คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ll THE WIZARD ll Chapter 8
THE WIZARD 8
Trespass the Centaur castle
บรรยากาศยามค่ำคืนที่เย็นยะเยือกชวนขนลุกเช่นนี้ ยังมีกลุ่มคนผู้รอคอยเวลาเพื่อทำภาระกิจอันสำคัญอย่างใจจดใจจ่อ ภายในห้องลับของปราสาท ดราก้อนที่คละคลุ้งไปด้วยเศษฝุ่นละอองและหยักไย่รกรุงรังยิ่งสร้างความน่าสยดสยองให้กับค่ำคืนวันนี้ได้เป็นอย่างดี
แสงจันทรายามราตรีต่อให้สว่างจ้าแค่ไหนก็ไม่สามารถช่วยเติมเต็มความกล้าได้เลยแม้แต่น้อย เมื่อในตอนนี้มันคือเวลาเที่ยงคืนของเดอะวิซาร์ดที่เงียบสงัดไร้เสียงผู้คนเดินผ่านไปผ่านมาเหมือนดั่งยามฟ้าสว่าง
“ไม่มีที่อื่นแล้วหรอครับรุ่นพี่? อับก็อับ มืดก็มืด น่ากลัวเกินไปแล้ว”เสียงหวานเอ่ยถามอย่างหวาดระแวงเมื่อภายในห้องลับแห่งนี้มีเพียงแสงสว่างจากเทียนเพียงเล่มเดียวที่ยังคงส่องประกายให้มองเห็นอยู่
“นายจะกลัวอะไรนักหนาเนี่ยเลย์? อยู่กันตั้งหลายคน” ชางมินอดบ่นไม่ได้เมื่อรุ่นน้องหน้าหวานที่ตั้งแต่เข้ามาในห้องนี้ก็เอาแต่เหลือบซ้ายมองขวากลัวไม่เข้าเรื่อง
“รุ่นพี่ก็ดูสภาพห้องสิครับ อย่างน้อยขอสะอาดกว่านี้ก็ยังดี หนูวิ่งเต็มไปหมด ฮึ๋ย!” เลย์ยกมือขึ้นลูบแขนตัวเองไปมาเมื่อมองไปรอบๆห้องก็พบเห็นสัตว์เล็กสัตว์น้อยที่มักจะออกหากินตอนกลางยืนวิ่งสวนกันเต็มไปหมด
“ห้องที่เหลือฉันให้กลุ่มอื่นเอาไปแล้ว เหลือห้องนี้ล่ะที่เราจะประชุมกันได้โดยไม่มีใครรู้ และมันก็ลับหูลับตาคนที่สุด” ชางมินอธิบายหากแต่นั่นก็ไม่ทำให้เลย์เข้าใจอะไรมากขึ้นเลย ความกลัวมันเกาะกินสมองของเขาจนไม่อาจคิดตามไปได้
“ฉันว่าเรามาประชุมกันเถอะว่าจะเอายังไง” เป็นคริสที่เสริมขึ้น เหลือเวลาอีกสองชั่วโมงเพื่อให้พวกเขาได้คิดแผนการณ์ในการบุกปราสาทเซนทอร์ในราตรีนี้ จะชักช้าไม่ได้เดี๋ยวจะไม่ทันการณ์กันพอดี
“อื้ม ฉันคิดแผนไว้แล้ว อย่างแรกเราจะแบ่งคนออกเป็นคู่ๆเพื่อจะเข้าไปจัดการพวกเซนทอร์ต่อหนึ่งห้อง ฉันเตรียมยาสลบไว้ให้พวกนายแล้ว ในเมื่อใช้เวทมนต์ไม่ได้ก็ต้องวิธีนี้แหละ ส่วนยามเฝ้าปราสาทเดี๋ยวฉันจัดการเอง” ชางมินอธิบายเป็นฉากๆเพื่อให้นักเรียนในกลุ่มได้เข้าใจตรงกัน ซึ่งทุกคนก็พยักหน้าตามอย่างเห็นด้วยกับแผนการณ์ของเขา
“เลย์กับคริสพวกนายไปห้องของซีวอน ฉันคิดว่าถ้วยจันทราน่าจะอยู่ที่ห้องของมันแน่นอน หลังจากที่ฉันวางยาสลบยามเฝ้าปราสาทแล้ว พวกนายก็เริ่มบุกได้เลย ใครมีกลยุทธ์อะไรก็นำออกมาใช้ให้หมดเข้าใจไหม? แล้วฉันจะตามไปสมทบเพื่อจัดการไอ้ซีวอนอีกแรง”
ใบหน้าหล่อแสยะยิ้มเมื่อนึกถึงภาพของซีวอนผู้ซึ่งเป็นคู่อริกับเขาตั้งแต่เข้ามาเรียนปีหนึ่ง ถึงซีวอนจะเป็นรุ่นพี่และเป็นประธานปราสาทเซนทอร์ หากแต่ชางมินก็ไม่สนเลยสักนิด คนที่เขาไม่ชอบขี้หน้าต่อให้มีศักดิ์ใหญ่กว่าแค่ไหนเขาก็ไม่กลัว
2.00 AM
เสียงฝีเท้าแผ่วเบาที่เหลืออีกเพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น กำลังจะย่างเข้าสู่อาณาบริเวณของปราสาทผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นจอมโกงแห่งเดอะวิซาร์ด หากแต่ทุกคนก็ต้องหยุดชะงักไปเสียก่อนเมื่อสัญญาณมือจากหัวหน้ากลุ่มอย่างรุ่นพี่ผู้อัจฉริยะชิมชางมินยกขึ้นห้ามบอกให้หยุดเพียงเท่านี้
“พวกนายรออยู่หลังพุ่มไม้นี้ก่อน เดี๋ยวฉันมา” ร่างกายสูงโปร่งสาวเท้าย่างกายไปอย่างช้าๆพลางมองซ้ายมองขวาดูต้นทาง เมื่อเห็นว่าปลอดคนชางมินจึงรีบเดินย่องตรงไปยังป้อมยามทันที
“หลับให้สบายนะเด็กน้อย” เสียงเข้มของรุ่นพี่ตัวสูงหากใครได้ฟังคงหวาดกลัวได้ไม่ยากก่อนมือหนาจะจัดการเอาผ้าที่โปะไปด้วยยาสลบปิดจมูกเด็กนักเรียนของเซนทอร์ที่เฝ้ายามอยู่ในทันที ก่อนจะเดินไปตามจุดต่างๆของหอพักแล้วทำแบบเดียวกันจนยามเฝ้าปราสาทล้มไปที่ละคนสองคน และตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะให้ทุกคนในกลุ่มเตรียมบุกได้แล้ว
"พี่ชางมินออกคำสั่งให้เริ่มแล้ว"
เมื่อได้รับสัญญาณมือจากรุ่นพี่เจ้าของชื่อเทวดาให้เริ่มบุกได้ เลย์ก็รีบกุลีกุจอออกจากพุ่มไม้ทึบทันที ท่าทางเงอะงะทำเหมือนสปายในหนังเรื่อง 007 ทำให้คริสถึงกับส่ายหน้าไปมาอย่างอ่อนเพลีย พลันในใจก็คิดว่าเขาหลงรักผู้ชายหน้าหวานคนนี้ไปได้ยังไง
“ติงต๊อง!” คริสเอ่ยเพื่อให้อีกคนได้ยินอย่างชัดเจน ก่อนจะรีบสาวเท้าเดินนำเข้าไปในหอพักของปราสาทเซนทอร์ทันทีโดยไม่รอคนตัวเล็กที่มัวแต่แสดงท่าทางแอคชั่นตลกนั่นอยู่เลย
“คริส! นายว่าใครติงต๊อง ฉันออกจะเท่” ขาเล็กรีบเดินตามรูมเมทตัวสูงไปติดๆก่อนจะยืดอกเอ่ยอย่างภาคภูมิใจในความเท่ของตัวเอง
“มัวแต่ลีลาแล้วจะหาถ้วยเจอสักทีไหม? ถ้าอยากมากก็ไปเล่นหนัง เลยสิ” เสียงทุ้มต่อว่าเมื่อเห็นอีกคนดูจะสนุกไปกับท่าทางบ้าบอนั่นซะเหลือเกิน
“โอ้ย!นายเข้าใจป๊ะ? มันเป็นฟิลลิ่งอ่ะฟิลลิ่ง ไม่มีอารมณ์ร่วมเล้ย!” สายตาหวานตวัดไปให้คนที่เพิ่งเหน็บแนมเขาเมื่อครู่ ทำอะไรก็ผิดไปหมดซะทุกอย่าง ไม่รู้ว่าเขากับคริสอยู่ด้วยกันได้ยังไง นิสัยช่างต่างกันคนละขั้ว
“แล้วนั่นนายหอบอะไรมา เอากระเป๋ามาทำไม?”คริสเอ่ยถามเมื่อเพิ่งสังเกตุเห็นอีกคนแบกเป้ใบใหญ่ใส่หลังมาด้วย ตัวก็เล็กอยู่แล้วยังจะแบกอะไรที่มันใหญ่เกินตัวอีก
“ตัวช่วยนิดหน่อยอ่ะ พอดีว่าฉันเป็นคนเตรียมพร้อมไง อุวะฮ่าๆ”เสียงหวานพยายามดัดเสียงหัวเราะให้ใหญ่ขึ้นอย่างพึงพอใจกับความพร้อมของตัวเอง และนั่นก็เป็นอีกครั้งที่คริสต้องส่ายหน้าไปมาอย่างเหนื่อยใจ
“ภูมิใจมากสินะ? เด็ก!” ปากเรียวกระตุกยิ้มอย่างนึกขัน ขนาดสถานการณ์ตึงเครียดขนาดนี้เลย์ยังสามารถทำให้ทุกอย่างดูน่ารื่นรมณ์ไปเสียหมด
“ไม่ว่าฉันสักครั้งจะตายไหม รีบไปเร็วๆ ห้องรุ่นพี่ซีวอนอยู่ไหนรู้แล้วรึไง?”
“หึ! นี่นายมากับใครลืมไปแล้วหรอ? ฉันคริสนะ” ร่างสูงชี้นิวเข้าหากายก่อนจะพูดยอตัวเองเสียยกใหญ่
“จ้าพ่อคนเก่ง เก่งไปหมดทุกเรื่องเลย ชิส์!” เมื่อเห็นอีกคนก็โอ้อวดตัวเองไม่แพ้กัน เลย์ก็ถึงกับหมั่นใส่ในความขี้โม้ของรูมเมทหน้าหล่อ อย่าให้ถึงทีบ้างนะ แม่จะเอาคืนให้สาสมเลย
ภายในหอพักอันวังเวงกับหนทางข้างหน้าที่ไม่มีแม้แต่แสงจันทร์ที่สาดส่งเข้ามา ทำให้จิตใต้สำนึกที่มีอยู่มันคิดอะไรฟุ้งซ่านไปไกล อากาศยามค่ำคืนที่หนาวเหน็บ เสียงลมเบาหวิวที่พัดผ่านทำให้คนที่ไม่ชอบอะไรแบบนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้วถึงกับจิตตกในทันที
“นี่เลย์! จะเกาะอะไรฉันนักหนาเนี่ย มันเดินไม่ถนัดเห็นไหม?”
มือเล็กที่เกาะแขนแกร่งอยู่ทำให้เขาเดินไม่ถนัดอย่างที่เป็น พอจะเดินไปแต่ละย่างก้าวคนตัวเล็กก็เอาแต่เบียดเข้ามาจนเดินไปไหนไม่ได้สักที
“ก็มันน่ากลัวอ่ะ นายได้ยินเสียงนั่นไหม?”
เสียงหมาหอนกับเสียงนกยามราตรีที่ประสานร้องออกมาอย่างพร้อมเพรียงกันทำให้จิตใจของคนตัวเล็กเตลิดเปิดเปิงจนคริสก็อดขำไม่ได้ หากแต่ยังคงปั้นหน้านิ่งต่อไปเพื่อคอยดูอีกคนอย่างนึกเอ็นดู...เมื่อกี้ยังทำท่าสปาย 007 อยู่เลย ทีตอนนี้ล่ะกลัวจนหัวหด
“ออกไปเลยฉันรำคาญ!” มือหนายกขึ้นผลักหัวเล็กจนเซออกไปอีกทางก่อนจะอมยิ้มกับความทะเล่อทะล่าของอีกคน แววหวานเหล่มองซ้ายมองขวาอย่างหวาดระแวงราวกับคนที่กำลังหลบหนีอะไรบางอย่างอยู่ น่ารัก
“คริสอ่ะ มันน่ากลัวนะ” โดนผลักออกไปเมื่อครู่ก็ไม่วายกระโดดเข้ามาเกาะแขนแกร่งอยู่อย่างเดิม
“นายนี่เด็กน้อยจัง ให้ตายสิน่า”
“ฮุ้ย! คำก็เด็กสองคำก็เด็ก นายก็อายุเท่าฉันนั่นแหละ ฉันเด็กนายก็เด็กเหมือนกันแหละวะ” ใบหน้าหวานยู่ลงเพราะคำพูดของคนตัวสูงที่เขาขอพึ่งพาอยู่ ก่อนจะโต้ตอบกลับไปบ้างอย่างไม่ยอมแพ้
“ฉันหมายถึงสมองนายอ่ะเด็ก กลัวอะไรไม่เข้าเรื่อง” คริสยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจเมื่อได้แกล้งอีกคน
“อย่ามาว่…”
“ชู่ว์!”
ไม่ทันได้ให้เลย์พูดจบ คริสก็ยกนิ้วชี้ขึ้นแตะที่ริมฝีปากบางอย่างแผ่วเบาเป็นเชิงปรามให้เงียบเสียงลงเมื่อรับรู้ถึงฝีเท้าของใครบางคนที่กำลังเดินมาทางที่พวกเขายืนอยู่ มัวแต่ทะเลาะกันจนทำให้ไปไม่ถึงห้องของซีวอนเสียที ก่อนกายสูงของคริสจะรีบยกร่างบางของอีกคนที่ยืนแน่นิ่งเป็นหินไม่รู้เรื่องเรื่องราวหลบไปในมุมมืดของบันไดเพื่อเฝ้ามองบุคคลที่กำลังจะเดินผ่านมา
“เป็นอะไร เห็นผีรึไง?” คริสกระซิบถามเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กเอาแต่ยืนตัวแข็งทื่อไม่กระดิกไปไหน ทำเอาเขาก็อดเป็นห่วงไม่ได้ แต่นั่นใครจะรู้ว่าเพราะการกระทำของร่างสูงนั่นเองที่ทำให้เลย์เป็นแบบนี้
“บ้ารึไง? ใครใช้ให้พูดเรื่องแบบนี้ตอนกลางคืนกันเล่า”
มือเล็กยกขึ้นตีกล้ามแขนของคริสในทันทีเมื่อคนตัวสูงพูดในเรื่องของสิ่งที่มองไม่เห็นและไม่สามารถสัมผัสได้ นั่นเขาก็กลัวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เรียกได้ว่าขึ้นสมองเลยทีเดียว
“เงียบๆ มีคนกำลังเดินมาทางนี้” คริสลดเสียงลงก่อนจะเอื้อมมือไปโอบเอวบางของอีกคนให้หลบเข้ามาในมุมอับแคบด้วยกัน เพื่อซ่อนกายจากสายตาของบุคคลที่กำลังย่างก้าวเข้ามายังทิศทางนี้เรื่อยๆ
เสียงฝีเท้าเริ่มเผยให้ได้ยินอย่างชัดเจนเมื่อบุคคลดังกล่าวได้เดินมาถึงที่ที่ทั้งคริสและเลย์ยืนสนทนากันอยู่ก่อนหน้านั้น ความเงียบที่เข้ามาปกคลุมในยามราตรีเช่นนี้ทำให้ได้ยินอะไรชัดเจนขึ้นไปอีก นั่นก็รวมถึงเสียงหัวใจของคนทั้งคู่ที่มันร่ำร้องแข่งกันอยู่ในขณะนี้ ทั้งตื่นเต้นเพราะกลัวโดนจับได้ว่าบุกลุกและก็ตื่นเต้นทั้งที่ได้อยู่แนบชิดกายของอีกคนมากขนาดนี้ เกือบลืมหายใจเมื่อบุคคลที่เข้ามาใหม่ไม่ยอมไปไหนเสียทีจนต้องเบียดกายเข้าหากันให้แน่นเข้าไปอีก ความร้อนรนในกายที่เมื่อได้ใกล้ชิดกับร่างสูงก็แทบระทวยล้มพับไปกับพื้นในทันที
กายบางที่อยู่ในอ้อมกอดของคริสทำให้เลย์รู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเป็นที่สุด ความตื่นเต้นและความกลัวที่ก่อตัวขึ้นทำให้ใบหน้าหวานจำต้องซบลงกับแผงอกแกร่ง พลันหลับตาปี๋พร้อมทั้งเกร็งมือกำเนื้อเสื้อของคริสแน่นจนมันยับยู่ยี่ ก่อนจะปรากฏให้เห็นร่างของเด็กหนุ่มวัยเดียวกันชัดขึ้นเมื่อขายาวๆนั้นเดินตรงดิ่งมายังที่หลบภัยของเขาเรื่อยๆ
“เทา! มาหาฉันหน่อย”
เสียงเรียกเย็นช้าดังมาจากอีกทางทำให้เทาต้องหันกลับไปตามเสียงนั้นก่อนจะหมุนตัวแล้วทำท่าจะเดินจากไป หากแต่เขาก็รู้สึกถึงบางอย่างจนต้องหยุดชะงักเท้าไว้อีกครั้ง ใบหน้าเข้มก้มลงเล็กน้อยเหมือนคิดอะไรบางอย่างก่อนจะส่ายหน้าไปมาแล้วเดินจากไปในทันที
“เฮ้อ! ปล่อยฉันได้แล้ว เขาไปแล้วเห็นไหม?”
เหมือนยกภูเขาออกจากอกเมื่อเห็นว่าเทาจากไปแล้ว เลย์ก็ถึงกับถอนหายใจออกมาเต็มแรงก่อนจะเอ่ยบอกคนที่กอดเขาแน่นให้คลายอ้อมกอดออกเสียที
“อยากอยู่แบบนี้?”
คนตัวเล็กถึงกับหน้าชาเมื่อคริสเอ่ยประโยคที่ทำให้ใจสั่นไหว นี่พูดมาคิดไหมว่าเขาจะเขินรึเปล่า หากแต่หารู้ไม่ว่านั่นมันเป็นประโยคคำถามจากอีกคน
“ปล่อยฉันได้แล้ว มันอึดอัด!” เสียงหวานเอ่ยกระซิบอย่างเขินอาย ก่อนจะหันใบหน้าที่ขึ้นสีระเรื่อเหมือนลูกตำลึงเสไปอีกทาง ถ้าในตอนนี้มีแสงสว่าง คริสคงเห็นได้อย่างชัดเจนว่าใบหน้าหวานนั้นแดงซ่านขนาดไหน
“หึ! ฉันถามนายว่าอยากอยู่แบบนี้หรอ? ช่วยดูด้วยว่าใครกอดใครกันแน่? แล้วกำเสื้อฉันซะยับขนาดนี้รู้ไหมว่ามันรีดยาก”
สิ้นเสียงคริส ใบหน้าน่ารักก็ค่อยๆก้มมองที่แขนของตัวเองในทันที เมื่อเห็นว่าคริสไม่ได้โอบกอดเขาอยู่แต่เป็นเขาเองที่เป็นฝ่ายกอดคริสเสียอย่างนั้น ความอายก็บังเกิดขึ้นในทันทีก่อนจะค่อยๆ ชักมือกลับมาอย่างทุลักทุเล
“อ้าวหรอ? ขอโทษ แฮ่ๆ”
มือเล็กยกขึ้นทึ้งหัวตัวเองเบาๆก่อนจะเขกมันไปทีสองทีเพราะทำเรื่องหน้าอายไปต่อหน้าอีกคน ทำให้คริสที่ลอบมองอยู่ถึงกับยกยิ้มด้วยหัวใจพองโต ไม่ปฏิเสธเลยว่าชอบ ถ้าทำได้ก็อยากให้กอดนานๆอยู่เหมือนกัน
กริ๊งงงงงงงงงงง!!!!!!!!!!!!
ไม่ทันได้โล่งอกโล่งใจนาน เสียงสัญญาณเตือนภัยของปราสาทเซนทอร์ก็ดังขึ้นเพื่อบ่งบอกว่าขณะนี้ได้มีผู้ที่ไม่ได้รับเชิญบุกลุกเข้ามายังปราสาทแห่งนี้ ส่งผลให้บรรดาเหล่านักเรียนของปราสาทที่หลับใหลอยู่แตกตื่นกันเสียยกใหญ่ จะเหลือก็แต่คนที่โดนยาสลบไปแล้วเท่านั้น
“พวกมันรู้ตัวแล้ว รีบไปห้องซีวอนเร็วเข้า” คริสรั้งมือบางให้รีบวิ่งไปยังห้องของซีวอนในทันที หากแต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยถ้าจะผ่านด่านของพวกนักเรียนที่รู้ตัวว่าโดนบุกลุกแล้วในขณะนี้
“เฮ้! เด็กดราก้อนนี่หว่า มาเหยียบถึงถิ่นพวกฉันแบบนี้มันไม่ดีนะ”หนึ่งในเสียงของนักเรียนเซนทอร์ที่รายล้อมคนทั้งสองอยู่เอ่ยขึ้น
“อ้อหรอ?” เสียงหวานเอ่ยอย่างไม่เกรงกลัวก่อนจะหยิบเอาบางอย่างในกระเป๋ากางเกงออกมาแล้วใช้ไฟแช็คที่พกมาด้วยจุดมันพลันโยนใส่เหล่าบรรดาเด็กนักเรียนพวกนั้นทันที
ปั๊ง ปั๊ง ปั๊ง !!!!!!!!!!!!
เฮ้ย! อ้ากกกกกกก!!
เหล่าเด็กเซนทอร์ที่ยังปากดีอยู่เมื่อครู่หากแต่ตอนนี้กลับกระโดดโหยงเพราะกลัวเสียงประทัดที่คนตัวเล็กโยนไปให้เป็นของปลอบใจ ช่างเป็นภาพที่ตลกสิ้นดี
“อุวะฮ่าๆ ไม่แน่จริงนี่หว่า” เลย์หัวเราะอย่างสะใจเมื่อเห็นท่าทางราวกับลูกแมวแตกตื่นของเด็กเซนทอร์ก็อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยอีกครา
“ตามมันไป!” หนึ่งในเด็กนักเรียนที่โดนเล่นงานจากคนตัวเล็กเมื่อครู่รีบเปล่งเสียงบอกพักพวกทันที
“อ้าก! มันมาแล้ว”
เมื่อเห็นว่าคนฝูงใหญ่วิ่งไล่หลังมาไม่ห่าง เสียงหวานก็แหกปากร้องลั่นจนมืออีกข้างของคริสที่ไม่ได้กุมมือเล็กอยู่ต้องยกขึ้นมาอุดหูเพราะไม่สามารถทนทานเสียงที่น่าหนวกหูของเลย์ได้
“เดี๋ยวนายวิ่งไปเอาถ้วยที่ห้องซีวอนก่อนนะ เดี๋ยวฉันจะตามไปหลังจากจัดการไอ้พวกนี้เสร็จแล้ว” คริสเอ่ยกับคนหน้าหวานขณะที่ยังวิ่งหนีเหล่าเด็กเซนทอร์อยู่
“ไม่เอา นายอย่าทิ้งฉันสิ” หัวทุยส่ายไปมาอย่างไม่เห็นด้วย เขาอยู่คนเดียวไม่ได้ถ้าไม่มีคริส ยิ่งสถานการณ์แบบนี้ด้วยแล้วมันจะอุ่นใจที่สุดถ้ามีคริสอยู่ใกล้ๆ
“ฉันไม่ทิ้งนายแน่นอน เชื่อฉันนะ” มือที่กอบกุมมือเล็กอยู่นั้นออกแรงบีบเบาๆเพื่อให้อีกคนรู้สึกมั่นใจ ก่อนจะได้เห็นคนตัวเล็กที่พยักหน้าตอบรับกลับมา เพราะเลย์เชื่อ... เชื่อว่าคริสจะไม่ทิ้งเขาแน่นอนและเขาก็มั่นใจว่าคริสจะไม่ผิดสัญญา
“……………”
“พร้อมนะ! ห้องซีวอนอยู่ริมสุด วิ่งไปไม่ต้องห่วงฉัน ทางนี้ฉันรับมือไหว…"
“…………..”
" 1… 2… ไป!”
สิ้นเสียงนับ คริสก็ปล่อยมือจากเลย์ในทันทีก่อนจะหันกลับไปแล้วยกขาขึ้นถีบเข้าที่ยอดอกของเด็กเซนทอร์ที่วิ่งตามมาไม่คิดชีวิต พลันเริ่มบทบู้ที่ไม่ได้ใช้มานานอย่างนึกสนุก
“คริสหลบ!”
คนหน้าหวานที่วิ่งออกไปได้ไม่กี่ก้าวก็นึกอะไรแผลงๆ ขึ้นมาได้ ก่อนจะรีบเปิดกระเป๋าเป้ที่สะพายใส่หลังมาด้วยออก แล้วค้นหาของที่เตรียมมาเพื่องานนี้ คริสเห็นดังนั้นก็ขัดใจไม่น้อย บอกให้วิ่งไปไม่ต้องห่วงเขาก็ยังไม่วายหาเรื่องใส่ตัวอีกจนได้
เฮ้ย! อ้ากกกกกก !!!
อะไรวะเนี่ย? หยึ๋ย ~
เสียงโวยวายของเหล่าเด็กเซนทอร์ทำให้เลย์หัวเราะร่วนออกมาในทันที ไข่ไก่นับสิบฟองที่เขาแพ็คใส่กระเป๋ามาอย่างดี มันเป็นอาวุธที่ทรงอนุภาพอย่างหนึ่งที่ตอนนี้ถูกเขวี้ยงไปอยู่บนหัวของคนพวกนั้นอย่างแม่นยำ ทั้งเละและน่าสะอิดสะเอียนเป็นที่สุด
“ที่เหลือก็นายแล้วนะคริส สู้ๆ แล้วอย่างลืมที่บอกล่ะ รีบมาหาฉันนะ" เรียวปากอิ่มยกยิ้มจนเห็นลักยิ้มบุ๋มส่งไปให้เพื่อนตัวสูงที่ตอนนี้ก็ยิ้มตอบกลับมาด้วยเช่นกัน ใบหน้าหล่อพยักหงึกหงักก่อนจะหันไปต่อยเด็กเซนทอร์ที่มัวแต่สนใจกับความเปรอะเปื้อนจากไข่ไก่เหลวๆบนร่างกายจนกองราบไปนอนกับพื้นทันที
“เลย์! แล้วคริสล่ะ?” ชางมินที่วิ่งมาบรรจบกับเลย์พอดีเอ่ยถาม
“คริสจัดการกับพวกนั้นอยู่ครับ เขาให้ผมไปที่ห้องรุ่นพี่ซีวอนก่อน” เสียงหวานเอ่ยบอกก่อนจะชี้ไปยังร่างของคริสที่กำลังต่อสู้อยู่กับเด็กนักเรียนของเซนทอร์อย่างเลือดร้อน
“แล้วนั่นรุ่นพี่นำอะไรมาด้วยหรอครับ?”เมื่อสังเกตุเห็นสิ่งที่ชางมินถืออยู่เลย์ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าชางมินจะนำของสิ่งนี้มาเพื่ออะไร คิดยังไงก็คิดไม่ออก
“เดี๋ยวนายก็รู้” ปากเรียวแสยะยิ้มเยี่ยงซาตาน ทุกครั้งที่ชางมินได้นึกถึงเรื่องเมื่อปีที่แล้ว นั่นก็ทำให้เขารู้สึกอยากแก้แค้นซะในทันที ภาพเหตุการณ์วันนั้นมันช่วยเติมเชื้อเพลิงในกายเขาให้ลุกโชนได้เป็นอย่างดี ความโกรธแค้นที่พยายามดับยังไงก็ไม่สามารถดับสลายให้หมดไปได้ ถึงเวลาเอาคืนบ้างแล้ว
มือหนาค่อยๆบิดลูกบิดประตูออกช้าๆก่อนจะเปิดเข้าไปในห้องนอนของคู่อริ หากแต่เปิดเข้ามาแล้วกลับพบแต่ความว่างเปล่าและความเงียบสงัดไร้ซึ่งร่างของเจ้าของห้อง ชางมินรีบสาวเท้าเดินเข้าไปภายในห้องทันทีอย่างหัวเสีย เขาโมโหที่ไม่ทันเหล่เหลี่ยมของซีวอนเหมือนอย่างเคย
... สมแล้วที่อยู่เซนทอร์ ปราสาทนี้มันเหมาะกับนายที่สุด ซีวอน…
“มาช้าไปว่ะไอ้เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ฉันรอนายมาตั้งหลายชั่วยามแน่ะ”
น้ำเสียงเย็นช้าที่ดังขึ้นมาจากด้านหลังทำให้ชางมินต้องหันตัวกลับไปมองในทันที แต่นั่นก็ถึงกับต้องตกใจเมื่อรุ่นน้องหน้าหวานที่เดินตามมาด้วยกันไม่ห่างตอนนี้กลับถูกจับเป็นตัวประกันเสียแล้ว
“ปล่อยเลย์ไป เรื่องนี้มีแค่ฉันกับนายเท่านั้น”
ถึงจะรู้ว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่ต้องใช้ข้ออ้างแบบนี้มาต่อกลอนกับซีวอน แต่ก็เลือกที่จะพูดเพื่อให้เลย์ปลอดภัยและไม่ต้องเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ เป็นห่วงรุ่นน้องหน้าหวานเหลือเกิน
“หึ! ปล่อยงั้นหรอ? มันง่ายไปหน่อยมั้งที่จะใช้คำนี้กับคนของเซนทอร์”
ไม่มีผิด เป็นอย่างที่ชางมินคิด ซีวอนก็คือซีวอนอยู่วันยังค่ำ ถูกสั่งสอนมาให้รับรู้แต่เรื่องแบบนี้ เรื่องที่ทำทุกอย่างเพื่อที่จะได้ผลประโยชน์เข้าตัวเอง
“นายต้องการอะไร?”
“อืม....เด็กคนนี้ก็น่ารักดีนะ หอมใช้ได้เลย” พูดเสร็จก็ล็อคคอขาวของคนร่างบางให้เข้ามาหาตัวก่อนจะก้มลงไปหอมแก้มนิ่มนั้นอย่างนึกพิศวาส สัมผัสที่หยาบคายทำให้เลย์กลัวจนตัวสั่น ดวงตากลมโตเริ่มสั่นระริกไปด้วยหยาดน้ำใสๆที่เอ่อคลอ ผู้ชายคนนี้มันน่ารังเกียจ
“ไอ้บ้าเอ้ย ปล่อยน้องฉันเดี๋ยวนี้นะ!”
ชางมินตวาดเสียงใส่อย่างเหลืออดเมื่อภาพเหตุการณ์ตรงหน้ามันซ้ำรอยอดีตของเขาทำให้หวนคิดถึงใบหน้าของคนรักที่ก็โดนซีวอนล่วงเกินแบบนี้เหมือนกัน หากแต่มันร้ายแรงกว่านี้เยอะ แต่ชางมินกลับทำอะไรไม่ได้เลยเมื่อมีดที่จ่ออยู่ที่คอขาวๆของเลย์นั้นมันอันตรายเกินกว่าที่เขาจะเข้าไปช่วยได้
“อ๊ะ!”
ซีวอนร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดเมื่อมือหนาของผู้มาใหม่บิดข้อมือของเขาออกจากการพันธนาการคนตัวเล็กอยู่อย่างสุดแรง ก่อนที่เลย์จะรู้สึกตัวแล้วรีบวิ่งออกจากอ้อมกอดที่น่ารังเกียจนั้นพลันเข้าไปหลบหลังชางมินเพื่อหาที่พึ่งทันที
“คริสระวัง!” เสียงหวานร้องบอกระหว่างที่คริสและซีวอนกำลังยื้อแย่งมีดปลายแหลมกันอยู่ ชางมินไม่อาจยืนดูอยู่เฉยได้ ไม่รอช้ากายสูงจึงรีบถลาเข้าไปช่วยน้องชายอีกแรง
“โอ้ย!” คริสร้องออกมาเมื่อรู้สึกถึงบางสิ่งที่กรีดลงที่ต้นแขนของเขาจนเลือดสีสดไหลออกมา มีดจากมือของซีวอนหล่นไปอยู่กับพื้นเป็นที่เรียบร้อยหลังจากยื้อแย่งกันได้สักพัก ร่างบางที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่ในตอนแรกรีบวิ่งเข้าไปหาคริสด้วยความเป็นห่วงพลันน้ำตาที่เอ่อคลออยู่ก่อนแล้วก็ไหลออกมาเป็นทางไม่ขาดสายเมื่อเห็นว่าอีกคนเจ็บปวด
“อย่าร้องนะ...ฉันทนดูไม่ได้ถ้าเห็นนายเป็นแบบนี้ แต่ตอนนี้หลบทางไปก่อน ฉันไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอกอย่าห่วงเลย” พูดเสร็จคริสก็รีบผลักกายบางให้ออกไปจากพื้นที่เสี่ยงภัยทันที ก่อนจะเริ่มเข้าไปดึงร่างของซีวอนให้ออกมาจากชางมินแล้วกระหน่ำหมัดหนักๆลงไปที่ใบหน้าหล่อคมนั้นอย่างโกรธเคือง
“นี่แน่ะ! ไอ้ซีวอน ไอ้บ้า ไอ้เลว ไอ้คนเฮงซวย!” เสียงหวานเปล่งด่าทอหัวหน้าปราสาทเซนทอร์อย่างสุดจะทนก่อนจะหลับหูหลับตาปาไข่ไก่ที่เหลืออยู่ใส่อย่างไม่ยั้ง โดยไม่แคร์เลยว่าจะโดนคนที่อยู่ร่วมเหตุการณ์ด้วยหรือเปล่า
“โอ้ย! ไอ้เด็กบ้า! มันสกปรกนะ” ซีวอนร้องลั่นอย่างเสียท่าเพราะไข่ไก่ที่ตอนนี้มันเยิ้มไปทั่วทั้งตัวของเขา
เมื่อเห็นสภาพของซีวอนแล้ว ใบหน้าหวานที่เศร้าสลดอยู่ในตอนแรกก็ประดับไปด้วยรอยยิ้มขบขันในทันที ไข่ไก่เละๆบนร่างกายประธานปราสาทเซนทอร์ก็ต้องตามด้วยสิ่งนี้ก่อนจะนำไปลงทอด แป้งมันที่เพิ่งไปซื้อจากมินิมาร์ทเมื่อตอนเย็นถูกแกะถุงออกแล้วโรยไปบนร่างกายของซีวอนในทันที
“ฮ่าๆ โอ้ย! ตลกเป็นบ้า” มือเล็กกุมเข้าที่หน้าท้องแบนราบก่อนจะล้มตัวลงไปนอนแด้ดิ้นกับพื้นเพราะขำไม่หยุด หัวเราะทั้งน้ำตาน่าจะบรรยายได้เห็นภาพที่สุด หมดสภาพของซีวอนคนเดิม นั่นก็สามารถเรียกรอยยิ้มจากพี่น้องทั้งสองที่ยืนดูอยู่ให้ร่วมไปด้วย
“เฮ้ย! เป็นไงบ้าง? เจอถ้วยหรือยัง?” ยุนโฮที่วิ่งทะเล่อทะล่าเข้ามาเอ่ยถามอย่างร้อนรนพร้อมกับไคและดีโอที่ตามมาไม่ห่าง เมื่อปราสาทที่เขาไปบุกมานั้นไม่พบอะไรเลยทั้งยูนิคอร์นและฟีนิกซ์ต่างก็ไม่พบถ้วยจันทราที่ว่า
“เอ้อ! มัวแต่สนุกจนลืมหาถ้วยไปเลย ไคจับซีวอนมัดไว้เดี๋ยวฉันจะหาถ้วยที่ห้องนี้ก่อน” ชางมินเอ่ยเมื่อนึกขึ้นได้พลันเดินไปรอบๆห้องเพื่อหาสิ่งที่ต้องการ
“ต่อให้หาจนตายก็ไม่เจอหรอกไอ้พวกโง่!” ซีวอนเอ่ยขึ้นก่อนจะหัวเราะชอบใจทั้งที่ไม่ได้รู้เลยว่าตัวเองนั้นกำลังเป็นรองอยู่
“เลย์กับคริสช่วยหน่อยนะ ฉันว่ามันต้องเอาไปฝากกับใครสักคนไว้แน่ๆ”
เมื่อรับคำสั่งจากชางมิน คริสและเลย์ก็รีบเดินออกไปหาถ้วยจันทราในทันที หากแต่จะไปหาที่ไหนในเมื่อมันน่าจะอยู่ที่ห้องของซีวอนแท้ๆแต่กลับไม่พบวี่แววอะไรเลย เท้าสองคู่เดินไปตามชั้นต่างๆและช่วยกันหาทุกห้องที่เดินผ่านแต่ก็ไม่พบอะไรนอกจากร่างที่นอนสลบแน่นิ่งของเหล่านักเรียนเซนทอร์
“พวกนายหานี่อยู่หรือเปล่า?” เมื่อกำลังเดินสำรวจที่ต่างๆ เสียงเข้มของใครบางคนก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน
“เทา” เลย์อุทานออกมาเมื่อพบหน้าอีกคน นั่นทำให้คริสต้องขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ไปรู้จักกันตอนไหน แล้วทำไมเขาถึงไม่รู้
“ถ้าอยากได้ก็เอามันไปเถอะ” เทายื่นถ้วยจันทราสีทองอร่ามที่แม้แต่ยามค่ำคืนพระจันทร์เต็มดวงเช่นนี้ก็ยังเปล่งประกายแสงสีเหลืองออกมาอย่างสวยงามให้ตรงหน้าของเลย์
“หึ! มันง่ายเกินไปหรือเปล่า เซนทอร์ไม่มีอะไรที่ไว้ใจได้ทั้งนั้น” คริสยกยิ้มมุมปากอย่างดูถูกอีกคน คนๆนี้กำลังคิดจะเล่นตลกอะไรกันแน่
“งั้นนายก็มาสู้กับฉันสักตั้งสิ” เทาท้าอย่างไม่นึกเกรงกลัว
“ไอ้ลูกหมา ฉันรู้นะว่าแกคิดอะไร” ทันเท่าความคิดเมื่อคริสรู้อยู่แก่ใจว่าผู้ชายหน้าโหดคนนี้คิดยังไงกับรูมเมทของเขา หากแต่เขาไม่ยอมง่ายๆแน่ จะเอาหัวใจของคนที่เขารักไปมันไม่ง่ายหรอก
ผลั่ว!!!!!!
ใบหน้าหล่อหันไปตามแรงกระแทกจากหมัดของอีกคนที่ตอนนี้เป็นผู้เริ่มก่อน เทายิ้มเยาะเย้ยเมื่อคริสไม่ทันได้ตั้งตัวจนเสียท่าให้กับเขา ชัดเจน เทาเห็นว่าคริสแสดงออกชัดเจนขนาดนี้ว่าหวงคนตัวเล็กมากเหลือเกิน ทำไมเขาจะดูไม่ออก มันเผยตั้งแต่วันแรกที่เขาเข้าไปหาเลย์แล้ว
“ไอ้อ่อนเอ้ย!”
ไม่รอช้า คริสก็สวนหมัดกลับไปให้เทาทันที เลือดที่มุมปากของทั้งคู่บ่งบอกได้ดีว่าฝีมือไม่ต่างกัน ทั้งหนักและเต็มไปด้วยไฟแห่งการแก่งแย่งชิงดี
“หยุดเดี๋ยวนี้!” เลย์รีบร้องห้ามเมื่อทั้งสองเริ่มมวยยกแรก เทาและคริสแลกหมัดใส่กันไปมาอย่างไม่มีใครยอมแพ้ ทำให้ถ้วยจันทราที่เทาถืออยู่ในตอนแรกหล่นกลิ้งไปกับพื้นอย่างไม่ใยดี ก่อนจะเป็นคนตัวเล็กที่เดินไปหยิบมันขึ้นมาถือไว้
“หยุดโว้ย ฉันบอกให้หยุดได้ยินไหม?” เสียงหวานที่ร้องห้ามไม่เป็นผลเลยแม้แต่น้อยเมื่อทั้งคู่ต่างหลับหูหลับตาต่อสู้เหมือนดั่งอารมณ์โทสะที่ครอบงำ ไม่ได้ต่อสู้เพื่อแย่งชิงถ้วยหากแต่เป็นการต่อสู้เพื่อแย่งคนตัวเล็กหน้าหวานที่ร้องห้ามอยู่ต่างหาก
“เออ! อยากต่อยกันมากใช่ไหม? อยากต่อยก็ต่อยไปเลย ฉันไม่ห้ามแล้วเว้ย! เหนื่อย!” เมื่อเห็นว่าตัวเองทำอะไรไม่ได้ เลย์ก็นั่งลงกับพื้นอย่างเหนื่อยใจพลางมองดูคนทั้งคู่แลกหมัดกันไปมาอย่างนึกเจ็บแทน
เพียงไม่นานคริสก็สามารถรวบตัวของเทาไว้ได้เสียที แต่กว่าจะทำให้อีกคนสิ้นแรงใบหน้าหล่อเหลาก็เต็มไปด้วยรอยช้ำและเลือดที่ซึมออกมาเต็มไปหมดซึ่งใบหน้าของอีกฝ่ายก็อยู่ในสภาพที่ไม่ต่างกัน
“หึ! อย่าเผลอแล้วกัน เพราะกูจริงจังกับคนนี้” เทากระซิบลอดไรฟันเพื่อให้คริสได้ยินอย่างชัดเจน มันเป็นประโยคที่ราดน้ำมันเพิ่มเชื้อเพลิงให้คริสได้เป็นอย่างดี ทำให้คริสต้องบันดาลโทสะด้วยการปล่อยหมัดใส่ใบหน้าโหดนั้นอีกครั้ง
“งั้นมึงก็ต้องข้ามศพกูไปก่อน เพราะกูก็ไม่ยอมปล่อยเขาไปให้มึงง่ายๆหรอก ไอ้คนไร้น้ำยา!”
…. THE WIZARD…
“มาแล้วแม็ก”
คริสลากคอเสื้อของเทาที่ตอนนี้มีแผลเต็มใบหน้าไปหมดมาที่ห้องของ ซีวอนก่อนจะโยนร่างที่อ่อนยวบนั้นไปกองที่พื้นข้างๆกับประธานปราสาทเซนทอร์ “ได้ถ้วยมาด้วย” เลย์ชูสิ่งที่ต้องการให้ยุนโฮและชางมินดู ก่อนจะยกยิ้มอย่างดีใจทั้งที่เจ้าตัวก็ไม่ได้ทำอะไรเลยแม้แต่น้อย
“ผมขอโทษครับรุ่นพี่” เทาเอ่ยขอโทษซีวอนที่ไม่สามารถรักษาถ้วยจันทราไว้ได้ ก่อนจะก้มหน้างุดด้วยความสั่นกลัว
“ช่างมันเถอะ นายทำดีที่สุดแล้ว” ซีวอนปลอบใจรุ่นน้องที่เขาไว้ใจที่สุดก่อนจะจ้องเขม่นไปที่ชางมินอีกครั้ง
“ไม่น่าเชื่อเลยว่าประธานปราสาทเซนทอร์จะมีน้ำใจขนาดนี้ น่าชื่นชมจริงๆ” ชางมินปรบมือให้กับความใจดีของซีวอนหากแต่คำพูดเหน็บแนมแบบนี้ทำให้ซีวอนถึงกับกำหมัดแน่นอย่างเครียดแค้น
แฮ่ก แฮ่กๆ
ไคที่วิ่งออกไปข้างนอกได้ไม่นานก็ต้องรีบวิ่งกลับมาบอกข่าวให้ทุกคนรับทราบอย่างน่าตาตื่นเมื่อไม่มีเวลามากแล้วที่จะอยู่ในปราสาทเซนทอร์แห่งนี้
“รุ่นพี่ครับ พวกเซนทอร์มันตื่นกันแล้วและกำลังจะมาที่นี่อีกไม่ช้า พวกเราต้องรีบแล้วครับ”
“ถึงเวลาแล้วสินะ ไค! ของที่ฉันเอามาอยู่ที่ไหน ส่งมันมาให้ฉันที” ชางมินเอ่ยถามรุ่นน้องผิวเข้มก่อนจะยกยิ้มมุมปากอย่างนึกสะใจ
“อยู่นี่ครับรุ่นพี่ แต่ผมเห็นว่ามันน้อยไปผมเลยหามาเพิ่มให้” ไคเดินไปหยิบยางรถยนต์เส้นใหญ่ที่ชางมินถือมาในตอนแรกมาให้ หากแต่มันไม่ใช่แค่เส้นเดียวเพราะเจ้าตัวก็หวังดีไปขอภารโรงมาเพิ่มอีกสองเส้น
“พวกแกจะทำอะไร?” ซีวอนเอ่ยถามหน้าตาตื่น หวังว่าจะไม่ใช่อย่างที่เขาคิด
“เผานั่งยางแกไง หึๆ”
สิ้นเสียงชางมิน เลย์ก็ถึงบางอ้อทันทีเมื่อในตอนแรกที่เขาเจอชางมินถือยางรถยนต์มาก็ไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่ารุ่นพี่สุดหล่อคนนี้เอามันมาด้วยทำไม
ไม่รอช้าทุกคนก็ช่วยกันจับซีวอนมัดแล้วยกกายใหญ่นั้นให้นั่งอยู่บนยางรถยนต์พร้อมทั้งจุดไฟในทันที โดยไม่ฟังเสียงขอร้องจากประธานปราสาทเซนทอร์อย่างเขาเลยแม้แต่น้อย
“ครั้งที่แล้วนายเล่นสกปรกใช่ไหม? ครั้งนี้ฉันก็ขอเอาคืนบ้างแล้วกัน”
ชางมินหยิบขวดที่บรรจุน้ำบางอย่างออกมาสู่สายตาก่อนที่น้ำสีเหลืองใสในขวดนั้นจะถูกเทราดไปบนตัวของซีวอนช้าๆ พร้อมทั้งไฟที่กำลังเพิ่มความร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ
“ไอ้บ้าเอ้ย นี่มันน้ำอะไรวะ?” ซีวอนโวยวายลั่นห้องเมื่อสิ่งที่เขาคิดไว้นั้นมันอาจจะเป็นเชื้อเพลิงอย่างหนึ่งในการทำให้เขามอดไหม้ได้เร็วขึ้นก็เป็นได้
“ฮ่าๆ นายคิดว่าเป็นน้ำมันใช่ไหมล่ะ? แต่เสียใจด้วยนะมันคือน้ำ ปัสสะวะอ่ะ แลกกับความสกปรกของแกตอนที่ทำกับคนรักของฉันไง ไอ้เลวเอ้ย!”
ไม่ทันได้เอ่ยอะไรไปมากกว่านั้นนักเรียนจากปราสาทเซนทอร์ก็บุกเข้ามาล้อมไว้เสียแล้ว นักเรียนที่เข้ามาใหม่เมื่อเห็นประธานปราสาทกำลังจะโดนไฟคลอกก็พลันรีบมาช่วยกับดับไฟที่กำลังลุกโชนในทันที หากแต่ก็ทุลักทุเลพอสมควรเมื่อทั้งร่ายกายของซีวอนนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นอันไม่น่าเชยชม ทั้งสาบทั้งน่าขยะแขยง
“มากันเยอะดีหนิ” ไคเอ่ยติดตลกก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปาก
“มาเยอะก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่เหนื่อย” ยุนโฮพูดเสริม
“ดีโอมาหาฉัน” เสียงทุ้มของคนผิวเข้มเอ่ยเรียกรูมเมทตากลมที่ยืนเหรอหราอยู่อีกฝั่งให้เข้ามาหา นั่นดีโอก็ยอมทำตามอย่างว่าง่ายทั้งๆที่ยังไม่หายโกรธอีกคนอยู่เลยแท้ๆ
“ทุกคนพร้อมนะครับ?” เลย์เอ่ยถามก่อนจะหันไปสบตากับทุกคนอย่างรู้แผน
ฟู่ว !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ~~~~
“วิ่ง!”
ชางมินตะโกนบอกทุกคนก่อนจะรีบวิ่งออกมาจากห้องแคบๆนั้นทันที เมื่อเลย์เปิดจุกขวดหน้าตาแปลกประหลาดแล้วโยนไปให้พวกไม่รู้ฤทธิ์ของคนตัวเล็กอย่างเขา
อะไรวะเนี่ย?
แสบตา...
มองไม่เห็นโว้ย!!
อ้ากกกกก !!
ระเบิดควันที่ถูกโยนเข้าไปภายในห้องอันคับแคบของประธานปราสาทเซนทอร์ ทำให้บรรยากาศตอนนี้ปกคลุมไปด้วยหมอกสีขาวโพลนเต็มไปหมด ความชุลมุนวุ่นวายของคนด้านในที่มองอะไรไม่เห็นทำให้เลย์นึกสนุกอีกครั้งเมื่อวิ่งออกมาจากห้องแล้ว
“เดี๋ยวๆ ผมขอเวลาอีกแปปนะครับ”
มือเล็กล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงตัวเดิมอีกครั้งเพื่อควานหาพวงประทัดที่เหลืออยู่แล้วยกมันขึ้นมาจุด ก่อนจะโยนเข้าไปภายในห้องที่วุ่นวายนั่นหวังเพื่อสร้างความสนุกปิดท้ายประเพณีดีเดือดนี้
ปั๊ง ปั๊ง ปั๊งๆๆๆ !!!!!!!!!!!
อ้ากกกกก !!! โอ้ยยย!!
เฮ้ยยยย!! ฝากไว้ก่อนเถอะไอ้พวกดราก้อน…
“อุวะฮ่าๆ ฝากไว้แล้วอย่าลืมมาเอาคืนนะ”
เสียงสบทด่าทอที่ไล่หลังมาไม่ได้ทำให้ทุกคนรู้สึกอะไรเลยสักนิด เสียงหัวเราะแห่งความสุขที่สามารถเอาชนะพวกเซนทอร์ได้อีกครั้งมันสะใจยิ่งกว่าอะไรทั้งสิ้น ทั้งยังได้ถ้วยจันทรากลับมาไว้ประจำที่ปราสาทดังเดิมอีกด้วย
“นายไปหาไอ้ของพวกนั้นมาจากไหนน่ะเลย์” ดีโอเอ่ยอย่างสงสัยเมื่อเห็นอุปกรณ์ต่างๆที่คนตัวเล็กหยิบเอามาใช้
“พอดีฉันเอาติดกระเป๋ามาจากบ้านอ่ะ ไม่คิดว่าจะได้ใช้มันในวันนี้เหมือนกัน ฮ่าๆ” เลย์หัวเราะร่วนอย่างมีความสุข ถึงจะเจ็บใจซีวอนอยู่บ้างที่ล่วงเกินเขา แต่ถือว่าได้เอาคืนแล้วก็สะใจไม่น้อยเหมือนกัน
เหล่านักเรียนของดราก้อนเดินออกมาจากประสาทเซนทอร์อย่างพร้อมเพรียงกันในยามฟ้าเริ่มสว่าง ใบหน้าที่ไม่ได้นอนทั้งคืนไม่คิดว่าจะยิ้มมีความสุขได้ถึงขนาดนี้ การได้ร่วมกันทำอะไรสักอย่างมันก็มีความภาคภูมิใจในตัวของมันเหมือนกัน
คนตัวเล็กที่เดินเคียงข้างกายสูงพร้อมทั้งช่วยพยุงกายที่บอบช้ำของคริสทำให้ร่างสูงเผยยิ้มออกมาอย่างพอใจ นัยน์ตาสีนิลเหลือบมองใบหน้าด้านข้างของคนตัวเล็กที่ยิ้มออกมาอย่างเปิดเผย พลันคิดถึงเรื่องที่เทาพูดก็อดจะกังวลไม่ได้ ถ้าไม่ดูแลหัวใจดวงนี้ดีๆ เขาก็อาจจะเสียมันไปได้ก็เป็นแน่
“สวย”เสียงทุ้มเอ่ยแผ่วเบายามได้มองใบหน้าหวานของอีกคนที่ตอนนี้มันช่างดึงดูดสายตาของเขาเสียเหลือเกิน
“หื้ม? นายพูดว่าอะไรนะ?”
“เอ่อ..ดวงอาทิตย์สวยไหม? นายมองไปข้างหน้าสิ” โกหก โกหกหน้าด้านๆ แต่ทว่าตะวันในยามเช้าแบบนี้ก็สวยมากจริงๆ หากแต่สวยน้อยกว่าคนหน้าหวานไปสักหน่อย
“อื้มสวย สวยมากๆเลย” เสียงหวานเอ่ยตอบก่อนจะสูดอากาศในยามเช้าเข้าปอดไปเต็มๆ พลันหันไปยิ้มให้กับคนตัวสูงที่เขาพยุงอยู่ และคริสเองก็ยิ้มอ่อนโยนส่งกลับมาให้เช่นเดียวกัน
… นายสวยที่สุดแล้วเลย์ ...
ภาพของคนทั้งสองที่ยิ้มให้กันอย่างมีความสุข ช่างเป็นภาพที่ทำให้คนเป็นพี่ชายอย่างชางมินพอใจได้ไม่น้อยจนเผลอยิ้มตามอย่างลืมตัว เห็นน้องชายมีความสุขเขาก็พลันมีความสุขและหายห่วงไปด้วย หากแต่ถ้าได้สังเกตุคนบนปราสาทสูงสักนิดจะเห็นถึงแววตาของความท้อแท้ที่ทอดมองลงมา สายตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดยามได้เห็นคนทั้งสองประคองกอดกัน
… เทาคนนี้จะมีสิทธิ์บ้างไหม? ...
... THE WIZARD...
ความคิดเห็น