The Golden Dragon

ลำดับตอนที่ #1 : ไฟดวงที่ 1 ปฐมบทภาคสงครามมังกรทอง

     ดาวปาปิรุส ดวงดาวสีทองเมื่อมองจากอวกาศ เจ้าหญิงปีศาจแห่งจักพรรคดาราจักรมองดาวดวงนี้ผ่านตาทิพย์ของตน ให้ความรู้สึกเหมือนว่า ดาวปาปิรุสมีสิ่งที่บ่งบอกถึงความลับทั้งปวง นางได้ไปเยี่ยมชมดาวดวงนั้น พอเธอมาถึงกลับพบเจอกับ......

                มังกรทอง

                มีจุดเด่นที่สีทองอร่ามสวยงาม ทำให้ดาวดวงนี้เป็นที่ดึงดูดใจของเจ้าหญิงปีศาจ คนรักของนางได้ติดตามมาดู ทั้งเขาเเละเธอสนใจมังกรทองตนนี้ แต่มังกรทองต้องการอยู่ที่ที่ตนอยู่เมื่อทั้งสองเสนอให้มังกรทองไปข้างนอก เจ้าหญิงปีศาจจึงตรัสเเก่มังกรทองว่า

                “เเล้วเเต่เจ้าเถอะ เเต่ที่นี่ข้าอยากสร้างดาวดวงนี้เป็นดาวที่มีชีวิตชีวา เพราะข้าชอบที่นี่"

                มังกรทองพอได้ฟังเเล้ว เพียงได้ฟังคำพูดสุดเเสนธรรมดา ไม่มีเส้นเสียงใดๆทั้งสิ้น ทั้งที่มังกรต้องการอยู่เพียงลำพัง เเต่ความรู้สึกบางอย่าง ที่เรียกว่า "เหงา"

                “โปรดมิโปรดแล้วแต่ท่านเถอะ"

                นี่เป็นสิ่งที่เจ้าหญิงปีศาจต้องการ นางร้องดีใจอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน เเม้คนรักของนางยังก็ยังไม่เข้าใจ สิ้นเสียงคำพูดคุย เจ้าหญิงปีศาจดิ่งตรงกลับบ้านเพื่อคัดสรรผู้คนที่ต้องการ ส่วนคนรักและมังกรทองช่วยกันเก็บกวาดดาว จากสภาพอากาศอันเลวร้ายที่ไม่มีสิ่งใดอาศัยอยู่ได้ค่อยๆ ดีขึ้น พื้นทรายเเห้งผากมีน้ำให้ความชุ่มชื้น

พื้นทรายเริ่มมีต้นไม้ใบหญ้า แล้วค่อยๆ ขยายกว้างขวางครึ่งค่อนดาว แล้วหยุดลงในที่สุด

                เมื่อเจ้าหญิงปีศาจกลับมาพร้อมผู้คนที่นางเลือก สิ่งที่เห็นไม่ได้ถูกใจนางเลย นางเลยจัดการเผาด้วยไฟสีขาวให้พื้นที่เป็นทะเลทรายบางส่วน นั่นทำให้มังกรทองไม่พอใจเป็นอันมาก มังกรทองเลยไปยังส่วนสุดตะวันออกของโลก เจ้าหญิงปีศาจเสียใจเป็นอันมาก นางได้ให้คนรักของนางไปพูดคุยกับมังกรทองเเทนนาง เมื่อไปถึงเขาก็พูดคุยกับมังกรเพื่อขอคืนดีกับเจ้าหญิงปีศาจ มังกรตกลงเเละไปคืนดีกับเจ้าหญิง เเต่มีข้อแม้ว่า ผู้คนที่เจ้าหญิงนำมาและดาวดวงนี้ เขาขอจัดการเอง

                เจ้าหญิงปีศาจตกลงเเละกลับไปยังบ้านของเธอพร้อมคนรู้ใจ มังกรทองได้จัดการให้ผู้คนอยู่ในที่ต่างๆที่อุดมสมบูรณ์ มีกลุ่มบุคคลพิเศษไม่กี่กลุ่มที่มังกรทองรักเเละห่วงใย นั้นคือ เเวมไพร์ เวมวูฟ เยติ และชาวอัสเคมิส มังกรทองได้ให้เกล็ดมังกรแก่ทั้งสามกลุ่ม ยกเว้นชาวอัสเคมิส เพราะมังกรได้ให้สิ่งที่ยิ่งกว่า

                ลมหายใจมังกร เป็นเสมือนพลังพิเศษ ชาวอัสเคมิสจะมีพลังพิเศษคือ สามารถควบคุมพลังจากธรรมชาติได้หลากหลาย เรียกว่าอัสเคมิสควบคุมธาตุ หนึ่งคนควบคุมได้หนึ่งอย่าง การสืบสายเลือดก็เป็นหนึ่งทางสืบทอดพลัง พ่อมีพลังเเม่มีพลัง ลูกก็มีพลังเข้มข้น แต่ถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่มีพลัง พลังก็น้อยลงตาม บางทีก็มีคนที่มีพลังที่เหนือกว่าชาวอัสเคมิสทั่วไป สามารถควบคุมพลังได้มากกว่าสองอย่าง พลังพิเศษก็ใช่ว่าจะมีการง่ายๆ เพราะมันก็เหมือนกับถูกล๊อกเตอร์รี่รางวัลที่หนึ่ง

                ทั้งเเวมไพร์ เวมวูฟ เยติ มังกรได้ให้อยู่ในที่เหมาะสมกับตนเอง เเวมไพร์อยู่ที่หุบเขาโอโดโรโดรอน เหวลึกเเม้เเสงอาทิตย์มิอาจส่องถึง เวมวูฟอยู่ ณ ป่าเหนือหุบเขาโอโดโรโดรอน เยติที่ยอดเขาเอลฟ์ ส่วนอัสเคมิสได้ให้อยู่ร่วมกับผู้คนทั่วไป กระจัดกระจายไปทุกส่วนของดาว

                ทางด้านมังกรทองจะคอยดูแลความทุกข์สุขของทุกชนเผ่าที่สุดเลยตะวันออกของโลก เเละตั้งชื่อดาวว่า

ปาปิรุส ตามพระนามเล่นของเจ้าหญิงปีศาจ ความสงบสุขเกิดขึ้นเป็นเวลาหลายร้อยหลายพันปี ทำให้จิตใจของผู้คนบางกลุ่มเกิดความคิดบางอย่างที่เรียกว่า "อิจฉา" ต่อชาวอัสเคมิสที่ได้รับสิทธิพิเศษหลายๆอย่าง พวกเขาเดินทางไปยังดินแดนสุดตะวันออกเพื่อขอพบมังกรทอง ผ่าฟันกับอันตรายที่เกิดจากไฟของเจ้าหญิงปีศาจหลายต่อหลายอย่าง สิ่งที่เขาต้องการจากมังกรทอง คือให้ชาวอัสเคมิสทุกคนไร้พลัง!!!!!!!!!!!!!!!!

                มังกรทองให้คำปฏิเสธด้วยคำพูดธรรมดาเหมือนกับเคยฟังคำพูดนี้เมื่อนานมาแล้ว

                “แล้วแต่เจ้าเถอะ แต่ข้าต้องการให้อัสเคมิสอยู่ที่นี่ เพราะข้าชอบพวกเขาพอๆกับพวกเจ้า"

                เมื่อมังกรทองพูดเช่นนั้น เหมือนกับจุดไฟต้มน้ำให้เดือดเเรงขึ้น พวกเขากลับบ้านเมืองของตนด้วยพลังของมังกรอย่างปลอดภัย พวกเค้ายังต้องเก็บความแค้น เกลียจชัง และอิจฉาไว้ในใจเพียงลำพัง ยกเว้นผู้ริเริ่มความคิดคนเเรก...... โลกิ

                โลกิเป็นเพียงเด็กหนุ่มธรรมดา แต่อยู่ท่ามกลางชาวอัสเคมิสมาแต่เด็ก ไม่มีใครรู้ว่าเพราะอะไรถึงทำให้เขาจงเกลียดจงชังชาวอัสเคมิส โลกิหนีจากเมืองปิรุส(เมืองหลวง)เพื่อออกตามหาคนที่มีความคิดเหมือนตน ถึงจะน้อยเมื่อมองจากสายตาผู้อื่น สำหรับโลกินี่มันมากพอ พวกเขาจึงคิดหาวิธีต่างๆที่ทำให้พวกตนชอบใจ สิ่งที่คิดได้หลายวิธี ก็ไม่มีผลใดๆ โลกิจึงตัดสินใจไปพบกับมังกรทอง และผิดหวังกับคำพูดของมังกร

                ในเมื่อมังกรไม่ทำในสิ่งที่เขาต้องการ โลกิจึงเดินทางไปตะวันออกอีกครั้ง!!!!! เเต่ไม่ใช่เพื่อมังกร สิ่งที่เขาต้องการคือ ไฟทั้ง ๕ ของเจ้าหญิงปีศาจ

                มีเพียงโลกิที่รู้วิธีเก็บไฟจากเทพชั่วร้ายองค์หนึ่ง เมื่อไฟทั้งห้ามารวมกัน จะทำให้เกิดภัยพิบัติจากธรรมชาติ ๕ อย่าง จากดิน น้ำ ลม ไฟ และสายฟ้าเเค่เพียงภัยพิบัติทั้งห้าก็ได้ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างไปเกือบหมด ไม่เพียงเเค่นั้นเขายังได้รับกองทัพโยไคเพื่อกำจัดคนที่มาขัดขวางเขา มังกรทองพยายามที่จะไม่ทำร้ายโลกิ ไม่ว่ามังกรทองจะทำอย่างไร โลกิก็จะทำลายเเละยิ่งบ้าคลั่งกว่าเดิม เจ้าหญิงปีศาจมาพบเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดจึงมาช่วยมังกรทอง คือเธอจะไปเก็บไฟของเธอจากโลกิ แต่มังกรทองต้องยอมรับผลที่จะตามมาด้วย

                วิธีที่จะได้ไฟจากมือชั่วร้าย คือจะต้องแยกไฟเป็นห้าส่วนให้กระจัดกระจายไปทั่วทั้งดาวอย่าให้ไฟมันมารวมกันด้วยไฟที่ยิ่งใหญ่กว่า คือ....ไฟชีวิตของมังกรทอง

                หมายถึงจะต้องแลกด้วยชีวิดของมังกรทองทั้งหมด มันเป็นการตัดสินใจที่ยากเย็น เเม้มังกรทองจะไม่แก่ แต่ใช่ว่าจะไม่ตาย ความตายเพียงหนึ่งอาจช่วยชีวิตได้อีกหลายชีวิต มังกรเลือกทำตามคำบอกของเจ้าหญิงปีศาจ มังกรทองได้ตัดสินใจเเล้วและพร้อมทำตามทุกอย่าง

                โลกิเองเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้กับมังกรทอง เเละปกครองโลกใบนี้เเทน เวลาที่โลกิรอคอยผ่านไปเจ็ดวันก็ไม่ปรากฏร่างมังกรให้เห็น กองทัพโยไคบุกวังมังกรตามคำสั่งการ เพียงเสี้ยววินาทีกองทัพทั้งหมดหายไป!!!!เหมือนภาพวาดถูกลบด้วยยางลบที่มองไม่เห็น เหลือเพียงโลกิผู้เดียวยืน ณ ที่นั้น

ดวงตาโลกิปรากฏภาพมังกรทองพุ่งเข้าหาตน ไฟทั้งห้าเเยกตัวออกจากร่างโลกิกระจายไปทั่วดาว ไฟชีวิตมังกรทองและร่างกายโลกิถูกนำพาไปยังเลยสุดขอบตะวันออกเหนือโลก จบสิ้นสงคราม.... จบสิ้นความเเค้น ...... จบสิ้นทุกอย่าง..... สักที

             ผู้คนที่รอดเเม้จะสุญเสียสิ่งที่รักจากสงคราม ขอเพียงกำลังใจที่จะสู้ ความหวังของวันใหม่ไม่มีวันหายไปแน่นอน ผู้คนทุกชนเผ่ารวมทั้งเจ้าหญิงปีศาจช่วยกันซ่อมเเซมส่วนเสียหายเท่าที่จะทำได้ มีสิ่งที่หายไปหลายอย่าง นั้นคือชาวอัสเคมิสเหลือน้อยกว่าเดิมมากเมื่อเทียบกับผู้คนอื่นๆ และเมืองเเต่ละเมืองถูกกั้นด้วยทะเลทรายหรือทะเล ทำให้การติดต่อสื่อสารขาดออกจากกัน เจ้าหญิงจึงขอร้องให้น้องชายน้องสาวทั้งสามนำสิ่งใช้ติดต่อ น้องชายทั้งสองนำนกอินทรีเเละนกพิราบ ส่วนน้องสาวนำนกฮูกมามอบเเก่ดวงดาว ทำให้เมืองเเต่ละเริ่มพัฒนาตนเองไม่เท่ากัน ใช้นกทั้งสามในการติดต่อสื่อสารข้ามไปยังเมืองต่างๆ

พอดาวปรับปรุงไปได้มากพอสมควร ก็ถึงเวลาจากกัน เจ้าหญิงปีศาจเเละน้องๆต้องกลับไปยังสถานที่ตนเองอยู่ สิ่งที่เจ้าหญิงทิ้งท้ายไว้ คือคำพูดที่เธออยากจะพูดกับดวงดาวไว้

“ต่อให้เมืองสงบลงนานมากเพียงไร ก็เหมือนกับพายุมาหลังฟ้าใส ความเกลียจชังก็ต้องเกิด แต่มังกรจะส่องสว่างให้เมื่อทุกคนสิ้นหวัง"

                สิ้นเสียงนางผู้คนทั้งหลายถูกเจ้าหญิงปีศาจลบความทรงจำด้วยพลังของนางเอง ผู้คนลืมทุกอย่าง ทุกๆเรื่อง  รวมทั้งลืม.....มังกรทอง