ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO FIC] ADOLESCENT (KRISLAY FT. HUNHAN)

    ลำดับตอนที่ #9 : ll ADOLESCENT 9 ll

    • อัปเดตล่าสุด 4 มิ.ย. 56










    ADOLESCENT 9













     

    คือ....ฉันจะไป....

     


    ไปไหน?”

    ไม่ทันที่คริสจะได้พูดจบเลย์ก็สวนคำถามขึ้นไปเสียก่อน สิ่งที่เขากลัวกำลังเข้ากัดกินหัวใจเมื่อรู้ว่าอีกคนจะพูดอะไรออกมา  นั่นก็ทำให้คริสถึงกับต้องผงะไปเล็กน้อยเมื่อคนหน้าหวานดูจะร้อนรนมากกว่าที่เป็น

     

    อี้ชิง...เป็นอะไรหรือเปล่า?” คริสเอ่ยถามก่อนจะยกมือขึ้นทาบไปบนเรียวหน้าสวยของอีกคน เห็นดวงตาแดงก่ำกับจมูกรั้นที่ขึ้นสีก็ทำให้คริสอดจะเป็นห่วงเสียไม่ได้

     

    จะไปไหนหรอ?”

     

    คือว่า...ฉันต้องไปจีนกับแม่น่ะ

     

    เมื่อได้ฟังคำตอบของอีกคนเลย์ก็แทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ก้อนเนื้อภายในอกมันหล่นวูบไปอยู่กับพื้นอย่างไม่ไยดี นี่คริสจะไปจริงๆหรือไง ทำไมถึงยอมไปง่ายกว่าที่เขาคิดไว้นะ

     

    “…………………..”

     

    ร้องไห้ทำไมนายเป็นอะไรอี้ชิง” คริสกระวนกระวายใจไม่น้อยเมื่อคนหน้าหวานเอาแต่ก้มหน้าปล่อยให้น้ำตามันไหลอยู่อย่างนั้น ก่อนจะรั้งร่างบางเข้ามากอดไว้แนบอกแล้วลูบหัวทุยเพื่อปลอบประโลม

     

    จะไปจีนหรอฮึก... ไปนานหรือเปล่า?”

     

    ก็นานพอสมควร

     

    ใบหน้าหวานเงยขึ้นมองคนที่สูงกว่าทันทีเมื่ออีกคนพูดจบ ม่านตากลมเบิกโพลงด้วยความตกใจ ที่ว่าไปนานน่ะหมายความว่ายังไง

     

    นานแค่ไหน?”

     

    อืม....

     

    คริสยู่หน้าพลางใช้ความคิดในการนับวันเวลา และนั่นก็ร้อนถึงเลย์ที่ยืนแทบจะไม่ติดพื้นเพราะกลัวว่าคำตอบที่ได้จะไม่เป็นที่พอใจ ลุ้นจนตัวเกร็งเมื่อคนตัวสูงคิดนานเกินไปทำเอาร่างกายด้านชาไปหมดทุกส่วน

     

    ประมานสองสามวัน

     

    คำตอบที่ได้รับจากคริสทำเอาเลย์รีบยกมือขึ้นปาดน้ำตาแทบไม่ทัน ก่อนจะปล่อยหมัดเล็กใส่ต้นแขนของอีกคนอย่างนึกหมั่นไส้ แล้วที่ร้องห่มร้องไห้ไปเมื่อครู่นี่หน้าอายสุดๆ คิดว่าจะไปเป็นปีสองปี แล้วตอนนี้มันอะไรกัน เปลี่ยนอารมณ์แทบไม่ทันแน่ะ

     

    โอ้ยนายต่อยแขนฉันทำไมเนี่ยอี้ชิง?” มือหนายกขึ้นลูบต้นแขนที่อีกคนปล่อยหมัดใส่มาเต็มแรง เห็นตัวเล็กแบบนี้ไว้ใจไม่ได้เลยเชียว

     

    ไอ้บ้าเอ้ยนานบ้านนายสิสองสามวัน ฉันก็นึกว่าเป็นแรมปี

     

    สำหรับฉันแค่สองสามวันมันก็นานมากแล้วถ้าไม่ได้เห็นหน้านาย

    สิ้นเสียงทุ้มใบหน้าหวานก็เห่อแดงขึ้นมาจนปิดไม่อยู่ พลันเห็นว่าคนตัวสูงที่จ้องมาด้วยสายตาเยิ้มแบบนั้นก็ทำเอาต้องก้มหน้างุดอย่างไม่มีข้อแม้ เบะปากน้อยๆเพราะคำพูดของอีกคนชวนขนลุกไปเสียหมด ฟังบ่อยแล้วเหมือนกันหากแต่ไม่รู้จักชินเอาซะเลย

     

    แต่สำหรับฉันมันดีนะ อย่างน้อยก็สบายตาไปสองสามวันล่ะถ้าไม่ได้เห็นหน้านาย

     

    ปากแข็งอย่าให้เห็นแล้วกันว่าใครบ่นคิดถึง

     

    โคตรหลงตัวเอง” 

    ใบหน้าหวานยู่ลงอย่างนึกหมั่นไส้คนตัวสูง ถึงปากจะบอกไปแบบนั้นแต่มันก็คงจริงอย่างที่คริสว่าล่ะนะ ถ้าเขาไม่ได้เจอหน้าคริสก็คงจะคิดถึงน่าดู เพราะสิบสองปีที่ผ่านมาก็เฝ้าเจอมาตลอดนี่นา



     

    “………………….”

     

     

    แล้วนายจะบินวันไหน?” เลย์เอ่ยถามอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกว่าคลายอาการกังวลไปได้บ้างแล้ว

     

    อีกสองวัน พอดีแม่ฉันอยากให้ไปเดินแบบให้อีกงาน

     

    เลย์พยักหน้าขึ้นลงเป็นเชิงเข้าใจ อย่างน้อยก็โล่งอกไปบ้างที่ไม่ต้องห่างกันไปนาน บอกตรงๆเลยว่าตอนแรกใจหายเพราะคิดว่าอีกคนจะไปจากกันจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้นต่อให้จะจากกันไปไหนไกลสุดท้ายเขาก็ต้องตามหาคริสให้เจออยู่ดี

     

    ที่ร้องไห้เมื่อครู่ก็เพราะกลัวว่าฉันจะหายไปอีกใช่ไหมล่ะ นายทำฉันตกใจเลยนะรู้ไหม?”

    คริสเอ่ยแซวอีกคนเมื่อรู้ว่าที่เลย์ร้องไห้สาเหตุมาจากอะไร หากแต่ท้ายประโยคก็ยังฉายแววเป็นห่วงคนตัวเล็กเอาเสียมากๆ เพราะอีกคนน่ะร้องไห้เมื่อไหร่ก็ต้องเป็นเรื่องของเขาอยู่ตลอด

     

    คิดเองเออเองเสียงหวานค่อนขอดอีกคนไปอย่างห้วนๆก่อนจะเบะปากอีกครั้งเพราะคนตัวสูงก็ช่างหลงตัวเองไม่เปลี่ยน

     

    คนเราอ่ะนะ ไม่รู้จักยอมรับความจริงบ้างเลย ถ้าวันนึงฉันหายไปจริงๆจะยังปากแข็งอยู่อีกไหม” 

    เสียงทุ้มพูดลอยๆก่อนจะเสมองไปทางอื่นเหมือนกับว่าไม่คิดจะสนใจ เหลือบม่านตาคมมองอีกคนแวบนึงก็ยกยิ้มเมื่อแกล้งได้สำเร็จ หากแต่นั่นก็เหมือนจะคิดผิดเมื่อคนตัวเล็กดูท่าว่าจะร้องไห้อีกครั้งเสียอย่างนั้น

     

    เลิกพูดเรื่องจากลาสักทีได้ไหมอู๋ฟาน?”

     

    อ่า ขอโทษนะ ก็นายดูแตกต่างจากตอนเด็กมากเลยหนิ ไม่อ่อนโยนแล้วปากก็ยังไม่ตรงกับใจเหมือนเมื่อก่อนด้วย” คริสรีบขอโทษอีกคนในทันทีเมื่อรู้ว่าคงจะพลาดไป ก่อนจะสวมกอดร่างกายบางไว้แนบอกเพื่อปลอบประโลมอีกครั้ง

     

    ถ้ารู้ว่าฉันคิดยังไง แล้วทำไมยังต้องให้พูดอีก

    เหมือนเป็นคำพูดที่ต่อลมหายใจก็ไม่ปราน ทำไมคริสถึงคิดว่าที่อีกคนพูดมามันช่างเป็นคำพูดที่มีความหมาย หัวใจเต้นถี่รัวเพียงเพราะประโยคธรรมดาของอีกคน หากแต่ไม่แค่นั้น น้ำเสียงที่ใช้และความเนิบนาบในการพูดยิ่งทำให้คริสแทบจะโบยบิน อย่างน้อยวันนี้ก็คุ้มค่าแล้วล่ะนะที่อีกคนอ่อนหวานกับเขาเป็นครั้งแรก

     

    เหมือนเป็นคำสารภาพรักเลยแฮะ

     

    คิดเองอีกและ

     

     





    …ADOLESCENT…

     





     

     

    เซฮุนไปหยิบขนมมาดิ๊

    คนตัวเล็กที่นั่งขัดสมาธิดูฟุตบอลนัดสำคัญอยู่บนโซฟาเอ่ยสั่งคนรักทั้งๆที่สายตาก็ยังไม่ละออกจากจอสี่เหลี่ยมตรงหน้า ส่งผลให้คนที่ถูกออกคำสั่งจำต้องกลอกตาไปมาอย่างอ่อนใจ เพราะนี่ไม่รู้ว่าเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้วที่เดินไปเดินมาเพื่อหยิบขนมและน้ำให้อีกคน

     

    อะขนม” เซฮุนยื่นถุงมันฝรั่งรสโปรดไปให้คนรักตัวเล็กก่อนจะนั่งลงข้างๆเพื่อดูฟุตบอลเป็นเพื่อน

     

    โอ้ยแม่งเตะแย่ลงทุกวัน” คำพูดคำจาของคนน่ารักทำให้เซฮุนต้องขมวดคิ้วมุ่นแล้วเหลือบมอง ส่ายหน้าไปมาก่อนจะถอนหายใจพลางเอนหลังพิงพนักโซฟาด้วยท่าทีสงบนิ่ง ดูบอลทีไรก็เป็นแบบนี้ตลอด ไม่วายก็อารมณ์แปรปรวนจนบางทีเขาก็ตามแทบไม่ทัน

     

     


    Rrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrrr

     

    เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ข้างหัวเตียงดังขึ้นขัดจังหวะ ส่งผลให้เจ้าของห้องตัวเล็กต้องลุกขึ้นไปรับอย่างหัวเสีย ไม่วายลุกขึ้นทีก็เตะนู่นเตะนี่ที่มันวางขวางทางอยู่ออกไปให้ห่าง ร้อนถึงเซฮุนต้องเดินตามเก็บอย่างช่วยไม่ได้ นับวันก็ชักจะเหมือนคนใช้ขึ้นเรื่อยๆ แต่นั่นก็เพราะคนน่ารักคนนี้ล่ะนะ เซฮุนไม่คิดจะบ่นเลยสักคำ

     

     

    หือ...ไอ้เลวไอ้กามเสื่อมไอ้ขาดความอบอุ่น แกรู้จักฉันน้อยไปแล้ว ถ้าอยากมากก็ไปหาที่อื่นดิวะ อย่าเก่งแต่ส่งเสียงครางในโทรศัพท์อยู่แบบนี้ แม้กระทั่งผู้ชายด้วยกันก็ยังไม่เว้นเลยรึไง ถ้าได้หมดก็โน่น!หมาแมวยังมี แล้วอย่ามาอวดว่าของแกใหญ่อีกล่ะ ของแฟนฉันใหญ่กว่าเว้ย!”

    บทสนทนาไฟแลบที่คนตัวเล็กสบทมานั้นทำเอาเซฮุนตัวแข็งทื่อไปหมด กำลังจะก้มเก็บหมอนที่อีกคนเตะส่งในตอนแรกขึ้นมาไว้ที่เดิมอยู่แล้วเชียวกลับต้องชะงักเพราะอะไรน่ะหรอ ไอ้คำพูดท้ายประโยคนั่นไง อะไรใหญ่ๆวะไม่เข้าใจเลย

     


    อ่าวเห้ยแน่จริงถือสายฟังฉันด่าให้จบดิไอ้หื่น วางสายไปทำไมวะ!” ลู่หานดูจะหัวเสียเอามากๆ เสียงหวานแวดใส่ปลายทางไปหยุดทั้งยังตะโกนโวยวายเสียยกใหญ่ที่สายถูกตัดไปซะเฉยๆ

     

    ล...ลู่หาน นายเป็นอะไร?” เซฮุนที่ยืนมองอยู่นานเอ่ยถามอย่างกล้าๆกลัวๆ เอาเถอะว่าคนตัวเล็กในตอนนี้เหมือนจะสติหลุดก็ไม่ปราน

     

    โรคจิตโทรมาอ่ะดิ โมโหโคตร!”

     

    แล้วที่นายด่ามันไปน่ะปรึกษาฉันก่อนไหม?”

     

    ไม่รู้ฉันลืมไปแล้ว

    พูดแค่นั้นคนตัวเล็กก็รีบเดินกลับไปนั่งที่โซฟาตัวเดิม ใบหน้าน่ารักงองุ้มบอกได้ดีว่าเขาอารมณ์เสียสุดๆ แล้วคืนนี้เซฮุนที่มานอนด้วยจะทำยังไง หรือว่าจะได้นอนที่โซฟาเหมือนทุกครั้งที่ลู่หานของขึ้น

     


    อ่า ใจเย็นๆนะ

     เซฮุนเดินเข้าไปหย่อนกายนั่งลงข้างๆคนรัก วาดมือสอดเข้าที่รอบเอวเล็กของอีกคนแล้วกระชับให้เข้ามาหา พลันกดปลายจมูกโด่งลงที่พวงแก้มนิ่มของคนตัวเล็กเพื่อให้ใจเย็นลง ก่อนจะออกแรงรั้งหัวทุยนั้นให้มาซบลงที่ไหล่ของเขาเพื่อพักพิง

     

    ก็อยากจะใจเย็น แต่มันทำไม่ได้หนิ” ลู่หานถอนหายใจออกมาเต็มแรงก่อนจะค่อยๆอ่อนลงอีกครั้งเมื่อเริ่มรู้ว่าตัวเองคงจะหงุดหงิดมากไป

     

    แล้วตอนนี้โอเคขึ้นบ้างรึยัง?”

     

     

    ...เบื่อไหมเซฮุน?” ไม่ได้ตอบคำถามของเซฮุนเลยสักนิด อยู่ๆเสียงหวานก็เอ่ยถามกลับไปพลางเหลือบม่านตากลมมองใบหน้าหล่อของอีกคนนิ่ง

     

    เบื่ออะไร?”  เซฮุนเลิกคิ้วถามคนรักอย่างไม่เข้าใจ

     

    อยู่กับฉันน่าเบื่อไหมชีวิตฉันมันจืดชืดจะตายไป” พูดแค่นั้นลู่หานก็ถอนหายใจซะเฮือกใหญ่ เอนหลังพิงไปกับโซฟาตัวหรูก่อนจะหลับตาลงเหมือนคิดอะไรบางอย่าง

     

    ก็ไม่หนิ อยู่ด้วยก็สนุกดี

     

    อย่าโกหกน่า ดูสีหน้านายก็รู้แล้ว

     

    ไม่ได้โกหกสักหน่อย นายเหมือนเด็กมีปมอ่ะฉันชอบ” เสียงทุ้มเอ่ยพูดกับอีกคนที่ยังนั่งเอนหลังปิดเปลือกตาแน่นอยู่อย่างนึกสนุก ยกยิ้มออกมาบางๆเมื่อดูเหมือนว่าอีกคนคงจะยังตามเขาไม่ทัน

     

    หรอ?... แต่เดี๋ยวนายว่าใครเป็นเด็กมีปมห๊ะ?!”เหมือนจะตั้งสติได้กับคำพูดของคนรัก นัยน์ตาคู่กลมก็พลันเบิกกว้างในทันที ก่อนจะหับขวับไปจ้องเขม่นคนรักตัวสูงที่นั่งอมยิ้มอย่างเอาเรื่อง

     

    นี่ไงที่ฉันชอบในตัวนาย เสียงโวยวายแบบนี้ล่ะที่ทำให้ฉันตกหลุมรัก

    สิ้นเสียงทุ้มลู่หานก็ดูจะชะงักไปชั่วครู่ ใบหน้าน่ารักเจือสีระเรื่ออ่อนน่ามอง หันหนีอีกคนทันทีเมื่อไม่กล้าสบนัยน์ตาคู่คมนั้นตรงๆ ไม่วายก้อนเนื้อในอกซ้ายก็เต้นเร็วถี่รัวจนยากจะควบคุม หากแต่นั่นก็ไปไหนไม่พ้นเมื่อมือหนาของอีกคนส่งมารั้งปลายคางของเขาให้หันกลับไปมองกันอีกครั้ง ก่อนจะรับรู้ได้ถึงสัมผัสอบอุ่นที่ริมฝีปากแผ่วเบา อุ่นจนไปถึงขั้วหัวใจ อ่อนโยนจนลู่หานเองอ่อนยวบไม่เป็นท่า

     

    ...แปลกคนนะนายน่ะ” เสียงหวานเอ่ยแผ่วเบาหลังจากอีกคนผละริมฝีปากออกไปแล้ว ก้มใบหน้าน่ารักซ่อนอาการร้อนๆหนาวๆที่หัวใจเพราะไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไปดี  ถ้าเป็นเมื่อก่อนคงโวยวายไปเสียยกใหญ่หากแต่เป็นตอนนี้คงไม่ปฏิเสธว่ารักอีกคนหมดหัวใจ

     

    ฉันรักนายนะลู่หาน รักมากกว่าใครทั้งหมด” คำพูดกระตุ้นหัวใจแบบนี้สินะที่ทำให้ลู่หานสงบปากสงบคำได้ เจอเข้าไปทีก็ถึงกับพูดไม่ออกกันเลยทีเดียว

     

     

    อื้อ ฉันก็ด้วย

    สิ้นเสียงหวานเซฮุนก็เอื้อมมือไปหยิบรีโมทก่อนจะปิดทีวีที่ส่งเสียงดังรบกวนความสุขระหว่างเขากับคนรัก หันไปมองหน้าอีกคนน้อยๆก่อนจะโถมเข้าหาแล้วผลักกายเล็กให้นอนราบไปกับโซฟาเนื้อดี โน้มใบหน้าลงพรมจูบไปตามซอกคอขาวที่คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆจนทำให้หูเกือบดับตาเกือบบอด อยากจะหลอมละลายคนตรงหน้าซะเดี๋ยวนี้เลยให้ตายเถอะ

     

    ซ...เซฮุน นายจะทำอะไร?” ใบหน้าน่ารักฉายแววตื่นตระหนกอย่างชัดเจน มองหน้าอีกคนเลิ่กลั่กเพราะรับรู้ได้ว่ามันไม่ชอบมาพากล

     

    ขอนิดเดียว




     

    อะไรของนายล...แล้วไอ้นิดเดียวที่ว่าน่ะมันประมานไหน...

    ไม่ทันได้เอ่ยจบประโยคดีคำพูดทั้งหมดก็ต้องกลืนลงคอไปเมื่อเซฮุนกดจูบลงมาอีกครั้งอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ลู่หานทำท่าจะโวยวายแต่คนด้านบนที่กำลังคุมเกมส์อยู่กลับฉวยโอกาสส่งลิ้นร้อนเข้ามาในโพรงปากจนไม่อาจขัดขืนได้ หมดเรี่ยวแรงและไร้กำลัง สุดท้ายก็จูบตอบอีกคนไปอย่างไม่ประสา ยกแขนเล็กขึ้นคล้องลำคอแกร่งเพื่อหาที่ยึดเหนี่ยวก่อนจะรู้สึกได้ถึงสัมผัสเย็นเฉียบที่ผิวเนื้อละเอียดจนต้องสะดุ้งโหยงพร้อมกับเสียงครางหวาน แล้วหลังจากนั้นในสมองมันก็ขาวโพลนไปหมดจนจำอะไรไม่ได้อีกเลย รับรู้ได้แค่ว่าอีกคนที่พ่วงตำแหน่งคนรักกำลังทำให้เขามีความสุขอย่างถึงที่สุด...

     






    ...ADOLESCENT…

     

     



    ม่านตากลมสอดส่ายสายตาไปยังภาพเบื้องหน้าจากคอนโดสูง แสงไฟหลากสีสันยามราตรีของเมืองหลวงทำให้รู้สึกสบายตาอย่างน่าประหลาด เหม่อมองอยู่นานสองนานพลางคิดอะไรไปเพลิดเพลิน ก่อนจะได้สติตัวเองกลับมาเมื่อมีใครอีกคนทำให้ห้วงภวังค์ในตอนแรกนั้นหายไป

     

    ยืนมองอะไรอยู่หื้ม?” ร่างสูงที่เข้ามาซ้อนหลังเอ่ยถามข้างใบหู ก่อนจะโอบกอดรอบเอวเล็กให้เข้าหากายอุ่นจนแนบแน่น

     

    มองไฟ” เอาเถอะว่าเลย์สามารถให้คำตอบอีกคนไปได้แค่นี้จริงๆ ห้วนสั้นตามแบบฉบับของคนหน้าหวาน

     

    อี้ชิง ฉันมีอะไรจะบอก” คริสเกยคางลงที่ลาดไหล่บางก่อนจะกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นไปอีก

     

    ว่า?”

     

    รู้ใช่ไหมว่าฉันคิดยังไงกับนาย?” เสียงทุ้มที่เอ่ยถามแฝงความจริงจังอย่างเห็นได้ชัด จนคนที่ถูกถามถึงกับทำอะไรไม่ถูกเพราะไม่ทันได้ตั้งตัวและเตรียมใจ



    ฉันจะไปรู้ได้ไงเล่า” เลย์พยายามบอกปัดไปก่อนจะก้มหน้ามองพื้นเพื่อควบคุมหัวใจตัวเองที่มันเร่งจังหวะการเต้นขึ้นเรื่อยๆ คริสจะพูดอะไรแล้วทำไมต้องทำให้มันจริงจังขนาดนี้ด้วยนะ

     

    ฉันไม่เคยบอก แต่นายก็น่าจะรู้

     

    นั่นเพราะนายไม่เคยพูดมันออกมาแล้วฉันจะรู้ได้ยังไง” เลย์ยังคงเถียงข้างๆคูๆเพราะอีกคนทำให้บรรยากาศมันเปลี่ยนไป เหงื่อเม็ดเล็กเริ่มผุดขึ้นมาบนใบหน้าหวานเมื่อตอนนี้ไม่ใช่แค่รุ่มร้อนในกายหากแต่ภายนอกก็ด้วยเช่นกัน

     

    ไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยรึไงนะคนเรา แสดงออกขนาดนี้แล้ว” เสียงทุ้มเอ่ยแผ่วเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน หากแต่นั่นคนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดกลับได้ยินประโยคที่อีกคนพูดกรอกหูเข้ามาในโสตประสาทอย่างชัดเจน

     

    “……………………”

     

    นายรู้สึกไหมอี้ชิง?” คริสเอ่ยพูดอีกครั้งหวังสื่อสารให้คนตัวเล็กได้รับรู้ ก่อนจะกดปลายจมูกโด่งลงที่พวงแก้มนิ่งของอีกคนอย่างนุ่มนวล

     

    รู้สึกอะไร?” ใบหน้าหวานเบือนหนีเล็กน้อยพลางอมยิ้มบางๆกับตัวเองอย่างเคอะเขิน คริสนี่ก็เล่นอะไรไม่รู้ ชอบทำให้หัวใจของเขาทำงานหนักอยู่เรื่อย

     

    เสียงหัวใจฉันไง รู้สึกไหมว่ามันเต้นแรงขนาดไหนเมื่ออยู่กับนาย” กายสูงสวมกอดอีกคนให้แน่นขึ้นอีก ให้คนหน้าหวานได้รับรู้ว่าภายในอกของเขาตอนนี้มันเต้นโครมครามจนแทบจะไม่เป็นตัวของตัวเอง อยากแผ่กระจายความตื่นเต้นที่มีไปให้อีกคนได้สัมผัสมัน ให้รู้ว่าเขาจริงจังและพูดจริง

     


    ไม่เห็นจะได้ยิน!”

     

    อย่าล้อเล่นน่าอี้ชิง” คริสค่อยๆหมุนกายเล็กของอีกคนให้หันกลับมาประจันหน้ากันตรงๆ ตาสบตาแน่วแน่ว่าเขานั้นจริงจัง ความรู้สึกที่มีในตอนนี้ร้อยเปอร์เซนต์มันเทไปให้เลย์หมดแล้ว หากแต่นั่นคนตัวเล็กกลับไม่เห็นถึงความจริงใจของเขา

     

    นายนั่นแหละอย่ามาล้อเล่นอู๋ฟาน” เสียงหวานตอบกลับไปก่อนจะเสมองไปทางอื่นอย่างนึกประหม่า

     

    ฉันล้อเล่นตรงไหน ในเมื่อฉันรักนายจนจะเป็นบ้าอยู่แล้ว

    เลย์ถึงกับชะงักกึกไปทันที ก่อนจะค่อยๆหันกลับไปมองคนพูดอีกครั้งช้าๆ ใบหน้าหวานขึ้นสีจัดชัดเจนอย่างไม่รู้ตัว ล้อเล่นแน่ๆ ที่คริสพูดมามันจะเป็นไปได้ยังไง ที่ผ่านมาก็เห็นอยู่ว่าอีกคนก็ชอบแกล้งเขาเล่นอยู่เรื่อย แต่ตอนนี้เกิดผีเข้าขึ้นมาหรือไง ยอมรับว่าหวังมาตลอด แต่ก็ไม่อยากหลอกตัวเองจนเหมือนคนที่กำลังบ้ารักหรอกนะ

     


    โกหก!”

     

    ฉันไม่ได้โกหกฉันรู้สึกดีๆกับนายก่อนที่ฉันจะรู้ว่านายคืออี้ชิงซะอีก” ใบหน้าหล่อฉายแววผิดหวังเล็กน้อยที่อีกคนดูเหมือนจะไม่เชื่อเขา คิ้วเรียวขมวดเขาหากันจนเป็นปมด้วยความเป็นกังวล หากแต่ก็เหมือนโล่งไปบ้างที่ได้พูดให้อีกคนรับรู้

     

    คริสค่อยๆยกมือขึ้นเชยคางมนของคนตัวเล็กที่ก้มหน้ามองพื้นให้เงยขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะโน้มตัวเข้าไปหาช้าๆแล้วประกบริมฝีปากทาบทับกลีบปากอิ่มของอีกคนอย่างอ่อนโยน แตะสัมผัสแผ่วเบาเนิบนาบ ดูดเม้มเบาๆพลางส่งลิ้นร้อนเข้าไปควานหาความหอมหวานเหมือนอย่างทุกครั้ง หากแต่ครั้งนี้เขาไม่ได้คิดจะล้อเล่น ไม่ได้คิดจะแกล้ง หรือต่อให้ทำแบบนั้นจริง ทุกๆครั้งมันก็แฝงไปด้วยความจริงจังและหัวใจที่มีไปให้กับอีกคนเสมอ

     

    ไม่ต้องให้อธิบายเพิ่มหรอกนะว่าที่คอยตามไปไหนมาไหน คอยให้ช่วยนู่นช่วยนี่ตลอดเวลาน่ะเป็นเพราะอะไร ก็แค่อยากอยู่ใกล้ๆคนที่ฉันรักก็เท่านั้นเอง” พูดเสร็จก็วางมือหนาทาบไปกับเรียวหน้าสวยของอีกคน เกลี่ยหัวแม่มือเบาๆกับพวงแก้มนิ่มของคนที่ก้มหน้าอยู่ ก่อนจะก้มลงมองใบหน้าหวานที่ไม่แม้แต่จะเงยหน้ามาพูดจากับเขาอีกเลย



    “……………..”

     

    ไม่รู้สึกดีๆกับฉันสักนิดเลยหรือไง?” ปากเรียวกระตุกยิ้มก่อนจะส่ายหน้าไปมาเมื่อสังเกตเห็นว่ามือเล็กของคนหน้าหวานกำชายเสื้อของเขาไว้ซะแน่น

     

     

    เอ้อ!..น...นายทำการบ้านหรือยังอู๋ฟาน?” เลย์เงยหน้าขึ้นมาอย่างลุกลี้ลุกลน เอ่ยถามเพื่อเปลี่ยนเรื่องหลังจากเงียบไปนาน เมื่อรู้ว่าคริสคงไม่หยุดอยู่แค่นี้แน่ และเขาคงไม่ปลอดภัยถ้ายังยืนนิ่งให้อีกคนตอดเล็กตอดน้อยอยู่ที่เดิม

     

    ยัง ทำไม?” คริสถึงกับแปลกใจเมื่อเห็นอีกคนดูจะร้อนรนจนเกินเหตุ รู้ว่าคงเขินเขาล่ะนะแต่แล้วจะพูดเรื่องการบ้านขึ้นมาทำไมวะ

     

    ไปทำการบ้านก่อนแล้วค่อยนอน” ร่ายกายบางเบี่ยงตัวหลบหนีออกจากอ้อมกอดของอีกคนไปอีกทาง พลางเดินนำไปรอที่โต๊ะเขียนหนังสือก่อนคริสจะเดิมตามไปติดๆ

     

    โหยอี้ชิง ไม่ต้องทำก็ได้ ฉันง่วงนอนแล้ว” ใบหน้าหล่ององุ้มอย่างไม่ชอบใจ คริสทำท่าเหมือนเด็กที่ไม่พอใจอะไรก็โวยวายเสียยกใหญ่

     

    แต่มันต้องส่งวันพรุ่งนี้ แล้วถ้านายไม่ส่งนายก็จะไม่มีคะแนนเก็บ

     

    โห นายโครตใจร้ายเลยถึงจะบ่นค่อนขอดคนตัวเล็กไปอย่างนั้นแต่คริสก็ยอมเดินตึงตังไปนั่งลงที่เก้าอี้พร้อมทั้งหยิบสมุดการบ้านวิชาคณิตศาสตร์ขึ้นมาทำอย่างจำใจ

     

     

    เลย์ช่วยสอนการบ้านให้กับคริสไปเรื่อยๆ โดยการเอาเก้าอี้อีกตัวมานั่งข้างกายสูงพลางช่วยแนะนำสูตรในการคิดคำนวนต่างๆจนทำเอาคริสมึนงงไปหมด แต่นั่นก็ดูท่าว่าคริสจะตั้งใจกว่าตอนเรียนในห้องเสียอีก

     

    นายเขียนสูตรผิดแล้วนั่นอู๋ฟาน” 


    มือเล็กชี้ไปยังสูตรเลขที่คนตัวสูงเขียนมันแบบผิดๆถูกๆ พลางชะเง้อหน้าเข้าไปมองใกล้ๆก่อนจะบอกให้คริสลบมันออกแล้วเขียนใหม่ หากแต่นั่นพอรู้ตัวอีกทีใบหน้าของคนทั้งคู่ก็อยู่ใกล้กันเพียงแค่คืบจนรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นๆที่เป่ารดอยู่ไม่ห่างเสียแล้ว

     

    เขียนผิดเพราะนายคนเดียวนั่นแหละ” คริสต่อว่าอีกคนก่อนจะเบะปากน้อยๆด้วยความไม่พอใจ หากแต่นั่นนิสัยเก่าก็ยังไม่ละไปไหน เหลือบมองอีกคนอยู่ชั่วครู่ก่อนจะฉวยโอกาสฝั่งจมูกโด่งกดลงกับพวงแก้มนิ่มอย่างรวดเร็วแล้วรีบผละออก เล่นทีเผลอทำเอาคนตัวเล็กต้องหันมาส่งสายตาคาดโทษให้นิ่งๆ

     

    เกี่ยวอะไรกับฉันเล่า นายไม่มีสมาธิเองต่างหาก

     

    แล้วจะให้ฉันมีสมาธิได้ยังไงในเมื่อมีนายนั่งอยู่ข้างๆแบบนี้เนี่ย

    ใบหน้าหล่อหันไปหาคนหน้าหวานก่อนจะบ่นค่อนขอดเสียยกใหญ่ แล้วมันใช่ไหมล่ะ ก็รู้อยู่ว่าเขาคิดยังไง เวลามีอีกคนอยู่ใกล้ยังจะให้มีสมาธิได้หรือ เรื่องทำการบ้านน่ะก็ไม่เคยอยู่ในหัวสมองตั้งแต่แรกแล้วเมื่ออีกคนมาอยู่ในห้องด้วยกันแบบนี้

     

    นั่นมันเรื่องของนาย” เลย์ก็ไม่คิดจะยอมแพ้ ก็รู้ว่าเขาน่ะนิสัยเป็นยังไง มันใช่ความผิดเขาซะที่ไหนล่ะ



    เพิ่งจะบอกรักไปหมาดๆ รู้สึกอะไรบ้างไหมเนี่ย?” ก้มหน้าก้มตาลบสูตรเลขที่เขียนผิดในสมุดก็ไม่วายบ่นพึมพำเบาๆอย่างนึกงอน เอาเถอะว่าคริสก็เหนื่อยใจกับเลย์อยู่หรอก แต่นั่นก็เริ่มจะชินกับนิสัยแข็งกระด้างของเลย์เอาเสียแล้ว



    อย่ามาลิเก ฉันได้ยินนะ ทำการบ้านต่อไป” เหมือนแม่ก็ไม่ปราน แต่นั่นเลย์ก็อมยิ้มกับภาพที่เห็นตรงหน้าได้ไม่ยาก เพราะอีกคนน่ะเกิดเชื่อฟังเขาขึ้นมาเสียเฉยๆ ทีเมื่อก่อนไม่ยักจะเป็นแบบนี้แฮะ

     

    อี้ชิง ขอถามอะไรหน่อยดิ” คริสที่ก้มหน้าก้มตาทำการบ้านในตอนแรกหันกลับไปถามอีกคน  


    อะไรอีกล่ะขอคำถามดีๆนะ” เลย์พูดดักคอทันทีเมื่อรู้สึกว่ามันแปลกๆ และนั่นมันคงไม่ใช่เรื่องที่เขาสามารถจะตอบออกไปได้ง่ายๆแน่นอน


    เลิกเล่นบอร์ดทำไม?”

    น่านไงผิดซะที่ไหน สิ้นเสียงทุ้มที่เอ่ยถามเลย์ก็ดูจะชะงักไปเล็กน้อย คิดว่าอีกคนจะลืมเรื่องนี้ไปแล้วซะอีก และนั่นก็เป็นเรื่องที่เลย์ไม่อยากจะพูดถึงมันอีก


    อย่ารู้เลย” เสียงหวานเอ่ยบอกปัดอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะนั่งพิงพนักเก้าอี้แล้วพยักเพยิดหน้าให้คริสทำการบ้านต่อไป ไม่อยากรื้อฟื้นเรื่องที่มันผ่านไปแล้วแต่อีกคนก็ดันจุดประเด็นขึ้นมาให้คิดอีกจนได้


    ถึงจะเป็นฉันก็บอกไม่ได้เลยใช่ไหม?” ใบหน้าหล่อฉายแววเจ็บปวดเป็นอย่างมาก ถึงตอนนี้จะเริ่มสนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆ หากแต่เลย์ก็ยังคงไม่เปิดใจให้กับเขาอยู่เหมือนเดิม คงไม่ได้สำคัญในหัวใจของอีกคนเลยสินะ

     

    อย่าทำหน้าแบบนั้นได้ไหมเล่า ไม่ใช่นายเลยนะอู๋ฟาน” เมื่อเห็นสีหน้าของอีกคนที่ดูไม่ค่อยสู้ดีเลย์จึงเสมองออกไปอีกทาง พลางพรั่งพรูลมหายใจออกมาจากปากเมื่อรู้ได้ว่าเขาต้องใจอ่อนกับสายตาของคนตัวสูงที่ทอดมองมาแน่ๆ

     

    อี้ชิง....

     

    เออๆ ก็ได้ เซ้าซี้จริงๆ

    เมื่อเลย์ทำท่าว่าจะเล่าเรื่องให้กับคริสฟัง นัยน์ตาคู่คมก็เป็นประกายขึ้นมาทันที ก่อนจะทำท่าตั้งใจฟังคนหน้าหวานอย่างใจจดใจจ่อ ดูเอาเถอะว่าเมื่อครู่ยังทำท่าจะร้องไห้อยู่รอมร่อ เป็นผู้ชายจริงๆหรือเปล่าก็ไม่รู้ ใจเสาะซะไม่มี

     

    จริงๆมันไม่มีอะไรเลย ที่ฉันไม่อยากเล่าเพราะฉันไม่อยากรื้อฟื้น

     

    แล้วเป็นเพราะอะไร ทำไมนายถึงไม่อยากพูดถึงมัน” คริสขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัย

     

    ก็มันเป็นประสบการณ์ที่ค่อนข้างเลวร้ายน่ะ ฉันเล่นบอร์ดไม่ได้อีกเลยเพราะเกิดอุบัติเหตุตอนแข่งอินเตอร์เมื่อสองปีก่อน

     

    นายเก่งขนาดได้ไปแข่งอินเตอร์เลยหรอ?”

     

    เหอะไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับฉันเลยสินะ” ม่านตากลมกลอกไปมาก่อนเลย์จะยู่ปากทำหน้าน้อยใจสุดๆ เขามีชื่อเสียงขนาดนั้น ชื่อจางอี้ชิงก็ยังไม่เข้าไปอยู่ในโสตประสาทของคริสบ้างเลย นี่เกิดมาเคยสนใจใครบ้างไหม

     

    ก็ไม่ใช่อย่างนั้นซะหน่อย...แล้วไงต่ออ่ะ” มือหนายกขึ้นลูบท้ายทอยแก้เขิน เหมือนเป็นการยอมรับว่าที่ผ่านมาเขาไม่เคยสนใจใครเลยจริงๆ ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องแล้วถามต่อไป



    ฉันรู้ว่าเพื่อนนายที่ชื่อจงอินเจ็บข้อเท้าในการแข่งขันครั้งนั้น เพราะมันเป็นประสบการณ์เดียวกันกับที่ฉันเจอ แต่ฉันโชคร้ายหน่อย แค่เกือบเดินไม่ได้อีกเลย” แค่เกือบเดินไม่ได้งั้นหรือ เรียกว่าเดินไม่ได้เลยต่างหาก

     

    “…………………”

     

    ฉันเล่นท่าสามหกศูนย์แบบที่จงอินทำ ตอนลงมามันดันพลาดน่ะ แต่ฉันก็อยากจบให้มันสวยที่สุดเลยพยายามเกร็งข้อเท้าฝืนมันในการทรงตัว ผลสุดท้ายเอ็นข้อเท้าเลยขาด” ใบหน้าหวานฉายแววเสียใจออกมาให้เห็นอยู่เรื่อยๆ ส่ายหน้าไปมาพลางถอนหายใจออกมาเป็นระยะๆ ถึงจะทำใจมาได้แล้วก็เถอะ แต่ได้คิดถึงที่ไรก็พาลเอาเจ็บที่ใจอยู่ตลอด

     

    เอ็นข้อเท้าขาดทำให้เล่นไม่ได้อีกเลยหรอ มันหนักขนาดนั้นเชียว

     

    ฉันก็คิดเหมือนนายนั่นแหละ ฉันไม่รู้ตัวด้วยซ้ำตอนเล่นเพราะไม่รู้สึกอะไรเลย แต่ได้ยินเสียงเหมือนสายกีต้าขาดที่แผ่นหลังดังในโสตประสาท และนั่นเพิ่งมารู้ว่าเส้นเอ็นมันเชื่อมต่อกันยาวถึงหลังด้วย บอกเลยว่าฉันยังเดินออกมาจากสนามได้สบายหวือ จากนั้นอยู่ๆก็ล้มพับนอนไปกับพื้นแล้วไม่รู้สึกตัวอีกเลย

     

    จบแค่นี้?” คริสเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม ใบหน้าหล่อทำท่าว่าจะเห็นใจอีกคนที่เรื่องเลวร้ายแบบนี้มาทำลายอนาคตของเลย์ แต่นั่นกลับทำได้แค่ปั้นหน้านิ่งเพราะไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้อีก

     

    ยังหรอก มันยาวกว่านั้นนิดหน่อย ฉันนอนอยู่ที่โรงพยาบาลหลายเดือน มันสะเทือนไปถึงหลังของฉันด้วย  เพราะโชคร้ายฉันเลยเดินไม่ได้ ที่เห็นเป็นปกติดีแบบนี้เพราะทำกายภาพบำบัด กลับมาบ้านไม่วายยังต้องใส่เฝือกอีกนานพอตัว และคำพูดแทงใจฉันก็คือ คุณหมอสั่งห้ามฉันไม่ให้กลับไปเล่นบอร์ดอีกเด็ดขาด จบนะ

    พูดแค่นั้นก็ลุกขึ้นเดินไปที่เตียงกว้างของเจ้าของห้องก่อนจะล้มตัวลงนอนฟุบหน้าไปกับหมอนทันที ปล่อยให้คริสมองตามแผ่นหลังไปอย่างนึกเป็นห่วง แต่นั่นดูเหมือนว่าเลย์ก็ไม่อยากจะคิดถึงมันอีก

     

    เสียใจรึเปล่า?” คนที่นั่งอยู่กับโต๊ะเอ่ยถามพลางหันกลับไปมอง นึกแล้วก็แทบจะทึ้งหัวตัวเอง ถามอะไรออกไปโง่ๆ

     

    ไม่เลย ไม่เสียใจสักนิด” เสียงหวานตอบกลับอีกคนพลางค่อยๆพลิกตัวให้นอนหงายเงยหน้าขึ้นมองดวงไฟที่ส่องสว่างภายในห้อง

     

    ไม่เสียใจน่ะดีแล้ว เรื่องมันผ่านมาแล้วก็ให้มันผ่านไป

     

    ไอ้บ้าประชดเว้ยใครมันจะไม่เสียใจเล่า” ใช่ ใครมันจะไม่เสียใจ ตอนรู้ว่าตัวเองจะเดินไม่ได้ก็แทบอยากจะฆ่าตัวตายเลยซะเดียวนั้น เลย์พ่นหายใจออกมาเต็มแรงเมื่ออีกคนเกิดซื้อบื้อขึ้นมาไม่ถูกเวล่ำเวลาจนอยากจะปาหมอนใส่ แต่นั่นจะถือว่าเป็นคำปลอบใจก็แล้วกันนะ

     

    อ้าวหรอนั่นสินะใครมันจะไม่เสียใจ แต่ยังไงฉันก็รักนายนะ” คริสพยายามพูดให้เลย์สบายใจพลางมือหนาก็จัดการปิดสมุดการบ้านลงแล้วเดินไปยังเตียงที่มีอีกคนนอนรออยู่ ก่อนจะขึ้นคร่อมจนเป็นนิสัย ทำเอาคนใต้ร่างเบิกตาโพลงด้วยความตื่นตระหนก



    เนี่ยๆ นายก็เป็นแบบนี้ตลอด” เสียงหวานค่อนขอดก่อนจะยกมือเล็กขึ้นผลักอกแกร่งให้ออกไปห่าง ให้ตายเถอะว่านิสัยเสียแบบนี้มีอยู่คนเดียวนั่นแหละ

     

    นายก็เลิกดื้อกับฉันสักวันสิ” ไม่พูดเปล่าใบหน้าหล่อยังโน้มเข้าหาอีกคน กดปลายจมูกโด่งลงที่แก้มนิ่มที่ขึ้นสีระเรื่อพลางสูดดมกลิ่มหอมอ่อนๆเข้าไปฟอดใหญ่ ก่อนจะผละออกแล้วจ้องลึกสบนัยน์ตากลมคู่สวยตรงหน้าจนคนใต้ร่างหันหนีอย่างเคอะเขิน



    ก็ถ้าฉันไม่ดื้อ ฉันจะมั่นใจได้ยังไงว่าชีวิตฉันจะปลอดภัย

     

    โห ดูพูดเข้า นี่ไม่ไว้ใจฉันเลยใช่ไหม?” คริสเบะปากเมื่ออีกคนทำเหมือนเขาชอบฉวยโอกาส หากแต่นั้นมันก็เรื่องจริงหมดทุกอย่าง ไม่ใช้แค่ฉวยโอกาส เรื่องเจ้าเล่ห์ก็ไม่เป็นรองใคร แต่คริสก็ขอบอกไว้ก่อนเลยว่าเขาน่ะเป็นกับคนหน้าหวานคนนี้คนเดียวเท่านั้นแหละ

     

    ฉันพยายามจะไว้ใจนายหลายครั้งแล้ว แต่นายก็ทำมันพังตลอดรู้ไว้ซะ ออกไปเลย!” พูดแค่นั้นก็ใช้แรงทั้งหมดที่มีผลักกายหนาจนล้มลงไปนอนอยู่ข้างๆกัน ก่อนจะดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมกายไว้อย่างแน่นหนา

     

    กลัวฉันขนาดนั้น?” ใบหน้าหล่อเอียงถามคนตัวเล็กที่เอาผ้าห่มมาม้วนตัวเองจนเหมือนกับดักแด้ ก่อนจะหัวเราะในลำคอเบาๆอย่างนึกขัน



    ไม่ได้กลัว แต่ไม่ไว้ใจ! เข้าใจนะ นอนสักที” 

    เปลือกตาบางปิดลงฉับพลัน เพราะรับรู้ได้ว่าอีกคนเอาแต่จับจ้องที่ใบหน้าของเขาอยู่ตลอด หากแต่ไม่นานก็ต้องเบิกตากว้างอีกครั้งเมื่อไอ้คนที่นอนอยู่ข้างๆกันกลับฉวยโอกาสจุมพิตที่ริมฝีปากเขาไปอย่างหน้าตาเฉย อีกเช่นเคยสินะ นับเถอะว่าที่โดนอีกคนทำแบบนี้น่ะ เว้นระยะห่างยังไม่ถึงห้านาทีเลยด้วยซ้ำ

     

    พร้อมจะพูดคำว่ารักกับฉันเมื่อไหร่ก็บอกนะ ฉันจะรอฟัง ฝันดีครับอี้ชิงของอู๋ฟาน

    สิ้นเสียงทุ้มกายบางก็นอนแน่นิ่งเกร็งตัวหดอยู่ในผ้านวมผืนหนาด้วยความร้อนรุ่ม ในใจมันสั่นไหวจนแทบจะควบคุมไม่อยู่ สัมผัสอบอุ่นที่แตะกับริมฝีปากของเขาทำเอาหัวใจพองโตได้ตลอด รู้อยู่แก่ใจว่ารู้สึกยังไงกับอีกคน แต่สุดท้ายเขาก็ไม่สามารถแสดงออกไปได้อย่างที่ใจคิด แล้วไอ้คำพูดคำจาที่คนตัวสูงพูดน่ะ ใครเป็นของใครก็เลิกพูดสักทีเถอะ เลย์อยากจะจมหายไปกับเตียงนอนซะเหลือเกิน

     

    ฝันดี

    พูดเสียงเรียบหลังจากที่คริสปิดไฟในห้องจนมันมืดสนิทแล้ว  หลับตาลงข่มใจตัวเองในความมืดมิดไม่ให้เผลอตามใจอีกคนมากเกินไป ก็จะอะไรอีกล่ะถ้าตอนนี้ไม่ได้นอนอยู่ในอ้อมกอดอบอุ่นที่เขาก็ไม่ปฎิเสธหรอกว่าชอบมันเอามากๆ อบอุ่นจนถึงขั้นร้อนระอุก็ไม่ปราน ม้วนตัวเป็นดักแด้ขนาดนี้แล้วไอ้เจ้าของห้องก็ยังโอบกอดจนร้อนไปหมด  แต่นั่นเมื่อไหร่ล่ะที่พร้อมจะบอกความในใจให้อีกคนได้รับรู้ คำๆนั้นที่ต้องการพูดมันมาตลอด

     

     

    …ADOLESCENT…

     










    * หายไปนานจนจำกันไม่ได้แล้วใช่ไหมคะ?? T0T

    ช่วงนี้กำลังยุ่งกับการทำหนังสือค่ะ ยังไงจะมาอัพให้เรื่อยๆน้า

    อย่าเพิ่งทิ้งกันไปไหนเน้อ ^^ รักรีดเดอร์ทุกคนนนนน >//////<

    สำหรับคนที่สนใจฟิคเรื่อง THE WIZARD แฮร่ๆ โปรโมทๆ ใกล้จะปิดจองแล้วน้า :’D

    http://writer.dek-d.com/story/writer/viewlongc.php?id=897176&chapter=26

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×