ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กรรมสิทธิ์ซาตาน (e-book)

    ลำดับตอนที่ #9 : ตอนที่ 3 : 130%

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.13K
      22
      13 พ.ค. 62



    ด้านเอมิกาที่กลับถึงบ้านตอนสี่ทุ่ม หลังจากอาบน้ำเสร็จก็เตรียมเข้านอน จริงๆแล้วเธอส่งผักเสร็จตั้งแต่ก่อนเที่ยงแต่เพราะเข้ากรุงเทพฯไม่บ่อยนักจึงแวะไปหาทวีชัยกับกรรณิการ์อยู่คุยกันจนถึงบ่ายพอตกเย็นก็ออกไปกินหมูกระทะอีก เป็นอันว่าการเข้ากรุงเทพฯของเธอครั้งนี้ใช้เวลาได้คุ้มค่าจริงๆ ยังดีที่ในรถมีกล่องโฟมเก็บความเย็นไม่อย่างนั้นเนื้อสัตว์ที่ซื้อมาจากตลาดได้เน่าคารถแน่ๆ

                    ขณะที่ร่างบางกำลังจะล้มตัวลงนอนเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เอมิกาหยิบขึ้นมาดูหน้าจอคิ้วเรียวขมวดเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์สวยที่โทรหาเธอเมื่อตอนสายๆแต่ไม่พูดอะไร ดวงตากลมโตเหลือบขึ้นมองนาฬิกาโดยอัตโนมัติ ห้าทุ่มเวลานี้คงไม่ใช่เทเลเซลล์ที่โทรขายของทางโทรศัพท์แน่ ด้วยความสงสัยและอยากรู้ว่ามีใครต้องการเล่นตลกอะไรหรือเปล่าเธอจึงรับสาย

    “สวัสดีค่ะ” เอมิกาได้ยินเพียงเสียงลมที่ดังเข้ามาในสาย...  หญิงสาวลดโทรศัพท์ในมือเพื่อมองที่หน้าจอพอเห็นว่ายังใช้งานอยู่ปกติจึงเอากลับไปแนบไว้ที่หู ปลายสายยังไม่มีคำพูดใดๆเหมือนเคย หญิงสาวจึงพูดกลับไป

                    “ถ้าโทรมาแล้วไม่พูดทีหลังก็ไม่ต้องโทรมาอีก ถ้าว่างจัดก็ไปหาอะไรทำที่เป็นประโยชน์ ถ้าจิตไม่ปกติก็ไปบำบัดซะอย่าโทรมารบกวนชาวบ้านเขา แล้วพี่ก็จะขอเตือนนะไอ้น้องถ้ามีครั้งที่สามพี่จะไม่ทน อ้อ... แต่พี่ว่าทางที่ดีน้องควรจะรีบหาทางบำบัดเร็วๆนะจะได้ไม่ไปสร้างความเดือดร้อนรำคาญใจให้คนอื่นเขาที่พูดเนี่ยเข้าใจมั้ย ไอ้โรคจิต!” เอมิกาหยุดพักหายใจ เธอได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ คิดในใจแบบนี้ชัดเลยพวกโรคจิตชัวร์ หายเหนื่อยจากประโยคแรกและเห็นว่าไอ้โรคจิตยังอยู่ในสายหญิงสาวก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ จะว่าไปคนพวกนี้ก็น่าสงสารเขาคงมีปัญหาชีวิตหรือไม่ก็คงมีเรื่องอะไรที่กระทบกระเทือนจิตใจจนทำให้พวกเขาต้องเป็นแบบนี้ก็ได้ ลองพูดกับเขาดีๆหน่อยก็แล้วกัน ถือซะว่าเอาบุญ

                    “นี่น้องถ้าน้องป่วยทางจิตพี่ว่าไปหาหมอบำบัดดีไหม เดี๋ยวพี่จะลองนึกดูนะว่าพอจะรู้จักจิตแพทย์บ้างหรือเปล่าถ้านึกออกพี่จะโทรไปบอกนะ แต่วันนี้วางสายไปก่อนเถอะพี่เหนื่อยอยากนอนจะแย่แล้ว” โมเมแทนตัวเองว่าพี่ซะเลยอีกฝ่ายจะได้มีความเกรงใจบ้าง ตอนนี้หญิงสาวเองก็ชักจะไม่แน่ใจแล้วว่าเธอกำลังจะบ้าไปอีกคนหรือเปล่าที่เดี๋ยวก็โกรธเดี๋ยวก็สงสารไอ้โรคจิตนี่น่ะ

                    อีกแล้ว... ไอ้โรคจิตหัวเราะหึๆอีกแล้ว นอกจากหัวเราะเหมือนพวกโรคจิตไอ้บ้านี่มันไม่คิดจะพูดอะไรออกมาบ้างเลยหรือไง แล้วที่พูดไปตั้งเยอะได้ฟังบ้างไหมเนี่ย แบบนี้เห็นทีว่าคนที่จะเสียสติไปก่อนคงเป็นตัวเธอเองแน่ๆ อุตส่าห์ใจดีอยากจะช่วยแต่เมื่อไม่ให้ความร่วมมือก็เป็นไอ้โรคจิตแบบนี้ต่อไปก็แล้วกัน เอมิกากำลังจะเอาโทรศัพท์วางไว้ทั้งๆที่ยังไม่ได้วางสายเสียงทุ้มก็ดังขึ้นก่อนที่สายจะถูกตัดไป

    “ผมไม่ใช่โรคจิต”




                    เจ็ดโมงเช้า อานนท์เดินเข้ามาในบ้านพักตากอากาศของอนาวิน เดินตามหาจนทั่วบ้านแต่ก็ไม่พบเจ้านาย งานเปิดตัวกรีนวิวกอล์ฟแอนด์สปอร์ตคลับจะมีตอนเก้าโมง แล้วตอนนี้อนาวินหายไปอยู่ไหน โทรศัพท์ไปหาก็โทรไม่ติด

                    อานนท์เปิดประตูห้องนอนของอนาวินแต่ภายในห้องว่างเปล่า เตียงนอนเรียบตึงบ่งบอกว่าเมื่อคืนที่ผ่านมามันไม่ได้ถูกใช้งาน กำลังคิดว่าเจ้านายเขาไปนอนที่ไหน หางตาเหลือบเห็นเหมือนมีคนนอนอยู่ที่ระเบียง

                    “คุณวิน!” อย่าบอกนะว่าเจ้านายของไอ้นนท์นอนที่ระเบียงทั้งคืน แต่จากที่เห็นอยู่ตอนนี้ อนาวินอยู่ในชุดนอนในมือถือโทรศัพท์เขาคงคิดเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้

                    “คุณวินตื่นเถอะครับ”

                    เสียงปลุกทำให้อนาวินขยับตัว จากนั้นก็ค่อยๆลืมตาขึ้น

                    “ทำไมคุณวินถึงมานอนอยู่ตรงนี้ล่ะครับ ทำไมไม่นอนในห้อง”

                    อนาวินไม่ตอบ เขาถามกลับ “กี่โมงแล้ว” 

                    “เจ็ดโมงแล้วครับ คุณวินรีบไปเตรียมตัวเถอะครับ แล้วผมขอโทรศัพท์ด้วยจะได้เอาไปชาร์ตแบตให้ครับ” อานนท์บอก

                    อนาวินส่งโทรศัพท์ให้เลขาคนสนิทก่อนจะลุกขึ้นเดินเข้าห้องนอนเพื่ออาบน้ำเตรียมตัวไปงาน เมื่อคืนเผลอหลับไปตอนไหนเขาไม่รู้ตัวเลย และที่น่าแปลกใจคือเขาหลับสนิททั้งคืนจนกระทั่งอานนท์มาปลุก ไม่อยากจะเชื่อเขาหลับสนิททั้งๆที่เตียงสำหรับนอนอาบแดดก็ไม่น่าจะทำให้เขาหลับสบายได้สักเท่าไหร่เลย

                    อานนท์มองตามหลังเจ้านายไปอย่างไม่เข้าใจ เตียงขนาดคิงไซต์ที่นอนนุ่มๆมีทำไมไม่นอน มานอนบนเตียงเล็กๆที่แค่พลิกตัวนิดเดียวก็ตกลงไปกองกับพื้นนี่ทำไม ไม่เมื่อยบ้างหรือไง เจ้านายเขานี่นับวันก็ยิ่งจะทำอะไรแปลกๆขึ้นทุกวัน

    แล้วไหนยังเรื่องที่ให้คนไปตามเฝ้าคุณเอมิกาตั้งแต่ตื่นนอนจนถึงเข้านอนอีก หากไม่รู้มาก่อนว่าอนาวินสั่งให้ทำแบบนั้นเป็นเพราะต้องการที่ดินของหญิงสาวมากล่ะก็ เขาจะคิดว่าเจ้านายของเขาหลงรักหญิงสาวจนจะเป็นคนโรคจิตเข้าไปทุกทีแน่ๆ แต่หากจะว่าไปแล้วการที่อนาวินทำแบบนี้มันก็เท่ากับเป็นการคุกคามชีวิตของคุณเอมิกาอยู่ดี

    อานนท์รอจนอนาวินอาบน้ำแต่งตัวเสร็จก็ออกจากบ้านพักตากอากาศ มาถึงกรีนวิวกอล์ฟแอนด์สปอร์ตคลับก่อนเวลาเล็กน้อย บรรดาเมมเบอร์กระเป๋าหนักที่เชิญมาร่วมงานเริ่มทยอยมากันบ้างแล้ว แต่ที่อานนท์แปลกใจก็คือชายสองคนที่กำลังเดินตรงเข้ามาหาอนาวิน งานในวันนี้ทางกรีนแลนด์จ้างบริษัทออแกไนซ์ที่เป็นของคุณโฉมสอางค์ญาติห่างๆของอนาวิน ดังนั้นพนักงานของกรีนแลนด์ก็น่าจะมีแค่คนที่ประสานงานกับทางออแกไนซ์และเจ้าหน้าที่บริการลูกค้า แล้วผู้อำนวยการฝ่ายบุคคลมาทำอะไรที่งานเปิดตัวสนามกอล์ฟกับสปอร์ตคลับ

    “สวัสดีครับคุณอนาวิน”

    “น่าแปลกใจนะที่ผมมักจะเห็นคุณวิชิตในหลายบทบาท วันก่อนเป็นนายหน้าซื้อขายที่ดิน วันนี้มาเจอในงานเปิดตัวโครงการสนามกอล์ฟ” อนาวินเอ่ยเรียบๆแต่คนฟังรู้ตัวดีว่ากำลังถูกประชด

    “เอ่อคืออย่างนี้ครับ นี่ภาสกรลูกชายผมเองครับ เขามารับตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายเซอร์วิสที่นี่ ผมก็เลยตามมาช่วยดูแลความเรียบร้อยของงานน่ะครับ” วิชิตตอบคำถามพร้อมทั้งแนะนำลูกชาย “แต่คุณอนาวินไม่ต้องเป็นห่วงนะครับลูกชายผมผ่านการคัดเลือกและทดสอบความรู้ความสามารถมาอย่างถูกต้อง ไม่ใช้เส้นสายตามกฎของบริษัทแน่นอนครับ” วิชิตรีบบอก เพราะรู้ดีว่ากรีนแลนด์ดีเวลลอปเม้นท์ไม่มีนโยบายรับเด็กเส้นที่ไม่มีความสามารถ

                    “คุณวินครับใกล้เวลาแล้วรีบไปเถอะครับ” อานนท์เตือน อนาวินพยักหน้าเบาๆมองเลยผ่านสองคนพ่อลูกไปเหมือนไม่เห็นความสำคัญ แต่เมื่อออกมาไกลพอสมควรเขาก็เอ่ยกับเลขาคนสนิท

                    “ฉันไม่ไว้ใจสองพ่อลูกนั่น นายรู้ใช่ไหมว่าต้องทำยังไง”

                    “ครับคุณวิน” อานนท์รับคำเบาๆ เขารู้สึกว่าคำพูดที่ว่ากับคนบางคนเราอาจจะไม่ถูกชะตาตั้งแต่แรกเจอหรือที่เรียกว่าเคมีไม่ตรงกันนั้นเกิดขึ้นกับตัวเขาตอนที่เห็นหน้าลูกชายของผู้อำนวยการฝ่ายบุคคลนั่น


    @@@@@@@@@@

    ฝากอีบุ๊กด้วยนะคะ


    กรรมสิทธิ์ซาตาน
    สิตางศุ์
    www.mebmarket.com
    (เรื่องนี้เคยตีพิมพ์แล้วนะคะ)“คุณทำให้ผมกลายเป็นคนไม่รู้จักพอ”ในค่ำคืนที่ ‘เอมิกา’ หญิงสาวที่มีชีวิตธรรมดาๆ และไม่มีอะไรโดดเด่นต้องตกเป็นของมหาเศรษฐีหนุ่มรูปหล่ออย่าง ‘อนาวิน’ ซาตานที่แสนเร้าใจ  หญิงสาวก็ไม่คิดเลยว่าด้วยสัมพันธ์ทางกายเพียงข้ามคืนนั้นจะทำให้เธอต้องสูญเสียสิ่งที่หวงแหนที่สุดในชีวิตไม่ใช่แค่เพียงความสาวเท่านั้นที่เขาได้ครอบครอง แต่ยังรวมไปถึง ‘ที่ดินมูลค่ามหาศาล’ซึ่งถูกเขาปล้นไปพร้อมสถานภาพใหม่ที่เธอจำใจต้องยอมรับ ‘ภรรยาตีทะเบียนที่แถมไปกับโฉนด’เพื่อเป็นการค้ำประกันชื่อเสียงของเธอ เผื่อว่าเธออาจจะตั้งครรภ์ทายาทของเขา!แต่ ‘ความลับ’ ที่อนาวินรู้ดีแต่เพียงผู้เดียวก็คือ เอมิกาไม่มีทางตั้งครรภ์เพราะเรื่องราวบนเตียงในคืนนั้นเขายังไม่ได้รุกล้ำหรือล่วงเกินเธอเลยแม้แต่น้อยถึงแม้เธอจะดูยั่วยวนและปลุกเร้าไฟปรารถนาในกายของเขาจนแทบลุกไหม้สักแค่ไหนก็ตามแต่ในเมื่อเอมิกาเข้าใจผิดและคิดไปเองว่าเธอถูกเขาครอบครองตีตราCEO หนุ่มที่บริหารงานอย่างเฉียบขาดและคิดถึงแต่เรื่องตัวเลขของผลกำไรอย่างอนาวินจึงไม่คิดรีรอที่จะฉวยโอกาสสวมรอยในฐานะ ‘สามีคืนเดียว’ เพื่อกรรมสิทธิ์ผืนดินที่เธอเป็นผู้ถือครองโดยที่อนาวินเองไม่เคยคิดเลยว่า พันธะสมรสจอมปลอมที่ปราศจากความรักในครั้งนี้กำลังทำให้เขาหลงเสน่ห์ของเหยื่อชนิดเกือบจะถอนตัวไม่ขึ้นยิ่งภรรยาคนสวยมีผู้ชายคนอื่นแสดงท่าทีสนใจและเข้ามาพัวพัน เขาก็ยิ่งหึงหวงจนบ้าคลั่งและตอนนี้ซาตานตัวร้ายก็เดินเข้ามาสู่ทางแยกที่ต้องเลือก ระหว่าง...‘ที่ดิน’ หรือ ‘เธอ’ ในฐานะภรรยาที่แท้จริงจนกระทั่ง ‘ความลับ’ ที่ว่าหญิงสาวยังไม่เคยตกเป็นของเขาถูกเปิดเผยออกมาซึ่งความลับสำคัญนี้จะทำให้ผู้ชนะอย่างอนาวินต้องกลายเป็นผู้แพ้และต้องชดใช้ให้กับเธอด้วยใบหย่าที่เอมิกาพร้อมจะเซ็นเพื่อเป็นการแก้แค้น!



    เงื่อนร้ายกับดักรัก
    สิตางศุ์
    www.mebmarket.com
    “สมัยเรียนคุณตกวิชาคณิตศาสตร์หรือเปล่า ถึงได้นับเลขผิดไปเยอะขนาดนี้ ผมว่าคืนนั้นเราสองคนแตะขอบฟ้าพร้อมกันไม่ต่ำกว่าสี่ครั้งนะ อ้อ ยังไม่นับรวมที่ผมทำให้คุณกรีดร้องอย่างมีความสุขอีก...”นักธุรกิจหนุ่มผู้เชี่ยวชาญทางด้านผู้หญิง ‘หัสดิน ธาดาโชติสกุล’ กำลังเผชิญปัญหา เมื่อเขาต้องการนำทรัพย์สินซึ่งเป็นมรดกจากพ่อผู้ล่วงลับมา ‘ประมูล’ เพื่อการกุศล เพราะแม้จะเคยมีความสามารถในการจัดการกับบัญชีรายชื่อคู่ควงที่ผ่านมา แต่กับบัญชีข้าวของที่จะนำไปประมูลเขากลับจนปัญญา จนกระทั่งหญิงสาวแปลกหน้าอย่าง ‘รัณนภัทร’ เข้ามาเสนอตัวช่วยเหลือ และชายหนุ่มก็ยอม‘ว่าจ้างเธอ’ ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าหญิงสาวจะต้องยอมเป็น ‘ลูกจ้าง’ และ ‘คนรัก’ ของเขาไปพร้อมๆ กัน! แม้ว่า ‘การเสนอตัว’ เข้าไปทำงานให้ชายหนุ่มหล่อเหลือร้ายที่มี sex appeal เกินต้านทาน แถมร่ำรวยมหาศาลอย่าง หัสดิน ธาดาโชติสกุล เป็นงานที่ยากและอันตราย... แต่รัณนภัทรก็จำเป็นต้องทำ! ถึงเขาจะพยายามเปลี่ยนสถานะจาก ‘ผู้ช่วยเสนอตัว’ ไปเป็น ‘เมียเสนอตัว’ หญิงสาวก็จำต้องซ่อนความเหนียมอายเอาไว้ พร้อมกับความลับที่ว่าเธอก่าลังตกหลุมรัก Boss ของตัวเอง สุดท้ายการ ‘ทำตัวให้ว่าง’ ทุกครั้งที่เขาต้องการใช้งานก็ทำให้ได้รับรางวัลในฐานะพนักงานคนขยัน นั่นคือ โบนัสพิเศษเก้าเดือนในครรภ์เป็นของแถม พร้อมกับ ‘ความลับที่แท้จริง’ เรื่องเมียเสนอตัวถูกเปิดเผย! “มีปากก็ไม่จำเป็นต้องใช้พูดเสมอไป เก็บไว้ทำอย่างอื่นที่มันสนุกแล้วก็ได้อารมณ์กว่าพูดก็ได้” เขาว่าแล้วเหลือบมองคนมีปากเอาไว้พูดด้วยดวงตาพราวระยับกรุ้มกริ่มอย่างมีความหมาย คนถูกมองหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันที แต่ก็ไม่วายจะโต้ตอบอย่างคนไม่ยอมแพ้ง่ายๆ “เรื่องนี้ฉันเห็นด้วย เวลาใช้ปากด่าคนก็ได้อารมณ์ดี” “แบบนั้นมันได้อารมณ์แค่ฝ่ายเดียว แล้วคุณอยากรู้ไหมว่าใช้ปากทำอะไรถึงสนุกแล้วก็ได้อารมณ์ทั้งสองฝ่าย” พอได้ยินแบบนั้นหน้าที่ร้อนผ่าวอยู่แล้วของรัณนภัทรก็แดงจัด...(เรื่องนี้เคยตีพิมพ์ในชื่อ 'เมียเสนอตัว' นะคะ)

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×