คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ===== Chapter 2 : ความเป็นพ่อคน =====
ตอนที่ 2 : ความเป็นพ่อคน
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นเนี่ย! ทำไมหลานถึงร้องไห้หนักขนาดนั้น!!”
คนเป็นพ่อว่าเข้าให้ทันทีที่เห็นเราสองคนเดินลงมา
มินมินหลบสายตา ส่วนตัวเค้าก็ได้แต่เดินเข้าไปอุ้มเด็กที่อยู่บนโซฟา
ก่อนจะบอกพ่อกับแม่ของตนแล้วเดินขึ้นห้องไป
“คืนนี้ให้จุนซูนอนกับผมนะฮะ”
.
.
‘พ..พ่อ! พ่อไม่รักเค้าแล้ว’
‘ม..ไม่! แม่อย่าทิ้งผมไป’
“จุนจัง…ไม่เป็นไรนะ”
และเสียงที่คล้ายคลึงของเค้าก็ทำให้เด็กคนนั้นสงบลงและหลับไปในที่สุด
‘ชางมินฉันขออะไรนายได้ไหม? แลกตัวกับฉันเถอะ!’
‘…………..’
‘ฉันอยากกลับไปเรียนต่อ อยากไปทำงานที่ฉันฝัน! แต่เด็กนี้!!’
‘อย่าพูดคำนั้น! เค้าไม่ใช่กาฝาก!!’
และนั้นก็คือเรื่องราวของจุดเริ่มต้นทั้งหมด
“ชางมิน จะเข้าโซลพร้อมมินมินหรอเนี่ย? ไม่น่าเชื่อว่าไอ้เด็กคนนี้จะยอมออกจากห้อง”
ผู้เป็นพ่อว่าอย่างไม่เชื่อสายตาพลางมองไปที่เด็กสามคน
“ผมไปก่อนนะฮะ พ่อ …แม่”
มินมินว่าก่อนจะกอดทั้งพ่อและแม่
ไม่เหมือนชางมินที่ยืนนิ่งๆและโบกมือน้อยๆบอกลาเป็นธรรมเนียม -*-
โซล…
“ดีจังฮะที่ลุงชางมินมาด้วย ผมอยากกินมะพร้าวพาผมไปกินอีกนะ^^”
เด็กน้อยวัย 6-7 ปีกำลังพูดคุยสนุกปากกับคนข้างกายที่หันมายิ้มให้เป็นพักๆ
“นายก็พักอยู่กับฉันนี่ละ…”
“อื้ม”
ชางมินตอบรับสั้นๆก่อนจะเดินเข้าห้องของมินมินที่ตอนนี้มีบางอย่างเปลี่ยนไปเล็กน้อย
หลังจากที่เคยมาส่งจุนจังเมื่อ สองเดือนก่อน
.
.
‘พ่อ! ผมไม่อยากเชื่อเลยว่าพ่อจะมารับนะ!!’
เด็กชายว่าอย่างดีใจยิ้มแก้มปริทันทีที่เห็นเค้าก่อนจะกระโจนเข้าสู่อ้อมกอด
‘เสียใจด้วยเจ้าเด็กอ้วน ฉันชางมินลุงเอ็งต่างหาก ^^’
เสียงเย้าแหย่สมัยวันวานกำลังทำให้เค้ายิ้ม
เพราะว่างๆเค้ามักจะมาหามินมินบ่อยๆ
จนกระทั่งวันนั้น
‘นายเลิกทำตัวติดกับฉันสักทีสิชางมิน! ฉันรู้ถึงเราจะเป็นฝาแฝดกัน แต่ยังไงเราก็เป็นพี่น้องกันอยู่ดี
สิ่งที่นายคิดมันไม่มีทางเป็นจริงไปได้หรอก!!’
คำพูดนั้นผมยังคงจำมันได้ดี
ยิ่งกว่าตอนอ่านหนังสือสอบเข้ามหาลัยเสียอีก
‘นายก็รู้ว่าฉันแต่งงานแล้ว!! ความสัมพันธ์ลับๆแบบนั้นฉันไม่ต้องการมันอีกแล้ว!!’
นั้นละมั้งถึงเป็นเหตุผลให้ผมก้าวออกมา
แต่ในวันนี้มันต่างออกไปตรงที่เค้าไม่มีใคร
และเค้า…ขอร้องผม
‘ช่วยฉันหน่อยนะชางมิน’
ผมไม่ใช่คนโง่
แต่ก็ยอมตกเป็นทาสของคำว่ารักได้
เพียงแค่เค้ากระซิบบอกผมออกมาเท่านั้น
“ชางมิน!! ฟังฉันอยู่หรือป่าว!! พรุ่งนี้ฉันจะไปยื่นใบสมัครเรียนร้องเพลงนะ แต่จุนจังมีเรียนพอดีช่วยไปส่งแทนทีนะ”
ร่างสูงพยักหน้าให้อย่างง่ายดายก่อนจะคว้าตัวจุนจังหรือจุนซูขึ้นมาไว้บนตัก
“ทำไมลุงไม่บอกพ่อไปละ?”
เด็กชายตัวอ้วนกระซิบถาม
“หืม? บอกอะไร?”
“อย่าทำเป็นไก๋น๊าลุง! ว่าสองเดือนที่แล้วลุงคอยแวะเวียนมาดูพ่อผมนะ!!”
“ไอ้เด็กจอมอวดดีเอ้ย!!”
ว่าแล้วก็โป๊กหัวเด็กเข้าให้หนึ่งที
“ผมเจ็บนะ!! -*-”
“5555”
ชางมินหัวเราะขำขันก่อนจะนึกขึ้นมาได้
“เออนี่มินมิน ออกไปข้างนอกด้วยกันสิ ฉันจะพาจุนซูไปหาอะไรกิน”
“ไปสิ ^^”
มินมินหันมายิ้มให้เท่านี้ผมก็จะละลายอยู่แล้ว
ก่อนจะทำเป็นไม่สนใจแล้วเดินออกไปพร้อมๆกัน
‘ระหว่างเรา…’
‘ทำไมถึงเป็นไปไม่ได้นะ?’
‘ทั้งๆที่ตอนนี้นายก็ไม่มีใคร .. ส่วนตัวฉันก็มีแค่นาย?’
ชายหนุ่มเฝ้ามองแผ่นหลังของอีกฝ่ายเดินนำหน้าไปเรื่อยๆก็ได้แต่อมยิ้ม
หากเป็นเมื่อก่อน เราสองคนคงเดินจูงมือกันไปตลอดทาง
“จุนจังอยากกินอะไรลูก?”
มินมินหันมาถามลูกชายที่ตัวติดกับฝาแฝดของเค้ายิ่งกว่าพ่อของตัวเอง
“ผมบอกแล้วไงฮะ ผมชื่อจุนซู -*-”
เด็กตัวเล็กชักสีหน้าจนคนเป็นพ่อขำ
“เออ ! จุนจังฉันจะพาไปกินมะพร้าว ส่วนจุนซู ตัวใครตัวมันออกเองเว้ย~”
“ไอ้พ่อบ้า!!”
เท่านั้นละแฝดทั้งคู่ฮากันสนั่นก่อนจะหันมามองหน้ากันและยิ้มเขินๆก่อนจะเดินกันต่อไป
“ชางมิน…”
“หืม?”
“นายรำคาญฉันไหม?”
ทั้งคู่ถามถึงกันผ่านมือคู่นั้นที่ส่งผ่านทางเด็กตัวเล็กๆที่คั่นกลาง
เป็นครั้งแรกที่เค้ารู้สึกเหมือนได้ทำหน้าที่ของคนเป็นพ่อ
และเป็นครั้งแรกที่รู้สึกถึงไออุ่นจางๆ
“ไม่นี่…”
“อย่าโกหกฉันสิ!”
ร่างสูงไม่ตอบแต่ก็ยังคงยิ้มอยู่อย่างนั้น
“ลุงก็บอกเค้าไปสิ! ถ้ารำคาญแล้วจะคอยตามทำไมเมื่อสองเดือนก่อนนะ -*-”
เสียงเล็กๆแหลมๆว่าขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
จนคนถูกนินทาได้แต่หันหน้าหนี
ส่วนคนฟังหันไปมองก็ถึงได้เข้าใจ
“ไอ้สตอร์กเกอร์ ที่ตามฉันทุกฝีเก้าเมื่อสองเดือนที่แล้วคือนายเองหรอ!!?”
กลับเป็นงั้นไป -*-
ชางมินคิดในใจก็ได้แต่ถอนใจ
แต่บนใบหน้ายังคงแต่งแต้มด้วยรอยยิ้ม
‘ไม่รู้สิ …ก็แค่ไม่เคยมีความสุขแบบนี้มาก่อน’
“ขอบใจนะ…”
.
.
ร้านอาหาร
“จุนซู!! ทำไมไม่กินกุ้ง!!”
“ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่กิน!!”
ว่าแล้วก็จำต้องงับเข้าไปทั้งหัว เพราะถูกสายตากดดันจากคนเป็นพ่อ
และผลที่ได้…
“แค่กๆ!! อ๊ะ …”
“ดูแปลกๆนะ?”
ชางมินว่าอย่างสงสัยก่อนจะเข้าไปดูใกล้ๆ
“นี่จุนซูแพ้อาหารทะเลนี่!?”
ร่างสูงว่าหน้าเครียดก่อนจะแบกร่างเล็กๆ ไว้แล้วออกจากร้านอาหารทันที
โรงพยาบาล
“มินมิน! รู้ทั้งรู้ว่าลูกแพ้อาหารทะเลยังจะบังคับเค้ากินอีก! ฉันบอกแล้วไง….”
“ฉ..ฉันไม่รู้”
ไม่รู้
ไม่เคยรู้อะไรเลย?
วันนั้นที่มินมินหายไป เค้าก็ยังไม่รู้จนกระทั่งเด็กมันกลับมาเอง
ตัวเองมัวแต่หลงมัวเมากับแสงสีและผู้หญิงจนหัวปรักหัวปรำ
แต่สุดท้ายเค้าก็ทิ้งไป
‘น่าสมเพชจริงๆ’
“อย่าร้องไห้สิ…”
และก็เป็นชางมินอีกตามเคยที่ต้องมานั่งเช็ดน้ำตาให้
“ไม่เป็นไรแล้วนี่ไง หมอก็บอกแล้วว่าไม่เป็นไร?”
ชายหนุ่มคอยปลอบระหว่างที่อีกฝ่ายก็เอาแต่ร้องไห้
.
.
คนอย่างผม
จะแก้ตัวตอนนี้ทันไหม?
.
.
.
TBC
ความคิดเห็น