ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO FIC] ADOLESCENT (KRISLAY FT. HUNHAN)

    ลำดับตอนที่ #16 : ll ADOLESCENT 16 ll 100%

    • อัปเดตล่าสุด 6 ก.ย. 56










    ADOLESCENT 16




     




    ความเงียบเชียบบนโต๊ะอาหารกับร่างทั้งสองที่นั่งกันคนละฝากฝั่ง อีกคนเอาแต่เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างส่วนอีกคนก็ก้มใบหน้าน่ารักเขี่ยข้าวในจานไปมา ถึงจะผ่านบทรักกันมาแล้วนึกว่าจะเข้าใจกันได้เสีย อยู่ๆความเขินอายกลับเข้าสุมจนไม่สามารถเข้าหน้ากันติด ใช่ว่าไม่เคย แต่ครั้งนี้ความรู้สึกมันแปลกออกไป


    ทำไมถึงรู้ว่าฉันอยู่ที่นี่?” เงียบกันอยู่นานเสียงทุ้มจึงเอ่ยถาม เห็นอีกคนมาอยู่ตรงหน้าไม่ทันได้ทักถามถึงความเป็นมาก็สร้างบทรักครั้งใหญ่จนลืมมันไปเสีย



    คริสบอก



    ว่าแล้วเชียวเหลือบมองใบหน้าน่ารักแวบนึงก็เบือนหนีไปอีกทาง เซฮุนน่าจะเอะใจตั้งแต่แรกแล้วว่าลู่หานหาเขาเจอได้ยังไง ไม่พ้นก็เพื่อนสนิทตัวดีเขานั่นเอง



    ถ้าไม่ถามคริสแล้วจะรู้ไหมล่ะว่านายหนีฉันมาไกลขนาดนี้



    ไม่ได้จะหนีสักหน่อย



    ยังจะเถียงอีก!” ลู่หานถึงกับถอนหายใจกับอีกคนที่ไม่คิดจะยอมรับ

     


    หลังบางเอนพิงกับพนักเก้าอี้ สองแขนยกขึ้นสอดประสานกันไว้แนบอก ส่งสายตาคาดโทษอีกคนที่ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดีๆก่อน ไม่ได้คิดถึงใจเขาเลยว่ามันเจ็บปวดมากแค่ไหน คิดไปแล้วว่าอีกคนกำลังจะทิ้งกันไป แต่ถ้าเป็นเรื่องของครอบครัวทำไมเซฮุนถึงไม่คิดจะปรึกษากัน



    จะไปไหนกันดี?” อยู่ๆเซฮุนก็โพล่งขึ้นถามทำเอาลู่หานถึงกับมึนงง เดาอารมณ์ยากทั้งยังจับต้นชนปลายไม่ถูก



    ไปไหนคือ?”



    ก็แฟนตามมาทั้งที อยากเที่ยวกับแฟน


    พูดเสร็จก็เสมองไปทางอื่นพลางอมยิ้มที่มุมปาก ส่งผลให้คนตัวเล็กที่นั่งหน้าบูดบึ้งตรงข้ามกันในตอนแรกถึงกับลอบยิ้มออกมาได้อย่างง่ายดาย คบกันมาก็ใช่ว่าจะวันสองวัน ไหงเวลาแบบนี้มันถึงเคอะเขินจนอยากจะมุดหน้าหายไปกับผ้าปูโต๊ะเสียให้ได้




    ไปไหนก็ไปดิสั้นง่ายได้ใจความ แต่คนอย่างลู่หานน่ะหรือจะไม่เรื่องมากเรื่องเยอะยอมเซฮุนเอาง่ายๆแบบนี้



    แฟนอยากไปไหนล่ะ?”



    เอาเถอะว่าตอนนี้ลู่หานไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว คำว่า แฟน ของเซฮุนที่เปล่งออกมาไม่หยุดหย่อนทำเอาหัวใจดวงเล็กลิงโลดลุกขึ้นเต้นโครมครามไม่เป็นจังหวะ ทั้งใบหน้าน่ารักก็เจือสีระเรื่ออ่อนจนเซฮุนนึกเอ็นดู ก็ตั้งแต่คบกันมาคำว่าแฟนเคยหลุดออกจากปากสักครั้งไหมก็ไม่มี แล้วแบบนี้จะไม่ให้ลู่หานเขินได้ยังไง



    ไม่ใช่คนแถวนี้ไม่รู้หรอก มีที่ไหนน่าไปบ้างล่ะ?”



    นั่นสินะ ฉันก็ไม่ใช่คนแถวนี้



    อ่าวถึงกับเหวอเมื่อไอ้คนที่ชวนไปเที่ยวคล้ายว่าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับที่นี่เลย



    ไม่เป็นไร ไปเดินเล่นก็ได้ อากาศที่นี่ดีกว่าที่โซลเยอะ ฉันว่านายต้องชอบแน่ๆ



    อื้อ ก็เอาสิ


    ตอบแค่นั้นใบหน้าหวานก็รีบก้มงุดมองข้าวในจานอย่างรวดเร็ว อีกแล้วที่สายตาของเซฮุนยังเอาแต่จับจ้องมายังเขาตลอดเวลา แค่จะเหลือบตาขึ้นมองตอบกลับลู่หานก็ยังไม่กล้า ก้อนเนื้อในอกซ้ายมันชวนสร้างอาการบ้างอย่างให้เกิดขึ้น ถึงแม้จะเป็นแบบนี้ทุกครั้งไป แต่ครั้งนี้ก็บอกแล้วว่ามันไม่เหมือนเดิม




    นายพูดน้อยแบบนี้ก็น่ารักไปอีกแบบ เห็นทุกทีโหวกเหวกโวยวายเสียงดังแสบแก้วหูไปหมด



    มือบางเผลอกระแทกช้อนและส้อมที่ถืออยู่ลงกับจานข้าวจนเกิดเสียง ถอนหายใจออกมาก่อนจะเบือนใบหน้าน่ารักหนีคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างไม่ไยดี หมดอารมณ์จะกินมันแล้วไอ้ข้าวเนี่ย เจอคำพูดไม่เข้าหูชวนให้ความอยากอาหารน้อยลงในทันตา



    ปกติชอบคนสงบปากสงบคำก็เพิ่งจะรู้เสียงหวานแอบบ่นค่อนขอดประชดประชัน ใช่สิก็ลู่หานคนนี้มันปากดี เสียงดังโหวกเหวกโวยวาย แค่นี้ไม่พอใจหรือยังไงกัน



    ก็ไม่ได้บอกว่าตอนเสียงดังไม่น่ารัก



    เจอประโยคชวนวูบไหวในใจก็ถึงกับเหล่ตามองอีกคน ปากบางเม้มเข้าหากันแน่น เชิดหน้าเล็กน้อยให้รู้ว่าคำพูดแบบนี้น่ะลู่หานไม่ได้หายงอนง่ายๆหรอกนะ




    คำพูดแก้ตัวไม่ค่อยอยากฟังเท่าไหร่ ชอบแบบเรียบร้อยน่ารักสินะ ก็เรามันคนป่าเถื่อนชอบความรุนแรง ไม่พอใจก็ใส่ลูกเดียวเลยไม่ตรงสเป็กใครบางคน


    เสียงหวานเอ่ยเสียยืดยาวทำเอาเรียวปากรูปกระจับของคนตัวสูงเผยยิ้มนึกเอ็นดู นี่คงจะน้อยใจกันถึงได้เอ่ยคำพูดแทงใจดำถึงขนาดนี้ แต่นั่นเซฮุนรู้ดีว่าอีกคนพูดมามันหมายถึงอะไร เจองอนก็คงต้องง้อใช่ไหมล่ะ




    ทำยังไงคนน่ารักจะหายงอน อยากได้อะไรเซฮุนจะหาให้



    คิดว่าแค่นี้จะซื้อใจได้หรือยังไง เสียใจแล้วเอากลับคืนมาไม่ได้หรอก


    คมคายเสียเซฮุนต้องส่ายหน้าไปมา ลู่หานก็ยังใจแข็ง นี่ตกลงตามเขามาเพราะอยากอยู่ด้วยกัน หรือตามมาเพื่อทะเลาะเรื่องเล็กน้อยกันแน่




    แล้วฉันต้องทำยังไงล่ะ ลู่หานคนดีจะยอมให้อภัย?”




    กล้าทำให้เสียใจเรื่องแค่นี้คงคิดเองได้


    ใบหน้าน่ารักเชิดขึ้นอีกครั้งทำให้เซฮุนต้องลอบยิ้มอยู่คนเดียว อยากจะหัวเราะเสียมันต่อหน้า แต่ถ้าทำแบบนั้นมีหวังได้โดนลู่หานโกรธเข้าจริงๆ





    แล้วแบบนี้จะหายงอนไหมนะ?”  



    เซฮุนเอียงศีรษะทำท่าครุ่นคิด จ้องอีกคนทั้งรอยยิ้มก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูง โถมตัวเข้าไปหาคร่อมเก้าอี้ที่อีกคนนั่ง ยืนค้างท่านั้นมองคนน่ารักโดยไม่พูดอะไรอีกเลย เห็นจะมีเพียงรอยยิ้มและสายตาเจ้าเล่ห์เท่านั้นที่ไหวระริกให้ได้เห็น



    อะไรล่ะ?” เห็นคนตัวสูงคร่อมกายอยู่ตรงหน้าก็รีบหันตัวหนี ใบหน้าน่ารักงองุ้มทำให้เซฮุนเริ่มอดรนทนไม่ไหว ก็ถ้าลู่หานจะน่ารักแบบนี้เขาจะทนได้ยังไงกัน

     


    ไม่รอช้าก็ส่งปลายจมูกโด่งไปคลอเคลียที่แก้มใสอมชมพู ฝังทั้งจมูกและริมฝีปากฉกฉวยความหอมละมุนเข้าไปจนเต็มปอด หากแต่ยังค้างอยู่แบบนั้นทำท่าว่ายังไม่พอใจ จนคนน่ารักที่นั่งนิ่งอยู่ในต้องแรกต้องหดคอหนีเป็นพัลวัน




    วันนี้หอมจังเลยนะเอ่ยประชิดข้างแก้มนิ่มก็ทำเอาเจ้าของร่างเล็กต้องกัดริมฝีปากด้วยความเคอะเขิน



    ฉันก็หอมทุกวันแต่คนแถวนี้ไม่เคยจำได้



    หอมทุกวันแต่วันนี้หอมกว่าวันอื่นๆ ไม่เชื่อก็ได้แค่คิดยังไงก็เลยพูดไปอย่างนั้น


    เอ่ยออกไปสายตาคมก็ไม่ละออกจากใบหน้าแต้มสีของคนน่ารักเลยสักนิด ลู่หานน่ารักจนเซฮุนไม่อาจยืนมองอยู่เฉยได้จริงๆ

     


    มือหนาส่งไปรั้งคางมนของคนที่เอาแต่เคอะเขินให้เงยขึ้นสบตา เหลือบมองสำรวจเรียวปากอิ่มยั่วเย้าก็ไม่รอช้าทำอย่างที่ใจสั่ง โน้มตัวเข้าหาฉกชิงความหอมหวานจากอีกคน แตะสัมผัสค้างเนิ่นนาน ดูดเม้มแผ่วเบาทำเอาคนถูกกระทำร้องครางในลำคออื้ออึง

     


    ส่งลิ้นอุ่นควานหาทุกอณูในโพรงปาก ความหวานทำเอาเซฮุนไม่อาจเลิกลาปล่อยริมฝีปากสวยให้เป็นอิสระได้เลยแม้แต่วินาที เห็นอีกคนหลับตาพริ้มทั้งลมหายใจที่ขาดห้วงตามแรงอารมณ์ก็ถึงกับพอใจ แบบนี้ไม่หายงอนกันก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วนะลู่หาน

     




    คนน่ารักของเซฮุนจะหายงอนหรือยังก็ไม่รู้?”

    ผละริมฝีปากออกก็พูดมันเสียตรงๆ ใบหน้าที่ว่าเห่อแดงอยู่แล้วกลับขึ้นสีจัดชัดเจนขึ้นไปอีก นั่นแหละที่ทำให้เซฮุนใจเต้นระรัวจนแทบจะหลุดออกมานอกอก



    ฉวยโอกาส!” ว่าไปก็สวนทางกับการกระทำ ลู่หานกำลังจะหัวใจวายตายเซฮุนจะรู้บ้างหรือเปล่า



    ฉวยโอกาสคืออะไรฉันไม่รู้จัก? เคยซะที่ไหนเพราะทุกครั้งก็ทำต่อหน้าแล้วจะเรียกว่าฉวยโอกาสได้ยังไง



    ก็เพราะว่ายังไม่ได้รับอนุญาตนั่นแหละเรียกว่าฉวยโอกาส



    นายไม่ได้พูดแต่การกระทำนายมันฟ้องว่าให้ฉัน



    เซฮุน!”



    ครับ?”



    ไม่รู้ว่าไอ้อาการงอนง้อแบบนี้จะจบไปเมื่อไหร่ ก็เล่นไม่มีใครยอมใครเรื่องมันถึงบานปลาย แต่นั่นก็ดูท่าว่าจะเริ่มเข้าสู่โหมดปกติกันอย่างช้าๆ ลู่หานพูดเยอะทั้งขี้หงุดหงิดเหมือนเดิมส่วนเซฮุนก็พลอยได้เปรียบอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเผลอหรือไม่เซฮุนได้กำไรทุกครั้งไป ถึงจะเถียงกันจนยากจะทำความเข้าใจแต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับอย่างไม่มีข้อแม้ว่าเรื่องมันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่แรกแล้ว...

     







    …ADOLESCENT…

     







    อู๋ฟานตื่นได้แล้ว




    มือเล็กส่งไปเขย่าที่ต้นแขนแกร่งของคนรักที่โอบกอดเขาอยู่หวังปลุกให้ตื่น ได้นอนตอนแปดโมงเช้าตื่นมาอีกทีบ่ายสามไม่รู้ตัวปรานว่านอนกินบ้านกินเมือง

     

    คนที่นอนโอบกอดร่างเล็กอยู่ก็ไม่อยากแม้แต่จะขยับกาย งัวเงียร่ำรี้ร่ำไรเพราะอาการเมาค้างยังไม่หายดี ถึงจะสร่างเมาไปบ้างแล้วแต่นั่นร่างกายยังไม่พร้อมกับการใช้ชีวิต หากเป็นเพราะคนหน้าหวานหรอกนะคริสถึงยอมเปิดเปลือกตาขึ้นมอง ก็อยากเห็นหน้าอีกคนถึงยอมแต่โดยดี




    ไม่เหนื่อยบ้างหรอ? นอนต่ออีกนิดเถอะพูดทั้งที่ยังไม่คล้ายออมกอดคนตัวเล็กให้เป็นอิสระ ร้อนถึงอีกคนที่ตื่นจนไม่อาจข่มตาหลับได้ต้องผ่อนลมหายใจพลางกลอกม่านตาอย่างเหนื่อยใจ




    ตื่นเถอะ ตั้งแต่เช้ายังไม่ได้กินอะไรเลยนะ ไม่หิวบางหรือไง?”




    กินนายอิ่มแล้ว ไม่หิวเลยสักนิด




    ทะลึ่ง!” ปากก็ก่นว่าคนตัวสูง หากแต่ใบหน้าหวานที่ขึ้นสีอ่อนกลับรีบฟุบเข้าหาอกแกร่งในทันที



    มือหนายกขึ้นลูบหัวทุยของคนขี้อาย อดจะยิ้มไม่ได้เพราะความน่ารักแกมแข็งกระด่างก็ยังคงเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดเขาอยู่ดี คริสไม่รู้ตัวเลยว่าทำไมถึงรักเลย์ได้มากขนาดนี้ ตั้งแต่ได้พบเจอความรู้สึกที่เคยมีก็ไม่เคยเปลี่ยนแปลง




    ใครทะลึ่งกัน? ทะลึ่งได้ก็แฟนนายนะ




    ลืมไปแล้วว่าเคยมีแฟน

    เสียงหวานที่อู้อี้พูดไปกับอกแกร่งทำให้คริสยิ้มกว้าง ปากว่าไปทว่าแขนเล็กกลับโอบรอบเอวเขาไว้แน่นเชียวล่ะ ก่อนอยากจะนึกแกล้งใบหน้าหล่อจึงตีนิ่งแล้วไม่พูดไม่จาต่อบทสนทนากับอีกคนอีกเลย




    ..................


    ความเงียบทำให้คนหน้าหวานที่พูดประโยคเมื่อครู่เริ่มขยับตัว เมื่อเห็นว่าคริสไม่มีท่าทีตอบกลับมาก็ถึงกับใจไม่ดี เข้าใจไปแล้วว่าคงจะไม่พอใจเป็นแน่ ก่อนจะค่อยๆผละใบหน้าออกจากอกแกร่ง เหลือบม่านตาขึ้นมองอีกคนก็เห็นว่าใบหน้าหล่อนั้นไร้ซึ่งความรู้สึกอย่างสิ้นเชิง




    โกรธหรอ?” รีบเอ่ยถามเพราะในใจมันร้อนรุ่มจนบอกไม่ถูก เลย์เพิ่งจะรู้ตัวเหมือนกันว่าแคร์อีกคนมากแค่ไหน




    “………….” คริสยังคงเอาแต่เงียบนิ่ง หลับตาลงแล้วไม่ตอบอีกคนเหมือนอย่างเคย




    อู๋ฟาน...โกรธฉันหรอ? ไม่ได้ตั้งใจสักหน่อยยกมือเล็บทาบไปกับเรียวหน้าหล่อของคนที่นอนหันหน้าเข้าหาก็เอ่ยถามอีกครั้ง ทำท่าเบ้ปากว่าจะร้องไห้ บ้าบอไหมล่ะเรื่องแค่นี้ก็ต้องงอนกันด้วย




    “…………..”




    อู๋ฟาน….”




    เมื่อเอ่ยเรียกคนรักแล้วยังนิ่ง ความร้อนรุ่มก็ทำให้เลย์ใจเย็นอีกต่อไปไม่ได้ ยกศีรษะขึ้นเล็กน้อยแล้วโน้มใบหน้าเข้าหา กดจูบทาบทับเรียวปากได้รูป แตะสัมผัสเพียงชั่วครู่ก่อนจะผละออก แต่นั่นมันก็ได้ผลเมื่อนัยน์ตาคู่คมค่อยๆเปิดขึ้นมองสบกันอีกครั้ง




    ทำอะไรน่ะ ลักหลับคนอื่นต้องโดนเอาคืนนะรู้ไหม?”




    นี่แกล้งกันหรือไง เจ้าเล่ห์แบบนี้ฉันโกรธคืนบ้างดีไหม?”

    พูดแค่นั้นใบหน้าหวานก็หันเลี่ยง ปากบางเม้มเข้าหากันเป็นเส้นตรงทั้งยังไม่คิดจะเอ่ยพูดกับคนขี้แกล้งอีกเลย ร้อนถึงคนที่นึกสนุกในตอนแรกต้องรีบโอ๋เป็นการใหญ่




    ไม่เอาอย่าโกรธนะเมื่อครู่แค่ล้อเล่น ถ้าเป็นเวลาอื่นฉันอาจโกรธจริงๆก็ได้ แต่ในเวลานี้มีนายอยู่ข้างกายใครจะไปโกรธลง



    ว่าแล้วก็จุ๊บเบาๆที่ริมฝีปากสวยไปหนึ่งทีแล้วรีบผละออก ทำเอาคนตัวเล็กหน้าร้อนฉ่าจนต้องยกมือปิดเพื่อบดบังใบหน้าขึ้นสี แต่นั่นไอ้คนฉวยโอกาสก็ไม่วายประทับริมฝีปากกดจูบที่มือเล็กซ้ำแล้วซ้ำเล่า ย้ำทำจนต้องผละมือออกแล้วมองค้อนเสียยกใหญ่




    ก็เป็นเสียแบบนี้ฉันถึงเปลืองเนื้อเปลืองตัวได้ตลอด

    เลย์บอกได้เลยว่าที่พูดน่ะจริงทุกประการ อยู่กับคริสเสียเปรียบมากกว่าได้เปรียบ ไม่ว่าจะทำอะไรคนเจ้าเล่ห์อย่างคริสมีหรือจะพลาดแม้แต่ครั้ง ถ้าเขาไม่แรงไปถึงขั้นโกรธเป็นจริงเป็นจังอีกฝ่ายก็ทำเอาหัวใจรัวกลองได้ตลอด



    เปลืองให้ฉันคนเดียวจะเป็นไรไป ลองเปลืองให้คนอื่นไม่รอดแน่




    ใครที่ว่าไม่รอด?” พูดเสร็จก็จ้องเขม่นคนตัวสูง ส่งสายตาบอกย้ำว่าให้คิดก่อนแล้วตอบดีๆ




    ก...ก็คนอื่นไงไม่รอด ใครมายุ่งกับแฟนฉันมันไม่รอดแน่ๆ

    คริสช่างแถไปเรื่อย โรคกลัวเมียมันกำเริบเพียงแค่สายตาหวานจ้องมองมา ใจหายวาบซ้ำยังเกิดอาการหน้ามืดไปชั่วขณะ แบบนี้ไม่เรียกกลัวเมียแล้วเรียกว่าอะไร




    แล้วไป! ถ้างั้นก็ลุกไปอาบน้ำได้แล้ว คืนนี้นอนไม่หลับแน่ๆ แล้วจะตื่นไปเรียนไหวไหมก็ไม่รู้




    พรุ่งนี้ต้องไปเรียนด้วยหรอ? หยุดต่อเลยได้ไหม



    ก็พรุ่งนี้วันจันทร์ ใกล้สอบปลายภาคแล้วอย่าขี้เกียจเลยเชียว



    ครับผม


    คริสตอบเสียงอ่อยครวญคราง มองคนตัวเล็กที่ค่อยๆผละออกจากอ้อมแขนของเขาแล้วลุกขึ้นนั่งก็ต้องส่งมือไปให้อีกคนช่วยดึงเพื่อลุกออกจากที่นอน อยู่แบบนี้นานๆมีหวังได้สร้างรากยากจะถอนโคลน

     



    กายสูงเดินตามคนรักเขาไปในห้องน้ำก็เห็นอีกคนยืนบีบยาสีฟังอยู่หน้ากระจก ส่งแปรงสีสดใสอันใหม่ที่เพิ่งแกะกล่องให้เขาเจ้าตัวเล็กก็ช่างน่ารักบีบยาสีฟันให้ด้วยอีก ยืนคู่กันหน้าอ่างล้างหน้าแล้วจัดการกับตัวเองไปอย่างพร้อมเพรียง มองเห็นเงาสะท้อนในกระจกใสคริสก็อดจะยิ้มในใจเสียไม่ได้ ในตอนนี้กำลังยืนข้างกายอีกคน ใช้ชีวิตในแต่ละวันไปด้วยกัน หัวใจที่เต้นเป็นจังหวะเดียวกันทำให้เขามีความสุข สุขที่ไม่คิดว่าคนที่ไม่พบเจอกันแสนนานจะกลับมายืนข้างกันได้อีกในวันนี้




    เหมาะมากเลยนายว่าไหม?” คริสโพล่งขึ้นหลังจากล้างคราบยาสีฟันที่ขอบปากออกจนหมด เห็นคนตัวเล็กที่ตอนนี้หยิบผ้าขนหนูมาเช็ดหน้าแสดงอาการมึนงงก็ต้องยกยิ้มอีกครั้งด้วยความเอ็นดู




    เหมาะอะไรของนาย?”



    เราอ่ะเหมาะสมกันดีเนอะ



    ทีแท้ก็นึกว่าอะไร เพียงแค่ได้รับรู้ใบหน้าหวานก็เห่อแดงอีกครั้ง กี่รอบของวันไม่อาจนับได้ ตั้งแต่เมื่อคืนยันช่วงเย็นของวันนี้ทุกอย่างมันทำให้เลย์เหมือนว่าตัวโตขึ้น หัวใจพองโตจนยากจะแฟ่บแบน คริสที่เขาเคยมองว่าเย็นชาบัดนี้เป็นคริสคนเดิมที่เลย์เคยรู้จัก คนที่ไม่เคยเปลี่ยนไปในสายตา



    เหมาะแล้วไง?”

    เลย์เอ่ยถามทั้งเบือนใบหน้าหลบหนี แต่นั่นหันไปทางไหนไม่หันดันหันหน้าเข้ากระจกสะท้อนร่างตัวเองเสียอย่างนั้น เห็นใบหน้าที่แดงระเรื่อก็ต้องเขินอายเป็นสิบเท่า เพิ่งรู้ว่าเวลาเขินเขามีอาการแบบนี้ มิน่าล่ะคริสถึงชอบแกล้งให้เขินอายบ่อยนัก




    ก็ไม่แล้วไง เราสองคนเหมาะสมกันดีแค่นี้แหละที่จะบอก


    พูดแค่นั้นคริสก็ค่อยๆยางสามขุมเข้าหาคนตัวเล็กกว่า จ้องลึกสบสายตาจนทะลุทะลวง ส่งผลให้คนที่ถอยหนีไร้ทางหลีกเลี่ยงเมื่อสะโพกเล็กชนเข้ากับอ่างล้างหน้าจนตันทาง



    สองแขนแกร่งไม่รอช้ากักขังกายเล็กไว้ทันที โน้มใบหน้าเข้าหาก็ฝังปลายจมูกโด่งกดลงที่รอยบุ๋มข้างแก้มเบาๆ สูดกลิ่นหอมของโฟมล้างหน้าที่เจ้าตัวเล็กใช้ ผละออกมองใบหน้าหวานที่ขึ้นสีทั้งก้มงุดหลบซ่อนมัน เห็นแล้วก็อยากจะกอดรัดฟัดเหวี่ยงซะตอนนี้ แต่นั่นยังพอมีสำนึกอยู่บ้างถึงเป็นห่วงคนตัวเล็กจะไม่ไหว คริสอยากได้ทุกอย่างที่เป็นเลย์ ทุกอย่างเลยจริงๆ




    จ...จะอะไรนักหนาเล่า! นายก็ชอบเป็นแบบนี้บ่นค่อนขอดอีกคนก็เบ้ปากก้มใบหน้าอีกครั้ง พึมพำกับตัวเองจนคริสอยากจะขำออกมาให้ดังๆ น่ารักอีกแล้วนะ



    ฉันป็นแบบไหน? คนเป็นแฟนกันเขาก็ทำแบบนี้แหละ




    แต่กรณีนายมันบ่อยไป




    ไม่ชอบหรอ? งั้นทีหลังก็จะไม่ทำแล้ว




    ก็ไม่ใช่....


    หลุดปากพูดไม่ทันจบประโยคกลับเพิ่งคิดได้ ใช่! เลย์ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าชอบให้คริสทำแบบนี้ ชอบทุกสัมผัสที่มอบให้เขาโดยไม่มีข้อโต้แย้ง แต่พูดไปเข้าใจใช่ไหมว่ามันก็ต้องเล่นตัวกันบ้าง ยอมง่ายๆก็ถูกเอาเปรียบทุกครั้งน่ะสิ



    ก็ไม่ใช่อะไร หื้ม?” สองแขนยาวรวบเอวเล็กเข้าแนบชิดกาย กดจมูกลงที่ซอกคอขาวก็เลิกคิ้วรอคำตอบจากคนที่อ้ำอึ้งอยู่เมื่อครู่



    ..................



    โอเคเข้าใจแล้ว ไม่อยากให้ทำฉันก็จะไม่ทำ


    เมื่ออีกคนไม่ตอบคริสจึงเอ่ยหวังแกล้งคนตัวเล็ก แสร้งตีหน้าเศร้าพร้อมทั้งแขนแกร่งที่ค่อยๆคลายอ้อมกอดร่างเล็กให้เป็นอิสระ ทำท่าว่าจะถอยห่างออกมาแต่อีกคนกลับโพล่งประโยคที่ทำให้อึ้งขึ้นมาเสียอย่างนั้น







    แล้วทนได้หรอถ้าไม่ได้แตะเนื้อต้องตัวฉันน่ะ?”

    เลย์เล่นไม้เด็ดทำเอาคริสอ้าปากค้างตัวแข็งทื่อ คำพูดแบบนี้คริสบอกได้เลยว่าร้ายกาจ ความแข็งกระด้างเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว แล้วแบบนี้เขาคิดถูกไหมนะที่ดันไปล้อเล่นกับอีกคน





    อี้ชิง....




    ว่าไงล่ะ?”




    เอ่อ...อู๋ฟานขอโทษ

    พูดเสร็จก็โถมกายเข้ากอดอีกคนไว้แน่น ทำท่าว่าจะร้องไห้อยู่ร่อมร่อ


    เห็นแบบนั้นเลย์ก็อดจะนึกขำเสียไม่ได้ อยากมาล้อเล่นกับเขาเจอเล่นกลับบ้างทำหน้าเหมือนอยากจะตาย ให้รู้กันไปว่าใครจะแน่กว่ากัน



    อ่าว ขอโทษเรื่องอะไรหรอ?” แสร้งถามแค่นั้นเลย์ก็ผละกายออกห่าง ตีสีหน้าไร้เดียวสาจนคริสต้องเบ้ปากพลางก้มหน้ารู้สึกผิด


    เล่นอย่างนี้เลยหรอ? รู้อยู่แล้วใช่ไหมว่าฉันต้องทนไม่ได้ อี้ชิงใจร้าย!”

    งอนเสียยิ่งกว่าตุ๊ด และนั่นก็ทำเอาเลย์หลุดหัวเราะร่าออกมาอย่างเปิดเผย เห็นแล้วมันตลก คนตัวโตที่ดูภายนอกเย็นชาทั้งยังไม่เคยง้อใคร กลับมาตายคาอกเด็กใสซื่ออย่างจางอี้ชิง


    แล้วใครใช่ให้นายมาล้อเล่นกับฉันก่อนล่ะ


    ก็อยากเห็นนายต้องการฉันบ้างนี่นา ให้ฉันต้องการคนเดียวมันน่าน้อยใจนัก!”


    แล้วตอนนี้ฉันเหมือนไม่ต้องการนายหรอ หื้ม?”

    เอียงใบหน้าหวานเล็กน้อยก็กระพริบตาปริบมองคนตัวสูงนิ่ง ท่าทางน่าเอ็นดูเห็นแล้วคริสอยากจะอุ้มขึ้นเตียงอีกสักรอบ หัวใจคริสมันไม่เคยสงบสุขเลยสักครั้งตั้งแต่มีเลย์อยู่ใกล้ๆ

     



    รักนายจัง รักฉันให้นานๆด้วยนะอี้ชิง

    กายสูงก้มลงเล็กน้อยให้ใบหน้าอยู่ในระดับเดียวกับอีกคน ส่งมือเกลี่ยเข้าที่แก้มนิ่มก็ทำเอาอีกคนต้องหลุบนัยน์ตาหนีเพราะไม่อาจต้านทานได้  เลื่อนปลายนิ้วตามเรียวหน้าลงที่คางสวยก็รั้งให้เชิดขึ้นเล็กน้อย โน้มเข้าหาพลันกดจูบลุ่มลึกลงอย่างตั้งใจ ไม่ลุกล้ำไม่เอาเปรียบ อ่อนโยนที่สุดให้อีกคนได้รับรู้ ก่อนจะผละออกแล้วรั้งกายเล็กเข้ามาไว้ในอกอุ่น




    อู๋ฟาน เราจากกันมากี่ปีแล้ว?” เสียงหวานเอ่ยถามทั้งใบหน้าเอียงแนบกับแผงอกที่กระเพื่อมขึ้นลง เงยขึ้นเล็กน้อยพลางเหลือบมองคนที่เอ่ยถามอย่างรอคอยคำตอบ




    “12 ปี ทำไมหรอ?”

    คริสถึงกับนึกสงสัยที่อีกคนอยู่ๆก็เอ่ยถาม แต่นั่นเขากลับไม่เคยลืมสิบสองปีที่ผ่านมาเลยสักครั้ง ก็เล่นฝันถึงแต่เรื่องวัยเด็กกับใครอีกคนอยู่ตลอดตั้งแต่จากกันมา ช่วงเวลาที่แสนเลวร้ายทำให้เขาพลัดพราก แต่นั่นสุดท้ายฟ้าก็ลิขิตให้ได้เจอกันอีกครั้ง

     





     

    “12 ปีนานพอไหมที่ฉันยังรักนาย...

     



     

    สิ้นเสียงหวานคริสก็ถึงกับชะงักนิ่ง นี่มันเรื่องจริงหรือที่เลย์รู้สึกแบบนั้นไม่เปลี่ยนแปลง เหมือนหัวใจของเขาที่ยังเฝ้ารอวันที่ได้พบเจอกับอีกคนเสมอมา เรื่องนี้มันยากจะเข้าใจถ้าไม่ใช่สองเราแล้วล่ะก็ เป็นแบบนี้คริสต้องกอดเลย์ไว้ให้แน่น แน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเผลอคลายอ้อมกอดนั้นออกเมื่อไร เขาอาจจะเสียคนที่เขารักและคนที่รักเขาไปตลอดกาลเลยน่ะสิ

    .







    ...
    ADOLESCENT 50%…







     





    วันแรกของสัปดาห์ที่ใครก็ว่าเกลียดนักเกลียดหนา นั่นก็รวมถึงร่างสูงที่กำลังเดินเคียงข้างกายเล็กของคนรักมาด้วยใบหน้าไม่สู้ดีนัก มือหนากอบกุมมือนิ่มไม่คลาย ไหล่แกร่งขนาบไปกับไหล่เล็กเสียแนบชิดให้ได้รับไออุ่น ตลอดทางก็สร้างความสงสัยให้กับคนที่ได้พบเห็น เชื่อได้ว่าอีกไม่กี่นาทีคงจะเป็นประเด็นของคนทั้งโรงเรียนแน่นอน คริสผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเพลย์บอยจะจริงใจกับเลย์เด็กเรียนได้นานสักแค่ไหนกัน

     




    เชื่อแล้วว่าใครๆก็ไม่ชอบเช้าวันจันทร์เสียงหวานเอ่ยขึ้นทำเอาคนข้างกายต้องเหลียวมอง ก่อนใบหน้าหล่อจะหันเหตามนัยน์ตาคู่กลมที่จดจ้องอยู่กับร่างของใครบางคนไม่วางตา

     




    ทำไมมาพร้อมกัน?”

    หญิงสาวผู้เป็นเจ้าของปัญหาอยู่บ่อยครั้งเอ่ยถามด้วยความไม่ชอบใจ คล้อยตามองลงต่ำก็ถึงกับอยากจะปี๊ดแตก เห็นคนทั้งคู่จับมือถือแขนแบบนั้นก็เดาความสัมพันธ์ได้ไม่ยากอยู่แล้ว



    มาพร้อมกันแล้วมันเกี่ยวกับเธอหรือไง?”



    หญิงสาวถึงกับชะงักงันเมื่อคนที่พูดจาแบบนี้กลับเป็นเลย์ไม่ใช่หนุ่มหล่ออีกคน นั่นก็ทำให้เธอต้องสะบัดใบหน้าหนีไปอีกทางเพื่อระงับอารมณ์เมื่ออยู่ต่อหน้าคริส




    ก็เปล่า แค่จะถามคริสว่ากุญแจรถไม่อยากได้คืนแล้วหรอ?” ว่าแล้วก็ชูมันขึ้นแล้วสะบัดจนเกิดเสียง ยิ้มมุมปากเล็กน้อยอย่างคนที่เหนือกว่า แต่นั่นก็ดูท่าว่าจะไม่เป็นไปตามอย่างที่ใจต้องการ




    กุญแจรถหรอ? เธออยากได้ก็เอาไปสิฉันไม่หวง เอารถไปด้วยก็ได้นะ แม่รวยเดี๋ยวซื้อใหม่



    คริส!”




    เจสสิก้าไม่คิดว่าอีกคนจะพูดแบบนี้ ในอกมันสุมไปด้วยแรงโทสะจนต้องเบือนหน้าหนีไปอีกครั้ง ปากบางขบกัดริมฝีปากล่างจนเลือดแทบไหลซิบ เจ้าของรถไม่เคยสนใจเขาเลย เขาก็เป็นคนมีชีวิตจิตใจ ทำไมถึงใจร้ายได้ถึงเพียงนี้





    นายไม่มีใจให้ฉันสักนิดเลยหรอคริส?” เอ่ยถามไปก็ก้มหน้ามองพื้น เจสสิก้ากำลังอ่อนแอถึงแม้ว่าเธอจะรู้คำตอบของมันดี แต่เพราะว่ารักมาก ยอมให้ทั้งตัวและหัวใจ แต่กลับไม่ได้เผื่อใจไว้ว่าที่ผ่านมาเขาก็แค่ของเล่นแก้เหงาสำหรับคริสเท่านั้น

     





    ถ้างั้น...ฉันขึ้นห้องเรียนก่อนนะ


    เมื่อเห็นท่าว่าเรื่องมันกำลังยากขึ้นเลย์ถึงขอตัวออกมา ค่อยๆบิดมือเล็กจากการกอบกุมของอีกคนแต่นั่นคนที่กระชับมันอยู่กลับไม่คิดจะปล่อย




    ไม่เป็นไรอยู่ตรงนี้ก็ได้อี้ชิง



    ไม่ดีกว่า นายคุยเสร็จแล้วตามขึ้นไปห้องเรียนแล้วกัน ฉันโอเคเอ่ยบอกเสร็จเลย์ก็ต้องย้ำว่าเขาไม่เป็นอะไร กลัวว่าคนรักจะคิดมากแล้วเก็บไปสานต่อในทางที่ผิดๆเหมือนอย่างที่ผ่านมา

     




    หลังจากที่เลย์เดินจากไปความเงียบหวนเข้าปกคลุม เจสสิก้าเอาแต่ก้มหน้าส่วนคริสก็ได้แต่ยืนนิ่งไม่ต่อบทสนทนา เห็นแล้วว่าหญิงสาวสะอื้นไห้จนไหล่เล็กไหวแผ่วเบา แต่ทำยังไงได้ในเมื่อตอนนี้เขามีเจ้าของเป็นตัวเป็นตนแล้ว รักเดียวใจเดียวและไม่คิดจะมองใครนอกจากเลย์ที่รักมากหมดหัวใจ

     




    มีอะไรจะพูดกับฉันอีกไหม? ฉันต้องไปแล้วเมื่อเห็นอีกคนเอาแต่นิ่งคริสจึงเอ่ยถาม ยืนอยู่ตรงนี้นานๆเขาที่มีหัวใจก็รู้สึกผิดเป็นเหมือนกัน




    นายรักเลย์มากหรอคริส?” เอ่ยถามไปก็ยกมือเล็กขึ้นปาดน้ำตา เจสสิก้าเสียใจและรู้ว่าคำตอบที่ได้ก็คงเจ็บปวดไม่ต่างจากที่เป็นมาเสียเท่าไหร่




    อืม...รักแบบที่ไม่เคยรักใครมาก่อน




    คำตอบของคริสชัดเจนยิ่งกว่าสิ่งใด ไม่อ้อมค้อมคิดยังไงพูดออกไปอย่างนั้น ทำเอาหญิงสาวตรงหน้าต้องปล่อยหยาดน้ำสีใสให้ไหลกลิ้งลงตามแก้มนวลอีกระลอก





    นายเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ อยู่กับนายมาก็นานเพิ่งรู้ว่าจริงจังกับเรื่องแบบนี้เป็นด้วย คิดว่าจะรักฉันบ้างเห็นว่าไม่เคยรักใคร แต่ในใจกลับมีใครคนนั้นอยู่ตลอดเวลาเลยสินะ



    ขอโทษ ฉันเพื่อใจให้ใครไม่ได้อีกแล้ว อี้ชิง...เอ่อ เลย์ไม่ผิดเพราะเขาไม่ได้แย่งฉันไปจากเธอ แต่เป็นเพราะฉันเองที่เดินเข้าไปหาเขา ฉันรักเขาและรักมานานมากแล้ว




    นาน? หมายความว่ายังไงที่นายบอกว่านาน


    ใบหน้าสวยแสดงออกว่าไม่เข้าใจอย่างชัดเจน หยาดน้ำที่ไหลก็ปล่อยให้มันเปรอะเปื้อนจนล้างเครื่องสำอางบนใบหน้าเสียเกือบหมด ได้ยินแบบนั้นก็ยิ่งปวดใจ แต่ทำยังไงได้ในเมื่อเดินมาไกลมากแล้วเลยไม่อยากจะถอยแม้แต่ก้าวเดียว






    บางทีเธอคงไม่เข้าใจ ฉันกับเลย์รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ฉันรักเขาตั้งแต่ยังไม่รู้จักคำว่ารักดีเลยด้วยซ้ำ




    พูดแค่นั้นคริสก็เดินผ่านหญิงสาวไปอย่างเรียบนิ่ง ไม่หันมองแม้แต่สบตาก็ไม่มี ทำเหมือนไร้หัวใจ ไร้ซึ่งความเห็นใจให้อีกคน แต่นั่นคริสไม่ได้ใจร้ายหรอกนะ เขาทำถูกแล้ว ยิ่งดีด้วยอีกคนก็จะเลยเถิด สู้ตัดไฟเสียตั้งแต่ต้นลมมันคงจะจบง่ายดี ถึงแม้จะช้าเกินกว่าจะแก้ไขอะไรให้มันดีขึ้นได้แล้วก็ตาม

     




    ด้านหญิงสาวเมื่อเข้าใจก็ถึงกับทรุดตัวลงนั่งพลางยกมือขึ้นปิดหน้าร่ำไห้ไม่แคร์สายตาใคร เจ็บยิ่งกว่าครั้งก่อนเมื่อเห็นคนที่มอบหัวใจไปให้จนหมดเมินเฉยไร้ความรู้สึก ได้แต่พยักหน้าให้กับตัวเองเมื่อทุกสิ่งอย่างชัดเจนจนไม่อาจหลอกตัวเอง เขาแพ้แล้ว แพ้ผู้ชายที่ดูเหมือนไม่มีอะไรเลยอย่างเลย์เสีบราบคาบ

     

     .

    .

    .




    คริสเดินเข้ามาในห้องเรียนสิ่งแรกที่เขาทำก็คือการมองหาร่างเล็กที่คุ้นเคย คนที่ใจกว้างให้เขาคุยกับผู้หญิงคนอื่นถึงแม้เจ้าตัวจะรู้สึกไม่ดีก็ตาม ปากบอกว่าไม่เป็นไรแต่นั่นคนอย่างคริสมีหรือจะดูไม่ออก ทั้งสายตาและสีหน้าของเลย์มันแสดงออกอย่างชัดเจนเสียขนาดนั้น

     


    ทำอะไรอยู่?”



    ยังไม่ทันได้วางสัมภาระก็เดินไปที่โต๊ะคนน่ารักแล้วเอ่ยถาม มือซ้ายเท้าไปกับเก้าอี้ส่วนอีกมือวางลงบนโต๊ะ โน้มตัวลงเข้าหาก็จ้องมองเสี้ยวหน้าหวานของคนรักอย่างรอคอยคำตอบ





    กำลังเตรียมตัวเรียนน่ะ



    โอเคหรือเปล่า?” คริสเอ่ยถามเพื่อความมั่นใจ เห็นอยู่หรอกว่าอีกคนพยายามทำเหมือนว่าปกติดีทั้งที่หัวคิ้วขมวดเข้าหากันจนเป็นปมซะขนาดนั้น




    ก็ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย แต่นายใจร้ายกับเจสสิก้าไปหรือเปล่า? เธอร้องไห้นะฉันเห็น


    เงยใบหน้าหวานขึ้นก็กระพริบตาปริบดูท่าเป็นห่วงคนที่ถูกหักอก เห็นแบบนั้นคริสก็อดจะยกยิ้มเสียไม่ได้ ทำไมแฟนเขาถึงเป็นห่วงความรู้สึกของคนอื่นมากกว่าความรู้สึกของตัวเองแบบนี้นะ




    แล้วจะให้ฉันทำยังไง มีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้วเลยไม่อยากยุ่งกับใคร ตัดปัญหาแบบนี้น่ะดีแล้ว ฝ่ายนั้นเองจะได้ไม่หวังจนต้องเจ็บอีก ฉันไม่ได้ใจร้ายแต่ถ้ายังเป็นแบบนี้ก็กลัวแฟนจะงอนแล้วมีปัญหาบานปลาย



    คำพูดยืดยาวทำให้เลย์เผลอลอบยิ้มกับตัวเอง ก้มใบหน้าขึ้นสีลงทำท่าหาของให้กระเป๋าเป้ใบโปรดโดยไม่รู้เลยว่าอีกคนน่ะดูออกหมดแล้ว น่ารักจนคริสอดใจไม่ไหว แต่ยังคิดได้ที่นี่มันห้องเรียนเลยต้องอดเปรี้ยวไว้กินหวานหลังเลิกเรียนเสียดีกว่า





    เป็นเพราะความเจ็บปวดมันรักษายาก กว่าจะเป็นปกติไม่ใช่ง่ายๆ เพราะเคยเป็นเลยเข้าใจคนที่ถูกหักอกดีที่พูดมาเลย์เจาะจงยังคนตัวสูงที่ยื่นหน้ามาใกล้นั้นจังๆ เพราะเคยเจ็บปวดมาแล้วถึงรู้ดี แล้วความเจ็บปวดนั้นก็มาจากคนตัวสูงที่คอยกุมมือกันในวันนี้นั่นเอง



    เคยเจ็บเหมือนกันยังไม่พูดเลย คนน่ารักแถวนี้ก็เคยทำให้เจ็บปวดเหมือนกันล่ะน่า ตามง้อถึงหน้าบ้านก็ใจร้ายไม่คิดจะเหลียวแล โดนซ้อมจนหน้าหล่อๆดูไม่ได้ยังไม่อยากจะคุย



    ขนาดไม่คุยก็ใส่มาซะยืดยาว เรื่องมันแล้วไปแล้วก็ปล่อยมันเถอะ กลับไปที่โต๊ะได้แล้วอาจารย์มาแล้วนั่น


    เอ่ยไล่คนรักก็พยักเพยิดใบหน้าหวานไปทางหน้าห้องบอกคนตัวสูงได้รู้ แต่นั่นไอ้คนหล่อมันก็เอาแต่ร่ำรี้ร่ำไรไม่ไปไหนสักทีจนต้องขมวดคิ้วสงสัยแล้วเอ่ยถามทางสายตา




    ไม่มีรางวัลหรอ?” คริสก็ยังเป็นคริสอยู่วันยันค่ำ อดเปรี้ยวไว้กินหวานคงไม่ไหว ขอกำลังใจในการเรียนก่อนคงมีสมาธิจดจ่อน่าดู




    บ้าหรือไงอู๋ฟานคนเต็มห้อง?”




    นายไม่ให้ก็จะไม่ไป จะยืนอยู่ตรงนี้แหละ อาจารย์อยากว่าก็ว่าไปไม่เคยสนใจอยู่แล้ว

     

    สิ้นเสียงทุ้มเลย์ก็ถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ กวาดม่านตามองเพื่อนร่วมห้องด้วยความหวาดระแวงว่าจะมีใครเห็นหรือเปล่า ก่อนจะจุ๊บเบาๆที่ข้างแก้มอีกคนอย่างรวดเร็ว ผละออกก็รีบก้มหน้างุดทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทำเอาคริสที่มองดูอยู่ต้องฉีกยิ้มเสียแก้มปริแล้วสาวเท้ากับไปนั่งหย่อนกายลงที่โต๊ะของตัวเองอย่างพอใจ

     





    แน่ะๆ อะไรของมึงครับไอ้คริส?”


    กลับมาไม่ทันจะได้นั่งลงกับที่ดีเพื่อนข้างกายก็เอ่ยถาม ไม่วายยังหรี่ตาจับผิดด้วยอีก




    ไม่เห็นได้ทำอะไรเลย ก็คุยกันตามปกติ




    เรอะ? กูเห็นเต็มสองตาอ่ะไอ้หล่อ ออเซาะซะนึกว่าผีเข้า นี่ใช่มึงจริงๆป่ะเนี่ย?”

    มองสำรวจเพื่อนตัวสูงแบคฮยอนก็ถึงกับนึกหวั่น คริสเปลี่ยนไปเยอะตั้งแต่ให้ใจกับใครบางคน และคนๆนั้นแบคฮยอนก็รู้ดี





    แปลกหรอวะคนเป็นแฟนกันจะทำแบบนี้?”

     

    คิ้วเรียวยักขึ้นส่งให้เพื่อนตัวเล็ก ยกยิ้มมุมปากก็ทำเอาแบคฮยอนถึงกับอ้าปากค้างใบ้รับประทาน มันพัฒนากันไปตอนไหนทำไมเขาถึงไม่รู้




    เชี่ยเจ๋งว่ะ! มึงนี่อยากได้ก็ได้เลยเนอะ



    อะไรของมึงแบคฮยอน คนนี้กูจริงจัง ไม่เล่นๆเหมือนเมื่อก่อนนะขอบอก



    ไอ้จงอินก็โทรมาเล่ากูอยู่ว่าเลย์ไปลากมึงออกจากผับ คิดแล้วเชียวถ้าเป็นแค่เพื่อนจะไปตามมึงทำไม ปล่อยแม่งให้โดนรุมโทรมซะจะได้เข็ด โอ้ย!”


    แบคฮยอนร้องเสียงหลงเมื่อปากกาในมือหนาของเพื่อนตัวสูงส่งมาเคาะเข้ากลางกระบานอย่างจัง พูดความจริงเขาผิดด้วยหรือ ถ้ามันจริงแล้วทำไมคริสต้องทำร้ายร่างกายเขาด้วยก็ไม่รู้




    กูจะโดนรุมโทรมเพราะว่ามีเพื่อนอย่างพวกมึงนี่แหละ เห็นเป้าหมายถูกใจหน่อยก็ปล่อยกูนอนเมาแล้วหายหัว มีค่าเท่ากันมึงยังจะพูดแบบนี้อีก!”




    เออๆ ถึงกูจะเป็นเพื่อนเลวแต่กูก็เป็นเพื่อนที่ดีนะ

     งงก็ช่างมัน ว่าแล้วก็ยกมือขึ้นลูบที่หน้าผากตัวเองปอยๆคลายอาการเจ็บปวด มองค้อนเพื่อนตัวสูงเสียก้อนใหญ่ก็เตรียมตัวเรียนเยี่ยงเด็กเรียนหลังห้อง  -- อันหลังโกหกทั้งเพ

     







    ...ADOLESCENT…

     

     





    อู๋ฟาน ฉันจะไปชมรมนะ คงไม่ได้ไปนั่งทานข้าวเป็นเพื่อนน่ะ


    ร่างเล็กเดินมาหยุดยืนตรงหน้าคนตัวสูงที่กำลังเก็บหนังสือลงใต้โต๊ะ เอ่ยบอกก็ลอบมองสำรวจสีหน้าของอีกคนไปด้วย และนั่นก็จริงอย่างว่า คริสดูเหมือนว่าจะงอน แต่ให้ทำยังไงได้ในเมื่องานชมรมมันก็สำคัญ




    ต้องไปด้วยหรอ ทานข้าวคนเดียวมันเปลี่ยวนะรู้ไหม?”



    แล้วแบคฮยอนล่ะ?” เสียงหวานเอ่ยถามพลางมองหาเพื่อนตัวเล็กของคนรักที่นั่งข้างกัน




    วันนี้มันไม่ไปด้วยหรอก เมื่อคืนเที่ยวดึกคงไปหาที่นอนแล้วล่ะมั้ง



    แล้วจะให้ทำไงอ่ะ?”

    เลย์ยู่ปากเล็กน้อยทำท่าครุ่นคิด ทำเอาคริสต้องลอบยิ้มกับความน่ารักจนใจเต้นระรัว ทำแบบนี้บ่อยๆถ้าไม่มีคนอยู่อาจจะไม่รอดก็ได้นะเลย์




    ไม่เป็นไรหรอกอี้ชิง นายไปเถอะเดี๋ยวทานข้าวเสร็จฉันไปหาที่ชมรม ตึกสิบใช่ไหม?”

    เอ่ยให้คนตัวเล็กไม่คิดมากมือหนาก็ส่งไปวางบนหัวทุย ยีเบาๆพลันโน้มตัวเข้าหาแล้วจุมพิตแผ่วเบาให้ที่ริมฝีปากอิ่ม ร้อนถึงคนที่ถูกกระทำต้องหันใบหน้ามองไปรอบห้องเป็นพัลวัน เกิดมีคนเห็นจะทำยังไง คริสก็ชอบไม่เลือกที่ทำให้ต้องเขินอายจนอยากจะมุดพื้นหนีไปเสีย





    อ...อืม แล้วอย่าลืมไปหานะ ฉันไปก่อนล่ะพูดเสร็จก็รีบแจ่นออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว ขืนอยู่นานๆมีหวังเสียเปรียบคริสอีก รายนั้นไว้ใจไม่ได้หรอก

     




    เมื่อคนหน้าหวานออกไปรอยยิ้มละลายใจที่ใครได้เห็นก็เผยกว้าง รอยยิ้มที่นานครั้งจะแย้มออกมา และก็เป็นเพราะคนๆเดิมที่ทำให้เป็นแบบนี้อยู่ตลอด ใบหน้าหล่อส่ายไปมาให้กับคนรักที่แสดงอาการเสียชัดเจนก็รีบเก็บโต๊ะจนเรียบร้อย ย่างกายออกจากห้องเรียนพลันตรงดิ่งยังโรงอาหารเพื่อทานมือกลางวันเหมือนอย่างเคย

     


    คริสซื้อข้าวและน้ำแล้วมาหย่อนกายนั่งลงตามลำพัง มากกว่าสิบสายตาจับจ้องมายังเขาทำเอาอึดอัดแต่นั่นก็เรียกว่าชิน คนมองมาน่ะไม่แปลก แปลกที่ทำไมต้องทำเหมือนอย่างรู้อยากเห็นเรื่องของเขากันนักหนา

     




    พี่คริสคะ



    ครับ?”




    ก้มหน้าก้มตาทานข้าวเงยขึ้นอีกทีก็พบเจอกับหญิงสาวรุ่นน้องสองคนที่หน้าตาไม่คุ้นเคย ถามกลับออกไปพลางเลิกคิ้วทำเอาเด็กหญิงตรงหน้าเขินม้วนจนหน้าแดงยิ่งกว่ามะเขือเทศสุกดีๆนี่เอง



    เอ่อ คือหนูก็ไม่ได้อยากจะสอดรู้สอดเห็นนะคะ แต่พี่คริสกับพี่เลย์....




    เป็นแฟนกันครับ




    นิ่ง! ทั้งยังอึ้งจนเกือบช็อค สองสาวที่เข้ามาถามยังไม่ทันจบประโยคดีรุ่นพี่หน้าหล่อก็ตอบออกมาตรงๆทั้งรอยยิ้มบาง และก็เป็นอีกครั้งที่หญิงสาวรุ่นน้องหน้าแดงจนปิดไม่มิด คริสไม่ได้โปรยเสน่ห์แต่นั่นที่เขาแสดงอยู่มันทำให้คนที่ได้พบเห็นตกหลุมรักได้ง่ายๆอย่างไม่รู้ตัว





    ข...ขอบคุณนะคะ หนูก็แค่อยากรู้เท่านี้ เห็นเขาพูดกันเลยคิดว่ามาถามพี่น่าจะดีกว่า



    มือเล็กสองข้างกอบกุมประสานกันแล้วก้มหน้างุดเคอะเขิน เพื่อนด้านหลังก็เอาแต่สะกิดยิกๆจนต้องปัดแล้วปัดอีก ถึงจะชอบแต่รุ่นพี่มีแฟนแล้วหญิงสาวก็ยินดี แถมยังเป็นคนที่ดูเหมาะสมกันจนไร้ที่ติด้วยอีก แบบนี้ก็รู้ได้ในทันทีว่าคริสคงเหลียวมองคนอื่นได้ยาก

     




    แค่นี้ใช่ไหมครับพี่จะทานข้าวต่อ พอดีต้องไปหาแฟนที่ชมรมเดี๋ยวจะสายเอา



    สิ้นเสียงทุ้มหญิงสาวทั้งสองก็พยักหน้าหงึกหงักโค้งหัวเป็นพัลวัน หันหลังกลับก็ชนกันเดินไปไหนไม่ถูก ทำเอาคริสนึกขำอยู่ในใจกับรุ่นน้องทั้งสองที่ทำตัวเงอะงะให้ได้เห็น

     






    ฉันบอกเธอแล้วว่าพี่เขาคบกันจริงๆ ใครๆก็รู้ดูไม่เห็นยาก

    เฮ้อ~ น่าเสียดาย แต่พี่เขาก็เหมาะสมกันแล้วแหละ

     



    ไม่วายยังได้ยินเสียงแว่วดังมาไม่ขาดสาย คริสกลั้นยิ้มไว้แทบไม่อยู่เมื่อคำว่าเหมาะสมมกำลังดังมาเป็นระลอกๆ ก้มหน้าทานข้าวไปเรื่อยก็เหมือนกับคนบ้า อยากจะยิ้มแต่ต้องกลั้นมันไว้ช่างอึดอัดเสียเหลือเกิน




    ทำไมมาทานข้าวคนเดียวล่ะ?”



    ตกอยู่ในภวังค์ได้ไม่นานใครบางคนก็เข้ามาขัดห้วงความคิด เหลือบม่านตาคมขึ้นมองก็ต้องวางช้อนในมือลงฉับพลัน ถอนหายใจเบาๆแต่นั่นก็ยังมองใบหน้าสวยของหญิงสาวเจ้าปัญหาไม่ลดละ คิดว่าจะเข้าใจที่พูดตั้งแต่เช้าแต่นี่ยังจะมาวุ่นวายอะไรอีก




    มีอะไรกับฉัน?”



    นายแสดงออกชัดเจนไปไหมคริส ฉันมาดีหรอกอย่าเพิ่งมองในแง่ร้าย



    ใครจะไปรู้ เจอเธอเมื่อไรต้องมีเรื่องเลวร้ายมาให้ฉันทุกที

     

    คริสตรงจนน่ากลัว สร้างบาดแผลให้คนที่เข้าหาอย่างไม่ปราณี แต่นั่นเจสสิกาก็รู้ดีเพราะยังไงเธอก็เตรียมใจมาบ้างแล้ว

     




    เอากุญแจมาคืน ขอโทษด้วยแล้วกันถ้าทำให้วุ่นวาย

    หญิงสาวยื่นกุญแจรถสปอร์ตคันหรูให้คริสตรงหน้า นั่งเท้าค้างมองใบหน้าหล่ออยู่อย่างนั้นโดยไม่ละสายตาไปทางอื่นเลยแม้แต่วินาที



    เอามาคืนทำไม จริงๆจะเอาไปขายก็ได้นะ



    ฉันก็ไม่ได้เลวขนาดนั้นหรอกนะยะ ทำเหมือนฉันเป็นคนแบบนั้นไปได้

    เสียงอ่อนลงเมื่อคริสไม่เคยเห็นตัวเองดีในสายตา น้อยอกน้อยใจมันเป็นแบบนี้เจสสิก้าเพิ่งรู้ เมื่อก่อนความโกรธเข้าครอบงำอย่างเดียวเคยเข้าใจใครเสียที่ไหน




    ไม่เลวแต่ก็ใกล้เคียง



    คริส!”



    ว่า?” 



    หน้าตาตีมึนของคริสทำให้เจสสิก้าถึงกับถอนหายใจรัว กลอกม่านตาขึ้นลงด้วยความระอาทั้งยังปวดหนึบที่หัวใจจนต้องยกมือขึ้นกุมผิวเผิน เจ็บดีนะคำพูดแบบนี้ อยากจะเป็นคนดีกับเขาบ้างคงทำให้อีกคนเปลี่ยนมุมมองไม่ได้

     

     


    อยากมองหน้านานๆเดี๋ยวต่อไปคงจะไม่ได้มองเปลี่ยนเรื่องเจสสิก็เอาแต่นั่งเท้าคางมองคริสท่าเดียว กระพริบตาปริบทำท่าเบ้ปากปรานกับว่าร้องไห้อยู่ในใจ

     



    นัยนต์ตาคมเหลือบขึ้นมองหญิงสาวทั้งความสงสัย ขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่เข้าใจกับการกระทำของอีกคนเลยสักนิด เป็นแบบนี้แล้วขนลุกโคตร คริสไม่ชอบให้เจสสิก้าเป็นแบบนี้เลยสักนิดเขาไม่ไว้วางใจ




    เป็นไรมากป่ะเนี่ยเจส? มาแปลกนะวันนี้




    ก็แค่อยากมองหน้าไง ผิดด้วยหรอ?”




    ไม่ผิดแต่ไม่เข้าใจพูดแค่นั้นก็ยกแก้วน้ำข้างมือขึ้นดื่ม ถอยแผ่นหลังพิงพนักเก้าอี้พลางกอดอกมองอีกคนอย่างจับผิด




    อย่าทำเหมือนไม่ไว้ใจฉันแบบนั้นสิ ก็แค่คิดว่าจะปล่อยนายไปคงดี ยื้อไว้ก็เท่านั้นดูท่าจะไม่มีประโยชน์ แย่งมาครอบครองใช่ว่าจะได้ใจ ถ้านายรักใครฉันก็โอเค



    แล้วไม่เจ็บ?”

    เลิกคิ้วถามคริสก็มองอีกคนนิ่ง จริงๆไม่น่าถามเขาเองก็ดูออก เจสสิก้ารักเขามาก ที่เธอทำก็เพราะว่ารักแต่นั่นมันดูจะผิดไปเมื่อความรักที่เธอมีมันทำร้ายทั้งเขาและเลย์ไม่วายยังทำร้ายตัวเธอเองด้วยอีก





    แน่นอนว่าเจ็บ แต่ถ้าไม่ปล่อยก็จะเจ็บยิ่งกว่านี้ เฮ้อ!” ถอนหายใจเสียงลั่นโรงอาหาร แต่นั่นคริสก็ยังมั่นคงถึงแม้จะเห็นใจเจสสิก้าอยู่ไม่น้อยก็ตาม



    “……………..”



    จูบได้ไหม? สุดท้ายและท้ายสุด

    อยู่ๆหญิงสาวก็เอ่ยขอซึ่งๆหน้า คาดหวังว่าคริสจะยอมอย่างจริงใจสักครั้ง แต่ถ้ายอมรับความเป็นจริงบ้างจะรู้ว่ายังไงก็ไม่มีทาง

     


    คริสมองสบนัยน์ตาของหญิงสาวตรงหน้าทั้งนั่งนิ่งไม่ไหวติง ถ้าครั้งนี้มันสุดท้ายจะตัดปัญหาทุกอย่างได้จริงงั้นหรือ ขบคิดไปก็ใจไม่ดี นึกถึงใครบางคนถ้ารู้คงใจเสียแน่ๆ

     



    ขอโทษนะ ไม่ได้หรอกเพราะฉันคนนี้มีเจ้าของแล้ว

    ตอบออกไปอย่างที่ใจคิด ชี้มือเข้าหาตัวเองย้ำความเจ็บปวดให้อีกคน คริสไม่อยากสาวความ จะบอกยังไงดีล่ะเพราะเขามั่นคงมาตั้งแต่แรกคงจะใช่ คริสคนนี้เปลี่ยนไปแล้ว เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ เปลี่ยนเพราะคนที่รักที่สุดและจะเป็นแบบนี้ตลอดไป

     




    นั่นสินะ เลย์รู้คงไม่ชอบใจ



    เพราะฉะนั้นก็อย่าพยายาม คนที่ดีกว่าฉันมีเป็นแสน เธอเองหน้าตาดีมีให้เลือกตั้งเยอะ อย่ารอฉันอีกเลยเธอทำถูกแล้วที่คิดจะตัดใจ



    คนดีมีเป็นแสนแต่คนหล่อจะมีสักกี่คน


    คำพูดของเจสสิก้าทำเอาคริสหลุดขำในทันที ยัยนี้มันเพี้ยนไปแล้วจริงๆ มองคนที่หน้าตามาตลอดเลยสินะ




    หล่อแต่เจ็บ กับดีแล้วมีความสุขก็เลือกเอา



    ถึงนายไม่ได้ดีแต่นายหล่อฉันถึงรัก



    ยัยบ้า! รักฉันเพราะหน้าตาเลยสินะ



    เปล่า รักนายที่เป็นนายต่างหาก

     


    ถึงกับนิ่งไปชั่วขณะเมื่อหญิงสาวเอ่ยแบบนั้น คริสยิ้มบางๆให้เธอก่อนจะพยักหน้าเข้าใจ เหลือมองนาฬิกาก็เห็นว่าสายมากแล้วเลย์คงจะรอ เห็นคนที่นั่งตรงข้ามหน้าตาไม่สู้ดีก็ถึงกับทำตัวไม่ถูก เกิดจะมารู้สึกอึดอัดอะไรตอนนี้นะคริส

     




    คือต้องไปแล้ว เลย์รออยู่ที่ห้องชมรม



    อืม ไปเถอะอย่าให้เขารอนาน

     

    สิ้นคำหญิงสาวคริสจึงลุกขึ้นเต็มความสูง โบกมือเล็กน้อยเป็นการลาอีกคนก็ถือจานข้าวไปเก็บ เดินออกจากโรงอาหารได้ก็ตรงดิ่งตึกสิบด้วยหัวใจที่โล่งกว่าทุกครั้ง ถึงไม่สุดแต่ก็รู้สึกดีขึ้นเยอะ

     





    เพียงแค่เดินมาถึงก็ต้องชะงักเท้าตัวเองเสียตรงหน้าตึก ภาพที่เห็นคือคนรักกับรุ่นพี่ตัวขาวที่เดินเคียงข้างกันออกมาจากห้องชมรม แขนแสงนีออนนั่นเกาะไหล่บางที่เขาหวงแหน คุยกันยิ้มหวานสร้างความน้อยใจให้เกิดขึ้นในอก ดูสนิทสนมกันเสียคริสเองยังนึกอิจฉา

     


    บ้าหรือไงวะ อิจฉาคนอื่นกับแฟนตัวเองเนี่ยนะ

     

    คิดในใจได้อย่างนั้นแต่ภายในกลับคุกรุ่น ขาวยาวออกเดินเข้าหาประชิดคนหน้าหวานได้ก็รั้งแขนเล็กออกจากรุ่นพี่อีกคนทันที สีหน้าบอกว่าไม่ชอบใจ ไม่ว่าจะเป็นใครคริสก็หวงเลย์ทั้งนั้น

     



    เป็นอะไรอู๋ฟาน? นี่รุ่นพี่ซูโฮประธานชมรมที่ฉันอยู่

    เห็นคริสแล้วเลย์ก็ถึงกับใจไม่ดี เขย่าแขนอีกคนให้ทำความเคารพแต่นั่นคนตัวสูงกลับไม่ทำตามทั้งยังเสมองไปทางอื่นไม่สนใจ




    ถ้างั้นพี่ไปก่อนนะเลย์ งานที่ให้ไปทำอย่าลืมด้วยนะ



    ครับ

    โค้งหัวให้รุ่นพี่เสร็จก็หันกลับมาประจันใบหน้าหล่อ คริสโกรธเลย์นั่นดูออกได้ไม่ยาก  หากแต่มีอะไรให้โกรธหรือถึงต้องเป็นหนักเสียขนาดนี้




    นั่นพี่ซูโฮ เป็นพี่น้องกันเลย์พยายามอธิบาย ไม่มีอะไรเกินเลยเพราะบริสุทธิ์ใจจริงๆ



    แล้วทำไมต้องเกาะไหล่ทำตัวสนิทสนมด้วย?”



    ก็เพราะสนิท แล้วอีกอย่างฉันไม่ได้คิดอะไรเอ่ยบอกเสร็จก็มองใบหน้าหล่อของคนรักนิ่ง คริสงี่เง่ากว่าที่คิด หึงหวงแม้กระทั่งเรื่องเล็กน้อย



     นายไม่คิดแต่ไอ้หมอนั่นมันคิด ฉันไม่ชอบ!”



    ถ้าไม่ชอบก็ไม่ต้องชอบ งี่เง่า!”



    งี่เง่า? ใช่ดิ! ฉันมันก็งี่เง่าแบบนี้แหละ




    พูดแค่นั้นก็เดินหนีจากไปไม่มองกลับหลัง เลย์ถึงกับเหนื่อยใจแค่เพิ่งจะคบกันคริสก็เป็นได้ถึงขนาดนี้แล้ว เขากับซูโฮเป็นแบบนี้มานานจะให้เปลี่ยนแปลงไม่ได้หรอก เขาไม่ได้คิดอะไรเพราะตกลงว่าจะเป็นแค่พี่น้อง ซูโฮเองก็รู้ดีว่าเขาเป็นอะไรกับคริส แล้วรายนั้นที่เดินหนีไปนั่นแหละที่จุดประเด็นจนต้องทะเลาะกันทั้งๆที่พยายามจะเลี่ยงแล้วแท้ๆ

     




    คนหน้าหวานเดินตามเข้ามาให้ห้องเรียนด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง เข้าไปนั่งหย่อนกายลงที่โต๊ะก็ไม่คิดจะเหลือบมองไปยังโต๊ะหลังห้องอีกเลย หยิบหนังสือเรียนขึ้นวางพร้อมสับโดยไม่พูดไม่จา เหนื่อยใจและป่วยการจะพูดทั้งยังรู้สึกแย่ ปล่อยไว้แบบนี้สักพักอาจจะดีขึ้นก็ได้

     




    คาบสุดท้ายของวันช่วยปลุกสติคนหน้าหวานให้กลับมา เผลอมองออกนอกหน้าต่างเสียนานจนไม่มีจิตใจจะร่ำเรียน คิดเอาไว้ค่อยไปเก็บเกี่ยวในที่เรียนพิเศษคงไม่เสียหาย ลุกขึ้นยืนกวาดข้าวของบนโต๊ะลงกระเป๋าพลางหันไปทางหลังห้องเหมือนอย่างทุกวันหากทว่าวันนี้กลับไร้วี่แววของร่างสูงที่คุ้นเคย นี่โกรธกันถึงขนาดนี้เลยหรือไงนะถึงหลบหน้าหลบตา

     




    แบคฮยอน เขาไปไหนแล้ว?” เอ่ยถามเพื่อนตัวเล็กก็ชี้ยังโต๊ะที่ว่างเปล่าไร้ซึ่งวี่แววของคนรัก กระเป๋าไม่อยู่ทั้งเจ้าตัวก็หนีหาย



    มันไปซ้อมบอร์ดที่ลานกว้างแล้วอ่ะ



    อ้อ อย่างนั้นเองหรอ? ขอบคุณมากนะแบคฮยอน


    รู้เรื่องก็กลับมายังโต๊ะของตัวเองอีกครั้ง มือบางคว้ากระเป๋าเป้สะพายใส่หลัง ไม่ลืมเอ่ยลาเพื่อนตัวเล็กก่อนจะเดินออกจากห้องเรียนไปยังจุดหมายปลายทาง

     



    เลย์วางสัมภาระลงที่โต๊ะข้างลานกว้างตัวประจำเมื่อมาถึง นั่งลงพลางมองหาคนรักตัวสูงที่โชว์ลวดลายอยู่ห่างออกไปไม่ไกลมากนะ หยิบการบ้านขึ้นวางทำข้ามเวลารอไปเรียนพิเศษในหัวค่ำ ก้มหน้าก้มตาเขียนยิกๆ รู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้างเพราะครึ่งบ่ายก็เอาแต่เหม่อลอยจนเนื้อหาไม่เข้ามาในสมองอีกเลย

     



    ก้มหน้าเขียนได้ไม่นานเงาตะคุ่มตรงหน้าทำให้ต้องเงยขึ้นมอง ม่านตากลมเหลือบขึ้นทำหน้าฉงน เลิกคิ้วถามทางสายตาโดยไม่พูดไม่จา ก่อนจะเห็นอีกคนที่เอาแต่ยืนนิ่งเลยก้มหน้าลงทำการบ้านอีกครั้ง

     



    ไม่คิดจะง้อเลยสินะคนเราเสียงทุ้มที่เอ่ยพูดตัดพ้อทำให้มือเล็กที่กำลังจดอะไรลงสมุดต้องหยุดมันฉับพลัน เงยหน้าขึ้นอีกครั้งสบนัยน์ตาคมคู่เสน่ห์ที่ทำให้ใจสั่นได้ตลอด

     


    คริสนั่งลงฝั่งตรงข้ามพลางล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าแล้วดึงขวดน้ำออกมา เปิดฝาขวดยกขึ้นดื่มก็เสมองไปทางเพื่อนๆที่กำลังซ้อมบอร์ดกันอย่างขะมักเขม้น

     


    ความเงียบเข้าปกคลุมเมื่อต่างคนต่างไม่มีบทสนทนากันพักใหญ่ คนหน้าหวานทำการบ้านไปอย่างเงียบๆทำเอาคริสต้องเหลือบมองอย่างคาดหวัง ยู่ปากทำท่าน้อยอกน้อยใจเพราะคนที่ต้องการจะพูดคุยก็ยังไม่สนใจอยู่อีก เห็นดังนั้นก็ไม่คิดจะทำให้อึดอัด ถอนหายใจแล้วลุกขึ้นเดินกลับไปซ้อมบอร์ดต่อด้วยความท้อแท้

     




    หื้ม?”



    แต่ยังไม่ทันจะได้ไปไหนมือเล็กของคนหน้าหวานกลับคว้าไปเสียก่อน รั้งเบาๆให้คริสนั่งลงเหมือนเดิมก่อนจะกุมมือหนาไว้แล้วไม่พูดอะไรอีกเลย จับไว้อย่างนั้นทั้งที่อีกมือก็รวบปากกาลายน่ารักแก้โจทย์เลขในการบ้านไปด้วย คริสไม่เข้าใจ เลย์ทำเหมือนจะยื้อ ทำว่าจะมีเรื่องพูดคุยหากทว่ากลับเอาแต่เงียบอยู่เหมือนเดิม

     




    อี้ชิง...

     




    ขอโทษ

    เสียงหวานเอ่ยขึ้นทั้งยังไม่ละออกจากการบ้านตรงหน้า คริสที่ได้ยินก็ต้องลอบยิ้มออกมาเมื่อคนที่พูดหน้าขึ้นสีระเรื่อเสียน่ารักชวนกดจูบ



    เรื่องอะไร?” แสร้งถามไปก็แทบจะเก็บรอยยิ้มไว้ไม่อยู่



    เรื่องเมื่อตอนกลางวัน ไม่ได้ตั้งใจจะพูดแต่เพราะไม่พอใจเหมือนกัน


    เอาเถอะนะแค่คำพูดแบบนี้คริสก็ถึงกับหายขุ่นเคืองใจแล้ว ถึงจะฟังดูแหม่งๆไปหน่อยก็เถอะ




    ไม่พอใจที่ฉันไปโกรธรุ่นพี่นายน่ะหรือ? ก็หึงทั้งหวงถึงไม่พอใจแบบนั้น



    หึงหวงไม่เข้าเรื่องถึงต้องทะเลาะอยู่บ่อยครั้ง ก็แค่พี่น้องรายนั้นก็รู้ว่าเราเป็นอะไรกัน



    เพราะรายนั้นทีว่าเคยชอบแฟนฉัน ไม่ไว้ใจใครทั้งนั้นแหละ



    เฮ้อ! เหนื่อยใจจังมีแฟนหัวดื้อ



    ถอนหายใจเสียงดังจนคริสต้องขมวดคิ้วมุ่น มองอีกคนนิ่งก็ต้องอมยิ้มอีกครั้งเมื่อเห็นสีหน้าของคนรักตัวเล็กที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเป็นกังวลแค่ไหน นั่นมันก็แน่แท้แล้วว่าเลย์แคร์คริสมากกว่าใครๆ



    ว่าไปเถอะอี้ชิงนายก็ดื้อพอกัน แบบนี้ไงถึงอยู่ด้วยกันได้ ว่าแต่วันนี้ไปเรียนพิเศษด้วยใช่ไหม? จะไปตอนไหนบอกนะเดี๋ยวไปส่ง



    ไม่เป็นไรหรอกฉันไปเองก็ได้ ลำบากนายเปล่าๆเดี๋ยวซ้อมไม่ทันแข่งอินเตอร์นะ



    ไม่เอาอ่ะจะไปส่ง ได้รถคืนแล้วไม่ลำบากเลยพูดแค่นั้นคริสก็ยิ้มย่องผิดกับเมื่อครู่ลิบลับ ชูกุญแจในมือขึ้นตรงหน้าให้คนรักดูมัน ทำเอาเลย์ต้องขมวดคิ้วสงสัย



    รายนั้นเอามาให้หรอ?”



    อืม ตอนไปทานข้าว



    อ้อ ที่นั่งคุยกันซะเนิ่นนานเพราะเรื่องนี้สินะ



    นายรู้?”


    คริสถึงกับแปลกใจที่อีกคนรู้ไปเสียทุกอย่าง มาแอบดูกันหรือไงทำไมรู้ว่าคุยนานหรือไม่นาน


    ".............."



    นี่ไม่ไว้ใจถึงต้องไปแอบดูเลยหรืออี้ชิง? น้อยใจเลยดีไหมนะ


    ใครว่า! คนเขาพูดกันทั้งโรงเรียนแล้วทำไมฉันจะไม่รู้

     

    เมื่อได้ฟังเสียงหวานที่เอื้อนเอ่ยคริสก็พยักหน้าเข้าใจ ลืมคิดไปเสียสนิท ไม่ว่าเขาจะเดินไปไหนแม้แต่ขยับกายก็เป็นข่าว แล้วนั่นมันก็ไวยิ่งกว่าจรวดเสียอีก

     




    ไม่พอใจหรือเปล่าที่ไปคุยกับอีกคน เจสแค่เอากุญแจมาคืนแล้วก็จะปล่อยฉันไปคริสพยายามพูดให้เลย์ไม่คิดมาก ให้อีกคนรู้ว่าเขาไม่ได้เหลวไหลหรือทำนิสัยแบบเดิมๆเหมือนเมื่อก่อน

     



    “……………”

    ใบหน้าหวานส่ายไปมาหากแต่ไม่พูดอะไร ยิ้มบางๆก็ก้มหน้าทำการบ้านอีกครั้งทั้งที่ยังจับมือกับคนตัวสูงอยู่บนโต๊ะไม่คลายแม้แต่นิด




    บางทีใจแคบบ้างก็ได้ ใจกว้างแบบนี้ดีเกินไปแล้วนะอี้ชิง



    ก็ใจกว้างให้เฉพาะแค่บางเรื่อง เรื่องไหนไม่ยอมก็คือไม่ยอม




    เลย์แรงกว่าที่คิดทำเอาคริสนึกหวั่นอยู่ในใจ แต่นั่นอยากเห็นเลย์หึงเขาหนักๆดูบ้าง ชอบให้อีกคนทำหน้าไม่พอใจแบบเด็กๆเห็นแล้วมันอดจะปริ่มที่หัวใจไม่ได้ แต่นั่นของอนแบบเบาๆพอนะ มาแบบพายุโหมคริสก็ทรุดได้เหมือนกัน ถ้าเลย์เมินแล้วนั่นคือแม้แต่หางตาก็จะไม่เหลียวมอง

     



    คริสเกยคางกับแขนของตัวเองบนโต๊ะแล้วจ้องมองใบหน้าหวานของคนรักนิ่ง ปล่อยเวลาให้เดินไปในขณะที่อีกคนทำการบ้านมันก็เพลินดีเหมือนกัน ไม่ว่าเลย์จะทำอะไรทุกอย่างดูน่ารักไปหมด คิดดูสิอยู่เฉยๆยังทำเอาเขาหัวใจเต้นแรงได้ไม่เบาเลย




    มองทำไม มีอะไรอยากจะพูดอีกหรือเปล่า?”

    เห็นคริสจ้องนานๆใช่ว่าไม่หวั่นไหว แต่นั่นกลับไม่คิดจะมองหน้าสบตากับอีกคนเลยแม้แต่นิด กลัวจะเผลอใจให้คนที่นั่งฝั่งตรงข้ามได้ทำตามใจชอบ เลยเถิดอีกคงไม่ดีแน่



    ไม่มีอะไรจะพูดหรอกแค่อยากมองเฉยๆ


    ถ้างั้นก็ไปซ้อมได้แล้ว แพ้ขึ้นมาจะโทษฉันไม่ได้นะ



    ใครกันจับมือเราอยู่ไม่ยักรู้ตัว แบบนี้จะไปไหนได้ว่าไปก็เหล่ตามองมือเล็กที่จับมือเขาอยู่มานานมากแล้ว แต่คริสไม่อยากให้ปล่อยหรอกนะ จับตลอดเวลาเลยก็ได้ไม่ถือเลยสักนิด



    จะดึงมือกลับก็ไม่ได้ว่าสักหน่อย อยากไปก็ไปไม่ได้ห้าม



    ปากแข็ง! จับซะแน่นขนาดนี้เนี่ยนะบอกว่าไม่ได้ห้าม



    งั้นหรอ? ไปดิไป ปล่อยแล้วเนี่ย!” พูดเสร็จเลย์ก็ดึงมือตัวเองกลับเข้าหาตัว พยักเพยิดใบหน้าหวานให้คริสไปซ้อมบอร์ดต่อ แต่ไม่ได้รู้เลยว่าอาการน้อยใจที่เกิดขึ้นมันอยู่ในสายตาของคริสหมดแล้ว




    จริงๆก็ไม่ค่อยอยากซ้อมเท่าไหร่ วันนี้ตื่นเช้าไปหน่อยเหนื่อยจะแย่ พักบ้างก็ดี



    คริสส่งมือเข้ากอบกุมมือเล็กของคนรักไว้แทนเมื่ออีกคนพยายามดึงออก นั่งมองเลย์ทำการบ้านไม่วายก็แหย่เล่นตลอดเวลาจนได้รับค้อนลูกใหญ่อยู่บ่อยครั้ง จากนั่งตรงข้ามรู้สึกห่างไกลก็ย้ายตัวเองไปนั่งข้างคนรักฝั่งเดียวกัน คนที่ทำการบ้านเผลอทีก็กดปลายจมูกโด่งกับพวงแก้มนิ่มอมชมพูนั้นไปเสียอย่างฉวยโอกาส นิดๆหน่อยๆพอชื่นใจให้หายเหนื่อย ก็ทั้งวันยังไม่ได้อะไรเลยด้วย ครั้งเดียวก็เมื่อเช้า บอกแล้วว่าอดเปรี้ยวไว้กินหวานหลังเลิกเรียน กลับไปคอนโดวันนี้ก็จะไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่าแน่นอน คริสจะไม่ถอย

     







    …ADOLESCENT…



     

    *** ร้อยเปอร์คร้า ~ เรื่องนี้เป็นไปได้ขอเจ็ดวันอัพทีนะ 55555555

    แบบว่าเร็วสุดแล้ว ไรท์ยุ่งมาจนไม่มีเวลาเลย แม้จะอัพทวิตยังปลีกเวลาไม่ได้

    ยังไงก็ติดตามกันต่อไปนะ เรียกร้องคอมเม้นท์ค่ะ งื้ออออ ~ หายไปเยอะ TT

    สุดท้าย ฝันดีคร้า ^^

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×