ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บ้านปีกไม้ กับ หัวใจสองดวง

    ลำดับตอนที่ #2 : บทที่2

    • อัปเดตล่าสุด 26 ก.พ. 49


    บทที่2

                เมื่อนัฐมนเดินกลับมาถึงรถก็พบเพียงพิณกำลังเดินตามหาตนเองอยู่ หญิงสาวจึงรีบก้าวเท้าเข้าไปหาเพื่อน ก็พอดีกับที่เพียงพิณหันกลับยังเธอพอดี พลันก็ทำให้รอยยิ้มของผู้ตามหากระจ่างขึ้นมาทันที แล้วก็ตามมาด้วยสายตาตำหนิที่ส่งมายังหญิงสาว

                    นัฐ โอย เราตามหาเธออยู่ตั้งนาน นึกว่าหายไปกับความมืดซะแล้ว เราเข้าไปแค่ไม่กี่นาทีออกมาก็พบแต่รถ เพื่อนเรากลับไม่อยู่ คิดว่าไปเดินเล่นแต่พอเดินหาก็ไม่เจอถามใครก็ไม่มีใครเห็นซักคน รู้มั้ยเราเป็นห่วงแทบแย่ จะไปไหนไกลก็ไม่บอกกันบ้างเลยเพียงพิณกล่าวด้วยน้ำเสียงตำหนิ

                    เราขอโทษนะน้ำเสียงรู้สึกผิด อีกทั้งแววตาก็ฉายแววขอโทษอย่างชัดเจน

                    เธอมักจะใจอ่อนเสมอยามเพื่อนมองสบมาด้วยสายตาสำนึกผิด เมื่อกล่าวออกไปน้ำเสียงจึงอ่อนลงตามไปด้วย เฮ้อ เราแพ้สายตาสำนึกผิดของเธออีกแล้วเหรอเนี่ย ว่าแล้วเพียงพิณก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ทำให้หญิงสาวอีกคนลอบยิ้มออกมา ว่าแต่เธอไปไหนมาล่ะ

                    ตอนแรกเราก็เดินเล่นอยู่แถวๆ นี้นี่แหละ ซักพักเราก็ได้กลิ่นดอกไม้หอมมากๆ เลยนะ เราเลยลองเดินตามกลิ่นไปเรื่อยๆ ก็พบต้นดอกปีบใหญ่มากอยู่ข้างๆ บ้านปีกไม้พูดจบหญิงสาวก็ยื่นดอกไม้ที่ตนเองถือไว้ในมือให้เพื่อน

                    ดอกปีบเหรอ อืมที่นี่ก็มีอยู่หนึ่งต้นนะอยู่ข้างๆ บ้านพี่ชายเราเพียงพิณเอื้อมมือไปหยิบดอกไม้มาจากมือเพื่อน แล้วก็หันกลับมามองหน้าเพื่อนอย่างตกใจ  เธอไปไกลขนาดนั้นเลยเหรอ

                    ไม่รู้ซิเราเดินไปเรื่อยๆ ก็เหนื่อยพอดูเลยล่ะหญิงสาวพูดพลางทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยมกลัวจะโดนดุอีกรอบ แต่ก็ยังอดสงสัยไม่ได้ พี่ชายเธอพักอยู่ที่นี่เหรอ

                    ก็ใช่น่ะซิที่นี่น่ะรีสอร์ทพี่ชายเราเองนะ ถ้าไม่พักที่นี่จะไปพักที่ไหนล่ะ

                    ก็ไม่รู้ซิ เรานึกว่ามีแต่เธอที่อยู่นี่นา เออนี่ว่าแต่ตั้งแต่เรียนมาด้วยกันเรายังไม่เคยเห็นพี่ชายเธอเลยนี่นาแล้วอยู่ๆ ทำไมเธอถึงมีพี่ชายล่ะ รึว่าเป็นญาติกัน

                    อ๋อเราลืมบอกไป คือคนละแม่น่ะ ที่เธอไม่เคยเห็นคงจะเป็นเพราะว่าพี่ชายเราเกิดและโตอยู่ที่อังกฤษ บ้านเกิดของแม่พี่ชายเราน่ะแหละ เมื่อ 2 ปีก่อนพอดีว่าคุณน้าเสีย คุณพ่อเลยบอกให้พี่ชายมาอยู่ที่นี่เพราะที่นั่นก็ไม่มีใครท่านกลัวว่าพี่ชายจะเหงา แล้วคุณพ่อก็อายุมากแล้วด้วย ลูกชายก็มีอยู่แค่คนเดียวเลยอยากให้กลับมาอยู่ใกล้ท่าน มาดูแลกิจการของท่านด้วย จะให้เราทำคนเดียวก็ไม่ไหว เราต้องดูแลโรงแรมในเมืองด้วย กล่าวจบเพียงพิณก็ออกเดินนำหน้าเพื่อนสาวไปยังบ้านพัก โดยมีพนักงานถือกระเป๋าตามหลังมาอย่างรู้หน้าที่

                    อ้าวเธอไม่ได้อยู่ที่นี่ตลอดหรอกเหรอนัฐมนกล่าวอย่างแปลกใจ

                    ไม่หรอกบางทีเราก็ต้องเข้าไปดูโรงแรมในตัวเมืองบ้าง แต่ส่วนใหญ่ก็คุณพ่อนี่แหละที่ดูแลเอง พี่ชายเราก็บอกนะว่าอยากให้ท่านพักบ้าง แต่คุณพ่อน่ะกลัวพี่ชายเหนื่อยเกินไป ดูซิคุณเรารักพี่ชายขนาดไหน ต่อไปสงสัยจะลืมเราแล้วมั้ง เพียงพิณพูดอย่างอารมณ์

                    นัฐมนพลอยยิ้มตามไปด้วย เห็นได้ชัดว่าเพื่อนของเธอก็รักพี่ชายมากเหมือนกัน

                    อ้าวนี่ถึงแล้ว  สวยใช่มั้ยล่ะพี่ชายเราออกแบบเองกับมือเลยนะเนี่ย พี่ชายเราบอกว่าอยากได้บ้านที่เป็นส่วนตัวหน่อยไม่อยากวุ่นวายกับใคร พี่ชายเราไม่ชอบคนเยอะๆ น่ะ แล้วพี่ชายเราก็ชอบบรรยากาศที่นี่ด้วย บ้านพี่ชายเราก็เลยอยู่ลึกหน่อย แล้วเพียงพิณก็ต้องแปลกใจเมื่อหันกลับมาเห็นเพื่อนยืนนิ่งอยู่กับที่คล้ายกับโดนมนต์สะกด แต่ที่ทำให้เธอแปลกใจยิ่งขึ้นไปอีกคือรอยยิ้มสดใสที่ตั้งแต่เพื่อนของเธอมาที่นี่เธอยังไม่ได้เห็นรอยยิ้มนี้ของเพื่อนเลย มันเป็นรอยยิ้มที่ทำให้โลกทั้งใบสว่างสดใส จนทำให้เพียงพิณอดที่จะยิ้มตามไปด้วยไม่ได้

                    เราจะได้พักที่นี่จริงๆ เหรอ นัฐมนพึมพำออกมาคล้ายจะพูดกับตนเองมากกว่าจะพูดกับเพื่อน  แล้วเหมือนจะคิดอะไรได้จึงรีบหันมาถามเพื่อนที่ตอนนี้กำลังบอกให้คนถือกระเป๋านำกระเป๋าเข้าไปเก็บในบ้าน นี่พิณแล้วพี่ชายเธอล่ะ ไม่ได้พักที่นี่หรอกเหรอถึงได้ให้เรามาพักที่นี่ แล้วหญิงสาวก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเพื่อน ซึ่งเพื่อนของเธอมักจะยิ้มเช่นนี้เสมอยามที่มีแผนการอะไรบางอย่างภายในใจ หญิงสาวก็ได้แต่หวังว่าเพื่อนของเธอคงจะไม่ได้คิดวางแผนจะให้เธอทำอะไรหรอกนะ

                    อ๋อพี่ชายเราน่ะเหรอก็พักที่นี่แหละ เมื่อเห็นนัฐมนทำหน้าเหรอหราจึงรีบกล่าวเสริมต่อไป ไม่ต้องห่วงหรอกน่า ไม่ต้องเกรงใจพี่ชายเราหรอก อีกอย่างพี่ชายเราก็กลับดึกด้วย

                    ไม่ใช่อย่างนั้นนะคือว่า ถ้าเธอเข้าไปทำธุระแล้วต้องนอนค้างในเมืองล่ะ เราก็ต้องอยู่บ้านกับพี่ชายเธอแค่ 2 คนน่ะซิ แล้วทีนี้เราจะทำไงล่ะ เราไม่ได้สนิทกับพี่ชายเธอซะหน่อย นัฐมนพูดอย่างหวั่นใจ ใช่ว่าเธอจะกลัวผู้ชาย แต่ถ้าอยู่กันสองต่อสองเธอก็ต้องคิดถึงความปลอดภัยของตนเองไว้ก่อน

                    เอาอย่างนี้ละกัน ถ้าเรามีธุระเธอไปค้างกับเรา หรือไม่เราจะบอกพี่ชายไปนอนที่อื่นแทนละกัน

                    แต่นี่บ้านพี่ชายเธอนะ

                    เชื่อเราเถอะน่า ไม่เป็นอะไรหรอกพื่ชายเราไม่ว่าหรอก แล้วอีกอย่างช่วงนี้เราก็ไม่ได้ไปธุระที่ไหนอยู่แล้ว

                    อืม เราว่าให้มันเกิดก่อนค่อยว่ากันอีกทีละกัน เรานี่ก็คิดมากจัง ว่าแล้วนัฐมนก็หัวเราะออกมาเบาๆ แล้วเดินเข้าบ้านไปก่อนจะหันมาเร่งเพื่อนที่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิม

                   

                   

                    เสียงเคาะประตูห้องที่ดังขึ้นทำให้นัฐมนต้องวางมือจากการจัดเก็บเสื้อผ้าเพื่อไปเปิดประตู แล้วหญิงสาวก็ต้องแปลกใจเมื่อเปิดประตูออกมาเจอเพื่อนกำลังยืนส่งยิ้มมาให้อย่างอารมณ์ดี

                    ไปกินข้าวกัน ว่าแล้วก็ฉุดมือเพื่อนสาวของตนออกไปจากห้องทันที

                    นี่จะรีบไปทำไมกัน ถึงจะบ่นออกไปอย่างนั้น แต่เท้าก็ยังก้าวอย่างรวดเร็วตามแรงฉุดของเพื่อน

                    เรามีคนจะแนะนำให้รู้จัก รู้มั้ยเธอโชคดีมากเลยนะที่ได้เจอทั้งๆ ที่เพิ่งจะมาพักวันแรกแท้ แถมยังได้รับเชิญให้ทานมื้อเย็นอีกด้วย เพียงพิณกล่าวอย่างอารมณ์ดีเป็นพิเศษ พลางก็ผ่อนฝีเท้าลงเมื่อเห็นเพื่อนเริ่มหอบเล็กน้อย อะไรกันเดินแค่นี้ก็เหนื่อยซะแล้ว คงจะไม่ออกกำลังกายเลยล่ะซิท่า ไม่เปลี่ยนเลยนะยัยนัฐมน แล้วเพียงพิณก็หัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อเพื่อนหันมาค้อนให้วงใหญ่พร้อมทั้งปล่อยมือจากนัฐมนเพื่อไปขยี้ผมแทน

                    ก็รู้นี่นายังจะพาเราเดินเร็วอีก เสียงที่เปล่งออกมาบ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเพื่อนของเธอเริ่มงอนแล้ว เป็นอย่างนี้ทุกทีซิน่า ล้อเรื่องออกกำลังกายทีไรโกรธทุกทีถึงเธอจะรู้แต่ก็ยังนำเรื่องนี้มาแกล้งเพื่อนบ่อยๆ

                    โอ๋ๆ เราแซวนิดเดียวเองทำเป็นโกรธไปได้ เมื่อเห็นว่าเพื่อนยังไม่หายงอนเธอจึงเริ่มใช้วิธีการเหมือนอย่างตอนสมัยเด็กๆ เพื่อให้เพื่อนหายงอน โดยการยกนิ้วก้อยขึ้นมาขอคืนดี เกี่ยวก้อยกันนะอย่างอนซิเดี๋ยวไม่สวย เมื่อเห็นว่าเพื่อนไม่ได้หลงกลมุขเดิมของเธอ เพียงพิณจึงเริ่มคิดหาแผนการใหม่ เอ พรุ่งนี้เรามีงานนี่นา คืนนี้เราคงจะต้องเข้าไปในตัวเมืองแล้วล่ะ แล้วพี่ชายเราก็ต้องกลับมาทำงานต่อที่บ้านด้วยซิทำไงดีนะได้ผล ทันทีที่เพียงพิณกล่าวจบนัฐมนก็หันขวับมาทันที

                    อะไรนะ นัฐมนกล่าวออกมาอย่างไม่อยากเชื่อ นัฐมนกล่าวออกมาอย่างไม่อยากเชื่อ ก็ไหนเธอบอกว่าจะไม่ได้ไปธุระที่ไหนไงล่ะ แล้วพรุ่งนี้เธอจะไม่อยู่ได้ยังงัย ผิดสัญญานี่นา

                    นี่ไงหายงอนแล้ว

                    แล้วหญิงสาวก็เหมือนเพิ่งจะรู้ตัวว่าหลงกลเพื่อนไปซะแล้วจึงขมวดคิ้วเข้ม แต่ก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้เมื่อคิดไปถึงช่วงวัยเด็ก เพื่อนของเธอมักจะเป็นอย่างนี้เสมอ  ทุกๆ ครั้งที่เธองอน เพียงพิณก็มักจะทำเรื่องตลก ชวนไปเที่ยว ไปเลี้ยงข้าว หรือทำทุกวิถีทางที่จะทำให้เธอหายงอน ซึ่งมันก็ได้ผลทุกทีเพราะเธอมักจะหายงอนอย่างรวดเร็ว

                    พรุ่งนี้ห้ามไปไหนด้วย นัฐมนพูดออกมาอย่างโกรธเมื่อรู้ว่าหลงกลเพื่อน แต่ก็พอจะดูออกว่าเอหายงอนแล้ว

                    จ้าๆ เพียงพิณพูดอย่างเอาอกเอาใจ ก็ไม่ได้จะไปที่ไหนหรอกนะ แค่ขู่ไปเท่านั้นเอง ไม่อย่างงั้นเพื่อนเธอจะหายโกรธง่ายๆ อย่างนี้เหรอ                

     

     

                    เมื่อหญิงสาวทั้งสองเดินมาถึงโต๊ะทานอาหารก็พบว่ามีบุคคลที่เพียงพิณเพื่อนของเธอจะแนะนำให้รู้จักมานั่งรออยู่ก่อนแล้วหญิงสาวรู้สึกคุ้นตากับบุคลิกของชายหนุ่มผู้นี้มาก แต่คิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก คล้ายกับชายหนุ่มจะรู้สึกได้ถึงสายที่จ้องมองมายังตน เขาจึงหันกลับมามองทางด้านหลัง เมื่อพบว่าเป็นนัฐมนและเพียงพิณชายหนุ่มก็รีบลุกขึ้นยืนด้วยท่วงท่าสง่างาม แล้วส่งยิ้มอันอบอุ่นมาทางหญิงสาวทั้งสอง

                    อ้าวพี่ชายมารอนานแล้วเหรอคะ

                    อืม ถึงแม้ปากจะตอบน้องสาวออกไปเช่นนั้น แต่สายตากลับไม่ได้หันไปมองทางน้องสาวเลย แต่กลับมองสำรวจใบหน้าของคนที่มากับน้องสาวของตาเอง ซึ่งมันส่งผลให้ใบหน้าของนัฐมนร้อนผ่าว

                    พี่ชายคะนี่ นัฐมน เพื่อนของพิณชายหนุ่มเพียงแต่พยักหน้ารับเมื่อหญิงสาวยกมือไหว้ ส่วนนี่พี่ชายของเราเอง ชื่อ พี่ธีธัช หรือนัฐจะเรียกพี่ธีเฉยๆ ก็ได้

                    รู้สึกว่าเราจะเคยเจอกันมาครั้งนึงแล้วนะครับ ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มน่าฟัง

                    ค่ะ หญิงสาวตอบกลับไปด้วยท่าทางขัดเขิน ก็จะไม่ให้เขินได้ยังไงล่ะในเมื่อชายหนุ่มจ้องเธอไม่วางตาขนาดนี้

                    รู้จักกันแล้วเหรอคะ ทำไมพิณไม่เห็นรู้เรื่องเลย เพียงพฺรพูดขึ้นมาทำลายคววามเงียบเมื่อทั้งหมดนั่งลงบนโต๊ะอาหารเรียบร้อยแล้ว

                    ก็รู้จักกันตอนที่น้องนัฐมนเดินมาเก็บดอกปีบน่ะ พอดีว่าพี่กลับมาเอาเอกสารที่บ้านพอดี

                    นี่พี่ธีเรียกนัฐเฉยๆ ก็ได้

                    นี่ยัยพิณเจ้าของชื่อเค้ายังไม่ทันว่าอะไรเลยนะ ธีธัชหันไปตำหนิน้องสาว

                    ถ้าอย่างนั้นก็ถามนัฐดูซิ พลางพยักเพยิดไปทางนัฐมน

                    พี่เรียกว่าน้องนัฐได้รึเปล่าครับ ธีธัชหันมาถามนัฐมน

                    แล้วแต่คุณธีซิคะ นัฐมนพูดเสียงเบา

                    ทำไมไม่เรียกพี่ชายว่าพี่ธีล่ะ เพียงพิณหันกลับมาถามนัฐมนอย่างสงสัย แล้วหหญิงสาวก็ต้องหัวเราะออกมาเมื่อเห็นเพื่อนมองไปทางธีธัชอย่างหวั่นๆ นี่ยัยนัฐเธอกลัวพี่ชายเราเหรอ เราแค่ล้อเล่นเองนะพี่ชายเราไม่ได้โหดอย่างที่เธอคิดหรอกว่าแล้วหญิงสาวก็หัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดี

                    ก็ไหนเธอบอกว่าพี่เธอดุไงล่ะ เราเลยไม่กล้ามองหน้าน่ะซิ แล้วอีกอย่างเมื่อตอนค่ำเราก็เดินบุกรุกเข้ามาในบริเวณบ้านพี่เธอด้วย คิดว่าจะโดนพี่ชายเธอว่าแล้วซะอีก กล่าวจบหญิงสาวก็หันไปทางชายหนุ่มก็พบว่าเขากำลังมองเธอพลางส่งยิ้มอย่างขบขันมาให้

                    เห็นผมดุขนาดนั้นเลยเหรอครับ

                    หญิงสาวเพียงแต่ส่งยิ้มเจื่อนๆไปให้ชายหนุ่ม ก่อนจะหันหน้ามาทางเพื่อนด้วยสายตาเอาเรื่องที่มาแกล้งเธอจนเธอเชื่อสนิทใจ

                    สงสัยนัฐจะหิวแล้ว ทานกันเลยนะคะ เพียงพิณรีบเปลี่ยนเรื่องทันที แล้วหันไปสั่งให้เด็กนำอาหารมาจัดโต๊ะได้เลย

                    ระหว่างอาหารมื้อนั้นเพียงพิณพยายามเอาใจนัฐมนทุกอย่าง เธอกลัวว่าหญิงสาวจะโกรธขึ้นมาจริง จนนัฐมนต้องแอบลอบยิ้มกับตนเอง ที่จริงเธอก็ไม่ได้โกรธอะไรหรอกเพียงแค่อยากจะแกล้งเพื่อนคืนเท่านั้นเอง

                    ชายหนุ่มลอบมองหญิงสาวที่ถูกเพื่อนเอาอกเอาใจ คอยตักอาหารให้ ตลอดจนชวนคุยต่างๆนานา แล้วก็แอบหัวเราะกับตนเองเบาๆ เขาไม่เคยเห็นน้องสาวเอาใจใครขนาดนี้มาก่อน ส่วนมากแล้วจะมีแต่คนมาคอยเอาอกเอาใจเสียเป็นส่วนใหญ่ เขาชักจะสนใจสาวน้อยตรงหน้าคนนี้มากขึ้นเรื่อยซะแล้ว อะไรนะที่ทำให้เธอสามารถสยบน้องสาวของเขาได้ อีกทั้งแววตาเศร้าๆ คู่นั้นอีกล่ะ แล้วเขาก็ต้องแปลกใจตนเองทำไมเขาถึงจะต้องสนใจเด็กคนนี้ด้วยล่ะ ทั้งๆ ที่ผ่านมาเขาก็ไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนมาก่อนเลย เขาคงจะแค่เอ็นดูล่ะมั้งเพราะว่าเธอเป็นเพื่อนน้องสาวก็เป็นเหมือนน้องสาวของเขาอีกคน 

     

     

                    หลังจากทานอาหารเสร็จธีธัชก็ขอตัวก่อนเนื่องจากมีโทรศัพท์เข้ามา นัฐมนกับเพียงพิณจึงชวนกันออกมาเดินเล่นเพื่อย่อยอาหาร

                    นี่เธอว่าพี่ชายเราเป็นยังไงเหรอ เพียงพิณถามขึ้นทำลายความเงียบ

                    ทำไมเหรอ

                    ก็ไม่มีอะไรถามไปงั้นๆ แหละ เพราะเราเห็นผู้หญิงมาชอบพี่ชายเราเยอะน่ะ

                    หวงพี่ชายเหรอ นัฐมนแซวอย่างล้อๆ

                    ไม่ใช่ซะหน่อย เราแค่อยากรู้น่ะ แต่ที่อยากรู้น่ะอยากรู้ว่าเธอคิดว่าพี่ชายเราเป็นยังไงแค่นั้นเองเรื่องอื่นเราไม่สนใจหรอก หญิงสาวยิ้มรอให้เพื่อนตอบคำถาม

                    ไม่รู้ซิเราเพิ่งรู้จักพี่ชายเธอเองนะ แต่เราว่าพี่ชายเธอก็นิสัยดีนะเป็นสุภาพบุรุษ

                    รู้อย่างนี้แล้วเราจะได้หมดห่วง เธอจะได้ไม่ระแวงพี่ชายเราอีกไง หญิงสาวรีบบอกออกไปเพราะกลัวว่าเพื่อนจะสงสัย

                    จ้า เราไม่สงสัยแล้วล่ะถึงยังไงเธอก็อยู่กับเราตลอดอยู่แล้ว หญิงสาวแค่พูดออกไปเพื่อทำให้เพื่อนสบายใจ

                    นี่อากาศข้างนอกเย็นจังเลยเราเข้าไปข้างในกันเถอะ

                    แล้วหญิงสาวทั้งสองก็เดินจูงมือกันเข้าไปภายในบ้าน โดยที่ต่างฝ่ายต่างกำลังขบคิดเรื่องของตนเอง

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×