คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : บ่วงปรารถนาจอมมาร 1.3
และทุกเสียงที่พูดต่างก็เป็นไปในทางเดียวกันว่าทั้งคู่เหมาะสมกันเป็นอย่างยิ่ง
เพราะในขณะที่จารวีนั้นทั้งสวยและรวยมาก ธราดลเองก็เป็นทายาทนักการเมืองที่มีภาพลักษณ์และบุคลิกภายนอกเป็นคนใจเย็น
อบอุ่น อ่อนโยน ซึ่งต่างกับภาคินโดยสิ้นเชิง
เพราะรายนั้น...เท่าที่เธอได้สัมผัสตัวตนของเขาแม้จะภายในระยะเวลาสั้นๆ
แต่เธอก็พอจะมองออกว่าเขาเป็นคนใจร้อน เอาแต่ใจตัวเอง
และค่อนข้างจะเผด็จการอยู่พอสมควร แล้วยิ่งหลังจากที่เลิกกัน
เธอก็ยังได้ยินมาอีกว่าเขาควงผู้หญิงแทบจะไม่ซ้ำหน้า แล้วพอกลับมาเมืองไทยได้ไม่นาน
ก็มีข่าวอื้อฉาวว่าเขาเป็นต้นเหตุให้ไฮโซสาวอลิสาขอหย่ากับเสี่ยชาญวิทย์
และหลังจากที่ทั้งคู่หย่ากัน ม่ายสาวพราวเสน่ห์ด้วยวัยเพียงสามสิบห้าปีกับภาคินก็ไปไหนมาไหนด้วยกันอย่างเปิดเผย
“ฉันว่านะพราว
นี่มันก็ตั้งหกเจ็ดปีแล้ว ถ้ายังลืมเขาไม่ได้ก็กลับไปจีบเขาใหม่เหอะ”
“จะบ้าเหรอ
ฉันกับเขาจบกันไปตั้งนานขนาดนั้น
แถมฉันยังเป็นฝ่ายบอกเลิกเขาโดยไม่มีคำอธิบายอะไรเลยด้วย”
“ก็บอกเขาไปสิ
ว่าเพราะยัยคุณหนูจารวีกับยัยน้องสาวโรคจิตของมันส่งรูปอะไรมาให้ดู”
พราวพิรุณถอนหายใจ
เป็นเพราะเธอเองที่ปากหนักไม่ยอมถามความจริงจากภาคินแล้วปล่อยให้เวลาล่วงเลยไป
แถมยังลบภาพพวกนั้นทิ้งไปจนหมดเพราะไม่อยากเก็บไว้ให้บาดตาบาดใจ จนมารู้ทีหลังว่าทั้งหมดนั่นเป็นแผนการของจิดาภา
น้องสาวของจารวีที่เป็นรุ่นน้องในมหาวิทยาลัยและเป็นคนปล่อยข่าวเรื่องว่าที่ลูกสะใภ้ของท่านรัฐมนตรีจักรกฤษณ์และด็อกเตอร์สุกานดา
แล้วจิดาภาก็ยังตามมาเป็นแอร์โฮสเตสรุ่นน้องที่สายการบินเดียวกันกับเธออีกด้วย
และถ้าเดาไม่ผิด สาเหตุที่ทำให้เธอกระเด็นออกจากงานจะต้องมียัยจิดาภานี่ล่ะที่เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง
เหมือนอย่างเหตุการณ์ในครั้งนั้นที่พราวพิรุณมารู้ความจริงหลังจากวันที่เจอภาคินกับจารวีที่สนามบิน
เพราะมีอยู่วันหนึ่งจิดาภาเข้ามาพูดจาเยาะเย้ยถากถางเรื่องที่เธอโดนภาคินเท
‘สมน้ำหน้าพวกโดนเท
ไม่รู้จักเจียมตัว ทีนี้จะได้รู้เสียทีนะว่าน้ำหน้าอย่างเธอน่ะ ไม่มีวันเทียบรัศมีพี่สาวของฉันได้หรอก
จำเอาไว้ซะด้วย’
‘ใครบอกเธอว่าฉันโดนเทไม่ทราบ
ถ้ารู้ไม่จริงก็อย่ามาพูดดีกว่า แล้วก็จะบอกให้นะว่าคนที่โดนเทน่ะไม่ใช่ฉัน
แต่เป็นว่าที่พี่เขยของเธอต่างหากล่ะที่ถูกฉันเท!’
ตอนนั้นพอพราวพิรุณพูดจบก็สะบัดบ๊อบใส่จิดาภากับเพื่อนของอีกฝ่ายแล้วเดินออกมา
ทว่ายังไม่ทันที่เธอจะเดินพ้นระยะการได้ยิน หูก็แว่วว่าเพื่อนของจิดาภาเอ่ยถามขึ้นมาว่ามีเรื่องอะไรกัน
และด้วยความที่จิดาภาเป็นคนปากพล่อยอยู่แล้วและไม่รู้ว่าพราวพิรุณยังยืนแอบฟังอยู่
จึงได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้เพื่อนฟัง
‘ที่จริงก็ไม่ได้มีอะไร
เพียงแต่คุณพ่อกับคุณแม่อยากให้พี่สาวของฉันแต่งงานกับพี่คิน
แต่ทีนี้พี่คินกลับมาคบกับยัยพราว
ฉันกับคุณแม่แล้วก็พี่จาเลยวางแผนให้สองคนนั้นเลิกกัน’
‘แล้วเธอทำยังไงล่ะ’
‘ก็ง่ายๆ
แค่วางยานอนหลับพี่คิน แล้วก็ทำให้ดูเหมือนพี่จากับพี่คินมีอะไรกัน
จากนั้นก็ถ่ายรูปแล้วส่งไปให้ยัยพราวดู เสร็จเรียบร้อยก็ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
พี่สาวฉันก็เป็นคุณหนูผู้ดีงามต่อไปอย่างสวยๆ แต่ยัยพราวก็ดันเชื่อเป็นตุเป็นตะ แล้วก็ไปบอกเลิกพี่คิน’
ภายในห้องนอนของคอนโดมิเนียมหรูย่านใจกลางกรุงเทพฯ
ร่างสูงสง่าผึ่งผายของภาคินเดินออกมาจากห้องน้ำพลางติดกระดุมเสื้อไปด้วย
โดยมีร่างเปลือยเปล่าเย้ายวนใจของอลิสานอนอย่างหมดเรี่ยวหมดแรงอยู่บนเตียง
“ผู้หญิงที่เจอหน้าห้องน้ำในโรงแรมคนนั้นหรือเปล่าคะ
ที่ชื่อพราวพิรุณ”
เสียงหวานๆ
ของม่ายสาวพราวเสน่ห์ในวัยสามสิบห้าปีที่ยังนอนระทดระทวยอยู่บนเตียงเอ่ยถามชายหนุ่ม
หลังจากบทรักที่เธอรู้สึกว่าเร่าร้อนกว่าครั้งไหนๆ ระหว่างกันในค่ำคืนนี้จบลง
และก็อย่างเช่นทุกครั้งที่เมื่อความสัมพันธ์ในรูปแบบไร้การผูกมัดนี้ผ่านพ้นไป
ภาคินก็เตรียมตัวกลับ เพราะคนอย่างเขาไม่เคยปล่อยให้ตัวเองหรือผู้หญิงคนไหนนอนร่วมเตียงเดียวกันทั้งคืน
มือที่กำลังติดกระดุมเสื้อของภาคินชะงัก
ก่อนจะหันไปมองม่ายสาวอย่างไม่พอใจที่อีกฝ่ายล้ำเส้นที่เคยตกลงกันไว้ ว่าจะไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวของกันและกัน
“แหม
อย่ามองแบบนั้นสิคะ ฉันก็แค่อยากรู้ว่าใช่ผู้หญิงคนนั้นหรือเปล่า ที่ทำให้คุณเผลอเรียกชื่อออกมาตอนที่เรากำลังมีความสุขอยู่ด้วยกันแท้ๆ
แถมคืนนี้คุณยังเร่าร้อนจนทำเอาฉันแทบจะขาดใจ”
“ผมกลับล่ะ”
ภาคินไม่ตอบ
เขาเพียงแต่เอ่ยลาแล้วเดินกลับออกมา เขากับอลิสารู้จักกันเมื่อราวๆ สองปีก่อนที่ประเทศอังกฤษ
ตอนนั้นเธอไปเที่ยวไนต์คลับที่เขาเป็นหุ้นส่วนอยู่
แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขาก็เป็นเพียงแค่เพื่อนกัน เพราะถึงเขาจะควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าก็จริง
แต่ก็ไม่คิดจะยุ่งกับผู้หญิงที่แต่งงานมีสามีเป็นตัวเป็นตน หรือแม้แต่ผู้หญิงที่มีเจ้าของแล้ว
กระทั่งเขากลับมาเมืองไทยเพื่อรับตำแหน่งผู้อำนวยการของโรงพยาบาลวนารักษ์ต่อจากผู้เป็นพ่อซึ่งไปดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีถึงได้เจอกับอลิสาที่หย่าขาดกับสามีแล้วอีกครั้งที่ไนต์คลับของเขาเอง
จากนั้นความสัมพันธ์ระหว่างเขากับม่ายสาวถึงได้เกิดขึ้น
แต่ทว่าก็เป็นเพียงความสัมพันธ์ที่เกิดจากความพึงพอใจของทั้งสองฝ่ายในลักษณะชั่วครั้งชั่วคราวหรืออย่างที่เรียกว่าเฟรนด์วิธเบเนฟิตส์
(Friend
with benefits) ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ในลักษณะกึ่งคู่นอนกึ่งเพื่อนโดยไม่มีการผูกมัด
ไม่มีการหึงหวงและไม่มีความรักเข้ามาเกี่ยวข้อง
และเมื่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเจอคนที่ใช่ ความสัมพันธ์นี้ก็จะยุติลงทันที
ภาคินขับรถออกจากคอนโดมิเนียมของอลิสา
แล้วระหว่างขับรถกลับคอนโดของตัวเอง เขาก็ย้อนกลับไปคิดถึงผู้หญิงที่เขาไม่เคยลืมเธอได้เลยตลอดหลายปีที่ผ่านมา
รวมระยะเวลาที่เขาตกหลุมรักผู้หญิงคนนั้นตั้งแต่แรกเจอจนถึงวันนี้ก็เกือบจะแปดปีแล้ว
หนึ่งปีแรกคือช่วงเวลาที่เขามีความสุขที่สุด สามเดือนเต็มที่เขาได้รู้จักพราวพิรุณ
ผู้หญิงที่ดูโก๊ะๆ แต่ก็น่ารักดี เขาเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมถึงได้ถูกตาต้องใจพราวพิรุณตั้งแต่แรกเจอหรือที่เรียกว่าตกหลุมรักตั้งแต่สบตา
อาจเป็นรอยยิ้มสดใสดุจดวงตะวันของเธอที่เห็นแล้วทำให้หัวใจของเขารู้สึกอบอุ่น
อาจเป็นนิสัยที่ดูเปิดเผยจริงใจ ง่ายๆ อยู่ด้วยแล้วทำให้เขารู้สึกมีชีวิตชีวา
กระทั่งแค่ได้พูดคุยกันผ่านโทรศัพท์หรือส่งข้อความหากัน เขาก็ยังรู้สึกสบายใจ บางทีอาจเป็นเพราะรูปหน้าสวยคมที่ดึงดูดสายตา
หรืออาจเป็นดวงตากระจ่างใสภายใต้คิ้วเรียวงามคู่นั้น จมูกเล็กๆ แต่โด่งสวย
ริมฝีปากอวบอิ่มสีระเรื่อ กลิ่นหอมอ่อนๆ จากผิวกายของเธอที่ติดตรึงอยู่ในใจของเขา
หรือที่จริงแล้วเขารักทุกอย่างที่ประกอบกันขึ้นมาเป็นพราวพิรุณ
แต่แล้วเขาก็รู้สึกเหมือนบางสิ่งบางอย่างในชีวิตขาดหายไป
เมื่อจู่ๆ พราวพิรุณก็ขาดการติดต่อไปแล้วทิ้งให้เขากระวนกระวายใจอยู่นานเป็นเดือน
ครั้นพอเธอส่งข้อความมาหาเขาอีกครั้ง
กลับเป็นข้อความบอกเลิกโดยที่ไม่มีแม้แต่คำอธิบายใดๆ กระทั่งวันนั้น
วันที่เขาเจอเธอโดยบังเอิญที่สนามบิน เขาก็ได้รู้คำตอบ
แล้วหลังจากรู้ความจริงว่าพราวพิรุณบอกเลิกเขาเพราะเธอมีแฟนใหม่ไปแล้ว
ภาคินก็ไม่คิดที่จะคบหากับใครอย่างจริงๆ จังๆ อีกเลยแม้แต่กับจารวีที่ครอบครัวของทั้งสองฝ่ายต่างสนับสนุน
ด้วยเหตุผลง่ายๆ ที่ว่าเขาไม่ได้รักเธอ
และติดจะรำคาญนิสัยความเป็นผู้หญิงเรื่องมากอย่างพวกลูกคนรวยที่ถูกพ่อแม่ตามใจของเจ้าหล่อนเสียด้วยซ้ำไป
ดังนั้นพอเธอมีโอกาสได้รู้จักธราดลที่ดูเป็นคนสุภาพอ่อนโยน ช่างเอาอกเอาใจ
ก็เลยเป็นที่พึงพอใจของจารวี กระทั่งทั้งคู่ลงเอยกันไปด้วยการแต่งงาน
ในขณะที่ภาคินแม้ไม่คิดที่จะจริงจังกับใคร
แต่ก็มีผู้หญิงเข้ามาในชีวิตของเขาอย่างไม่เคยขาด และหนึ่งในนั้นก็รวมถึงอลิสาด้วย
เพียงแต่เขาไม่ใช่ต้นเหตุที่ทำให้เจ้าหล่อนหย่ากับสามีอย่างที่เป็นข่าว และความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอก็ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าความพึงพอใจชั่วครั้งชั่วคราวของทั้งสองฝ่ายเท่านั้น
@@@@@@@
อีบุ๊กมาแล้วน้าาาาาาา
ตอนนี้เค้ากำลังเขียน วิวาห์แสนรัก อยู่นะคะ
ฝากแอดแฟนไว้ด้วยน้าาาาาาา
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=2203491
@@@@@@@@@@@@@@@
ฝากอีบุ๊กเรื่องอื่นๆ ด้วยนะคะ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ความคิดเห็น