คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : [Mafia Vs Mafia] - ตอนที่ 04 บาปของคนบาป
[ตอนที่ 4] บาปของคนบาป
“ชางมินนายไปไหนมา?”
“เอาเหยื่อไปล่อปลา”
“ห๊า?”
“ของเล่นนะของเล่น…”
คิบอมรู้ได้ทันทีจากท่าทีของเจ้านายและเพื่อนในคราเดียว เมื่อบอกไปหาของเล่น นั้นก็คือเชวมินโฮ ของเล่นชิ้นโปรดที่อาจเปลี่ยนตำแหน่งของตนไปเป็นอย่างอื่น เพียงแต่เจ้าตัวยังไม่รู้ก็เท่านั้น
“รู้ใช่ไหมว่าตัวเองทำอะไรอยู่?”
“อื้ม”
“แล้วรู้ใช่ไหมว่าเจตนาของอีกฝ่ายคือ?”
“อื้ม”
“อย่ามาเสียใจทีหลังละ นายทำตัวเองจำได้ไหม? ฉันไม่รับรองหรอกนะว่าครั้งนี้นายจะทนมันได้”
“ฉันไม่เป็นไร”
“ฉันเตือนแล้วนะ”
“อื้ม..ขอบใจ”
การสนทนาที่ไม่อาจเข้าใจได้ มินโฮที่ชางมินพามาจนถึงเซฟเฮ้าท์ แอบฟังอยู่ด้านนอกเมื่อชางมินบอกว่าจะเข้าไปเอาของที่ลืมไว้ แต่ไม่รู้ทำไมเค้าถึงเข้าใจได้เองว่าบทสนทนาต่างๆนั้นกลับมีเค้าที่เป็นตัวแปรสำคัญ
‘มันหมายความว่ายังไงกันนะ?’
“ไปกันเถอะมินโฮ” เสียงเรียกของชางมินทำให้เค้าได้สติและกลับสู้ปัจจุบัน
“ไปไหน?”
“นายเพิ่งมาโซลครั้งแรกหลังจากสามเดือนใช่ไหมละ ไปเที่ยวกันเถอะ”
และแล้วรอยยิ้มบางๆที่ไม่ได้เห็นมานานก็ฉายชัดอยู่บนใบหน้า มินโฮมองมันอย่างหลงไหลครู่หนึ่งอย่างนึกสงสัยและเสียดายเมื่อเห็นว่ามันค่อยๆเบาบางลงทุกที
“ยิ้มอีกสิ”
“ห๊า?”
“เวลาพี่ยิ้ม ดูสวยมากเลย”
“ฉันเป็นผู้ชายนะ”
การขัดจังหวะในแบบของชางมินทำให้มินโฮหัวเราะออกมาเบาๆ
“ผู้ชายสวยไม่ได้หรอไง?”
“อืม ..ไม่รู้สิ”
“เอาเถอะ ผมชอบเวลาพี่ยิ้ม นานๆทียิ้มมันออกมาบ้าง โลกก็ไม่แตกหรอก”
คนฟังหน้าเหวอไปชั่วครู่ อะไรบางอย่างได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว เค้ารู้สึกได้ พวกเค้า … สัมผัสได้
‘ยิ้ม..แล้วได้อะไร’ คำถามนี้ติดอยู่ในความคิดของชางมิน แต่ยิ่งหาคำตอบก็ยิ่งห่างออกไป..ไกลมากขึ้นทุกที
“ทำอะไรน่ะ?” มินโฮถามขึ้นเมื่อเห็นร่างสูงส่องกระจกบานใหญ่ไม่ยอมเดินตามมาเสียที
“ย..ยิ้มน่ะสิ”
“ห๊า? แบบนี้มันแยกเขี้ยวมากกว่าน่ะผมว่า” มินโฮให้ความเห็นก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเห็นคนตรงหน้ามีท่าทีจริงจังแม้จะเป็นเรื่องเล็กๆก็ตาม
“ฉ..ฉันทำผิดเหรอ?”
“อ..เออไม่ผิดหรอก จะว่าไงดีละ มันดูสยองน่ะ”
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่มินโฮสามารถพูดอะไรอย่างที่ใจนึกและออกความเห็นได้ตรงๆกับคนข้างกายนี้ด้วยความสนิทใจ อาจเพราะชางมินเปลี่ยนไปทีละนิด หรืออาจเพราะเค้าเห็นว่า ….?
“ช่างเถอะ ฉันไม่ทำแล้ว”
“อ้าว? ทำไมละ”
“อะไรที่ทำไม่ได้…ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนผลออกมาก็เหมือนเดิม เสียเวลาเปล่า”
มินโฮถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ฉุดแขนชางมินที่ทำท่าจะเดินไปให้หันกลับมา รอยยิ้มบางๆค่อยๆปรากฏออกมาพร้อมๆกับคำพูดที่กำลังแทรกซึมลงไปในจิตใจ
“เห็นไหม ยากตรงไหนกัน..”
ชางมินลอบมองคนที่ยิ้มออกมาได้อย่างง่ายดายอย่างหาคำตอบ ก่อนจะเอ่ยบางอย่าง …
“หน้าที่นาย….”
“….????”
.
.
.
“ทำให้ฉันยิ้มสิ”
‘ห้างสรรพสินค้า’ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ชิมชางมิน ไม่ค่อยได้ย่างกรายเข้ามา หากจำเป็นต้องการสิ่งใดก็มีลูกน้องเป็นโขยงที่พร้อมใจกันออกมาเพื่อหาสิ่งนั้นกลับไปให้
“มาที่นี้ทำไม?” ไม่ใช่ชางมินที่ถาม และไม่ใช่มินโฮที่พามา แปลกใจก็ตรงที่หัวหน้ามาเฟียผู้ได้ฉายาว่าปีศาจ ในวันนี้กลับอยากมาเที่ยวและพาเค้ามาจนถึงห้างสรรพสินค้าในเครือของตัวเอง ร่างสูงเดินนำเข้าไป เหล่าพนักงานต่างก้มโค้งต้อนรับกันเจ้าระหวั่นเพราะไม่มีใครที่รู้ล่วงหน้าเลยสักคนว่าวันนี้ท่านประธานใหญ่จะเข้ามาถึงที่
“ฉันคิดว่าถ้าเป็นนาย…”
“………………….”
“คงจะให้คำตอบกับฉันได้”
มินโฮออกจะงุนงงอยู่เล็กน้อยในคำพูดของชางมินและสถานที่ๆคนๆนี้พามา เนอสเซอร์รี่เล็กๆที่ถูกตั้งอยู่ชั้นสามของห้างสรรพสินค้า พนักงานคนหนึ่งวิ่งกรูเข้ามาต้อนรับทันทีที่เห็นว่าเป็นใคร
“ท..ท่านประธาน”
“…………….”
“ด..ดิฉันไม่ทราบว่าท่านจะมา เพราะปกติท่านไม่เคย…ม..มาเอง”
เหมือนพนักงานคนนั้นจะรู้ทันว่าได้พูดล่วงเกินเจ้านาย ถึงได้ยอมเงียบไปในท้ายประโยค และไม่กี่นาทีต่อมาเด็กน้อยคนหนึ่งก็ถูกพนักงานอีกคนอุ้มออกมาให้ได้เห็นหน้าคร่าตา
“ย..ยูฮวาน?”
มินโฮร้องอย่างดีใจระคนตกใจในคราเดียว ไม่ใช่ว่าลืม … แต่เพราะไม่กล้าพอ
“อ..อาขอโทษ อาขอโทษ อาจะไม่ทิ้งยูฮวานอีกแล้ว อาสัญญา”
คนเป็นอาน้ำตาไหลพรากทันทีที่ได้เห็น เป็นบาปครั้งแรกในชีวิตที่เค้าได้กระทำลงไปต่อหลานชายแท้ๆของตน เพียงเพราะกลัว … แค่กลัวที่จะต้องกลับมาเผชิญหน้ากับคนที่ชื่อชิมชางมินเท่านั้น
สามเดือนที่ต้องทำเป็นลืม และเก็บบาปนั้นไว้กับตัว ไม่อาจรู้ได้เลยว่าแท้จริงแล้วหลานชายของตนจะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ คนใจร้ายแบบชางมินที่ไม่เคยปราณีใคร ยังจะเลี้ยงเด็กน้อยคนนั้นต่อจากเค้าหรือเปล่า?
“ผ..ผมนึกว่าคุณ ฆ่าเค้าไปแล้ว”
“ฉันไม่ปฏิเสธ..ฉันพยายามจะฆ่าเค้าแต่คิบอมนั้นละที่แส่ไม่เข้าเรื่อง”
ชางมินบอกเล่าเสมือนเป็นเรื่องธรรมดาแต่ใจคนฟังกลับกระตุกวูบอย่างแรง ร่างสูงหาได้ใส่ใจนึกไปถึงเรื่องราวในวันนั้นที่เค้าเกือบฆ่าบอดี้การ์ดของตนลงไปพร้อมๆกับลูกชายตัวเอง เมื่อคิบอมเอาตัวเข้ามาขวาง
‘ทำบ้าอะไรของนาย หลีกไป’
‘นี่มันเด็กนะชางมิน’
‘อย่างกับฉันไม่เคย’
‘แต่นี่มันลูกนาย’
‘มันร้องไห้วอแวน่ารำคาญ ลูกฉันแล้วไงครั้งก่อนฉันก็ทำลืมแล้วหรอ?’
เมื่อเห็นว่าชางมินไม่มีท่าทีคล้อยตาม คิบอมเริ่มคิดหาทางเอาตัวรอด …
‘นายจะหลีกไปดีๆ หรือให้ฉันยิงนายไปพร้อมๆกัน’
‘กล้าหรอ?’
‘คิดว่าไงละ?’
‘โอเคๆฉันหลีกก็ได้…แต่’
ชางมินนิ่ง ตั้งใจฟังว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไร …
‘นายคิดว่ามินโฮจะว่ายังไงละ……?’
นั้นละจุดอ่อน…
ที่คิบอมรู้แต่เจ้าตัวมันยังไม่เฉลียวใจเลยสักนิด
“แว๊ๆๆ!! แว๊ๆๆ!!!” แม้จะอยู่ในอ้อมกอดของคนเป็นอา แต่เมื่อเจ้าตัวเล็กเหลือบไปเห็นมารร้ายในร่างของบิดาก็เริ่มร้องไห้ออกมาเสียงลั่นห้อง ชางมินจ้องเด็กนั้นอย่างหัวเสีย กระบอกปืนมันวาวถูกหยิบขึ้นมาตอนไหนไม่รู้ ปลายของมันจ่ออยู่ทีปากกลมของทารกน้อยที่ไร้ทางสู้
“น่ารำคาญจริงๆ ฉันน่าจะฆ่ามันตั้งแต่สามเดือนก่อน”
“ท..จะทำอะไร!?”
“ทำให้มันหุบปากนะสิ!”
“อ..อย่านะ!!”
เมื่อเห็นมินโฮเอาตัวเข้ามาบัง เค้าเริ่มหัวเสียขึ้นอีกครั้ง
“จะปกป้องมันทำไม ถอยไป”
“แล้วคุณพาผมมาทำไม ให้ผมมาดูคุณจบชีวิตหลานผมหรอไง!”
เออ .. จะว่าไปชางมินก็ยังหาคำตอบไม่ได้ว่าเพราะเหตุใดถึงพามินโฮมาที่นี้
“ทำให้มันเงียบซะ ถ้านายทำไม่ได้ ฉันจะเอาปืนเป่าปากมัน”
มินโฮตกใจน้ำตาคลอ รีบอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาปลอบ จนเสียงร้องไห้นั้นเบาลงจนผล็อยหลับไป
พนักงานในร้านต่างก็ตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่ได้เห็น แต่คงไม่มีใครกล้าพูดหรือเอาไปนินทาเพราะเข้าใจดีว่าหากทำเยี่ยงนั้นคนที่จะต้องจบชีวิตลงตรงนี้อาจเป็นตัวพวกเค้าเอง
เมื่อเห็นว่าเรื่องราวคลี่คลายร่างสูงก็เดินนำมาจนถึงที่จอดรถ ในหัวก็เอาแต่ครุ่นคิดว่าที่พามินโฮมานี่มันหมายความว่าอย่างไร และเพราะเหตุใดเค้าถึงได้ปล่อยมินโฮมานานถึง สามเดือน?
“เหม่ออะไร?” คนที่เค้าปักใจให้เชื่อว่าเป็นศัตรูถามขึ้น ชางมินสะดุ้งน้อยๆเหมือนกำลังประหม่า ซึ่งเค้าก็งงตัวเองมากอยู่เหมือนกันเพราะไม่เคยมีใครทำให้เค้าประหม่าได้ถึงขนาดนี้ เหมือนกับทุกการกระทำของเค้าถูกเชวมินโฮคอยจับผิด? หากเค้าทำไม่ดีเมื่อไหร่จะถูกตำหนิได้เมื่อนั้น?
“คุณไว้ชีวิตเค้าได้ไหม…ผมขอร้อง” ณ.ลานจอดรถที่ไร้ผู้คน มินโฮที่เดินไปถึงตัวรถก่อนแล้วหันกลับมาสนทนากับชางมินที่อยู่อีกฝากของถนน คำขอร้องอ้อนวอนแต่ดวงตากลับฉายแววจริงจังเสมือนรอคำตอบที่ตนต้องการว่า
‘ต้องได้ผมตกลง’ เล่นเอาปีศาจร้ายในคราบของมาเฟียจำต้องกลืนน้ำลายอย่างไม่รู้ตัว
“ก..ก็ตราบเท่าที่นายยังเลี้ยงเด็กนั้นอยู่”
“หมายความว่า…คุณจะให้ผมเอายูฮวานไปเลี้ยง?” น้ำเสียงดีใจอย่างปิดไม่มิด ก้มลงกอดเด็กน้อยด้วยความรักใคร่จนไม่ทันได้สังเกตุถึงความผิดปกติบางอย่าง รถคันหนึ่งที่พุ่งตรงมาด้วยความเร็วสูงใครคนหนึ่งโผล่หน้าออกมาทางกระจกด้านข้างในมือถือปืนสั้นสองกระบอกหวังเอาชีวิตเด็กหนุ่มที่กำลังอุ้มทารกน้อยไว้ในมือ
((ปังงงงงงงงงงงงงงงงงงง))
((ปังงงงงงงงงงงงงงงงงงง))
“อย่ามาขัดตอนคนเค้ากำลังคุยกัน…” น้ำเสียงเย็นชาที่ไม่ได้ยินมานานถูกส่งออกมาจากใครอีกคนที่ได้ฉายาว่าปีศาจร้ายในคราบมนุษย์ ปืนพกถูกนำขึ้นมาใช้และจัดการมือสมัครเล่นลงได้อย่างมืออาชีพ
“เห็นทีฉันคงให้นายกลับไม่ได้…เชวกรุ๊ปก็ให้ยุนโฮดูแลแทนไปก่อนแล้วกันหมอนั้นคงดีใจน่าดู”
“ท..ทำไมละ?”
“ก็เห็นอยู่เมื่อครู่มันจ้องจะเอาชีวิตใคร?”
“………………………………”
“พวกนั้นเป็นคนของซีวอน………...”
ชางมินตอบคำถามคาใจก่อนจะผลักให้ทั้งสองชีวิตเข้าไปนั่งในรถและขับออกไปยังเซฟเฮ้าท์หลังเดิม แต่ดูท่าเจ้าลูกลิงเริ่มออกฤทธิ์ท่ามากอีกแล้ว
“ผมยังไม่ได้ตกลงเลยสักคำ!”
“นายไม่มีสิทธิ์เลือก”
“ผมต้องไปเรียน ต้องกลับไปบอกพี่ยุนโฮด้วย!”
“ยุนโฮอยู่ที่ห้องทำงานด้านบน…”
เมื่อได้ยินดังนั้นหน้ากลมเริ่มตูมขึ้นอย่างขัดใจก่อนจะเดินตามร่างสูงของชางมินขึ้นไปยังห้องทำงาน ให้มันได้อย่างนี้สิ อะไรๆก็เข้าทางอีตานี้ไปเสียทุกอย่าง งั้นสามเดือนที่ผ่านมาจะมีประโยชน์อะไรกันเล่า!
“จุนซูเอาเด็กนี้ไปเก็บที” เก็บในที่นี้คงหมายถึงเอาไปให้ไกลๆหน้าฉัน จุนซูรับทราบและเข้าใจดีเพราะอยู่รับใช้ชางมินมานานพอตัว ผิดกลับอีกคนที่ไม่เคยเข้าใจคนๆนี้ได้เลย
“ห๊า!? เก็บงั้นเหรอ? คุณจะเก็บหลานผมอีกแล้วเหรอ!?”
คนเป็นอาว่าอย่างหัวเสีย กระชากคอเสื้อชางมินอย่างลืมตัว จุนซูตกใจอ้าปากเหวอกลัวว่าวันนี้คงได้ ‘เก็บ’ ใครสักคนจริงๆ ได้แต่หลับตาภาวนาให้มันผ่านไปด้วยดี
“อย่าประสาทหน่อยเลย ฉันบอกให้จุนซูพามันไปเก็บในห้อง” ให้ไกลๆจากสายตาฉันก็เท่านั้น ประโยคหลังชางมินต่อมันในใจเมื่อเห็นสายตาตำหนิจากคนข้างกาย เฮ? แล้วนี่เค้าจะกลัวอะไร!
‘ห้องทำงาน’
“คุณชางมินกลับมาแล้วครับเค้าบอกอีกห้านาทีจะขึ้นมา”
“อืม”
ไม่นานประตูห้องก็เปิดผลางออกพร้อมๆกับใครสองคนที่เดินเข้ามา
“มินโฮไม่เป็นไรใช่ไหม?” ยุนโฮรี่เข้าไปหาน้องชายด้วยความเป็นห่วงก่อนจะหันไปมองชางมินอย่างเอาเรื่อง
“คุณลักพาตัวน้องผมอีกแล้ว?”
“อย่าเข้าใจผิดสิครับคุณยุนโฮ น้องคุณเดินตามผมมา ผมไม่ได้ล่ามโซ่เค้าเสียหน่อย”
ใบหน้ายียวนกวนประสาทในแบบที่ยุนโฮเห็นแล้วก็นึกโมโหทุกที แต่มินโฮก็ห้ามไว้ก่อนที่จะเกิดเรื่องราวมากไปกว่าเดิม
“คุณต้องการอะไร?”
“ไม่มีนี่ครับ”
“อย่ามาเล่นตลกกับผม”
“โอเคๆ อย่าพึ่งใจร้อน ผมแค่อยากให้คุณมาคุมเชวกรุ๊ปเหมือนเดิมก็เท่านั้น”
เมื่อได้ยินดังนั้นยุนโฮก็ขมวดคิ้วอย่างฉงน คนอย่างชางมินไม่มีทางทำอะไรฟรีๆแน่นอน แล้วเพราะเหตุใดกัน?
การที่ยึดเชวกรุ๊ปได้แต่กลับนำมาคืนให้เค้าแบบนี้?
“อย่าพึ่งตีตนไปก่อนคุณยุนโฮ ผมแค่ไม่เห็นด้วยกับวิธีของซีวอนก็เท่านั้น”
“แล้วทำไมคุณไม่คุมมันด้วยตัวเอง?”
“ลูกน้องคุณคงหันมาลอบกัดผมกันทั้งคณะ”
และแล้วยุนโฮก็เข้าใจ จะให้ใช้เค้าบังหน้า และคอยควบคุมอยู่เบื้องหลังเชวกรุ๊ป?
“ผมไม่เล่นด้วย”
“คุณนี่ฉลาดไม่เปลี่ยน…แต่คิดดีแล้วหรือ?”
ชางมินยิ้มอย่างพอใจเมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่ยอมเดินตามเกมส์ เค้าคาดการณ์ไว้แล้วว่าคนอย่างยุนโฮนั้นเป็นคนฉลาด เรื่องที่เค้ามอบเชวกรุ๊ปให้ก็เพื่อใช้บังหน้าและคอยคุมอำนาจอยู่เบื้องหลังก็เท่านั้น
“………….”
“ถ้าอย่างนั้น…น้องชายคุณจะเป็นยังไงก็ช่างสินะ”
และเพื่อการนี้เชวมินโฮ…ถึงยังกลับถิ่นของตนไม่ได้
ก็แค่เชลย เป็นตัวประกันที่มีไว้ให้หมากตัวสำคัญเดินตามเกมส์
“มินโฮกลับ!!” ยุนโฮว่าเสียงแข็ง ขณะที่ลุกและกำลังจะพากันออกไป คนของชางมินทั้งหมดก็กรูกันเข้ามา ปืนพกขนาดเหมาะมือถูกยกขึ้นมาเป็นอาวุธ ปลายกระบอกปืนหลายกระบอกหันไปทางจุดหมายเดียว ‘พี่น้องจากเชวกรุ๊ป’
“ผมว่าคนฉลาดอย่างคุณคงไม่คิดสั้นฆ่าตัวตายคู่หรอกนะครับ”
ชางมินยิ้มเย็นอย่างกำชัย เพียงเท่านี้เค้าก็สามารถคุมอำนาจของเกาหลีทั้งหมดได้แล้ว
“พี่ยุนโฮ!อย่าไปยอมมันนะ มันฆ่าได้ก็ฆ่าไป อย่าปล่อยเชวกรุ๊ปให้มัน”
มินโฮร้องเสียงหลงอย่างเหนือความคาดหมาย ชางมินจ้องคนพูดไม่วางตาอย่างโกรธแค้น คนของชางมินเตรียมยิงไปยังน้องชายของมันอย่างเดือดดาลตามเจ้านาย แต่ถูกชางมินสกัดไว้ก่อน
“อย่าริบังอาจทำอะไรโดยที่ฉันยังไม่ได้สั่ง”
“ค..ครับ”
“ปากดีเหมือนเคยนะ ฉันนึกว่านายจะเข็ดหลาบไปแล้วเสียอีกตั้งแต่มาลองดีกับฉันเมื่อสามเดือนก่อน”
ร่างสูงตรงเข้าไปหามินโฮ บีบคางเรียวให้หันมาสบตา จ้องลึกลงไปอย่างคาดโทษและหันไปหายุนโฮอีกครั้ง
“แล้วแต่คุณละกันนะครับคุณยุนโฮ ว่าต้องการอนาคตแบบไหน บางทีน้องชายที่น่ารักกับหลานชายคนสำคัญอาจต้องเปื้อนเลือดโดยที่พวกเค้าไม่ได้ทำความผิดใดๆ”
“ค..คุณนี่มัน!!” มินโฮกัดฟันแน่นผลักชางมินให้ออกห่างและตบลงไปสุดแรง ใบหน้าคมหันไปตามแรงเหวี่ยงจับมือเรียวนั้นไว้แน่นก่อนจะลากออกไปโดยไม่ลืมทิ้งท้ายไว้ให้ยุนโฮต้องเจ็บแสบเล่น
“น้องชายคุณมันดื้อเสียด้วย ถ้าคุณให้คำตอบช้าไป บางทีผมอาจเผลอฆ่าไปโดยไม่รู้ตัว”
--------------------------------------------->> TBC.
ความคิดเห็น