=== PART 5 : ความเจ็บปวดของ ‘เชวมินโฮ’ ===
ผมมาอยู่ที่นี้กับพี่ชางมินได้ 3 ปีกว่าๆ
คฤหาสน์หลังโตที่มีเพียงแค่ผมและพี่ชางมิน
เป็นอะไรหลายอย่างที่สำคัญสำหรับผม
ถึงแม้บ้านหลังนี้จะดูน่ากลัว วังเวง และอึมครึมเพียงใด
แต่เพราะมันมีพี่ชางมิน
ผมถึงได้ไม่กลัว
หลังจากเรามาอาศัยที่คฤหาสน์หลังนี้ได้ไม่นาน
พี่ชางมินก็เดินหน้าบึ้งมาหาผม
และบอกว่า
‘มินโฮ
คือฉัน
คือว่าฉัน รักนาย!’
ความเป็นพี่น้องของเราถึงได้หายไป
หายไปตั้งแต่วันนั้น เมื่อมันแปรเปลี่ยนเป็นคำว่า ‘คนรัก’
ใช่ฮะ! ผมรักพี่ชางมิน
และพี่ชางมินก็รักผม
แต่ละวันของเราคือความสุข ผมคิดอย่างนั้น
พี่ชางมินดีกับผมมาก
เค้าคอยดูแลเอาใจผมอย่างที่เคยเป็น
เราเหมือนคู่รักที่พึ่งจะแต่งงานแล้วย้ายมาอยู่บ้านหลังเดียวกัน
แปลกเหมือนกันนะฮะ
ทั้งๆที่เราทั้งคู่เป็นผู้ชาย
แต่ทำไงได้
ผมรักพี่เค้าจริงๆ
รอยยิ้มของเค้า
เป็นทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับผม
เสียงหัวเราะของเค้า
ทำให้ผมมีความสุข
คำบอกรักของเค้า
ทำให้ผมแทบบ้า
‘นี่ผมเป็นอะไรไป?’
‘ผมรักพี่เค้าเหลือเกิน’
ความรักที่ผมมีให้มันมากขึ้นทุกวัน เติบโตขึ้นทุกนาที
โดยไม่รู้ตัว ว่าความรักจอมปลอมนั้น มันกำลังหวนกลับมาทำร้ายผม
ผมเริ่มรู้จักกับความเจ็บปวดครั้งแรกในเรื่องนี้
เพราะคนที่ชื่อ ‘ชิมชางมิน’
อย่างที่รู้
เรื่องมันเกิดขึ้นหลังจากที่เราย้ายมาอยู่ที่คฤหาสน์หลังนี้ได้ 2 ปีกว่า
หรือสามเดือนที่แล้วถ้านับจากเวลาปัจจุบันที่ผมอยู่
เค้าเปลี่ยนไป
พี่ชางมินของผมเปลี่ยนไป
จากคนใจดี
.ที่มอบแต่เสียงหัวเราะให้ผม
บัดนี้กลายเป็นคนใจร้าย
ที่มีให้แต่เพียงน้ำตา
จากคนร่าเริงสดใส
.กลายเป็นคนเฉยชาไร้ความรู้สึก
จากที่เรารักกัน
บัดนี้ผมไม่อาจเรียกมันว่าความรักได้อีกแล้ว
เค้ามอบแต่ความเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจ
วันนั้นผมกลัวมาก
!!
ครั้งแรกที่เห็นสายตา น้ำเสียง คำพูดเย้ยหยันและการกระทำ
ทำให้ผมบอกได้คำเดียว ‘ผมกลัวผู้ชายคนนี้’
เพราะนั้นเป็นครั้งแรกที่เค้าเปลี่ยนไป
พี่ชางมินในวันนั้นเดินตรงเข้ามาหาผมถึงบนเตียง
ผมถามเค้าออกไปเมื่อเห็นสีหน้าเค้าสงบนิ่งอย่างน่าประหลาด
“พี่ชางมิน
พี่เป็นอะไรหรือป่าว!?”
เค้าไม่ตอบแต่ย่างกรายเข้ามาหาผมเรื่อยๆ
เขาขึ้นคร่อมผมไว้ทาบทับผม ลูบไล้ผม ไม่มีแม้แต่คำพูด
ผมดันเขาออกไป ถามเค้าว่า “พี่จะทำอะไร!?”
ทั้งๆที่ในใจรู้ดี ผมเห็นเค้ายิ้มก่อนจะตอบออกมา
“นายก็น่าจะรู้~!”
“อ๊าา~!! พี่..ช..างมินอย่
า ผมยังไม่พร้อม!”
ผมตะคอกเค้ากลับไปพร้อมกับยันตัวร่างสูงสุดฤทธิ์
เราคบกันก็จริง
แต่ผมกับเค้ายังไม่มีอะไรกัน!!
เมื่อก่อนพี่ชางมินก็เคยถามผมว่า ”นายจะพร้อมให้ฉันได้เมื่อไหร่”
ผมได้แต่หลบตา แล้วบอกออกไป ว่าผมยังไม่พร้อม
พี่เค้ายิ้มกลับมา แล้วบอกว่า “ไม่เป็นไร ฉันจะรอ^^”
แต่วันนี้มันกลับต่างออกไป
พี่ชางมินไม่เหมือนทุกที
“ผมยังไม่พร้อม!”
“เด๋วนายก็พร้อมเอง~!!” เค้าว่าก่อนจะรุกเร้าผมมากขึ้น
เสื้อเชิ้ตตัวบางถูกเลิกขึ้นมาตอนไหนก็ไม่รู้
มือพี่เค้าไวเหลือเกิน เลื่อนลงมาปลดกางเกงผมจนสุด
ผมดิ้นให้หลุดจากอกแกร่งแต่ก็ทำได้เพียงเท่านั้น
เพราะไม่นานพี่ชางมินก็ยึดข้อมือทั้งสองของผมไว้ แล้วจัดการมัดด้วยเชือกที่ตกอยู่ข้างเตียง
“พี่ชางมิน! จะทำอะไร!?”
“อยากรู้หรอ
ฉันจะเฉลยให้นายเอง~” รอยยิ้มเย็นๆไร้ความรู้สึกส่งมาให้พร้อมกับคำพูดเยาะเย้ยยังไงชอบกล
ผมเบือนหน้าหนีเมื่ออีกฝ่ายเอาแต่ซุกไซร้ซอกคอของผม
“อื้ออ~” ผมเผลอครางออกมาเล็กน้อยเพราะความที่ผมไม่เคย
แต่เป็นการกระตุ้นอารมณ์ให้คนฟังได้แต่ยิ้มกริ่มก่อนจะจัดการกับเรือนร่างตรงหน้าต่อไป
ริมฝีปากของอีกฝ่ายยังคงทำหน้าที่ได้ดี กดจูบลงไปเพื่อสร้างรอยให้เห็นเด่นชัด
ก่อนจะเลื่อนขึ้นไปประกบเข้ากับริมฝีปากบางของอีกฝ่ายทันที
“อื้อออ~!”
ส่วนมือพี่เค้าก็ไม่อยู่เฉยเลื่อนต่ำลงไปหยอกล้อกับตุ่มไตให้แข็งขืนขึ้นมา
ผมเผลอร้องออกไป จนคนตรงหน้าได้ใจ เคล้นคลึงส่วนล่างของผมไปมา
“อื้อออ~!! อื้มมมม~!”
“ร้องออกมาสิมินโฮ~”
“อื้มมม อย่
า ไม่เอา !”
ผมร้องบอกแต่ส่วนนั้นมันกลับทรยศแข็งขืนตามมือพี่เค้าไปเสียดื้อๆ
จนคนทำยิ้มกริ่มอย่างพอใจในผลงาน
ก็จัดการโน้มตัวลงไปครอบครองด้วยริมฝีปากหยักทันที
“อื้มมมมม~!! อื้ออออ อึดอัด! พี่ช..างมิน!”
ผมร้องบอกเมื่อคนทำยังคงอ้อยอิ่ง
รูดขึ้นลงไปมาได้ไม่นานก็หยุดเสียดื้อๆ
แถมยังขบเม้มส่วนปลายเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจะถึงที่หมาย
“อื้อออ~!! พี่ช
างมิน ช่วยผมที ~”
ผมร้องขออย่างไม่รู้ตัว คนฟังก็เอาแต่ยิ้มเหยียดส่งมาให้
ก่อนจะลุกขึ้นยืน หยุดการกระทำทั้งหมดแล้วเดินออกมา
ทิ้งให้คนถูกกระทำได้แต่บิดไปมา ด้วยความอึดอัด เสียวซ่าน และอีกหลายความรู้สึก
เมื่อคนทำที่ไม่อยู่แล้วทิ้งท้ายไว้ด้วยคำพูดที่คนรักกันไม่มีวันจะพูดออกมาได้แน่นอน
“ต่อจากนี้ไปนายมีหน้าที่เชื่อฟังฉัน! ปรนเปรอให้ฉัน รับใช้ฉัน อย่าคิดออกไปจากที่นี้อีก ไม่ว่าจะเป็นการออกไปเที่ยวหรือคิดจะหนีฉันไปก็ตาม!!
เพราะสำหรับฉัน นายก็เป็นได้แค่
สัตว์เลี้ยงไร้ค่า!!”
คำพูดนั้นยังคงอยู่ในความทรงจำของผมมาจนถึงทุกวันนี้
มันเจ็บเสียยิ่งกว่าการกระทำที่พี่ทำให้ผมในวันนั้นเสียอีก
พี่รู้ไหม?
น้ำตาหยดแล้วหยดเล่า ไหลอาบแก้ม
ส่วนนั้นที่ยังคงแข็งขืน ยังไร้การปลดปล่อย
พี่จะรู้บ้างไหม
ว่าผมเจ็บปวดกับสิ่งที่พี่ทำมากแค่ไหน!?
.
.
และมันไม่ใช่หนเดียว
แต่ละครั้งกับความทรมานที่ได้รับต่างกัน
รุนแรงขึ้นทุกครั้งที่ได้เจอหน้า
แม้กระทั่งผมหมดสติ ผมยังคงต้องคอยรับใช้พี่เสมือนสัตว์เลี้ยงแสนเชื่อง!!
“มินโฮ!! ลงไปเอาน้ำส้มมาให้ฉันที”
พี่เค้าสั่ง ผมต้องทำตาม ไม่งั้นจะเจอแบบวันนั้นอีก
แต่พอเอาขึ้นมาให้
พี่กลับทำผมอย่างนี้ เค้าเทน้ำส้มเย็นๆที่ผมไปหามาลงบนศีรษะของผมจนเปียกชุ่ม
ก่อนจะปาแก้วลงพื้นแล้วร้องบอก “เก็บกวาดซะให้เรียบร้อย!!”
และถ้าวันไหนผมขัดคำสั่งพี่ชางมินเมื่อไหร่ ผมจะต้องเจอกับอะไรมั้ง คุณคงไม่อยากรู้หรอก
เพราะนั้นคือความผิดครั้งแรกที่ผมคิดจะขัดคำสั่งและหนีออกจากคฤหาสน์
แต่โดนจับได้ และถูกลากตัวลงไปด้วยคนสองคนที่ยืนเฝ้าจับตาผมเอาไว้
คงจะเป็นพี่ชางมินนั้นละ
เพราะบ้านหลังนี้จะมีใครได้อีกที่ทำอะไรแบบนี้ได้
พี่ชางมินสั่งให้ชายสองคนจับตาดูผมเอาไว้
ซึ่งผมไม่รู้ และคิดหนีออกมา ก็ถูกจับได้ และพาตัวไปยังชั้นบนสุดของคฤหาสน์ประหลาด
ซึ่งชั้นนั้นผมไม่เคยย่างกรายเข้าไป เพราะพี่ชางมินห้ามไว้!
ผมถูกโยนเข้าไปก็เจอเข้ากับใครก็ไม่รู้
ในห้องนั้นมืดมาก มีเพียงแค่แสงไฟสลัวๆสีออกแดงๆดูน่ากลัว
ผมหลับตาข่มความกลัวได้ไม่นาน ก็ถูกคนๆหนึ่งฉุดขึ้นมานั่งบนเตียง
“เป็นอะไรไหม?”
เค้าถามผม
เสียงที่ไม่คุ้นเคย
ผมส่ายหน้าไปมา
ก่อนจะถามเค้าออกไป “คุณเป็นใคร?”
“ฉันเป็นใครไม่สำคัญ
แต่เธออยู่ที่นี้คงไม่ดีแน่!! รู้ไหมนี้มันห้องอะไร!?”
ผมส่ายหน้า เพราะไม่เคยขึ้นมาเหยียบเลยสักครั้ง
“มันเป็นห้องทรมาน
.”
เค้าทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะวิ่งออกจากห้องไป
ผมวิ่งตามเค้า แต่ก็ไม่ทัน ประตูถูกปิดไปแล้ว
“พี่ชางมิน!! พี่ชางมิน ช่วยผมด้วย!!” ผมร้องเรียกคนๆเดียว คนสำคัญของผม
แต่ก็ไร้ซึ่งวี่แววของคนๆนั้น ไม่นานประตูก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง
ผมเห็นเงาของคนสามคนเดินเข้ามาทางผม
จับตัวผมล็อกเอาไว้ ก่อนจะลากผมไปที่เตียง
“จะทำอะไร!!?”
“ลงโทษ
!! คุณหนูชิมสั่งมา!!”
“คุณหนูชิม!? ใครกัน!!?”
“คุณหนู ทายาทเพียงคนเดียวของที่นี้ ชิมชางมิน!”
ชัดถ้อยชัดคำ มินโฮอึ้งไปเล็กน้อยแต่ก็หันมาให้ความสนใจกับตัวเองก่อน
เมื่อเค้ากำลังเสียเปรียบคนสามคน
“จะทำอะไร!! มัดฉันทำไม!!?”
ผมตะโกนถามอย่างตกใจเมื่อข้อมือของผมถูกเชือกพันธนาการไว้กับหัวเตียง
ห้องมืดๆที่มองไม่เห็นแม้แต่หน้าของผู้กระทำ
ร่างทั้งสามที่แยกย้ายกันสำรวจร่างกายเค้าอย่างไม่คิดจะร้องขอ
“อ๊าาาา~!!!” ผมร้องครางออกมาเล็กน้อย
ไม่ใช่เพราะมีอารมณ์แต่คนพวกนั้นกำลังปลุกให้ผม
ผมถอยหนี แต่ก็ได้แค่นั้นเพราะเชือกมัดไว้
“อย่า!! ออกไป!!”
ผมตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ
แต่ก็ไม่มีใคร..ช่วยอะไรผมได้เลย
เพราะตอนนี้
ผมไม่เหลือใครอีกแล้ว
“พี่ชางมิน!!!!” ผมร้องเรียกชื่อเค้าอีกครั้งก่อนจะสลบไป
ถึงแม้จะรู้ดี
ว่านี้คงเป็นฝีมือของเค้าคนนั้นก็ตาม
มารู้ตัวอีกทีผมก็มาอยู่ในห้องนอนของผม
ร่างกายบอบช้ำ จากการกระทำที่โหดร้าย
ผมพึ่งจะโดนผู้ชายด้วยกันข่มขืนมา??
แถมมันไม่ใช่คนเดียว!?
นี้ผม
ไร้ค่าแล้วจริงๆ
น้ำตาของผมหยดลงมาอีกครั้งเมื่อนึกถึงสภาพของตัวเอง
พี่ชางมิน
คงเกลียดเค้าจริงๆเสียแล้ว
ร้องไห้คร่ำครวญได้ไม่นานประตูหน้าห้องก็เปิดผลางออก
“พี่ชางมิน
.” ผมเรียกชื่อเค้าทั้งน้ำตา
แว่บแรกผมเห็นเค้ามองมาที่ผมอย่างเป็นห่วงแต่ผมคงจะเพ้อไปเอง
เพราะคำพูดประโยคแรกกับสายตาเหยียดหยามที่ส่งมาให้อย่างปิดไม่มิด
“นายมันไร้ค่ายิ่งกว่าโสเภณีเสียอีก
เชวมินโฮ~!!”
ผมมองพี่เค้าทั้งน้ำตาก่อนจะถามข้อข้องใจออกไป
“พี่เป็นคนส่งมาหรอ?”
“??” ผมเห็นสีหน้าของพี่เค้าดูงงๆ ผมจึงถามออกไปอีกครั้ง
“บทลงโทษเมื่อกี้
พี่สั่งงั้นหรอ?”
พี่ชางมินยิ้มเยาะ “รู้ตัวซะทีนะเชวมินโฮ นายว่ายังไงก็แบบนั้นละ~!!”
เค้าพูดไว้แค่นั้นก่อนจะเดินจากไป
.
.
ความเจ็บปวดที่ผมได้รับตลอดสามเดือนที่ผ่านมา
มันยากจะบรรยายให้ครบทุกความรู้สึก
ทั้งโกรธ
ทั้งเกลียด
.
ทั้งแค้น
.
เจ็บปวด
ทรมาน
.
แต่ไม่ว่ายังไง
ผมก็ยังคงรักเค้าอยู่ดี
.
พี่ชางมิน
ผมขอโทษ
ผมทนไม่ไหวแล้วจริงๆ
‘ลาก่อน
..’
ชายหนุ่มพึมพำอะไรบางอย่างก่อนจะจัดการกรีดมีดลงข้อมือข้างหนึ่งทันทีอย่างไม่คิดลังเล
“มินโฮ!!!”
.
.
.
TBC. [เเต่งฟิคบ้าไรฟ่ะ~!! เเบ่งปันความเครียด ^o^]
ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : === PART 5 : ความเจ็บปวดของ เชวมินโฮ ===
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น