คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ===== Action 2 : เอาคืน Vs ตอกกลับ =====
===== Action 2 : เอาคืน Vs ตอกกลับ =====
“ตื่นแล้วหรอ …”
“………”
“ยังเจ็บอยู่หรือเปล่า?”
ชางมินร้องถามเมื่อเห็นคนบนเตียงรู้สึกตัว แต่มินโฮกลับนอนตะแคงหันไปอีกฝั่ง
ไม่เสวนากันเสียอย่างนั้น
“จ..จะทำอะไร!!”
เค้าตะคอกกลับอย่างตื่นตระหนก ทันทีที่ชางมินค่อยๆถอดกางเกงของเค้าลง
“จะทายาให้ อยู่เฉยๆ”
“ม..ไม่ต้อง!!”
“อย่าดื้อได้ไหม จะให้ทาดีๆ หรือจะให้ทาแบบเมื่อคืน!!”
เมื่อพูดดีๆไม่รู้เรื่อง ก็คงต้องงัดไม้แข็งมาคุยเหมือนอย่างทุกที
ของเล่นชิ้นนี้ของเค้ามันเล่นตัวจริงๆ
ชายหนุ่มใช้นิ้วเรียวแตะตัวยาและทาลงไปบริเวณรอบนอกอย่างแผ่วเบา
มินโฮสะดุ้งน้อยๆแต่ก็ไม่ปริปากออกมาสักคำ
จนคนมองได้แต่อ่อนใจเดินออกจากห้องไปพร้อมๆกับคำพูดหนึ่งทิ้งท้ายไว้
“กุญแจมือก็แก้ให้แล้ว อาหารอยู่บนโต๊ะ ทานเสร็จอยากกลับเมื่อไหร่ ฉันไม่ห้าม”
มินโฮหันมองตามมือ ก็จริงอย่างที่ว่า กุญแจมือที่พันธนาการพวกเค้าไว้จนถึงเมื่อคืนหายไปแล้ว
อาหารที่วางอยู่บนโต๊ะยังคงร้อนอยู่
เค้าหยิบขึ้นมาก่อนจะส่งเข้าปากทีละคำ
==ชั้น 8 ห้องนอน==
“ตอนนี้คุณเชวมินโฮกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยแล้วครับ….”
“อื้ม ขอบใจแทมิน”
ลูกน้องคนสนิทร้องบอก ชางมินพยักหน้ารับก่อนจะพลิกตัวลงนอน
แต่ไม่ทันไรใครอีกคนก็เดินเข้าห้องมา
“นายคิดยังไงของนายถึงปล่อยเค้ากลับบ้าน!!!”
“ไม่ได้คิด”
“จะบ้าหรือเปล่า นั้นเชวมินโฮสายลับจากชองกรุ๊ปเชียวนะ โอกาสดีๆอยู่ตรงหน้าแล้วแท้ๆ”
“…มีอะไรอีกไหมคิบอม ฉันจะนอน”
คนฟังถอนหายใจให้กับการตัดสินใจที่ไม่เหมือนทุกที
ชางมินไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน
มันเกิดอะไรขึ้นกันนะ?
(บ้านตระกูลชอง)
“มินโฮ!!! นายหายไปไหนของนาย รู้ไหมพี่เป็นห่วงจนจะเข้าไปหานายถึงโรงแรมอยู่แล้ว”
“ขอโทษฮะเกิดเรื่องนิดหน่อย…”
“ทำงานไม่สำเร็จหรอ?”
มินโฮพยักหน้าเบาๆ ยุนโฮดึงคนตรงหน้าเข้ามากอด พลางปลอบว่าไม่เป็นไร
“ก็แค่ภารกิจแรก อย่าไปคิดมากเลย นายทำสำเร็จไม่ไม่สำคัญ ขอแค่นายปลอดภัยกลับมาก็พอ”
“ผ..ผม ฮึ่กก ผมเกลียดตัวเอง พี่ยุนโฮ พี่ได้ยินไหม ฮือออ”
“เกิดอะไรขึ้นกับนายกันแน่มินโฮ …”
แต่ถามแล้วถามอีกคนเป็นน้องก็ไม่ตอบ มินโฮซุกหน้าลงร้องไห้กับอกแกร่งก่อนที่จะหลับไปเพราะความอ่อนแรง
((ไปสืบมาให้รู้ให้ได้ว่าชางมินมันทำอะไร มินโฮถึงได้กลับมาในสภาพนี้!!))
((ครับ!!!))
“มินโฮรู้สึกดีขึ้นหรือยัง?”
“อืม..ขอบคุณนะฮะ”
“ดูท่าเราจะไข้ขึ้นนะ สงสัยเครียดเกินไป ช่วงนี้ก็นอนพักอยู่ที่บ้านไปก่อนละกัน”
คนบนเตียงพยักหน้ารับช้าๆ จนกระทั่งยุนโฮเดินออกจากห้องไป
เปลือกตากำลังจะปิดสนิทหากไม่ได้ยินเสียงอะไรบางอย่างขึ้นเสียก่อน
((ปั๊กกกก! ปั๊กกกก!!))
เสียงอะไรบางอย่าง่กระทบกับกระจกบานเล็ก มินโฮค่อยๆยันตัวลุกขึ้นไปดูตรงหน้าต่าง
เห็นชายคนหนึ่งยืนยิ้มหน้าบานอยู่ตรงระเบียง คนที่เค้าไม่ต้องการเจอหน้ามากที่สุด
แต่กลับปฏิเสธไม่ได้ว่ารอยยิ้มบางๆค่อยๆเผยอต้อนรับอย่างไม่รู้ตัว
“ช..ชาง พี่ชางมิน?”
คนถูกเรียกค่อยๆแง้มประตูกระจกออกมาช้าๆ ทั้งๆที่มันล็อคไว้แน่นหนา แต่เค้ากลับเปิดออกได้เสมือนมีเวทมนตร์
“อื้ม.. พอดีได้ข่าวมาว่านายไม่สบาย เป็นอะไรมากหรือเปล่า?”
“…….”
“ตัวร้อนจริงๆ ทานยาหรือยัง?”
มินโฮพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะเดินตามอีกฝ่ายเข้ามาในห้องของตน
“ดึกขนาดนี้แล้วทำไมยังไม่นอน ไม่สบายอยู่แท้ๆ -*-”
มินโฮอยากจะตอบออกไปเหลือเกินว่ากำลังจะนอนแต่เพราะใครเล่าเค้าถึงต้องลุกจากเตียง
แต่ชางมินไม่ให้โอกาสเค้าตอบเลยสักนิดยังคงพูดเรื่องของตัวเองฝ่ายเดียว
“นายบอกเรื่องนั้นกับยุนโฮหรือยัง?”
“เรื่องอะไร?”
“เร็วๆนี้พวกเราจะเริ่มเคลื่อนไหว นายอยู่กับมันไม่ปลอดภัย นายไปอยู่ที่อื่นที่ไม่ใช่ที่นี้ไม่ได้หรอไง?”
มินโฮมองหน้าชางมินอย่างไม่เข้าใจ
เป็นศัตรูกันแท้ๆแล้วมาบอกเค้าทำไม
“พี่ต้องการอะไร?”
“ฉันอยากให้นายอยู่ห่างๆจากมัน … อยู่ให้ห่างจากยุนโฮ…”
“ทำไม…?”
ร่างสูงไม่ตอบเพียงแค่มองออกไปทางประตู ใครในบทสนทนากำลังจะมา
ชางมินหลับตานิ่งอยู่ครู่หนึ่ง
“แค่ตอนนี้เท่านั้น กลับไปกับฉันเถอะ …”
“ม..ไม่! ผมไม่อยากกลับ!!”
“นายอยู่ที่นี้มีแต่ตายกับตาย ยุนโฮมันไม่เคยปกป้องใครได้เลยสักคน!!”
ชายหนุ่มว่าด้วยแรงอารมณ์ส่วนตัว ฉุดกระชากให้มินโฮตามมาด้วยกัน
ลูกบิดหน้าห้องหมุนออกช้าๆ
ประตูเปิดออกในที่สุด
และทั้งคู่ก็ได้เผชิญหน้ากันอีกครั้ง
“ชางมิน / พี่ยุนโฮ?”
“นายมาที่นี้ทำไม คนทรยศอย่างแกรีบๆออกไปจากบ้านฉันได้แล้ว!!”
“บ้านพี่มันคงน่าอยู่น่าดู ผมไม่อยากจะเข้ามาเหยียบหรอกนะหากไม่มีธุระ”
ชายหนุ่มเอ่ยออกมาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะสับต้นคอจนมินโฮล้มลงและพากลับไป
ทิ้งให้ยุนโฮมองตามมาอย่างสุดจะกลั้น
ที่ครั้งนี้เค้าก็ปกป้องเอาไว้ไม่ได้ ‘อีกครั้ง’
“พ..พี่ชางมิน!!”
“ฉันรู้อยู่แล้วว่านายต้องตกใจ ไม่ชอบหรอฉันเปิดห้องใหม่ให้นายโดยเฉพาะเลยนะ”
เด็กหนุ่มจ้องเขม็ง ไม่เข้าใจในสิ่งที่คนๆนี้กำลังทำอยู่เลยสักนิด
เดี๋ยวก็ดีเดี๋ยวก็ร้าย เดี๋ยวก็ปล่อยเค้ากลับ (เวลาที่ไม่ต้องการ) เดี๋ยวก็ชิงเค้ามา (เวลาที่อยากจะได้)
“พี่ต้องการอะไรจากผมกันแน่!”
“…….”
“จับตัวผมมาทำไม ภารกิจครั้งแรกก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า ตอนนี้ไม่มีประโยชน์อะไรแล้วภารกิจของผมจบลงแล้ว”
ชางมินส่ายหน้าไปมา พลางกระเถิบเข้ามาใกล้
“นายมีประโยชน์สิ มีประโยชน์มากด้วย ฉันจะทำให้ภารกิจแรกของนายสำเร็จ หากนายยอมตกลงช่วยฉัน”
“ช่วยหรอ?”
“แลกกันไงละ ไม่ดีหรอไง นายอยากรู้ไม่ใช่หรอตัวตนของ ความต้องการ และแผนการของฉัน”
มินโฮนิ่งคิด ชางมินคิดจะทำอะไรกันแน่ จะยอมบอกทุกอย่างจริงๆนะหรอ
ดีไม่ดีอาจจะเป็นแค่คำโกหกคำโตก็ได้
“แล้วอยากให้ผ..ผมช่วยอะไร?”
“ฉันจะบอกก็ต่อเมื่อนายยอมตกลง และถ้าตกลงจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้แล้วนะ^^”
รอยยิ้มเป็นมิตร แต่ความหมายที่แฝงมากลับทำให้คนมองขนลุกไปทั้งตัว
ก่อนที่ชางมินจะเดินจากไปทิ้งให้อีกฝ่ายคิดไม่ตกอยู่ลำพัง
“ฉันจะรอคำตอบนะ …”
หนึ่งวันผ่านไป …
“ก็ได้ผมตกลง …”
“อืมนายตัดสินใจถูกแล้วละ .. อ่ะนี่ข้อมูลทั้งหมดของฉัน”
ชางมินกระซิบบอกพลางส่งแฟรชไดอันเล็กๆไปในมือของอีกฝ่าย
มินโฮรับมาอย่างแคลงใจ
คนอย่างชางมินจะเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหนกัน?
“จะลองเอาไปเปิดดูก่อนเอาไปส่งให้พี่ยุนโฮของนายก็ได้”
“…….”
มินโฮไม่พูดอะไรเพียงแค่ถือมันลงไปห้องตัวเอง
“ชางมิน .. นายเล่นอะไรของนาย บอกความลับของตัวเองให้ศัตรูรู้เนี่ยนะ?”
คิบอมร้องถามขึ้นทันทีที่เห็นมินโฮเดินออกจากห้องไป
ชางมินยิ้มรับ ก่อนจะชูแฟรชไดอีกอันขึ้นตรงหน้า
“รอดูต่อไปก่อนที่จะมาว่าฉันไม่ดีกว่าหรอคิบอม … หึหึ!”
ชายหนุ่มพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินตามมินโฮไปจนถึงห้องกว้างห้องหนึ่งในโรงแรมที่เค้าเปิดมันให้กับอีกฝ่าย
อยู่บนชั้น 8 ห้องข้างๆกับห้องของเค้า
‘จะได้จับตาดูแลอย่างทั่วถึง …’
มินโฮนั่งลงตรงโต๊ะทำงาน เปิดคอมพิวเตอร์ และเสียบแฟรชไดเข้าไป
ไม่นานข้อมูลก็ขึ้นมาตรงหน้าของพวกเค้า
“ครบถ้วนใช่ไหม นายอยากจะรู้อะไรอีกหรือเปล่า?”
“อืม ผมรู้สึกแปลกๆนะ พี่ทำอย่างนี้ไปเพื่ออะไร บอกความลับให้ศัตรูอย่างผมรู้เนี่ยนะ?”
“นายจะถามอะไรให้มากความ ข้อมูลที่อยากรู้ ภารกิจที่อยากได้ ก็อยู่ตรงหน้าแล้วนี่ไง”
ชายหนุ่มถามกลับไปบ้าง เค้าส่งข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับตัวเค้าให้คนตรงหน้าจริงๆนั้นแหละ
แต่ดูท่าจะถูกไม่ไว้ใจเอาเหมือนเคย
“แล้วข้อตกลงที่พี่อยากให้ผมทำละ?”
“………”
“พี่อยากให้ผมทำอะไร?”
“นายต้องเป็นของฉัน .. และทำทุกอย่างที่ฉันสั่ง”
คนฟังกระตุกวูบ หันขวับมองหน้าคนพูดอย่างไม่เชื่อสายตา
พยายามจะปฏิเสธ แต่กลับถูกกลืนด้วยริมฝีปากคู่นั้นที่ไม่สามารถเลี่ยงได้
“ท..ทำไม? พี่ทำอย่างนี้ทำไม?”
“ไม่รู้สิ .. คงจะเพื่อความสนุกละมั้ง”
เค้าจ้องมองคนพูดตาไม่กระพริบ แต่ละคำที่พร่ำบอกออกมา รู้บ้างไหมว่ามันทำให้หัวใจคนฟังมันฟีบลงทุกที
แล้วผมจะเจ็บไปกับคำพูดพวกนั้นทำไมกัน ทั้งๆที่เราเจอกันในฐานะศัตรู และตกลงยอมรับกันด้วยเงื่อนไข
‘เท่านั้นจริงๆ’
“แล้วอย่างแรกที่นายต้องทำ คือลืมชองกรุ๊ปซะ ลืมว่านายเคยทำงานให้ที่นั้น และลืมว่าเคยรู้จักกับชองยุนโฮ”
“ผมทำไม่ได้”
“ไม่หรอกมินโฮ ฝีมืออย่างนายฉันว่ามันต้องแนบเนียนร้อยเปอร์เซ็น^^”
ร่างสูงยิ้มให้เหมือนเป็นการชมเชยว่าการแสดงของเค้าเข้าขั้น Top 10 หรือในทางตรงกันข้ามก็เหมือนกันเหยียดหยามว่า ‘มารยาของนายไม่มีใครแยกออก’
ชางมินลากมินโฮมาจนถึงห้องของตน
ไม่นานจุนซูก็เดินเข้ามา “นี่เสื้อผ้าครับ”
“จุนซูนายไปเตรียมของมินโฮให้ทีสิ อ้อไม่เอาสูธของผู้ชายนะ แต่เอาชุดราตรีของผู้หญิง”
“ครับ”
“พี่จะเล่นอะไร!?”
มินโฮถามกลับอย่างไม่พอใจ จะให้เค้าแต่งหญิงงั้นหรอ?
“ทำไมละ งานนายก็แต่งแบบนี้ประจำไม่ใช่หรอ?”
“แ..แต่ว่า..”
“คืนนี้จะมีปาร์ตี้ที่โรงแรม คนจากองค์กรชองกรุ๊ปก็มากันเพรียบ นายคงไม่อยากให้งานฉันล่มไม่เป็นท่าหรอกนะ”
ชางมิน กล่าวเสียงเรียบขณะสวมเสื้อผ้าของตนด้วยชุดสูทสีดำ พลางผูกเนกไทไปในตัว
“แล้วอีกอย่าง .. นายต้องปรากฏตัวในฐานะคนรักของฉัน”
“ชางมิน!! นายจะบ้าหรอ คยูก็มางานนี้เหมือนกันนะ นายกำลังจะฆ่าเค้าทางอ้อม!!”
เสียงนี้ไม่ใช่ของมินโฮแต่กลับเป็นของใครอีกคนที่วิ่งหน้าตื่นเข้ามาทันทีที่ได้ยินบทสนทนาของคนทั้งคู่
ชางมินหันไปมองพลางยิ้มรับ “อย่าห่วงเลยคิบอม ฉันไม่เคยคิดจะทำร้ายความรู้สึกของคยูเลยสักครั้ง”
“แล้วนาย …”
“ฉันวางแผนเอาไว้แล้ว … จุนซูจะยืนอีกนานไหม ไหนละชุดที่ฉันต้องการ!!”
คนถูกเรียกรีบส่งของที่ว่าให้กับมินโฮแทบจะทันที
พร้อมๆกับลากมินโฮเข้าห้องน้ำเพื่อช่วยอีกฝ่ายแต่งตัว
“นายจะทำยังไง?”
คิบอมถามขึ้นอีกครั้งอย่างเป็นห่วง
ชางมินขมวดคิ้วฉงน
“นายกังวลมากกว่าฉันอีกนะคิบอม นายรักคยูใช่ไหม?”
“……..”
“เอาเถอะ ฉันคิดกับคยูเพียงแค่น้องชายคนหนึ่งเท่านั้น มันถึงเวลาแล้วที่เค้าควรยอมรับความจริงเสียที”
คิบอมมีสีหน้าลำบากใจ แต่คนอย่างชางมิน ถ้าตัดสินใจอะไรแล้วก็ยากจะเปลี่ยนความคิดได้
มีก็แต่นาย คยู … นายจะยอมรับมันได้ไหม
“เชื่อฉันสิ มันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว ที่เค้าจะตัดใจจากฉันเสียที ยื้อไปก็มีแต่เพิ่มความเจ็บปวด นายเองก็รู้ไม่ใช่หรอว่ารักคนที่เค้าไม่แม้แต่จะสนใจ หรือให้ความรู้สึกกลับมา มันเป็นยังไง”
ชางมินพูดทิ้งท้ายไว้ ก่อนจะเดินสวนไป จังหวะเดียวกันมินโฮก็ออกมาจากห้องน้ำพอดิบพอดี
ชุดราตรีสีขาวยาวดั่งท้องฟ้า กับขนมิงส์ที่พันคองามระหงส์ตัดเรือนผมสีน้ำตาลยาว
ทำให้ใจคนมองเป็นจังหวะแปลกๆ ชางมินลูบไล้ผมนุ่มไปมาอย่างลืมตัว
จนมินโฮต้องกระแอ่มร้องเตือนเป็นจังหวะ เพื่อไม่ให้ใบหน้าของตนต้องแดงซ่านไปกว่าที่ควรจะเป็น
“ฉันว่านายเหมาะกับผมยาวสลวยสีน้ำตาลนี้ที่สุดแล้วละมินโฮ”
“……..”
“และนี่รับไปสิ ดวงตาสีฟ้าของนาย ..”
ชายหนุ่มส่งมันให้ คอนแทคเลนส์ที่เค้าถอดมันทิ้งไปวันนั้นนี่เอง
เวลา 19.00 น. ผู้คนเริ่มถยอยกันเข้ามาภายในงานที่จัดเลี้ยง
ชางมินยืนเคียงคู่หญิงสาวคนหนึ่งเข้างานและตกเป็นเป้าสายตาในทันทีเนื่องจากเป็นเจ้าภาพและเจ้าของโรงแรม
เค้าทั้งคู่เดินไปที่ฟลอเต้นรำ ก่อนจะเริ่มไปตามท่วงทำนองอย่างอัศจรรย์
“เต้นเก่งนี่”
“ขอบคุณ…”
และปิดท้ายด้วยการโค้งขอบคุณพอเป็นพิธี
จากนั้นก็ขึ้นไปบนเวทีและกล่าวทักทาย
“สวัสดีครับแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ผมยินดีเป็นอย่างยิ่งที่พวกท่านเสียสละเวลาอันมีค่า …. ขอเชิญทุกท่านสนุกกับงานเลี้ยงได้เลยครับ”
ชางมินเดินลงจากเวทีพร้อมๆกับมินโฮที่ยืนขนาบข้างไปไหนมาไหนด้วยตลอดเวลา
นักข่าวที่เห็นตั้งแต่ทั้งคู่เดินเข้างานมาก็จัดการขอถ่ายรูปกลับไป
รวมถึงบทสัมภาษณ์ต่างๆ “วันนี้นอกจากจะเปิดตัวสินค้าใหม่ในโรงแรมแล้ว คุณชางมินยังเปิดตัวแฟนสาวอีกด้วยหรอค่ะเนี่ย ไม่ทราบว่าผู้โชคดีคนนี้คือใครหรอค่ะ?”
“ครับ^^”
ชายหนุ่มตอบรับแค่นั้นก่อนจะโปรยยิ้มไปให้และดึงมินโฮให้เดินตามกันมา
“หิวหรือยัง?”
“….”
“มาเป็นคู่ควงของฉันทั้งที อย่าทำหน้าบึ้งสิ เดี๋ยวแขกก็กลัวหนีกลับบ้านหมดกันพอดี”
มินโฮได้ยินดังนั้นก็จัดการฉีกยิ้มเสียกว้างก่อนจะหยิบผลไม้ตรงหน้ายัดปากตัวเองเป็นการแก้เซ็ง
ปกติเค้าก็เกลียดงานแบบนี้อยู่แล้ว ยิ่งแล้วใหญ่เมื่อต้องกลายเป็นคนดังตกเป็นเป้าสายตาขนาดนั้นอีกต่างหาก
แถบจะกระดิกตัวไปไหน หรือเป็นอิสระไม่ได้เลยจริงๆ
“เบื่อหรอไง?”
“มากๆ!”
“55 + ทนๆเอาหน่อยฉันก็เบื่อเหมือนกัน^^”
ชายหนุ่มว่าทีเล่นทีจริง ในมือก็หยิบของกินใส่ไม่แพ้อีกคน
ทั้งคู่คุยกันไปได้แค่ครู่เดียวใครอีกคนก็เดินมาจากด้านหลัง
“มินโฮ …?”
“พ..พี่ยุนโฮ?”
========================================>>>>
ความคิดเห็น