คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ===== Action 3 : ตาลปัตร =====
===== Action 3 : ตาลปัตร =====
“มินโฮ …. ทำไมนายถึงมาอยู่ที่นี้ ตรงนี้ และในสภาพแบบนี้?”
“พ..พี่ยุนโฮ ค..คือผม …”
ยังไม่ทันจะได้ตอบอะไรไปมากกว่าเดิมชางมินก็ช้อนเอวบางเข้าหาตัว ก่อนจะฉีกยิ้มให้แขกตรงหน้า
พลางกระซิบกระซาบข้างหูมินโฮไปในตัว
‘นายลืมกฏแล้วหรอ ฉันบอกว่าให้ทำเป็นไม่รู้จักไง อย่าพูดอะไรอีกเข้าใจไหม’
“ชางมิน! นายเล่นอะไรของนาย นายต้องการอะไร นายบังคับมินโฮใช่ไหม!!?”
“อ๊ะๆ อย่าใส่ร้ายผมสิฮะ แล้วอีกอย่างนี่ไม่ใช่มินโฮ(ที่พี่รู้จักอีกแล้ว) พี่คงจำคนผิดละมั้ง … หึหึ”
ชายหนุ่มเงียบเสียงในตอนท้าย ขยับปากยั่วให้อีกฝ่ายโมโห ก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างผู้ชนะ
ยุนโฮกำหมัดแน่น คว้าข้อมือของมินโฮพยายามจะลากและพาตัวกลับ
ติดอยู่ตรงที่ … “เออ .. ดิฉันว่า คุณคงจำคนผิดแล้วละค่ะ”
หญิงสาวในร่างของมินโฮร้องบอกพลางสะบัดมือของร่างสูงอีกคนทิ้งอย่างไม่ใยดี
จังหวะเดียวกันก็ส่งอะไรบางอย่างเข้าไปในกระเป๋าเสื้อของยุนโฮโดยที่เจ้าตัวไม่รู้สึกตัว
‘ผมขอโทษฮะพี่ยุนโฮ … หวังว่าสิ่งที่ผมทำจะถูกต้อง และขอให้สิ่งนั้นส่งไปถึงมืออย่างปลอดภัยพี่นะฮะ’
เค้าพึมพำมันในใจก่อนจะเดินมาตามแรงฉุดของชางมินจนมาถึงสวนด้านหลังของโรงแรม
“พ..พี่ชางมิน ..ผ..ผม ผมรู้สึกไม่สบายขอตัวขึ้นไปพักก่อนนะฮะ”
.
.
.
ชายหนุ่มมองตามร่างบางตรงหน้าเดินจากไป
ในมือกำมันไว้แน่น ‘แฟรชได’ ตัวสำคัญ
“ขอโทษนะมินโฮ”
“ที่ฉันผิดคำพูดกับนาย …”
เพียงแค่ชั่วพริบตาที่มินโฮโยนมันลงไปในกระเป๋าเสื้อของยุนโฮ เค้ากลับหยิบมันขึ้นมาและส่งอีกอันลงไปแทน
อีกอันที่รูปร่างคล้ายกันต่างกันก็แค่ … ข้อมูลที่มีอยู่
.
.
.
ชองกรุ๊ป
“ยุนโฮ … ในกระเป๋าเสื้อแกมีอะไรด้วยว่ะ?”
“ไหนเอามาดูสิยูชอน .. ดูเหมือนจะเป็นมินโฮนะ เค้ามักจะชอบทำอะไรแบบนี้เสมอ”
ยุนโฮว่าพลางมองมันอย่างครุ่นคิด
ก่อนจะตัดสินใจลองเปิดมัน
แต่กลับไม่เป็นไปอย่างที่คิด
มีแค่ไฟล์ข้อมูลไฟล์เดียวเท่านั้น
กับตัวอักษรไม่กี่ตัวที่เรียกอารมณ์คนมองให้ต้องกำหมัดแน่นด้วยความโกรธจัด
‘พวกนายนี่โง่จริงๆ’
และที่แนบมาด้วยอีกแฟ้มหนึ่งล้วนแล้วแต่เป็น ‘ข้อมูลลับ’ ของชองกรุ๊ปทั้งนั้น
“หลงกลมันจนได้มินโฮ …”
“นายกำลังตกอยู่ในอันตราย! ยูชอนไปเตรียมรถฉันจะไปรับมินโฮ”
((ก๊อกกกๆ))
“มินโฮ ฉันเข้าไปนะ”
“……….”
“หิวรึยัง อยู่ในปาร์ตี้นายก็ไม่ได้ทานอะไร”
ชางมินให้จุนซูยกถาดอาหารไปตั้งบนโต๊ะ เดินมาถามคนบนเตียงที่ดูท่าจะหลับสนิทไปแล้ว
พร้อมๆกับน้ำตามากมายที่เปื้อนเป็นคาบอาบบนแก้มเนียน
เค้าลูบมันออกให้อย่างเบามือ
นั่งลงข้างๆ เฝ้ามองอีกฝ่ายยามหลับด้วยความรู้สึกที่ตัวเค้าเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน
“ชางมิน … เป็นไปตามแผน ยุนโฮบุกเข้ามาด้วยตัวคนเดียวจริงๆ”
อยู่ๆคิบอมก็วิ่งหน้าตื่นเข้ามาบอก ให้เค้าลุกขึ้นยืนเต็มตัวและเดินออกไป
หารู้ไม่ว่าบทสนทนาทั้งหลายได้เข้าหูคนที่คิดว่าหลับสนิทไปแล้ว
‘พ..พี่หลอกใช้ผมจริงๆ’
เด็กหนุ่มพึมพำ ในใจเจ็บร้าวแปลกๆ ก็รู้อยู่ว่าไม่น่าไว้ใจ แต่ดันเชื่อใจและยอมทำตาม
นายมันโง่จริงๆ เชวมินโฮ
((หน้าโรงแรม Shim Fairy hotel))
“สวัสดีครับคุณชองยุนโฮ …”
“ชางมิน”
ทั้งสองประจันหน้ากันอีกครั้งก่อนที่ยุนโฮจะถูกเชิญขึ้นมาบนชั้นที่ 8
ห้องทำงานของชางมินถูกนำมาใช้งานอีกครั้ง
“นายต้องการอะไร ปล่อยมินโฮไปซะ!”
บทสนทนาเริ่มต้นขึ้นทันทีที่อยู่ด้วยกันเป็นการส่วนตัว มีพวกเค้าสองคนและคนของชางมินอีกสองคน ?
“พี่มันลำเอียงจังนะ เมื่อสามปีก่อนชองกรุ๊ปก็ส่งคนมือดีเข้ามา เค้าโดนจับเหมือนกันอย่างวันนี้ แต่พี่กลับไม่เหลียวแลให้เค้าต้องเผชิญหน้ากับมันด้วยตัวเอง”
“…………..”
“คงเพราะหมอนั้นไม่ได้สำคัญอะไร … ผมพูดถูกไหม”
ชายหนุ่มยิ้มเยาะ ลุกขึ้นเดินมาหยุดอยู่ที่ชายอีกคนที่อยู่ในห้องนี้นานแล้ว
‘จุนซู’
ยุนโฮหลบสายตา ไม่พูดไม่จาบ่งบอกว่าสิ่งที่กล่าวมานั้นเป็นความจริงทุกประการ
ชางมินหัวเราะชอบใจก่อนจะวกกลับมาคุยเรื่องเดิม
“แสดงว่ามินโฮสำคัญกับพี่มาก แล้วอย่างนี้ผมจะปล่อยไปได้ยังไง จริงไหม?”
“มินโฮไม่เกี่ยว …”
“เรื่องมันไม่ได้อยู่ที่เกี่ยวไม่เกี่ยวแล้วละ มินโฮเป็นของผมแล้ว และวันนี้พี่ยังบุกเดี่ยวเข้ามาอีกต่างหากยังจะกล้าต่อรองกับผมอีกหรอ ดูสภาพตัวเองซะบ้าง!!”
ร่างสูงของคนเป็นน้องว่าอย่างเหลืออด ปืนกระบอกหนึ่งถูกหยิบออกมาจากในลิ้นชัก ยกขึ้นระดับหนึ่งจ่ออยู่ที่ศรีษะของคนตรงหน้า เท่านี้ชองยุนโฮก็ตกอยู่ในกำมือเค้าแล้ว ‘เป็นไปตามแผน…’
“แล้วอีกอย่างนะฮะ ….”
ชางมินกระซิบอะไรบางอย่าง ยุนโฮหน้าซีดเผือด กัดริมฝีปากตัวเองจนเจ็บ จ้องมองหน้าคู่อริตัวดีอย่างไม่เกรงกลัว
‘ตอนนี้คนของผมเข้าไปในบ้านตระกูลชองแล้วเรียบร้อย เพียงแค่กริ๊กเดียว …’
‘พี่ก็จะได้ตายจากไปพร้อมๆกับครอบครัวที่แสนดี’
เมื่อเห็นว่าเรื่องราวดูท่าทางจะร้ายแรงและไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าทำจริงๆ ยุนโฮลุกขึ้นยืนก่อนจะพลิกให้ชางมินมาอยู่ด้านล่างและตัวเค้าเองที่แย่งปืนในมือมาจ่อไว้แทน
คิบอมรู้หน้าที่ลูกกระสุนนัดหนึ่งถูกส่งตรงไปจนโดนหัวเข่าของร่างสูง ยุนโฮล้มลงทันที
หลังจากนั้นชางมินจึงยกมือขึ้นในระดับหนึ่งบ่งบอกว่าให้คิบอมหยุด และเป็นตัวเองที่เดินไปเก็บปืน
“อย่าเล่นตุกติกจะดีกว่านะ …”
“………”
“ตอนนี้ผมได้รับคำสั่งให้กำจัดคนตระกูลชองให้หมดทุกคน … ยอมตายจากไปดีๆจะได้ไม่เจ็บปวดมากยังไงละ”
เสียงของเค้าเยือกเย็นดั่งคนที่ไม่รู้จักกับความสุข และเห็นว่าการฆ่าคนเป็นเรื่องง่ายเสียยิ่งกว่าการเริ่มออกเดินเมื่อยังเด็ก
ยุนโฮหมดหนทางจ้องมองชางมินไม่วางตาก่อนจะออกปากขอร้องทั้งๆที่ตัวเค้าไม่เคยทำแบบนี้กับใคร
“ขอละชางมิน ปล่อยพ่อกับแม่และมินโฮ นายจะทำอะไรก็มาลงที่ฉัน….”
“ช้าไปแล้วละฮะ … ((ปัง!! ปัง!!!))”
จังหวะเดียวกัน เสียงปลายสายที่จุนซูถือรออยู่ก่อนแล้วก็ดังขึ้นเป็นจังหวะทันทีที่ชางมินฉวยมันมาเปิดลำโพงเสียดังลั่น
“ไม่!!!!!! แก!!! แกฆ่าพ่อแม่ฉัน ….!!”
เมื่อได้ยินดังนั้นยุนโฮก็สติหลุดลุกขึ้นใช้แรงทั้งหมดกระชากร่างสูงของชางมินออกมาและจัดการบีบลงไปที่ลำคอสุดแรง
((ปังงงงง!!))
โดยลืมไปว่าชางมินได้ถืออะไรบางอย่างไว้กับตัว
ร่างทั้งร่างก็ล่วงลงสู่พื้นพร้อมๆกับเลือดจำนวนมากที่ไหลทะลักออกมาและสติอันเลือนรางก็ดับวูบไป
“พี่ยุนโฮ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
เสียงของใครคนหนึ่งดังแทรกระบบประสาทเข้ามา ชางมินหันไปมองอย่างไม่เชื่อสายตา
เป็นมินโฮนั้นเองที่วิ่งเข้ามาหน้าตาตื่นพร้อมๆกับรีบเข้าไปประคองร่างที่ไร้เรี่ยวแรงของใครอีกคน
“ช..ช่วยผมด้วย ช่วยพี่ผมด้วย ช..ชางมิน”
“……………”
“ผม..ขอร้อง แล้วผมจะตอบแทนพี่ทุกอย่าง”
“………….”
“ผมจะทำตามที่พี่สั่ง ผมจะเป็นของพี่ ผม..ผม … ช่วยพี่ยุนโฮด้วย ชางมิน”
สายตาอ้อนวอนคำขอร้องและน้ำตา กำลังทำให้ชายหนุ่มใจอ่อนและบกพร่องต่อหน้าที่
เค้าเดินเข้าไปใกล้ร่างทั้งสอง มือข้างหนึ่งยังคงถือปืนกระบอกนั้นไม่ห่าง
เพียงแค่ยิงลงไปอีกทีก็เป็นอันแน่ใจร้อยเปอร์เซ็นว่าชองยุนโฮจะหมดลมหายใจ
แต่ไม่รู้ทำไม “คิบอมไปเรียกรถพยาบาล…”
ส่วนตัวเค้าก็นั่งลงข้างๆ ฉีกเสื้อเชิ้ตสีขาวของยุนโฮออก ก่อนจะหาอะไรมาห้ามเลือดไว้ ไม่นานรถพยาบาลก็มาถึงยุนโฮถูกหามส่งโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันที ด้วยการช่วยเหลือจาก ‘ชิมชางมิน’
((ห้องพิเศษ๋))
ยุนโฮปลอดภัย …
แต่ตัวเค้ากลับบกพร่อง งานที่ได้รับล้มเหลวไม่เป็นท่า
‘ชิมชางมิน แกเป็นอะไร? แกไม่เคยเป็นอย่างนี้เลยสักครั้ง’
ชายหนุ่มพึมพำกับตัวเองก่อนที่ใครคนหนึ่งจะเดินเข้ามาใกล้
“ผมว่า…คุณทำถูกแล้ว”
“ก็นายมันพวกเดียวกันนี่…จุนซู”
ร่างสูงว่าอย่างอ่อนแรง หลับตานิ่งคิดทบทวนกับสิ่งที่เป็น
จนกระทั่งคนในห้องวิ่งหน้าตื่นออกมา
“คุณหมอครับ พ..พี่ผม พี่ผมฟื้นแล้ว!!”
เป็นมินโฮนั้นเอง … เด็กหนุ่มที่นั่งเฝ้าข้างเตียงไม่ห่างตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่ชองยุนโฮยังไม่ฟื้น
กับข้อตกลงของเรา …
‘พ..พี่ชางมิน ขอบคุณ’
‘นายก็ได้ในสิ่งที่นายต้องการแล้ว ยุนโฮปลอดภัย จะกลับกันได้หรือยัง?’
‘เออ ..คือ …’
‘หรือว่านายจะผิดคำพูด?’
‘ป..เปล่า! ผมเปล่า ผมแค่จะบอกว่าขอเวลาผมอีกนิด จนกว่าพี่ยุนโฮจะฟื้น ถ้าเค้าปลอดภัยและฟื้นขึ้นมาปกติเหมือนเดิมทุกอย่าง เมื่อถึงวันนั้น ….’
‘………’
‘ผมจะกลับไปกับคุณและทำตามที่คุณต้องการทุกอย่าง….’
ชางมินครุ่นคิดขณะที่ก้าวเข้าไปในห้องผู้ป่วย เห็นยุนโฮจ้องมองมาทางเค้าก็รับรู้ได้ถึงความไม่ประสงค์ดีเท่าไหร่
“เข้ามาทำไม!!”
“พ..พี่ยุนโฮ อย่าพูดอย่างนั้นสิ ช..ชางมิน พี่ชางมินเค้าช่วยพี่เอาไว้”
มินโฮวิ่งกลับมาพร้อมกับคนเป็นหมอตะโกนบอกพี่ชายที่นอนอยู่บนเตียง
ยุนโฮขมวดคิ้วด้วยความฉงน คนอย่างชางมินเนี่ยนะจะช่วยเค้า?
“คนไข้ปลอดภัยดีทุกอย่างครับบาดแผลสมานตัวเร็วกว่าปกติ พรุ่งก็คาดว่าน่าจะกลับบ้านได้แล้ว”
“ขอบคุณนะครับคุณหมอ …”
มินโฮบอกพลางหันไปมองพี่ชายที่ยังคงจ้องหน้าชางมินไม่วางตา
ชายหนุ่มเองก็เช่นกัน …
“ฉันไม่ขอบคุณหรอกนะ คนอย่างนายเชื่อถือไม่ได้”
“ไม่จำเป็น”
ชางมินปิดท้ายก่อนจะลากมินโฮให้เดินตามกันออกจากห้องมา
“ทีนี้นายคงกลับไปกับฉันได้แล้วสินะ … มินโฮ”
“เดี๋ยว!! นายจะพามินโฮไปไหน!!”
ยุนโฮเมื่อเห็นว่าน้องชายที่รักของตนกำลังจะถูกพาตัวไปอีกก็ออกปากห้าม พยายามลุกขึ้นจากเตียงแต่ก็ได้แค่นั้น
เพราะร่างกายที่อ่อนแรง …
“พ..พี่ชางมิน ขอเวลาผมอีกครู่เดียว นะ?”
มินโฮร้องขออย่างหวาดหวั่น แววตาของชางมินมักน่ากลัวเสมอ
แต่เป็นอีกครั้งและอีกครั้งที่ชายหนุ่มต้องใจอ่อน … และให้อีกฝ่ายได้ทำในสิ่งที่ต้องการ
“15 นาที ฉันจะรออยู่หน้าห้อง”
มินโฮพยักหน้าช้าๆก่อนจะเดินไปหายุนโฮที่เตียงนอนของโรงพยาบาล
เฝ้ามองชางมินที่เดินออกจากห้องไป ก็ได้แต่ถอนหายใจ
เค้าหันมาทางยุนโฮด้วยสีหน้าที่พยายามจะบอกว่ามีความสุข
ฉีกยิ้มไปให้นิดๆให้รู้ว่าไม่ได้ฝืนมันแต่อย่างใด
“ผ..ผมต้องไปแล้ว”
“นายจะไปไหน?”
“………”
“ชางมินมันขู่อะไรนายใช่ไหม!! บอกพี่มาสิ อย่าไปยอมมันอย่างนี้!!”
เด็กหนุ่มนิ่งไป พยายามกลั้นความรู้สึกของตนอย่างถึงที่สุดเพื่อไม่ให้น้ำตามันไหลออกมา
“ผมทำด้วยความสมัครใจ…”
“ม..ไม่จริง!!”
“ผมรักชางมิน …”
มินโฮตอบออกไปเสียงหนักแน่น แม้จริงๆแล้วเค้าจะยังไม่รู้ความรู้สึกของตัวเองตอนนี้ก็ตาม
มันเจ็บปวดทุกครั้งที่ต้องอยู่ใกล้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าลึกๆเค้ามีความสุข
เค้าไม่รู้จักกับคำว่า ‘รัก’ รู้แต่ว่าตอนนี้ถ้าเค้าตัดยุนโฮออกไปและเดินไปหาชางมิน
‘พี่ยุนโฮของเค้าก็จะปลอดภัย….’
“ม..ไม่จริงใช่ไหม นายโกหก!”
“ผ..ผมพูดจริง ผมขอโทษ”
“………”
“ลาก่อนฮะพี่ยุนโฮ ….”
=======================>>>
ความคิดเห็น