ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลับคมขวาน : บูชายัญร้อยศพ

    ลำดับตอนที่ #2 : นักฆ่า (เขียนใหม่)

    • อัปเดตล่าสุด 28 มิ.ย. 53


                    ท่ามกลางฝูงชนมากมาย ในห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งในยามบ่ายของมหานครกรุงเทพฯ ชายชาวสเปนตัวสูงลิ่วกำลังเดินทอดน่องอย่างสบายๆ โดยเป็นจุดสนใจของคนที่เดินผ่านไปมา

     

                    แม้ธรรมดาแล้ว ด้วยงานหลักของเขาเป็นงานที่เต็มไปด้วยความเสี่ยง และต้องใช้ความระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา แต่จะเป็นอะไรไปล่ะ กับการปล่อยตัวสบายสักวันหนึ่ง

     

                    และนั่นก็เป็นโอกาสเหมาะ ที่เขาจะได้เรียนรู้ถึงคำว่า ความประมาท

     

                    เด็กหนุ่มเรือนผมสีดำยาวระต้นคอรับกับใบหน้าขาวหมดจด และสวยราวกับสตรีเพศ ร่างผอมบางที่สังเกตได้ชัดแม้ภายในชุดแจ็กเก็ตหนาสีน้ำเงิน กับกางเกงขายาวสีดำธรรมดาคนหนึ่ง มือทั้งสองข้างอยู่ในกระเป๋ากางเกงตลอดเวลา

     

    ไม่มีใครรู้ ว่าเด็กหนุ่มคนนี้เดินตามชายชาวสเปนมากว่าชั่วโมงแล้ว ถึงแม้สายตาจะไม่ได้จับจ้องอยู่ที่ชายชาวสเปนอยู่ตลอดเวลา แต่หากสังเกตดีๆ จะพบว่าเขามักจะเหล่ไปทางชายชาวสเปนเป็นระยะๆโดยไม่ให้คลาดสายตา แต่ก็ยากนักที่จะมีใครจับสังเกตได้โดยเฉพาะในที่ที่ชุกไปด้วยผู้คนเช่นนี้

     

    ครู่ถัดมา ชายชาวสเปนก็เดินเข้าไปในร้านกาแฟขึ้นชื่อร้านหนึ่ง โดยเลือกนั่งที่ที่มุมร้านด้วยความเคยชิน

      

                    ขอเป็นกาแฟเอสเปรสโซแก้วนึงแล้วกันครับ ชายชาวสเปนกำลังสั่งอาหารเป็นภาษาอังกฤษ พลางยิ้มโปรยสเน่ห์ให้กับบริกรสาวสวย ซึ่งอ้อมแอ้มตอบหน้าแดง ก่อนจะเดินจากไป

     

                    ไม่นานนัก เด็กหนุ่มก็ก้าวเท้าเข้าไปมายังหยุดที่ชายชาวสเปนและยิ้มอย่างเป็นมิตร ก่อนจะเอ่ยเป็นภาษาสเปนสำเนียงมาดริกที่คล่องแคล่ว ชัดเจน

     

                    ขอนั่งด้วยได้ไหมครับ?” ชายชาวสเปนสะดุ้งโหยง ก่อนจะเงยหน้าข้นมอง ดวงตาและใบหน้ามีแววประหลาดใจอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะยิ้มอย่างดีใจ และเอ่ยตอบเป็นภาษาเดียวกัน

     

                    เชิญเลยครับ เด็กหนุ่มยิ้มตอบ ก่อนจะนั่งลง ยกมือขึ้นกวักเรียกบริกรคนหนึ่งเข้ามา และเอ่ยเป็นภาษาไทย

     

                    ขอเป็นชานมเย็นแก้วนึง กับดาร์คฟอเรสต์ครับ บริกรสาวค้อมตัวลงเล็กน้อยก่อนจะเดินจากไป

     

                    เด็กหนุ่มหันกลับมายิ้มให้กับชายชาวสเปนซึ่งยิ้มให้อยู่แล้ว

     

                    ชายหนุ่มยื่นมือข้ามโต๊ะมาก่อน จะเอ่ยภาษาสเปนอีกครั้งอย่างเป็นมิตร

     

                    ผมราฟาเอล จากมาดริดครับ คุณละ?” เด็กหนุ่มยิ้มรับ และยื่นมือออกไปเขย่าพร้อมกับเอ่ยเสียงนุ่มนวลเป็นภาษาเดียวกัน

     

                    ทวี เป็นคนกรุงเทพฯครับ ราฟาเอลมีแววแปลกใจทันทีกับคำตอบที่ได้รับ

     

                    อ้าว! คนไทยหรือครับ? ทำไมสำเนียงมาดริดคุณชัดจัง?” เด็กหนุ่มหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเอ่ยตอบ

     

                    เผอิญผมมีญาติอยู่ที่มาดริกน่ะครับ ตอนเด็กๆได้มีโอกาสไปอยู่ที่นั่นหลายปี แล้วกลับมาที่ไทย เลยพูดได้ทั้งสองภาษา บทสนทนาหยุดลงชั่วคราวเมื่อ ชา กาแฟ และเค้ก ถูกเสิร์พมาพอดี

     

                    ชายหนุ่มยิ้มกว้าง เมื่อขณะที่คิดถึงความโชคดีของตน ที่ไม่เพียงปฎิบัติงานสำเร็จ ยังได้พบเพื่อนที่ถูกใจเสียด้วย

     

                    เอ่อ ขอถามอย่างหนึ่งได้ไหมครับ?” ราฟาเอลถามขึ้นอย่างไม่แน่ใจ ซึ่งทวียิ้มรับเป็นเชิงอนุญาต

     

                    คุณ...เอ่อ เป็นผู้ชาย หรือผู้หญิงครับ?” คิ้วของคนถูกถามกระตุกทันที และถึงแม้จะปรากรอยยิ้มในเวลาต่อมา แต่ก็แลดูเจื่อนๆชอบกล เช่นเดียวกับน้ำเสียง

     

                    อ่า...ผู้ชายครับ แท้ๆเลย

     

                    เอ่อ ขอโทษด้วยครับ คือ...หน้าของคุณเหมือนผู้หญิงมากจริงๆ ผู้ตั้งคำถามรีบเอ่ยทันทีอย่างเกรงใจ

     

                    ไม่เป็นไรครับ มีคนชอบถามบ่อยๆผมชินแล้วล่ะ น้ำเสียงของเด็กหนุ่มกลับมาเป็นมิตรเช่นเดิมทันที แม้ท้ายประโยคจะดูเหมือนหงุดหงิดเล็กน้อย

     

                    จากนั้น ทั้งสองจึงทานเค้ก และเครื่องดื่มที่สั่งมาครู่หนึ่งแล้ว พลางคุยเรื่องสัพเหระไปด้วย

     

                    จนกระทั่งเวลาผ่านไปพอสมควร ราฟาเอลจึงเรียกบริกรมาคิดเงิน ถึงเวลาต้องจากลาแล้ว

     

                    ชายชาวสเปนยิ้มกว้าง ก่อนจะยื่นมือออกมา ซึ่งทวีก็ยื่นออกมาเขย่ารับเช่นกัน

     

                    ดีใจที่ได้เจอคุณครับ นี่นามบัตรผม หากคุณสนใจงานสบายๆ เงินดีๆ ล่ะก็...เชิญติดต่อมาได้เลยนะครับ ชายชาวสเปนเอ่ยเสียงนุ่ม ก่อนจะยื่นนามบัตร พร้อมชื่อ ที่อยู่บริษัทไว้ให้

     

                    เด็กหนุ่มรับมา ก่อนจะยิ้มและตอบเสียงนุ่มเช่นกัน

     

                    แล้วผมจะติดต่อกลับไปครับ ราฟาเอลมีท่าทีดีใจ เขาโบกมือลาเล็กน้อย ยิ้มให้เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินจากไป

     

                    เด็กหนุ่มยิ้มกว้าง และโบกมือลาอยู่ชั่วหนึ่ง ก่อนจะลดมือลง ก้มหน้ามองนามบัตรในมือผ่านๆ ก่อนที่จะล้วงเอารูปรูปหนึ่งออกมาจากกระเป๋ากางเกง

     

                    มันเป็นรูปภาพ ถ่ายเดี่ยวของชายคนหนึ่งในต่างมุมและอิริยาบถ และฉีกทั้งหมดทิ้งอย่างรวดเร็ว

     

                    ทวีพึมพำคำบางอย่างที่เบาเสียจนไม่มีใครได้ยิน แต่หากมีใครได้ยิน คงรับรู้ถึงความเหี้ยมเกรียมในน้ำเสียงนั้นอย่างชัดเจน

     

                    จะติดต่อกลับไป...ในเร็วๆนี่แหละ คุณได้รอไม่นานหรอก...ราฟาเอล อารากอน

     

     

                    ในยามค่ำคืนของกรุงเทพมหานคร ชายชาวต่างชาติคนหนึ่งกำลังยืนดูทิวทัศน์อยู่ที่ระเบียงห้องพักอย่างทุกๆคืน

     

                    ราฟาเอล อารากอน ชายหนุ่มชาวสเปนก็เป็นเช่นนั้น แต่เขาไม่ได้อยู่เพียงคนเดียว แต่มีหญิงสาวรูปร่างงดงามอีกคนหนึ่งด้วย

     

                    ทั้งสองกำลังคุยกันอย่างออกรสเป็นภาษาอังกฤษ ในมือของทั้งคู่มีเครื่องดื่มสีใส ริมฝีปากหยักกว้างเป็นรอยยิ้มแห่งความสุขบนห้องพักในชั้นที่ 14

     

                    ขณะเดียวกัน ที่ดาดฟ้าของอาคารแห่งหนึ่ง มีความสูงพอๆกับคอนโดมีเนี่ยม แต่อยู่ห่างจากกันราว 700 เมตร

     

                    ร่างหนึ่งในชุดแจ็กเกตสีน้ำเงินมีฮู้ดคลุมปิดบังใบหน้าหมอบอยู่ที่ริมดาดฟ้า ภายในมือซึ่งมีถุงมือสีดำสวมทับทั้งสองข้าง ปรากฏปืนยาวพร้อมที่เก็บเสียงกระบอกหนึ่ง ขาหยั่งที่ปลายปืนตั้งอยู่บนขอบของดาดฟ้าพอดี ดวงตาสีดำสนิทจ้องผ่านเข้าไปในผ่านกล้องเล็งที่มีกำลังขยายหลายเท่า

     

                    [“คุณนี่ตลกดีจังเลยนะคะ”] เสียงพูดภาษาอังกฤษ ลอดผ่านมาทางหูฟังของเด็กหนุ่ม

     

                    ศูนย์เล็งของปืนกระบอกนั้น หยุดนิ่งอยู่ยังชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ ซึ่งกำลังคุยเสวนาอย่างออกรสกับหญิงสาวข้างๆ

     

    ศูนย์ถูกเปลี่ยนเป้าหมายไปยังหญิงสาว ซึ่งกำลังหัวเราะอย่างขบขันในมุขตลกบางอย่างของราฟาเอล

     

                    มือสังหารยิ้มบางๆ มือข้างซ้ายยื่นไปปลดเซฟปืนอย่างแผ่วเบา ดวงตาเหล่ไปยังเครื่องมือชิ้นหนึ่ง ซึ่งมีโลหะเล็กๆ ซึ่งยื่นออกไปจากดาดฟ้า และมีหน้าจอแสดงเป็นตัวเลขบางอย่าง

     

                    อืม...ลมไม่แรงมาก... พึมพำเบาๆ ก่อนจะเอื้อมมือไปหมุนปรับบางอย่างที่ปลายลำกล้อง

     

                    เมื่อได้ตามต้องการแล้ว เขาจึงกลับมาที่กล้องเล็งอีกครั้ง ศูนย์เล็งถูกเปลี่ยนขึ้นหนึ่งเป้าหมายเล็กน้อยเพื่อเผื่อแรงโน้มถ่วง

     

                    ...อโหสิ... เสียงที่ถูกเอ่ยขึ้นอย่างแผ่วเบานั้น มีแววเศร้าออกมาเล็กน้อย เพียงเล็กน้อยจริงๆ

     

                    แล้วเขาก็เหนี่ยวไก

     

                    ปุ!! เสียงหัวกระสุนพุ่งออกจากรังเพลิงผ่านที่เก็บเสียง ก่อนจะพุ่งฝ่าอากาศบางเบาตรงเข้าไปหาหญิงสาว!!

     

                    ฟุ่บ! หัวกระสุนเจาะเข้าทางรูหูของหญิงสาวพอดี รอยยิ้มของเธอยังตราอยู่บนใบหน้า รู้สึกเจ็บเพียงชั่วครู่ ก่อนจะล้มพับไป...

     

                    ชายหนุ่มมีแววตกตะลึง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นหวาดกลัว ริมฝีปากอ้ากว้างเพื่อจะร้องตะโกน

     

                    ฟุ่บ! กระสุนอีกนัดถูกเจาะเข้าที่รูหูของชายชาวสเปนอย่างแม่นยำเช่นเดียวกับเป้าหมายก่อนหน้า ร่างสูงใหญ่ล้มตึงลงไปบนพื้นทันที!

     

                    ศูนย์เล็งถูกเลื่อนอย่างช้าๆไปทางซ้ายมือจนถึงจุดหนึ่ง และหยุด...

     

                    ปุ!!!

     

                    เฟี้ยววว! หัวกระสุนพุ่งทะลวงอากาศไป... ทะลุผ้าม่านบางสีน้ำเงิน ก่อนจะเจาะทะลุถังก๊าซอย่างจัง!

     

                    ตูมมม!!!!!! เสียงระเบิดอย่างรุนแรงดังขึ้นราวฟ้าถล่ม เปลวเพลิงสีน้ำเงินลุกวาบขึ้นเพียงพริบตา ณ ห้องบนชั้น 14 ก่อนจะดับลงอย่างรวดเร็ว ทิ้งเหลือไว้เพียงซากความเสียหายยับเยิน ก่อนจะตามมาด้วยเสียงกรีดร้องดังระงมของผู้เห็นเหตุการณ์ และเสียงหวอของรถตำรวจ และรถพยาบาลในครู่ถัดมา...

     

                    ทวี หรือ เลนส์ เหยียดยิ้มอย่างพึงใจ เมื่อเห็นผลลัพธ์ของตน ก่อนจะเดินจากไป....

     

     

    ตึก! กระเป๋าหนังสีดำยาวถูกทิ้งลงบนพื้นไม้อย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียงเล็กๆที่กลางห้องอย่างเหนื่อยอ่อน จากการที่เสื้อแจ็กเกตได้ถูกถอดออกในตอนเข้ามาในห้อง จึงเผยให้เห็นร่างบอบบางภายในเสื้อคอกลมสีดำ

     

    เลนส์ปล่อยลมหายใจออกมายาว หลับตาลงพร้อมกับทิ้งตัวลงนอน แล้วจึงพึมพำออกมาเบาๆพอให้อีกฝ่ายได้ยิน

     

    มีธุระอะไร... เกิดความเงียบอยู่ชั่วขณะ ก่อนจะมีเสียงลมหายใจพ่นดังๆ พร้อมกับประตูของตู้เสื้อผ้าที่มุมห้องถูกเปิดออก ตามมาด้วยร่างอรชรของหญิงสาวนางหนึ่งก้าวออกมา เสื้อกาวน์ขนาดใหญ่บนตัวเธอทำให้ดูเทอะทะจนเกือบจะตลก

     

    ว้า...จับได้อีกแล้วเหรอ เสียงหวานบ่นพึมพำอย่างเสียดาย ขณะที่ริมฝีปากบางเบ้ลงอย่างไม่พอใจ ชั้นว่าครั้งนี้ชั้นทำเนียนแล้วนา เชอะ! คนอะไรหูดีชะมัด

     

    เจ้าของห้องเพียงเหล่มองหญิงสาวเท่านั้น ก่อนจะเคลื่อนขึ้นไปเบื้องบนจ้องผ่านเพดานไม้อัดเก่าๆไปอย่างเลื่อนลอยอยู่เป็นเวลานานจนผู้มาเยือนอดทนรอไม่ไหว

     

    นี่!...นี่!! หันมามองชั้นบ้างสิยะ!” หญิงสาวตวาดแว้ดใส่ในท้ายประโยคอย่างไม่พอใจ ซึ่งนั้นก็ทำให้เด็กหนุ่มตวัดสายตามาทางเธออย่างหงุดหงิด หญิงสาวยิ้มอย่างพอใจ กระแอมไอ ก่อนจะเอ่ย ซุสให้เอาของขวัญวันเกิดมาให้แหนะ!ชิ้นใหญ่เชียวนาชิ!คงได้ไปทำเรื่องสนุกๆอีกละสิ ทีชั้นล่ะ ได้แต่นั่งโต๊ะไปวันๆ น่าเบื่อจะตา... เสียงหวานที่กำลังบ่นเจื้อยแจ้วชะงักลงทันที เมื่อเริ่มรู้สึกถึงอารมณ์ที่ขุ่นมัวลงเรื่อยๆเริ่มเปลี่ยนไปเป็นความกดดันที่แผ่ออกมาจากผู้ฟังด้วยอารมณ์หงุดหงิดเต็มที

     

                    แหม ขอเค้าเม้าท์หน่อยก็ไม่ได้...เออๆๆ เอาไปเลยๆ ชิ หญิงสาวพูดอย่างน้อยใจ ก่อนจะล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ หยิบเอาแฟ้มหนาธรรมดาๆที่มีขายทั่วไปออกมายื่นให้เด็กหนุ่ม ซึ่งลุกขึ้นมารับไปและเปิดดูรายละเอียดข้างในทันที โดยที่ไม่สนใจเสียงค่อนขอดของผู้ให้ ทีงี้ละกระตือรือร้นเชียวนะ

     

                    หน้าแรกๆนั้น เป็นเหมือนทะเบียนรายรับ รายจ่ายของบริษัทเล็กๆแห่งหนึ่งในต่างจังหวัด ซึ่งเด็กหนุ่มเปิดข้ามมันไปอย่างไม่สนใจ จนกระทั่งเขาเปิดไปจนถึงราวครึ่งเล่ม จึงพบกับสิ่งที่ต้องการ

     

    ๑๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๖..

     

    ลับที่สุด

    TOP SECRET

     

    โครงการ ลับคมขวาน













     

     

     

    มุมปากของเลนส์ยกขึ้นเล็กน้อยอย่างพอใจ ก่อนที่มือบางจะพลิกหน้ากระดาษไปอีกหน้า

    ปฏิบัติการที่ ๑๑๓   : “สังเวยร้อยศพ

                    ชื่อลับ                       : “หนาม

                    ผู้รับผิดชอบ            : ซุส

                    เจ้าหน้าที่ผู้รับผิด    : ๑.  คลีนเนอร์ (เทวทูต, รหัส ๐๒๒๓๑)

                    ชอบ                          ๒. โลคิ (ยมทูต, รหัส ๗๗๗๓๗)

                                      ๓.  เลนส์ (เทวทูต, รหัส ๐๐๐๑๓)

                                                    ๔. เทคเกอร์ (ยมทูต, รหัส ๐๐๑๑๔

                                        ๕.สวีปเปอร์ (เทวทูต, รหัส ๐๑๗๗๗)

    ข้อบังคับ               : ๑.ใช้ระเบียบปฏิบัติการที่ ๓ เว้นข้อที่ ๑๗,๓๔ และ ๓๕

                  รายละเอียด           :  กำจัดเป้าหมายจำนวน ๑๐๐ เป้าหมาย ตามบัญชีรายชื่อ

     

    ลงชื่อ

    ZEUS

     

     

     

                    เมื่ออ่านจบ เด็กหนุ่มก็เบ้ปากเล็กน้อย ราวกับไม่พอใจในบางอย่าง แต่เขาก็เปิดหน้าต่อไปทันที

     

                    หน้าต่อๆมา เป็นรูป และชื่อของบุคคลจำนวนหนึ่ง โดยมีหน้าละสิบคน เด็กหนุ่มเปิดผ่านไปเรื่อยๆ จนมาถึงหน้าหนึ่ง ซึ่งมีเพียงเก้าคน

     

                    คิ้วของเด็กหนุ่มขมวดเขาหากัน ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวข้างหน้าตนเป็นเชิงถาม แต่ก็ได้รับเพียงการสั่นหน้าอย่างรัวเร็วและคำพูดที่พรั่งพรูออกมา

     

                    ชั้นไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น อย่าถามเชียวนะ!” เด็กหนุ่มมองหน้าของหญิงสาวตรงหน้าอย่างชั่งใจเล็กน้อย แต่แล้วก็ก้มลงเปิดแผ่นกระดาษในแฟ้มนั้นต่อไป ซึ่งมันกลับมาเป็นรายละเอียดรายรับรายจ่ายอีกครั้ง และเมื่อเขามั่นใจว่าไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมอีกแล้ว เขาก็ฉีกแผ่นกระดาษหน้าที่มีรายชื่อออกทั้งหมด ก่อนจะพับเก็บมันไว้ในกระเป๋ากางเกง และยื่นแฟ้มที่เหลือไปข้างหน้า

     

                    หญิงสาวพยักหน้าอย่างเข้าใจ และเก็บสิ่งที่ได้รับลงในกระเป๋าเสื้อ และเดินจากไป ทิ้งเลนส์ไว้คนเดียวอีกครั้ง เขาล้มตัวลงนอนแผ่บนเตียงเล็กๆทันที เช่นเดียวกับเปลือกตาที่หลับลง...

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×