คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ===== Action 1 : ศัตรู Vs หัวใจ =====
Title : [FIC] Mission Killing Lovesible
Writer : SCV
Paiting : Changminho
Note : เพราะสำคัญที่สุด … ยังไงละ?
===================================
‘ไม่ยุติธรรมเอาซะเลย ทำไมผมถึงได้เจ็บอยู่ฝ่ายเดียว’
‘เพราะว่านายสำคัญยังไงละ … ’
ยิ่งรักมากเท่าไหร่ก็ยิ่งเป็นตัวบ่งชี้ถึงความเจ็บปวด เพราะมนุษย์มักจะมอบความทุกข์ให้กับคนที่รักเสมอ
‘ตัดใจเสียเถอะ …’
‘ไม่มีวัน!’
แล้วสุดท้ายก็เป็นตัวเราที่ต้องเจ็บ … เพราะบาดแผลที่ได้มอบให้กับคนสำคัญมักสะท้อนกลับมาทำร้ายตัวเราเอง
‘หรือว่า…เราควรจะจบเรื่องของเราซะทีมินโฮ’
‘ผมว่าพี่ควรจะจบมันเสียตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกัน … พี่ชางมิน’
ปลายกระบอกปืนที่เล็งไปยังฝ่ายตรงข้ามกลับสั่นระริก เพียงแค่ลั่นไกลปืนออกไปก่อนอีกฝ่ายเท่านั้น
สายตาที่ผสานกันชั่ววินาทีทำให้เกิดความลังเล และก็เป็นตัวเค้าเองที่ตกเป็นทาสของความรัก
‘หรืออาจเพราะคนตรงหน้าสำคัญเกินไป…’
=====================================
===== Action 1 : ศัตรู Vs หัวใจ =====บนโลกนี้มีเรื่องราวอีกมากมายที่ยังคงถูกเก็บเป็นความลับ รวมถึงตัวผมที่รู้จักกันในนาม ‘สายลับไร้เงา’ พวกเราทำงานภายในองค์กรๆหนึ่งภายใต้คำสั่งของ ‘ชองยุนโฮ’ และภารกิจแรกที่ผมได้รับคืองานง่ายๆ ล้วงข้อมูลของชายคนหนึ่งที่เป็นแบล็กลิสต์ขององค์กรผู้ชายที่มีนามว่า … ชิมชางมิน
“งานแรกระวังตัวหน่อยละมินโฮ อย่าประมาท”
“โถ่ๆพี่ยุนโฮวางใจเชวมินโฮน้องชายสุดที่รักคนนี้ได้เลย”
“อย่าทำเป็นเล่นไปเรา ชางมินมันไม่ธรรมดาอย่างที่คิดหรอกนะ”
พี่ชายผู้แสนดีกล่าวตักเตือนก่อนจะขอตัวออกไปเมื่อมีงานใหญ่อีกงานเข้ามา
ผมเชวมินโฮถอนหายใจเบาๆก่อนจะแวะไปเอากระเป๋ารวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ
เพื่อกลับมาเตรียมตัวที่ห้องๆหนึ่งของโรงแรมสุดหรูที่มีชิมชางมินคนนั้นเป็นเจ้าของ
‘เท่านี้ก็เรียบร้อย ^^’
เค้ายิ้มหวานให้กับตัวเองขณะที่มองกระจก ภาพของหญิงสาวแสนน่ารัก เสน่ห์ล้นหลามก็ปรากฏอยู่ตรงหน้า
“เรานี่ก็สวยใช่เล่น^^” มินโฮพึมพำขณะจัดท่าจัดทางวิกผมดัดสลวยสีน้ำตาลยาวจนถึงบ่าเสร็จเรียบร้อย
พร้อมๆกับคอนแทคเลนส์สีน้ำทะเลที่องค์กรพึ่งจะผลิตเสร็จเมื่อไม่กี่วันมาใส่
รวมถึงเสื้อผ้าและหน้าอกตูมๆพอเป็นพิธี
เท่านี้เชวมินโฮ ก็กลายร่างเป็นหญิงสาวแสนน่ารักด้วยชุดเดรสสีขาวยาวเป็นเจ้าหญิงแล้ว
==ชั้น 8 ณ.ห้องทำงาน==
ชายหนุ่มอายุยี่สิบต้นๆนั่งอ่านหนังสือด้วยท่าทีสบายๆ อยู่บนโซฟาใหญ่
ไม่นานเสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้เจ้าตัวต้องเงยหน้าขึ้นมาพลางร้องถามอย่างขอคำตอบ
“ใครมาน่ะจุนซู”
ชายหนุ่มอีกคนเดินไปเปิดประตูออกดูแต่เมื่อเห็นว่าไม่มีใครก็ได้แต่ปิดประตูกลับไปอย่างเก่า
แต่ไม่นานเสียงเคาะเรียกก็ดังขึ้นมาอีกหลายต่อหลายครั้งจนชางมินเริ่มจะไม่พอใจ
“ไปหาตัวคนทำมา เร็วสิ!!”
เค้าตวาดลั่นขณะที่ปิดหนังสือที่อ่านยังไม่จบลงด้วยแรงอารมณ์
แล้วก้าวเท้าฉับๆเข้าห้องน้ำไปทันทีที่เห็นจุนซูเดินออกจากห้องไปตามคำสั่งเรียบร้อยแล้ว
((ก๊อกกกกๆๆ!!!))
แต่ไม่นานเสียงเคาะน่ารำคาญก็ดังขึ้นอีกครั้ง ชายหนุ่มออกมาโดยมีผ้าเช็ดตัวแค่ผืนเดียว
ตรงไปเปิดประตูด้วยอารมณ์หงุดหงิด แต่สิ่งที่เห็นทำให้เค้าขมวดคิ้วเป็นปม
“อ..เออ ขอโทษนะค่ะ”
“…..”
“ค..คือว่าฉัน หลงทาง”
หญิงสาวในชุดเดรสสีขาวยาวสลวยตัดกับสีผมและดวงตาสีฟ้าเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าท่าทางเหมือนลูกแมวที่กำลังจะร้องไห้
ชายหนุ่มมองคนตรงหน้าอย่างไม่ไว้ใจ เฝ้าจับผิดทุกอัปกิริยาที่หล่อนแสดงออกมา
ก็แน่ละชั้นที่ 8 เป็นชั้นสุดท้ายที่เค้าปิดให้บริการ แล้วจะมีแขกไม่ได้รับเชิญขึ้นมาถึงนี้ได้อย่างไร
“ต้องการอะไร?”
ชายหนุ่มตัดสินใจถาม เมื่อเห็นหญิงสาวเดินตามเค้าเข้าห้องมาจนถึงห้องน้ำ
“ฉ..ฉัน คือว่า ..”
“ขอโทษนะครับคุณผู้หญิงชั้นนี้คือชั้นที่ 8 ทางโรงแรมเค้าไม่ได้บอกคุณหรอไงว่าห้ามขึ้นมา มันเป็นที่ส่วนบุคคล ป้ายก็มีหัดอ่านซะบ้าง หรือว่าอ่านเกาหลีไม่ออก??”
ชายหนุ่มเอ่ยรัวทันทีที่เริ่มทนไม่ไหว หนังสือก็อ่านไม่จบ น้ำก็ไม่ได้อาบ มันอะไรกันนักหนา??
‘ชิมชางมิน’
‘ชิมชางมิน’
‘ชิมชางมิน’
จากแฟ้มประวัติ ผิวแทน เพศชาย อายุ 23-24 สูงเป็นวา ปากร้าย กวนตีน แต่ในทางกลับกันก็นิ่งสนิทและเงียบครึม
((ก๊อกๆๆ))
ชายหนุ่มผิวไม่ดำเดินออกมาจากห้อง …
‘คนนี้ไม่น่าจะใช่นะ …’
เด็กหนุ่มครุ่นคิด ก่อนจะหาวิธีอะไรบางอย่างเพื่อกำจัดสิ่งกีดขวาง
และแล้วชายคนนั้นก็วิ่งออกจากห้องไป
((ก๊อกกกกๆๆ))
คราวนี้ประตูค่อยๆเปิดออก พร้อมๆกับชายอีกคน ชายหนุ่มร่างสูงผิวไม่ขาว ออกดำนิดๆ นุ่งผ้าเช็ดตัวแค่ผืนเดียว
‘ใจกล้า หน้าด้านมาก คนนี้ละน่าจะใช่นะ -*-’
((“ค..คือว่าฉัน หลงทาง”))
ใช่ๆบีบน้ำตาเข้าไป เอาสิ ผู้ชายทั้งร้อยแพ้ผู้หญิงสวยๆ และน้ำตานี่ละเครื่องมือทำมาหากิน
เด็กหนุ่มครุ่นคิดอีกครั้งพร้อมๆกับเล่นละครต่อไป
แต่ผลลัพธ์กลับแย่ลงๆทุกที -*-
((“ขอโทษนะครับคุณผู้หญิงชั้นนี้คือชั้นที่ 8 ทางโรงแรมเค้าไม่ได้บอกคุณหรอไงว่าห้ามขึ้นมา มันเป็นที่ส่วนบุคคล ป้ายก็มีหัดอ่านซะบ้าง หรือว่าอ่านเกาหลีไม่ออก??”))
‘เออ!! ผิว(ดำ)แทน เพศชาย อายุ 23-24 สูงเป็นวา ปากร้าย กวนตีน แต่ในทางกลับกันก็นิ่งสนิทและเงียบครึม’
นั้นละใช่เลย ขนาดผู้หญิงยังไม่เว้น คนนี้ละ ‘ชิมชางมิน -*-’
แต่เอาน่าผู้ชายทั้งร้อยมันต้องแพ้ผู้หญิงสิ!!
มินโฮจัดการเรียกน้ำตาตัวเองสะอื้นมันออกมาเสียอย่างนั้นจนคนที่ชื่อชิมชางมินหันมามอง
ก็ได้แค่มองละนะ เพราะตอนนี้ยืนตัวแข็งไปแล้ว
ในมือหนากลับส่งทิชชู่มาให้
((O.O))
มีน้ำใจกว่าที่คิด งั้นต้องบีบน้ำตาลงอีกนิด
((ฮือออออออ!!!!))
ได้ผลสนิท!! ชางมินหน้าเหวอ รีบเข้ามาตะครุบปากผมเอาไว้เสียแน่นพลางกระซิบ หรือตะโกนนี่ก็ไม่รู้
“เงียบซะ!!! ฉันบอกให้เงียบไง จะร้องไห้หาพระแสงหรอ!!!”
เออ อ่อนโยนมาก ซึ้งแล้วน้ำใจชายชร๊างงมิน~
((ผลักกกกกกก!!))
จังหวะเดียวกันประตูก็เปิดผลางออก ชายหนุ่มที่เค้าไล่ไปทางออกกลับมาเร็วไป หรือว่าเค้าทำงานช้าไป
มัวแต่พิสูจน์ความเป็นสุภาพบุรุษของชิมชางมิน
‘เชวมินโฮ แกทำอะไรของแก -*-’
“ขอโทษทีชางมิน ฉันหาคนเคาะไม่เจอ”
“ไม่ต้องแล้วจุนซู แต่ช่วยไปสืบทีว่ายัยนี้มันเป็นใคร!”
ชายหนุ่มว่าขณะสวมเสื้อให้กับตัวเอง แล้วหันไปมองแขกไม่ได้รับเชิญ
ตอนแรกก็กะจะดูต่อไปว่าจะมาไม้ไหน แต่เล่นร้องไห้อยู่ลูกเดียว มันหมดอารมณ์ -*-
“ทำอะไรน่ะปล่อยฉัน!!! ปล่อยสิว่ะ!!!”
ว่าแล้วมินโฮก็ร้องลั่นขึ้นมาเมื่อรู้ว่าเสียทีคนตรงหน้าเข้าให้แล้ว ชางมินเหวี่ยงคนตรงหน้าลงบนที่นอนใหญ่
ก่อนจะหยิบกุญแจมือในลิ้นชักมาล็อกข้อมือเรียวไว้กับหัวเตียง
“นายเป็นใครต้องการอะไร! เลิกเล่นละครได้แล้ว บีบน้ำตาอยู่ได้มันน่ารำคาญ!!”
ชางมินขึ้นเสียงเล็กน้อย จ้องมองอีกฝ่ายเขม็ง พอๆกับจุนซูที่งงงวยไม่รู้จะทำอะไรก่อนดี
จนชางมินต้องออกคำสั่งเร่งให้อีกฝ่ายไปทำหน้าที่ของตน
“ไปสิจุนซู ยืนบื้ออยู่ทำไม ไปสืบมาให้ได้ว่ายัยนี้มันเป็นใคร!”
ถึงกล้าดีมาหาเรื่องกับชิมชางมินคนนี้
ชายหนุ่มครุ่นคิดพลางสำรวจคนตรงหน้าทุกซอกทุกมุม ก็เจอกระเป๋าใบเล็กๆแค่ใบเดียว
เค้าเทมันลงบนเตียง เข็มตราองค์กรทำให้ชางมินได้แต่ยิ้มเยาะออกมา
แล้วเขวี้ยงมันลงไปบนหน้าอีกฝ่ายไม่ยั้ง
“กล้านักนะชองยุนโฮ คิดว่าฉันจะไม่กล้าทำอะไรคนของนายหรือยังไง!!”
ชางมินพึมพำอย่างไม่สบอารมณ์ ชำเลืองมองไปที่จุนซูอย่างคาดโทษ ซึ่งจุนซูก็ได้แต่หลบสายตากลับไปเท่านั้น
มินโฮพยามดิ้นให้หลุดพ้นจากพันธนาการ แต่ก็ได้แค่นั้น เค้าไม่มีแรงพอและไม่มีกุญแจ ไม่มีอุปกรณ์ใดๆ
ก็แน่ละมันอยู่ในกระเป๋าหมดเลยนี่นา ‘แย่จริงๆเชวมินโฮ!!’
“บ้าหรือเปล่า พกอะไรมาเยอะอย่างนี้ จะมาสืบเรื่องฉันหรือจะมาฆ่าฉันกันแน่ห๊า เด็กจริงๆ!! -*-”
ชางมินว่าอย่างขบขันก่อนจะเดินออกไปหาจุนซูที่กำลังนั่งค้นหาอะไรบางอย่างจากคอมพิวเตอร์
มินโฮมองตามไป เค้าโล่งใจอยู่หน่อยเพราะว่าเรื่องของเค้ายังคงเป็นความลับในองค์กรไม่มีใครสามารถดูได้นอกจากคนในองค์กร แม้จะเป็นชิมชางมินก็ตาม! แต่ดูเหมือนว่าเค้าจะคิดผิดไปหน่อย
“เชวมินโฮ กรุ๊ปเลือดบี เพศชาย เป็นลูกคนเดียว ขณะนี้อาศัยอยู่กับชองยุนโฮและเครือญาติ เนื่องจากพ่อแม่เสียไปหมดแล้ว …. นี่นายเป็นผู้ชายหรอเนี่ย แต่ก็สวยใช่เล่นนะ ไม่ยักรู้ว่ามีรสนิยิมแบบนี้^^”
ชางมินยั่วโมโหพลางดึงเส้นผมที่หยิกเป็นลอนอย่างสนุกมือ ก่อนจะช้อนคางได้รูปนั้นขึ้นมาให้เผชิญหน้ากัน
“อยากลองรสนิยมแปลกๆของนายดูหน่อยไหม มินโฮ”
เสียงกระซิบ และลมหายใจที่ห่างกันไม่ถึงคืบ เค้าสะบัดหน้าหันไปอีกทาง แต่ก็ถูกชางมินดึงกลับมา
และโดยไม่ทันได้ตั้งตัวริมฝีปากของพวกเค้าก็แนบชิดติดกัน
เรียวลิ้นค่อยๆทะลวงเข้าไปข้างในอย่างลองเชิง
แค่อยากรู้ … ว่าจะฤทธิ์มากแค่ไหนกัน
“รสชาติดีกว่าที่คิดนะ^^”
ชายหนุ่มว่าทิ้งไว้ก่อนจะเดินออกจากห้องไป
ทิ้งให้คนบนเตียงได้แต่หัวเสียอยู่ฝ่ายเดียว
((ลูกพี่ลูกน้องงั้นหรือ? หึหึ!))
ผมว่าผมมีความคิดดีๆแล้วละ … พี่ยุนโฮ
ตอบแทนในความมีน้ำใจที่ให้เหยื่อชิ้นดีหลุดลอดออกมา
และตอบแทนในเรื่องของเมื่อหลายปีก่อน ดีไหมพี่ชาย
‘ห๊า!! นี่พี่แอบรักน้องชายตัวเองงั้นหรอ!!?’
‘อย่าเสียงดังไปสิชางมิน ก็แค่น้องชายต่างสายเลือด ไม่ใช่พ่อเดียวแม่เดียวกันสักหน่อย’
เรื่องในวันวาน …
แต่มีประโยชน์ให้ผมได้เล่นสนุกมากขึ้นกว่าเดิมเสียแล้วละ พี่ยุนโฮ
ขอบคุณนะฮะ
ผมจะคอยดูแลเชวมินโฮของพี่ให้ดีที่สุด
“ปล่อยฉันออกไป!!”
“ฉันบอกให้ปล่อยไง!!”
“โถ่เว้ย!!!”
เด็กหนุ่มร้องตะโกนไม่ขาด จนกระทั่งชางมินเดินเข้าห้องมาในเช้าวันรุ่งขึ้น
“ฤทธิ์มากจังนะ ถ้าฉันปล่อยนายก็หนีพอดีนะสิ”
“ฉันปวดฉี่!”
“ฮึ! ก็ได้นี่ฉันใจดีแล้วนะ”
ร่างสูงว่าพลางยิ้มเยาะก่อนจะไขกุญแจมือจากหัวเตียงออกให้มินโฮได้เป็นอิสระแค่พักเดียว พักเดียวจริงๆเพราะไม่กี่วินาทีชางมินกลับเอากุญแจมือนั้นมาติดเข้ากับตัวเอง ทำให้ตอนนี้ทั้งคู่ตัวติดกันเสียแล้ว
“เอา! จะเข้าห้องน้ำไม่ใช่หรอ ไปสิ^^”
คนตรงหน้าดูหัวเสีย และมันทำให้คนมองสนุกมากขึ้นเรื่อยๆ เค้าเดินตามอีกฝ่ายเข้าห้องน้ำไป
แต่ก็ถูกดุกลับมาอีกต่างหาก ‘อย่าหันมานะ!’
“ใครจะไปพิศวาสอยากมองของนายกัน -*-”
ชางมินตะโกนกลับไป หันหลังให้อีกฝ่าย โดยมือข้อมือของเราที่เชื่อมกันอยู่ด้านหลัง
มันก็รู้สึก … แปลกๆดีนะ
พอหันไปอีกที มินโฮก็ถอดวิกผมสีน้ำตาลยาวนั้นออก เผยให้เห็นผมสีน้ำตาลเข้มสั้นประบ่า ดวงตาสีฟ้าของเค้าสะท้อนอยู่ในกระจก ชางมินมองมันอย่างหลงใหลโดยที่เจ้าตัวก็ยังไม่รู้สึก
“น..นี่ ช่วยหน่อย …”
คำขอร้องเสียงค่อยถูกส่งมาเรียกสติ ชางมินหันไปมองอย่างสงสัย ก่อนจะได้คำตอบที่ฉายชัดอยู่ในดวงตา
น้ำตาคลอขึ้นมาโดยอัตโนมัติทันทีที่ช่วยกันสัมผัสและเอาเยื่อใสๆออกมาจากดวงตาได้สำเร็จ
“ทำไมต้องใส่คอนเทคทั้งๆที่ไม่มีนายก็สวยอยู่แล้ว?”
“หา????”
“หรือไม่จริง นายแต่งตัวแบบนั้น ไม่ได้หลงร่างกายของตัวเองหรือยังไง ^^”
แก้มใสแดงซ่าน ชางมินมักเป็นคนพูดตรง เหมือนอย่างในแฟ้มประวัติไม่มีผิด
พูดถึงแฟ้มประวัติ เค้าลืมไปได้ยังไงว่าเข้ามาที่นี้เพื่ออะไร ถึงแม้งานจะล้มเหลวไปกว่าครึ่งแล้วก็ตาม
“น..นี่?”
“ฉันชื่อชางมิน นายก็รู้จักแล้วไม่ใช่หรอ ยังจะเรียกนี่อยู่อีก”
“ช..ชางมิน ..”
“แล้วอีกอย่างฉันอายุ 24 ส่วนนายอายุ 21”
“โถ่เอ้ย ไอ้พี่ชางมิน พอใจยัง -*-”
เด็กหนุ่มว่าอย่างจนปัญญาขณะที่โต้เถียงกันไปตลอดทาง
ชางมินเดินนำหน้า ส่วนเค้าก็ได้แต่เดินตาม ให้ทำไงได้ กุญแจมือติดกันเสียอย่างกับอะไรดี!
“จะพาไปไหน?”
“นายอยากรู้ความลับของฉันไม่ใช่หรอ หืม?”
“จะบอกจริงๆนะหรอ คนอย่างนาย .. เอ้ย พี่ชางมินไม่มีทางบอกฉัน เอ้ย ผมอยู่แล้ว?”
มินโฮเอ่ยออกมาอย่างตะกุกตะกักทันทีที่ได้สายตาดุๆจากคนข้างกาย
ชางมินเดินนำมาจนถึงชั้นล่างสุด รถคันหรูจอดอยู่หน้าโรงแรม โดยมีชายอีกคนที่ไม่คุ้นหน้าเป็นคนขับ
“เอา ขึ้นไปสิ!” เค้าถูกผลักขึ้นรถมา ตามด้วยชางมินที่นั่งปิดท้าย
ไม่นานบทสนทนาของคนทั้งคู่ก็เริ่มต้นขึ้น ให้เชวมินโฮได้แต่ฟังอยู่เงียบๆเพื่อเก็บข้อมูล
“คิบอม ตอนนี้คยูเป็นยังไงบ้าง ฉันไม่ได้ไปเยี่ยมเลย ดีขึ้นหรือยัง?”
“ยังเลย ก็เหมือนเดิมไม่ยอมทาน ไม่ยอมนอน ต้องพึ่งยาตลอด”
“อืม…”
“นี่นะหรอมินโฮ? แล้วจุนซูไปไหนซะละ ได้ใหม่ลืมเก่าหรือยังไง ของเล่นนายนี่เปลี่ยนได้ 24 ชั่วโมงจริงๆ”
พอถึงตรงนี้บทสนทนาเริ่มก้าวก่ายคนฟัง มินโฮหันไปมองหน้าคนพูดอย่างไม่พอใจ และกระทืบเท้าคนข้างกายพอเป็นพิธี
บ่งบอกอยู่กรายๆว่าเค้าไม่ใช่ของเล่นของใคร
จนกระทั่งตัวรถมาจอดอยู่ที่คฤหาสน์หลังใหญ่ ชางมินลงมาพร้อมๆกับมินโฮ โดยมีคิบอมที่เป็นคนขับรถตามมาติดๆ
“ช่วงนี้สถานการณ์ไม่ค่อยดี ระวังๆหน่อยละกันชางมิน ยิ่งนายพามินโฮมาด้วยอย่างนี้”
“อื้มฉันรู้แล้ว…”
ร่างสูงตอบรับก่อนจะเดินเข้าไปด้านในพร้อมๆกับเด็กหนุ่มข้างกายพลางสั่งเสียงเรียบ
‘อย่าพูดอะไรกับใครนอกจากฉัน!’
ณ.ห้องๆหนึ่งของคฤหาสน์
“เข้ามาสิ … ชางมิน”
“ครอบคุณครับ .. คุณพ่อ”
ชายหนุ่มตอบรับเดินเข้ามาโค้งให้เล็กน้อย และไปนั่งคุยตรงโซฟารับแขกที่คนผู้นั้นนั่งรออยู่ก่อนแล้ว
“งานที่ให้ทำเป็นยังไงบ้างเรียบร้อยดีไหม?”
“ที่โรงแรมก็เรียบร้อยดีไม่มีปัญหาอะไรครับ ส่วนเรื่อง …”
“ซื้อขายสินค้าใต้ดินล้มเหลวละสินะ … แย่จริงๆ ไอ้ชองกรุ๊ปนั้นไม่รู้ซะแล้วว่าเล่นอยู่กับใคร เห็นทีเราต้องเอาคืนเสียหน่อยแล้ว เธอว่าจริงไหม!?”
ชางมินพยักหน้าน้อยๆ ผิดกลับคนข้างกายที่กำหมัดแน่นอย่างไม่รู้ตัว
“ไปจัดการเก็บตระกูลชองซะ! ดูสิว่าถ้าไม่มีคนสนับสนุนองค์กรบ้าๆนั้นยังจะทำอะไรได้อยู่อีกไหม ก็แค่นายทุนเล็กๆริบังอาจมาเป็นศัตรูกับเรา รีบไปทำซะ งานของเราจะได้เสร็จเร็วขึ้นชางมิน”
“ครับ…”
ชายหนุ่มพยักหน้ารับทำท่าจะขอตัวกลับ แต่คนที่มาด้วยกลับนิ่งอยู่กับที่ เก็บอารมณ์ไว้ไม่อยู่เสียแล้ว
“พวกเค้าไม่เกี่ยว ก็แค่คนแก่สองคน ทำไมถึงได้สั่งอะไรที่โหดร้ายอย่างนั้นละครับ!”
คนฟังเงยหน้าขึ้นมา เด็กหนุ่มไม่คุ้นหน้านี้ใครกัน ถึงได้กล้ามาขึ้นเสียงกับเค้าถึงในบ้าน
“เธอเป็นใคร!”
“ผมเชว ..! อื้อ!!”
ยังไม่ทันจะพูดจบชางมินก็ตะครุบปากเอาไว้ คนโดนเล่นงานหันมาจ้องด้วยอารมณ์ครุกรุ่น
แต่ชางมินหาได้สนใจ หันไปตอบความแคลงใจของผู้เป็นพ่อ
“ของเล่นของผมมันไม่รู้จักสัมมาคารวะ ขอโทษนะครับที่พาเข้ามาโดยไม่ได้บอกกล่าว”
“ไม่เป็นไร .. แต่เจ้านี้มัน…?? ช่างเถอะ จะไปไหนก็ไป ฉันอยากพักผ่อน”
ว่าแล้วก็ตัดบทเสียดื้อ ได้จังหวะชางมินรีบพามินโฮขึ้นรถไปแทบจะทันที
“ทำบ้าอะไร! อยากตายก่อนวัยอันควรนักหรอไง บ้าจริงนายเกือบทำให้ฉันซวยไปด้วยแล้วรู้ไหม!!”
“มันเรื่องของนาย ยังไงก็เลวเหมือนกันทั้งพ่อทั้งลูก!!”
“นายไม่มีสิทธิมาพูดถึงคนๆนั้นแบบนี้!!”
ชางมินว่าเสียงแข็งขึ้นทันที มองคนตรงหน้าอย่างหงุดหงิดใจ
ดันอีกฝ่ายจนนอนราบไปกับเบาะรถ
บีบคางได้รูปนั้นและช่วงชิงลมหายใจอย่างหนักหน่วง
“แฮ่กกๆ แฮ่กกกๆ!! ปล่อยจะทำบ้าอะไร!!”
“สั่งสอนไง!! ปากพล่อยๆของนายหากพูดไม่เข้าหูแล้วจะต้องเจอแบบนี้จำไว้!!”
ร่างสูงฉกจูบลงไปอีกครั้งและอีกครั้งอย่างหนักหน่วง รุนแรงขึ้นเรื่อยๆตามแรงอารมณ์ ลิ้นร้อนชอนไชเข้าไปในโพรงปาก
ดุนดันกันไปมาก่อนที่มินโฮจะกัดมันลงไปด้วยความโมโหไม่แพ้กัน
“โอ้ย! อย่ามาลองดีกับฉัน!!”
สิ้นสุดคำพูด ชายหนุ่มไม่รอช้า โน้มตัวลงไปจูบหนักๆจนริมฝีปากบวมเจ่อ ขบเม้มแถวต้นคอ และกระชากเสื้อตัวบางจนหลุดออกมาไม่เหลือชิ้นดี เค้าดึงผ้าม่านระหว่างคนขับมาปิดมันเสีย ก่อนจะเริ่มต้นการลงโทษอีกครั้ง
“เอาสิดิ้นไป! ถ้าคิดว่าดิ้นแล้วจะหลุดรอดออกไปจากเนื้อมือฉันได้”
“ฮึ่ก! มันเจ็บ ออกไป!!”
“ร้องเลย ร้องให้ตายก็ไม่มีใครมาช่วยได้แล้ว !!”
ชางมินชกลงบนท้องน้อยให้อีกฝ่ายดิ้นพล่านให้มากฤทธิ์ ขบเม้มดุนดันทุกสัดส่วนของร่างกาย
กางเกงตัวหนาค่อยๆถูกล่นลงช้าๆ ก่อนที่ท่อนกามแห่งอารมณ์จะปรากฏสู่สายตา
ร่างสูงไม่รอช้าพลิกร่างของมินโฮไปอีกทาง ช่องทางหลังที่เล็กมากเสียจนเป็นตัวบ่งบอกว่าไม่เคยผ่านเรื่องแบบนี้ กลับทำให้คนกระทำเกิดความลังเลครั้งแรกในชีวิตกับการทำลายชีวิตของคนอื่น
“คอยดู ถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหูพี่ยุนโฮเมื่อไหร่ นายตายแน่!!”
คงไม่ต้องไปสงสาร หรือลังเลอีกต่อไป ความรู้สึกถูกกักไว้ที่เดิมทันทีที่คำพูดนั้นสิ้นสุดลง
ชายหนุ่มถอดกางเกงของตัวเองลงช้าๆ เผยให้เห็นแกนร้อนของตัวเองก็จัดการกระแทกลงไปเต็มแรงอย่างไม่มีการเบิกทาง
“คนอย่างนายคงไม่ต้องการหรอกกับไอ้คำว่าปราณี!”
“อื้ออ!! อ..ออกไป!!”
ส่วนร้อนกระแทกกระทั้นเข้ามาสุดแรงหลายต่อหลายครั้ง จนร่างด้านใต้ไถลไปกับเบาะ เป็นผลให้แท่งกามสั่นระริกและเสียดสีกันไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ
อารมณ์ที่ไม่ได้ต้องการให้มันเกิดขึ้น แต่กลับพลั่งพลูออกมาเมื่ออีกฝ่ายปลุกมันให้
ไม่รู้ทำไม …
ตอนนี้ถึงหยุดมันไม่ได้เสียแล้ว
“อื้อออ ..”
ความเจ็บปวดหายไปชั่วคราวรับรู้ได้แต่เพียงคำว่า ‘สุขสม’ สุขสมในอารมณ์อย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับใคร
กิจกรรมบนรถสิ้นสุดลง แกนกายของร่างสูงขยับออกมาช้าๆ
เผยให้เห็นน้ำคาวขุ่นไหลเปรอะเปื้อนเป็นคาบยาวพร้อมๆกับเลือดสีแดงสด
กับร่างที่ไร้สติของเชวมินโฮ
===============================>>
ความคิดเห็น