คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : ll ADOLESCENT 15 ll
ADOLESCENT 15
“ถ้านายต้องการจะให้ฉันแล้วก็ห้ามคืนคำเด็ดขาดนะอี้ชิง แล้วต่อจากนี้ก็ครางชื่อฉันให้เบาๆหน่อยแล้วกัน เพราะถ้านายถอดเสื้อยั่วฉันขนาดนี้แล้วล่ะก็ ยังไงก็ไม่รอดอยู่ดี”
คนตัวเล็กที่นั่งอยู่บนตักแกร่งก็ถึงกับผ่อนลมหายใจเสียเฮือกใหญ่เมื่อความอึดอัดในตอนแรกได้ปลดปล่อยออกไปเป็นความสุขเสียแล้ว หอบหายใจเทิ้มทั้งเหงื่อก็ออกเต็มร่างกายไปหมด เมื่อกิจกรรมที่ทำอยู่ก็ไม่ได้ต่างไปจากการออกกำลังเสียเท่าไหร่
“นายนี่เร่าร้อนจริงๆเลยนะอี้ชิง”
เสียงทุ้มแหบพร่าเอ่ยแซวคนรักที่นั่งอยู่บนตักของเขาแล้วโอบกอดไว้แน่น กดจูบที่ขมับเพื่อให้รางวัลกับเด็กดีที่ทำให้เขาพอใจอย่างถึงที่สุด ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาเมื่อเห็นอีกคนเอาแต่กดใบหน้าลงกับไหล่ของเขาโดยไม่คิดจะเงยขึ้นมาเสียที
“อย่าพูดอีกนะ”
เลย์ถึงกับเขินอายเมื่อไอ้คนที่เอ่ยแซวนั้นคือคนเดียวกันกับที่ผ่านบทรักกันมาเมื่อครู่ ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาเพราะกลัวว่าจะได้ตายคาสายตาที่พราวไปด้วยเสน่ห์ของคริสนั่นเอง
“ทำไมอ่ะ? ก็นายมันเซ็กซี่จริงๆนี่นา ไม่ไร้เดียงสานะเนี่ย”
“ก็บอกว่าอย่าพูดยังไงล่ะ มันน่าอายจะตายไป” พูดอู้อี้ไปกับลาดไหล่ของอีกคนก็ไม่คิดจะเงยหน้าขึ้นมาอยู่เหมือนเดิม
“แล้วที่เราทำมันจนเสร็จนี่ล่ะ ไม่น่าอายกว่าหรอ?” คริสเอ่ยพลางยกยิ้มกรุ้มกริ่ม แต่นั่นเลย์ที่ได้ฟังก็ต้องเงยใบหน้าขึ้นมาถลึงตาใส่คนพูดทำเอาคริสอยากจะหัวเราะให้ดังๆเสียเหลือเกิน
“แล้วเมื่อไหร่นายจะเลิกพูดเล่า!”
“เลิกพูดก็ได้ครับ ว่าแต่ยังนั่งอยู่บนตักฉันแบบนี้นี่อยากได้อีกรอบใช่ไหม?”
สิ้นเสียงทุ้มกำปั้นเล็กก็ถูกส่งเข้าไปทุบที่ต้นแขนแกร่งของคนที่พูดไม่เข้าหูอย่างแรงไปหนึ่งที รีบยันกายเล็กที่ไร้เรี่ยวแรงให้ลุกขึ้นจากร่างของอีกคนโดยลืมนึกถึงบางสิ่งบางอย่างไป
“อ้า....”
ครางออกมาเมื่อลืมนึกไปว่ายังมีบางสิ่งบางอย่างอยู่ในร่างกายของเขาอยู่ และนั่นคนตัวสูงที่ไม่ทันได้รู้ก็ถึงกับพรูลมหายใจออกจากปากพลางระงับมันแทบไม่ทัน
“โอ้ย!”
เลย์ทิ้งกายนั่งลงข้างๆอีกคนได้ก็ถึงกับร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บปวด จับคลึงที่สะโพกของตัวเองเมื่อในตอนนี้มันระบมไปหมด ไม่วายยังลืมตัวกระแทกมันลงกับเบาะนั่งเสียเต็มแรง
“เจ็บมากไหม?”
“อือ เจ็บ”
ตอบแค่นั้นใบหน้าหวานก็ขึ้นสีระเรื่ออย่างน่ารัก รีบเบื้อนหน้าหนีพลางเสมองไปทางอื่นแล้วรีบควานหาเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่ในรถมาสวมใส่อย่างรวดเร็ว ก็ในเมื่อสติสตังกลับคืนมาครบแล้ว ความอายมันก็กลับมาสิงสถิตด้วยน่ะสิ
“แต่ฉันชอบนะ”
“ช...ชอบอะไรอีกล่ะ?” เห็นอีกคนพูดขึ้นมาลอยๆ เลย์ก็รีบหันขวับไปถามทันทีด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน
“ชอบความเร่าร้อนของนายไง”
“ไอ้บ้า!”
ส่งมือเล็กไปทุบอีกคนอย่างแรง บอกว่าอย่าพูดๆ ไม่วายคริสยังทำหน้ามึนพูดออกมาอย่างหน้าตาเฉย
“โอ้ย! มันเจ็บนะอี้ชิง”
“เออดิ! แล้วใครใช้ให้นายพูดมันอีกเล่า”
“แล้วฉันพูดความจริงมันผิดหรือไง? นายเป็นคนเริ่มก่อนแท้ๆ” ท้ายประโยคช่างแผ่วเบาทำเอาเลย์ต้องจ้องเขม่นอย่างเอาเรื่อง
“แล้วนายจะปฏิเสธไหมล่ะว่าไม่อยากได้น่ะ”
เอาอีกแล้วไง ความแข็งกระด้างของเลย์มันเริ่มกลับมาแล้ว นัยน์ตาคู่หวานที่ย้อนมองไปหาคริสทำเอาคนถูกมองต้องพยักหน้าตอบรับแล้วส่งยิ้มแหยๆกลับไปให้
“อยากได้ดิ ทำไมจะไม่อยากได้ล่ะ หุ่นนายก็ออกจะดี มีเนื้อมีหนังพอดีมือเลยเชียว ผิวก็ขาว ลูบทีก็ลื่นมือ ยิ่งได้กลิ่นหอมๆนะ อื้อหือ....”
“หยุดๆ พอได้แล้วอู๋ฟาน!” มือบางรีบยกขึ้นห้ามอีกคนก่อนที่มันจะพูดเรื่องน่าอายไปมากกว่านี้ และนั่นไม่ทันได้ระวังตัวริมฝีปากแดงก็ถูกโจรข้างกายขโมยมันไปเสียดื้อๆ
“ฉวยโอกาส!”
บ่นค่อนขอดได้แค่นั้น ใบหน้าหวานก็ก้มงุดมองมือตัวเองทันที และนั่นพวงแก้มใสก็ถูกช่วงชิงไปอีกครั้งด้วยโจรคนเดิม
“อยากฉวยโอกาสกับคนน่ารักผิดด้วยหรอ?”
“..............”
เพียงแค่คำพูดธรรมดาที่มีบางคำตรงจุดของหัวใจ เลย์ก็ถึงกับไปไม่เป็น นั่งก้มใบหน้านิ่งอยู่อย่างนั้นให้อีกคนจ้องเล่นๆ ยิ่งเป็นแบบนี้เลย์ก็ยิ่งน่ารักในสายตาของคริสขึ้นไปอีก
“จริงๆอยากให้นายอายุยี่สิบก่อนนะ แต่นายถอดเสื้อยั่วกันต่อหน้า ฉันจะทนไหวได้ยังไง”
“ฉันบอกให้หยุดพูดไงล่ะอู๋ฟาน!”
คราวนี้ดูท่าว่าคนน่ารักของคริสมีแววจะร้องไห้เสียแล้ว คริสก็แค่นึกอยากแกล้ง เพราะเลย์น่ะเวลาเป็นแบบนี้ที่ไรมันโคตรจะน่ารักจนหัวใจของเขาทำงานหนักอย่างที่ไม่เคยเป็น แต่ไม่คิดว่าอีกคนจะน้อยใจจนถึงเพียงนี้
“โอเคๆ หยุดพูดก็ได้ครับ”
พูดแค่นั้นคริสก็ดึงอีกคนมากอดไว้แน่น กดหัวทุยให้จมหายไปกับแผ่นอกเปลือยเปล่าก็ลูบกลุ่มผมนุ่มแผ่วเบาอย่างอ่อนโยน จูบซับที่ขมับขาวพลางก้มใบหน้าลงต่ำเล็กน้อยเพื่อมองปฏิกิริยาของคนรัก และนั่นคนน่ารักของคริสก็เอาแต่ฟุบหน้าไปกับอกของเขาไม่ยอมผละออกมาสักที
“นายเป็นของฉันคนเดียวนะ อย่าให้ใครแตะต้องนายแม้แต่ปลายเล็บเข้าใจไหมอี้ชิง?”
“ทำไม?”
“เพราะฉันหวง แล้วฉันก็จะหึง”
สิ้นเสียงทุ้มเลย์ก็เผยยิ้มออกมาได้ในทันที แหงนหน้ามองคนรักหน้าหล่อนิ่งก็กะพริบตาปริบโดยไม่พูดจาอะไรอีกเลย ทำเอาคริสต้องหรี่ตามองทั้งยังนึกสงสัยว่าเลย์ได้ฟังในสิ่งที่เขาพูดอยู่หรือเปล่า
“เข้าใจไหมเนี่ยที่ฉันพูดน่ะ หื้ม?”
“เออ! เข้าใจแล้ว แล้วนี่เมื่อไรนายจะใส่เสื้อผ้า ใส่มันสักทีดิ อุบาทว์!”
พูดแค่นั้นเลย์ก็รีบผละกายออกจากคนรักพลางเบือนใบหน้าไปมองทางอื่นอย่างร้อนรน แม้ๆ กอดเขามาเสียนานเพิ่งจะนึกออกหรือไงว่าอีกคนน่ะเปลือยทุกอณูในร่างกายอยู่
“ทำเป็นพูดไป เมื่อกี้ล่ะครางเสียงดังเชียว”
“ย๊า! ก็บอกว่าให้เลิกพูดไงเล่า”
คริสหัวเราะร่วนเมื่อแกล้งอีกคนได้สำเร็จ ก็มันจริงไหมล่ะ เมื่อกี้เลย์น่ะเร้าเขาจะตายไป ดูก็รู้ว่ามีความสุขมากขนาดไหน อีกอย่างเจ้าตัวก็เป็นคนเริ่มเอง ทีตอนนี้ล่ะทำมาเป็นอาย จะน่ารักเกินไปหรือเปล่าเนี่ย
“อี้ชิง จริงๆฉันก็ไม่อยากจะถามหรอกนะ แต่ก็อดไม่ได้อ่ะ”
“อะไรของนาย?”
“คือ...ถามจริงๆเลยนะ ทำใจมานานไหมกว่าจะให้ฉันในวันนี้?”
นัยน์ตาคู่หวานถึงกับเบิกโพลงด้วยความตกใจ ไอ้บ้าคริสถามอะไรของมันวะ แต่นั่นก็ได้แค่บ่นค่อนขอดในใจเท่านั้น เพราะตอนนี้พวงแก้มใสกำลังสุกปลั่งเป็นสีแดงแปร้ดเลยล่ะ
“..............”
“นี่ฉันซีเรียสนะอี้ชิง นายเต็มใจให้ฉันหรือเปล่า?” เต็มใจไม่เต็มใจก็เสร็จมันทุกอย่างแล้วละวะ
“ล...แล้วจะอยากรู้ไปทำไมไม่ทราบ! ให้ก็คือให้ จะถามอะไรให้มันมากความ”
แน่ะ เอาเถอะว่าคำพูดคำจานี่จัดว่าเด็ด แต่สีหน้าท่าทางกลับผิดกันเสียเหลือเกิน เลย์แทบอยากจะกลืนหายไปกับเบาะรถเลยจริงๆ
“ก็แค่อยากให้แน่ใจว่านายไม่ได้ฝืน ไม่ได้ทำแบบนี้เพราะอยากให้ฉันเลิกคิดมากกับเรื่องที่เราคุยกันไป”
“เฮ้อ! นายก็ยังคิดมากอยู่เหมือนเดิมสินะ” ถอนหายใจออกมาก็กลอกตาทำท่าว่าเบื่อหน่าย เลย์คิดว่าอีกคนจะลืมไปแล้วซะอีก ที่ไหนได้ก็ยังเอามาเป็นประเด็นตั้งข้อสงสัยอีกแล้ว
“ก็แค่อยากรู้ ไม่ได้หรอ?”
พูดแค่นั้นคริสก็ทำท่าทางงอนอีกคนไปเสียดื้อๆ ใบหน้าหล่ององุ้มจนคนที่มองดูอยู่นึกหมั่นไส้ นิสัยกับหน้าตาไม่ได้เข้ากันเลยให้ตายสิ
“รัก...คำเดียวเพียงพอไหม? เพราะรักนายฉันถึงยอมให้”
เพียงแค่นั้นเรียวปากได้รูปก็เผยยิ้มกว้างในทันที โน้มใบหน้าเข้าไปใกล้คนรักตัวเล็กก็กดปลายจมูกโด่งลงทับรอยบุ๋มที่พวงแก้มนิ่ม สูดกลิ่นหอมเข้าไปเสียฟอดใหญ่ให้ชื่นใจ ก่อนจะเปลี่ยนเป้าหมายเป็นปากอิ่มสีชมพูอ่อนแทน
คริสกดจูบลุ่มลึกมอบไปให้อีกคนด้วยความรัก ค้างไว้เสียเนิ่นนานให้พอรับรู้ลมหายใจถี่รัวของกันและกันก็เริ่มออกแรงเม้มเบาๆ เชิดคางสวยให้เงยขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเริ่มสอดเรียวลิ้นอุ่นเข้าไปทำอย่างที่ใจต้องการ แต่นั่นก็ต้องใจสลายเมื่ออีกคนกลับไม่ยินยอมแล้วส่งมือเล็กเข้ามาผลักอกเขาให้ออกห่างจนต้องขมวดคิ้วสงสัย
“อื้อ...พอแล้ว” เสียงหวานเอ่ยบอกคนรักตัวสูงไปแค่นั้นก็เสมองไปทางอื่นพลางยกมือขึ้นลูบผมตัวเองไปมา
“ทำไมล่ะ?”
“ก็...นายจูบบ่อยแล้วอ่ะ” คำตอบของเลย์ทำให้คริสต้องส่ายหน้าระอาก่อนจะเผยรอยยิ้มเอ็นดู
“อ่าว ก็อยากจูบอีกอ่ะ”
“ไม่เอา! นายชอบจูบแรง เห็นไหมว่าปากฉันบวมหมดแล้วเนี่ย”
คนตัวเล็กทำแก้มพองลมก่อนจะชี้ริมฝีปากของตัวเองที่ตอนนี้มันบวมแดงอย่างที่เจ้าตัวว่านั่นแหละ และนั่นคนอย่างคริสมีหรือจะยอมแพ้ ไม่ได้จูบเลย์เขาต้องลงแดงตายแน่ๆ
“งั้นจูบเบาๆก็ได้”
พูดเสร็จก็โน้มใบหน้าหล่อเข้าไปใกล้คนตัวเล็กอีกครั้ง ทำเอาอีกคนที่โดนจู่โจมต้องรีบหลับตาปี๋แล้วหดตัวหนีเสียน่ารักน่าชัง แต่แล้วคริสก็หยุดนิ่งจ้องหน้าอีกคนโดยไม่ได้ทำอย่างที่ใจคิด ทำให้คนตัวเล็กของเขาต้องค่อยๆหรี่ตาขึ้นมามองด้วยท่าทางหวาดระแวง
“ยังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย รู้นะว่าที่ไม่ให้จูบน่ะเพราะกลัวจะเกินเลยอีกใช่ไหม? รู้อยู่ว่าเจ็บ ฉันไม่ใจร้ายกับแฟนหรอกน่า” เอ่ยกับคนรักเสร็จ ร่างกายเล็กนุ่มนิ่มก็เข้ามาอยู่ในอ้อมกอดอบอุ่นของคริสเป็นที่เรียบร้อย จูบปลอบที่ขมับบางก็ลูบศีรษะทุยไปมาอย่างถนุถนอม
“รู้ด้วยหรอ?”
เลย์เอ่ยถามเมื่อคริสรู้ทันไปซะหมด เขาเองก็ไม่ได้ไม่ชอบจูบของคริสซะหน่อย ติดจะหลงใหลมัวเมาเสียด้วยซ้ำ แต่นั่นเพียงแค่อีกคนสัมผัสร่างกายของเขาก็มักจะไร้การควบคุมอยู่เสมอ ไม่ใช่ครั้งแรกที่เลย์เผลอไผลให้กับคริส แต่ทุกครั้งที่ได้รับสัมผัสอบอุ่นนั้นหัวสมองของเขาก็มักจะขาวโพลนไร้สติอยู่ตลอด
“ทำไมฉันจะไม่รู้ล่ะ ตอนนี้เราเหมือนคนๆเดียวกันแล้วนะอี้ชิง นายคิดอะไรหรือต้องการอะไรฉันก็รู้หมดนั่นแหละ”
“ขอบคุณนะที่เข้าใจ”
รอยยิ้มหวานเผยขึ้นอย่างสดใสเมื่อคนรักช่างเข้าใจความรู้สึกของเขา แต่นั่นรอยยิ้มที่เคยฉาบฉายอยู่ในตอนแรกก็ต้องหุบลงฉับพลันเมื่อประโยคขัดหูของใครอีกคนดังขึ้นมาอีกครั้ง
“แต่ฉันจะไม่ใจดีกับเด็กดื้อหรอกนะ”
คริสเอ่ยพูดพลางอมยิ้มเมื่อเห็นใบหน้าหวานบูดบึ้งทำท่าฟึดฟัด และนั่นก็อดใจไม่ไหวให้ต้องส่งปลายจมูกโด่งกดลงที่แก้มนิ่มไปหนึ่งที
“เอาแต่ใจ!”
เรียวแขนเล็กของคนหน้าหวานสอดประสานกันขึ้นแนบอก พิงแผ่นหลังไปกับเบาะนั่งก็สะบัดใบหน้าหนีคริสไปอีกทาง ร้อนถึงคนที่จุดประเด็นทำให้อีกคนไม่พอใจต้องรีบสวมกอดแล้วซุกใบหน้าหล่อไปกับซอกคอขาวอย่างออดอ้อน
“ขอโทษครับผม ไม่เอาไม่งอนนะ กลับบ้านนายกันเถอะ”
“บ้านฉันหรอ? แล้วไม่ไปคอนโดนายอ่ะอู๋ฟาน?”
“วันนี้อยากอยู่บ้านนาย พรุ่งนี้ค่อยเก็บของไปคอนโดฉัน โอเคไหม?”
เลย์ทำได้เพียงแค่พยักหน้าหงึกหงักตอบรับทั้งๆที่ยังประมวลคำพูดทั้งหมดไม่ได้ ก่อนจะย้ายตัวเองไปนั่งเบาะด้านหน้าข้างคนขับแล้วให้คริสขับรถแทน คริสคงจะสร่างเมาแล้วล่ะนะ แต่ถึงคริสไม่สร่างเมายังไงเลย์ก็ขับรถไม่ไหวอยู่ดี ก็ในเมื่อตอนนี้สะโพกของเขามันร้าวจนไม่อยากจะขยับเขยือนไปไหนเลยถ้าเป็นไปได้
ทั้งคริสและเลย์มาถึงที่บ้านยามฟ้าสว่างจ้าพอดี สองแขนแกร่งช่วยประคองโอบกอดร่างเล็กไปตลอดทางเพื่อช่วยให้คนรักได้ขึ้นไปพักผ่อนเร็วๆ เป็นไปได้ก็อยากจะอุ้มเสียให้รู้แล้วรู้รอดถ้าไม่ติดว่าแม่บ้านที่ยืนมองดูอยู่ทำให้คริสต้องเลิกความคิดนั้นไป
“คุณหนูเป็นอะไรหรอคะ ให้ป้าเรียกหมอมาตรวจไหม?”
“ค..ครับ?”
หญิงแม่บ้านเอ่ยถามเลย์ทันทีด้วยความเป็นห่วง เห็นท่าทางทรมานแบบนั้นเธอเองก็ไม่อาจอยู่เฉยได้
“ดูท่าว่าจะเจ็บหนักนะคะ ไปลื่นล้มมาหรอคะคุณหนู?”
เลย์ถึงกับหน้าถอดสีเมื่อหญิงวัยกลางคนเอ่ยถาม หันหน้าไปหาคนรักมันก็ทำได้แค่ยืนบื้อเสมองไปทางอื่นแล้วลูบท้ายทอยแก้เก้อ
“ไม่เป็นไรหรอกครับป้า ผมเจ็บไม่มากเดี๋ยวก็หาย”
“ไม่ได้นะคะ คุณท่านฝากฝังให้ป้าดูแลคุณหนูให้ดีๆ เจ็บเล็กเจ็บน้อยก็ไม่ได้ค่ะ”
“อ่า แต่ตอนนี้ผมอยากนอนแล้วนะครับ ไม่เป็นไรจริงๆครับป้า”
ใบหน้าหวานเริ่มงองุ้มพองลมที่แก้มปรานกับว่าถูกขัดใจ ถึงแม้ไม่ได้แสดงท่าทางแข็งกร้าวแต่นั่นแม่บ้านทุกคนก็รู้ดีว่าเลย์น่ะดื้อเงียบ ถึงไม่อยากจะยอมแต่ก็ต้องยอมตามใจอยู่ดี
“เดี๋ยวผมดูแลเขาเอง ไม่ต้องห่วงนะครับ”
เห็นหญิงวัยกลางคนดูจะชั่งใจว่าควรทำอย่างไรดี คริสจึงเป็นฝ่ายโพล่งขึ้นมาให้ทุกอย่างมันจบลง และนั่นแม่บ้านผู้เป็นห่วงเลย์ที่สุดก็จำใจต้องพยักหน้าทำตามถึงแม้ในใจจะขัดกับการกระทำเสียเหลือเกิน
หลังจากอาบน้ำอาบท่าเสร็จสับก็ปาเข้าไปเกือบจะแปดโมงแล้ว ความเหนื่อยล้าเพราะการอดหลับอดนอนมาทั้งคืนรวมทั้งบทรักอันเร่าร้อนทำให้ทั้งคริสและเลย์ไม่มีบทสนาระหว่างกันเลยแม้แต่คำเดียว เอาเข้าจริงแค่จะอ้าปากพูดก็ยังไม่มีแรง ก่อนทั้งคู่จะเดินมาล้มตัวลงนอนที่เตียงใหญ่ด้วยกันเตรียมตัวเข้าสู่ห้วงนิทราในอีกไม่ช้า
ก๊อก ก๊อก ก๊อกๆ
เสียงขัดหน้าห้องทำให้เลย์ต้องค่อยๆหยัดกายขึ้นมาอีกครั้ง ทำท่าจะหย่อนขาลงจากเตียงเพื่อเดินไปเปิดประตูให้คนมาใหม่ แต่นั่นคนที่เร็วกว่าอย่างคริสก็รีบส่งมือไปห้ามแล้วเป็นฝ่ายเดินไปเปิดประตูแทน
“เอ่อ...คุณหนูครับ”
“อ้าว ลุงโฮดงมีอะไรหรือเปล่าครับ?” พอรู้ว่าเป็นใครที่มายืนอยู่หน้าประตูในขณะนี้เลย์จึงเอ่ยถามออกไป
“จะให้ลุงเอารถไปล้างไหมครับ? ค...คือ...”
โฮดงอ้ำอึ้งจนเลย์ต้องเอ่ยถามอีกครั้ง เพราะในตอนนี้ความง่วงมันกำลังทำร้ายเขาอย่างจังจนไม่อาจยืดเยื้อบทสนทนาอีกต่อไปได้
“ว่ามาตรงๆเลยครับลุง”
“เอ่อ...เบาะหลังรถมันเปื้อนคราบ เอิ่ม...น่ะครับ จะให้ลุงเอาไปล้างเลยไหมครับ?”
“ห....ห๊ะ! ครับ?”
ไม่ต้องเดาเลยที่โฮดงบอกว่าเบาะมันเปื้อนนั้นเหตุเกิดจากอะไร ทั้งคริสและเลย์ต่างก็มองหน้ากันเลิ่กลักไร้ซึ่งบทสนทนาเพราะพูดไม่ออก และนั่นโฮดงที่รู้สึกถึงความอึดอัดของเด็กหนุ่มทั้งสองจึงรีบเอ่ยทำลายความอึมครึมไปเสีย
“ไม่ต้องคิดมากหรอกครับคุณหนู มันเป็นเรื่องธรรมดาครับ ปกติของวัยรุ่นล่ะนะ ลุงไม่บอกใครแน่นอน สัญญาๆ”
แน่ชัดแล้วว่าโฮดงรู้ถึงความสัมพันธ์ของทั้งคริสและเลย์ ใบหน้าแป้นอมยิ้มกรุ้มกริ่มให้กับเด็กหนุ่มทั้งคู่ก่อนจะพยักหน้าบอกว่าไม่เป็นอะไรให้เชื่อใจเขาได้เลยว่าเรื่องนี้จะไม่มีใครรู้
“เอ่อ...ถ้างั้นเดี๋ยวผมจัดการมันเองดีกว่าครับลุง ลำบากลุงโฮดงเปล่าๆ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับคุณหนู ลุงเข้าใจ เดี๋ยวลุงทำเองมันเป็นหน้าที่อยู่แล้ว อย่ารู้สึกผิดเลยนะครับ”
ใบหน้าหวานทำได้แค่พยักหน้าตอบรับ ยืนนิ่งตัวแข็งทื่อเมื่อในตอนนี้รู้สึกอายมากกว่าทุกสิ่งอย่าง แล้วนั่นพอหันไปหาคริสที่ยืนยิ้มอยู่ก็ยิ่งอายจนอยากจะแทรกแผ่นดินหนี เพียงแค่ได้หวนคิดถึงเรื่องราวเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนใบหน้าหวานก็เห่อแดงคล้ายว่ามีพิษไข้อย่างไรอย่างนั้น
“ขอบคุณนะครับลุงโฮดง รบกวนด้วยครับ”
หลังจากที่โฮดงเดินจากไปแล้วเลย์ก็ล้มตัวลงนอนที่เตียงอีกครั้งก่อนจะหลับตานิ่งคล้ายว่าให้กำลังใจตัวเอง ในขณะเดียวกันกับคนตัวสูงที่เดินมาล้มตัวลงนอนข้างๆพลางรั้งร่างเล็กเข้ามาไว้ในอ้อมกอดอบอุ่นแล้วจุมพิตที่ขมับขาวเพื่อปลอบขวัญ
“คิดมากหรือเปล่า หื้ม?” เสียงทุ้มเอ่ยถามพลางยันแขนเท้าศีรษะมองคนที่นอนคิ้วขมวดเข้าหากันอยู่ด้วยความเป็นห่วง
“ฉันโอเค นอนกันเถอะฉันง่วงจะแย่แล้ว”
“ฉันรักนายนะอี้ชิง รักมาก ฉันไม่ได้หวังแค่ร่างกายนายแล้วก็พอใจหรอกนะ ฉันต้องการนายที่อยู่กับฉันตลอดไป ได้โปรดอย่าจากฉันไปไหน ถึงวันนั้นฉันคงอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีนายอยู่เคียงข้าง”
คริสทำเอาเลย์ถึงกับมึนงง อยู่ๆคำพูดมากมายก็หลุดออกมาจากเรียวปากได้รูปที่เขาเคยได้รับความอ่อนโยนอยู่บ่อยครั้ง ทั้งยังสีหน้าจริงจังของคริสนั่นอีกที่เลย์นึกสงสัย
“อยู่ๆทำไมถึงพูดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาล่ะ”
“ฉันยอมรับว่าฉันยังเป็นกังวลกลัวว่านายจะคิดมากเรื่องในอดีตของฉัน ถึงแม้จะคิดในแง่ดีแล้วแต่นั่นเพราะฉันแคร์นายมากเลยไม่อยากให้นายต้องเจ็บแม้แต่นิด นายให้เวลาฉันหน่อยนะ ให้ฉันค่อยๆลดความกังวลนั้นลง”
“อื้ม แต่ฉันไม่ได้คิดมากจริงๆนะอู๋ฟาน ฉันลืมเรื่องเหล่านั้นไปแล้วด้วยซ้ำ ถ้านายจะมองแค่ฉันเพียงคนเดียว เรื่องในอดีตก็ช่างมันเถอะ ไม่ว่าเรื่องมันจะเลวร้ายยังไงก็ลืมมันไปให้หมด จะเป็นยังไงฉันก็ยังรักนายอยู่ดี อดีตมันก็คืออดีต แต่คนที่ฉันรักก็คือนายในตอนนี้ นายที่จะมองมาที่ฉันเพียงผู้เดียว”
สิ้นเสียงหวานกลีบปากอิ่มก็ถูกอีกคนครองครอบเหมือนอย่างเคย และนั่นคนถูกจู่โจมก็รับสัมผัสนั้นอย่างเต็มใจทั้งยังตอบสนองได้เป็นอย่างดี หลับตาพริ้มซึมซับทุกหยาดหยดที่คนตัวสูงมอบให้ด้วยใจที่ทั้งรักและพร้อมจะพลีให้ได้เสมอ
คนทั้งคู่ที่เกิดมาพร้อมกับทุกอย่างที่สรรสร้างหากแต่นั่นครอบครัวกลับไม่สมบูรณ์แบบอย่างที่นึกฝัน เพียงแค่ช่วยเติมเต็มส่วนที่ขาดหายให้แก่กันและกัน เรื่องเลวร้ายที่ผ่านมาก็เป็นเพียงแค่สายลมที่มองไม่เห็นแล้วพัดผ่านร่างกายไปเท่านั้นเอง
...ADOLESCENT…
*** NC เปิดไม่ได้บอกนะคะ คนใช้ Chrome เปิดได้แน่นอนค่ะ :")
*** อัพดึกมากค่ะ ตีสี่ครึ่ง ฮอลลลลลล TT’’
เอ็นซีอย่าแบนนะคะ ไม่แรงเลยจริงๆ
ย้ำด้วยว่าไรท์ไม่ถนัดเอ็นซีเท่าไหร่ อย่าถือสานะคะ T0T
ตอนนี้ก็ตื่อค่ะ 555555555555 คิดบทออกแต่สำบัดสำนวนไม่ค่อยจะได้
เพิ่งสอบเสร็จค่ะเบลอขนาด [ข้ออ้าง] >/////////////<
ความคิดเห็น