ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : === Chapter 3 : การเผชิญหน้ากับอดีตของเชวมินโฮ ===
บทที่ 3 : การเผชิญหน้ากับอดีตของเชวมินโฮ
ชางมินกลับมาถึงบ้านอย่างไร้เรี่ยวแรง
ก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอย่างเช่นทุกครั้ง
โดยข้างกายก็ยังคงมีใครอีกคนนั่งเท้าคางมองมาที่เค้าตาไม่กระพริบ
“เป็นอะไรไป…มินโฮ?” ผมถามเค้ากลับไปอย่างสงสัยเมื่อกลับมาถึงมินโฮก็เอาแต่เงียบ
มีเพียงสายตาที่หันมองผมนี่ละ
“ฉันยังไม่รู้จักชื่อนายเลย~!” เค้าจ้องมองผมจนเกือบจะทะลุผ่าน
แต่ผมคงลืมไปว่า ผีตนนี้ไม่เหมือนตัวอื่น
ดันนอนได้ นั่งได้ หลับได้ แถมยังสัมผัสได้อีกต่างหาก!!
“ชางมิน…” ผมว่าอย่างเหนื่อยอ่อน แล้วทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง
ก็นึกว่ามีอะไรเห็นจ้องตาไม่กระพริบ
“อายุเท่าไหร่?”
ชางมินมองคนถามอย่างไม่สบอารมณ์ “จะรู้ไปทำไม?”
“ตอบมาก็พอ…!!”
เมื่อเจอสายตาคาดคั้น ก็ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงต้องตอบเค้าไปด้วย
สงสัยเพราะผมเองก็ไม่มีคนให้พูดมากได้อย่างนี้ละมั้ง
“22” ผมก็ได้แต่ตอบสั้นๆกลับไป
เปลือกตาค่อยๆเลื่อนลงมาและปิดลงในที่สุด
แต่เพราะคนข้างๆมัวแต่พึมพัม “ผม19 เอง ห่างกันสามปีไม่จำเป็นต้องเรียกพี่ก็ได้มั้ง~!”
“เฮ้ยๆ เรียกเสียเดียวนี้! ฮยอง..!!”
แต่คนฟังดันยิ้มตาหยี! “ฮยองกับผีอ่ะดิ!!”
ชางมินก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมาอย่างเอือมๆ และหลับไปจริงๆ
มินโฮมองคนบนเตียงอย่างหลงใหล
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร..!?
เค้าถึงได้ไว้ใจในตัวคนๆนี้นัก
ทั้งๆที่…ดูจากคนส่วนใหญ่ เห็นเค้าเป็นเพียงแค่ ตัว “ซวย”
.
.
เวลาตีสองกว่าๆของค่ำคืนนั้น
เสียงกึกๆ กึกๆ เรียกเอาคนที่นอนอยู่จำต้องลุกขึ้นอีกครั้ง
มองหาใครคนนั้นก็ไม่มี แสดงว่าเสียงนี้คงจะมาจากมินโฮไม่ผิดแน่
เค้าเดินไปตามเสียง
ภาพที่เห็นทำให้เค้าตกใจ!
เป็นภาพเดียวกันกับที่เค้าเห็นมินโฮเมื่อวานนี้ไม่ผิด
“อื้ออ~!” เสียงครางแสนหวานที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ากำลังทำอะไร
“มินโฮ…..” ผมร้องเรียกเค้า ซึ่งเค้าหันมองผมทั้งน้ำตาอย่างเหมือนเคย
นี่มันเรื่องอะไรกัน..!!
อะไรทำให้คนๆนี้ต้องกลับมาทำเรื่องซ้ำซากอย่างนี้ทุกค่ำคืน
“ให้ฉันช่วยไหม?” ชางมินร้องถาม สีหน้าเค้าดูตกใจเล็กน้อย
แต่กลับปฏิเสธไม่ได้เมื่อคนถามดันก้าวเข้ามาเร็วกว่าคำตอบ
“อื้อออ~! อื้มมม” มินโฮครางฮือ เมื่อสองมือหนาคอยประคองและรูดขึ้นลงให้ตามจังหวะสองสามที
ไม่นานน้ำคาวขุ่นก็หลั่งออกมามากมาย
ชางมินเห็นน้ำตานั้นยังคงร้องไห้ไม่หายก็ดึงเข้ามากอดเอาไว้
พลางกระซิบถาม “ทำไมนายต้องกลับมาทำอะไรซ้ำซากอย่างนี้?”
แต่คนที่ควรจะตอบก็ดันหลับคาอ้อมกอดไปเสียแล้ว
.
.
“อื้อออ~!! ไม่! คุณพ่อ! ม..ไม่เอา!!”
“อื้ออ~! อย่า! ช..ช่วยผมด้วย!!”
เสียงละเมอจากส่วนหนึ่งของความทรงจำเรียกเอาความกังวลของคนฟังได้แต่ตีหน้ายุ่ง
‘พ่องั้นหรอ..!?’
.
.
เช้าวันรุ่งขึ้น
ชางมินที่ยังคงนอนไม่ตื่น
เพราะมัวแต่เฝ้าคนข้างกาย
ความสัมพันธ์ที่ไม่รู้ตัวกำลังค่อยๆมาเยือนชายหนุ่มอีกครั้ง
แล้วเค้าจะต้องพบเจอกับการสูญเสียนี้อีกครั้งหนึ่งใช่ไหม?
“พี่ชางมิน! ตื่นได้แล้ว..!! วันนี้ไม่มีเรียนหรอ!!” เสียงหนึ่งร้องเรียกหน้าตาบู้บี้
ชางมินมองคนพูดก่อนจะยิ้มมาให้ “ไม่ไป”
“เฮ้ย!! จะดีหรอ…!?”
แต่ชางมินกลับไม่ตอบทิ้งตัวลงนอนตามเดิม
13 : 00 น. เสียงนาฬิกาปลุกก็ดังขึ้นทำให้ชายหนุ่มตื่นขึ้นมาหาวว๊อด
ก่อนจะมองหาใครอีกคน
“มินโฮ….”
“มินโฮ…นายอยู่ไหนนะ?”
“ผมอยู่นี้!” เด็กหนุ่มตะโกนกลับมาให้ ขณะที่กำลังทำอาหารอยู่ในครัว[?]
‘เออ! ผมเพิ่งรู้ว่าผีเค้าทำอาหารกันได้ด้วย!!’
แต่แล้วผมกลับพบว่าผมคิดผิด -o-
เมื่อผลที่ได้คือ…บ้านผมเกือบพัง!!
เท่านั้นละเราเลยต้องออกไปสรรหาของกินนอกบ้าน
ระหว่างที่กำลังเดินอยู่บนถนน ผมแอบมองคนข้างๆอย่างไม่รู้ตัว
ส่วนมินโฮเองก็หันมาทางผมพอดิบพอดี
‘แล้วนี่! ฉันจะหลบสายตานายไปทำไมกัน!...มินโฮ!’
คิดได้ดังนั้นก็ไล่ความคิดที่ว่านี้ออกไป
ก่อนจะหาร้านอาหารที่พอจะลองท้องได้
มินโฮกลับตัวแข็งทื่อขึ้นมาเสียอย่างนั้น สองมือล็อกชายเสื้อผมเอาไว้พลางชี้ไปที่ผู้ชายร่างสูงวัยกลางคน
พลางพึมพำบางอย่างออกมา “พ่อ…”
เท่านั้นละผมมองคนๆนั้นกลับไปด้วยสายตารังเกียจทันที
ผมไม่ชอบขี้หน้าคนๆนี้เอาเสียเลย
เดินเข้าไปใกล้เสมือนไม่มีอะไร ก่อนจะแกล้งเดินชนจนเค้าล้มลงไป
“อีเด็กบ้า!! ทำบ้าอะไรของแก…!!” ชายคนนั้นตะเบ็งเสียงถาม
แต่ก็ได้แค่นั้นละเพราะผมคงไม่อยู่…รอให้เค้าด่า
เฝ้ามองคนข้างกายที่ตอนนี้เงียบไปเสียแล้วอย่างรู้สึกเป็นห่วง
ถึงแม้ว่าคนภายนอกจะมองไม่เห็น
ก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้ที่อยู่ๆก็เงียบไปเสียเฉยๆ
“มินโฮ….”
“มินโฮ….”
ผมร้องเรียกเค้าไม่นานเค้าก็หันกลับมามอง
ก่อนจะยิ้มมาให้ “ไม่เป็นอะไรนะ..!?” ผมถามเค้าออกไป
แต่เค้ากลับส่ายหัวไปมา พลางทำเป็นก้มหน้าก้มตามองอาหารนานาชนิดที่ตั้งยั่วน้ำลาย
ไม่นานเค้าก็ทำท่าจะตักมันเข้าปาก
“เฮ้ย!” ผมร้องลั่นทันทีเมื่อเค้าดันลืมตัว
“อ..อะไรละชางมิน!”
“นายมองรอบข้างบ้างสิ! เค้ามองมาที่ฉันเหมือนฉันกำลังเล่นมายากลทำให้ช้อนลอย -o-”
เท่านั้นละคนตรงหน้าก็ขำออกมา
ถึงมันจะทำให้ผมมีความสุข
แต่เหมือนว่าผมกำลังกลัวอะไรบางอย่าง
.
.
คืนนั้นเอง
นี่ก็ผ่านมาได้ 3 อาทิตย์แล้วตั้งแต่ที่ผมได้รู้จักกับมินโฮ
แต่ดูเหมือนว่าอาการนั้นของเค้าจะยังไม่หายไปสักที
อาการประหลาดที่จะตอบสนองทุกค่ำคืน
“อื้ออออ~!! อื้มมม” เสียงครางหวานยังคงดังไม่หยุดท่ามกลางน้ำลักมากมายที่หลั่งออกมา
ด้วยการช่วยเหลือจากผมทุกครั้งไป
แต่สำหรับครั้งนี้มันไม่เหมือนเดิม
ไม่เหมือนอาทิตย์ก่อนๆ
มันทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ
ส่วนนั้นของผมอยู่ๆก็ขยายใหญ่ขึ้นมาตุงกางเกงอย่างไม่รู้ตัว
“อื้ออออ~!” ยิ่งเห็นคนตรงหน้ามีอารมณ์เท่าไหร่
มันยิ่งทำให้อารมณ์ของผมถูกจุดขึ้นมาอย่างง่ายดาย
‘นี่ผมเป็นอะไรไป….’
และดูเหมือนมินโฮจะมองผมอย่างรู้ทัน
“ดูนายทรมานจังนะ..ให้ฉันช่วยไหม?”
แต่ยังไม่ทันได้ตอบคำถามใดๆ มือบางนั้นก็กำลังบีบเคล้นส่วนนั้นไปมาอย่างชำนาญ
รูดขึ้นลงได้ไม่นานก็เป็นการปลดปล่อยออกมา “ทำไม…เสร็จเร็วจังละชางมิน~!?”
ชางมินมองคนถามอย่างไม่สบอารมณ์
ได้แต่หงุดหงิดแล้วเดินจากไป
มินโฮมองตามอย่างมึนๆ
เพราะไม่รู้ว่ากำลังสบประมาทคนตรงหน้าด้วยคำพูดที่ไม่ได้ใส่ใจ
มารู้ตัวอีกที “ชางมิน! นี่นายโกรธฉันหรอ?”
แต่เจ้าตัวก็ดันไม่ตอบ
เฮ้ออออ !! มินโฮถอนหายใจเดินตามไม่หยุด แต่คนตรงหน้าก็ยังคงไม่คุยด้วย
‘อาการหนัก!’
“เฮ้! ชางมิน!! รอฉันด้วยสิ” มินโฮร้องเรียกเมื่อเห็นอีกฝ่ายเอาแต่เดินไม่หยุดตั้งแต่ออกมาซื้อของใช้จำเป็น
“ชางมิน! นายโกรธอะไรฉันอ่ะ..!?”
ชางมินหันมองคนพูด ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
‘จะให้พูดหรือไง! รู้ไหมมันเสียหน้า!!’
ชายหนุ่มครุ่นคิด
ไม่นานเหมือนอีกฝ่ายจะเข้าใจถามกลับไปเสียงแผ่ว
“เรื่องเมื่อคืนหรอ….”
และมันทำให้ชางมินหน้าแดง!!
แต่เพราะประโยคถัดมา เค้าถึงได้รู้ว่ามันเป็นคนละเรื่องกัน
“ฉันขอโทษ…ฉันไม่รู้จริงๆว่าทำไมฉันถึงมีอาการแบบนั้นทุกคืน มันจะออกฤทธิ์ทุกครั้งจนควบคุมไม่อยู่ และภาพพวกนั้น!
อดีตที่ไม่อยากจำก็หวนกลับคืนมาทุกครั้งที่ฉันได้ทำลงไป ภาพที่พ่อเลี้ยงชั่วคนนั้น! มันฝืนใจ…ข่…มขืน”
และแล้วผมก็เห็นน้ำตาของคนตรงหน้าอีกครั้ง
ผมเดินเข้าไปใกล้ กอดเขาไว้ “พ..อแล้ว ไม่ต้องเล่าอีกแล้ว ฉันไม่ได้โกรธเรื่องนั้น”
“แ..แต่ชางมินไม่พูด…ไม่…”
“พอเถอะมินโฮ…ฉันขอโทษนะ ที่โกรธนาย”
ผมบอกเค้าออกไป มินโฮถึงจะยิ้มออกมา ส่วนเรื่องนั้น! เป็นตายร้ายดียังไง ก็ไม่มีวันบอกเด็กขาด!!
ชายหนุ่มครุ่นคิดอีกครั้งก่อนจะจูงมือกันกลับบ้าน
ถึงแม้คนส่วนใหญ่จะเห็นว่าผมเดินมาแค่คนเดียว
แต่ในใจผมรู้ดี…ว่าผมได้มีคนที่จะเคียงข้างแล้ว
‘มินโฮฉันขอโทษ….’
‘ฉันว่า…ฉันรักนายเข้าแล้วจริงๆ’
ความรักที่ไม่สมควรจะเกิดขึ้น
กลับไม่มีใครห้ามมันได้
เค้าจะสมหวัง…!?
หรือจะต้องสูญเสียมันไป?
.
.
.
TBC.
ชางมินกลับมาถึงบ้านอย่างไร้เรี่ยวแรง
ก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอย่างเช่นทุกครั้ง
โดยข้างกายก็ยังคงมีใครอีกคนนั่งเท้าคางมองมาที่เค้าตาไม่กระพริบ
“เป็นอะไรไป…มินโฮ?” ผมถามเค้ากลับไปอย่างสงสัยเมื่อกลับมาถึงมินโฮก็เอาแต่เงียบ
มีเพียงสายตาที่หันมองผมนี่ละ
“ฉันยังไม่รู้จักชื่อนายเลย~!” เค้าจ้องมองผมจนเกือบจะทะลุผ่าน
แต่ผมคงลืมไปว่า ผีตนนี้ไม่เหมือนตัวอื่น
ดันนอนได้ นั่งได้ หลับได้ แถมยังสัมผัสได้อีกต่างหาก!!
“ชางมิน…” ผมว่าอย่างเหนื่อยอ่อน แล้วทิ้งตัวลงนอนอีกครั้ง
ก็นึกว่ามีอะไรเห็นจ้องตาไม่กระพริบ
“อายุเท่าไหร่?”
ชางมินมองคนถามอย่างไม่สบอารมณ์ “จะรู้ไปทำไม?”
“ตอบมาก็พอ…!!”
เมื่อเจอสายตาคาดคั้น ก็ไม่รู้ว่าทำไมผมถึงต้องตอบเค้าไปด้วย
สงสัยเพราะผมเองก็ไม่มีคนให้พูดมากได้อย่างนี้ละมั้ง
“22” ผมก็ได้แต่ตอบสั้นๆกลับไป
เปลือกตาค่อยๆเลื่อนลงมาและปิดลงในที่สุด
แต่เพราะคนข้างๆมัวแต่พึมพัม “ผม19 เอง ห่างกันสามปีไม่จำเป็นต้องเรียกพี่ก็ได้มั้ง~!”
“เฮ้ยๆ เรียกเสียเดียวนี้! ฮยอง..!!”
แต่คนฟังดันยิ้มตาหยี! “ฮยองกับผีอ่ะดิ!!”
ชางมินก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมาอย่างเอือมๆ และหลับไปจริงๆ
มินโฮมองคนบนเตียงอย่างหลงใหล
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร..!?
เค้าถึงได้ไว้ใจในตัวคนๆนี้นัก
ทั้งๆที่…ดูจากคนส่วนใหญ่ เห็นเค้าเป็นเพียงแค่ ตัว “ซวย”
.
.
เวลาตีสองกว่าๆของค่ำคืนนั้น
เสียงกึกๆ กึกๆ เรียกเอาคนที่นอนอยู่จำต้องลุกขึ้นอีกครั้ง
มองหาใครคนนั้นก็ไม่มี แสดงว่าเสียงนี้คงจะมาจากมินโฮไม่ผิดแน่
เค้าเดินไปตามเสียง
ภาพที่เห็นทำให้เค้าตกใจ!
เป็นภาพเดียวกันกับที่เค้าเห็นมินโฮเมื่อวานนี้ไม่ผิด
“อื้ออ~!” เสียงครางแสนหวานที่ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ากำลังทำอะไร
“มินโฮ…..” ผมร้องเรียกเค้า ซึ่งเค้าหันมองผมทั้งน้ำตาอย่างเหมือนเคย
นี่มันเรื่องอะไรกัน..!!
อะไรทำให้คนๆนี้ต้องกลับมาทำเรื่องซ้ำซากอย่างนี้ทุกค่ำคืน
“ให้ฉันช่วยไหม?” ชางมินร้องถาม สีหน้าเค้าดูตกใจเล็กน้อย
แต่กลับปฏิเสธไม่ได้เมื่อคนถามดันก้าวเข้ามาเร็วกว่าคำตอบ
“อื้อออ~! อื้มมม” มินโฮครางฮือ เมื่อสองมือหนาคอยประคองและรูดขึ้นลงให้ตามจังหวะสองสามที
ไม่นานน้ำคาวขุ่นก็หลั่งออกมามากมาย
ชางมินเห็นน้ำตานั้นยังคงร้องไห้ไม่หายก็ดึงเข้ามากอดเอาไว้
พลางกระซิบถาม “ทำไมนายต้องกลับมาทำอะไรซ้ำซากอย่างนี้?”
แต่คนที่ควรจะตอบก็ดันหลับคาอ้อมกอดไปเสียแล้ว
.
.
“อื้อออ~!! ไม่! คุณพ่อ! ม..ไม่เอา!!”
“อื้ออ~! อย่า! ช..ช่วยผมด้วย!!”
เสียงละเมอจากส่วนหนึ่งของความทรงจำเรียกเอาความกังวลของคนฟังได้แต่ตีหน้ายุ่ง
‘พ่องั้นหรอ..!?’
.
.
เช้าวันรุ่งขึ้น
ชางมินที่ยังคงนอนไม่ตื่น
เพราะมัวแต่เฝ้าคนข้างกาย
ความสัมพันธ์ที่ไม่รู้ตัวกำลังค่อยๆมาเยือนชายหนุ่มอีกครั้ง
แล้วเค้าจะต้องพบเจอกับการสูญเสียนี้อีกครั้งหนึ่งใช่ไหม?
“พี่ชางมิน! ตื่นได้แล้ว..!! วันนี้ไม่มีเรียนหรอ!!” เสียงหนึ่งร้องเรียกหน้าตาบู้บี้
ชางมินมองคนพูดก่อนจะยิ้มมาให้ “ไม่ไป”
“เฮ้ย!! จะดีหรอ…!?”
แต่ชางมินกลับไม่ตอบทิ้งตัวลงนอนตามเดิม
13 : 00 น. เสียงนาฬิกาปลุกก็ดังขึ้นทำให้ชายหนุ่มตื่นขึ้นมาหาวว๊อด
ก่อนจะมองหาใครอีกคน
“มินโฮ….”
“มินโฮ…นายอยู่ไหนนะ?”
“ผมอยู่นี้!” เด็กหนุ่มตะโกนกลับมาให้ ขณะที่กำลังทำอาหารอยู่ในครัว[?]
‘เออ! ผมเพิ่งรู้ว่าผีเค้าทำอาหารกันได้ด้วย!!’
แต่แล้วผมกลับพบว่าผมคิดผิด -o-
เมื่อผลที่ได้คือ…บ้านผมเกือบพัง!!
เท่านั้นละเราเลยต้องออกไปสรรหาของกินนอกบ้าน
ระหว่างที่กำลังเดินอยู่บนถนน ผมแอบมองคนข้างๆอย่างไม่รู้ตัว
ส่วนมินโฮเองก็หันมาทางผมพอดิบพอดี
‘แล้วนี่! ฉันจะหลบสายตานายไปทำไมกัน!...มินโฮ!’
คิดได้ดังนั้นก็ไล่ความคิดที่ว่านี้ออกไป
ก่อนจะหาร้านอาหารที่พอจะลองท้องได้
มินโฮกลับตัวแข็งทื่อขึ้นมาเสียอย่างนั้น สองมือล็อกชายเสื้อผมเอาไว้พลางชี้ไปที่ผู้ชายร่างสูงวัยกลางคน
พลางพึมพำบางอย่างออกมา “พ่อ…”
เท่านั้นละผมมองคนๆนั้นกลับไปด้วยสายตารังเกียจทันที
ผมไม่ชอบขี้หน้าคนๆนี้เอาเสียเลย
เดินเข้าไปใกล้เสมือนไม่มีอะไร ก่อนจะแกล้งเดินชนจนเค้าล้มลงไป
“อีเด็กบ้า!! ทำบ้าอะไรของแก…!!” ชายคนนั้นตะเบ็งเสียงถาม
แต่ก็ได้แค่นั้นละเพราะผมคงไม่อยู่…รอให้เค้าด่า
เฝ้ามองคนข้างกายที่ตอนนี้เงียบไปเสียแล้วอย่างรู้สึกเป็นห่วง
ถึงแม้ว่าคนภายนอกจะมองไม่เห็น
ก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้ที่อยู่ๆก็เงียบไปเสียเฉยๆ
“มินโฮ….”
“มินโฮ….”
ผมร้องเรียกเค้าไม่นานเค้าก็หันกลับมามอง
ก่อนจะยิ้มมาให้ “ไม่เป็นอะไรนะ..!?” ผมถามเค้าออกไป
แต่เค้ากลับส่ายหัวไปมา พลางทำเป็นก้มหน้าก้มตามองอาหารนานาชนิดที่ตั้งยั่วน้ำลาย
ไม่นานเค้าก็ทำท่าจะตักมันเข้าปาก
“เฮ้ย!” ผมร้องลั่นทันทีเมื่อเค้าดันลืมตัว
“อ..อะไรละชางมิน!”
“นายมองรอบข้างบ้างสิ! เค้ามองมาที่ฉันเหมือนฉันกำลังเล่นมายากลทำให้ช้อนลอย -o-”
เท่านั้นละคนตรงหน้าก็ขำออกมา
ถึงมันจะทำให้ผมมีความสุข
แต่เหมือนว่าผมกำลังกลัวอะไรบางอย่าง
.
.
คืนนั้นเอง
นี่ก็ผ่านมาได้ 3 อาทิตย์แล้วตั้งแต่ที่ผมได้รู้จักกับมินโฮ
แต่ดูเหมือนว่าอาการนั้นของเค้าจะยังไม่หายไปสักที
อาการประหลาดที่จะตอบสนองทุกค่ำคืน
“อื้ออออ~!! อื้มมม” เสียงครางหวานยังคงดังไม่หยุดท่ามกลางน้ำลักมากมายที่หลั่งออกมา
ด้วยการช่วยเหลือจากผมทุกครั้งไป
แต่สำหรับครั้งนี้มันไม่เหมือนเดิม
ไม่เหมือนอาทิตย์ก่อนๆ
มันทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ
ส่วนนั้นของผมอยู่ๆก็ขยายใหญ่ขึ้นมาตุงกางเกงอย่างไม่รู้ตัว
“อื้ออออ~!” ยิ่งเห็นคนตรงหน้ามีอารมณ์เท่าไหร่
มันยิ่งทำให้อารมณ์ของผมถูกจุดขึ้นมาอย่างง่ายดาย
‘นี่ผมเป็นอะไรไป….’
และดูเหมือนมินโฮจะมองผมอย่างรู้ทัน
“ดูนายทรมานจังนะ..ให้ฉันช่วยไหม?”
แต่ยังไม่ทันได้ตอบคำถามใดๆ มือบางนั้นก็กำลังบีบเคล้นส่วนนั้นไปมาอย่างชำนาญ
รูดขึ้นลงได้ไม่นานก็เป็นการปลดปล่อยออกมา “ทำไม…เสร็จเร็วจังละชางมิน~!?”
ชางมินมองคนถามอย่างไม่สบอารมณ์
ได้แต่หงุดหงิดแล้วเดินจากไป
มินโฮมองตามอย่างมึนๆ
เพราะไม่รู้ว่ากำลังสบประมาทคนตรงหน้าด้วยคำพูดที่ไม่ได้ใส่ใจ
มารู้ตัวอีกที “ชางมิน! นี่นายโกรธฉันหรอ?”
แต่เจ้าตัวก็ดันไม่ตอบ
เฮ้ออออ !! มินโฮถอนหายใจเดินตามไม่หยุด แต่คนตรงหน้าก็ยังคงไม่คุยด้วย
‘อาการหนัก!’
“เฮ้! ชางมิน!! รอฉันด้วยสิ” มินโฮร้องเรียกเมื่อเห็นอีกฝ่ายเอาแต่เดินไม่หยุดตั้งแต่ออกมาซื้อของใช้จำเป็น
“ชางมิน! นายโกรธอะไรฉันอ่ะ..!?”
ชางมินหันมองคนพูด ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
‘จะให้พูดหรือไง! รู้ไหมมันเสียหน้า!!’
ชายหนุ่มครุ่นคิด
ไม่นานเหมือนอีกฝ่ายจะเข้าใจถามกลับไปเสียงแผ่ว
“เรื่องเมื่อคืนหรอ….”
และมันทำให้ชางมินหน้าแดง!!
แต่เพราะประโยคถัดมา เค้าถึงได้รู้ว่ามันเป็นคนละเรื่องกัน
“ฉันขอโทษ…ฉันไม่รู้จริงๆว่าทำไมฉันถึงมีอาการแบบนั้นทุกคืน มันจะออกฤทธิ์ทุกครั้งจนควบคุมไม่อยู่ และภาพพวกนั้น!
อดีตที่ไม่อยากจำก็หวนกลับคืนมาทุกครั้งที่ฉันได้ทำลงไป ภาพที่พ่อเลี้ยงชั่วคนนั้น! มันฝืนใจ…ข่…มขืน”
และแล้วผมก็เห็นน้ำตาของคนตรงหน้าอีกครั้ง
ผมเดินเข้าไปใกล้ กอดเขาไว้ “พ..อแล้ว ไม่ต้องเล่าอีกแล้ว ฉันไม่ได้โกรธเรื่องนั้น”
“แ..แต่ชางมินไม่พูด…ไม่…”
“พอเถอะมินโฮ…ฉันขอโทษนะ ที่โกรธนาย”
ผมบอกเค้าออกไป มินโฮถึงจะยิ้มออกมา ส่วนเรื่องนั้น! เป็นตายร้ายดียังไง ก็ไม่มีวันบอกเด็กขาด!!
ชายหนุ่มครุ่นคิดอีกครั้งก่อนจะจูงมือกันกลับบ้าน
ถึงแม้คนส่วนใหญ่จะเห็นว่าผมเดินมาแค่คนเดียว
แต่ในใจผมรู้ดี…ว่าผมได้มีคนที่จะเคียงข้างแล้ว
‘มินโฮฉันขอโทษ….’
‘ฉันว่า…ฉันรักนายเข้าแล้วจริงๆ’
ความรักที่ไม่สมควรจะเกิดขึ้น
กลับไม่มีใครห้ามมันได้
เค้าจะสมหวัง…!?
หรือจะต้องสูญเสียมันไป?
.
.
.
TBC.
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น