะครีต
คณะเรืออาร์โกเดินทางต่อไปยังถึงเกาะครีตโดยหมายที่จะแวะหาเสบียงและน้ำดื่ม แต่ก็ไม่สามารถเข้าแวะได้เพราะปรากฏว่าทาลอสมนุษย์ยักษ์โลหะซึ่งเป็นผู้ทักษ์แห่งเกาะครีตเข้ามาขวางทางมิให้เรืออาร์โกเข้าเทียบฝั่ง ทาลอสเป็นผลงานของพระวิษณุกรรมเฮเฟสทัส ต่อมามหาเทพซีอุสทรงขอมาให้เป็นผู้พิทักษ์แห่งเกาะครีต มันโยนหินเข้าใส่เรืออาร์โกหมายจะให้เรืออาร์โกล่ม เจ้าหญิงมีเดียมีชำนาญเวทมนต์ได้ร่ายมนต์ให้มันหลับ และนางให้พีแอสนำก้อนหินไปทุบที่ข้อเท้าของทาลอสซึ่งมีเพียงแค่ข้อเท้าของมันเท่านั้นที่เป็นจุดอ่อน ซึ่งมันสร้างมาจากหนังของมนุษย์ และทาลอสอยู่ได้ด้วยเลือด แต่เมื่อไหลเลือดออกไม่หยุด มันก็ถึงคราวจบชีวิตลง ร่างที่เป็นโลหะก็แตกออกเป็นเสี้ยงๆ คณะเรืออาร์โกได้ลงหาเสบียงพร้อมด้วยน้ำดื่มและออกเรือต่อไป
ก้อนดินนั้นคือพระธิดาแห่งเทพไทรทันจำแลงกายมาเพื่อหาที่พำนักใหม่อันเหมาะสมโดยมีความต้องการที่จะพำนักใกล้บริเวณเกาะอานาพี
คณะเรืออาร์โกเดินเรือผ่านมาถึงเกาะอานาพี ทำให้ยูฟีมัสนึกถึงความฝันของตนเอง จึงเล่าให้เจสันสั่งว่า มีหญิงงามบอกเขาว่านางเป็นพระธิดาแห่งเทพไทรทันด้วยว่านางต้องการที่อยู่ใหม่ที่เหมาะสมจึงแปลงกายเป็นก้อนดิน เพื่อต้องการที่พำนักใหม่ที่เหมาะสมโดยอยู่บริเวณใกล้กับเกาะอานาพี เมื่อเจสันทราบก็ให้ยูฟีอัสโยนก้อนดินนั้นลงไป ก้อนดินนั้นก็กลายเป็นเกาะที่สวยงามด้วยต้นไม้นานา โดยต่อมาเกาะนี้คือ เกาะคัลลิสเต นั้นเอง
คณะเรืออาร์โกเดินทางมาถึงดินแดนกรีซอย่างปลอดภัยด้วยความช่วยเหลือจากเทพยดาทุกครั้งที่ออกผจญภัยเยี่ยงวีรบุรุษ
คณะเรืออาร์โกก็เข้าสู่ดินแดนกรีกเป็นที่เรียบร้อยโดยการขึ้นเทียบเรือยังท่าเรือเมืองไอออลคัส อย่างสวัสดิภาพ เจ้าชายทั้งหลายที่ร่วมเดินทางต่างอำลาเจสันและเดินทางกลับบ้านเกิดเมืองนอนของตน เจสันกับเจ้าหญิงมีเดียยังคงร่วมมือกันฝ่าฟันอุปสรรคเพื่อเอาบัลลังก์อันชอบธรรมคืนมาจากท้าวเพลิอัส ท้าวเพลิอัสทรงไม่ยินยอมที่จะคืนบัลลังก์แก่เจสันถึงแม้ว่าเจสันจะนำขนแกะทองคำมามอบให้ตามพระบัญชา แต่ะพระองค์ก็มีแผนการที่จะลอบสังหารเจสัน ผู้ภักดีต่อเจสันนำแผนการลอบสังหารมาบอกแก่เจสัน เจ้าหญิงมีเดียผู้ชำนาญไสยศาสตร์ ก็รับอาสาช่วยเจสันอีกครั้ง
เจ้าหญิงมีเดียทรงทำพิธีชุบตัว โดยนำแกะแก่ตัวหนึ่งมาใส่หม้อยาแล้วกลายเป็นลูกแกะ
เจ้าหญิงมีเดียปลอมพระองค์เป็นหมอวิเศษพร้อมเดินเร่ประกาศขายยาวิเศษผ่านหน้าพระราชวังของท้าวเอพิอัส พระราชธิดาแห่งท้าวเอพิอัสลงประพาสพระอุทยานพอดีได้ยินคำโฆษณาจากเจ้าหญิงมีเดียจึงเกิดความสนพระทัย จึงโปรดให้นางกำนัลนำตัวเจ้าหญิงมีเดียเข้าเฝ้า เมื่อเจ้าหญิงมีเดียในร่างแม่หมอผู้วิเศษเข้าเฝ้ายังพระอุทยาน พระราชธิดาทรงถามไถ่ถึงสรรพคุณของยาวิเศษเหล่านั้น เจ้าหญิงมีเดียทรงกล่าวว่า ยาวิเศษเหล่านี้มีคุณสมบัติสามารถให้ทำผู้ที่แก่ชรากลายเป็นคนหนุ่มคนสาวได้ พระราชธิดาทรงสนพระทัยกับสรรพคุณของยาวิเศษเลยนึกถึงท้าวเอพิอัสผู้เป็นพระราชบิดาซึ่งชราภาพมากแล้ว จึงขอให้เจ้าหญิงมีเดียทำพิธีชุบให้ท้าวเอพิอัสที่ชราให้กลายเป็นคนหนุ่ม พระราชธิดาพาเจ้าหญิงมีเดียเข้าเฝ้าท้าวเอพิอัส แต่พระองค์ไม่เชื่อได้ง่ายๆเลยให้เจ้าหญิงมีเดียพิสูจน์ เจ้าหญิงมีเดียขอแกะตัวผู้แก่มาตัวหนึ่ง แล้วนางก็ตั้งหม้อยาตั้งไฟพร้อมร่ายเวทมนต์ จากนั้นนางก็นำแกะตัวนั้นลงใส่หม้อ จากนั้นแกะที่แก่ตัวนั้นก็กลายเป็นลูกแกะ เมื่อท้าวเอพิอัสประจักษ์แก่พระทัยแล้วจึงยอมทำพิธีชุบตัว เมื่อท้าวเอพิอัสลงไปในหม้อยาของเจ้าหญิงมีเดีย และแล้วเจ้าหญิงมีเดียมิได้ร่ายเวทย์อันใด จึงทำให้ท้าวเอพิอัสสิ้นพระชนม์ลงในหม้อยานั้น เจสันจึงได้บัลลังก์คืนมาจากท้าวเอพิอัส
เจสันยอมสละราชบัลลังก์และพาเจ้าหญิงมีเดียผู้เป็นพระมเหสีคู่ทุกข์คู่ยากไปด้วยยังนครคอรินทร์
เมื่อเจสันได้ขึ่้นเถลิงราชย์เป็นพระราชาแห่งไอออลคัส แต่พสกนิกรกลับต่อต้านเจสัน ด้วยไม่พอใจที่พระราชาของพวกเขาที่จงรักภักดีจะใช้วิธีที่สกปรกไม่มีความเป็นวีรบุรุษแย่งชิงมาด้วยฝีมือของอิสตรีเช่นนี้ เจสันทนพลังแห่งประชาชนไม่ไหวจึงสละราชบัลลังก์ แล้วแต่งตั้งให้ อาคัสตัส ผู้เป็นพระราชโอรสแห่งท้าวเพลิอัสขึ้นครองราชบัลลังก์ต่อไป ส่วนเจสันก็พาเจ้าหญิงมีเดียเดินทางไปพักพึงยังนครคอรินทร์แห่งกษัตริย์ครีออน
เจ้าหญิงมีเดียไม่พอพระทัยเมื่อเจสันจะอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงกลอซีแห่งคอรินทร์นคร
กษัตริย์ครีออนต้อนรับเจสันกับเจ้าหญิงมีเดียเป็นอย่างดี หลายปีผ่านไปเจ้าหญิงมีเดียมีพระโอรสให้เจสัน 2 พระองค์ โดยมีพระนามว่า อัลซิเมเน กับ เธสสาลัส แต่กษัตริย์ครีออนทรงมีพระราชธิดาคือ เจ้าหญิงกลอซี ผู้มีสิริโฉม จึงทำให้เจสันบังเกิดความรักต่อเจ้าหญิงกลอซี และเจ้าหญิงกลอซีก็ทรงรักเจสันเช่นกัน เจสันเองจึงมองเห็นโอกาสเมื่อตนเสียบัลลังก์แห่งพระราชบิดามาก็หวังที่จะได้ครองนครคอรินทร์แห่งนี้โดยหวังเจ้าหญิงกลอซีเป็นบันไดไปสู่บัลลังก์แห่งคอรินทร์ เสมือนว่ายิงนกครั้งเดียวได้นกสองตัว เจ้าหญิงมีเดียผู้ชำนาญเวทย์ก็ล่วงรู้ความคิดนี้ของเจสัน นางจึงไม่พอใจเป็นอันมาก กษัตริย์ครีออนก็ทรงให้ท้ายเจสันเช่นกันเพราะพระองค์ก็ต้องการเจสันมาเป็นพระราชบุตรเขยเพราะวีรกรรมขนแกะทองคำนั้นเอง เจ้าหญิงมีเดียไม่ยอมกับการอภิเษกสมรมระหว่างเจสันกับเจ้าหญิงกลอซี นางจึงเข้าสาปแช่งขอให้เจ้าหญิงกลอซี สร้างความไม่พอพระทัยต่อกษัตริย์ครีออนเป็นอันมาก เจสันจึงพานางกลับตำหนัก
เจ้าหญิงมีเดียยินยอมให้เจสันอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงกลอซีแต่ก็มิได้ยอมอย่างเต็มใจ
เจสันพยายามบอกสาเหตุของการอภิเษกสมรสว่า เขาหวังในบัลลังก์แห่งคอรินทร์ หากเขาได้เป็นกษัตริย์แห่งคอรินทร์ เจ้าหญิงมีเดียและพระราชโอรสทั้งสองก็จะสบาย แต่เจ้าหญิงมีเดียมิได้สนใจในลาภยศสรรเสริญหรือฐานันดร แต่นางปรารถนาที่จะอยู่กับเจสันไม่ว่าจะตกอยู่ในสถานใดก็ตาม แต่เจ้าหญิงมีเดียกริ้วเป็นกำลังต่อว่าเจสัน การกระทำของเขานั้นเป็นไปเพราะหวังผลประโยชน์ หากมิใช่เพราะนางหรอกหรือที่ทำให้เขาเป็นวีรบุรุษผู้พิชิตขนแกะทองคำ มิใช่เพราะนางอยู่เบื้องหลังหรอกหรือ เขารอดพ้นจากภัยอันตรายก็มิได้เพราะพลกำลังของตนเองแต่มาจากนางและเหล่าทวยเทพยดาทั้งปวงต่างหาก นางต้องยอมทรยศต่อพระราชบิดาและบ้านเกิดของนาง และนางต้องสังหารพระเชษฐาแห่งนาง เจสันเกิดโมโหเป็นกำลังจึงตอบโต้กลับเจ้าหญิงมีเดีย เพราะว่าเจ้านั้นเป็นคนเลว เพราะเจ้ากล้าที่จะทรยศต่อพระราชบิดา และสังหารพระเชษฐาของเจ้า เพราะเจ้าเห็นแก่ความรัก นี้ก็คือข้อยืนยันแล้วว่าสิ่งที่เจ้าพูดมาทั้งหมดมันเป็นเพราะตัวเจ้าเอง เจ้าหญิงมีเดียเสียพระทัยเมื่อคนที่นางรักกล่าวเช่นนี้ นางยินยอมให้เจสันอภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงกลอซี แต่ก็มิได้เต็มใจ !
เจสันสูญเสียทุกอย่างทั้งเจ้าหญิงกลอซีและเจ้าหญิงมีเดีย
คืนวันก่อนงานอภิเษกมาถึง เจ้าหญิงมีเดียทรงเนรมิตเครื่องอาภรณ์อย่างงดงาม เป็นชุดเจ้าสาวที่สวยงาม และนางก็วานให้พระโอรสทั้งสองนำไปมอบให้แก่เจ้าหญิงกลอซีเพื่อเป็นของขวัญสัมพันธไมตรีระหว่างเจ้าหญิงมีเดียกับเจ้าหญิงกลอซี เจ้าหญิงกลอซีเองก็เชื่อพระทัยว่าเจ้าหญิงมีเดียละความทิฐิแล้ว เจ้าหญิงทรงสวมชุดเจ้าสาวนั้น แต่แล้วร่างของหญิงก็ค่อยไหม้ด้วยไหมอาบพิษของเจ้าหญิงมีเดีย นางสิ้นอย่างอนาถ เจสันเสียใจเป็นอันมากความฝันที่ตนจะได้ครอบครองบัลลังก์แห่งคอรินทร์สลายสิ้นทันที กษัตริย์ครีออนทรงเสียพระทัยที่พระราชธิดาสิ้นพระชนม์จึงสั่งการทหารจับเจ้าหญิงมีเดียประหาร เจ้าหญิงมีเดียรู้อนาคตของนางอยู่เต็มอก นางจึงลงมือสังหารพระโอรสทั้งสองด้วยว่า นางเป็นเจ้าหญิงแห่งคอสคิส แต่ก็มิอาจจะกลับไปได้เพราะทรงทรยศต่อพระราชบิดา และไม่อาจจะอยู่ที่คอรินทร์อีกต่อไป มีทางเดียวคือกลับไปยังโอลิมปัสอันเป็นดินแดนแห่งทวยเทพ เพราะเชื่อสายกษัตริย์แห่งคอสคิสนั้นสืบเชื้อสายมาจากสุริยเทพเฮลิออนนั้นเอง เจ้าหญิงมีเดียเรียกราชรถที่เทียบด้วยมังกรเหาะขึ้นฟ้า เจสันตกใจเป็นอันมากกับภาพที่เห็น คือ ศพของพระโอรสทั้งสองของเขา และเจ้าหญิงมีเดียที่หนีจากเขาไป เขากล่าวด่าทอเจ้าหญิงมีเดียด้วยความแค้น เจ้าหญิงมีเดียก็ตอบกลับว่า ทุกอย่างเป็นเช่นนี้ก็เพราะเจ้าเอง และเจ้าหญิงมีเดียก็หายไปในกลีบเมฆ นางกลับไปยังโอลิมปัสสถานแล้ว
เจสันเดินทางร่อนเร่พเนจรจนมาพบกับซากเรืออาร์โก
เจสันตกต่ำอย่างขนาดที่เรียกว่าติดดิน เขาถูกกษัตริย์ครีออนขับไล่ออกจากคอรินทร์นคร คนเหลือเพียงชุดที่ขาดจนดู กับรองเท้าข้างเดียวไม่มีความเป็นวีรบุรุษเหลืออยู่แล้ว เขาออกร่อนเร่พเนจรไปทั่วกรีซอย่างน่าอนาถ ไม่มีใครรู้เลยว่าเขาคือ วีรบุรุษเจสันผู้พิชิตขนแกะทองคำ เขาปล่อยเนื้อปล่อยตัวและสกปรก เขาเดินทางมาจนพบกับซากเรืออาร์โก เขาดีใจมากจนแทบจะกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เขานั่งลงข้างโขนเรือนั้นและเขามองสายตาออกไปยังมหาสมุทรแห่งพระสมุทรโพไซดอน เจสันระลึกถึงอดีตวันวานที่หอมหวาน วันที่เขาและสหายร่วมออกเดินทางไปตามหาขนแกะทองคำ พานพบกับอุปสรรคนานาก็มากมาย เขาจำคำนั้นได้ดี คำแห่งพระเทพีเฮร่าที่พระเทพีเคยกล่าวไว้กับเขาว่า วันสุดท้ายแห่งวีรบุรุษย่อมที่จะจบไม่งดงาม เมื่อวันเริ่มต้นแห่งวีรบุรุษของเจ้า เจ้ามาด้วยเพียงรองเท้าข้างเดียว วันสุดท้ายของเจ้าจะเหลือเพียงรองเท้าข้างเดียวเช่นกัน เจสันจำได้ดี และแล้วหัวโขนเรืออาร์โกก็หักลงทับศีรษะของเจสันและแล้วเจสันก็ถึงคราวหมดลม วันสุดท้ายของเขาตามคำพยากรณ์แห่งพระเทพีมาถึงเขาแล้ว....
กลุ่มดาวขนแกะทองคำ กับ กลุ่มดาวเรืออาร์โก
เจสันวีรบุรุษแห่งกรีกที่ยิ่งใหญ่จากตำนานที่เรื่องขานถึงการผจญภัยของเขา ไม่คิดเลยว่าสุดท้ายแล้วเขาก็ไม่เหลืออะไรเลย ส่วนขนแกะทองคำเจ้าตัวปัญหา มหาเทพซีอุสทรงมีเทวบัญชาโปรดให้เทพเฮอร์เมสนำขนแกะทองคำไปไว้ในสรวงสวรรค์กลายเป็นกลุ่มดวงดาวบนท้องฟ้า และเรืออาร์โกก็ถูกนำขึ้นสู่สรวงสวรรค์ เจสันยังคงได้เป็นกัปตันเรืออาร์โกในดินแดนแห่งเทพยดาไปจนกัลปวสาน แต่ถึงแม้ว่าเขาเองจะปรารถนาที่จะพบกับเจ้าหญิงมีเดียยอดรักเพียงใด แต่นางก็ไม่ยอมที่จะอภัยให้กับเจสัน เจสันยังคงล่องเรืออาร์โกบนท้องฟ้ายามราตรีกาลไปชั่วกาล...
เจสันกับขนแกะทองคำที่ใครๆต่างยกย่องเป็นวีรบุรุษในดวงใจและมักจะรู้กันว่าเจสันจบด้วยสวยที่ครองรักกับเจ้าหญิงมีเดียอย่างมีความสุขและได้บัลลังก์ที่เป็นของตนเองกลับคืนมา เป็นเรื่องที่ใครๆก็ยินดี แต่จะมีใครบ้างที่รู้กันว่า จุดจบที่แท้จริงของมหากาพย์เรื่องนี้ เจสันจะจบลงอย่างน่าอนาถเช่นนี้....?!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น