คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บ่วงปรารถนาจอมมาร บทนำ
บรรยากาศภายในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมหรูแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพมหานคร
ขณะนี้เต็มไปด้วยความหวานชื่นอันเกิดจากดอกไม้นานาชนิดที่ส่งกลิ่นหอมฟุ้งไปทั่วบริเวณ
อีกทั้งยังมีเสียงเพลงในท่วงทำนองแสนหวานที่เปิดคลอเบาๆ ไปพร้อมกับการฉายภาพพรีเซนเตชั่นที่แสดงเรื่องราวการพบกันของคนสองคน
จนกระทั่งพรหมลิขิตบันดาลชักพาให้คนทั้งคู่ร่วมกันถักทอสายใยรัก
และทันทีที่ภาพความประทับใจของคู่บ่าวสาวจบลง
เสียงปรบมือของบรรดาแขกเหรื่อที่มาร่วมแสดงความยินดีและเป็นสักขีพยานให้กับความรักของคนสองคนอย่างคับคั่งก็ดังกึกก้องไปทั้งห้องจัดเลี้ยงกว้างขวางและหรูหราแห่งนี้
พราวพิรุณยกมือข้างหนึ่งขึ้นแล้วใช้ปลายนิ้วแตะที่หางตาของตัวเองเบาๆ
เพื่อเช็ดน้ำตาแห่งความปลาบปลื้มยินดีที่ไม่อาจเก็บกลั้นเอาไว้ได้
เนื่องจากวันนี้เจ้าสาวของงานซึ่งเป็นเพื่อนรักของเธอนั้นสวยสง่าและดูมีความสุขมากจริงๆ
แต่ก็แน่ล่ะ
จะมีเจ้าสาวคนไหนบ้างที่ไม่มีความสุขในงานแต่งงานของตัวเอง ยิ่งเจ้าบ่าวของครองขวัญนั้นนอกจากจะหล่อเหลาและรวยมากแล้ว
สายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักของตรีภพยังมีไว้เพื่อมองเจ้าสาวคนสวยของตัวเองเพียงคนเดียวอีกต่างหาก
งานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสของตรีภพกับครองขวัญดำเนินไปตามขั้นตอน
จวบจนกระทั่งถึงช่วงเวลาที่เหล่าคนโสดทั้งหลายต่างรอคอย และเพียงแค่พิธีกรบนเวทีประกาศว่าถึงเวลาที่เจ้าสาวจะโยนช่อดอกไม้แล้ว
บรรดาสาวๆ ทั้งหลายต่างก็ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดกันยกใหญ่
ก่อนจะพากันไปยืนรอด้านหน้าเวทีเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดศึกชิงช่อดอกไม้จากมือเจ้าสาวกันอย่างเต็มที่ชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร
“นี่พราว ไม่ไปแย่งช่อดอกไม้กับเขาเหรอ” พิชญะเช็ดน้ำตาแห่งความยินดีจากภาพความประทับใจของคู่บ่าวสาวก่อนจะหันมาถามเพื่อนสาวอีกคนของตัวเองที่ทำหน้าที่เป็นเพื่อนเจ้าสาวมาตลอดทั้งวัน
“ไม่ล่ะ” พราวพิรุณเอ่ยตอบแล้วถอนหายใจอย่างเซ็งๆ
“ตั้งแต่ต้นปีมานี้ฉันไปงานแต่งมาสองงานแล้ว แล้วฉันก็รับช่อดอกไม้มาได้ทั้งสองงาน
แต่ยังไม่มีแม้แต่วี่แววว่าใครจะมาเป็นเนื้อคู่ของฉันสักคน”
“งั้นยิ่งต้องออกไปช่วงชิงช่อที่สามมาให้ได้
เพราะไม่แน่ว่าเนื้อคู่ของแกอาจจะมาพร้อมแฮตทริกครั้งนี้ก็ได้”
ว่าแล้วพิชญะก็ไม่รอให้เพื่อนได้ปฏิเสธ
เพราะพอพูดจบก็ผลักพราวพิรุณเข้าไปกลางสนามรบของบรรดาสาวโสดทันที
แล้วก็เป็นจังหวะเดียวกับที่เจ้าสาวโยนช่อดอกไม้ลงมาพอดี
และก็เหมือนว่าดอกไม้ช่อนั้นเกิดมาเพื่อพราวพิรุณ เพราะเพียงแค่เธอก้าวเข้าไปตามแรงผลักของพิชญะได้แค่สองสามก้าว
ปูเก้ช่อสวยก็หล่นตุ้บลงมาในมือของเธอราวกับจับวาง
ครั้นพอพราวพิรุณเงยหน้าจากดอกไม้ช่องามมองขึ้นไปบนเวที เธอก็เห็นเจ้าสาวหันไปส่งยิ้มให้กับพิชญะซึ่งกำลังยกมือส่งนิ้วโป้งตอบกลับไปอย่างชื่นชมในความแม่นยำของอีกฝ่าย
อดีตแอร์โฮสเตสที่ผันตัวเองมาเป็นพีอาร์ให้กับบริษัทที่ปรึกษาทางด้านการสร้างภาพลักษณ์และงานด้านการประชาสัมพันธ์แบบครบวงจรให้กับองค์กรต่างๆ
ของอิมเมจ เมนเทอร์ส่งค้อนให้พิชญะ ก่อนจะหันไปส่งสายตาชนิดเดียวกันให้เจ้าสาวคนสวยที่เป็นทั้งเพื่อนและลูกสาวของเจ้านาย
แล้วบอกผ่านสายตาไปว่า...
‘ถ้าแกตั้งใจจะปาใส่กันขนาดนี้ก็เอามายื่นให้ตรงๆ
ไปเลยไหมยะ’
พราวพิรุณกับครองขวัญรวมถึงพิชญะเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ทั้งสามคนเข้าทำงานเป็นพนักงานต้อนรับของสายการบินแห่งหนึ่ง
แต่เมื่อหลายเดือนก่อนพราวพิรุณเกิดไปมีเรื่องกับผู้โดยสาร ซึ่งเป็นนักธุรกิจชาวต่างชาติหื่นกามที่หลอกให้เธอพาไปห้องน้ำแล้วก็คิดจะลวนลามกันอย่างหน้าด้านๆ
แต่เพราะเธอต่อสู้ขัดขืนด้วยการจัดการกับจุดยุทธศาสตร์ของอีกฝ่ายจนลงไปนอนกองกับพื้นอย่างหมดสภาพเพื่อปกป้องตัวเอง
ทว่าเธอกลับถูกตัดสินโทษอย่างไม่ยุติธรรมด้วยการถูกสั่งพักงาน เพราะอีตานักธุรกิจหัวงูนั่นรู้จักและสนิทสนมกันดีกับผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่งของสายการบิน
อีกทั้งเธอไม่มีทั้งพยานและหลักฐานก็เลยทำอะไรไม่ได้
แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือเธอรู้ดีว่าทางสายการบินมีนโยบายที่จะหาทางปลดระวางพนักงานที่
‘อายุมาก’ อยู่แล้ว เพราะมีเด็กจบใหม่หน้าตาเอ๊าะๆ
มาเข้าคิวรอเป็นแอร์โฮสเตสวัยละอ่อนกันยาวเหยียด
พอเธอก่อเรื่องทางสายการบินก็เลยสบโอกาสจัดการพอดี
ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อไม่ได้รับความเป็นธรรมพราวพิรุณก็รู้สึกไม่พอใจ
เพราะทั้งที่เธอเป็นฝ่ายเสียหายแท้ๆ แต่ทางสายการบินกลับตัดสินลงโทษเธออย่างไม่ยุติธรรม
และด้วยศักดิ์ศรีพราวพิรุณจึงตัดสินใจลาออก
พอครองขวัญกับพิชญะรู้เรื่องเข้าก็เป็นเดือดเป็นร้อนไปกับเธอด้วย
พอดีกับที่ตอนนั้นมาดามชมจันท์มารดาของครองขวัญซึ่งเป็นผู้คร่ำหวอดอยู่ในธุรกิจด้านการสรรหาบุคลากรให้กับองค์กรชั้นนำในระดับประเทศมาหลายปีหันมาก่อตั้งบริษัทที่ปรึกษาทางด้านการประชาสัมพันธ์และการสร้างภาพลักษณ์ให้กับบุคคลที่มีความจำเป็นจะต้องปรับเปลี่ยนบุคลิกภาพให้ดูดีและเป็นที่น่าเชื่อถืออยู่เสมอในสายตาของคนอื่น
อย่างเช่นพวกดาราดังๆ
นักธุรกิจ บรรดาเซเลบริตี้ทั้งหลาย หรือแม้แต่นักการเมืองที่กำลังจะลงสนามเลือกตั้ง
รวมไปถึงงานด้านการประชาสัมพันธ์แบบครบวงจร เพื่อส่งเสริมให้ธุรกิจและการบริการของลูกค้าเป็นที่รู้จักมากขึ้น
ดังนั้นครองขวัญจึงชักชวนพราวพิรุณมาทำงานเป็นพีอาร์ให้กับบริษัทของมารดา
เนื่องจากชมจันท์นั้นเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลทางด้านการสร้างภาพลักษณ์ให้กับเหล่าบรรดาไฮซ้อไฮโซทั้งหลาย
รวมไปถึงบุคคลสำคัญหลายต่อหลายคนให้เจิดจรัสเวลาที่ต้องไปปรากฏตัวตามงานสังคม ในแมกกาซีน
บนหน้าจอโทรทัศน์ หรือแม้แต่การติดต่อเจรจาธุรกิจ ซึ่งล่าสุดก็คือการสร้างภาพลักษณ์ให้ทายาทนักธุรกิจพันล้านอย่างตรีภพ
จนสามารถก้าวขึ้นมาเป็นประธานบริหารของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของประเทศได้อย่างสวยสดงดงาม
ในขณะที่พิชญะซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างตัดสินใจว่าจะลาออกไปทำงานกับสายการบินอีกแห่งอยู่แล้วด้วยชื่อเสียงและเงินเดือนที่ดีกว่า
ที่สำคัญคือคู่รักของเขาทำงานอยู่ที่สายการบินแห่งนั้น แต่ก็ติดที่เพื่อนสาวทั้งสอง
ดังนั้นเมื่อครองขวัญกับพราวพิรุณลาออก พิชญะก็เลยตัดสินใจลาออกตามสองสาวไปด้วย
ใช่แล้ว
ตอนนี้ในบรรดาเราสามคนที่เป็นเพื่อนรักกันซึ่งอายุอานามที่อีกแค่ไม่ถึงสองปีดีก็จะสามสิบกันแล้วนั้น
ครองขวัญก็แต่งงานมีสามีที่สมบูรณ์พร้อมไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย ในขณะที่พิชญะก็มีคนรู้ใจเป็นสจ๊วตหนุ่มอยู่สายการบินชื่อดัง
เหลือก็แต่พราวพิรุณที่ยังไม่มีแฟนและไร้ซึ่งวี่แววใดๆ
พราวพิรุณกับพิชญะอยู่ร่วมงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสของเพื่อนจนกระทั่งงานเลิก
แต่ขณะที่ทั้งสองคนกำลังจะกลับ พราวพิรุณนึกอยากจะเข้าห้องน้ำขึ้นมาอย่างกะทันหันเลยขอแวะไปเข้าก่อน
เธอยัดช่อดอกไม้เจ้าสาวช่อที่สามที่ได้รับมาในรอบปีใส่มือเพื่อนแล้วบอกให้ไปรอที่รถก่อน
เสร็จธุระแล้วเธอจะรีบตามไป
แต่ตอนที่พราวพิรุณย้อนกลับเข้าไปในโรงแรมและกำลังจะเดินไปเข้าห้องน้ำ
หญิงสาวก็ชนเข้ากับร่างสูงใหญ่ของใครคนหนึ่งที่เดินออกมาจากประตูห้องน้ำชายเข้าอย่างจัง
และเธอก็อาจจะล้มลงไปแล้ว ถ้าหากว่าใครคนนั้นไม่รวบเอวเธอเอาไว้ได้ทัน
“ขอโทษครับ”
ชายหนุ่มเจ้าของร่างสูงที่เดินออกมาจากห้องน้ำโดยไม่ทันได้มองเพราะมัวแต่จ้องอยู่ที่หน้าจอโทรศัพท์มือถือของตัวเองเป็นฝ่ายเอ่ยขอโทษ
ทว่าทันทีที่หญิงสาวในชุดราตรีเปิดไหล่กระโปรงยาวสีม่วงพาสเทลที่อยู่ในอ้อมแขนเงยหน้าขึ้นมาสบตาเขา
ต่างฝ่ายต่างก็นิ่งงันไปราวกับว่าโลกกำลังหยุดหมุน...
แต่เพียงชั่ววินาทีดวงตาคู่คมก็กลับมาเรียบเฉยดุจเดิม
ในขณะที่ดวงตาคู่กลมโตของพราวพิรุณกลับไหวระริกอย่างที่เธอไม่อาจควบคุมได้
ครั้นพอตั้งสติได้ซึ่งก็ใช้เวลาอยู่หลายอึดใจ พราวพิรุณถึงได้รีบขยับตัวออกจากอ้อมแขนแข็งแรงซึ่งเหมือนมีไออุ่นที่ให้ความรู้สึกคุ้นเคยของอีกฝ่ายอาบไล้อยู่บนผิวกาย
หัวใจยังคงเต้นแรงเหมือนครั้งที่ได้เจอกันครั้งแรก...
“ไม่เจอกันนานเลยนะ
พราวพิรุณ”
@@@@@@@@@@
เธออออ นิยายหมดสัญญา เค้าเอามาลงอีบุ๊กใหม่น้าาาา
ใครยังไม่มี ไปโหลดกันได้นะจ๊ะ
กำหนดลงขายอีบุ๊ก 13 พ.ค. นี้น้าาาา
ความคิดเห็น