คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : [OS/MINWON] บังเอิญ
คุณคิดว่า คนเราจะบังเอิญเจอกัน และ ชอบกันในไม่กี่โมงชั่วโมงได้รึป่าว?
"Oh
i'm Sorry"ผมมัวแต่เล่นกับเพื่อนจนเดินถอยหลังชนคนที่ยืนอยู่บริเวณก็เลยหันไปขอโทษ
อู้วว สูงจัง ใส่แว่นตากันแดดแถมแมสปิดปากอีกชั้น ใส่หูฟัง เขาส่ายหน้าเหมือนไม่เป็นไร
ส่วนผมยิ้มนิดๆแล้วหันมาคุยกับเพื่อนต่อ
"Why
so cute"เอ๊ะ? เบามากแต่ผมก็ได้ยินและหันควักตามเสียงก็เห็นผู้ชายคนนั้นเดินออกไปอีกทาง
ชมผมหรอ?
"วอนอู มึงจะไปกินอะไรนะ"
"..."
"ไอ้นู"
"ฮะ ฮะอะไร"
"กูถามว่าจะกินอะไร"เพื่อนตัวน้อยถามซ้ำ
"เบอร์เกอร์หมู"ผมตอบส่งๆสายตาก็มองไปทางนั้น เขาทำให้ผมสนใจแล้วเดินจากไปเนี่ยนะ
"กูกลับจีฮุนจะไปซื้อของกินให้ ป่ะ ตัวเล็ก"แล้วไอ้แฮมเตอร์ก็คว้าแขนแฟนตัวเล็กของมันไปทันควัน
"ไอ้จุน เดี๋ยวกูมานะ"
"อ้าววว ทิ้งกูเฉย"เสียงมันบ่นแต่ผมก็ไม่ได้สนใจหรอก เดินไปไหนแล้ววะ
เจอแล้ว! แน่นอนว่าก็เนียนๆเดินตามนั้นแหละ อ่อออ เขาจะเข้าห้องน้ำนี่เอง.. ผมกล้าๆกลัวๆเดินตามเข้าไป
คิดแต่จะตามเขาดันลืมคิดวิธีเต๊าะ ซวยแล้ววอนอู เขายืนล้างมืออยู่ผมก็เลยทำท่าไปล้างมือ
ข้างๆ ไอ้บ้าเอ่ยยยย พูดอะไรไม่ออกทั้งเขินทั้งไม่กล้า เขาถอดแมสกับแว่นตากันแดดออก
สะดุดความหล่อเลยกู จมูกโด่ง ตาสองชั้นรับกันได้ดีกับโครงหน้า ผมใบหน้าหล่อเหลานั้นจากกระจก
เขากำลังจะเดินออกจากห้องน้ำแล้ว กล้าๆหน่อยจอนวอนอูไม่งั้นของดีอาจหลุดมือไป..
"Have
you..."เสียงอันขาดความมั่นใจของผมเบาเกินไป ตัวเขาไม่ได้ยินและไม่ได้หยุดเดิน
ผมเลือกที่จะเดินไปตรงหน้าเขา
****"Have you...just complement me?"
"Why
do your eyes so sparkling?"
"..."
"Why
does your skin as white as snow?"
"..."
"Why
does your skin so soft?"
"..."
"Why
do have rosy pink lips?"
"..."
"I
don't know but.."
"..."
"I'm falling in love with you"
"..." เขาจ้องตาผมก่อนเดินเข้ามาใกล้ ด้วยสัญชาตญาณผมจึงเดินก้าวถอยหลังจนไม่สามารถขยับไปไหนได้ หลังติดกำแพงผู้ชายที่ผมไม่รู้จักชื่อคนนี้ใช้แขนยาวๆทั้งสองข้างคล้ำไว้กับกำแพง ขังผมไว้ในวงแขนของเขา ดวงตาสีดำสนิทจ้องมองมาที่ผม ภาษากลางของโลกที่เขาพูดออกมานั้นผมเข้าใจทุกอย่างพาลทำให้ผมรู้สึกร้อน หัวใจเต้นแรงเหมือนจะหลุดออกมาในที่สุดผมก็ไม่สู่หน้าเขาไม่ไหวจึงหลบตาด้วยความเขินอาย ผิดกับอีกคนที่ยังมองผมและยิ้มมุมปากอย่างพอใจ
"Cute"อย่าพูดสิโว้ยยยย ผมเผลอทุบหน้าอกเขาทีหนึ่ง ทำอะไรไม่ถูกก็เลยนั่งลงใช้มือปิดหน้าที่แดงเหมือนจะระเบิดเอาไว้
เขาหัวเราะในลำคอเบาๆก่อนจะย่อตัวลงมา “คุณน่ารักจริงๆนะ” เมื่อยินได้ภาษาบ้านเกิดที่แสนคุ้นหู ผมก็เลยเงยหน้าขึ้นเพราะสงสัย
“คุณพูดเกาหลีได้นิ”
“ก็ผมเป็นคนเกาหลี..”สิ้นประโยคผมพยักหน้าด้วยความกระจ่าง
เขายื่นมือออกมาให้จับและลุกขึ้น “คุณจะไปเที่ยวญี่ปุ่นหรอ”
“ใช่ครับ”ไม่แปลกที่เขาจะรู้ ยืนข้างๆกันก็ต้องได้ยินบทสนทนาระหว่างผมกับเพื่อนอยู่แล้ว
“ดูเหมือนว่าจุดหมายของเราจะเป็นที่เดียวกันนะครับ”
“ครับ”
“ผมคิมมินกยูครับ ยินดีที่ได้รู้จัก”
“จอนวอนอูครับ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกัน”เราจับมือกันเช็คแฮนด์
“เพื่อนผมโทรตามแล้วครับ”
“งั้นก็ไปกันเถอะ”พูดไม่ทันขาดคำเสียงประกาศของสนามบินก็ดังขึ้น
มินกยูถือโอกาสจับมือผมแล้วก็พาวิ่งจนถึง เพื่อนผมยืนมองอย่างงงๆ
“เฮ้ย มึงๆ ไอ้นูมาแล้ว”จีฮุนชี้แล้วเอียงหัวสงสัย “มากับใครวะ?”
“เออ ใครวะ?”ซูนยองก็งงไปตามๆกัน
“นี่ ทิ้งกูไปตามผู้ชาย โอ๊ยยย ไอ้แมวเอ๋ยยยยย”คนโดนทิ้งให้นั่งเหงาเงียบอยู่คนเดียวบ่นพลางทำท่าซับน้ำตา
“มาแล้วๆ”เขาปล่อยมือผมให้เป็นอิสระและไปหยิบของตัวเองเตรียมขึ้นเครื่อง
“เบอร์เกอร์หมูมึงนี่”เพื่อนตัวเล็กส่งเบอร์เกอร์หมูให้พลางขยับเข้ามาใกล้ๆกระซิบถามว่า
“ใครวะ?”
“รู้จักกันเมื่อกี้เอง”
“แต่เขาโอเคนะ”เพื่อนชาวจีนที่ผมทิ้งมันไว้กระซิบ “นี่มึงทิ้งกูไปวิ่งตามผู้ชายเนี่ยนะ กูเสียจัยยยย”
“เดี๋ยวกูเลี้ยงขนม เป็นการปลอบใจ”ผมตบบ่ามัน
“มึงพูดแล้วนะ”แหมมม เรื่องนี้ดูกระปรี่กระเป่าขึ้นมาเลยนะ
“ขึ้นเครื่องกันเถอะ”ซูนยองพูด ทุกคนพยักหน้าผมก็หยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพาย
“หวังว่าเราจะได้เจอกันอีกนะครับ วอนอู”มินกยูยืนอยู่ด้านหลังผม
เขายิ้มก่อนจะส่งกระดาษแผ่นหนึ่งเล็กๆพับครึ่งมาให้ผม
“เช่นกันครับ”ผมยื่นมือไปรับกระดาษแผ่นนั้นแต่ยังไม่เปิดออกมองหรอก
“ไหงกูได้นั่งคนเดียววะ?”ผมโวยวายเเสียงเบาเมื่อขึ้นเครื่องมาแล้วปรากฏว่าไอ้พวกเพื่อนรักเตะผมให้มานั่งคนเดียวที่เบาะหลังพวกมัน
“เสียใจด้วย วอนอูมันกระทันหันอะ เครื่องนี้เหลือแค่สี่ที่นี้ กูเห็นมึงไม่ค่อยพูด
เงียบๆ ก็เลยจัดให้อยู่คนเดียว..”ไอ้แฮมเตอร์พูดแล้วยิ้มร้ายกาจ
“พวกมึงนี่มัน..เออๆ ช่างมันเถอะ”ผมนั่งลงอย่างหัวเสียยังไงก็อยู่บนเครื่องแล้วจะบ่นมันก็ไม่ได้เพราะผมให้มันจัดการหมด
หกชั่วโมงเองนั่งๆไปเถอะ ผมหันมาสนใจกระดาษที่มินกยูให้แทนข้างในมีไอดีแอพพลิเคชั่นสีเขียวซึ่งเราใช้กันบ่อยๆพร้อมเบอร์โทรศัพท์
“อย่าลืมแอดมานะครับ
^^”
ประโยคสั้นๆแค่นี้ก็ทำให้ผมยิ้มได้แล้ว
“ยิ้มเชียวนะมึง”จีฮุนเกาะเก้าอี้โผล่หน้ามาแซว “ไอดีไลน์หรอ?” ผมพยักหน้า มันทำสายตาเหน็บแหนมก่อนจะกลับไปนั่งตามปกติ
“วอนอู?”ผมเงยหน้า..
“มินกยู?”เขายกตั๋วในมือขึ้นมา ว้าววว นั่งข้างผมเลย…ซูนยอง! กูรักมึง! เขาเข้ามานั่งข้างๆผม
“บังเอิญจังเลยนะครับ”ยิ้มแบบนี้อีกแล้ว เหมือน..เหมือนลูกหมาเลย.. เขาควรจะดีใจหรือเสียใจถ้ารู้ว่าผมคิดว่าเขาหน้าเหมือนหมา
เป็นโอกาสดีที่จะได้ทำความรู้จักกัน โคตรบังเอิญ!
มินกยูได้แนะนำตัวกับพวกเพื่อนตัวแสบทั้งสาม ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะอายุน้อยกว่าผมหนึ่งปี
ทั้งที่ดูเป็นผู้ใหญ่แท้ๆแถมยังสูงขนาดที่ผมซึ่งสูงร้อยแปดสิบกว่าๆยังต้องเงยหน้าคุย
เขามาหาน้องสาว เธอเรียนมหาลัยฯในญี่ปุ่น เขาอาสาเป็นไกด์พาเที่ยวให้พวกผมฟรีๆแต่เกรงใจก็เลยเสนอว่าจะเลี้ยงข้าวทุกมื้อที่อยู่กับพวกผม
มินกยูตกลงอย่างว่าง่าย
“พี่ง่วงหรอครับ”คนนั่งข้างๆผมถอดหูฟังแล้วยื่นหน้าเข้ามาถาม
ผมพยักหน้าง่วงๆ
“เมื่อคืนนอนดึกน่ะ แล้วต้องตื่นเช้ามาขึ้นเครื่อง”ผมอธิบายพลางหาวไปด้วย
เขาพยักหน้าและเอาหนอมลองคอที่ตัวเองใส่อยู่ยื่นให้ผม
“ให้พี่ยืมหรอ? แล้วนายล่ะ?”
“มันนอนไม่สบายใช่ไหมล่ะครับ ผมจะอ่านหนังสือไม่ใช้ก็ได้ครับ”
“อ่อออ งั้นก็ขอบคุณนะ”ผมยิ้มให้เขา “ใจดีจังเลย” ผมรับหมอนลองคอนั้นมาใส่แล้วเก็บหนังสือที่อ่านอยู่ลงกระเป๋า
เจ้าตัวก็ยิ้ม นั้นไง มันเหมือนลูกหมาจริงๆนะ
“Why so cute..your smile..”
“for you..only..”ผมไม่ยอมเขินคนเดียวหรอก มือหนายื่นมายี้หัวผม เจ้าเด็กนี้อันตรายมากจริงๆจากที่ไม่ชอบให้ใครเล่นผมเพราะคิดว่าเหมือนเด็ก
กลับกันพอเขาทำมันก็เปลี่ยนไปกลายเป็นว่าผมรู้สึกดีและเริ่มชอบ การให้คนอายุน้อยกว่าเล่นหัวมันก็แปลกอยู่แต่ผมจะไม่ถือสาแล้วกัน “นอนดีกว่า ไม่คุยกับนายแล้ว” ผมหันหน้าหนีแล้ว เขาชักมือกลับไปและหัวเราะจากนั้นเราก็ต่างเข้าสู่โลกของตัวเองผมหลับและตื่นตอนจีฮุนปลุกเพราะใกล้จะถึงแล้ว
ผมยังสลืมสะลืออยู่ตอนลงจากเครื่องลำบากจุนต้องจูงแขนมาไม่งั้นคงชนคนอื่นไปทั่วเหมือนมินกยูจะเก็บหมอนลองคอไปแล้ว แล้วแว่นผมหายไปไหน??
“จุน แว่นกูอะ”
“อยู่กับน้องโว้ย”เวลาไม่ได้ใส่แว่นผมก็เหมือนแมวตาบอด มองอะไรไม่เห็น
มัวไปหมดต้องใกล้ขนาดจะสิงถึงจะเห็น มินกยูยื่นแว่นสายตาแสนรักมาให้ผม
“ขอบคุณ”นอกจากจะเก็บแว่นแล้วน้องยังถือกระเป๋าให้ผมด้วย
ผมใส่แว่นและเอากระเป๋ามาถือเองจุนก็ปล่อยมือจากแขนผม “เราผ่านตม.แล้วหรอ”
“เออ ไอ้แมวตาบอด”ไอ้แฮมเตอร์ตอบมาส่งๆ แสดงว่าตอนนี้ก็รอเอากระเป๋าดิ
ผ่านตอนไหนวะไม่เห็นรู้เรื่องเลย
“พวกพี่พักที่หรอครับ”มินกยูผู้ได้กระเป๋าแล้วถาม
“แถวๆอากิฮาบาระ โรงแรมA”
“โรมแรมAหรอ ผมก็อยู่แถวๆนั้นเหมือนกัน ไปด้วยกันมั้ยครับ?”บังเอิญไปอี๊กกก เพื่อนผมพยักหน้าเมื่อได้กระเป๋าครบทุกคนแล้วมินกยูเสนอให้หารค่าแท็กซี่เอา
พวกเราของเยอะ น่าจะไม่เสียเงินมากเพราะมีตั้งห้าคน ระยะทางก็ใกล้ด้วย เลยตกลงกันว่าไปแท็กซี่แล้วให้จีฮุนนั่งตักซูนยองเอา
ทุกคนโอเคไม่กี่อึดใจก็ถึงโรงแรม จุนจ่ายไปก่อนแล้วพวกผมก็เช็คอินเข้าโรงแรมโดยหิ้วมินกยูมาด้วยเผื่อมีปัญหาอะไรจะได้ให้น้องช่วยเพราะเขาพูดญี่ปุ่นได้
“มินกยูนอนนี่เลยมั้ย55555”เสียงหัวเราะของซูนยองทำให้ผมรู้ว่า
มันกำลังจะแซะผมกับน้องที่ตัวติดกันทั้งๆที่เพิ่งรู้จักกัน
“เออแล้วที่พักของนายอยู่ไหน ไกลรึป่าว”ผมถามระหว่างรอกุญแจห้อง
“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ เดินไปอีกนิดหน่อยก็ถึงแล้ว”รอยยิ้มลูกหมานั้นถูกส่งให้ผม
“กลับได้แล้วมั้งแค่มาส่งถึงโรงแรมก็เกรงใจมากแล้ว”จีฮุนคิดเหมือนผมเลย
“พี่ว่านายกลับเถอะ เดี๋ยวน้องสาวเป็นห่วง”
“ก็ได้ครับ งั้นไปนะครับ”น้องพูดโบกมือลา
“อื้ม บ๊ายบาย”ผมพูดส่วนไอ้พวกเพื่อนเมื่อได้กุญแจก็ดีใจเป็นเด็กๆจนไม่สนใจน้อง
“อย่าลืมแอดมานะครับ”ผมยิ้ม ใครจะลืมเหลาาา เรื่องแบบนี้มันสำคัญนะ บอกตามตรงคือผมถูกชะตากับน้องมาก
อาาา
เจ้าเด็กนี้จะทำผมระเบิดอีกแล้ว...
“ผมรอพี่อยู่นะ”
-end-
------------------------------------
Telk
"Have
you...just complement me?" “เมื่อกี้คุณชมผมหรอ?”
"Why
do your eyes so sparkling?" “ทำไมตาของคุณถึงระยิบระยับ”
"Why
does your skin as white as snow?" “ทำไมผิวของคุณขาวเหมือนหิมะ”
"Why
does your skin so soft?" “ทำไมผิวของคุณถึงดูนุ่ม”
"Why
do have rosy pink lips?" “ทำไมริมฝีปากของคุณถึงสีเหมือนกุหลาบ”
"I
don't know but.." “ผมไม่รู้แต่...”
"I'm
falling in love with you" “ผมกำลังตกหลุมรักคุณ”
มันก็จะประมาณนี้ ไรท์เป็นพวกโง่อังกฤษเว้ย สอบทีไรคาบเส้นทุกที นี่เขียนภาษาอังกฤษไปให้คุณพี่สาวช่วยแต่งอีกทอดหนึ่ง//กราบคุณพี่ เจอกันตอนหน้าน้าาา ฮารังเซ//ทำมือมินิฮาร์ท
ความคิดเห็น