คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #28 : ll THE WIZARD ll SPECIAL KRIS X LAY [นอกรอบ] - - TIME
*** อ่านก่อนค่ะ
ตอนนี้ต่อจากสเปเชี่ยวในเล่มค่ะ คนที่ยังไม่อ่านอาจจะยังไม่รู้ เรื่องย่อมีอยู่ว่าพี่คริสและดีโอ
ได้ตำแหน่งนักเรียนดีเด่นทั้งคริสเลย์เองก็ได้เคลียร์กับคริสตัลเข้าใจแล้ว
เซฮุนนั้นก็เที่ยวแวะปราสาทยูนิคอร์นทุกวันเพื่อตามจีบลู่หานตากวาง
โดยมีเพื่อนสนิทอย่างซูโฮที่ค่อยกบฏช่วยเหลือเซฮุนนอกรอบอยู่ตลอด
ทำเอาสุดท้ายก็ลงเอยกันอย่างราบรื่น ถึงแม้เซฮุนจะต้องเหนื่อยเฝ้าหาที่ปราสาทอยู่ทุกวี่ทุกวัน
เพื่อให้ลู่หานเห็นความตั้งใจและความพยายาม ก็ลู่หานที่ว่าใสๆ เรียบร้อยอ่อนหวานก็ไม่ง่าย
อย่างที่คิดนะคะ และเรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นพาร์ทที่ต่อจากในเล่มของคริสเลย์
อย่างว่าล่ะนะความรักของคนเรามันไม่ราบรื่นเหมือนกลีบกุหลาบที่โปรยไปตามทาง
จึงมีเรื่องให้ปวดหัวกันได้ตลอดเวลา...
*SPECIAL*
-TIME-
คลาสแรกในตอนเช้าที่อากาศสดใส ทุกอย่างดูผ่อนคลายและแสนสบายสำหรับนักเรียนเดอะวิซาร์ดทุกคน หากแต่คนหน้าหวานที่นั่งอยู่ในห้องเรียนกลับเอาแต่เบื่อหน่ายโลกไม่ได้รู้สึกอย่างนั้นด้วยเลยสักนิด
ความเงียบเข้าปกคลุมตั้งแต่ร่างสูงของใครบางคนเดินเข้ามาในห้องเรียนแล้วหย่อนกายนั่งลงข้างกัน
ใบหน้าหล่อหันสบมองเสี้ยวหน้าหวานที่งองุ้มของคนรัก กำลังจะเอ่ยปากถามว่าเจ้าตัวเล็กเป็นอะไร แต่นั่นอีกคนก็ทำท่าไม่พอใจทั้งยังรีบเบือนหน้าหนีไปอีกทางอย่างไม่ไยดี
“เลย์ นายโกรธอะไรฉัน?”
คริสเพิ่งกลับมาจากสภานักเรียน และเป็นที่รู้กันว่าที่นั่นคือสถานที่สำหรับนักเรียนดีเด่นที่ต้องมีภารกิจหน้าที่หนักกว่าคนอื่น
“ไม่ได้โกรธ!”
ตอบเพียงประโยคสั้นห้วนแค่นั้นก็ก้มหน้าก้มตาหยิบตำราเรียนขึ้นมาวางบนโต๊ะ ตวัดปลายนิ้วให้หน้ากระดาษเปิดออกก่อนจะนั่งเท้าคางรอศาสตราจารย์ผู้เป็นเจ้าของวิชาเข้ามาบรรยาย
ตลอดทั้งคาบเรียนเลย์และคริสไม่มีแม้แต่บทสนทนากันเลยสักคำ ต่างคนต่างทำว่าสนใจตำราเรียนเล่มหนาเสียเหลือเกิน แต่นั่นจะรู้อะไรว่าหัวใจทั้งสองดวงก็หาได้มีสมาธิในการจดจ่อเนื้อหากันอยู่เลย
หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาคริสเคยพยายามหลายครั้งหลายคราที่จะคุยกับเลย์ให้รู้เรื่องว่าทำไมคนตัวเล็กถึงนึกงอนเขาแล้วยังหลบหน้ากันอยู่ตลอด แต่ทุกครั้งที่เขาออกจากสภานักเรียนแล้วกลับไปที่หอพักเลย์ก็หลับไปก่อนแล้ว เพราะแบบนี้ไงเรื่องมันถึงได้บานปลายและยืดเยื้อร่วมอาทิตย์กว่าเพราะไม่มีเวลาพูดคุยทำความเข้าใจกัน
“เห้ย! คริสเลย์ ไม่ไปทานข้าวด้วยกันหรอ?”
ไคเอ่ยถามเพื่อนทั้งสองเมื่อเห็นว่าออกมาจากคลาสหลังเลิกเรียน แต่นั่นก็ทำได้แค่เอ่ยถามแถมยังไม่ได้รับคำตอบจากอีกฝ่ายด้วยอีก เล่นเอาทั้งไคและดีโอได้แต่มองหน้ากันพลางกะพริบตาปริบอย่างไม่เข้าใจ
“เลย์! หยุดก่อน”
มือหนาคว้าเข้าที่ข้อมือเล็กของคนรักพลางรั้งเบาๆให้หยุดคุยกันดีๆ แต่อีกคนที่เอาแต่หนีก็ไม่คิดจะยอม รีบดึงมือกลับทั้งยังเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นไปอีก
“………….”
“เลย์! มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน ฉันทำอะไรผิดหรอนายถึงไม่สนใจฉันแบบนี้?”
คริสรั้งร่างเล็กไว้ทันทีก่อนจะสวมกอดจากทางด้านหลังไว้แน่น ซุกใบหน้าหล่อเหลาเข้ากับซอกคอขาวเพื่อรอคำตอบจากอีกคนด้วยความเป็นกังวล
ในตอนนี้ทุกอย่างมันแน่นิ่งไม่ไหวติงเมื่อเลย์ไม่คิดจะโต้ตอบ ไม่รู้ว่าเดินหนีอีกคนมาไกลแค่ไหน แต่ดีว่าที่นี่มันเป็นคูน้ำข้างโรงเรียนที่เงียบสงบไร้ซึ่งผู้คน
“ไม่รู้จริงๆน่ะหรอ?” เสียงหวานเอ่ยถามย้อนกลับ และนั่นคริสที่ได้รับฟังก็ถึงกับใจไม่ดี
“ฉันขอโทษถ้าทำให้นายโกรธ แต่ฉันไม่รู้จริงๆนะเลย์ นายต้องบอกฉันว่ามันเกิดอะไรขึ้น ฉันทรมานนายรู้ไหม?”
“เพราะนายไม่คิดจะสนใจยังไงล่ะ ถึงไม่รู้ว่าฉันเป็นแบบนี้เพราะอะไร?”
“ฉันขอโทษ”
“ช่างมันเถอะ! ฉันเบื่อนายแล้ว”
พูดแค่นั้นมือบางก็จัดการแกะอ้อมกอดแข็งแกร่งที่ตอนนี้มันไร้เรี่ยวแรงให้ออกไปห่าง เดินหนีอีกคนไปนั่งที่โต๊ะไม้หินอ่อนใต้ร่มไม้ก็เอาแต่เหม่อมองพื้นน้ำตรงหน้าอยู่เงียบๆ
“เลย์ อย่าทำแบบนี้ นายก็รู้ว่าฉันทนไม่ได้”
เมื่อได้ฟังสิ่งที่อีกคนพูดคริสก็แทบจะล้มทั้งยืน คำว่าเบื่องั้นหรอ เลย์พูดว่าเบื่อเขาแล้ว นั่นก็ทำให้คริสร้อนรุ่มในกายจนไม่อาจอยู่เฉยได้
กายสูงเดินเข้าไปหาคนตัวเล็กที่นั่งตีสีหน้าเรียบเฉยผิดไปจากนิสัยของเจ้าตัว ค่อยๆหย่อนกายนั่งลงแล้วส่งอ้อมแขนเข้าไปสวมกอดรอบเอวเล็กทั้งที่อีกคนนั่งหันหลังให้อยู่ กดปลายจมูกโด่งลงที่ลาดไหล่บางก่อนจะกระชับอ้อมกอดให้แนบแน่นเพราะกลัวว่าคนตรงหน้านี้จะหายไป
“เบื่อฉันได้ แต่ห้ามทิ้งฉันเด็ดขาดนะ” คริสเอ่ยพูดอีกครั้งด้วยเสียงที่แผ่วเบาไปจากเดิม หัวใจมันอ่อนล้าเมื่อคำพูดของคนรักช่างบั่นทอนกำลังใจให้ลดลง
“ไม่ไปสภานักเรียนหรอ เห็นไปทุกวันเลยหนิ?” เอ่ยถามทว่าใบหน้าหวานก็ไม่คิดจะหันไปสบมองแม้แต่ชายตา
“ฉันต้องไปแน่นอน แต่ถ้าแฟนยังโกรธอยู่แบบนี้ฉันไม่มีจิตใจจะทำงานหรอกนะ”
“ก็บอกไปแล้วว่าไม่ได้โกรธ อยากไปก็ไปเลยดิ”
“’นี่ไม่พอใจฉันเรื่องนี้ใช่ไหม หื้ม?”
คริสเหมือนจะเริ่มรู้แล้วว่าที่เลย์เป็นแบบนี้เพราะอะไร พูดแค่นั้นก็กดปลายจมูกโด่งลงคลอเคลียที่ข้างแก้มใส สูดดมกลิ่มหอมอ่อนๆประจำกายเล็กเข้าไปก็เกยคางแหลมลงบนลาดไหล่บางพลางจ้องมองเสี้ยวหน้าหวานด้านข้างของอีกคนอยู่แบบนั้น
“…………………”
“มันเป็นหน้าที่นะเลย์ ฉันขอโทษที่ไม่มีเวลาให้นาย อีกแค่อาทิตย์เดียวทุกอย่างก็จะเรียบร้อยแล้ว”
“แต่นายไม่เคยเหลียวแลฉันเลย” ใบหน้าหวานเฉยเมินยิ่งกว่าเมื่อคู่เสียอีก เห็นดังนั้นหัวใจของคริสก็แทบจะหยุดเต้นมันซะดื้อๆ
“ฉัน...ฉันขอโทษ ขอแค่อาทิตย์เดียวเท่านั้น แล้วฉันจะคืนเวลาที่หายไปทั้งหมดให้กับนาย ฉันรักนายจริงๆนะ แต่นั่นมันก็หน้าที่ เข้าใจฉันหน่อยนะเลย์”
“ดีโอก็เป็นนักเรียนดีเด่นเหมือนนาย แต่ไคไม่เคยมาบ่นให้ฉันฟังว่าดีโอไม่เคยมีเวลาให้ ถ้านายจะมีเวลาให้ฉันบ้างมันก็ย่อมทำได้ แต่นายไม่คิดจะทำ!”
พูดเสร็จเลย์ก็ลุกขึ้นยืนทำท่าจะเดินหนีคริสไปอีก แต่นั่นแขนแกร่งที่โอบกอดรอบเอวอยู่ทำให้ไม่สามารถเดินห่างไปไหนได้ สุดท้ายก็ต้องทิ้งกายนั่งลงที่เดิมอีกครั้งพลางถอนหายใจเสียเฮือกใหญ่เมื่ออีกคนไม่คิดจะปล่อยกันไปง่ายๆ
“นายไม่เข้าใจฉัน”
คริสเอ่ยตัดพ้อออกไปอย่างลืมตัว เขาอยากจะใช้เวลาอยู่กับเลย์ให้มากเหมือนกัน แต่สำหรับนักเรียนดีเด่นแล้ว การทำงานให้เดอะวิซาร์ดถือเป็นเรื่องสำคัญไม่เป็นรองเรื่องอื่น
“ใช่สิ! ฉันมันไม่เคยเข้าใจอะไรนายเลยสักอย่าง แค่อยากจะอยู่กับแฟนบ้างฉันก็ทำตัวงี่เง่าแบบนี้แหละ ไม่ชอบก็เลิกกันเลยดิ ถ้าทนฉันไม่ได้ก็เลิกกันเลย!”
เลย์ไม่ได้รู้ตัวเลยสักนิดว่าสิ่งที่พูดออกไปมันกระทบกระเทือนจิตใจคริสมากแค่ไหน แต่นั่นเขาเองก็ไม่ต่างกัน เลย์อึดอัดทั้งยังไม่พอใจที่อีกคนเห็นเขาสำคัญน้อยกว่าสิ่งอื่น
“ไม่เอาน่ะเลย์ ห้ามพูดว่าเลิกกันอีกเข้าใจไหม? ฉันขอโทษ”
คริสกระชับอ้อมกอดให้แน่น ร่างกายนุ่มนิ่มของเลย์บวกกับกลิ่นหอมเตะจมูกมันทำให้เขาไม่อยากจะปล่อยอีกคนให้หลุดออกจากอกอุ่นเลยสักนิด แล้วนั่นคำพูดแบบนั้นอีก เลย์ต้องการให้คริสใจสลายเลยใช่ไหม
มือหนาค่อยๆยกขึ้นทาบบนเรียวหน้าสวยของอีกคน ออกแรงรั้งเบาๆให้หันมาสบตากัน แต่นั่นนัยน์ตากลมคู่สวยกลับไม่ได้มองสบกับเขาอยู่เหมือนเคย
“ขอโทษอีกครั้งนะ”
พูดแค่นั้นคริสก็ยิ้มบางๆให้กับคนรัก โน้มใบหน้าหล่อเข้าไปใกล้เรื่อยๆ ทำเอาคนถูกจู่โจมโดยไม่ทันระวังตัวถึงกับนิ่งอึ้งไป จัดการเชยคางมนขึ้นเล็กน้อย เหลือบมองริมฝีปากสวยอวบอิ่มแล้วส่งใบหน้าหล่อเข้าไปใกล้อีกจนรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นที่ปล่อยผ่านให้ซึ่งกันและกัน ก่อนจะปิดท้ายด้วยการทำอย่างที่ใจต้องการ…
ติ๊งต่อง ~
ขอให้นักเรียนดีเด่นทุกชั้นปีและทุกปราสาท มาพร้อมกันที่สภานักเรียนในเวลานี้ด้วยครับ ย้ำครับว่าด่วน --
เสียงทุ้มคุ้นหูของประธานปราสาทดราก้อนคนใหม่เอ่ยผ่านมาตามสายทำให้คริสต้องหยุดการกระทำไปในทันที แล้วดูท่าว่าในตอนแรกเลย์จะยอมเขาแล้วเสียด้วยซ้ำ มันกำลังจะไปได้ดีหากแต่ก็พังไม่เป็นท่าเมื่อไอ้พี่ชายตัวดีไม่มาขัดจังหวะเข้าจังๆก็มาเป็นเสียงตามสายซะงั้น คริสอยากจะเตะมันซะให้หลังหัก
แต่นั่นชางมินก็ไม่ได้รู้เรื่องด้วยเลยสักนิด เขาเป็นประธานปราสาทดราก้อนทั้งยังพ่วงตำแหน่งประธานโรงเรียนอีกด้วย ก็แค่ทำตามหน้าที่และตรงต่อเวลา แต่มันดันไม่ถูกเวล่ำเวลาสำหรับคริสเสียหนิ
“เอ่อ...ขอโทษนะเลย์ คือฉันต้องไปแล้ว”
สิ้นเสียงทุ้มเลย์ก็ผละกายออกจากอ้อมกอดแกร่งพลันเบี่ยงตัวหนีไปอีกทาง ใบหน้าหวานงองุ้มเมื่อสุดท้ายคริสก็ไม่เคยมีเวลาให้เขาเหมือนเดิม
“เออ จะไปไหนก็ไปเลย! ไปแล้วไม่ต้องกลับมาให้เห็นหน้าอีกนะ ฉันเบื่อนายแล้ว เบื่อๆๆๆ”
ตะโกนใส่อีกคนเสร็จเลย์ก็รีบลุกขึ้นแล้วจ้ำอ้าวเดินหนีคริสอย่างรวดเร็ว ร้อนถึงคนที่ทำให้คนตัวเล็กของขึ้นต้องนิ่งอึ้งไปอีกครั้ง
มือหนายกขึ้นขยี้เรือนผมสีบลอนด์ของตัวเองอย่างหงุดหงิด มองตามร่างเล็กของคนรักไปก็หัวใจห่อเหี่ยวไร้ชีวิตชีวา ก่อนจะพรูลมหายใจออกจากปากแล้วส่ายหน้าไปมาเมื่อสุดท้ายเลย์ก็ไม่คิดจะเข้าใจกัน
...THE WIZARD…
ในคาบบ่ายนักเรียนปีสองของดราก้อนไม่มีคลาสต้องเข้าอีกแล้ว เลย์ไม่รู้จะไปที่ไหนจึงคิดว่าจะไปแอบนอนเล่นที่หอยูนิคอร์นสักพัก แค่เดินเข้าไปก็เป็นเป้าสายตาของนักเรียนเจ้าของปราสาท แต่นั่นจะเรียกว่าชินก็ไม่แปลก เพราะตั้งแต่เปิดเทอมขึ้นปีสองเขาก็ย่างกายเข้ามาที่ปราสาทแห่งนี้จนนับครั้งไม่ถ้วน
“สวัสดีครับรุ่นพี่” เสียงเจื้อยแจ้วของรุ่นน้องตัวขาวดั่งแสงนีออนเอ่ยทักทาย เลย์จึงรีบโบกมือทักทายอีกคนกลับพร้อมเดินตรงดิ่งเข้าไปหา
“สวัสดีซูโฮ”
“รุ่นพี่มาหาลู่หานหรอครับ?”
“อื้ม ว่าจะมานอนเล่นด้วยสักสองสามชั่วโมง เบื่อๆน่ะ” เอ่ยตอบรุ่นน้องต่างปราสาทไปใบหน้าหวานก็ติดจะเศร้าเล็กน้อยจนซูโฮสามารถเดาได้ไม่ยากว่าที่รุ่นพี่หน้าหวานเป็นแบบนี้เพราะอะไร
“ยังไม่ดีกับพี่คริสหรอครับ? นี่ก็เข้าอาทิตย์ที่สองแล้วนะ”
“ช่างเถอะ! อย่าไปพูดถึงรายนั้นเลย แล้วนี่นายจะไปไหนอ่ะซูโฮ?”
เลย์เอ่ยตอบปัดเมื่อรุ่นน้องผิวขาวเอ่ยถึงใครอีกคนที่ทำให้เขาน้อยใจ ก่อนจะเปลี่ยนบทสนทนาเป็นเรื่องอื่นแทนเมื่อเห็นซูโฮหอบหนังสือเต็มไม้เต็มมือไปหมด
“ผมว่าจะไปห้องสมุดหน่อยน่ะครับรุ่นพี่ ชวนลู่หานแล้วแต่รายนั้นไม่ไปผมก็เลยไม่อยากบังคับ”
“อ้อ แล้วเจอกันนะ ถ้างั้นฉันไปหาลู่หานก่อน”
“ครับรุ่นพี่”
ซูโฮส่งยิ้มหวานจนตาหยีฉบับเจ้าตัวไปให้เลย์พลันเดินออกจากหอพักยูนิคอร์นไปทันที ก่อนเลย์จะเดินขึ้นไปบนหอพักเพื่อหารุ่นน้องอีกคนที่อยากจะพบเจอ
คนหน้าหวานเข้าออกหอพักของปราสาทยูนิคอร์นอย่างอภิสิทธิ์ ถึงแม้จะถูกจ้องมองแต่นั่นเขาก็เป็นคนของสองปราสาทเลยไม่มีใครกล้าว่าอะไร ทั้งยูฮวานที่เป็นประธานปราสาทเองก็ให้สิทธิ์กับเลย์เหนือกว่าคนอื่นๆ อย่างว่าล่ะนะมีพี่ที่สนิทมันก็ดีแบบนี้
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!
มือเล็กยกขึ้นเคาะประตูบานหน้าอยู่สองสามครั้งคนในห้องก็ออกมาเปิดให้อย่างรวดเร็ว ใบหน้าน่ารักของรุ่นน้องยูนิคอร์นทำให้เลย์ยกยิ้มออกมาได้ไม่ยาก แค่เห็นหน้าลู่หานก็ทำให้เขาอารมณ์ดีได้อย่างน่าแปลก แต่นั่นเลย์คงจะมาผิดเวลาไปหน่อย เพราะลู่หานไม่ได้อยู่คนเดียวหากแต่อยู่กับคนรักของเขาน่ะสิ
“อยู่กับเซฮุนหรอ งั้นฉันไม่รบกวนนายดีกว่า”
“ไม่เป็นไรหรอกครับรุ่นพี่ เดี๋ยวผมจะไปเรียนคาบบ่ายแล้ว”
ไม่ทันจะได้หันหลังกลับรุ่นน้องฟีนิกซ์ก็เอ่ยขัดขึ้นมาเหมือนรู้ทันว่าเลย์คงจะมีเรื่องไม่สบายใจ ก่อนเจ้าของร่างสูงโปร่งจะโค้งลาให้กับรุ่นพี่หน้าหวาน ยกยิ้มให้อย่างเป็นกันเองแล้วเดินออกจากห้องของลู่หานไป
“เข้ามาสิครับรุ่นพี่” ลู่หานเอ่ยชวนพร้อมทั้งรอยยิ้มสดใส ทำให้เลย์รู้ได้ในทันทีว่าที่เซฮุนติดลู่หานแจแบบนี้นั่นเพราะอะไร
“เซฮุนมาหานายบ่อยจังเลยนะช่วงนี้” เอ่ยแซวไปก็ยกยิ้มกรุ้มกริ่ม ทำเอารุ่นน้องอีกคนต้องก้มหน้างุดมองมือตัวเองอย่างเขินอาย
“ก็ไม่บ่อยนะครับ แค่ว่างก็มา” ขนาดไม่บ่อยนะ เลย์มาหาลู่หานเมื่อไหร่ก็เจอเซฮุนอยู่ด้วยตลอด เคยได้ยินมาด้วยว่ารายนั้นคิดจะทำเรื่องขอย้ายปราสาทกันเลยทีเดียว
“………………”
“ว่าแต่ได้คุยกับพี่คริสบ้างหรือยังครับ?” เมื่อเห็นว่ารุ่นพี่เข้ามานั่งภายในห้องแล้วลู่หานก็เอ่ยถามทันที รู้ว่าเลย์เป็นอะไรและรู้ว่าเป็นเพราะใคร
“ก็นิดหน่อยอ่ะ”
“พี่เขาคงจะไม่ว่างจริงๆนะครับรุ่นพี่ นักเรียนดีเด่นก็เป็นธรรมดาที่ภาระหน้าที่ต้องเยอะกว่าคนอื่น”
“ฉันก็เข้าใจนะลู่หาน แต่....ช่างเถอะ! ฉันขอนอนก่อนนะ นายจะออกไปเรียนคลาสตอนค่ำก็ปลุกฉันด้วยแล้วกัน”
“ครับ”
เมื่อเลย์ไม่คิดจะบอกลู่หานเองก็ไม่อยากจะซักไซร้ให้มากความ ปล่อยให้รุ่นพี่ทำตามใจครองเตียงนอนของเขาโดยที่เขานั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะข้างๆแทน ส่ายหน้าเล็กน้อยพลางอมยิ้มให้กับรุ่นพี่หน้าหวานที่ทำตัวเหมือนเด็ก แต่นั่นลู่หานก็คิดว่านี่แหละเป็นเอกลักษณ์ของเลย์ที่ทำให้รุ่นพี่ตัวสูงอย่างคริสทั้งหึงทั้งหวงไม่วายยังรักจนหัวปักหัวปำ
...THE WIZARD…
“เหม่ออะไร? ทำงานๆ”
เสียงทุ้มของพี่ชายในสายเลือดที่เอ่ยพูดพลางผลักหัวทุยจนโอนเอนไปตามแรงทำให้คริสต้องหันขวับไปจ้องเขม่นนิ่ง แต่นั่นไอ้คนที่ลอบทำร้ายเขากลับทำหน้ายียวนไม่รู้ร้อนรู้หนาว
“ไม่ทำแล้วได้ไหม เบื่อ!”
“อ่าว คิดจะทำงานครึ่งๆกลางๆหรือไง? แล้วนี่นายเป็นอะไรวะ ตั้งแต่มาถึงสภานักเรียนก็ดูเหม่อลอยแปลกๆ”
ทุกกิริยาบทของคริสไม่พ้นสายตาเยี่ยงเยี่ยวของชางมินไปได้เหมือนเคย เพียงแค่น้องชายคนนี้มีบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนไปชางมินก็รู้ได้ในทันที
“ไม่อยากเป็นแล้วไอ้นักเรียนดีเด่นเนี่ย!” พูดแค่นั้นคริสก็วางปากกาลงที่โต๊ะอย่างเบื่อหน่าย ทำเอาดีโอที่นั่งเขียนเอกสารอยู่ข้างๆต้องหันมามองความความเป็นห่วง
“ทะเลาะกับเลย์อ่ะดิ”
“แล้วจะมีเรื่องอะไรที่ทำให้ฉันเครียดได้บ้างล่ะ ถามหน่อยเวลานายมาทำอะไรแบบนี้พี่ยูฮวานว่าไงบ้างอ่ะแม็ก?” คริสเอ่ยถามคนแก่ปีกว่าด้วยความอยากรู้ แน่นอนว่าชางมินประสบการณ์เยอะ ผ่านอะไรมาก่อนเขาย่อมให้คำตอบที่ดีได้แน่นอน
“ก็ไม่ทำอะไรหนิ ยูฮวานเข้าใจ”
“แต่เลย์ไม่เข้าใจฉัน”
“แล้วทำไมนายไม่อธิบายให้มันฟังล่ะวะ”
“อธิบายแล้วแต่ไม่ได้ผล”
คริสถึงกับถอนหายใจออกมาเต็มแรงเมื่อได้นึกถึงคำพูดของเลย์ที่ตะโกนใส่เขาเมื่อตอนกลางวัน เจอแบบนี้ใครหน้าไหนมันจะมีกะจิตกะใจทำงานวะ คริสเป็นคนแยกแยะได้ว่าเขาต้องทำอย่างไรเมื่อเจอภาวะการณ์แบบนี้ แต่ถ้าเป็นเรื่องของเลย์แล้วละก็ ต่อให้พยายามแยกแยะแค่ไหนยังไงคริสก็ดูเป็นคนโง่อยู่ดี
“เออน่า เลย์มันโกรธนายได้ไม่นานหรอก ตอนนี้ทำงานให้เสร็จก่อนเถอะ” ชางมินพยายามพูดให้คริสรู้สึกดี แต่ดูเหมือนว่าไอ้น้องชายหน้าหล่อไม่คิดจะสนใจเขาเหมือนเคย
“……………”
“รีบๆทำงาน เดี๋ยวฉันช่วยนายเองเรื่องเลย์น่ะ” ในที่สุดชางมินก็ต้องหาข้อเสนอดีๆเพื่อให้น้องชายหัวดื้อของเขาลงมือเขียนเอกสารบนโต๊ะให้เสร็จไป แต่ดูท่าว่าอีกคนจะไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ ไม่วายยังหรี่ตามองจับผิดเขาอีก
“ล้อเล่นเจอเตะนะ”
“เออ พูดจริงดิวะ แล้วมีครั้งไหนไหมที่พวกนายทะเลาะกันแล้วไม่มีฉันเข้าไปร่วม ถึงจะไม่อยากร่วมด้วยก็เถอะ เรื่องของฉันก็ไม่ใช่…ไปๆ ลงมือทำงานได้แล้ว เดี๋ยวศาสตราจารย์แอนดี้จะมาดู”
พูดเสร็จก็ผลักหัวน้องชายหน้าหล่อไปอีกครั้ง จับปากกาขนนกประเคนใส่มือให้ก่อนจะตบบ่าหนาของคนอ่อนปีกว่าเพื่อให้ตั้งใจทำงานต่อไป
คริสเร่งรีบลงมือทำงานเพื่อจะได้ให้เสร็จเร็วๆ และนั่นมันก็เป็นไปอย่างที่คาดการณ์ไว้เมื่อวันนี้ไม่ทันถึงสามทุ่มดีเจ้าตัวก็ทำงานเสร็จสับ ปกติก็เล่นปาไปเกินครึ่งค่อนคืนแต่ทว่าดีหน่อยที่วันนี้เอกสารไม่มากนักเลยไม่ต้องปวดหัวใช้เวลานาน
บิดขี้เกียจไปมาเพื่อคลายอาการปวดเมื่อยตามร่างกายพลันรีบกุลีกุจอจัดโต๊ะให้เข้าที่เข้าทางพร้อมจะเดินออกจากสภานักเรียนได้ทุกเมื่อ แต่นั่นคนเป็นพี่ก็ยังจะยื้อคอเสื้อคุมที่เขาสวมใส่ไว้อยู่อีก แล้วอย่างนี้เมื่อไรคริสจะได้เคลียร์กับแฟนสักทีเนี่ย
“อะไรอีกล่ะแม็ก ฉันทำงานส่วนของฉันเสร็จแล้วนะ”
“ก็ใช่”
“แล้ว?”
“เปล่า ก็แค่จะบอกว่าสู้ๆนะ ไอ้เลย์มันก็ยังงี้แหละ อยากงอนมันก็งอน เป็นแบบนี้มานานแล้วนายน่าจะจับทางได้นะเว้ยคริสว่าต้องง้อยังไง” คำพูดของชางมินเหมือนจะดูดี ทำเอาคนอ่อนปีกว่าต้องยืนขบคิดอยู่ชั่วครู่
“มีเรื่องจะพูดแค่นี้ใช่ไหม?” คริสเอ่ยถามอีกครั้งเมื่อพี่ชายหน้าคมเอาแต่ยืนยิ้มแป้นชวนเอาบาทาแนบหน้า
“อืม แค่นี้แหละ”
“ถ้าแค่นี้ก็ปล่อยคอเสื้อฉันสักที จะยื้อเวลาเพื่ออะไรไม่ทราบ!”
พูดเสร็จก็คว้าข้อมือของพี่ชายแล้วดึงให้ออกจากคอเสื้ออย่างไม่ไยดี ปัดส่วนที่โดนสัมผัสสองสามทีทำเอาชางมินต้องหัวเราะหึในลำคออย่างนึกหมั่นไส้ ก่อนจะรีบวิ่งออกจากสภานักเรียนแล้วตรงดิ่งสู่หอพักอย่างไม่รีรอ
คริสมาหยุดยืนหอบแฮ่กอยู่หน้าห้องที่คุ้นเคย เดินวนไปวนมาอยู่แบบนั้นเป็นเวลานานพอสมควรเพราะไม่กล้าจะย่างกายเข้าไป กลัวอีกคนจะไม่ยอมใจอ่อนให้ง่ายๆ ทั้งยังนึกกลัวไปว่าถ้าเปิดประตูเข้าไปแล้วจะไม่พบกับใครอีกคนที่ใจต้องการ
รวบรวมความกล้าครั้งสุดท้ายก็สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ นึกขำตัวเองที่อยู่ๆก็กลายเป็นคนปอดแหกไปได้ แต่คริสก็บอกได้เลยว่าไม่เคยเป็นแบบนี้กับใคร คนที่มีอิทธิพลที่สุดก็คนหน้าหวานที่คว้าหัวใจเข้าไปแล้วไม่ให้คืนนั่นแหละ แต่นั่นคริสก็ไม่อยากได้คืนหรอกนะ อยากให้เลย์เอาหัวใจเขาไปตลอดอายุของลมหายใจเลยก็ว่าได้
มือหนาหมุนลูกบิดประตูเข้าไปอย่างถือวิสาสะ ไม่คิดจะเคาะบานไม้แผ่นหนาเลยสักนิด ใช้คาถาที่ชางมินสอนให้เป็นประโยชน์ก็ค่อยๆเปิดประตูแล้วชะเง้อใบหน้าหล่อเข้าไปสังเกตุการณ์ ก่อนจะเห็นร่างของใครอีกคนที่อยู่ในชุดนอนลายน่ารักนั่งเล่นไอแพดอยู่บนเตียง
“อ...เอ่อ ทานข้าวหรือยัง?”
คำถามที่ช่างโง่เง่าและสิ้นคิด แต่นั่นไม่รู้อะไรดลใจให้คริสต้องเอ่ยถามออกไปแบบนั้น อยากจะเอาหัวโขกกำแพงห้องซะให้สลบไปเลย
เลย์ที่เห็นคนตัวสูงเดินเข้ามาอย่างไม่คาดคิดก็ต้องตาเบิกโพลงด้วยความตกใจ ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าโกรธอีกคนอยู่จึงรีบเบือนหน้าหนีไปอีกทางพลางย้ายตัวเองไปนั่งที่โต๊ะเขียนหนังสือข้างเตียงแทน
“…………..”
“เลย์... คิดถึงจัง”
คนตัวสูงเดินเข้าไปซ้อนหลังก็โอบกอดรอบคอสวยของคนรักไว้แน่น ส่งปลายจมูกโด่งกดลงที่พวงแก้มนิ่มพลางสูดกลิ่นหอมของสบู่เหลวที่ได้รับสัมผัสอยู่ทุกคืนเข้าไปฟอดใหญ่
“สภานักเรียนเขาให้กลับหอได้ด้วยหรอตอนนี้น่ะ?” เลย์เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง ใบหน้าหวานงองุ้มทั้งยังเอาแต่จิ้มหน้าจอสี่เหลี่ยมอันใหญ่ไปเรื่อยๆ
“ก็อยากอยู่กับแฟนเลยรีบทำงานให้เสร็จก่อนเวลา”
“……………”
ถึงเลย์ไม่ได้ตอบอะไรกลับมาแต่นั่นคริสก็เห็นว่าอีกคนที่ได้ยินคำพูดของเขาชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะทำเหมือนไม่สนใจแล้วเอาแต่เล่นเกมส์ในไอแพดอยู่เหมือนเดิมทำให้คริสร้อนรนในกายจนแทบจะเป็นบ้า
“เลย์....”
“ไปอาบน้ำซะสิกลับมาเหนื่อยๆ”
ไม่ทันให้คริสพูดจบเลย์ก็โพลงขึ้นขัดเสียก่อน คริสจึงต้องยอมทำตามพลางคลายอ้อมกอดอีกคนออกแล้วเดินไปถอดเสื้อคลุมก่อนจะคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไป
เพียงแค่เสียงประตูห้องน้ำปิดลงเลย์ก็วางไอแพดในมือลงทันที หันมองบานไม้แผ่นหนาที่มีร่างของคนรักตัวสูงอยู่ด้านในก็ต้องยกมือขึ้นกุมหน้าอกซ้ายพลางถอนหายใจออกมาจนเต็มแรง
เลย์แทบจะระเบิดตัวเองเมื่อคริสเข้าใกล้เขาทุกย่างก้าว ทุกสัมผัสทุกคำพูดของคริสมันมีผลต่อหัวใจของเลย์ทุกๆอย่าง หากแต่ยังคงหยิ่งทำใจแข็งเพราะเวลาที่ผ่านมาคริสไม่เคยสนใจเขาเลยจริงๆ น้อยอกน้อยใจเพราะรู้สึกได้ว่าเมื่อไม่มีคริสข้างกายมันเหมือนขาดความอบอุ่น ถึงแม้จะรู้ว่าอีกคนนอนกอดเขาทุกคืน มอบจุมพิตให้ไม่เคยเปลี่ยนไป แต่ทำไมเลย์ถึงรู้สึกหนาวเหน็บอย่างบอกไม่ถูกก็ไม่รู้
เพียงไม่นานคนในห้องน้ำก็ออกมาพร้อมชุดนอนลายเดียวกันกับเลย์ ชุดนอนสีเทาลายโตโตโร่ที่มีคู่กัน หากแต่นั่นคริสก็ต้องผิดหวังเพราะอีกคนที่เขาตั้งใจจะพูดคุยด้วยกลับหลับไปก่อนแล้ว
“เลย์ หลับแล้วหรอ?”
“………………..”
คริสถอนหายใจออกมาเมื่อเห็นว่าคนรักพยายามจะหลีกเลี่ยงการพูดคุยกับเขา ปล่อยให้เป็นแบบนี้นานๆคงไม่ดีแน่ ถึงแม้อยากจะคุยกันให้รู้เรื่องแต่นั่นคริสก็ยอมทำตามใจเลย์ ให้อีกคนอารมณ์ดีก่อนแล้วค่อยมาคุยกัน เพราะในตอนนี้ถ้าไม่เปิดใจรับฟังเขาแล้วยังไงก็คงไม่มีประโยชน์
คริสเดินไปที่เตียงของเลย์ก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างๆเหมือนอย่างทุกคืน โน้มใบหน้าเข้าไปจุมพิตที่ข้างแก้มขาวฟอดใหญ่พลางลูบกลุ่มผมนุ่มอย่างอ่อนโยน เห็นอีกคนที่หลับตาพริ้มคล้ายเด็กน้อยก็ต้องยกยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ นึกเอ็นดูทั้งยังหัวใจเต้นโครมครามเพียงแค่ได้จ้องมองเสี้ยวหน้าหวานของอีกคน – ก็รักมากหนิเนอะ
“หลับฝันดีนะเลย์ของคริส”
…THE WIAZARD…
ภารกิจของนักเรียนดีเด่นในที่สุดก็ผ่านพ้นไป แทนที่จะดีใจทว่าคริสกลับรู้สึกหดหู่อย่างบอกไม่ถูก เลย์ยังคงไม่คุยกับเขา ถึงจะเอ่ยปากพูดบ้างแต่ก็เป็นเพียงแค่ประโยคสั้นๆเท่านั้น
ขาวยาวพาร่างของตัวเองเดินไปตามโถงทางเดินในหอพักดราก้อน หยุดยืนอยู่ที่หน้าห้องของพี่ชายก็ไม่คิดจะเคาะบานไม้แผ่นหนาให้เสียเวลา หมุนลูกบิดประตูเข้าไปพลันเดินไปล้มตัวลงนอนที่เตียงทันที ทำเอาชางมินที่นั่งทำการบ้านอยู่ที่โต๊ะเขียนหนังสือต้องละสายตาออกจากตำราตรงหน้าแล้วหันไปมองน้องชายตัวดีด้วยความสงสัย
“มาทำไม ไม่ไปง้อแฟนล่ะ?”
เพียงแค่เห็นน้องชายเข้ามาในห้องคนแก่ปีจึงเอ่ยถาม ไม่วายคำถามนั้นยังแฝงไปด้วยน้ำเสียงติดจะล้อเลียน
“ง้อง่ายๆก็ดีดิ นี่สองอาทิตย์แล้วยังไม่มองหน้าฉันเลย”
“นายนี่ฉลาดทุกเรื่องเลยนะคริส ติดโง่ก็เรื่องนี้แหละ โอ้ย!”
ชางมินถึงกับร้องเสียงหลงเมื่อตำราเล่มหนาถูกส่งมาปะทะกับใบหน้าหล่อ ถ้าเป็นหนังสือการ์ตูนเล่มบางๆจะไม่ว่าเลย แต่ไอ้น้องชายตัวดีของเขามันหยิบอะไรได้ก็ปาใส่ทันทีอย่างไม่ยั้งมือ
“รู้แล้วว่าโง่ไม่ต้องตอกย้ำได้ป่ะ? ก็ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงนี่หว่า เลย์ใจแข็งกว่าที่คิด”
“เลย์ไม่ได้ใจแข็งแต่นายอ่ะใจอ่อนรู้ไว้ซะ ยอมมันตลอดอ่ะ รวบรัดซะก็จบเรื่อง!”
“รวบรัดยังไง?”
“มั่นใจนะว่าไม่รู้” คิ้วเรียวของพี่ชายเลิกขึ้นเป็นเชิงถาม พอเห็นอีกคนส่ายหน้าไปมาก็ต้องถอนหายใจด้วยความระอา
“ถ้ารู้ก็คงไม่ถาม”
“ง้อแบบถึงเนื้อถึงตัวอ่ะ แบบที่เลย์เคยทำกับนายบนเครื่องบินยังจำได้ไหม?”
คริสทำท่าทางครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ ใช่แล้ว เขาจำมันได้ดีว่าครั้งนั้นที่เขาโกรธเลย์เรื่องของเด็กเซนทอร์ เลย์ก็ใช้วิธีนี้กับเขา แต่...
“ฉันก็ง้อเลย์แบบถึงเนื้อถึงตัวแล้วนะ ดูเขาจะรำคาญฉันด้วยซ้ำ”
คนอ่อนปีกว่าเอ่ยพลางตีสีหน้าเศร้า ก็จริงว่าที่ผ่านมาทั้งจูบทั้งหอมอีกคนไปแล้ว ดูท่าว่าเลย์ก็ไม่คิดจะยอมเขาเอาเสียเลย ไม่วายยังจะงอนหนักกว่าเดิมอีก
“งั้นเอาแบบนี้ดีกว่า...”
แต่นั่นพอหันไปหาชางมินรายนั้นก็เอาแต่ยกยิ้มทำหน้ามีแผนจนคริสตามไม่ทันทั้งยังไม่ไว้วางใจพี่ชายตัวเอง เห็นทำท่าทางภูมิใจแล้วก็นึกหมั่นไส้ แต่จะว่าไปลองดูก็ไม่เสียหาย เพราะที่ผ่านมาชางมินนี่ล่ะนะที่ทำให้ชีวิตรักของเขายังคงดำเนินมาถึงปัจจุบัน
…THE WIZARD…
กลุ่มเด็กมัธยมปลายของโรงเรียนชายล้วนพ่อมดชื่อดังกำลังจับกลุ่มรอคอยใครบางคนที่หน้าโรงหนังอย่างใจจดใจจ่อ เพียงแค่หยุดยืนอยู่กับที่นิ่งๆก็ตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะรูปร่าง หน้าตา หรือแม้แต่กระทั่งออร่าที่พราวอยู่ตามร่างกายก็เรียกสายตาของหญิงสาวให้หันมามองได้ไม่ยาก
“ยูฮวาน นายมั่นใจนะว่าเลย์จะมาน่ะ?” ชางมินเอ่ยถามคนรักที่เขาฝากฝังให้ไปชวนรุ่นน้องหน้าหวานมาดูหนังด้วยกันในคืนนี้
“คิดว่าน่าจะมานะ ก็ตบปากรับคำไว้แล้วนี่นา”
“ผมก็ถามพี่เลย์แล้วนะครับรุ่นพี่ พี่เขาก็บอกว่าจะมา ผมว่าพี่เลย์ไม่ผิดคำพูดหรอก”
ลู่หานเอ่ยพลางชะเง้อหน้าหารุ่นพี่คนสนิท คนน่ารักดูท่าจะร้อนรนเพราะเป็นอีกคนที่อยากจะให้คริสกับเลย์เข้าใจกันสักที ทำให้เซฮุนต้องเดินเข้ามากุมมือเล็กไว้แล้วพาไปนั่งลงที่ม้านั่งหน้าโรงหนังแทน
“นั่นไงครับ มาแล้วๆ”
ซูโฮรีบเอ่ยบอกทุกคนเมื่อเห็นรุ่นพี่หน้าหวานกำลังย่างกายเดินมาทางนี้ ทำให้ทุกคนต้องยกยิ้มดีใจกันเสียยกใหญ่ แต่นั่นก็ไม่พ้นคนที่เป็นประเด็นของเรื่องนี้อย่างคริสที่ฉีกยิ้มกว้างดีใจอย่างชัดเจน
แต่นั่นรอยยิ้มที่เผยให้เห็นในตอนแรกก็ต้องหุบลงฉับพลัน เมื่อคนรักของเขาไม่ได้มาคนเดียวหากแต่มากับใครอีกคนที่เขาไม่ชอบขี้หน้า เด็กเซนทอร์ที่เคยมีอดีตฝังใจ เห็นเช่นนั้นหัวใจของคริสก็แทบจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เจ็บปวดทั้งยังไร้เรี่ยวแรงแม้จะรู้ว่าทั้งคู่อาจไม่มีอะไรไปมากกว่าเพื่อนร่วมสถาบันก็ตาม
“เชี่ยแล้ว!”
ชางมินถึงกับอุทานเสียงหลงเมื่อเห็นเทาเดินเคียงข้างมากับรุ่นน้องหน้าหวาน ก่อนจะเหลือบไปมองคริสที่ตอนนี้หันใบหน้าหนีไปอีกทางพลางระงับอารมณ์ร้อนรุ่มในกาย
“ถ้ามากันครบแล้วงั้นพวกเราเข้าไปดูหนังกันเถอะ” ยูฮวานไม่อยากให้บรรกาศมันคุจนเกินไป เขาเลยตัดสินใจชวนทุกคนให้เข้าไปดูหนังแล้วทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ต้องทำยังไงต่ออ่ะแม็ก?”
ระหว่างที่รอยูฮวานกับซูโฮไปซื้อตั๋วหนัง คริสจึงเอ่ยกระซิบถามพี่ชายในสายเลือดถึงสิ่งที่เขาต้องทำต่อไป เห็นแบบนั้นแล้วหมดกำลังใจเลยเอาสิ แต่นั่นใครจะยอมล่ะ เห็นเด็กเซนทอร์แล้วไฟในกายคริสก็ลุกโชนทันที
“พอเข้าไปในโรงหนังนะเว้ย นายรีบเขาไปนั่งข้างเลย์เลย อย่าให้ไอ้เทามันตัดหน้าเด็ดขาด เสียเชิงหมดเข้าใจไหม?”
“อืม”
ตอบแค่นั้นคริสก็สูดหายใจเข้าปอดลึกๆเพื่อรวบรวมความกล้า อยากจะเดินออกจากที่นี่มันซะเดี๋ยวนี้ เขาไม่ชอบทำอะไรแบบนี้เลยสักนิด ไม่ชอบเสียเปรียบเด็กเซนทอร์ทั้งๆที่เขาอยู่เหนือกว่ามาตลอด
เข้ามาให้โรงหนังได้แล้วก็ถึงเวลาของการจัดที่นั่ง ไคและดีโอเลือกเข้าไปนั่งเป็นคู่แรก ที่นั่งถัดมาก็เป็นเซฮุนลู่หานและซูโฮ ตามด้วยคู่รักรุ่นพี่ประธานปราสาทอย่างชางมินยูฮวาน ส่วนลำดับสุดท้ายก็....
“เทามานั่งข้างฉันสิ”
เมื่อเห็นเลย์เดินเข้าไปหย่อนกายนั่งลงที่เก้าอี้ตัวถัดจากยูฮวานคริสก็รีบกุลีกุจอเดินกระแทกไหล่เทาเข้าไปนั่งอย่างรวดเร็ว แต่นั่นทุกอย่างก็ทำให้ต้องชะงักนิ่งเมื่อคนหน้าหวานไม่ได้เอ่ยชวนเขาแต่ดันเป็นเด็กเซนทอร์อีกคน
“นายเข้าไปนั่งกับเลย์สิ”
เทาเอ่ยพร้อมทั้งเผยมือให้คริสเดินเข้าไป แต่นั่นคริสก็เอาแต่ส่ายหน้าพรางนั่งลงที่เก้าอี้ตัวสุดท้ายแทน ก็คนหน้าหวานไม่คิดจะเอ่ยชวนแล้วยังจะให้เขาหน้าด้านเดินเข้าไปนั่งแบบนั้นได้ยังไงล่ะ
ตลอดเวลาที่เรื่องราวในหน้าจอภาพยนตร์ดำเนินไป คริสไม่มีแม้แต่สมาธิที่จะจดจ่ออยู่กับหนังที่มาดูในวันนี้เลยสักนิด เขาเอาแต่นั่งเหลือบสายตามองเด็กเซนทอร์กับคนรักของเขาที่พอดูหนังไปก็กระซิบคุยกันไปทำเอาอยากจะเข้าไปนั่งคั่นกลางซะให้รู้แล้วรู้รอด แต่นั่นก็ยังอดกลั้นจนถึงที่สุด เพราะถ้าเขาระเบิดอารมณ์ตัวเองในตอนนี้ เชื่อได้เลยว่าเลย์จะไม่มีวันให้อภัยเขาแน่นอน
“คริส โอเคปะวะ?” เมื่อเดินออกมาจากโรงหนังไคก็รีบเดินเข้าไปถามเพื่อนสนิททันที และนั่นไม่ต้องรออีกคนตอบเขาก็พอจะรู้ได้ว่ามันคงไม่ใช่เรื่องดีแน่
“แย่กว่าที่คิด”
“เห้ย! ไม่เป็นไรเว้ย คืนนี้ยังอีกยาวไกล กลับไปหอพักยังมีโอกาสได้ปรับความเข้าใจกันอีกเยอะ”
มือหนาตบเข้าที่บ่าของเพื่อนตัวสูงเพื่อให้กำลังใจ เข้าใจความรู้สึกของคริสดีว่ามันคงจะเจ็บปวดและทรมานน่าดู แต่นั่นไคก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ เพราะเห็นๆกันอยู่ว่าเลย์น่ะใจแข็งมากจริงๆ
“ฉันพยายามมาหลายรอบแล้วนะไค ฉันผิดมากเลยหรอวะทำไมเลย์ต้องโกรธฉันมากขนาดนั้น แล้วดีโอมีเวลาให้นายบ้างหรือเปล่า?”
“ดีโอหรอ? จะว่าไปก็ไม่มีเวลาให้ฉันเหมือนกัน แต่เขาก็ส่งข้อความมารายงานฉันตลอดนะ เลยไม่ได้รู้สึกน้อยใจอะไร”
“นั่นสินะ นายก็ยังได้รับข้อความจากดีโอ แต่เลย์ไม่ได้รับอะไรจากฉันเลย มันก็สมควรแล้วที่เขาจะโกรธฉัน”
พูดตัดพ้อตัวเองอย่างน้อยอกน้อยใจใบหน้าหล่อก็หันไปมองคนรักตัวเล็กกับเด็กเซนทอร์ที่เดินเคียงข้างกันตามหลังอยู่ไม่ห่าง เห็นรอยยิ้มหวานที่ทำให้พวงแก้มนิ่มบุ๋มลงไปก็ถึงกับนึกอิจฉา จะโกรธเทาก็ไม่ใช่เรื่อง เพราะรายนั้นก็ให้เกียรติเลย์ทั้งยังดูท่าว่าจะเห็นใจเขาอยู่เหมือนกัน
“เอ่อ รุ่นพี่ครับ ผมขอไปหาซื้อของก่อนนะครับแล้วจะตามกลับโรงเรียนทีหลัง”
เสียงหวานที่เอ่ยขออนุญาตกับประธานปราสาทดราก้อนทำให้คริสต้องหันกลับไปมอง สบตากับแววหวานที่มองมาทางเขาอยู่แว้บนึงรายนั้นก็เบือนหน้าหนีไม่สนใจ เลย์จะรู้บ้างไหมว่าคริสคนนี้จะร้องไห้แล้วนะ
“แต่มันดึกแล้ว ให้คริสไปเป็นเพื่อนไหม?” ชางมินเอ่ยพูดพลางหันไปหาน้องชายตัวดีที่ยืนบื้ออยู่กับที่ ขยิบตาหยิกๆบอกให้เสนอตัว แต่นั่นก็ดูท่าว่าจะเสียแรงเปล่า
“ไม่เป็นไรครับรุ่นพี่ เขาคงไม่มีเวลามาเดินกับผมหรอก เทาจะไปเป็นเพื่อนผมครับไม่ต้องเป็นห่วง”
“อ...เอางั้นหรอ? อืม...ก็ได้ ยังไงก็กลับไปก่อนหอจะปิดนะ”
“ครับ”
พูดแค่นั้นหัวทุยก็โค้งให้กับรุ่นพี่หน้าหล่ออย่างนอบน้อม ไม่หันไปมองคนรักตัวสูงเลยสักนิด ก่อนจะแตะเข้าที่แขนของเด็กเซนทอร์เบาๆแล้วพยักหน้าให้เดินหายไปด้วยกัน
คริสที่มองดูอยู่ก็แทบจะเก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่ อารมณ์คุในใจภายใต้ใบหน้าเรียบนิ่งมันแทบจะระเบิดตูมออกมาเมื่อความหึงหวงกำลังโหมหนักขึ้นเรื่อยๆ แต่สุดท้ายก็เก็บสีหน้าและอารมณ์ไว้ไม่อยู่ เห็นพี่ชายในสายเลือดเดินตรงดิ่งเข้ามาหาก็ทำท่าว่าจะร้องไห้อยู่รอมร่อ
“แม็ก~”
เสียงทุ้มลากยาวเรียกชื่อพี่ชายด้วยความท้อแท้ เบ้ปากตีสีหน้าเศร้าสร้อยจนคนเป็นพี่อย่างชางมินก็อดจะสงสารเสียไม่ได้ แต่นั่นไม่วายก็หัวเราะร่าเพราะหมั่นไส้น้องชายตัวเองขึ้นมาเสียดื้อๆ
“แหม่ะ! ทีตอนนี้ล่ะเรียกชื่อฉันเสียงอ่อนเสียงหวาน ก่อนหน้าจะมาที่นี่ไม่เห็นจะเป็นแบบนี้เลยวะ”
“ฉันต้องทำยังไงดีอ่ะแม็ก เลย์ไม่สนใจฉันเลยนายก็เห็น ฉันจะอกแตกตายแล้วนะเว้ย!”
พูดไปไม่วายมือหนาก็ยกขึ้นกุมที่หน้าอกด้านซ้ายของตัวเองแสดงอาการอย่างที่เป็นอยู่ ความอ่อนแอของคริสกำลังฉายชัดเจนมากกว่าทุกครั้ง ก็อย่างว่าล่ะนะ รักมากความเจ็บปวดก็ย่อมมากตามไปด้วย
“เออน่า ใจเย็นๆ ถ้าอกจะแตกตายก็แอบตามไปดิ ฉันเชื่อว่าเลย์กับไอ้เด็กเซนทอร์นั่นไม่มีอะไรกันแน่นอน”
“ฉันไม่ได้ห่วงเรื่องของไอ้เซนทอร์นั่น ฉันห่วงแค่เลย์ เลย์คนเดียวเข้าใจนะ?”
“เออจ่ะไอ้น้องชายสุดหล่อ เข้าใจแล่วจ่ะ”
ชางมินอยากจะขำให้ลงไปนอนแด้ดิ้นกับพื้นเลยทีเดียว เห็นคริสพยายามเก็บอาการมาตลอด แต่เมื่อครู่คล้ายว่าสติใกล้จะหลุดอยู่ละอีกนิด เห็นแล้วก็อดจะนึกหมั่นไส้ในความปากดีเสียไม่ได้ เจอเรื่องแบบนี้เมื่อไหร่ใจปลาซิลตลอดเลยสิน่า
...THE WIZARD…
“เลย์ ทำแบบนี้มันจะดีหรอ? นายเห็นไหมว่าแฟนนายไม่พอใจที่ฉันอยู่กับนายสองต่อสอง”
เมื่อเดินแยกตัวออกมาได้ไม่ไกลเทาก็ตั้งคำถามไปให้เลย์ทันที เขาไม่ได้โกรธที่เลย์ใช้เขาเป็นเครื่องมือให้คริสหึง เขารู้มาตลอดว่ายังไงก็เป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้น แต่ที่เลย์ทำแบบนี้มันไม่มีอะไรดีขึ้นเลยสักนิด ซ้ำยังจะทำให้ทุกอย่างเลวร้ายขึ้นไปอีก
“ไม่รู้สิ ไม่ได้สนใจอ่ะ”
ตอบแค่นั้นก็สอดสอดส่ายสายตามองสินค้าที่วางเรียงรายข้างถนนคล้ายตลาดเมียงดงย่อมๆ แต่ที่แปลกตาเห็นจะเป็นทุกอย่างที่สรรสร้างไปด้วยเวทมนตร์ดูตื่นตาตื่นใจ
“ทำแบบนี้ไม่ดีเลยน้า”
“ขอโทษนะเทาที่ทำให้นายลำบาก แต่ที่ฉันชวนนายมาเพราะอยากอยู่กับนายจริงๆ คงรู้สึกดีที่ได้อยู่กับนายล่ะมั้ง”
คำพูดของเลย์ทำเอาเทาต้องนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ นัยน์ตาคมสบมองใบหน้าน่ารักของคนพูดพร้อมทั้งรอยยิ้ม ถึงจะรู้ว่าเลย์พูดมาไม่ได้จริงจังอะไร แต่มั่นใจว่าอีกคนรู้สึกยังไงก็พูดมันออกมาแบบนั้น
“จะรู้สึกดีก็ตอนที่ทะเลาะกับแฟนสินะ เวลาอื่นก็ลืมฉันแล้ว” ถึงจะหัวใจพองโตแต่นั่นเทากลับไม่เคยคิดเข้าข้างตัวเอง เลย์บอกว่าให้เขาเป็นได้แค่เพื่อน ยังไงก็เป็นได้แค่เพื่อนอยู่วันยันค่ำ
“ว้า เพิ่งเคยเห็นนายน้อยใจนะเนี่ย ไม่เอาๆ ฉันก็เห็นนายสำคัญนะเทา”
“จริงหรือเปล่า?”
“จริงๆนะ คิดว่าโกหกหรอ?”
“อะ! เชื่อก็ได้ ว่าแต่ที่จะมาซื้อของน่ะนายจะซื้ออะไร?” เอ่ยถามเปลี่ยนเรื่องอีกครั้งเมื่อนึกขึ้นได้เกี่ยวกับจุดประสงค์หลัก เห็นท่าทางครุ่นคิดของเพื่อนหน้าหวานต่างปราสาทแล้วเทาก็รู้ได้ในทันทีว่าคงไม่ได้คิดมาก่อนอย่างแน่นอน
“ขอคิดดูก่อนนะ แฮ่ๆ”
ไม่มีผิดเลยสักนิด เลย์ก็แค่ทำให้คริสของขึ้นเท่านั้นแหละเทารู้มาตั้งแต่แรกแล้ว แต่นั่นก็ไม่เคยคิดจะต่อว่าอะไรทั้งยังเต็มใจยอมตามอีกคนมาอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง
ในขณะที่เลย์กำลังเลือกดูของตรงหน้าไปพรางๆเทาก็รับรู้ได้ถึงนัยน์ตาลับคู่หนึ่งที่มองมายังเขาจากที่ไหนสักแห่ง ใบหน้าคมพยายามไม่หันเหเพื่อมองหา แต่นั่นกลับใช้หางตาเหลือบมองเป้าหมายแทน
“คิดแล้วว่าต้องตามมา” พึมพำกับตัวเองเบาๆก็แสยะยิ้มนึกขำ รู้อยู่แล้วว่าคนที่ตามมาคงทำใจทนอยู่เฉยๆไม่ได้แน่นอน
“………………”
“เลย์ นายเลือกของไปก่อนนะ เดี๋ยวฉันขอไปเข้าห้องน้ำแปปนึง”
“อื้ม”
เทาเอ่ยบอกเพื่อนหน้าหวานเสร็จเห็นอีกคนพยักหน้ารับรู้ก็เดินแยกออกมา ขายาวก้าวเป็นจังหวะสม่ำเสมอไปตามทางเรื่อยๆ เมื่อพ้นสายตาของเลย์ก็เปลี่ยนเป้าหมายเดินย้อนกลับอ้อมไปทางเดิมเพื่อไม่ให้อีกคนที่กำลังยืนเลือกของอยู่มองเห็น ก่อนจะมาหยุดยืนอยู่ที่ด้านหลังของใครบางคนที่มัวแต่เผลอจ้องมองคนรักจากมุมมืดข้างตึกนี้
“แล้วไม่เข้าไปหาเลย์อ่ะ?” เอ่ยถามไปคนที่มัวแต่เหม่ออยู่ก็หันขวับมาหาด้วยความตกใจ เมื่อรับรู้ว่าเป็นคนของเซนทอร์ใบหน้าหล่อก็ตีนิ่งทั้งยังจ้องเขม่นพร้อมมีเรื่องได้ทุกเมื่อ
“แล้วนายมายุ่งอะไรไม่ทราบ!”
คำพูดคำจาอวดดีของอีกคนทำให้เทาต้องหัวเราะหึในลำคอ คริสก็ยังฟอร์มจัดอยู่ร่ำไป ถ้ายอมอ่อนข้อให้เขาสักนิด แน่นอนมาเขาจะยอมถอยให้แน่นอน
“แล้วที่ตามมาไม่ได้จะมาง้อเขาหรือไง ก็มัวแต่ปอดแหกทำตัวหลบมุมอยู่แบบนี้แล้วเมื่อไหร่ถึงจะเข้าใจกันสักที”
“นั่นมันเรื่องของฉัน นายไม่เกี่ยว!”
“ใช่! มันเรื่องของนาย แต่เลย์บอกว่าอยู่กับฉันแล้วรู้สึกดี”
เทาไม่ได้ตั้งใจจะยั่วโมโหคริสเลยสักนิด แต่นั่นมันน่าหมั่นไส้เพราะคริสยังเอาแต่ใจตัวเองอยู่ตลอด
เมื่อได้ฟังประโยคเย้ยหยันจากเด็กเซนทอร์คริสก็ถึงกับชะงักงัน มือหนากำเข้าหากันแน่นพลางกัดฟันกรอดด้วยความไม่พอใจ หัวใจมันหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มทั้งยังไม่รู้ว่าสิ่งที่เทาพูดมานั้นมันจะเป็นเรื่องจริงอย่างที่ว่าหรือเปล่า
“……………”
“มันก็จริงที่เลย์อยู่กับฉันแล้วรู้สึกดี เพราะฉันไม่เคยทำให้เลย์ต้องเสียใจ”
“นาย....”
คริสถึงกับฉุนขึ้นไปอีกเมื่อเด็กเซนทอร์กำลังเหยียบย่ำหัวใจของเขาให้แหลกเหลว แต่นั่นกำลังจะเอ่ยปากต่อว่าอีกคนไปกลับต้องหยุดฟังประโยคที่เด็กเซนทอร์พูดอย่างเงียบๆ
“แต่...เลย์จะรู้สึกดีที่สุดถ้าได้มีนายอยู่เคียงข้าง จะรู้สึกดีที่สุดถ้าได้อยู่กับนาย ฉันพูดขนาดนี้แล้วก็อย่าปอดแหกอีกล่ะ ไปง้อเขาซะ ทำตัวเป็นหนูโดนน้ำร้อนลวกอยู่ได้ เห็นแล้วมันน่าตลก”
พูดแค่นั้นมือหนาก็ยกขึ้นตบบ่าคนตัวสูงไปสองสามที ยกยิ้มมุมปากพลางหัวเราะในลำคอแล้วเดินสอดมือล้วงกระเป๋ากางเกงจากไป ปล่อยให้คริสได้แต่ยืนประมวลคำพูดอยู่คนเดียวเงียบๆ คำพูดที่ทำให้หัวใจเริ่มฟื้นคืนชีพอีกครั้ง ไม่รอช้าให้เสียเวลาก็เดินเข้าไปซ้อนหลังคนตัวเล็กที่กำลังยืนเลือกของอย่างเพลิดเพลินอยู่คนเดียว
“มาแล้วหรอเทา?”
เสียงหวานเอ่ยถามทั้งที่ยังเลือกสร้อยข้อมืออยู่ ไม่ได้สนใจรอบข้างเพราะเอาแต่จมดิ่งอยู่ในโลกของตัวเอง ทำเอาคนที่เพิ่งเดินเข้ามาต้องขมวดคิ้วไม่พอใจเมื่อคนหน้าหวานก็เอาแต่ถามถึงเด็กเซนทอร์คนนั้น
“……………”
“นายช่วยฉันเลือกสร้อยข้อมือหน่อยสิ นายว่าเส้นนี้สวยไหม? ฉันจะซื้อให้คริ... ”
กำลังหยิบสร้อยข้อมือที่เลือกไว้ในตอนแรกเพื่อถามความเห็นจากเด็กเซนทอร์ แต่นั่นไม่ทันจะได้เอ่ยจบประโยคก็ต้องผงะไปทันทีเมื่อหันกลับมาแล้วพบเจอกับใครอีกคนที่ไม่ใช่คนๆเดิม คิดได้แค่นั้นก็วางสร้อยข้อมือสีเงินวาวลงที่เดิมพลันรีบสาวเท้าหนีไปอย่างรวดเร็ว
“เลย์!”
มือหนารั้งข้อมือบางไว้ก่อนที่อีกคนจะหนีหายไปแล้วต้องตามง้อกันทั้งคืน ดึงร่างเล็กเข้ามาแนบอกได้ก็สวมกอดไว้แน่นโดยไม่แคร์สายตาของคนที่มองมาเลยสักนิด
“ปล่อยนะคริส! ทำบ้าอะไรของนาย เห็นไหมว่าคนมองอยู่น่ะ”
กำปั้นเล็กทุบเข้าที่หน้าอกแกร่งหวังให้ปล่อยออกไปจากอ้อมกอด แต่นั่นยิ่งทุบเท่าไหร่คริสก็ยิ่งกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นไปอีก
“เขาอยากมองก็ให้มองไป ฉันจะง้อแฟน ถ้าวันนี้แฟนยังไม่หายโกรธฉันก็จะกอดอยู่แบบนี้มันทั้งคืนนั่นแหละ”
“เพ้อเจ้อ! ปล่อยฉันเลยนะคริส”
เลย์พยายามสุดแรงที่จะดันร่างสูงของอีกคนให้ออกห่าง แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นผล บางทีเลย์น่าจะรู้อยู่แล้วว่าไม่เคยสู้แรงมหาศาลของคริสได้สักครั้ง
“ฉันขอโทษนะ สำนึกแล้วจริงๆ ต่อไปจะมีเวลาให้นายมากๆ ดูแลนายให้ดีๆ ถ้าต้องไปทำงานที่สภานักเรียนก็จะส่งข้อความหาทุกห้านาทีไม่ขาดตกบกพร่อง ถ้าไม่ไว้ใจนายจะไปนั่งเฝ้าฉันทำงานที่สภาก็ได้นะ ให้โอกาสฉันนะเลย์ ฉันขอโทษๆๆๆ…”
คำขอโทษที่หลุดออกมาจากเรียวปากได้รูปนั้นนับครั้งไม่ถ้วนจนเลย์ต้องรีบส่งมือเล็กไปห้ามไว้เพราะตอนนี้คนมองมาที่เขากันแทบจะทุกสายตา
“พอได้แล้ว อายคนอื่นเขา”
“ไม่พอจนกว่านายจะให้อภัยฉัน”
สิ้นเสียงทุ้มเลย์ก็ถึงกับถอนหายใจเสียเต็มแรง กลอกม่านตาขึ้นลงเมื่อดูท่าว่าจะหมดหนทาง ทั้งตอนนี้ที่คริสกอดเขาอยู่ทุกสายตาก็มองมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น จำเลยต้องพยักหน้าตอบอีกคนไปส่งๆเพราะไม่อยากให้เรื่องมันยืดยาว
“อืม ให้อภัยแล้ว” บอกแค่นั้นก็เบือนใบหน้าน่ารักหนีไปอีกทาง ทำให้คนตัวสูงได้โอกาสกดปลายจมูกโด่งลงที่แก้มนิ่มไปหนึ่งทีอย่างเอาแต่ใจ
“ไม่เชื่อ! ให้อภัยแล้วต้องหายโกรธกันด้วย”
“นายทำอะไรเนี่ยคริส? นี่มันที่สาธารณะนะ”
ถึงจะต่อว่าคนรักไปแบบนั้นแต่ดวงหน้าหวานกลับเห่อแดงยิ่งเสียกว่าลูกตำลึงสุกปรั่ง เลย์อยากจะหายตัวไปจากที่ตรงนี้เสียเหลือเกิน
“ที่สาธารณะแล้วไง ฉันไม่สนหรอก ฉันสนแค่นายคนเดียวเท่านั้น”
แน่นอนว่าในตอนนี้ถึงแม้จะมีคนมองมาเป็นสิบเป็นร้อยคริสก็ไม่เคยสนใจ เพราะหัวใจของเขามันสั่งให้มองเพียงแค่เลย์คนเดียวเท่านั้น
และนั่นคำพูดอ่อนโยนที่คริสส่งผ่านก็ทำให้คนหน้าหวานอดใจเต้นระรัวเสียไม่ได้ ม่านตากลมเสมองไปทางอื่นเพราะเขินอายเกินกว่าจะมองหน้าสบตากับอีกคนตรงๆ
“ว่าไง หื้ม? ให้อภัยฉันแล้วหายโกรธฉันด้วยหรือเปล่า?”
“ก...ก็ไม่ได้โกรธสักหน่อย”
“จริงอ่ะ?”
คิ้วเรียวเลิกขึ้นถามคนรักอย่างไม่มั่นใจ ก่อนจะโน้มใบหน้าเข้าไปจุมพิตแผ่วเบาที่ริมฝีปากอวบอิ่มอมชมพูสวย แตะสัมผัสเพียงวาบหวิวก็ผละออก ส่งสายตาสบมองดวงหน้าหวานระเรื่อแดงอย่ารอคอยคำตอบที่น่าพอใจ
“อื้อ... นายเอาเปรียบฉัน!”
ได้สติก็จ้องเขม่นอีกคนอย่างเอาเรื่อง หันซ้ายหันขวาเมื่อคนที่มองมาพากันซุบซิบนินทาเสียยกใหญ่ ไม่วายยังเจอหญิงสาวที่กำลังกรีดร้องปรานกับว่าโดนจูบเสียเอง ทำเอาเลย์ต้องก้มหน้างุดเพราะอับอายเกินกว่าจะทำใจให้เงยหน้าขึ้นสู้ประชาชีได้
“ให้อภัยแล้วหายโกรธไหม?” คริสยังคงเค้นเอาคำตอบไม่เลิก ให้แน่ใจว่าเลย์ไม่ได้ให้อภัยเขาส่งๆ
“เออๆ ให้อภัยแล้วก็หายโกรธแล้วด้วย”
“ไม่ค่อยน่าเชื่อเลยแฮะ”
“บอกว่าหายโกรธก็คือหายโกรธ ไม่เชื่อก็ไม่ต้องเชื่อ!” ว่าแล้วก็ทำท่าจะโกรธกันเสียอีกรอบ เห็นใบหน้าหวานเริ่มงองุ้มคริสจึงรีบเปลี่ยนเรื่องคุยทันที ไม่งั้นมีหวังได้ง้อต่ออีกแน่ๆ
“เชื่อแล้วครับผม ว่าแต่เห็นเมื่อกี้จะซื้อสร้อยข้อมือให้ฉันหรอ? กำลังอยากได้อยู่พอดีเลย”
พูดแค่นั้นก็ค่อยๆคลายอ้อมกอดให้เลย์เป็นอิสระ ยกยิ้มบางๆไปให้อีกคนอย่างอ่อนโยนก็ถือวิสาสะกุมมือบางไว้ในอุ้มมือของตัวเองทำเอาคนตัวเล็กต้องก้มหน้างุดไปอีกครั้ง
“มั่วเล่า! ไม่ได้จะซื้อให้สักหน่อย แค่เห็นมันสวยดีเลยไปยืนดู”
เอาเถอะว่าเลย์น่ะโกหกไม่เก่งเลยสักนิด เห็นดังนั้นคริสก็อดใจไม่ไหวต้องโน้มใบหน้าเข้าไปหาคนที่เอาแต่ก้มหน้าจนคางชิดอก ส่งปลายจมูกโด่งลงคลอเคลียที่ข้างแก้มใส กดเบาๆที่รอยบุ๋มเสน่ห์ก่อนจะผละออกแล้วจ้องมองใบหน้าหวานของอีกคนนิ่งทั้งรอยยิ้มที่แต้มไปด้วยความสุข
ด้านอีกคนที่ถูกกระทำก็ถึงกับหลับตาปี๋ด้วยความเขินอาย พวงแก้มใสขึ้นสีจัดชัดเจนยิ่งกว่าเดิม ลามถึงใบหูและทั่วทั้งใบหน้า ยกมือเล็กขึ้นถูจมูกไปมาแก้เก้อก็ไม่คิดจะเงยใบหน้าน่ารักขึ้นมาเลยสักนิด
“ถ้าไม่ได้ซื้อให้ฉัน งั้นฉันซื้อให้เองก็ได้” พูดเสร็จก็ลากคนตัวเล็กให้ไปยังร้านจิวเวลรี่ร้านเดิมในตอนแรก มองสร้อยข้อมือสามแบบที่อีกคนเลือกไว้ก็ต้องยกยิ้มเพราะรู้ว่าสามเส้นนี้ต้องมีสักเส้นล่ะนะที่เป็นของเขา
“อยากได้แบบไหนอ่ะ?” คริสเอ่ยถามพลางยกโลหะสีเงินวาวขึ้นมาสำรวจดู อีกมือที่ว่างก็กอบกุมมือเล็กอยู่ตลอดไม่คิดจะยอมปล่อย
“……………..”
คราวนี้ไม่มีเสียงหวานที่เอ่ยตอบกลับ หากแต่ใช้การชี้นิ้วบอกแทน ท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูทำให้คริสต้องยกยิ้มอีกครั้ง มีแฟนแบบเลย์นี่เหนื่อยใจนะ ความน่ารักเกินเหตุช่างน่าห่วง ทำอะไรไปไม่ได้รู้ตัวเองหรอกว่ามันดึงดูดใครหลายๆคน และหนึ่งในนั้นก็เป็นคริสเองที่ถูกดึงดูด
“เอาเส้นนี้นะ?”
“………………”
เหมือนเดิม เลย์ไม่ตอบแต่พยักหน้ารับ คริสบอกได้เลยว่าแม่งโคตรจะน่ารัก
“เอาแบบนี้สองเส้นครับ แล้วก็จิวฝังเพชรรูปตัวเคกับแอล”
สั่งเจ้าของร้านพร้อมกับยื่นบัตรเครดิตให้คริสก็หันกลับไปมองเสี้ยวหน้าหวานของคนที่ก้มหน้ามองพื้นอีกครั้ง ก่อนเจ้าตัวเล็กที่ถูกจ้องมองจะเงยหน้าขึ้นมาแล้วกะพริบตาปริบโดยไม่รู้เลยว่าการกระทำแบบนี้น่ะทำให้หัวใจของคนที่ได้มองเต้นโครมครามจนแทบจะระเบิดออกมา
“รวยมากไงสั่งจิวฝังเพชรน่ะ?” เสียงหวานเอ่ยถามพลางเบะปากหมั่นไส้อีกคน
“ก็รวย...แถมยังหล่อมากด้วย”
“แหวะ!”
ถึงจะอดหมั่นไส้คนรักไม่ได้แต่นั่นมันก็ทำให้เลย์เผยยิ้มได้กว้างมากขึ้นกว่าในตอนแรก จมูกเล็กกดลงที่ต้นแขนแกร่งของคนรักทั้งยังกุมมือกับอีกคนอยู่ เหลือบม่านตากลมขึ้นมองใบหน้าหล่อเหลาของคนตัวสูงก็ทำเอาอีกคนต้องมองตอบกลับมาด้วยความสงสัย
“มองฉันทำไม หื้ม?”
“……………….” ใบหน้าหวานส่ายไปมาพลางรีบหลุบม่านตาลงฉับพลัน ทำให้คริสต้องยกมือขึ้นลูบที่หัวทุยเบาๆพลางกดจูบที่หน้าผากบางของอีกคน
“ได้แล้วครับของที่ต้องการ”
เสียงเจ้าของร้านที่เดินเอาของมายื่นให้ตรงหน้าทำให้คริสต้องหันกลับไปรับมันมาถือไว้ ก่อนจะรั้งมือเล็กให้ออกเดินตามเขาไปเรื่อยๆ
“จะไปไหน?” เลย์เอ่ยถามเมื่อคริสลากเขามาแต่กลับไม่พูดอะไร
“ไปดูหนังกันอีกรอบ ก่อนหน้านั้นดูไม่รู้เรื่องเลย มัวแต่ดูแฟนตัวเอง”
“แล้วเทา....?”
คริสถึงกับหยุดเดินเมื่อได้ยินชื่อของเด็กเซนทอร์เข้ามาในหู แต่ก็ยังยกยิ้มไปให้เลย์แล้วส่ายหน้าไปมา
“เขากลับไปแล้ว”
“แต่...หอจะปิดก่อนนะถ้าเรากลับไปช้า พี่ชางมินจะว่าได้”
“แม็กไม่ว่าหรอกน่า”
“แต่...”
“ไม่มีแต่ครับที่รัก ขอชดเชยเวลาที่หายไปหน่อยนะ อยากอยู่กับแฟนแบบนี้มานานแล้ว ตอนทำงานหน้าหวานๆของใครไม่รู้ก็ชอบลอยมากวนใจตลอด คิดถึงใจจะขาดแล้วดูไม่ออกหรอ?”
พูดเสร็จก็โน้มใบหน้าหล่อเข้าไปจุ๊บเบาๆที่ริมฝีปากสวยของอีกคนแล้วรีบผละออก โค้งตัวมองคนที่เอาแต่ก้มหน้าเคอะเขินก็ยกมือขึ้นเกลี่ยแก้มนิ่มระเรื่อชมพูเบาๆ ยกยิ้มออกมาเมื่อมือเล็กที่กุมอยู่นั้นออกแรงบีบมือเขากลับทำเอาเกร็งไปหมด แนวฟันสวยที่ขบกัดริมฝีปากล่างแล้วพยายามเบือนใบหน้าหนีก็ทำให้หัวใจเต้นระรัวจนยากจะควบคุม ก็เพราะน่ารักแบบนี้ล่ะนะถึงทำให้คริสอยากได้รางวัลอยู่ตลอด และเพราะน่ารักแบบนี้ไงคริสถึงไม่ยอมยกคนหน้าหวานคนนี้ให้ใครง่ายๆ...
…THE WIZARD…
*** แฮ่ๆ อารมณ์ชั่ววูบ 5555555 พอตมาก็แต่งเลย >//////<
ไม่อยากให้เรื่องนี้เงียบหายไป เรื่องนี้เลย์ถูกตลอดจริงๆนะ 5555555
พี่คริสผิดเสมอ ง้อแฟนตลอดเวลา งุ้ยยยย!!
อาจไม่ดีพอ เพราะสำบัดสำนวนตื่อไปหมด TT
สุดท้ายก็ฝันดีนะคะทุกคน ^^
ความคิดเห็น