คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ll ERROR ll CHAPTER 4
ERROR
CHAPTER 4
เสียงน้ำกระทบพื้นกระเบื้องเรียกเปลือกตาบางให้ค่อยๆปรือขึ้นรับแสงแดดยามสาย แพขนตาสวยกะพริบปริบปรับโฟกัสให้เข้าที่ก่อนจะค่อยๆหยัดกายให้ลุกขึ้นนั่งมองประตูห้องน้ำบานหนาที่ปิดสนิท พร้อมทั้งร่างของใครบางคนที่ใจดีกับเขาเมื่อคืนก็อยู่ในนั้นด้วย
อาการป่วยของอี้ชิงทุเลาลงแล้วหลังจากได้รับการดูแลทั้งยาและข้าวต้มที่คริสจัดหาให้ ใบหน้าหวานหันสำรวจรายละเอียดไปรอบๆห้อง เหลือบม่านตาขึ้นมองนาฬิกาข้างฝาพนังเพื่อรับรู้เวลาใกล้เที่ยงในอีกไม่ช้า คิดได้แค่นั้นนัยน์ตาคู่สวยพลันเบิกโพลงตกอกตกใจร้อนรนเด้งตัวลุกจากที่นอนอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันกับคนที่อยู่ในห้องน้ำออกมาพอดิบพอดี
“รู้สึกดีขึ้นบ้างหรือเปล่า?”
คนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเอ่ยถามพลางเช็ดเส้นผมหมาดชื้นที่ลู่ตามโครงหน้าหล่อไปด้วย ผ้าขนหนูผืนเดียวเกี่ยวรอบเอวไร้การปกปิดส่วนบนที่พราวน้ำ โชว์เรือนร่างสมส่วนทำให้อี้ชิงต้องหันหนีหลบสายตาเป็นพัลวัน
“เอ่อ ฉ...ฉันรู้สึกดีขึ้นแล้ว” ตอบกลับไปใบหน้าหวานจะเงยขึ้นสักนิดก็ไม่มี เหมือนเดิมอย่างทุกวันจนเป็นเรื่องปกติให้ชินชา
“แล้วนี่นายจะลุกไปไหนดูเร่งรีบเชียว เกิดเป็นลมเป็นแล้งไปจะทำยังไง?”
“สายแล้วฉันต้องไปเรียน” อี้ชิงตอบกลับพลางหันซ้ายแลขวาหากระเป๋าเป้ ก่อนจะเดินไปหยิบมันขึ้นสะพายใส่หลังด้วยความรีบร้อน
“เพิ่งรู้นะเนี่ยว่านายมีเรียนวันเสาร์ด้วย”
อี้ชิงถึงกับชะงักเท้าทันทีเมื่อคิดได้ว่าวันนี้คือวันหยุดทั้งเขาเองก็ไม่มีเรียนอีกต่างหาก ลืมวันลืมเวลาเพราะตารางเรียนแสนหนักหนาทำให้ทุกอย่างไม่ประมวลเข้าสมองจนเลอะเลือนความจำไป
“ก็...ไม่มี แต่ฉันต้องไปทำป้ายเชียร์คณะที่มหาลัยให้เสร็จ อีกอย่างฉันอยากกลับบ้าน”
สิ้นเสียงหวานคริสจึงพยักหน้าเข้าใจ เห็นอี้ชิงสบายดีลุกเดินเองได้ก็หายห่วง แต่นั่นเขายังคงไม่ไว้วางใจ คิดได้เลยสาวเท้าเข้าหาคนตัวเล็กหวังให้แน่ใจว่าอีกคนสบายดีไม่ได้โกหก ทว่าคนตรงหน้ากลับถอยหนีทำท่ารังเกียจ ก้าวเข้าหาอีกก็เหมือนเดิมคืออี้ชิงถอยหลังห่างไม่เลิกลา คริสจึงจำเป็นใช้กำลังบังคับร่างกายบางให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอด ก่อนจะยกหลังมือแตะสัมผัสหน้าผากบางหวังวัดอุณหภูมิในร่างกายของอีกคน
“ตัวนายยังรุมๆอยู่เลย แน่ใจนะว่าไม่เป็นไร?”
“ฉันไม่เป็นไรแล้วจริงๆ”
นัยน์ตาคู่กลมหลุบหนีเอ่ยตอบแผ่วเบา ไม่เข้าใจการกระทำของคริสเลยสักนิด เหมือนว่าใจดีเป็นห่วงเป็นใย อยากให้ตายใจหรืออี้ชิงไม่หลงกลหรอก
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
เสียงเคาะประตูเรียกความสนใจจากคนทั้งคู่ให้เสมอง อี้ชิงถือโอกาสเบี่ยงตัวหลบหนีจากอ้อมกอดของอีกคนอย่างรวดเร็ว
คริสเองก็แปลกใจไม่น้อยที่แขกผู้มาเยือนขึ้นมาถึงหน้าห้องนอนของเขาทั้งยังไม่ได้รับอนุญาต หรือจะใช่คนเป็นแม่ที่มาหาคริสเดาไม่ได้เลยจริงๆ ไม่ปล่อยให้สงสัยนานขายาวจึงเดินไปเปิดให้คนหน้าห้องทันทีไม่รอช้าด้วยความอยากรู้
“พี่คริสครับ ผมมาแล้วนะครับ”
กำลังจะเอื้อมมือหมุนลูกบิดประตูทว่าทุกอย่างกลับถูกหยุดด้วยเสียงคุ้นหูที่คริสไม่เคยนึกถึงมาเป็นเวลาหลายอาทิตย์ ร่างกายชาวาบหันมองอี้ชิงที่สะพายกระเป๋าพร้อมออกจากห้องด้วยความเป็นกังวล แต่นั่นอีกคนกลับเอาแต่กระพริบตาปริบไม่เข้าใจให้คริสต้องยกมือขึ้นกุมขมับตัวเอง ทำอะไรไม่ได้หมดหนทางจึงดันร่างกายบอบบางให้เข้าห้องน้ำไปก่อนภัยจะถึงตัวแล้วเรื่องวุ่นวายจะตามมา
“หลบอยู่ในนี้นะ ห้ามส่งเสียงและห้ามออกมาเด็ดขาด!”
คริสชี้นิ้วสั่งยิ่งทำให้อี้ชิงไม่เข้าใจขึ้นไปอีก แต่นั่นก็ยอมทำตามเพราะคนใจร้ายในตอนนี้ไร้แววของการพูดเล่นทั้งยังฉายไปด้วยความจริงจังที่แสดงออกทางสีหน้า คนอย่างอี้ชิงหรือจะขัดขืนได้ ยอมเลยตามเลยทำตามอีกคนทั้งที่ยังไม่รู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเสียด้วยซ้ำ
“ทำไมมาเปิดช้าจังเลยครับพี่คริส?”
เสียงจริตกร้านที่เอ่ยถามทำให้คริสร้อนรุ่มใจอย่างถึงที่สุด แต่นั่นยังคงรักษามาดของตัวเองไว้ได้ดีพอสมควร ก่อนจะส่งยิ้มบางๆตอบกลับไปให้คนรักตัวเล็กที่ยืนทำหน้างองุ้มอยู่หน้าห้องให้อกสั่นขวัญผวา
“พี่ขอโทษครับแบคฮยอน พอดีพี่อาบน้ำอยู่เลยช้านิดหน่อย เข้ามาก่อนสิครับ”
สิ้นเสียงทุ้มที่เอ่ยอนุญาตแบคฮยอนจึงเดินเข้ามาในห้องด้วยความคุ้นชิน ทิ้งตัวนั่งลงที่โซฟาก่อนจะถอดเสื้อคลุมตัวนอกออกเผยให้เห็นโครงร่างบอบบางน่าทะนุถนอมอย่างชัดเจน
“…….”
“ทำไมจะมาหาไม่โทรบอกพี่ก่อนล่ะหื้ม?” คริสเอ่ยถามนึกแปลกใจที่เห็นคนรักอยากจะมาก็มาไม่บอกกล่าวล่วงหน้าเหมือนอย่างทุกครั้ง
“อยากมาเซอร์ไพรส์น่ะครับ ไม่เจอพี่คริสจะสองอาทิตย์แล้วผมคิดถึง”
คำพูดคำจาของแบคฮยอนทำให้คนที่ได้ฟังถึงกับเผยยิ้มกว้าง ก่อนจะสาวเท้าเข้าหาแล้วกดจูบประทับริมฝีปากลงบนหน้าผากขาวอย่างอ่อนโยน
“แฟนใครน่ารักอีกแล้ว ถ้างั้นรอแปปนึงนะเดี๋ยวพี่ขอใส่เสื้อผ้าก่อน”
“พี่คริสครับ....”
คนตัวสูงที่กำลังจะเดินจากไปต้องหยุดนิ่งแล้วหันกลับมาตามเสียงเรียกจริตกร้านของคนรักอีกครั้ง ใบหน้าหล่อฉายแววไม่เข้าใจเมื่ออีกคนมองหน้ากันนิ่งทั้งยังยิ้มมุมปากมีเลศนัย
ม่านตาคมสบประสานสายตาเฉี่ยวอายไลน์เนอร์ที่เว้าวอนส่งมาให้เห็นอย่างชัดเจน แต่นั่นคริสกำลังจะอ้าปากถามความต้องการจากแบคฮยอนอยู่ๆมือเล็กกลับส่งมากระตุกยังชายผ้าขนหนูของเขาที่ห่อหุ้มส่วนล่างของร่างกายให้หลุดออกทำเอานิ่งค้างตกใจไม่ทันได้เตรียมตัว
“บ...แบคฮยอน”
คริสถึงกับตาเบิกโพลงเมื่อรับรู้ได้ถึงการกระทำของอีกคน เขารู้ดีว่าแบคฮยอนต้องการอะไรหากแค่ในตอนนี้เขาไม่สามารถตอบสนองได้ คริสไม่พร้อมและมันควรจะไม่ใช่ตอนนี้ที่ยังคงมีใครอีกคนหลบอยู่ในห้องน้ำ
“ผมคิดถึงพี่คริส ตามใจผมเถอะนะครับ”
พูดเสร็จแบคฮยอนจึงจัดการร่นเสื้อตัวบางแนบเนื้อที่สวมใส่อยู่ให้พ้นจากร่างกาย เอนหลังพิงพนักโซฟาส่งสายตายั่วเย้าให้คริสต้องลอบกลืนน้ำลายอย่างช่วยไม่ได้ แต่นั่นยังคงไม่ไหวติงเพราะคริสรู้ดีว่าคนที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องน้ำต้องประนามเขาอย่างแน่นอน แค่นี้ก็เลวทรามชั่วช้าในสายตาของอีกคนมากพอแล้ว คริสไม่อยากให้มันมากไปกว่านี้จนความเลวห้วนซ้ำเติมเขาอยู่ทุกวี่ทุกวัน
“ไม่รักผมแล้วเหรอครับพี่คริส ไม่เห็นหน้ากันสองอาทิตย์จะทิ้งผมแล้วใช่ไหม?”
ถึงจะเอ่ยให้คริสรู้สึกผิดหากแต่แบคฮยอนยังคงยั่วด้วยท่าทางอ้อยอิ่งไม่เลิกลา ไม่ได้มากมายแต่นั่นคริสเองก็ผู้ชายมีความรู้สึกจะทนไปคงทรมาน ซ้ำแบคฮยอนยังอยู่ในฐานะของคนรัก ไม่เคยเลยสักครั้งที่เขาจะขัดใจถึงยอมตามใจอีกคนเสมอมา
“พ...พี่…ไม่....”
เสียงทุ้มไม่ทันเอ่ยจบประโยคดีมือเล็กของคนที่นั่งอยู่บนโซฟากลับส่งมารั้งที่แขนแกร่งให้ล้มลงทาบทับร่างกาย ไม่รอช้ารีบคล้องลำคอคนตัวสูงพลางสอดมือขยุ่มกลุ่มผมนุ่มที่กำลังเปียกหมาดเร้าอารมณ์ให้เกิดขึ้น ใช้ร่างกายให้เป็นประโยชน์ขยับนิดขยับหน่อยนั่นคือคริสจะทนไม่ได้
“ไม่คิดถึงผมเหรอครับพี่คริส?” ถามย้ำอีกครั้งนัยน์ตาเฉี่ยวอายไลน์เนอร์จึงพยายามปรือเชื้อเชิญ มือไม่อยู่สุขลุกล้ำลูบคลำร่างกายกำย้ำให้คนบนร่างเริ่มทำหน้าที่เสียทีอย่ารอช้า
คนถูกเร้ายังคงนิ่งพยายามระงับอารมณ์ที่กำลังก่อตัวอย่างถึงที่สุด จะบอกว่าคริสแคร์คนในห้องน้ำคงไม่ผิด ความรู้สึกของอี้ชิงเจ็บมามากพอแล้ว ที่อีกคนโดนเขากระทำมันยังฝังลึกให้ห้วนระลึกในสมองอยู่ตลอด แต่นั่นคงจะยื้อแบคฮยอนไว้ไม่ได้เมื่อลำคอแกร่งถูกรั้งให้เข้าไปประทับจูบอย่างไม่ทันได้ตั้งเนื้อตั้งตัว
คริสพยายามผละศีรษะขึ้นคัดค้านแต่แขนของอีกคนยังคงกอดรัดไว้แน่นทำให้ร่างกายไม่มีแรงลุกขึ้นนั่งต่อต้าน เขาไม่ทันเริ่มคนตัวเล็กร้อนแรงจึงเป็นคนเริ่มเอง
แบคฮยอนส่งลิ้นเข้าเกี่ยวกระหวัดในโพลงปากกวาดต้อนทุกอณูทั้งที่คริสไม่ตอบสนอง ถึงจะนึกแปลกใจอยู่บ้างที่คนตัวสูงไม่เหมือนเดิม แต่มีหรือคนอย่างแบคฮยอนจะพลาดแม้แต่ครั้งให้ร่างกายเปล่าประโยชน์ ลิ้นเล็กกระดกขึ้นเพียงนิดก่อนจะค่อยๆบังคับเม็ดยาในปากส่งให้คนรักที่ดื้อไม่ตอบสนองอย่างช่วยไม่ได้ ไม่ใช้วิธีนี้คริสเองคงไม่ยอม…
“แบคฮยอน นาย...”
คริสถึงกับตกใจเมื่อหลงตัวกลืนบางสิ่งบางอย่างลงคอขัดขืนไม่ทัน มองหน้าคนใต้ร่างนิ่งก่อนจะส่ายหัวไปมารู้สึกผิดหวังชัดเจน หากแต่ร่างกายของเขากลับไม่รับรู้ ทุกอย่างกำลังถูกควบคุมด้วยยาเพียงเม็ดเดียวเท่านั้น
“กลืนมันแล้วใช่ไหมครับพี่คริส น่ารักจัง” เสียงจริตกร้านกระซิบผะแผ่วข้างใบหูคนตัวสูง แตะลิ้นสัมผัสโลมเลียเร้าอารมณ์ทำเอาคริสควบคุมตัวเองไม่ได้อีกเลย
“นายเอายาอะไรให้พี่กิน?”
“อย่าซีเรียสนะครับพี่คริส อีกไม่กี่นาทีความสุขจะทำให้พี่ลืมทุกอย่าง”
พูดเสร็จแบคฮยอนจึงค่อยๆพลิกตัวแล้วกดคริสให้เป็นฝ่ายอยู่ใต้ร่างแทน เห็นว่าอีกคนเริ่มไม่มีสติมุมปากพลันยกยิ้มอย่างคนที่เหนือกว่า จัดการปลดเข็มขัดและร่นกางเกงที่สวมใส่ออกจนไม่เหลือแม้แต่ชิ้นก่อนจะเริ่มเร้าโลมอีกคนยามยาออกฤทธิ์หนักขึ้นเรื่อยๆ
ริมฝีปากทั้งสองแตะกันเพียงนิดก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นจูบเร่าร้อนยามไม่ทันใจแรงราคะที่โหมเข้าใส่ เสียงดูดดุนดังเล็ดลอดให้ได้ยินทำเอาหัวสมองขาวโพลนควบคุมไม่ได้อีกเลย มือหนาลูบคล้ำเรือนร่างเล็กอย่างวูบหวาม ไม่อยากหากแต่ยาที่ปลุกไฟราคะนั้นเป็นใครก็บังคับมันไม่ได้ ไม่ฝืนธรรมชาติจึงได้แต่ตามอารมณ์ตัวเองไป ระบายมันเสียให้หายความอึดอัดโดยไม่ได้นึกถึงบุคคลที่สามเลยสักนิดว่าจะรู้สึกอย่างไร
คนหน้าหวานในห้องน้ำที่เห็นเหตุการณ์ผ่านช่องว่างของประตูที่แง้มเพียงเล็กน้อยก็ถึงกับอึ้งตัวชาวาบ อี้ชิงไม่คิดว่าคนทั้งคู่จะเริ่มบทรักกันทั้งที่คริสเองรู้อยู่แก่ใจว่าเขายังไม่ได้ไปไหนอยู่ตรงนี้ตั้งแต่แรก หัวใจที่บอบช้ำอยู่แล้วมันกลับโหมหนักขึ้นไปอีก ซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับความเจ็บปวดที่อี้ชิงพบเจอ ช่างน่ารังเกียจที่เขาได้เป็นส่วนหนึ่งในการร่วมรักทั้งเห็นภาพอุบาทว์ตาของคนทั้งสอง
“อ๊ะ! พี่คริส เร็วอีกครับ...”
อี้ชิงพยายามแล้วที่จะไม่มองมันหากแต่เสียงครางระงมน่าเกลียดยังคงโหยหวนย้ำในโสตประสาทอยู่ตลอดเวลาให้รู้สึกแย่ ปิดปากตัวเองร่ำไห้ด้วยความอดกลั้นพลันปล่อยให้หยาดน้ำสีใสไหลร่วงอาบข้างแก้มเนียนแทบขาดใจ
“อ้า... พ...พี่คริส”
หมดหนทางที่อี้ชิงจะหลีกเลี่ยงจากความโสโครกตรงหน้า มือบางยกขึ้นปิดหูสะอื้นไห้เงียบๆอยู่คนเดียว ส่ายหน้าอย่างบ้าคลั่งเพราะไม่ว่าจะปิดหูไม่รับฟังยังไงทุกอย่างมันกลับไม่เห็นใจให้คนอย่างอี้ชิงเอาเสียเลย ย้ำเตือนทุกเสียงแว่วตอบรับการกระทำของคนทั้งสอง เสียงน่ารังเกียจนี้อี้ชิงเกลียดมัน
นัยน์ตาคู่สวยแดงก่ำช้ำเลือดอย่างน่าสงสาร กลั้นเสียงสะอื้นร้องไห้ตัวสั่นเทาด้วยความโกรธ โกรธที่จะทำอะไรทำไมต้องให้เขาเป็นหนึ่งในเรื่องของคนทั้งคู่ ก่อนร่างกายบ้างจะทรุดฮวบนั่งลงบนพื้นกระเบื้องพิงอ่างอาบน้ำกอดเข่าร้องไห้อย่างอ่อนแรงระทมใจ
เด็กหนุ่มคนที่อยู่ร่วมรักกับคริสอี้ชิงรู้จักดี เห็นแว้บแรกไม่ชัดเจนหากแต่น้ำเสียงเขาคุ้นเคยมันที่สุด ทั้งยังมั่นใจไม่ผิดแน่ว่าคนๆนั้นคือ...
“แบคฮยอน ฮึก...”
พึมพำชื่อรุ่นน้องอี้ชิงแทบขาดใจ คนที่คริสรู้จักมักเป็นคนใกล้ตัวของเขาเสมอ ทำไมต้องเป็นเด็กคนนี้ไม่เข้าใจเลยสักนิด แต่จะว่าไปเพิ่งรู้ก็วันนี้ว่าแบคฮยอนเป็นคนรักของคริสไม่อยากจะเชื่อ รู้จักเรียกว่าสนิทสนมกับอีกคนเสียด้วยซ้ำ แบคฮยอนเป็นเด็กน่ารักอี้ชิงคิดมันมาตลอด หากแต่ตอนนี้เขาควรต้องเปลี่ยนมุมองเสียใหม่เมื่อรุ่นน้องที่เคยดีในสายตากลับปีกกล้าขาแข็งทำเรื่องน่าอับอายแสนรังเกียจ
“พ...พี่คริส อ้า...ผมรักพี่นะครับ”
ความอดทนมีขีดจำกัดแต่นั่นอี้ชิงยังใจแข็งกัดฟัดด้วยความอดกลั้น น้ำตามากมายรินไหลเป็นสายธารยากจะหยุดยั้งแล้วหมดไป ไม่รู้ว่าเรื่องแบบนี้จะหายออกจากชีวิตเขาไปเมื่อไหร่ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเลยสักนิดหากแต่อยู่ดีๆชีวิตกลับวนเวียนอยู่ในวังวนของเรื่องสกปรก รู้ตัวอีกทีคืออี้ชิงมีมลทิน จากนั้นทุกอย่างก็กำหนดให้เขามีเรื่องทุกข์อกทุกข์ใจไม่เลิกลา เหนื่อยแล้วกับการมีชีวิตอยู่ ขอเพียงแค่หลับตาแล้วตื่นขึ้นมาให้เจอกับโลกที่สวยงาม ขอแค่นี้พระเจ้าประทานให้คนอย่างอี้ชิงได้หรือเปล่า...
.
.
.
“ผมกลับก่อนนะครับพี่คริส พอดีมีธุระต้องไปทำต่อ”
เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงจนเสร็จภารกิจแบคฮยอนจึงเอ่ยลาแล้วขอตัวกลับ คริสเองถึงจะนึกโกรธอีกคนในตอนแรก ผิดหวังที่แบคฮยอนทำอะไรไม่คิดแต่นั่นเขากลับไม่อาจใจร้ายกับคนรักได้จริงๆ คริสจึงได้แต่ยืนนิ่งพยักหน้าไปให้แล้วเอ่ยเพียงคำพูดผะแผ่วเท่านั้น
“กลับดีๆนะครับแบคฮยอน” คริสไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่ามีอะไรกับอีกคนนานแค่ไหน ปวดหัวเล็กน้อยถึงแม้ยาจะหมดฤทธิ์ไปแล้วก็ตามที
“รักนะครับพี่คริส”
“ครับ รักเหมือนกันครับ”
เอ่ยลาคนรักคำเดิมเหมือนทุกครั้งคริสจึงปิดประตูลงแล้วยกมือขึ้นนวดขมับคลายความเครียด เดินไปใส่เสื้อผ้าก็นึกถึงเรื่องราวต่างๆที่ผ่านพบเจอมา สิ่งที่รู้สึกแปลกไปคือเขาเองยังไม่มั่นใจกับแบคฮยอนทั้งหาสาเหตุไม่ได้ รักเหมือนเดิมหรือแค่ลุ่มหลงคริสชักไม่มั่นใจ ทั้งที่เมื่อก่อนเคยมีความสุขทว่าหลายชั่วโมงที่มีอะไรกันคริสไม่ได้สุขเหมือนเมื่อก่อนเลยสักนิด
ห้วนคิดไปเรื่อยหัวสมองพลันประมวลผลได้ว่าเขากำลังหลงลืมเรื่องบางอย่าง ก่อนจะรีบร้อนใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยแล้วปรี่เข้าห้องน้ำไปดูคนที่ทิ้งไว้มานานอย่างนึกเป็นห่วง
เดินเข้าไปก็เห็นร่างเล็กนั่งคุดคู้อยู่ที่พื้นกระเบื้องกอดเข่าเข้าสู่ห้วงนิทราไปเสียแล้ว คริสถอนหายใจทั้งส่ายหน้าแต่ที่ไม่รู้ตัวคือเขากำลังลอบยิ้มที่มุมปากยามได้มองอีกคน ถึงแม้จะรู้ความผิดตัวเองอยู่เต็มอกหากแต่คริสรู้สึกว่าอี้ชิงคือคนที่ทำให้เขายิ้มได้อีกครั้ง
“อี้ชิง”
มือหนาออกแรงสะกิดไหล่บางของคนหลับหวังปลุกให้ตื่น ก่อนคนที่นั่งอยู่กับพื้นห้องก้มหน้ากอดกระเป๋าเป้ใบโปรดจะค่อยๆงัวเงียตื่นขึ้นมาขยี้ตาตัวเองรับรู้เห็นการณ์ พลันได้เจอใบหน้าหล่อของคนที่ยืนค้ำหัวอยู่อี้ชิงถึงกับผวาสุดตัวถอยหนีหวาดระแวงให้คริสต้องมองด้วยความเจ็บปวด
“ฉ...ฉันกลับบ้านได้แล้วใช่ไหม?” เสียงหวานสั่นเครือเอ่ยถามขออนุญาต นัยน์ตาคู่สวยคลอหน่อยไปด้วยหยาดน้ำสีใสอีกครั้งหลังจากหยุดมาได้ไม่นาน กลอกม่านตาลอกแลกเหมือนว่าความกลัวอยู่รอบตัวตลอดเวลา
“อี้ชิง คือฉัน....”
“ช...ช่างเถอะ! ไม่ใช่เรื่องของฉัน เอ่อ... ลู่หานกำลังรออยู่ฉันคงต้องรีบกลับ”
พูดแค่นั้นไม่สบมองคนตัวสูงอี้ชิงจึงรีบสาวเท้าเดินออกจากห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ถึงประตูบานหนาของห้องนอนก็เอื้อมมือหมุนลูกบิดหมายจะเปิดออกแล้วหนีหายจากบ้านแห่งนี้ไม่รอให้คนใจร้ายทำเขาเสียใจอีกครั้ง
หากแต่ความซวยกำลังมาเผชิญเมื่ออยู่ๆแผ่นไม้ตรงหน้ากลับเปิดสวนมาให้อี้ชิงต้องถอยกรูดหลบหลังประตูทันเวลาพอดิบพอดี ทั้งคริสเองที่เดินตามมาไม่ห่างพลันต้องหยุดชะงักเพราะอยู่ๆคนรักของเขาก็กลับมาที่ห้องอีกครั้งทำเอาหัวใจเกือบวาย
“ท...ทำไมกลับมาล่ะครับแบคฮยอน” เสียงทุ้มเอ่ยถามตะกุกตะกักมีพิรุธ ก่อนจะเหล่มองร่างเล็กที่ยืนตัวลีบหลบหลังประตูไปด้วยอย่างเป็นกังวล หัวใจเต้นเร็วขึ้นจนแทบจะหลุดออกมานอกอก ความตื่นเต้นทั้งความกลัวกำลังทำให้คริสล้มได้ทั้งยืน
“มือถือผมหาไม่เจอน่ะครับพี่คริส สงสัยว่าคงจะหล่นตอน....เอ่อ”
แบคฮยอนไม่พูดต่อหากแต่สาวเท้าเข้าไปยังโซฟาที่เพิ่งมีบทรักไม่กี่นาทีก่อนหน้า ม่านตาเฉี่ยวคมกวาดมองตามพื้นห้องก่อนจะเห็นว่าเครื่องมือสื่อสารสีดำขลับของเจ้าตัวหล่นอยู่ให้ต้องก้มลงเก็บ
"พี่คริสเป็นอะไรครับ ทำไมทำตัวแปลกๆ?"
"ครับ? พี่เปล่า เอ่อ...พี่ไม่เป็นอะไร?
คริสส่ายหน้าปฏิเสธลุกลนพลางมองตามร่างของคนรักแทบยืนไม่ติดที่ กระสับกระส่ายเหงื่อออกพลั่กเต็มใบหน้าหล่อไปหมด พยายามเบี่ยงตัวบังคนหลังบานประตูด้วยความร้อนรุ่มเพราะหากแบคฮยอนเห็นนั่นคืออี้ชิงจะอยู่ไม่เป็นสุข
“เจอไหมครับแบคฮยอน?”
“เจอแล้วครับพี่คริส ผมนี่ไม่ไหวเลยจริงๆไม่รอบคอบเอาซะเลย ขอโทษที่รบกวนนะครับ พี่คริสพักผ่อนเถอะผมจะกลับจริงๆแล้ว…อ้อ! แล้วผมต้องขอบคุณพี่คริสอีกครั้งนะครับที่ช่วยจัดการลู่หานให้ผม”
พูดเสร็จแบคฮยอนจึงเดินเข้าประชิดตัวร่างสูง เขย่งปลายเท้าขึ้นก่อนจะกดจูบที่เรียวปากได้รูปของคนรักแล้วยิ้มร่าเดินออกจากห้องไป
คริสปิดประตูลงอีกครั้งทั้งร่างกายกำลังไร้เรี่ยวแรง ทุกอย่างมืดมนต์หมดหาทางเพราะคนที่อยู่ในห้องนี้ด้วยอีกคนคงได้ยินประโยคที่แบคฮยอนพูดชัดเจนดีแล้ว
ใบหน้าหล่อค่อยๆหันมองคนที่ยืนพิงกำแพงตัวแข็งทื่อเมื่อประโยคเมื่อครู่กำลังทำให้คนตัวเล็กได้ขบคิด อี้ชิงยืนก้มหน้านิ่งไม่ไหวติงพร้อมกับความเงียบที่เข้าครอบงำให้อึดอัด ก่อนจะทิ้งตัวนั่งทรุดลงกับพื้นแล้วยกมือปิดหน้าตัวเองร้องไห้โฮไม่อายสายตาคมที่จ้องมอง
“อี้ชิง...”
“ฮึก...เรื่องลู่หานมันหมายความว่ายังไง? ทำไมแบคฮยอนต้องพูดออกมาแบบนั้น ฮือ...” เสียงหวานสั่นเครือบ่งบอกว่าหัวใจแตกสลาย ร้องไห้สะอึกสะอื้นตัวโยนเพราะเรื่องที่ได้พบเจอมันยากจะเข้าใจทั้งยังสาหัสมากขึ้นเรื่อยๆ
“นาย...รู้จักแบคฮยอน?” คริสเอ่ยถามด้วยความตกใจ เห็นอี้ชิงพูดชื่อคนรักพลันให้หัวใจหล่นวูบไปอยู่ที่พื้นในทันที
“ฮึก...ยิ่งกว่ารู้จัก ฉันคิดว่า ฮึก...ตอนนี้ฉันรู้จักแบคฮยอนดีกว่านายซะอีก”
อี้ชิงรู้จักเพราะรุ่นน้องผู้มีเอกลักษณ์คนนั้นคือเพื่อนของลู่หาน เคยสนิทชิดเชื้อเขาเองจึงรักแบคฮยอนไม่ต่างกัน แต่ทำไมเรื่องทุกอย่างถึงไม่เคยไปได้สวย สู้ดีกว่าเป็นคนหูหนวกตาบอดไม่ต้องรับรู้สิ่งใดเลยอี้ชิงจะรู้สึกดีเสียกว่า
“…….” คริสเอาแต่ยืนนิ่งเมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าแทบจะตายทั้งเป็น เขาไม่ได้ตั้งใจแต่เพราะความสะเพร่าทุกอย่างมันถึงเลวร้ายผิดลู่ผิดทางไปหมด
“พูดมันคริส พูดมันให้ฉันรับรู้ ฮึก... ทำไมแบคฮยอนถึงพูดกับนายแบบนั้น ฮือ...”
แข็งใจเอ่ยถามอีกครั้งเพราะอี้ชิงอยากมั่นใจว่าแบคฮยอนเป็นคนยังไง ถึงจะกลัวคำตอบที่ได้แต่เขาเองก็ได้รู้แล้วว่าธาตุแท้ของรุ่นน้องที่เคยสนิทไม่ได้เป็นอย่างที่เคยรู้จักกันมาก่อน ใสซื่อที่เห็นคือหลอกลวง ที่แสดงต่อกันก็แค่มายา ถึงอี้ชิงไม่อยากจะปักใจเชื่อว่าแบคฮยอนเป็นเด็กแบบนั้นแต่ภาพที่ผ่านตาอี้ชิงยังฉายชัดให้เปลี่ยนความคิดอีกไม่ได้
“ฉ...ฉันขอโทษอี้ชิง”
“นายพูดสิ! พูดมันออกมายากมากนักหรือไง? เรื่องที่นายทำ ฮึก...มันเลวร้ายกว่านี้เยอะ เรื่องแค่นี้คนอย่างนายทำไม่ได้หรือยังไงกัน ฮือ...”
เสียงหวานตะโกนใส่อีกคนอย่างเหลืออด น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไม่มีแววว่าจะหยุดให้เหือดแห้งหายไปเลยสักนิด มีแต่จะไหลออกมาซ้ำเติมโชคชะตาอันโหดร้ายให้หัวใจอ่อนแอลงไปอีก หมดแล้วซึ่งทุกอย่างของความสุขที่เคยมี
“แบคฮยอนให้ฉันไปข่มขืนลู่หาน! พอใจนายหรือฉัน ฉันเลวพอใจนายแล้วหรือยังอี้ชิง?!”
เสียงทุ้มตะโกนตอบอีกคนไปไม่ต่างกัน มือขวายกขึ้นเท้าสะเอวก่อนมืออีกข้างจะกุมเข้าที่ขมับหมดหนทางเพราะเรื่องทุกอย่างมันแดงจนอีกคนรับรู้
"ท...ทำไม?
"ฉันไม่รู้! แบคฮยอนไม่เคยบอกฉัน"
“ฮึก...เลว!”
“ฉ...ฉัน ฉันไม่ตั้งใจจะทำร้ายนาย...มันพลาด ฉันพลาดไปแล้วอี้ชิง”
พูดแค่นั้นกายสูงจึงนั่งลงพิงพนังห้องกุมศีรษะตัวเองด้วยความอ่อนล้า อี้ชิงได้ยินอีกคนสารภาพมาจึงเงียบฟังด้วยหัวใจที่เหมือนโดนกรีดซ้ำรอยเดิมให้เจ็บปวดทั้งขยาดมันเมื่อปะติดปะต่อเรื่องราวได้บ้าง ความผิดพลาดที่มาเพราะความเข้าใจผิดทำให้ชีวิตทั้งชีวิตของเขามีมลทินจนล้างออกไปไม่ได้
“นายมันเลว! ฮึก...นายทำตามที่แบคฮยอนสั่งโดยไม่รู้สึกอะไรเลยหรือไง? นายทำเรื่องทุเรศแบบนั้นลงได้ยังไงกันมีหัวใจของความเป็นคนอยู่หรือเปล่า ฮึก...”
“ฉัน...ไม่มีอะไรจะแก้ตัว เพราะ...ฉันหลงเขา คิดว่ารักเขาถึงยอมทำ”
เริ่มร้อนรนยามคำพูดทุกคำที่อัดอั้นมานานเปล่งออกไปให้คนหน้าหวานได้ประมวลผล มือหนายกขึ้นกุมหัวใจตัวเองรู้สึกได้ถึงความเป็นคนที่มีอยู่น้อยนิดอย่างอี้ชิงว่า ทำไปได้ยังไงคริสก็ไม่เข้าใจตัวเอง ความลับไม่มีในโลกเขาเข้าใจมันท่องแท้แล้วในวันนี้
“หึ! โง่! โง่สิ้นดี นายรักแบคฮยอนแต่คิดบ้างหรือเปล่าที่น้องให้นายทำเรื่องเลวๆแบบนั้นเพราะรักนายจริงๆ! คนรักกันเขาไม่ส่งเสริมให้อีกฝ่ายทำผิดหรอก! ถ้ารักนายจริงน้องคงไม่ปล่อยให้นายไปมั่วโสโครกร่วมรักกับคนอื่นหรอกจริงไหม? ฉันไม่เคยมีความรักฉันยังรู้เลย นายประสบการณ์เยอะดูก็รู้ยังให้คนโง่เรื่องความรักอย่างฉันสั่งสอนไม่ละอายใจบ้างหรือยังไงกัน?”
พูดด้วยโทสะที่โหมกระหน่ำอี้ชิงจึงหยัดกายลุกขึ้นยืนพลางปาดน้ำตาที่เปรอะเปื้อนให้แห้งเหือดไปจากใบหน้า
"แต่ก็ดี....ฮึก ดีแล้วที่เป็นฉัน ให้ฉันเจ็บแทนลู่หานมันคงจะดีกว่า!"
อี้ชิงพูดจากใจที่เรื่องทุกอย่างมันมาลงที่เขาแต่เพียงผู้เดียว ถ้าเป็นน้องชายที่เขารักคงใจสลายยิ่งกว่านี้ แต่พอได้ถึงนึกคนต้นเรื่องก็ได้แต่กัดฟันกรอดด้วยความเครียดแค้น กำมือแน่นจนเกร็งไปหมดและขอสัญญาว่าต่อไปนี้อี้ชิงจะเข้มแข็ง ก่อนจะสาวเท้าเดินไปยังประตูห้องเพื่อออกจากที่สกปรกตรงนี้ไม่ห้วนกลับ
“อี้ชิง...พรุ่งนี้นายยังจะมาหาฉันอยู่ไหม?”
เสียงทุ้มสั่นเครือเอ่ยถามแหบพร่าทำให้คนที่กำลังเดินอยู่ต้องหยุดเท้าอีกครั้ง น้ำตาร่วงแหม่ะระลอกใหม่ก่อนจะปิดปากตัวเองกลั้นเสียงสะอื้นที่กำลังเล็ดลอดออกมาพลางส่ายหน้าปฏิเสธรัวด้วยความโกรธ เป็นแบบนี้คริสยังมีหน้ามาขอกันอยู่อีกหรือ ไม่ได้สำนึกสักนิดเลยสินะ
อี้ชิงไม่คิดจะฟังเสียงเรียกชื่อของเขาที่ดังตามหลังมาไม่ห่างแม้แต่น้อย ขาเล็กรีบจ้ำอ้าวเดินลงมายังชั้นล่างของบ้านแล้ววิ่งไปโบกมือเรียกคิวแท็กซี่ที่อยู่ไม่ห่างพลันหนีจากคนใจร้ายที่กำลังวิ่งตามมาอย่างรวดเร็ว อี้ชิงกำลังไม่เข้าใจกับการกระทำของอีกคน คริสทำให้เขาสับสนทั้งยังรู้สึกแปลกจนน่าหงุดหงิด บางครั้งก็ใจดีอ่อนโยนให้คล้อยตาม แต่สุดท้ายก็ห้วนกลับมาทำให้หัวใจแหลกเหลวอยู่เหมือนเดิม
แล้วเมื่อครู่นี้ที่วิ่งตามกันมาเหมือนอยากจะยื้อทำให้อี้ชิงไม่เข้าใจการกระทำ นึกอะไรไม่ออกมืดแปดด้านไม่อยากเจ็บปวดไปมากกว่านี้จึงส่ายหน้าไล่ความคิดทุกอย่างให้ออกจากหัว ก่อนจะปาดน้ำตาตัวเองแล้วสูดลมหายใจเข้าปอดเรียกความมั่นใจและความแข็งแกร่งให้กลับมา พร้อมจะเริ่มต้นใหม่อีกครั้งแล้วลืมเรื่องเก่าไปเสียให้หมดเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นของเขาเอง
“ฉันเกลียดนาย…จะไม่มีวันลืม...”
.
.
.
กลับมาถึงที่บ้านอี้ชิงจึงรีบเข้าห้องน้ำชำระร่างกายทั้งที่ยังไม่ได้ล้มตัวลงนอนให้มีแรงเลยสักนิด เพราะเขายังอยู่ในชุดนักศึกษาตั้งแต่เมื่อคืน หน้าตาซูบเซียวไร้สีเลือดฝาดให้ได้เห็น จากเป็นคนที่ขาวซีดอยู่แล้วทว่าในตอนนี้ช่างไร้ชีวิตชีวาเหมือนไม่ใช่คนๆเดิม
ยามได้คิดถึงเรื่องแบคฮยอนอี้ชิงก็อดจะนึกสงสัยเสียไม่ได้ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องของเขาจะใส่ใจดีไหมทำเอาคิดหนัก ว่าแค่นั้นจึงส่ายหน้าไล่ความฟุ้งซ่านพร้อมจะออกไปทำป้ายเชียร์ของคณะที่ค้างไว้ตั้งแต่เมื่อวานให้เสร็จลุล่วง อย่าเอาเรื่องส่วนตัวมาทำให้การงานเสียนั่นคือสิ่งที่อี้ชิงคิดมันอยู่เสมอ
“อี้ชิง”
เสียงเรียกจากคนที่เดินเข้ามาทำให้คนหน้าหวานต้องดึงสติตัวเองกลับมาอีกครั้ง หันมองผู้มาใหม่ก่อนจะเลิกคิ้วเป็นเชิงถามความต้องการ
“มีอะไรหรือเปล่าลู่หาน?”
“นายกลับมาตอนไหนอ่ะ? เมื่อวานพี่คริสโทรมาบอกว่านายไม่สบายแล้วนี่หายดีหรือยัง?”
ลู่หานยกแขนสอดประสานกันขึ้นแนบอกมองจ้องพี่ชายหน้าหวานที่ดูไร้วิญญาณด้วยความเป็นห่วง ยิ่งเป็นคนขี้โรคอยู่แล้วลู่หานรู้ดีเสมอมา
“อืม ดีขึ้นมากแล้วล่ะ นี่ก็กำลังจะออกไปทำงานให้คณะที่มหาลัย”
“ไม่เป็นอะไรมากก็ดีแล้ว ฉันแค่ถามดูเฉยๆ”
ไหวไหล่เล็กน้อยลู่หานพลันหันหลังกลับจะเดินออกจากห้อง แต่แล้วเสียงเรียกรั้งจากพี่ชายกลับดังขึ้นให้ต้องหันกลับไปสนทนากันเหมือนเดิม
“ลู่หาน ฉันมีอะไรจะถามนาย?”
“มีอะไรอีก? วุ่นวายว่ะ”
“ทำไมช่วงนี้แบคฮยอนไม่มาที่บ้านเราเลย?”
สิ้นคำถามจากอี้ชิงลู่หานก็เอาแต่เงียบท่าเดียวไม่ตอบกลับ ใบหน้าน่ารักไร้การแสดงออกอย่างชัดเจน ลู่หานกำลังคิดอะไรอยู่อี้ชิงเองก็ดูไม่ออกเหมือนกัน
“….......”
“ลู่หาน…”
“ทำไมเกิดอยากถาม?”
ลู่หานสวนกลับมองหน้าพี่ชายนิ่ง ความไม่ชอบใจกำลังก่อขึ้นในอกให้ต้องระงับมันตลอดเวลา ก่อนจะตัดสินใจเลี่ยงการตอบคำถามแล้วหมุนตัวเดินออกจากห้องนอนของพี่ชายไปไม่ไยดี
“แบคฮยอนเป็นแฟนคริส...”
ทุกการกระทำหยุดลงพร้อมทั้งลู่หานที่ค่อยๆหันกลับมาเป็นรอบที่สอง เขาไม่เข้าใจกับสิ่งที่พี่ชายพูด พยายามย้ำถามอี้ชิงว่าสิ่งที่พูดออกมามันใช่เรื่องจริงหรือ ก่อนจะเห็นว่าใบหน้าหวานพยักขึ้นลงเป็นคำตอบย้ำให้อีกรอบว่าที่พูดนั้นคือความจริงไม่โกหก
“จะเป็นไปได้ยังไง? ในเมื่อ...แบคฮยอนมีแฟนแล้ว ส่วนนายไม่ได้เป็นแฟนกับพี่คริสหรอกเหรออี้ชิง?”
“ฉันไม่เคยบอกสักคำว่าฉันเป็นอะไรกับคริส มีแต่นายที่เข้าใจไปเอง ฉันเกลียดเขารู้ไว้แค่นั้นก็พอแล้ว”
ลู่หานนิ่งฟังพี่ชายเงียบไม่โต้ตอบ ในสมองของเขากำลังประมวลคำพูดของอีกคนอย่างตั้งใจ แต่สุดท้ายก็ยังเป็นลู่หานคนเดิมคือทำเหมือนไม่สนใจให้เก็บเรื่องไร้สาระเอามาคิด
“…......”
“ถ้านายไม่พร้อมจะเล่าเรื่องของแบคฮยอนก็ไม่เป็นไร แต่ฉันมีอีกเรื่องที่จะบอกนาย... ถ้าฉันจะย้ายไปอยู่หอพักนายอยู่บ้านคนเดียวได้หรือเปล่าลู่หาน?”
“ทำไม? เรื่องพี่คริสใช่ไหม?”
ลู่หานสวนเอ่ยถามทันทีแปลกใจไม่น้อย ทั้งที่ควรจะดีใจเสียด้วยซ้ำเพราะเวลาเที่ยวกลางคืนจะได้ไม่ต้องมีใครคอยตามบ่นตามว่า หากแต่ครั้งนี้ลู่หานกลับไม่ได้รู้สึกยินดีเลยสักนิด
“เปล่าหรอก ฉันแค่คิดว่ามันใกล้มหาลัยมากกว่าบ้านเรา บางครั้งทำงานให้คณะดึกกลับมาบ้านทีก็ค่ำแล้วมีเวลาพักผ่อนน้อย ฉันเหนื่อยเลยอยากมีเวลาได้พักเต็มที่บ้าง”
แก้ตัวเฉไฉตอบน้องชายไปอี้ชิงจึงสะพายเป้ใส่หลังเตรียมตัวไปทำงาน ไม่สบตากับอีกคนเพราะรู้ดีว่าคนตรงหน้ากำลังจับผิดเขาอยู่รู้ได้ไม่ยาก
“ตามใจนายก็แล้วกัน ไม่ต้องห่วงฉันเพราะฉันดูแลตัวเองได้ ว่าแต่จะย้ายไปเมื่อไหร่?”
“ฉันว่าจะลองถามเซฮุนดูก่อนว่าหอพักของพ่อเขามีห้องว่างหรือเปล่า เป็นไปได้ฉันจะย้ายไปเย็นวันนี้เลย”
“อืม นายก็ดูแลตัวเองด้วยแล้วกัน หายเหนื่อยเมื่อไหร่กลับมาบ้านเรานะ ที่นี่มันอบอุ่นสำหรับนายฉันรู้ดี”
ลู่หานเข้าใจพี่ชายถึงไม่ได้ขัด หัวเร็วเลยรู้ว่าเรื่องที่อี้ชิงพบเจอมันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยจนมองข้ามไปได้ รู้ว่าระหว่างคริสกับพี่ชายหน้าหวานคงมีเรื่องวุ่นวายใจต่อกัน ให้อี้ชิงหนีไปพักบ้างได้ผ่อนคลายสมองและร่างกายคงจะดีไม่น้อย รู้ๆกันอยู่ว่าอี้ชิงน่ะด้อยประสบการณ์อยู่หลายอย่าง เขาพร้อมจะให้เวลาว่าสักวันพี่ชายจะผ่านมันไปได้ด้วยดี เห็นอีกคนหวาดระแวงตลอดเวลาลู่หานเป็นห่วงเป็นกังวล เรื่องที่เจอคงร้ายแรงสาหัสยากจะฟื้นฟูสภาพจิตใจ แต่นั่นอี้ชิงเป็นคนเก่งลู่หานเชื่อมาตลอด ถึงเขาเองไม่ได้เป็นเด็กดีเชื่อฟังแต่นั่นก็รักพี่ชายคนนี้เสมอมา ไม่ได้เอ่ยปากทว่าหัวใจกลับมอบให้อีกคนอย่างจริงใจ เพราะอี้ชิงคือพี่ชายที่ดีและความรักที่ได้รับมานั้นลู่หานไม่เคยลืมมัน
แต่สิ่งที่เขาเองไม่สามารถบอกอี้ชิงได้ในตอนนี้คงเป็นเรื่องของแบคฮยอนที่เคยมีอดีตฝังใจต่อกัน เรื่องทุกอย่างขึ้นอยู่กับเวลาลู่หานเชื่อแบบนั้น ขอให้แน่ใจพิสูจน์บางอย่างแล้วเขาเองสัญญาว่าจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้อี้ชิงฟังไม่ปิดบังแม้แต่คำพูดเดียว...
…ERROR…
*** จริงๆแต่งเสร็จสองสามวันแล้วแต่ไม่มีเวลาลงเวริ์ด
เวลาเขาน้อยอย่าว่ากันเน้อ ^^
ความคิดเห็น